การหาประสิ ทธิภาพนวัตกรรม ทางการศึกษา/การเรียนการสอน มีประสิ ทธิภาพ หมายถึงเมือ่ นานวัตกรรมไปใช้ แล้ ว ผู้เรียน มีพฤติกรรมการเรียนรู้ ตรงตามเป้าหมายทีก่ าหนด มีประสิ ทธิผล หมายถึง การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ด้ วยนวัตกรรมทีพ่ ฒ ั นาขึน้ ช่ วยให้ ผ้

Download Report

Transcript การหาประสิ ทธิภาพนวัตกรรม ทางการศึกษา/การเรียนการสอน มีประสิ ทธิภาพ หมายถึงเมือ่ นานวัตกรรมไปใช้ แล้ ว ผู้เรียน มีพฤติกรรมการเรียนรู้ ตรงตามเป้าหมายทีก่ าหนด มีประสิ ทธิผล หมายถึง การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ด้ วยนวัตกรรมทีพ่ ฒ ั นาขึน้ ช่ วยให้ ผ้

การหาประสิ ทธิภาพนวัตกรรม
ทางการศึกษา/การเรียนการสอน
มีประสิ ทธิภาพ หมายถึงเมือ่ นานวัตกรรมไปใช้ แล้ ว ผู้เรียน
มีพฤติกรรมการเรียนรู้ ตรงตามเป้าหมายทีก่ าหนด
มีประสิ ทธิผล หมายถึง การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
ด้ วยนวัตกรรมทีพ่ ฒ
ั นาขึน้ ช่ วยให้ ผ้ ูเรียนบรรลุเป้าหมาย
และวัตถุประสงค์ ของการเรียนการสอน โดยผู้เรียนส่ วนมาก
หรือทุกคนเกิดพฤติกรรมการเรียนรู้ ผ่านเกณฑ์ ทกี่ าหนดไว้
แผนภูมิการพัฒนานวัตกรรมคอมพิวเตอร์ ช่วยสอน
วิเคราะห์ ผ้ ูเรียน
วิเคราะห์ เนือ้ หาวิชา
วิเคราะห์ ทกั ษะทีต่ ้ องการให้ ผ้ ูเรียนเรียนรู้
เขียนบทเรียน CAI
ประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญ
ทดลองใช้
นาไปใช้
ปรับปรุง
ปรับปรุง
เผยแพร่
ขั้นตอนการหาประสิ ทธิภาพนวัตกรรม
ขั้นที่ 1 ทดลองหนึ่งต่ อหนึ่ง
ขั้นที่ 2 ทดลองกับกลุ่มเล็ก
ขั้นที่ 3 ทดลองภาคสนาม
เกณฑ์ ประสิ ทธิภาพของนวัตกรรม
วิธีที่ 1 E1 : E2
วิธีที่ 2 หาค่ าดัชนีประสิ ทธิผล
วิธีที่ 3 t- test

E  CAI  50 E
a
Eb

เกณฑ์ ประสิ ทธิภาพของนวัตกรรม
วิธีที่ 4 คานวณหาอัตราส่ วนระหว่ าง ร้ อยละของ จานวน
นักเรียนที่สอบแบบทดสอบอิงเกณฑ์ ผ่านเกณฑ์ ที่กาหนด
ไว้
วิธีที่ 5

E  CAI  50 E a  E b

วิธีที่ 1 E1 : E2
สู ตร E1 =
x
N  100
A
x
E2 = N  100
B
เอกสารหน้ า 57
ความหมาย
E1 = ประสิ ทธิภาพของกระบวนการ
∑X = ผลรวมของคะแนนแบบฝึ กหัดทีผ่ ู้เรียนทาได้
N = จานวนผู้เรียน
A = คะแนนเต็มของแบบฝึ กหัด
E2 = ประสิ ทธิภาพของผลลัพท์
∑X = ผลรวมของคะแนนแบบทดสอบหลังเรียนทีผ่ ้ ูเรียน
ทาได้
N = จานวนผู้เรียน
B = คะแนนเต็มของแบบทดสอบหลังเรียน
วิธีที่ 2 หาค่ าดัชนีประสิ ทธิผล
สู ตรหาค่ าดัชนีประสิ ทธิผล
E.I =
Posttest Score – Pretest Score
Maximum Possible Score – Pretest Score
เกณฑ์ที่ยอมรับว่านวัตกรรมมีประสิ ทธิ ภาพมีค่าตั้งแต่ .50 ขึ้นไป
E.I = ดัชนีประสิ ทธิผล
Posttest Score = คะแนนทดสอบหลังเรียน
ทีผ่ ้ ูเรียนทุกคนทาได้
Pretest Score = คะแนนทดสอบก่ อนเรียนที่
ผู้เรียนทุกคนทาได้
Maximum Possible Score =
คะแนนสู งสุ ดทีเ่ ป็ นไปได้
ซึ่งก็คอื คะแนนเต็ม
วิธีที่ 3 t- test
t=
D
2
2


n D   D
n 1

วิธีที่ 4
วิธีคานวณหาอัตราส่ วนระหว่าง ร้อยละของจานวนนักเรี ยนที่
สอบแบบทดสอบอิงเกณฑ์ผา่ นเกณฑ์ที่กาหนดไว้ (P2) เช่น
P1 : P2 = 80 : 60
หมายความว่ากาหนดเกณฑ์การผ่านไว้แล้ว ต้องมีจานวนผูเ้ รี ยน
80 % ของจานวนผูเ้ รี ยนทั้งหมดผ่านเกณฑ์ (P1 ) ผ่าน
60 % ของจานวนคะแนนเต็ม (P2 ) จึงจะมีประสิ ทธิภาพ

E a  CAI  50 E
a
Eb

วิธีที่ 5

E  CAI  50 E
E-CAI
58
a
Eb

หมายถึง ประสิ ทธิภาพของสื่ อคอมพิวเตอร์ ช่วยสอน
หมายถึง ค่าเฉลี่ยอัตราส่ วนของคะแนน
Ea
แบบฝึ กหัด
หมายถึง ค่าเฉลี่ยอัตราส่ วนของคะแนนหลัง
Eb
การเรี ยนด้วยสื่ อคอมพิวเตอร์
ช่วยสอน
Ea
เกณฑ์ การพิจารณา
ร้ อยละ 95 – 100
ร้ อยละ 90 – 94
ร้ อยละ 80 – 89
ต่ากว่ าร้ อยละ 80
หมายถึง มีประสิ ทธิภาพ
ดีมาก
หมายถึง มีประสิ ทธิภาพ
ดี
หมายถึง มีประสิ ทธิภาพ
พอใช้
หมายถึง สื่ อคอมพิวเตอร์ ช่วยสอนควร
ปรับปรุงแก้ ไข
ขั้นตอนการสร้ างแบบทดสอบชนิดมีตัวเลือก
1. ศึกษาหลักสู ตร เนือ้ หาและวิธีการสร้ างแบบทดสอบ
2. วิเคราะห์ เนือ้ หาและภารกิจการเรียนรู้
3. กาหนดและจัดลาดับความสาคัญของเนือ้ หา
4. เขียนวัตถุประสงค์ และสร้ างตารางวิเคราะห์ ข้อสอบ
5. เขียนต้ นร่ างข้ อทดสอบและนาไปหาค่ า IOC
ขั้นตอนการสร้ างแบบทดสอบชนิดมีตัวเลือก
6. เลือกข้ อสอบที่มคี ่ า IOC ตั้งแต่ .5 ขึน้ ไป
7. นาไปทดลองใช้ หาค่ า p และ r
8. คัดเลือกข้ อสอบที่มคี ่ า p ระหว่ าง .20 - .80
และค่ า r ตั้งแต่ .20 ขึน้ ไป และหาความเชื่อมัน่
ข้ อสอบทั้งฉบับ ( Reliability)
ขั้นตอนการหาประสิ ทธิภาพสื่ อ/นวัตกรรม
การทดลองแบบ 1 : 1
1. เตรียมคาถามทีจ่ ะใช้ ประเมิน
2. เตรียมผู้เรียนให้ ครบตามจานวน
3. ทดลอง
4. วิเคราะห์ ผล/รายงาน
5. ปรับปรุงข้ อบกพร่ อง
เอกสารหน้า 44
ขั้นตอนการหาประสิ ทธิภาพสื่ อ/นวัตกรรม
การทดลองแบบกลุ่มเล็ก
1. เตรียมแบบสอบถามและข้ อสอบทีจ่ ะใช้ ประเมิน
2. เตรียมผู้เรียนให้ ครบตามจานวน
3. ดาเนินการทดลอง
4. เก็บรวบรวมข้ อมูล
5. วิเคราะห์ ผล/รายงาน
6. ปรับปรุ งแก้ ไขสื่ อ/นวัตกรรม
ขั้นตอนการหาประสิ ทธิภาพสื่ อ/นวัตกรรม
การทดลองแบบภาคสนาม
1. เตรียมแบบสอบถามและข้ อสอบที่จะใช้ ประเมิน
2. เตรียมผู้เรียนให้ เพียงพอ
3. ดาเนินการทดลอง
4. เก็บรวบรวมข้ อมูล
5. วิเคราะห์ ข้อมูล/รายงาน
การใช้ สถิติในการนาเสนอ
การเก็บคะแนนก่ อนและหลังเรียน
เปรียบเทียบความแตกต่ างของผลสั มฤทธิ์ก่อน
และหลังเรียนโดยใช้ t - test
(Dependent)
การใช้ สถิติในการนาเสนอ
การเก็บคะแนนระหว่ างเรียนและหลังเรียน
ดูประสิ ทธิภาพของกระบวนการและผลลัพธ์
เป็ นไปตามเกณฑ์ ที่กาหนดหรือไม่ โดยใช้
E1 : E 2
การใช้ สถิติในการนาเสนอ
การเก็บคะแนนเฉพาะหลังเรียน
เปรียบเทียบกับเกณฑ์ ที่กาหนด โดยใช้
P1 : P 2
การใช้ สถิติในการนาเสนอ
ดูประสิ ทธิภาพการสอน
ประสิ ทธิภาพการสอนหลังใช้ นวัตกรรม โดยใช้
S.D
C.V =
X
ค่ าที่คานวณได้
ถ้ าค่ า C.V ทีค่ านวณได้ ต่ากว่ า ร้ อยละ 10
หมายถึง การสอนมีระดับคุณภาพดี
ถ้ าค่ า C.V ทีค่ านวณได้ อยู่ระหว่ าง ร้ อยละ 10-15
หมายถึง การสอนมีระดับคุณภาพปานกลาง
ถ้ าค่ า C.V ทีค่ านวณได้ สูงกว่ า ร้ อยละ 15
หมายถึง ต้ องปรับปรุงการสอน
สวัสดี