การเงินและการธนาคาร ความหมายและวิวฒ ั นาการของเงิน ระบบการแลกเปลีย่ นสิง่ ของต่อสิง่ ของ (Barter System) ระบบทีม ่ ก ี ารใช้เงินเป็ นสือ่ กลางในการแลกเปลีย่ น (Money Economy) ระบบทีใ่ ช้เครดิตเป็ นสือ่ กลางในการแลกเปลีย่ น (Credit Economy)

Download Report

Transcript การเงินและการธนาคาร ความหมายและวิวฒ ั นาการของเงิน ระบบการแลกเปลีย่ นสิง่ ของต่อสิง่ ของ (Barter System) ระบบทีม ่ ก ี ารใช้เงินเป็ นสือ่ กลางในการแลกเปลีย่ น (Money Economy) ระบบทีใ่ ช้เครดิตเป็ นสือ่ กลางในการแลกเปลีย่ น (Credit Economy)

การเงินและการธนาคาร
ความหมายและวิวฒ
ั นาการของเงิน
ระบบการแลกเปลีย่ นสิง่ ของต่อสิง่ ของ
(Barter System)
ระบบทีม
่ ก
ี ารใช้เงินเป็ นสือ่ กลางในการแลกเปลีย่ น
(Money Economy)
ระบบทีใ่ ช้เครดิตเป็ นสือ่ กลางในการแลกเปลีย่ น
(Credit Economy)
Money Economy
• สิง่ ของจาเป็ น
• เงินโลหะ
• เงินกษาปณ์ ทม
ี่ ค
ี า่ เต็มตัว (Full - bodied Coins)
• เงินกษาปณ์ ทม
ี่ ค
ี า่ ไม่เต็มตัว (Token Money)
• เงินกระดาษหรือธนบัตร
• เงินทีม
่ โี ลหะหรือเหรียญมีมลู ค่าเต็มตัวสารองอยู่
ร้อยเปอร์เซ็นต์
• เงินทีแ
่ ลกโลหะคืนไม่ได้ (Fiat Money)
(ธนบัตรทีช
่ าระหนี้ได้ตามกฏหมาย (Legal Tender))
เงิน
สิง่ ทีเ่ ป็ นทีย่ อมรับทั่วไปในสังคมว่าเป็ นสือ่ กลาง
้ เป็ น
ในการแลกเปลีย่ น โดยมีการกาหนดค่าขึน
หน่ วยเงินตราและพยายามรักษาค่าให้คงทีอ่ ยู่
เสมอ
หน้าทีข
่ องเงิน
1.เป็ นสือ่ กลางในการแลกเปลีย่ น (A medium of
exchange)
• คุณลักษณะของเงินทีส
่ าคัญ
1. เป็ นทีย่ อมรับกันทั่วไป
2. มีคา่ ทางเศรษฐกิจสูงกว่ามากเมือ
่ เทียบกับมูลค่า
ของวัสดุทใี่ ช้ทาเงิน
3. สามารถแบ่งออกเป็ นหน่ วยย่อย ๆ ได้
4. วัสดุทท
ี่ าเงินเป็ นของหายากหรือยากทีจ่ ะทาการ
ปลอมแปลง
5. นาติดตัวไปได้งา่ ย
หน้าทีข
่ องเงิน (ต่อ)
2. เป็ นมาตรฐานในการวัดค่า
(A standard of value)
ประโยชน์ของเงินทีเ่ ป็ นมาตรฐานในการวัดค่า
1. สามารถกาหนดราคาสินค้าทุกชนิดเป็ น
หน่ วยเดียวกัน
2. สามารถเปรียบเทียบมูลค่าสิง่ ต่างๆ ได้งา่ ย
และสะดวก
3. เป็ นประโยชน์ในการทาบัญชี
หน้าทีข
่ องเงิน (ต่อ)
3. เป็ นมาตรฐานในการชาระหนี้ในอนาคต
(A standard of defered payment)
4. เป็ นเครือ
่ งรักษามูลค่า (A store of value)
• เงินจะต้องมีคา่ ค่อนข้างคงที่
ปริมาณเงิน หรืออุปทานของเงิน
(Supply of money)
• ปริมาณเงินทีป
่ ระเทศมีอยูใ่ นขณะใดขณะหนึ่ง
ปริมาณเงินตามความหมายอย่างแคบ (M1)
• ปริมาณของทรัพย์สน
ิ ทางการเงินทีใ่ ช้เป็ นสือ
่ กลาง
ในการแลกเปลีย่ น
M1 = เหรียญกษาปณ์ + ธนบัตร + เงินฝากกระแสรายวัน
(ไม่รวมธนาคาร)
(ไม่รวมธนาคารกลาง
และกระทรวงการคลัง)
ปริมาณเงินตามความหมายอย่างกว้าง (M2)
M2 = M1 + เงินฝากประจาและเงินฝากออมทรัพย์
ของเอกชน (รวมรัฐวิสาหกิจ) ซึง่ ฝากไว้ที่
ธนาคารพาณิชย์
ปริมาณเงินในประเทศไทย ปี 2545
รายการ
1. เงินสด
1.1 ในมือเอกชนและครัวเรือน
1.2 ในมือสถาบันการเงินอืน
่
2. เงินฝากกระแสรายวัน
2.1 ของเอกชนและครัวเรือน
2.2 ของสถาบันการเงินอืน
่
ปริมาณเงิน M1 (1 + 2)
3. เงินฝากทีม
่ ีสภาพคล่องสูงกึง่ เงินสด
3.1 เงินฝากประจา
3.2 เงินรับฝากออมทรัพย์
3.3 เงินฝากอืน
่ ๆ
ปริมาณเงิน M2 (M1 + 3)
ทีม
่ า : ธนาคารแห่งประเทศไทย
ตุลาคม
หน่ วย : พันล้านบาท
พฤศจิกายน
441.3
452.5
436.3
447.7
5.0
4.8
160.7
164.2
151.0
154.7
9.7
9.5
602.0
616.9
4,692.8
4,749.4
3,028.3
3,035.0
1,612.8
1,660.0
51.7
54.4
5,294.9
5,366.3
ปริมาณเงิน M2a
M2a = M2 + ตั๋วสัญญาใช้เงิน
ปริมาณเงินตามความหมายอย่างกว้างมาก (M3)
M3 = M2 + เงินฝากทุกประเภทกับสถาบันการเงิน
เฉพาะกิจ + ตั๋วสัญญาใช้เงินของบริษท
ั เงินทุนที่
ถือโดยภาคเอกชน
ปริมาณเงินในประเทศไทย ปี 2545
รายการ
หน่ วย : พันล้านบาท
กันยายน
ตุลาคม
1. เงินสด
437.3
441.3
2. เงินฝากเผือ
่ เรียก
156.5
154.1
4,647.1
4,682.6
170.1
171.6
5,411.2
5,449.6
3. เงินรับฝากออมทรัพย์ ประจา และ
เงินรับฝากอืน
่
4. ตั๋วสัญญาใช้เงิน
ปริมาณเงิน M2a (1 + 2 + 3 + 4)
ทีม
่ า : ธนาคารแห่งประเทศไทย
ปริมาณเงินในประเทศไทย ปี 2545
รายการ
หน่ วย : พันล้านบาท
กันยายน
ตุลาคม
1. เงินสด
431.2
435.1
2. เงินฝากเผือ
่ เรียก
155.2
152.3
5,461.9
5,504.6
170.1
171.6
6,218.6
6,263.7
3. เงินรับฝากออมทรัพย์ ประจา และ
เงินรับฝากอืน
่
4. ตั๋วสัญญาใช้เงิน
ปริมาณเงิน M3 (1 + 2 + 3 + 4)
ทีม
่ า : ธนาคารแห่งประเทศไทย
ตลาดการเงิน (Financial Market)
• ตลาดทีอ่ านวยความสะดวกในการโอนเงิน
จากหน่ วยเศรษฐกิจทีม
่ ีเงินออมไปยังหน่ วย
เศรษฐกิจทีต
่ อ
้ งการเงินออมเพือ
่ นาไปลงทุน
• ตลาดการเงินในระบบ / ตลาดการเงินนอกระบบ
• ตลาดเงิน / ตลาดทุน
ธนาคารพาณิชย์ และการสร้างเงินฝาก
ธนาคารพาณิชย์
้ เพือ
• สถาบันทีต
่ ง้ ั ขึน
่ ประกอบธุรกิจโดยหวังกาไร
กาไร

ดอกเบีย้ เงินกู้ - ดอกเบีย้ เงินฝาก
เงินสดสารองหรือ สารองเงินฝาก (Cash Reserve)
• เงินทีธ่ นาคารพาณิชย์เก็บสารองไว้ทธี่ นาคาร
เผือ
่ ไว้สาหรับกรณี ทลี่ ูกค้ามาถอนเงินหรือสั่งให้
ธนาคารจ่ายเงินตามเช็ค
เงินสดสารองตามกฏหมาย
(Legal Reserve Requirement)
• จานวนเงินสดสารองอย่างต่าทีส่ ด
ุ ทีธ่ นาคารกลาง
กาหนดให้ธนาคารพาณิชย์ตอ
้ งสารองไว้ โดยจะ
กาหนดว่าเป็ นอัตราเท่าใด
อัตราเงินสดสารองตามกฏหมาย (R) = 20%
ถ้ามีเงินฝาก 100 บาท
ธนาคารจะเก็บสารองเงินสดไว้ 20 บาท
สามารถนาไปให้กไู้ ด้ 80 บาท
(สารองส่วนเกิน)
เงินสดสารองส่วนเกิน (Excess Reserve)
• เงินสดทีเ่ หลือจากการสารองตามกฏหมายซึง่
ธนาคารพาณิชย์สามารถนาไปให้กยู้ ม
ื ได้
ซึง่ เงินสดสารองส่วนเกินหรือเงินทีใ่ ห้บค
ุ คลกูย้ ม
ื
้
นี้จะทาให้ปริมาณเงินฝากรวมขยายตัวเพิม
่ ขึน
้
หรือเกิดการสร้างเงินฝากเกิดขึน
การสร้างเงินฝาก
ของระบบธนาคารพาณิชย์
กาหนดให้ R = 10%
นาย ก นาเงินไปฝากธนาคาร A 100 บาท
ธนาคาร A สารองเงินสด 10 บาท ให้กู้ 90 บาท
เงินฝาก
ขัน
้ แรก
กาหนด R = 10%
ธนาคาร
A
้
เงินฝากทีเ่ พิม
่ ขึน
100
เงินสดสารอง
เงินให้กู้
ตามกฏหมาย (สารองส่วนเกิน)
10
90
กาหนดให้ R = 10%
นาย ก นาเงินไปฝากธนาคาร A 100 บาท
ธนาคาร A สารองเงินสด 10 บาท ให้กู้ 90 บาท
นาย ข มาขอกูเ้ งินธนาคาร A 90 บาท เพือ
่ จ่ายค่าวัตถุดบ
ิ
เปิ ดเป็ นบัญชีเงินฝาก (90 บาท)
เงินฝาก
ขัน
้ ทีส
่ อง
นาย ข จ่ายค่าวัตถุดบ
ิ ในรูปเช็ค (90 บาท) ให้นาย ค
กาหนดให้ R = 10%
นาย ค นาเช็คไปฝากธนาคาร B 90 บาท
ธนาคาร B สารองเงินสด 9 บาท ให้กู้ 81 บาท
นาย ง มาขอกูเ้ งินธนาคาร B 81 บาท เพือ
่ จ่ายค่าวัตถุดบ
ิ
เปิ ดเป็ นบัญชีเงินฝาก
นาย ง จ่ายค่าวัตถุดบ
ิ ในรูปเช็ค (81 บาท) ให้นาย จ
กาหนดให้ R = 10%
ธนาคาร
้
เงินฝากทีเ่ พิม
่ ขึน
เงินสดสารอง
เงินให้กู้
ตามกฏหมาย (สารองส่วนเกิน)
A
1 x 100
100
10
90
B
0.9 x 100
90
9
81
C
(0.9) 2 x 100
81
8.1
72.9
D
(0.9) 3 x 100 72.9
7.29
65.61
...
...
...
...
100
900
รวม
1,000
1,000 = [1 x 100] + [0.9 x 100] + [(0.9)2 x 100]
+ [(0.9)3 x 100] + ...
1,000 = (1 + 0.9 + 0.92 + 0.93 + ... + 0.9n ) x 100
1,000 =
1,000 =
1
1 – 0.9
1
0.1
x 100
x 100
1,000 =
1
0.1
D
=
1
R
x 100
x
P
D
้
คือ ปริมาณเงินฝากทัง้ หมดทีเ่ กิดขึน
P
คือ เงินฝากขัน
้ แรก
R
คือ อัตราเงินสดสารองตามกฏหมาย
เงินฝากขัน
้ แรก 100 บาท
ทาให้ปริมาณเงินฝากรวมทัง้ หมดเป็ น 1,000 บาท
้ 10 เท่าของเงินฝากขัน
เงินฝากเพิม
่ ขึน
้ แรก
ตัวทวีของการสร้างเงินฝาก
ตัวทวีของการสร้างเงินฝาก (m)
้ 10 เท่าของเงินฝากขัน
เงินฝากเพิม
่ ขึน
้ แรก
1,000 =
1
0.1
D
=
1
R
x 100
x
P
m =
1
R
=
10
x 100
=
m
x
P
เงือ
่ นไขหรือข้อสมมติของการสร้างเงินฝาก
ของธนาคารพาณิชย์
• ไม่มีการถอนเงินฝากออกจากธนาคาร
• ระบบธนาคารจะต้องไม่ดารงเงินสดสารองไว้เกิน
กว่าทีก
่ ฏหมายกาหนด
• ระบบธนาคารจะต้องให้กยู้ ม
ื เท่ากับเงินสดสารอง
ส่วนเกินทัง้ สิน
้ ทีม
่ ีอยู่
• อัตราเงินสดสารองตามกฏหมายต้องต่ากว่า
ร้อยละ 100
การทาลายเงินฝาก
• เมือ
่ มีการถอนเงิน
นาย ก ถอนเงิน 100 บาท
ถ้า R = 10%
ปริมาณเงินจะลดลงทัง้ หมด 1,000 บาท
้ หรือลดลงมากน้อยเพียงใด
ปริมาณเงินจะเพิม
่ ขึน
้ อยูก
ขึน
่ บั
• การฝากเงิน / การถอนเงิน
ฝากเงิน
ปริมาณเงินเพิม
่
ถอนเงิน
ปริมาณเงินลด
• อัตราเงินสดสารองตามกฎหมาย (R)
D
=
1
x P
R
=
ถ้า R
D
ถ้า R
D
m
• สารองส่วนเกิน (เงินให้กู)้
ถ้ามีเงินให้กู้
D
ถ้ามีเงินให้กู้
D
x
P
นโยบายการเงิน
นโยบายการเงิน
• นโยบายของรัฐบาลซึง่ ดาเนินการผ่าน
ธนาคารกลางในการควบคุมปริมาณเงินและ
เครดิตของของประเทศ ให้มีขนาดพอเพียง
กับความต้องการทางเศรษฐกิจ ไม่ให้เกิด
ปัญหาทางการเงิน อันจะเป็ นอุปสรรคต่อ
การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ
ธนาคารกลาง
• สถาบันการเงินทีส่ ว่ นมากเป็ นของรัฐ
ทาหน้าทีเ่ ป็ นศูนย์กลางด้านสินเชือ
่ เครดิต
และระบบการเงินของประเทศ
หน้าทีส่ าคัญของธนาคารกลาง
• ออกและพิมพ์ธนบัตร
• เก็บรักษาทุนสารองระหว่างประเทศ
• เป็ นนายธนาคารของธนาคารพาณิชย์
• เป็ นนายธนาคารของรัฐบาล
• ควบคุมและตรวจสอบสถาบันการเงินอืน
่ ๆ
• รักษาเสถียรภาพทางการเงิน
• ควบคุมปริมาณเงินและเครดิต
ข้อแตกต่างระหว่างธนาคารกลางกับธนาคารพาณิชย์
• การหากาไร
• ลูกค้าของธนาคาร
ประเภทของนโยบายการเงิน
1. นโยบายการเงินแบบเข้มงวด
(Restrictive monetary policy)
• ทาให้ปริมาณเงินเล็กลง
2. นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย
(Easy or expansionary monetary policy)
• ทาให้ปริมาณเงินมีขนาดใหญ่ขน
ึ้
ปริมาณเงินมาก
ปริมาณเงินน้อย
ใช้จา่ ยมาก
ใช้จา่ ยน้อย
GDP มาก
GDP น้อย
ลูกโป่ งตึงมาก
ลูกโป่ งแฟบ
ลดปริมาณเงิน
เพิม
่ ปริมาณเงิน
นโยบายการเงิน
แบบเข้มงวด
นโยบายการเงิน
แบบผ่อนคลาย
เครือ
่ งมือของนโยบายการเงิน
1. การควบคุมทางปริมาณหรือโดยทั่วไป
(Quantitative or general control)
2. การควบคุมทางคุณภาพหรือการควบคุมเฉพาะ
อย่าง (Quanlitative or selective control)
3. การชักชวนให้ปฏิบตั ต
ิ าม (Moral Suasion)
1. การควบคุมทางปริมาณหรือโดยทั่วไป
1. การซื้อขายหลักทรัพย์โดยเปิ ดเผย
(Open-market operations)
2. การเปลีย่ นแปลงอัตราเงินสารองตามกฏหมาย
(Changing reserve requirement)
3. การเปลีย่ นแปลงอัตรารับช่วงซื้อลด
(Changing the rediscount rate)
4. การเปลีย่ นแปลงอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน
(Changing the bank rate)
1. Open-market operations
ธนาคารกลางต้องการเพิม
่ ปริมาณเงิน
ธ.กลางรับซื้อหลักทรัพย์
ชาระค่าซื้อหลักทรัพย์ดว้ ยเช็ค
ผูข
้ ายนาเงินไปฝากธนาคารพาณิชย์
การสร้างเงินฝาก
้ ตามค่าตัวทวี
ปริมาณเงินในระบบเพิม
่ ขึน
2. Changing reserve requirement
เดิม R = 20%
ใหม่
R = 10%
R = 25%
สารองส่วนเกิน
้
เพิม
่ ขึน
สารองส่วนเกิน
ลดลง
ธนาคารพาณิชย์
้
ให้กย
ู้ ม
ื เพิม
่ ขึน
ธนาคารพาณิชย์
ให้กย
ู้ ม
ื ลดลง
ปริมาณเงิน
้
ในระบบเพิม
่ ขึน
ปริมาณเงิน
ในระบบลดลง
2. Changing reserve requirement (ต่อ)
เดิม R = 20% และ P = 100 บาท
D =
1 x P
R
=
1 x 100
0.2
= 500
ใหม่
R = 10%
D =
1 x 100
0.1
้ )
= 1,000 (D เพิม
่ ขึน
R = 25%
D =
1 x 100
0.25
= 400 (D ลดลง)
3. Changing the rediscount rate
นาย ก. มีต๋วั เงินมูลค่า 100 บาท
นาย ก. ขายตั๋วเงินให้ ธ.พาณิชย์
นาย ก. ได้เงิน 90 บาท
ธ.พาณิชย์ขายตั๋วเงินให้ ธ.กลาง
ธ.พาณิชย์ได้เงิน 95 บาท
ธ.พาณิชย์นาเงินไปปล่อยกูไ้ ด้
ธ.พาณิชย์คด
ิ
อัตราส่วนลด
(Discount Rate)
10%
ธ.กลางคิด
อัตรารับช่วงซื้อลด
(Rediscount Rate)
5%
3. Changing the rediscount rate (ต่อ)
Discount Rate
> Rediscount Rate
ส่วนต่าง คือ กาไรของธนาคารพาณิชย์
3. Changing the rediscount rate (ต่อ)
เดิม Rediscount Rate = 5% , Discount Rate = 10%
้ )
ใหม่ Rediscount Rate = 8% (เพิม
่ ขึน
ธ.พาณิชย์เพิม
่
ธ.พาณิชย์ลดการขาย
ตั๋วเงินให้ ธ.กลาง
Discount Rate
ปริมาณเงินให้กลู้ ดลง
ลูกค้านาตั๋วเงินมาขายลดลง
D ลดลง
D ลดลง
4. Changing the bank rate
อัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน (bank rate)
• อัตราดอกเบี้ยทีธ่ นาคารกลางคิดจาก
ธนาคารพาณิชย์
4. Changing the bank rate (ต่อ)
ธ.กลางลดอัตราดอกเบีย้ มาตรฐาน
้
ธ.พาณิชย์กูไ้ ด้มากขึน
้
ธ.พาณิชย์ปล่อยกูห
้ รือให้สน
ิ เชือ
่ มากขึน
้
D เพิม
่ ขึน
้ อยูก
• ขึน
่ บั การตอบสนองของธนาคารพาณิชย์
2. การควบคุมทางคุณภาพหรือควบคุมเฉพาะอย่าง
1. การควบคุมเครดิตเพือ
่ การบริโภค
2. การควบคุมเครดิตเพือ
่ การเก็งกาไร
ในการซื้อขายหลักทรัพย์
1. การควบคุมเครดิตเพือ
่ การบริโภค
การชาระค่าสินค้า
เงินดาวน์
เงินผ่อนรายงวด
ส่งเสริมการใช้จา่ ย
เพือ
่ การบริโภค
1. การควบคุมเครดิตเพือ
่ การบริโภค (ต่อ)
• ลดปริมาณเงิน
เพิม
่ เงินดาวน์
+
ลดจานวนงวดในการผ่อน
้ ในการแต่ละงวด)
(ใช้เงินมากขึน
ซื้อสินค้าลดลง
การกูย้ ม
ื ลดลง
D ลดลง
2. การควบคุมเครดิตเพือ
่ การเก็งกาไร
ในการซื้อขายหลักทรัพย์
• Margin
Margin = 40%
ชาระเงินสด 40% ของราคาหลักทรัพย์
ทีเ่ หลือ 60% กูจ้ ากบริษท
ั นายหน้า
โดยเอาหลักทรัพย์นน
้ ั คา้ ประกัน
2. การควบคุมเครดิตเพือ
่ การเก็งกาไรในการซื้อขายหลักทรัพย์ (ต่อ)
• ลดปริมาณเงิน
ธ.กลางกาหนดให้ตลาดหลักทรัพย์เพิม
่ Margin
ซื้อหุน
้ ลดลง
กูเ้ งินลดลง
D ลดลง
3. การชักชวนธนาคารพาณิชย์ให้ปฏิบตั ต
ิ าม
สรุปนโยบายการเงิน
เศรษฐกิจขยายตัวมาก
เศรษฐกิจตกตา่ มาก
นโยบายการเงิน
: ลดปริมาณเงิน
: แบบเข้มงวด
นโยบายการเงิน
: เพิม
่ ปริมาณเงิน
: แบบผ่อนคลาย
เชิงปริมาณ
เชิงปริมาณ
1. ธ.กลางขายหลักทรัพย์
1. ธ.กลางรับซื้อหลักทรัพย์
2. เพิม
่ อัตราเงินสดสารอง
2. ลดอัตราเงินสดสารอง
ตามกฏหมาย
ตามกฏหมาย
3. เพิม
่ อัตรารับช่วงซื้อลด
3. ลดอัตรารับช่วงซื้อลด
4. เพิม
่ อัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน
4. ลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน
เชิงคุณภาพ
เชิงคุณภาพ
1. เพิม
่ เงินดาวน์ + ลดปี ผ่อน
1. ลดเงินดาวน์ + เพิม
่ ปี ผ่อน
2. เพิม
่ Margin
2. ลด Margin