วิชามรดก ครั้งที่ ๙ เมทินี ชโลธร การถูกกำจัดมิให้รับมรดก ๑. การถูกกำจัด

Download Report

Transcript วิชามรดก ครั้งที่ ๙ เมทินี ชโลธร การถูกกำจัดมิให้รับมรดก ๑. การถูกกำจัด

วิชามรดก
ครัง้ ที่ ๙
เมทินี ชโลธร
การถูกกาจัดมิให้รบั มรดก
๑.
การถูกกาจัดเพราะยักย้ายปิ ดบัง
ทรัพย์มรดก – ม. ๑๖๐๕
๒. การถูกกาจัดเพราะเป็ นผูไ้ ม่
สมควร - ม. ๑๖๐๖
๑. การถูกกาจัดมิให้รบั มรดกเพราะยักย้ายปิ ดบัง
ทรัพย์มรดก
๑.๑ ทายาทที่ถูกกาจัดอาจเป็ นทายาทโดยธรรมหรือ
ผูร้ บั พินยั กรรมก็ได้ แต่ตอ้ งไม่เป็ นผูร้ บั พินยั กรรม
ลักษณะเฉพาะ
- ผูร้ บั พินยั กรรมลักษณะเฉพาะ – ผูท้ ่มี สี ทิ ธิได้รบั
ทรัพย์มรดกเฉพาะสิง่ เฉพาะอย่าง ซึง่ ผูท้ าฯเจาะจง หรือ
แยกไว้ต่างหากจากกองมรดก
๑. การถูกกาจัดมิให้รบั มรดกเพราะยักย้าย
ปิ ดบังทรัพย์มรดก
๑.๒. ต้องมีการยักย้าย หรือปิ ดบัง ทรัพย์มรดก
ยักย้าย – เปลีย่ นที่ นาไปไว้ท่อี ่นื
ปิ ดบัง – ปิ ดไว้ กาบังไว้
ทรัพย์มรดก – ทรัพย์สนิ ทุกชนิด สิทธิ หน้าที่และ
ความรับผิดต่างๆเว้นแต่เป็ นการเฉพาะตัวของผูต้ ายโดย
แท้
ฎีกาที่ ๖๗๘-๖๘๐/๒๕๓๕
เงินรายได้จากกิจการโรงแรมรวมทัง้ ร้านตัดผม ที่
ได้มาหลังจากผูต้ ายถึงแก่กรรม มิใช่ทรัพย์มรดก
ของผูต้ ายเพราะไม่เป็ นทรัพย์ท่ีมีอยู่ก่อนหรือขณะ
ตาย แต่เป็ นของโรงแรม ได้แก่ผูท้ ่ีเป็ นเจ้าของ
โรงแรมตามสิทธิ แม้จาเลยซึง่ เป็ นทายาทคนหนึง่
จะยักย้ายปิ ดบังก็ไม่ถูกกาจัดมิให้รบั มรดก
ฎีกาที่ ๑๒๓๙/๒๕๐๖
ทายาทที่จะถูกกาจัดมิให้รบั มรดกตามม.
๑๖๐๕
ต้องเป็ นผูย้ กั ย้ายหรือปิ ดบังทรัพย์มรดก การที่
ทายาทคนหนึง่ ไปประกาศขอรับมรดกโดยไม่ระบุ
ไปในบัญชีเครือญาติว่ายังมีคนอืน่ เป็ นทายาทอีก
ไม่ใช่กรณียกั ย้ายหรือปิ ดบังทรัพย์มรดก
ฎีกาที่๑๓๕๗/๒๕๔๓
การที่ทายาทโดยธรรมเบิกความในคดีท่ี
ร้องขอให้ศาลตัง้ ตนเป็ นผูจ้ ดั การมรดกว่า
เจ้ามรดกมีทรัพย์มรดกเพียงเท่าที่เบิก
ความถึง แต่ความจริงมีมากกว่านัน้ ยังไม่
พอฟั งว่าเป็ นการปิ ดบังทรัพย์มรดก
๑. การถูกกาจัดมิให้รบั มรดกเพราะยักย้ายปิ ดบัง
ทรัพย์มรดก
๑.๓ ต้องกระทาโดยฉ้อฉล หรือรูอ้ ยู่ว่า
ทาให้เสือ่ มประโยชน์ของทายาทอืน่
ต้องกระทาโดยมีเจตนาอย่างใด
อย่างหนึ่งข้างต้น
๑. การถูกกาจัดมิให้รบั มรดกเพราะยักย้ายปิ ดบัง
ทรัพย์มรดก
๑.๔ ต้องเป็ นกรณีมีทายาทที่จะรับ
ทรัพย์มรดกตัง้ แต่ ๒ คน ขึ้นไป
หากมีคนเดียวก็ไม่มกี รณีท่ีจะ
เสือ่ มประโยชน์แก่ทายาทอื่น
๑. การถูกกาจัดมิให้รบั มรดกเพราะยักย้ายปิ ดบัง
ทรัพย์มรดก
๑.๕ การยักย้ายหรือปิ ดบังทรัพย์มรดก
เป็ นการถูกกาจัดมิให้รบั มรดกหลังเจ้า
มรดกตาย
ถ้าเจ้ามรดกยังไม่ตายทรัพย์ของเจ้า
มรดกก็ยงั ไม่เป็ นมรดก
๑. การถูกกาจัดมิให้รบั มรดกเพราะยักย้ายปิ ดบังทรัพย์
มรดก
๑.๖ ผูท้ ่ีจะถูกกาจัดต้องเป็ นทายาทผู ้
มีสทิ ธิในทรัพย์มรดกนัน้
ถ้าไม่มสี ทิ ธิก็ไม่มอี ะไรจะถูกกาจัด
แม้ทายาทจะได้ประโยชน์ก็ตาม
ฎีกาที่ ๓๐๔๖/๒๕๓๙
- บุคคลที่จะถูกกาจัดมิให้รบั มรดกตามม.
๑๖๐๕ มุ่งเฉพาะทายาทของเจ้ามรดกใน
ขณะที่เจ้ามรดกถึงแก่ความตายเท่านัน้
- ขณะเจ้ามรดกตายมีทายาทผูม้ ีสท
ิ ธิรบั
มรดกคือ โจทก์ จ. และ ม. เพียง ๓ คน
- จ.
ถึงแก่ความตายหลังเจ้ามรดก
- จาเลยทัง้ สองเป็ นภริยาและบุตรของ จ. แม้จะมี
สิทธิรบั มรดกของเจ้ามรดกก็เพียงในฐานะสืบสิทธิ
ของ จ. คือรับมรดกในส่วนของ จ. เท่านัน้
- แม้จาเลยทัง้ สองจะยักย้ายทรัพย์มรดกก็ถอื ไม่ ได้
ว่าเป็ นทายาทอันจะถูกกาจัดมิให้รบั มรดก
๑. การถูกกาจัดมิให้รบั มรดกเพราะยักย้ายปิ ดบัง
ทรัพย์มรดก
๑.๗ ทายาทที่ยกั ย้าย/ปิ ดบังทรัพย์มรดกเท่ากับหรือ
มากกว่าส่วนที่ตนจะได้รบั จะถูกกาจัดมิให้รบั มรดกเลย
แต่หากน้อยกว่าส่วนที่ตนจะได้รบั ก็ถูกกาจัดเฉพาะส่วน
ที่ยกั ย้าย/ปิ ดบังไว้
ต้องนาทรัพย์มรดกทัง้ หมดมาคิดคานวณตามส่วนที่
ทายาทจะได้รบั เสียก่อน จึงจะทราบได้
ตัวอย่าง
มีบตุ ร ๓ คน –ใหญ่/กลาง/เล็ก
มีมรดกเป็ นเงิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท กับ
สร้อยคอทองคา ราคา ๒๐,๐๐๐ บาท
ใหญ่ยกั ย้ายเอาเงินไปทัง้ หมด กลาง
ยักย้ายเอาสร้อยคอไปทัง้ หมด
คานวณตามส่วน
บุตรแต่ละคนจะได้รบั ส่วนแบ่ง
มรดกคนละ ๑ ส่วน เท่าๆกัน เป็ นเงินคนละ
๔๐,๐๐๐ บาท
ใหญ่ตอ้ งถูกกาจัดทัง้ หมด – ไม่ ได้รบั เลย
กลางถูกกาจัด ๒๐,๐๐๐ – ได้รบั ๒๐,๐๐๐
เล็กไม่ถูกกาจัด – ได้รบั เต็ม ๔๐,๐๐๐ บาท
๒. การถูกกาจัดเพราะเป็ นผูไ้ ม่สมควร
อาจเกิดได้ทงั้ ก่อน
และหลังเจ้ามรดกตาย
ทายาทที่อาจถูกกาจัดเป็ นได้ทงั้ ทายาทโดยธรรมและผูร้ บั
พินยั กรรมทุกประเภท
เป็ นกรณีมีพฤติกรรมพัวพันกับการตายของเจ้ามรดก
หรือคุกคามเจ้ามรดก
เจ้ามรดกอาจถอนข้อกาจัดตาม ๑๖๐๖ ได้
๒. การถูกกาจัดเพราะเป็ นผูไ้ ม่สมควร
๒.๑ ผูต้ อ้ งคาพิพากษาถึงที่สดุ ว่าได้เจตนากระทา
หรือพยายามกระทาให้เจ้ามรดกหรือผูม้ ีสทิ ธิได้รบั
มรดกก่อนตนถึงแก่ความตายโดยมิชอบด้วย
กฎหมาย
- คาพิพากษาถึงที่สดุ ลงโทษฐานฆ่า/พยายาม
ฆ่าโดยเจตนา ไม่รวมถึงยกฟ้องหรือจาหน่ายคดี
ไม่รวมถึงการกระทาโดยพลาด โดยไม่เจตนา
โดยประมาท หรือป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
ผูถ้ ูกฆ่าต้องเป็ นเจ้ามรดกหรือผูม้ สี ทิ ธิได้รบั
มรดกก่อน(ตามลาดับของกฎหมาย)
ฆ่าทายาทลาดับเดียวกันไม่เข้าเหตุน้ ี
ฆ่าทายาทที่ตนจะได้รบั มรดกแทนที่ถอื ว่าเป็ น
การฆ่าผูม้ สี ทิ ธิได้รบั มรดกก่อนตน
ถ้าเป็ นกรณีพยายามฆ่าเจ้ามรดก
หรือ ฆ่า/
พยายามฆ่าผูม้ สี ทิ ธิได้รบั มรดกก่อน เป็ นการ
ถูกกาจัดก่อน เจ้ามรดกถึงแก่ความตาย
ถ้าเป็ นกรณีฆ่าเจ้ามรดกเป็ นการถูกกาจัด
ภายหลังเจ้ามรดกถึงแก่ความตาย (ฎีกาที่
๘๐๒๓/๒๕๓๘)
ฎีกาที่ ๘๐๒๓/๒๕๓๘
ผูร้ อ้ งถูกตารวจจับข้อหาว่ายิงเจ้ามรดกตาย คดีอยู่ระหว่าง
พิจารณา หากต่อมาศาลพิพากษาถึงที่สดุ ว่าผูร้ อ้ งเจตนา
กระทาให้เจ้ามรดกตาย ผูร้ อ้ งก็เป็ นบุคคลที่ตอ้ งถูกกาจัดมิ
ให้รบั มรดกฐานเป็ นผูไ้ ม่สมควรตาม ม.๑๖๐๖(๑) ซึง่ เป็ น
การถูกกาจัดมิให้รบั มรดกภายหลังเจ้ามรดกถึงแก่ความตาย
กรณีจงึ ไม่ตอ้ งด้วย ๑๖๓๙ ที่ผูส้ บื สันดานจะรับมรดกแทนที่
๒. การถูกกาจัดเพราะเป็ นผูไ้ ม่สมควร
๒.๒ ผูท้ ่ีได้ฟ้องเจ้ามรดกหาว่าทาความผิดโทษ
ประหารชีวิตและตนเองกลับต้องคาพิพากษาถึงที่สดุ
ว่า มีความผิดฐานฟ้ องเท็จหรือทาพยานเท็จ
-ผูถ้ ูกกาจัดต้องฟ้องเองหรือเข้าเป็ นโจทก์
ร่วมกับอัยการในความผิดที่โทษถึงประหาร แต่จะ
ฐานอะไรก็ได้
๒. การถูกกาจัดเพราะเป็ นผูไ้ ม่สมควร
๒.๓ ผูท้ ่ีรแู ้ ล้วว่า เจ้ามรดกถูกฆ่าโดยเจตนา แต่มิได้
นาข้อความนัน้ ขึ้นร้องเรียนเพือ่ เป็ นทางที่จะเอาตัว
ผูก้ ระทาผิดมาลงโทษ ข้อยกเว้น
- อายุยงั ไม่ครบ ๑๖ ปี หรือเป็ นคนวิกลจริตฯ
- ผูท้ ่ีฆ่าเป็ นสามี/ภริยา/บุพการี/ผูส้ บื สันดานของ
ตนโดยตรง
เป็ นการถูกกาจัดหลังเจ้ามรดกตาย
เป็ นกรณีเจ้ามรดกถูกฆ่าโดยเจตนา และ
ทายาทรูเ้ ช่นนัน้ หากเข้าใจผิดว่าเป็ นการ
กระทาโดยประมาทก็ไม่เข้าเหตุน้ ี
ร้องเรียน หมายถึง แจ้งความ ร้องทุกข์
กล่าวโทษ หรือให้การเป็ นพยาน
๒. การถูกกาจัดเพราะเป็ นผูไ้ ม่สมควร
๒.๔ ผูท้ ่ีฉอ้ ฉลหรือข่มขู่ให้เจ้ามรดกทา หรือเพิก
ถอน หรือเปลีย่ นแปลงพินยั กรรมแต่บางส่วน
หรือทัง้ หมดซึง่ เกีย่ วกับทรัพย์มรดก หรือไม่ให้
กระทาการดังกล่าวนัน้
-ต้องเป็ นพินยั กรรมเกี่ยวกับทรัพย์มรดก
ฎีกาที่ ๙๔๔/๒๔๙๘
ทายาทตามพินยั กรรมหลอกลวงผูท้ าพินยั กรรมให้
ทาใบมอบอานาจแล้วนาไปจัดการโอนที่ดนิ ที่ตนจะ
ได้รบั ตามพินยั กรรมเป็ นของตนเสีย กรณีเช่นนี้ไม่
ถือว่าเป็ นการฉ้อฉลให้เจ้ามรดกเพิกถอนหรือ
เปลีย่ นแปลงพินยั กรรม ผูน้ นั้ ไม่ถูกกาจัดมิให้รบั
มรดกฐานเป็ นผูไ้ ม่สมควร
๒. การถูกกาจัดเพราะเป็ นผูไ้ ม่สมควร
๒.๕ ผูท้ ่ีปลอม ทาลาย หรือปิ ดบังพินยั กรรมแต่
บางส่วนหรือทัง้ หมด
ปลอม- ทาขึ้นมาใหม่ให้เหมือนคนอื่น/สิง่ อื่น
เพือ่ ให้คนหลงผิดเข้าใจว่าเป็ นของจริง
ทาลาย – ทาให้เสียหาย ใช้การไม่ได้
อาจเป็ นการถูกกาจัดก่อนหรือหลังก็ได้
ข้อยกเว้นตามมาตรา ๑๖๐๖ ว.๒
เจ้ามรดกอาจถอนข้อกาจัดฐานเป็ นผูไ้ ม่สมควร
ได้ดว้ ยการให้อภัยไว้เป็ นลายลักษณ์อกั ษร
มีได้เฉพาะถูกกาจัดก่อนเจ้ามรดกตาย
ไม่มแ
ี บบ เพียงแต่ตอ้ งเป็ นลายลักษณ์
อักษรและมีขอ้ ความเป็ นการให้อภัย
สรุปการถูกกาจัดมิให้รบั มรดกฐานเป็ นผูไ้ ม่
สมควรตาม มาตรา ๑๖๐๖
กรณีถูกกาจัด
ก่อน เจ้ามรดกตาย
ตาม (๑) (๒) (๔) และ (๕)
กรณีถูกกาจัด หลัง เจ้ามรดกตาย
ตาม (๑) (๓) และ (๕)
ผลของการถูกกาจัดตาม ม.๑๖๐๕
เท่า หรือมากกว่า ส่วนที่ตน
จะได้ – ถูกกาจัดมิให้ได้มรดกเลย
ถ้ายักย้าย/ปิ ดบัง น้อยกว่ า ส่วนที่ตนจะได้ –
ถูกกาจัดมิให้ได้มรดกเฉพาะส่วนที่ยกั ย้าย/ปิ ดบัง
เป็ นการถูกกาจัด หลัง เจ้ามรดกตาย –
ผูส้ บื สันดานสืบมรดกได้ตาม ม. ๑๖๐๗
ถ้ายักย้าย/ปิ ดบัง
ผลของการถูกกาจัดตาม ม. ๑๖๐๖
ทายาทหมดสิทธิได้รบั มรดกทัง้ หมด
หากถูกกาจัดก่อน
– รับมรดกแทนที่
ตามมาตรา ๑๖๓๙
หากถูกกาจัดหลัง – สืบมรดกตาม
มาตรา ๑๖๐๗
การสืบมรดก/การรับมรดกแทนที่
มาตรา ๑๖๐๗ – การถูกกาจัดมิให้รบั มรดก
นัน้ เป็ นการเฉพาะตัว ผูส้ บื สันดานของทายาท
ที่ถูกกาจัดสืบมรดกต่อไปเหมือนหนึง่ ว่า
ทายาทนัน้ ตายแล้ว แต่ในส่วนทรัพย์สนิ ซึง่
ผูส้ บื สันดานได้รบั มรดกมาเช่นนี้...
มาตรา ๑๖๓๙ ว่า ถ้าบุคคลใดซึง่ จะเป็ นทายาทตาม
มาตรา ๑๖๒๙(๑)(๓)(๔()หรือ(๖) ถึงแก่ความ
ตาย หรือถูกกาจัดมิให้รบั มรดกก่อนเจ้ามรดกตาย
ถ้าบุคคลนัน้ มีผูส้ บื สันดานก็ให้ผูส้ บื สันดานรับ
มรดกแทนที่ ถ้าผูส้ บื สันดานคนใดของบุคคลนัน้ ถึง
แก่ความตายหรือถูกกาจัดเช่นเดียวกันก็ให้
ผูส้ บื สันดานของผูส้ บื สันดานนัน้ รับมรดกแทนที่
และ...
หากถูกกาจัดก่อนเจ้ามรดกตาย
และบุคคล
นัน้ จะเป็ นทายาทตามม.๑๖๒๙ (๑) (๓)
(๔) หรือ (๖) ผูส้ บื สันดานโดยตรงรับ
มรดกแทนที่ได้
หากถูกกาจัดหลังเจ้ามรดกตาย
ผูส้ บื สันดานของทายาทผูน้ นั้ สืบมรดกต่อไป
ได้
ฎีกาที่ ๔๗๘/๒๕๓๙
แม้ม.๑๖๓๙ ให้ผูส้ บื สันดานของทายาทที่ถูกกาจัดมิ
ให้รบั มรดกเข้ารับมรดกแทนที่ทายาทนัน้ ได้ ในกรณี
ทายาทนัน้ ถูกกาจัดมิให้รบั มรดกก่อนเจ้ามรดกตาย
เท่านัน้ แต่ม. ๑๖๐๗ บัญญัติว่า การถูกกาจัดมิให้
รับมรดกนัน้ เป็ นการเฉพาะตัว ผูส้ บื สันดานของ
ทายาทที่ถูกกาจัดสืบมรดกต่อไปเหมือนหนึง่ ทายาท
นัน้ ตายแล้วโดยมิได้บญั ญัติว่า
ผูส้ บื สันดานของทายาทที่ถูกกาจัดมิให้รบั มรดกก่อนเจ้า
มรดกตายเท่านัน้ ดังนัน้ แม้ขอ้ เท็จจริงฟั งได้ว่าจาเลยยัก
ย้าย/ปิ ดบังทรัพย์มรดกมากกว่าส่วนที่ตนจะได้และต้องถูก
กาจัดมิให้รบั มรดกเลย อันเป็ นการถูกกาจัดหลังเจ้ามรดก
ตาย บุตรของจาเลยซึง่ เป็ นผูส้ บื สันดานของจาเลยย่อมสืบ
มรดกของเจ้ามรดกได้ต่อไปเหมือนหนึง่ ว่าจาเลยตายแล้ว
ตาม ม. ๑๖๐๗ และม. ๑๖๐๗ หาอยู่ใต้บงั คับม. ๑๖๓๙
ไม่
ตัวอย่างการคานวณส่วนแบ่งมรดก
๑.ผูต้ ายมีบตุ ร ๓ คน ใหญ่ กลาง เล็ก
มีทรัพย์มรดก ๓๐๐,๐๐๐ บาท
ใหญ่ยกั ย้าย ๑๕๐,๐๐๐ บาท กลางยักย้าย
๓๐,๐๐๐ บาท เล็กไม่ได้ยกั ย้าย
-แต่ละคนมีส่วนคนละ ๑๐๐,๐๐๐
ใหญ่ยกั ย้ายเกินกว่ าส่วนของตนจึงถูกกาจัดทัง้ หมด
ไม่
มีสทิ ธิได้รบั เลย
กลางได้รบั – ๗๐,๐๐๐ เล็กได้รบั – ๑๐๐,๐๐๐
บาท
- ส่วนของใหญ่ซง่ึ ถูกกาจัดจะถูกนาไปแบ่งแก่กลางและเล็ก
คนละ ๕๐,๐๐๐
- ส่วนที่กลางยักย้าย ๓๐,๐๐๐ ตกได้แก่เล็กทัง้ หมดเพราะ
ใหญ่ถูกกาจัดแล้ว
๒. ผูต้ ายมีภริยาชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีทายาทอืน่
นอกจากพีช่ ายร่วมบิดามารดาเดียวกัน ๒ คน นายหนึง่
และนายสอง
- มีทรัพย์มรดก ๓๐๐,๐๐๐ บาท
- นายหนึง่ ยักย้าย ๑๕,๐๐๐
- คิดส่วนแบ่งแล้ว -ภริยาได้รบั กึง่ หนึง่ ตาม ม.๑๖๓๕
(๒) เป็ นเงิน ๑๕๐,๐๐๐ หนึง่ กับสองได้คนละ
๗๕,๐๐๐ บาท
นายหนึง่ ยักย้าย
๑๕,๐๐๐ จึงได้รบั
๗๕,๐๐๐ – ๑๕,๐๐๐ = ๖๐,๐๐๐
ภริยาได้ ๑๕๐,๐๐๐ นายสองได้ ๗๕,๐๐๐
ส่วนของนายหนึง่ ที่ถูกกาจัด ๑๕,๐๐๐ บาท นามา
แบ่งกันระหว่างทายาทโดยธรรมที่เหลือ คือคู่สมรส
และลาดับ (๓) ภริยาจึงได้ไปอีกกึง่ หนึง่ ส่วนที่
เหลือเป็ นของนายสอง
เงินที่นายหนึง่ ถูกกาจัด
๑๕,๐๐๐
ภริยาเจ้ามรดกได้กง่ึ หนึง่ – ๗,๕๐๐
ลาดับ (๓) เหลือแค่นายสอง – ๗,๕๐๐
สรุป ภริยาได้ ๑๕๐,๐๐๐+๗,๕๐๐
 นายหนึง่ ได้ ๖๐,๐๐๐
 นายสองได้ ๗๕,๐๐๐+๗,๕๐๐
๓. ผูต้ ายมีบตุ ร ๑ คน และบิดายังมีชวี ิตอยู่
มีทรัพย์มรดก ๑๐๐,๐๐๐ บาท
บุตรยักย้าย ๘๐,๐๐๐
บิดายักย้าย ๑๐,๐๐๐
บุตรกับบิดามีสทิ ธิได้รบั คนละส่วน
เท่าๆกันคือ คนละ ๕๐,๐๐๐
บุตรยักย้ายเกินกว่ าส่วนที่ตนได้รบั จึงถูกกาจัด
ทัง้ หมด
บิดาผูต้ ายยักย้าย ๑๐,๐๐๐ ได้รบั ๔๐,๐๐๐
ส่วนที่บต
ุ รถูกกาจัดตกได้แก่บดิ าผูต้ ายอีก
๕๐,๐๐๐
แต่ส่วนที่บด
ิ าผูต้ ายถูกกาจัด บุตรไม่มีสทิ ธิและไม่
มีทายาทอืน่ จึงตกทอดแก่แผ่นดิน
๔. ผูต้ ายมีบตุ ร ๒ คน คือ หนึง่ และสอง นาย
หนึง่ มีภริยา ๑ คน และบุตร ๑ คน
ผูต้ ายมีทรัพย์มรดก ๒๐๐,๐๐๐
นายหนึง่ ปิ ดบังมรดก ๑๐๐,๐๐๐
นายหนึง่ /นายสองมีสท
ิ ธิคนละ ๑๐๐,๐๐๐
นายหนึง่ ถูกกาจัดทัง้ หมด นายสองได้
๑๐๐,๐๐๐
นายสองไม่ได้รบั ส่วนที่นายหนึง่ ถูก
กาจัดเพราะนายหนึง่ มีบตุ ร ดังนัน้
ผูส้ บื สันดานของนายหนึง่ ซึง่ ถูกกาจัด
ภายหลังเจ้ามรดกตายจึงเข้าสืบมรดก
ต่อไปเหมือนนายหนึง่ ตายแล้ว ตาม ม.
๑๖๐๗
๕. นายหล่อมีนางสวยเป็ นภริยาชอบด้วย
กฎหมาย และมีนอ้ งชายร่วมบิดามารดา
เดียวกัน ชือ่ นายเท่ นายเท่มีบตุ รชือ่ ดญ.แจ่ม
-นายเท่ฆ่านายหล่อตาย ศาลมีคาพิพากษาถึง
ที่สดุ ลงโทษจาคุกตลอดชีวิต
นายหล่อมีทรัพย์มรดก ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท
นางสวยเป็ นคู่สมรสได้กง่ึ หนึง่ คือ
๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ก่อน ส่วนที่เหลืออีก
๑,๐๐๐,๐๐๐ บาทได้แก่นายเท่
นายเท่ถูกกาจัดมิให้รบั มรดกภายหลังเจ้ามรดก
ตาย (ตามฎีกา ๘๐๒๓/๓๘)
เด็กหญิงแจ่มเป็ นผูส้ บ
ื สันดานจึงสืบมรดกส่วน
ของนายเท่ได้ตาม ม.๑๖๐๗
คิดตามส่วน
เปรียบเทียบมาตรา ๑๖๐๕ กับ ๑๖๐๖
ผูท้ ่ีถูกกาจัด
จานวนทายาทที่จะรับมรดก
เจตนาของผูถ้ ูกกาจัด
เกิดก่อนหรือหลังเจ้ามรดกตาย
ผลของการถูกกาจัด
การถอนการกาจัด