Transcript จิตวิทยาสังคม

อารีลก
ั ษณ์ พู ลทร ัพย ์




เป็ นการนาเอาหลักจิตวิทยามาอธิบาย
ปรากฏการณ์ทางการเมือง
เป็ นการอธิบายว่าทาไมคนในสังคม
เดียวกันจึงมีความคิดและพฤติกรรมที่
แตกต่างกัน
พฤติกรรมการเลือกตัง้
้
บุคคลมีพฤติกรรมการเลือกตังแตกต่
าง
้ าหนด
กัน และพฤติกรรมการเลือกตังก
ทิศทางของสังคมการเมือง





พฤติกรรมของผู น
้ าทางการเมือง
่ สามารถสร ้างความหวัง ศร ัทธา
ผู น
้ าทีดี
และขวัญ กาลังใจให้แก่คนในชาติ
สามารถนาพาชาติผ่านวิกฤตการณ์
ทาไมคนบางคนจึงอยากเป็ นผู น
้ าอย่าง
มาก
่ านาจของแต่ละคน
วิธก
ี ารได้มาซึงอ
พฤติกรรมการแสดงออกในการใช้
่



ความแตกต่างของระบบการเมือง
กระบวนการทางการเมืองบางอย่างมีใช้
และใช้ได้ดเี ฉพาะบางประเทศ
ทาไมบุคคลจึงสนับสนุ นระบบการเมือง
บางระบบและไม่สนับสนุ นบางระบบ



ความแตกต่างของความคิดทาง
การเมือง
ความคิด แนวคิด ทางการเมืองของนัก
คิดนักปร ัชญามีอท
ิ ธิพลต่อความคิด
่
้ า
ของคนในสังคม เพราะเป็ นเครืองชี
น
ความคิดและพฤติกรรมทางการเมือง
ของคนในสังคม และก่อให้เกิดการ
่
เปลียนแปลงในสั
งคม
แนวความคิดของนักปร ัชญาการเมืองมี




่ (Belief) เป็ นตัวกาหนด
ความเชือ
พฤติกรรมบางอย่างของมนุ ษย ์
่ บุ
่ คคลคิดว่า การกระทา
สิงที
่
ปรากฏการณ์ สิงของ
คุณสมบัตข
ิ อง
่
่
้
สิงของบางสิ
งบางอย่
าง มีอยู ่จริงเกิดขึน
จริง
่ คคลหนึ่ งคิดถึงอะไรก็ได้ในแง่
การทีบุ
ข้อเท็จจริง และไม่จาเป็ นต้องถู กต้อง
เสมอไป อาจเป็ นจริงหรือไม่ อาจถู กต้อง
หรือไม่กไ็ ด้
่
ความเชืออาจได้
มาโดยการเห็น การ



ค่านิ ยม (Value)
้ เห็
่ นได้ช ัดและไม่ช ัด มี
แนวความคิดทังที
อิทธิพลต่อการเลือกหรือไม่เลือกกระทา
่ ่
การอน
ั หนึ่ งอน
ั ใดของบุคคล เป็ นสิงที
บอกบุคคลอย่างกว้างๆ ว่าจุดมุ่งหมายใด
่ น่
่ าปารถนาและไม่น่าปารถนา
เป็ นสิงที
เป็ นแนวทางการประพฤติปฏิบต
ั ต
ิ นของ
่
บุคคลว่าสิงใดสมควรหรื
อไม่สมควร
้
การได้มา โดยการอ่าน การคิดขึนเอง



1.
บุคลิกภาพ(Personality)
่
่
เครืองมื
อในการกาหนดพฤติกรรมทีมี
่ คคล
ลักษณะเด่นหรือลักษณะเฉพาะ ซึงบุ
่ ่
ได้มาภายใต้สถานการณ์พเิ ศษ เป็ นสิงที
บอกว่าบุคคลจะปฏิบต
ั อ
ิ ย่างไรใน
สถานการณ์หนึ่ งๆ
แบ่งออกเป็ น 2 กลุ่ม คือ
ทฤษฎีจต
ิ วิเคราะห ์



1.
2.
่
ให้ความสาคัญกับอิทธิพลของสิงแวดล้
อม
ต่อการเกิดบุคลิกภาพ พฤติกรรมใดนามา
่
้
ซึงรางวั
ลก็จะมีการทาซาๆ
พฤติกรรมใด
่
นามาซึงการลงโทษก็
จะไม่ทาอีกแม้จะมี
โอกาส
การให้รางวัลและการลงโทษ (Reward and
Punishment)
การเสริมแรงทางบวกและทางลบ
การเสริมแรงทุกครง้ั
้ั
การเสริมแรงเป็ นครงคราว




พฤติกรรมใดๆ หลายๆ พฤติกรรม
สามารถนามาจัดกลุ่มเป็ นแบบเดียวกัน
ได้ ทาให้เกิดรู ปแบบของบุคลิกภาพ
่
่
แนวโน้มทีจะพึ
งตนเองหรื
อไม่พงตนเอง
ึ่
่
่
่ า
แนวโน้มทีจะหลี
กเลียงพฤติ
กรรมทีน
ความอับอายมาให้
ยอมร ับฟั งความคิดเห็นหรือไม่ยอมร ับ
ฟั งความคิดเห็น


เบลคและมู ตน
ั (Blake and Mouton)
แบ่งบุคลิกภาพของบุคคล ดังนี ้
ประเภทไม่เอาไหน (Imporerished) สัญลักษณ์
้ อ เต่า โดยปกติเต่า
ของคนประเภทนี คื
ชอบหดหัวไม่กล้าเผชิญหน้ากับใคร
้ งไม่กล้าเผชิญปั ญหา
บุคคลประเภทนี จึ
้
่ ความผิดเกิดขึนจะโทษผู
อ
้ น
ื่ ขาด
เมือมี
่
ความริเริมสร
้างสรรค ์ ยอมตามผู อ
้ นด้
ื่ วย
่
ความขุ่นใจโกรธเคือง เมืออยู
่ตอ
่ หน้า
่

ประเภทยอมตาม (Country Club Manager)
สัญลักษณ์ของคนประเภทนี ้ ตุก
๊ ตาหมี
่
เป็ นบุคคลทียอมผู
อ
้ นโดยไม่
ื่
มเี งื่อนไข
เปรียบเสมือนตุก
๊ ตาหมีทยอมให้
ี่
คนกอด
่
ร ัดฟั ดเหวียงได้
ตามใจชอบ บุคคล
้
ประเภทนี จะให้
ความร่วมมือด้วยความ
้ อหน้าและลับ
เต็มใจโดยไม่ป ริปากบ่นทังต่
่
หลัง มีความเสียสละ มักจะยอมให้คนอืน
่ าง ๆ ก่อนเสมอ มองคนในแง่ ด ี
ๆ ทาสิงต่


ประเภทชอบใช้อานาจ (Authoritarian)
้ อ ฉลาม
สัญลักษณ์ของคนประเภทนี คื
ธรรมชาติของฉลามคือดุร ้าย บุคคล
้
่ าวร ้าวชอบ
ประเภทนี จะมี
พฤติกรรมทีก้
ใช้อานาจในการแก้ปัญหาโดยไม่
คานึ งถึงความรู ้สึกของผู อ
้ น
ื่ เน้นความ
ต้องการของตนเอง
ประเภทกลาง ๆ (Mediocre) สัญลักษณ์
้ อสุนข
้
ของคนประเภทนี คื
ั จิงจอก
เป็ น

ประเภทใจเย็น (Team Manager) สัญลักษณ์
้ อ นกฮู ก เป็ นคนใจ
ของคนประเภทนี คื
เย็น เพราะนกฮู กไม่มป
ี ฏิกริยาโต้ตอบต่อ
มนุ ษย ์ แต่จะแอบดู ลบ
ั หลังเหมือนการ
่
้ ง
ตืนในเวลากลางคื
น บุคคลประเภทนี จึ
ศึกษาความต้องการของผู อ
้ นและความ
ื่
ต้องการของตนเอง วิธแ
ี ก้ปัญหาความ
ขัดแย้ง คือ ควบคุมอารมณ์ ร ับฟั งด้วย
ความเข้าใจ พู ดจาไพเราะ ขอ



้
พฤติกรรมจะยังไม่เกิดขึนหากยั
งไม่มส
ี งิ่
กระตุน
้ พฤติกรรม (stimulus object) ซึง่
หมายถึงอะไรก็ได้
่
สิงกระตุ
น
้ พฤติกรรมจะมีพลังและความ
่
เข้มข้นไม่เท่ากัน การคิดถึงสิงกระตุ
น
้
่ น
้
พฤติกรรมจึงต้องนึ กถึงพลังของสิงนั
ด้วย
่
ความเข้มข้นของสิงกระตุ
น
้ พฤติกรรม
แต่ละชนิ ดมีผลต่อแต่ละคนไม่เท่ากัน



่ คคลคิดถึงสิงใดสิ
่
่
่ ง คนใดคน
การทีบุ
งหนึ
หนึ่ ง หรือการกระทาใดอ ันหนึ่ งใน
ลักษณะทีว่่ าดีหรือไม่ด ี สมควรหรือไม่
เหมาะสมหรือไม่ ถู กต้องหรือไม่
่ มาก่
่
เป็ นสิงที
อนพฤติกรรมและเป็ น
ปั จจัยหนึ่ งในการกาหนดการแสดงออก
ทางพฤติกรรม
จะมีลก
ั ษณะจาเพาะเจาะจงมากกว่า
ค่านิ ยมและบุคลิกภาพ เพราะค่านิ ยม
่
และบุคลิกภาพจะมีลก
ั ษณะกว้างๆ ทัวๆ


่
้ เป็
่ นตัวบุคคลและไม่ใช่
สิงแวดล้
อมทังที
่
่ คคลกาลังจะ
ตัวบุคคลซึงอยู
่ในสภาวะทีบุ
มีการแสดงออกทางพฤติกรรม มี
่ อการแสดง
ความสาคัญอย่างยิงต่
พฤติกรรม
้ านวยพฤติกรรม
ถ้าสถานการณ์เอืออ
ของคนอาจแตกต่างกันไปตามลักษณะ
นิ สย
ั ในทางตรงข้ามสถานการณ์จะ
จัดการให้บุคคลแสดงพฤติกรรมตาม
สิง่
กระตุ ้
่
ความเชือ
น
ค่านิ ยม
ลักษณะนิ
สย
ั 
พฤติ
กรรม
บุคลิกภาพ
และ
พลัง
พฤติก
รรม
ทัศนคติ
สถานการ
ณ์


กระบวนการกล่อมเกลาทางสังคม
่
(Socialization) การถ่ายทอดความเชือ
ค่านิ ยม บุคลิกภาพให้กบ
ั สมาชิกใน
สังคม
่ การเรียนรู ้แก่บุคคล (Agent of
องค ์กรทีให้
Socialization)
1.
2.
3.
ครอบคร ัว
โรงเรียน
องค ์กรศาสนา