คดีปกครอง เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ โดย อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ 1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่

Download Report

Transcript คดีปกครอง เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ โดย อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ 1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่

Slide 1

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 2

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 3

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 4

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 5

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 6

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 7

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 8

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 9

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 10

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 11

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 12

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 13

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 14

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 15

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 16

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 17

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 18

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 19

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 20

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 21

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 22

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 23

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 24

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 25

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 26

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 27

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 28

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 29

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 30

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 31

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 32

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 33

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 34

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 35

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 36

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 37

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 38

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 39

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 40

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 41

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 42

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 43

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 44

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 45

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 46

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 47

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 48

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง


Slide 49

คดีปกครอง
เกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่ ๑๐ กล่ มุ
โดย

อนุชา ฮุนสวัสดิกลุ

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่

1) คดีเกีย่ วกับการเข้ าสู่ ตาแหน่ งและการสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง

2)
3)
4)
5)
6)
7)
8)
9)
10)

 ขาดคุณสมบัติ มีลกั ษณะต้ องห้ าม มีพฤติกรรมในทุจริต
 มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญา

คดีเกีย่ วกับการประชุมสภาท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลท้ องถิน่
คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้ ของท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการกระทาละเมิดทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับทีส่ าธารณะ
คดีเกีย่ วกับค่ าเช่ าบ้ านข้ าราชการ
คดีเกีย่ วกับการพัสดุ และสั ญญาทางปกครอง
คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงานตามอานาจหน้ าที่ของท้ องถิน่

คดีเกีย่ วกับการเลือกผ้ บู ริ หารท้ องถิน่
และการประชุมสภาท้ องถิน่

คดี อบต. หนองไฮ ...
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๔ กรกฎาคม ๔๔
๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รอง เลขาฯ
และขอมติเปิ ดวิสามัญ สมัยที่ ๑
 นายอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน และอนุมติให้ เปิ ดวิสามัญ
 ๑๔.๐๐ น. ประชุ มวิสามัญ เลือกประธานกรรมการบริ หารฯ


 ๙ กรกฎาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๕/๒๕๔๖)

คดี อบต. ปากช่ อง (นายสุเทพ ราชเสมอ ...)
 ๒๓ มิถุนายน ๔๔ เลือกตั้งทั่วไป
 ๓ กรกฎาคม ๔๔
๑๓.๓๐ น. ประชุ มสภาท้ องถิ่นครั้งแรก เลือกประธาน รองประธาน
 ปลัดอาเภอแต่ งตั้ง ประธาน รองประธาน
 ๑๕.๐๐ น. ประธานสภาฯ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญประจาปี ครั้ งที่ ๑ และ
เลือกประธานกรรมการบริหาร อบต.


 ๑ สิ งหาคม ๔๔ นายอาเภอแต่ งตั้งประธานกรรมการฯ
 คาวินิจฉัย
การเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ชอบด้ วยกฎหมาย
 การเลือกประธานกรรมการบริ หารฯ ไม่ ชอบ เนื่องจากนัดประชุ มไม่ ชอบ


(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๓/๒๕๔๕)

 การประชุมสภาท้ องถิน่




ข้ อสั งเกต

การประชุ มสภาฯ ครั้งแรก
การประชุ มสมัยสามัญ
การประชุ มสมัยวิสามัญ

 การเรียกประชุม
1)

2)

3)

ประธานฯ แจ้ งล่วงหน้ าเป็ นหนังสื อและปิ ดประกาศในที่เปิ ดเผยก่อนวัน
กาหนดเปิ ดสมัยประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๓ วัน
กรณีรีบด่ วนจะแจ้ งกาหนดเปิ ดสมัยประชุ มและปิ ดประกาศเร็วกว่ านั้นก็
ได้ แต่ มิให้ น้อยกว่ า ๒๔ ชม. ก่อนกาหนดเวลาเปิ ดสมัยประชุ ม (ยังคง
ต้ องแจ้ งและปิ ดประกาศฯเช่ นกัน)
การนัดประชุ มในระหว่ างสมัยประชุ มนั้นให้ ทาเป็ นหนังสื อ หรือจะบอก
นัดในทีป่ ระชุ ม แต่ ถ้าบอกนัดในทีป่ ระชุ มให้ ส่งหนังสื อไปยังผู้ทไี่ ม่ มา
ประชุ มให้ ทราบล่วงหน้ าด้ วย

 การเรียกประชุ ม






รู ปแบบและระยะเวลาในการเรียกประชุ มสภาเป็ นสาระสาคัญทีจ่ ะต้ องปฏิบัติตาม
โดยเคร่ งเคร่ งครัด
การทีม่ มี ติให้ เปิ ดประชุ มสมัยสามัญ ครั้งที่ ๑ ต่ อจากการประชุ มครั้งแรก หรือเปิ ด
วิสามัญต่ อช่ วงบ่ าย เป็ นการฝ่ าฝื นข้ อบังคับฯ จึงเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย เนื่องจากกระทาการโดยไม่ ถูกต้ องตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด
การบอกนัดในทีป่ ระชุ ม กระทาได้ ต่อเมือ่ อยู่ในสมัยประชุ มเท่ านั้น การกาหนดวัน
เปิ ดสมัยประชุ มสภาสามัญ ครั้งแรก จึงไม่ อยู่ในสมัยประชุ ม และไม่ สามารถบอก
นัดในทีป่ ระชุ มได้

 มติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ จึงเป็ นมติทไี่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมายเช่ นกัน
 นอ. ลงนามคาสั่ งแต่ งตั้งตามมติฯ ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงไม่ ชอบด้ วย
กฎหมาย
 ประเด็น “การแจ้ ง”
 ประเด็น “การนับระยะเวลา”

คดี อบต. บางเดือ่ ...
 “ผู้เรียกประชุ ม และผู้เปิ ดและปิ ดประชุ ม กรณีไม่ มีประธานสภาฯ หรือ
ประธานสภาฯ ไม่ เรียกประชุ มตามกฎหมาย ให้ ....เป็ นผู้เรียกประชุ มและ
เป็ นผู้เปิ ดหรือปิ ดประชุ ม





อบต. (มาตรา ๕๔ “นายอาเภอ”)
เทศบาล (มาตรา ๒๕ วรรคสอง “ผู้ว่าราชการจังหวัด)
อบจ. (มาตรา ๒๔ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”)

 สภา อบต. ไม่ ผ่านงบฯ จึงเปิ ดสมัยวิสามัญเพือ่ เลือกคณะกรรมการบริหารฯ
 เมื่อถึงวาระ เกิดเหตุการณ์ วุ่นวาย ประธานสภาฯ สั่ งปิ ดประชุ มก่อนหมด
ระเบียบวาระ แต่ สมาชิกขอให้ เปิ ดประชุ มสภาต่ อไปโดยให้ รองประธานฯทา
หน้ าทีป่ ระธานในทีป่ ระชุ ม
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๔/๒๕๔๗)

 ทีป่ ระชุ มมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารฯ และส่ งให้ นอ. แต่ งตั้ง
 นอ. ไม่ แต่ งตั้ง โดยอ้างประธานฯสั่ งปิ ดประชุ มแล้ว ขอเปิ ดการประชุ มต่ อไปไม่
อาจกระทาได้ และให้ สมาชิกสภาฯ ขอเปิ ดวิสามัญ
 จึงเสนอ ผวจ. ให้ ยุบสภา เพราะไม่ อาจเลือกคณะกรรมการบริหารฯ ได้ ภายใน
๑๕ วัน ผวจ. จึงให้ นอ. เป็ นผู้เรียกประชุ มเพือ่ เลือกฯ
 นอ. ได้ ดาเนินการประชุ มจนเลือกคณะกรรมการบริหารฯได้ และมีคาสั่ งแต่ งตั้ง
ตามมติฯ โดยมีสมาชิกฯ คัดค้ านประชุ มขัดกฎหมาย
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า การใช้ อานาจกรณีนี้ จะต้ องอยู่ในสมัยประชุ ม โดย
จะต้ องมีการกาหนดให้ มีสมัยประชุ มแล้ว
 เมื่อเรียกประชุ มทีไ่ ม่ ได้ อยู่ในสมัยประชุ มจึงเป็ นการดาเนินการที่ขัดต่ อ
กฎหมาย จึงให้ เพิกถอนคาสั่ งของ นอ. ทีเ่ รียกประชุ มสภาฯ และให้ เพิกถอน
คาสั่ งแต่ งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ ตั้งแต่ วนั ทีอ่ อกคาสั่ งฯ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง

คดี อบต. นาราชควาย
 ผู้ฟ้องคดีร้อง นอ. และ นายชานิฯ ขอให้ สอบสวนการปฏิบัติงานของ
ผู้บริหาร อบต.
 นายก อบต. ยืน่ ญัตติให้ ขบั ผู้ฟ้องคดีให้ พ้นจากตาแหน่ ง เนื่องจากมี
ความประพฤติในทางที่จะนามาซึ่งความเสื่ อมเสี ยและก่ อความไม่ สงบ
เรียบร้ อยแก่ อบต.
 สภา อบต. มีมติให้ ผ้ ฟู ้ องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
 ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ต่อ ผวจ. ว่ า
 นายก อบต.ฯ กับพวกปฏิบัติหน้ าทีโ่ ดยไม่ ชอบ
 ขอรายงานการประชุ ม ไม่ ได้ รับความร่ วมมือ
 ตนไม่ เคยมีพฤติกรรมตามทีถ่ ูกกล่าวหา

 ผวจ. ให้ นอ. ตรวจสอบข้ อเท็จจริง
 สภา อบต. มีมติให้ พ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีพฤติกรรมในทางที่จะ
นามาซึ่งความเสื่อมเสีย/ก่ อความไม่ สงบ
 นอ. เห็นว่ า อบต. ดาเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกาหนด และ
ผ้ ฟู ้ องคดีไม่ ตรวจสอบการทางานของผ้ บู ริ หารทางสภา จึงมีเหตุผล
เพียงพอ และ ผวจ.เห็นชอบ และแจ้ งให้ ผู้ฟ้องคดีทราบ
 ผู้ฟ้องคดีขอให้ ผวจ. ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง
 ผวจ. แจ้ งว่ า เป็ นการขอให้ พจิ ารณาในเรื่องเดียวกัน ไม่ อาจพิจารณาได้
อีก หากไม่ พอใจให้ นาคดีไปฟ้องต่ อศาลได้
 ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง

 ประเด็นพิจารณาว่ า สภา อบต. ประชุ มและลงมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ ง
เป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ? และการวินิจฉัยอุทธรณ์ ของ ผวจ.
ให้ ยกอุทธรณ์ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่ ?
 เห็นว่ า การยืน
่ ญัตติมีเงื่อนไข ดังนี้
 การยืน
่ ญัตติต้องยืน่ เป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าก่ อนเวลาประชุ มไม่ น้อยกว่ า ๗ วัน
 สมาชิ กลงชื่ อไม่ น้อยกว่ า ๑/๓
 ประธานแจ้ งให้ สมาชิ กทีถ
่ ูกยืน่ มติเป็ นหนังสื อล่ วงหน้ าตามสมควรก่ อนวันประชุ ม

เพือ่ เตรียมหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่ าวหา แต่ ต้องไม่ น้อยกว่ า ๔๘ ชม. ก่ อน
กาหนดเวลาประชุ ม
 หากมีเหตุพ้นวิสัยให้ บันทึกเหตุผลไว้ เป็ นหนังสื อ และนาแจ้ งทีป
่ ระชุ มทราบ

การประชุ มได้ ดาเนินการตามข้ อบังคับ
 คัดค้ านว่ าไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน
่ ญัตติวินิจฉัยคุณสมบัติ ทาให้ ไม่ มีโอกาส

เตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่ าวหา
 การประชุ ม ประธานให้ ผ้ ฟ
ู ้ องคดีชี้แจงก่ อน

ไม่ ได้ ส่งหนังสื อแจ้ งการยืน่ ญัตติวนิ ิจฉัยคุณสมบัติ
ทาให้ ไม่ มีโอกาสเตรียมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา จึงไม่ เป็ นไปตาม
ขั้นตอนตามข้ อบังคับ ข้ อ ๔๔ อันเป็ นขั้นตอนทีถ่ ือว่ าเป็ นสาระสาคัญ
และไม่ ให้ สิทธิผู้ฟ้องคดีมีโอกาสโต้ แย้ งข้ อกล่าวหาได้ อย่ างเต็มที่

 ข้ อเท็จจริ งฟังได้ ว่า

 ประเด็นดาเนินการอภิปรายโดยไม่ ถูกต้ องตามข้ อบังคับ ตามข้ อ ๕๓ ให้ ผ้ เู สนอ

ญัตติอภิปรายก่ อน และให้ ผ้ คู ดั ค้ านอภิปราย แล้ วอภิปรายสลับกัน
 กรณีนี้ จึงต้ องให้ ผ้ ย
ู นื่ ญัตติอภิปรายก่ อน แล้ วตามด้ วยผู้คดั ค้ านสลับกันไป
 จึงไม่ อาจถือได้ ว่าเป็ นการประชุ มทีช
่ อบด้ วยกฎหมาย

การทีส่ ภามีมติให้ ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งเป็ นการใช้ ดุลพินิจชอบหรือไม่
 สมาชิ กเป็ นผู้แทนราษฎรในการควบคุมการทางานของฝ่ ายบริ หารและเป็ นสมาชิ ก

สภาด้ วย และมีสิทธิร้องขอ นอ. ผู้กากับดูแลสอบสวนและวินิจฉัยในกรณีสงสั ยว่ า
สมาชิกสภาขาดคุณสมบัตหิ รือมีลกั ษณะต้ องห้ าม ดังนั้น การร้ องขอให้ นอ.
สอบสวนและวินิจฉัยเป็ นการปฏิบัติหน้ าที่ภายในกรอบกฎหมายกระทาได้ หาก
กระทาโดยสุ จริต

 พิจารณาเห็นว่ าการร้ องเรี ยนของผู้ฟ้องคดีต่อ นอ. ไม่ ปรากฏว่ ามีเจตนาไม่ สุจริ ต

มุ่งก่ อให้ เกิดความเสี ยหายแก่ อบต. จึงฟังได้ ว่า ผู้ฟ้องคดีใช้ สิทธิร้องเรียนต่ อ นอ.
ในฐานะสมาชิกสภา กรณีสงสั ยว่ าผู้บริหารส่ อทุจริต ขอให้ ต้งั คณะกรรมการ
สอบสวน ยังไม่ อาจถือว่ ามีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ยฯ การทีส่ ภามีมติให้ พ้นจาก
ตาแหน่ ง จึงเป็ นการใช้ ดุลพินิจโดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย

 โดยสรุป การทีส่ ภามีมติให้ ผ้ ูฟ้องคดีพ้นจากตาแหน่ งจึงเป็ นการกระทา
ที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อมติไม่ ชอบ การที่ ผวจ.ยกอุทธรณ์ จึงเป็ น
การกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย จึงให้ เพิกถอนมติสภาและคา
วินิจฉัยของ ผวจ.

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
: สภามีมติให้ พ้นจากตาแหน่ ง และ
สภาไม่ รับหลักการร่ างข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายฯ

เทศบาลตาบลหนองหิน...
 สท. ยืน่ ญัตติด่วนขออภิปรายไม่ ไว้ วางใจ นทม. และขอถอดถอนออก
จากตาแหน่ งตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) โดยเห็นว่ ามีความประพฤติ
ในทางที่จะนาความเสื่ อมเสี ยประโยชน์ แก่ เทศบาล ปฏิบัติงานไม่
เป็ นไปตามระเบียบกฎหมาย บริหารงานผิดพลาด ทุจริตบริหารงาน
ล่ าช้ าและไม่ มีประสิ ทธิภาพ
 นทม. อ้ างว่ า การควบคุมถอดถอน นทม. ต้ องดาเนินการตามมาตรา
๓๔, ๓๕, ๗๒, ๗๓ ไม่ ได้ ให้ สิทธิและอานาจ สท. ยืน่ ญัตติอภิปรายไม่
ไว้ วางใจและถอดถอนออกจากตาแหน่ งได้ และเนือ้ หาไม่ อยู่ในวงงาน
ประธานไม่ สามารถนาญัตติเข้ าระเบียบวาระได้
(คาพิพากษาศาลปกครองสู งสุ ด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕/๒๕๔๗)

 สภาเทศบาลมีมติ ๙ จาก ๑๒ เสี ยง (ไม่ น้อยกว่ า ๓ / ๔) ให้ พ้นจาก
สมาชิกภาพ
 ต่ อมาจึงได้ มีการประชุมเลือก คทม. ใหม่ ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลขอให้ เพิกถอนมติ และคาสั่ งแต่ งตั้ง คทม. คนใหม่
 ศาลปกครองสู งสุ ดเห็นว่ า


การควบคุมและตรวจสอบความประพฤติของเทศมนตรี กับ สท.
 การควบคุมเทศมนตรี

ตามมาตรา ๓๔, ๓๕, ๗๒ และ ๗๓
 การควบคุม สท. ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗)

การแยกการตรวจสอบและควบคุมออกจากกัน เพือ่ ความชัดเจนในการ
นามาใช้ บังคับกับแต่ ละตาแหน่ งทีแ่ ยกออกจากกันซึ่งไม่ เกี่ยวพันกัน
 แต่ หากทั้งสองตาแหน่ งเกีย
่ วพันกันโดยเป็ นบุคคลเดียวกัน การควบคุมฯ
ทั้งสองตาแหน่ งต้ องนามาใช้ ร่วมกัน แยกไม่ ได้


 การพ้ นจาก นทม. ไม่ พ้นจาก สท. แต่
 การพ้ นจาก สท. ทาให้ พ้นจาก นทม.

ความเป็ นเทศมนตรีไม่ อาจหลุดพ้นจาก สท.ได้ ระบบการควบคุมฯ ความ
ประพฤติหรือการปฏิบัติงานของ สท. ที่ได้ รับแต่ งตั้งเป็ น นทม. จึงต้ อง
ครอบคลุม รอบด้ าน สามารถถูกตรวจสอบได้ จากทุกฝ่ าย
 ความประพฤติของ นทม. ย่ อมถือเป็ นความประพฤติในฐานะ สท. อย่ าง
แยกไม่ ได้


 การทีส่ ภาเทศบาลมีมติให้ นทม. พ้นจากสมาชิกภาพของ สท. จึงถือว่ า
เป็ นการกระทาโดยชอบด้ วยมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง (๗) แล้ ว

คดี ทต. นาข่ า
 สภาเทศบาลมีมติให้ นายกเทศมนตรีสิ้นสุ ดสมาชิกภาพ ๓/๙ เสี ยง
 นายกฯ และ คทม. จึงพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ สภาจึงมีมติเลือก คทม.
ชุดใหม่ และอยู่ระหว่ างเสนอ ผวจ. แต่ งตั้ง นายกฯนาคดีมาฟ้องต่ อ
ศาลปกครองขอให้ เพิกถอนมติฯ และมีคาขอให้ ศาลกาหนดมาตรการ
บรรเทาทุกข์ ชั่วคราวก่ อนพิพากษา โดยขอให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง
คทม. ชุดใหม่
 ศาลมีคาสั่ งตามคาขอ โดยให้ ผวจ. ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ไว้ ก่อน
“นายกฯ และ คทม. จึงอยู่ในตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการต่ อไป
(ม. ๔๕ ว. ๒)”
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 ต่ อมาสภาเทศบาลไม่ รับหลักการร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายฯ
จะมีผลให้ คทม. ต้ องพ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะ (ม.๔๖(๑)) สภาจึงมีมติ
เลือก คทม. ชุดใหม่ อกี ครั้งหนึ่ง จึงประเด็นว่ า คทม. พ้นจากตาแหน่ ง
หรือไม่
 มติสภาเทศบาลที่ทาให้ คทม. พ้นจากตาแหน่ งทั้งคณะมีผลบังคับตาม
กฎหมายจนกว่ าศาลจะมีคาวินิจฉัยเป็ นอย่ างอืน่ เมื่อศาลมีคาสั่ ง
กาหนดมาตรการเพือ่ บรรเทาทุกข์ ชั่วคราว คาสั่ งมีผลเพียงให้ ผวจ.
ระงับการแต่ งตั้ง คทม. ชุดใหม่ ไว้ ก่อน ทาให้ คทม. ชุดเดิมอยู่ใน
ตาแหน่ งเพือ่ ดาเนินกิจการตาม ม. ๔๕ ว ๒
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

 การอยู่ในตาแหน่ งเป็ นเพียงชั่วคราวจนกว่ า คทม. ชุดใหม่ เข้ ารับหน้ าที่
เท่ านั้น ซึ่งเป็ นวัตถุประสงค์ ของกฎหมายทีต่ ้ องการให้ จดั ทาบริการ
สาธารณะมีความต่ อเนื่อง ซึ่งไม่ อาจดาเนินงานที่เป็ นนโยบายสาคัญ
เช่ น การเสนอร่ างเทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ ายประจาปี ได้
 การอยู่ในตาแหน่ งจึงไม่ ใช่ อยู่ในสถานภาพของตาแหน่ งแท้ จริง
แม้ สภาไม่ รับหลักการฯ ก็ไม่ อาจนามาตรา ๔๕(๔) มาใช้ บังคับกับ
คทม. ทีอ่ ยู่ตามมาตรา ๔๕ ว ๒ ได้ ดังนั้น แม้ สภาฯไม่ รับหลักการฯก็
ไม่ มีผลให้ คทม.พ้นจากตาแหน่ งอีก จึงมีคาพิพากษาให้ เพิกถอนมติ
สภาเทศบาลที่เลือก คทม.
(คาพิพากษาศาลปกครองขอนแก่ น คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการพ้นจากตาแหน่ ง
เนื่องจากการวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง

การวินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. โรงตาเจ็น
 มีชื่อในทะเบียนหมู่บ้านทีส่ มัครไม่ ครบ ๖ เดือน (อยู่หมู่อนื่ ๑๐ กว่ าปี )
 นอ.มีอานาจกากับดูแลการปฏิบัติหน้ าที่ อบต. และสภา อบต. จึงมีอานาจ
สั่ งให้ มีการเลือกตั้ง ส.อบต. และเลือกเลขานุการ แทนผู้ฟ้องคดี (ไม่ อาจ
นา ม. ๒๐ พรบ.เลือกตั้งเทศบาลมาใช้ ตาม ม. ๓ พรบ. อบต.)

 คดี ทม.สุ รินทร์ เป็ นผู้พพิ ากษาศาลสมทบฯ ไม่ เป็ นลักษณะต้ องห้ าม
 คาสั่ งยืนยันสิ ทธิ ไม่ เป็ นคู่กรณี ตามกฎหมายวิปฏิบัติ

คดีเกีย่ วกับการพ้ นจากตาแหน่ ง
: ผวจ. วินิจฉัยให้ พ้นจากตาแหน่ ง
(ละเลยต่ อหน้ าที่ หรื อปฏิบัติหน้ าที่ล่าช้ าเกินสมควร)

คดี ทม. กาแพงเพชร
 ๒๖ มิ.ย. ๔๓ สมาชิกสภาเทศบาลขอให้ ผวจ. สอบสวนคณะเทศมนตรี และ
รองประธานสภาเทศบาลฯ ว่ าเป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย







๑. นายกฯ เป็ นกรรมการผู้มอี านาจในบริษัท และได้ ขายรถยนต์ /ตรวจสภาพรถให้
เทศบาล และเทศมนตรีลงนามซื้อ/จ้ าง
๒. เทศมนตรีเจ้ าของโรงพิมพ์ รับจ้ างพิมพ์จดหมายข่ าวของเทศบาล
๓. เทศมนตรีเป็ นหุ้นส่ วนของ หจก. ได้ ขายวัสดุไฟฟ้าให้ เทศบาล
๔. เทศมนตรีเจ้ าของร้ านค้ า ขายวัสดุยานพาหนะให้ เทศบาล
๕. รองประธานสภาฯเจ้ าของร้ านอาหาร ได้ ทาสั ญญาขายอาหารให้ เทศบาล

 ๒๐ ต.ค. วินิจฉัยว่ า คนที่ ๔,๕ ไม่ เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ยในสั ญญากับเทศบาล

 ๓ ส.ค. ๔๔ กฤษฎีกาตอบข้ อหารือว่ า ทั้ง ๓ คน เป็ นผู้มีส่วนได้ เสี ย ผวจ.
จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เพือ่ ให้ โอกาสโต้ แย้ ง
 ๑๔ ก.ย. ๔๔ / ๑๕ ม.ค. ๔๕ แจ้ งว่ าอยู่ระหว่ างสอบสวน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ า
ผวจ. ละเลยต่ อหน้ าที่ จึงนาคดีมาฟ้องต่ อศาลปกครอง
 ผวจ. อ้างว่ า ผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงรอคาสั่ งของ
ศาลปกครองว่ าผลเป็ นอย่ างไร

 ศาลปกครองชั้นต้ นวินิจฉัยว่ า
ผู้ฟ้องคดีเป็ นผู้แทนปวงชน เป็ นผู้เดือดร้ อนหรือเสี ยหายจากการ
ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าของ ผวจ.
 ร้ องตั้งแต่ ๒๖ มิ.ย. ๔๓ แต่ มาฟ้องเมื่อ ๘ มี.ค. ๔๕ เป็ นการฟ้องเมื่อ
พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว แต่ มีเหตุจาเป็ นเพือ่ ความเป็ นธรรมจึง
รับฟ้อง
 แม้ กฎหมายเทศบาลไม่ ได้ กาหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ แต่ กไ
็ ด้
กาหนดให้ สอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ อาศัยความ
เป็ นสมาชิกแสวงหาประโยชน์ จากสั ญญาฯ จึงต้ องดาเนินการด้ วย
ความรวดเร็วและฉับพลันเพือ่ ไม่ ให้ กระทบต่ อประโยชน์ ของท้ องถิ่น
ซึ่งเป็ นประโยชน์ สาธารณะ การสอบสวนใช้ เวลากว่ า ๗ เดือน สรุป
ข้ อเท็จจริง ๒ ปี เศษ ยังไม่ วนิ ิจฉัย ถือได้ ว่าได้ ปฏิบัติหน้ าทีล่ ่าช้ าเกิน
สมควร จึงพิพากษาให้ วนิ ิจฉัยการสิ้นสุ ดสมาชิกภาพภายใน ๒๐ วัน


การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี ทต. ชุมแสง ไม่ วนิ ิจฉัยส่ วนได้ เสี ยภายในเวลาฯ
 คดีรังสรรค์ ฯ อบต.กะปาง
 คดีนายอาเภอศรีธาตุ อ้ าง ผวจ.มีนโยบายให้ ขุดสระบ้ านสมาชิก
 คดีสุรเชษฐ์ บ้ านดุง ถูก ผวจ.สั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง ผญบ.
 คดีนายเรือง วังคีรี มีพฤติกรรมเสื่ อมเสี ย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด
 คดีนายสุ รพล จ๋ วงวิเศษ

การสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ ง
 คดี อบต. บ้ านเนิน ขอให้ ศาลตรวจสอบการกระทาเกีย่ วกับการเงินและ
งบประมาณ ศาลเห็นว่ ามีระบบการควบคุมตรวจสอบไว้ เป็ นการ
เฉพาะแล้ ว
 การตรวจสอบโดยสภา อบต. (ม. ๔๖(๓))
 ราชการส่ วนกลาง และภูมิภาค (ม. ๙๐ ว.๑- นอ. / ม. ๙๒ ว.๑- ผวจ.)
 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่ นดิน (ม.๑๕ ว.๑ (๔) พรบ.การตรวจเงินฯ)

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิน่
 คดีเกีย่ วกับการคุ้มครองดูแลทีส่ าธารณะประโยชน์
 คดีนายอาเภอสั่ งให้ พ้นจากผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้าน เนื่องจากไม่ มีถนิ่ ทีอ่ ยู่
ประจาในหมู่บ้าน
 คดีสมาชิกสภา อบต.เรียกเงินจากโรงโม่ หิน
 คดีสมาชิกสภา อบต.ถูกสั่ งให้ พ้นจากตาแหน่ งเนื่องจากเคยถูก ผวจ.
สั่ งให้ ออกจากตาแหน่ งผู้ใหญ่ บ้านยังไม่ พ้น ๕ ปี

คดีปกครองเกีย่ วกับองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น
คดีเกีย่ วกับการดาเนินโครงการของ อปท.
คดีเกีย่ วกับการละเลย ปล่ อยให้ มผี ้ ูขายของในทีห่ รือทาง
สาธารณะ
คดีผ้ ูใหญ่ บ้านพ้ นจากตาแหน่ งเนื่องจากลากิจ แต่ ไปบวช
คดี ผวจ. ละเลยไม่ วนิ ิจฉัยภายในเวลาอันสมควรว่ า ผู้บริหาร
ท้ องถิ่นมีส่วนได้ เสี ยหรือไม่

คดีเกีย่ วกับการตราข้ อบัญญัติท้องถิน่
: เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ าย

คดีเทศบาลเมืองหนองคาย
 ๒๐ ก.ย. ๔๒ สภาเทศบาลเห็นชอบเพิม่ เติมโครงการในแผน ๕ ปี และ
แผนประจาปี และเห็นชอบโครงการก่ อหนีผ้ ูกพัน ๗ ปี (๔๔-๕๐) งบฯ
๑๐๕ ล้ านฯ
 ๕ ต.ค. ๔๒ ประกาศประกวดราคา บ.ไทยวัฒน์ ฯ ชนะประมูล
 ๗ ต.ค. ๔๒ ผู้ฟ้องคดีร้อง นรม. และ มท. ๑ ว่ า นทม. ส่ อทุจริต
 ๑ พ.ย. ๔๒ นทม. ก่ อหนี้ผกู พันทาสัญญาจ้ าง ผกู พัน ๗ ปี
 ๓๐ ธ.ค. ๔๒ นทม. ขออนุมัตกิ ่ อหนีผ้ ูกพันต่ อ ผวจ. แต่ ไม่ อนุมัติ
 ๒๐ ม.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งระงับก่ อสร้ าง
 ๒๔ ก.ค. ๔๓ นทม. แจ้ งยกเลิกสัญญาจ้ าง

๒๕ ก.ย. ๔๓ ปค. แจ้ งว่ า ทม. ไม่ จัดทาเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย
ไม่ ปฏิบัตติ ามระเบียบพัสดุ ให้ ผวจ. ตักเตือน
๑ ต.ค. ๔๓ นายบุญยรงค์ เป็ น ผวจ.
๑ พ.ย. ๔๓ นายกาพลฯ เป็ น นทม.
๑๓ มี.ค. ๔๔ บริษัทฯ ขอความเป็ นธรรมกับ ผวจ.
๑๔ มี.ค. ๔๔ ผวจ. ให้ ทม. แจ้ งเหตุผลและการแก้ ปัญหา
๒๗ มี.ค. ๔๔ ปทม. ชี้แจงว่ าโครงการเป็ นประโยชน์ และขอ
ยกเว้ นระเบียบงบฯ และระเบียบพัสดุฯ และ ผวจ. อนุมตั ใิ ห้
ยกเว้ น

 ๑๑ เม.ย. ๔๔ นทม. ทาบันทึกต่ อท้ ายสัญญาฯ ขยายเป็ น ๑๐ ปี
 ๑๒ เม.ย. ๔๔ นทม. ขอยกเว้ นระเบียบงบฯ/พัสดุฯ ผวจ. อนุมัติ
 ๑๗ ส.ค. ๔๔ สภาเทศบาลส่ งร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯเสนอ ผวจ.
 ๓ ก.ย. ๔๔ ปจ. ปกท. ผวจ. ส่ งร่ างคืนให้ ปฏิบัตติ ามระเบียบฯ เทศบาล
รับร่ างคืน และประกาศใช้ เป็ นเทศบัญญัติงบฯ ปี ๔๕
 ๑ พ.ย. ๔๔ ผวจ. หารือ ปค. กรณี ทม. ประกาศใช้ เทศบัญญัติฯ
 ๒๘ ก.ย. ๔๕ สภาฯเห็นชอบร่ างเทศบัญญัตริ ายจ่ ายฯ ปี ๔๖ และส่ ง
ร่ างเสนอ ผวจ. เพือ่ ให้ ความเห็นชอบ แต่ ผวจ. ไม่ เห็นชอบ
 ๘ พ.ย. ๔๕ นทม. อทุ ธรณ์ คาสั่งของ ผวจ.

 ๑๒ พ..ย. ๔๕ ผวจ. แจ้ งว่ าอทุ ธรณ์ ไม่ ได้ ให้ ทม.ส่ งร่ างให้ สภาฯ
 ๒๘ พ.ย. ๔๕ สภาฯ มีมติเห็นชอบน้ อยกว่ า ๒/๓ ประธานฯส่ งร่ างเทศ
บัญญัติฯ ให้ ผวจ. พิจารณา
 ๒๔ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ งประธานฯ ว่ า ร่ างตกไป
 ๑๘ ธ.ค. ๔๕ ผวจ. แจ้ ง นทม. ให้ ใช้ งบฯ ปี ก่ อนไปพลางก่ อน
 ๒ ธ.ค. ๔๕ มท. แจ้ งว่ า เมื่อ ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ๔๕ ชอบทีส่ ภาจะ
นาร่ างเสนอสภาพิจารณา การประกาศใช้ โดยไม่ เสนอสภาจึงไม่ ชอบ
 ผู้ฟ้องคดีจงึ นาคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ เพิกถอนคาสั่ ง ผวจ.ที่ไม่
เห็นชอบงบฯ ๔๖

ประเด็นพิจารณา
ผวจ. ไม่ เห็นชอบงบฯ ปี ๔๖ ชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่
ผวจ. มีอานาจพิจารณาเห็นชอบ/ไม่ เห็นชอบ
 ผวจ. ไม่ เห็นชอบ ส่ งร่ างคืนระบุเหตุผลทีไ
่ ม่ ชอบฯ จึงถูกต้ องตาม
รู ปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสาคัญ
 ผวจ. ใช้ ดุลพินิจชอบด้ วยกฎหมายหรือไม่




ทม.ตั้งงบฯขัดระเบียบงบฯ (กระทาได้ เมื่อมีความจาเป็ นไม่ อาจแยกงบฯ
และไม่ มีรายได้ พอในปี เดียว ก่อได้ ไม่ เกินปี งบฯถัดไป) ผวจ. (นายบุญยรงค์ )
อนุมัติยกเว้ นระเบียบตามทีไ่ ด้ รับมอบอานาจจาก ปมท. เมื่อไม่ มีกรณีจาเป็ น
ใด ๆ ทีต่ ้ องผูกพันงบฯ ๗ ปี และโครงการแยกเป็ นส่ วน ๆ ได้ คาสั่ งจึงไม่
ชอบด้ วยกฎหมาย ผวจ.หรื อผ้ บู ังคับบัญชาจึงอาจเพิกถอนได้

ประเด็นพิจารณา

ทม.ปกปิ ดว่ า โครงการแยกส่ วนได้
 นทม. แจ้ งยกเลิกสั ญญาไปแล้ ว (สั ญญาทางปกครอง บอกเลิกสั ญญาได้ แม้
อีกฝ่ ายไม่ ผิดสัญญา แต่ ต้องมีเหตุผลความจาเป็ น และต้ องรั บผิดชดใช้ ค่า
สินไหมค่ าเสียหายของค่ สู ัญญา) มีผลให้ สัญญาสิ้นผลลง การที่ นทม. ทา
บันทึกต่ อท้ ายสั ญญา ไม่ ทาให้ สัญญาจ้ างสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
 การเพิกถอนคาสั่ งของ ผวจ. ทาได้ แม้ เกิน ๙๐ วัน
 คาสั่ งไม่ เห็นชอบร่ างฯ มีผลเท่ ากับมีคาสั่ งเพิกถอนคาสั่ งยกเว้ นระเบียบของ
นายบุญยรงค์ ฯ โดยปริยาย


 ความเห็นของ ผวจ. ที่ไม่ เห็นชอบร่ างเทศบัญญัติงบฯรายจ่ าย ปี ๔๖
ชอบด้ วยกฎหมาย และใช้ ดุลพินิจโดยชอบแล้ ว

คดี อบจ. มหาสารคาม
 อบจ. ตราข้ อบัญญัติงบประมาณรายจ่ ายเพิม่ เติมชั่วคราว
ส.อบจ. มาฟ้ องว่ าการตราข้ อบัญญัติชั่วคราวไม่ ชอบ

 ต่อมาขอถอนฟ้ อง ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเป็ นประโยชน์
สาธารณะ
 ศาลวางหลักการพิจารณา
กรณีเร่ งด่ วนฉุกเฉินจาเป็ นในทางกระบวนการขั้นตอน
 กรณีเร่ งด่ วนฉุ กเฉิ นจาเป็ นในทางเนือ
้ หา


เมือ่ กรณีไม่ เข้ าเงือ่ นไข การตราข้ อบัญญัติชั่วคราวจึงไม่ ชอบ
ด้ วยกฎหมาย ให้ เพิกถอน

คดีเกีย่ วกับความรั บผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
ของท้ องถิน่

ความรับผิดทางละเมิดของเจ้ าหน้ าที่
 คดีรถราชการ : นารถราชการไปจอดประจาที่บ้านแล้ วหาย
 คดี อบต. ผาจุก : เรียกเงินจาก หน.ส่ วนการคลัง
 คดีทม. ชลบุรี : ซื้อที่ดนิ เนือ้ ที่ไม่ ครบตามสั ญญา
 คดี ทม. สุ ราษฎร์ ธานี : ซื้อทีด่ นิ ไม่ มีทางออก
 คดี ทม. หนองคาย : ทุจริตโรงรับจานา
 ฟ้องนายอาเภอกระทาละเมิดในการปฏิบัติหน้ าทีจ่ ะต้องฟ้อง
หน่ วยงาน (กรมการปกครอง)

คดีเกีย่ วกับการดูแลทีส่ าธารณะ

การกากับดูแลทีส่ าธารณะ
 คดีอาเภอพุนพิน (บุกรุกหาดทรายแก้ว)
 คดีอาเภออินทร์ บุรี (บุกรุกทีส่ าธารณะ)
 คดี อบต. หงส์ เจริญ (สปก. อนุญาตให้ ใช้ ประโยชน์ ทบั คันดินสาธารณะ)
 คดีอาเภออรัญญประเทศ (บุกรุกถนนในเขตป่ าสงวนแห่ งชาติ)
 คดีเทศบาลนครหาดใหญ่ (ยกที่ดินให้ ทาถนน)
 คดีลาปะโดง เขตหนองแขม และคดี อบต. พนมสารคาม (ยกให้ โดยปริยาย)
 คดีอาเภอจอมทอง (รื้อรั้วโดยพลการ)
 คดีเขตบางบอน (โรงเก็บรถขยะ)
 คดีสร้ างวัดในทีด่ ินป่ าช้ า
 ฟ้องว่ า นอ.ละเลยปล่อยให้ มีผู้บุกรุกทีส่ าธารณะ

คดีเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้

คดีปกครองเกีย่ วกับการจัดเก็บภาษีและรายได้
 ฟ้องเพิกถอนราคาค่ าเช่ ามาตรฐานกลางเฉลีย่ ต่ อตารางเมตรต่ อเดือน
ตาม ว. ๒๓๙๓ เห็นว่ า เป็ นข้ อพิพาทเกีย่ วกับการประเมินภาษี จึงอยู่ใน
อานาจศาลภาษีอากร (คาสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ ๒๖๖/๒๕๔๖)
 ฟ้องว่ าการจัดเก็บภาษีบารุงท้ องทีไ่ ม่ ชอบด้ วยกฎหมาย เห็นว่ า เป็ นคดี
ปกครองทีอ่ ยู่ในอานาจศาลปกครอง และการทีเ่ จ้ าหน้ าทีจ่ ดั เก็บตาม
หนังสื อสั่ งการ มท. จึงเป็ นการกระทาที่ชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๐๒/๒๕๔๕)

 ฟ้องว่ า อบจ. ตราข้ อบัญญัติจัดเก็บภาษีนา้ มันเพิม่ ไม่ ชอบ เห็นว่ า มี
อานาจจัดเก็บได้ และสามารถกาหนดโทษผู้ฝ่าฝื นได้ การตรา
ข้ อบัญญัติของ อบจ. จึงชอบด้ วยกฎหมาย
(คาพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๓๒/๒๕๔๖)

คดีเกีย่ วกับการปฏิบัติงาน
ตามอานาจหน้ าที่อื่น ๆ

การปฏิบัติตามอานาจหน้ าที่อนื่ ๆ

 คดี ทต. บางจักร ฟ้องว่ าจัดทางบประมาณเลือกปฏิบัติ
 คดี ทม.นครศรีธรรมราช ฟ้องว่ า ทม.ละเลยต่ อหน้ าที่ปล่ อยให้ จาหน่ าย
สิ นค้ าในที่หรือทางสาธารณะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ า คาสั่ งยกเลิกใบอนุญาตให้ จาหน่ ายสิ นค้าในทีห่ รือทาง
สาธารณะไม่ ชอบ
 คดี อบต. ราชาเทวะ ฟ้ องว่ า อบต. ละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากที่ทงิ้
ขยะ
 คดี กทม. ฟ้ องว่ าเขตละเลยต่ อหน้ าที่ เหตุราคาญจากโรงเรียนเสี ยงดัง
 คดีเขตสาทร จับแต่ ตู ทีคนอืน่ ไม่ จบั เลือกปฏิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม

การกากับดูแลท้ องถิน่
คดีรังสรรค์ หนูชัยแก้ ว
คดี ทต. ชุมแสง
คดีสุรเชษฐ์ ฯ บ้ านดุง
คดี อบต. นาราชควาย
คดี อบต. หนองกระทิง