ความหมายของศิลปะ ศิลปะ คือ 1.การเลียนแบบธรรมชาติ 2.การแสดงออกเกีย่ วกับความศรัทธาเชือ่ ถือของมนุษย์ 3.การสร้างสรรค์ความงาม 4.การแสดงออกทางการสือ่ ความหมายและภาษา 5.การแสดงออกจากความรู้สกึ และจินตนาการของมนุษย์ ศิลปะ หมายถึง ผลงานของมนุษย์ทสี่ ร้างขึน้ เพือ่ ความงามความพอใจของ แต่ละคน อาจประกอบขึน้ ด้วย การร้องราทาเพลง การวาด การปัน้ การ แต่งลดลงกลอน การก่อสร้างอาคารสถานที่ ศิลปะ คือ.

Download Report

Transcript ความหมายของศิลปะ ศิลปะ คือ 1.การเลียนแบบธรรมชาติ 2.การแสดงออกเกีย่ วกับความศรัทธาเชือ่ ถือของมนุษย์ 3.การสร้างสรรค์ความงาม 4.การแสดงออกทางการสือ่ ความหมายและภาษา 5.การแสดงออกจากความรู้สกึ และจินตนาการของมนุษย์ ศิลปะ หมายถึง ผลงานของมนุษย์ทสี่ ร้างขึน้ เพือ่ ความงามความพอใจของ แต่ละคน อาจประกอบขึน้ ด้วย การร้องราทาเพลง การวาด การปัน้ การ แต่งลดลงกลอน การก่อสร้างอาคารสถานที่ ศิลปะ คือ.

ความหมายของศิลปะ
ศิลปะ คือ
1.การเลียนแบบธรรมชาติ
2.การแสดงออกเกีย่ วกับความศรัทธาเชือ่ ถือของมนุษย์
3.การสร้างสรรค์ความงาม
4.การแสดงออกทางการสือ่ ความหมายและภาษา
5.การแสดงออกจากความรู้สกึ และจินตนาการของมนุษย์
ศิลปะ หมายถึง ผลงานของมนุษย์ทสี่ ร้างขึน้ เพือ่ ความงามความพอใจของ
แต่ละคน อาจประกอบขึน้ ด้วย การร้องราทาเพลง การวาด การปัน้ การ
แต่งลดลงกลอน การก่อสร้างอาคารสถานที่
ศิลปะ คือ สิง่ โน้นน้าวจิตใจ ทาให้เกิดความอยากได้ อยากมีในสิง่ ทีต่ น
ต้องการ และสิง่ ใดก็ตามเมือ่ เกิดความอยากได้ ก็เกิดการกระทา ทาให้เกิด
ความคิด จึงได้เกิดศิลปะทีเ่ ป็ นผลงานสร้างสรรค์คอื ออกมา
1.วิจติ รศิลป์ เป็ นศิลปะทีส่ ร้างขึน้ เพือ่ จุดมุ่งหมายในด้านความรู้สกึ ทาง
สุนทรียภาพ มีความละเอียดอ่อน เป็ นรูปธรรม แบ่งได้ 5 สาขา
1.1 จิตรกรรม คือ การสร้างสรรค์ทเี่ กีย่ วกับการใช้เส้นและสี
โดยการเขียนออกมาเป็ นภาพ
1.2 ประติมากรรม คือ เป็ นการปัน้ แกะสลักทัว่ ไป การหล่อมี
รูปทรงและปริมาตร
1.3 สถาปัตยกรรม เป็ นการแสดงออกทางด้านงานก่อสร้าง
งานออกแบบอาคารสิง่ ก่อสร้าง
1.4 วรรณกรรม เป็ นการแสดงออกทางด้านการใช้ภาษาวรรณคดี การ
ประพันธ์ ร้อยแก้ว ร้อยกรอง โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน
1.5 นาฏกรรม ดนตรี หรือ นาฏศิลป์ เป็ นศิลปะสาขา การดนตรี การ
แสดงละคร ฟ้อนรา
2.ศิลปะประยุกต์ หมายถึง การเอาศิลปะมาดัดแปลงแก้ไข เพือ่ ใช้ใน
ชีวติ ประจาวัน และสังคมในวันข้างหน้า ซึ้งเป็ นเรือ่ งของอุ ตสาหกรรม
การค้าแบ่งเป็ น 3 แขนง
3.1อุ ตสาหกรรมศิลป์ เป็ นศิลปะทีท่ าขึน้ เพือ่ ผลผลิตทาง
อุ ตสาหกรรม
3.1.1 ผลิตภัณฑ์ทที่ าด้วยมือ
3.1.2 ผลติภณั ฑ์ทที่ าด้วยเครือ่ งจักร
2. มัณฑนศิลป์ เป็ นการตกแต่งทีเ่ กีย่ วกับบุคคลเกีย่ วกับบ้านเรือน ทีอ่ ยู่
อาศัย เป็ นการตกแต่งภายในและภายนอก
3. ศิลปะการโฆษณา คือ รูปแบบทีส่ ร้างงานออกมาด้านการค้า เช่น
การเขียนภาพโฆษณา การเขียนคาขวัญ โดยใช้งานทางด้านวรรณกรรมเข้ามา
ช่วย
หมายถึง การจัดองค์ประกอบของเส้น สี รูปทรง รูปร่าง ช่องว่าง และ
ลักษณะผิวให้เกิดเป็ นภาพทีส่ มบูรณ์ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของศิลปะ ทัง้ ในแง่
ความงามประโยชน์ใช้สอย และคุณค่าของความงาม
สัดส่วน(Proportion)
ความสมดุล (Balance)
จังหวะลีลา(Rhythm)
ความกลมกลืน(Harmony)
การตัดกัน(Contrast)
จุดเด่น(Dominance)
ค่าความอ่อนแก่(Tone)
1.จุด เส้น และสี
2.บริเวณว่าง ช่องว่าง ทิศทาง
3.รูปร่าง รูปทรง
4.ลักษณะย่อ
5.น้าหนักสีอ่อนแก่
จุด เป็ นส่วนประกอบทีเ่ ล็กทีส่ ุด เป็ นพืน้ ฐานเบือ้ งต้น เกิดจากการเรียงต่อกัน
ตามตาแหน่งทีเ่ หมาะสมและซ้าๆกัน
เส้น ปริมาณของจุดหลายร้อยหลายพันล้านนับไม่ถว้ น ทีม่ าต่อกันอย่างมี
ระเบียบ
สี เป็ นสิง่ ทีม่ องเห็น ทัง้ ทีเ่ กิดจากธรรมชาติ และมนุษย์สร้างขึน้
บริเวณว่าง ช่องว่าง ทิศทาง
นับเป็ นส่วนประกอบทีส่ าคัญของการออกแบบประการหนึง่ ซึ้งจะส่งผล
ให้งานออกแบบดูด ี มีลกั ษณะของการจูงใจผู พ้ บเห็น เป็ นเอกภาพมีความ
ประสานกลมกลืนในตัวเอง
รูปร่าง รูปทรง
รูปร่างเกิดจากเส้น และทิศทางของเส้นรวมกัน รูปทรงของ
วัตถุทุกชนิดย่อมอยู่ในสภาพแวดล้อมทีเ่ หมาะสม มีทรง มีมวล และมี
น้าหนักแน่นอน โดยมีเส้นกรอบนอกเป็ นตัวกาหนด (Outline) มี
ลักษณะ 2 มิต ิ คือ กว้างและยาว ส่วนรูปทรงจะมี 3 มิต ิ คือ มี
ความกว้าง ความยาว และความหนาหรือความลึก
1.บรรจุภณั ฑ์เพือ่ การขายปลีก หมายถึง บรรจุภณั ฑ์ทจี่ ะขาย
โดยตรงและนาไปตัง้ วาง จัด อยู่ในร้าน
2.บรรจุภณั ฑ์เพือ่ การขายส่งและขนส่ง หมายถึง บรรจุภณั ฑ์ท ี่
รวบรวมและนาผลิตภัณฑ์ขายปลีกคราวละมากๆ จากโรงงานผู ผ้ ลิต
ไปยังผู ซ้ ้อื
วัสดุทใี่ ช้ในการบรรจุภณั ฑ์แบ่งเป็ นประเภทใหญ่ๆ
คือ
1.กระดาษ
2.แก้ว
3.ไม้หรือวัสดุธรรมชาติ
4.โลหะต่างๆ
5.พลาสติก
การการเลือกซื้อวัสดุทนี่ ามาบรรจุภณั ฑ์ มีหลักการเลือกซื้อดังนี้
1.บรรจุภณั ฑ์ทเี่ ลือกใช้ต้องประกอบด้วยวัสดุทเี่ หมาะสม
2.ต้นทุนการผลิต ควรมีราคาต่าสุด ประสิทธิภาพเหมาะสม
หน้าทีข่ องบรรจุภณั ฑ์ประเภทอาหาร
1.ป้ องกันอาหารจากการเกิดกลิน่ แปลกปลอม
2.ป้ องกันการเสือ่ มเสียของอาหารจากจุรนิ ทรีย์
3.รักษาคุณค่าของอาหาร
4.แสดงตัวผลิตภัณฑ์ ยีห่ ้อ และข้อมูลอืน่ ตามทีก่ หหมายกาหนด
5.ช่วยผู บ้ ริโภคให้ซ้อื หรือใช้ผลิตภัณฑ์ได้สะดวกขึน้
มีดงั นี้
1.ขนาด ควรยืดหยุ่นได้บา้ ง ควรมีขนาดมาตรฐาน
2.รูปแบบ ควรทันสมัย และส่วนประกอบควรน้อยชิน้ ทีส่ ุด สามารถรับ
น้าหนักได้ตามทีต่ ้องการ
3.สีทคี่ วรคานึงถึงสินค้านัน้ ๆ ด้วย ต้องกลมกลืนกันให้มากทีส่ ุ ด
ระหว่างรูปร่างของผลิตภัณฑ์กบั บรรจุภณั ฑ์
4.วัสดุทใี่ ช้ควรเหมาะกับสินค้า ต้องคานึงถึงต้นทุนถ้าวัสดุทดี่ คี ุณภาพ
ดีจะมีราคาแพง ทาให้ต้นทุนสูงทาให้สนิ ค้าราคาแพง
1.สะอาด ถูกสุขลักษณะ
2.มีรูปร่างสวยงาม ประสานกลมกลืนเข้ากับอาหารทีบ่ รรจุไม่
เกิดปฏิกริ ยิ าทางเคมี
3.ไม่เป็ นพิษ
4.ให้ความคุ้มครองป้ องกันอาหารให้มคี ุณภาพตลอดอายุการเก็บ
อาหาร
5.ส่งเสริมลักษณะของผลิตภัณฑ์อาหารให้ดูดขี น้ ึ
6.ราคาพอสมควร
7.เป็ นไปตามกหหมายทีบ่ งั คับอยู่โดยแสดงเครือ่ งหมายรับรอง
1.ภาชนะแก้ว
2.ภาชนะโลหะ
3.ภาชนะกระดาษ
4.ภาชนะพลาสติก
หน้าทีข่ องบรรจุภณั ฑ์
1.รองรับ ห่อหุ้มผลิตภัณฑ์และการให้ผลิตภัณฑ์รวมกัน
2.ปกป้ องผลิตภัณฑ์บรรจุอยู่ภายในให้ปลอดภัยจากความเสียหาย
3.เป็ นตัวแทนของผลิตภัณฑ์ภายใน
4.จูงใจลูกค้าให้เกิดความสนใจ
5.ทาหน้าทีช่ ่วยเพิม่ กาไร หรือส่งเสริมยุทธวิธกี ารตลาด โดยการเปิ ด
ตลาดใหม่หรือการเพิม่ ยอดขาย
การตกแต่งร้านอาหาร โดยทัว่ ไปแบ่งเป็ น 4 ส่วน
- ครัว
- ส่วนเก็บและเตรียมของ
- ส่วนบริการ
- ห้องสุขา
การตกแต่งร้านเสริมสวย แบ่งเป็ น 3 ส่วน
- หน้าร้าน
- ให้บริการ
- ห้องสุขา
การตกแต่งร้านตัดเย็บเสื้อผ้า แบ่งออกเป็ น 2 ส่วน
- ส่วนหน้าร้าน
- ส่วนปฏิบตั งิ าน
การออกแบบในงานธุรกิจคหกรรม
1.การออกแบบสัญลักษณ์สนิ ค้า เพือ่ เป็ นการโฆษณาสินค้า มี
ลักษณะเฉพาะตัว โดยทัว่ ไปไปมักเป็ นแบบง่ายๆ
2.การออกแบบนามบัตร เป็ นส่วนหนึง่ ในด้านการโฆษณาต้อง
บรรจุรายละเอียดเกีย่ วกับร้านหรือผลผลิตให้ครบถ้วน
ประกอบด้วย สัญลักษณ์ ชือ่ ร้านหรือชือ่ ผลผลิต
3.การออกแบบแผ่นป้ ายโฆษณา เป็ นแผ่นการแสดงข้อความต่างๆ
ของผลผลิตในการโฆษณา เพือ่ เป็ นการแนะนาสินค้า นิยมใช้ข้อความ
สัน้ ๆ เพือ่ ความสะดวกในการอ่านและจา
การใช้สใี ห้เหมาะสมกับสถานที่
ห้องรับแขก,ห้องอาหาร ใช้สวี รรณะอุ่นแต่โดยส่วนรวมควรเน้นสีอ่อน เน้น
ความสดเฉพาะจุด
ห้องนอน ใช้สวี รรณะเย็น ไม่ควรเป็ นสีหนักให้คานึงถึงวัยของผู อ้ าศัย
ห้องนัง่ เล่นพักผ่อน ควรใช้สเี ย็นตา เนือ่ งจากต้องใช้ห้องทัง้ วัน
ห้องทางาน โดยหลักการควรใช้สเี ย็น เพราะทาให้เกิดสมาธิ แต่ถา้
เย็นมากเกินไปก็จะทาให้ซมึ หรือง่วงควรใช้สวี รรณะอุ่นสีหม่น จะทาให้รู้สกึ
สดชืน่ ขึน้
ห้องน้า ควรใช้สวี รรณะเย็น หรือสีขาวเพือ่ ความสะอาดและกว้าง
หมายถึง การนาเสนอผลงานออกมาจากการใช้ความคิดสร้างสรรค์
เพือ่ สือ่ ความหมายสู่ผูด้ ู ตามความรู้สกึ ในการมองเห็น 2 ลักษณะ
1.การนาเสนอด้วยรูปร่าง สีน้าหนักอ่อนแก่และด้วยมิตติ าม
ลักษณะ กว้าง ยาว เน้นภาพ 2 มิต ิ
2.การนาเสนอด้วยรูปทรง ทีป่ ระกอบด้วยปริมาตร
ประกอบด้วยรูปทรงและบริเวณว่างเน้นภาพ 3 มิต ิ
เป็ นคุณสมบัตอิ ย่างหนึง่ ทีส่ าคัญยิง่ ในการออกแบบ ลักษณะของ
ผิวเป็ นคุณสมบัตทิ คี่ งทนถาวรไม่เปลีย่ นแปลงง่ายเหมือนรูปทรง หรือ
รูปร่าง เกิดจากสาเหตุ 4 ประการ คือ
1.การดูดซึมและการสะท้อนของแสง
2.เกิดจากความแตกต่างของแสงสว่าง
3.เกิดจากความแตกต่างของสี
4.เกิดความแตกต่างของความทึบแสง และความโปร่งแสง
น้าหนักสีอ่อนแก่
น้าหนักของแสงและเงา ตามปกติจะมี 7 ระดับ โดยเริม่ จากเข้ม
ทีส่ ุดถึงอ่อนทีส่ ุด