เอกสารประกอบการบรรยาย

Download Report

Transcript เอกสารประกอบการบรรยาย

ครูทวีศกั ดิ์ ภู่ชยั
กลุม่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์
โรงเรียนอนุราชประสิทธิ์ อาเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี
“การสอนให้ นักเรี ยนมีความ รู้ ดีเป็ น
สิ่งสาคัญมาก แต่ มีส่ ิงสาคัญยิ่ งกว่ านั น้ อีก
คื อ จะต้ องฝึ กหั ด ให้ นั กเรี ยนรู้ จั ก คิ ด
พิจารณา นาวิชาความรู้ นั น้ ไปใช้ ในทางที่
ถูกต้ องเหมาะสมแก่ งานได้ ด้วย การศึกษา
ที่ใ ห้ ทัง้ วิ ช าการและวิ ธี ใ ช้ วิ ช าโดยถู ก ต้ อ ง
เช่ นนี ้ จึงจะเป็ นการศึกษาที่ดี”
พระบรมราโชวาทในพิ ธีพระราชทานปริ ญญาบัตรแก่บณ
ั ฑิ ตวิ ทยาลัยวิ ชาการศึกษา ประสานมิ ตร
,15 ธันวาคม 2509
อำกำรต่ำงๆที่อำจ
เรียนบ่นน
ว่้ ำสอนไม่
เกนัิ ดกในชั
เรียร้เูนรื่อง ทัง้ ๆที่เรำก็สอนตำมหนังสือ/บทเรียน
สอนไปแล้วทำไมเด็กทำข้อสอบไม่ได้ ทัง้ ๆที่ตอนเรียนเด็กดูเหมือนจะเข้ำใจ
เรำออกข้อสอบแบบที่อยู่ในสมุดเลยนะ แต่เด็กก็ยงั ทำไม่ได้
นักเรียนแสดงพฤติกรรมว่ำเบือ่ /ไม่อยำกเรียน (หำว, นัง่ คุย, ไม่สนใจฟัง)
ตอนนักเรียนทำกิจกรรม ก็ร้สู ึกว่ำสนุกมำกเลย แต่พอขึน้ ชัวโมงใหม่
่
เขำกลับลืม
เรำจะทำอย่ำงไรเมื่อเกิด
สอบถำมควำมต้องกำรของผูเ้ รียน
เหตุกำรณ์เหล่ำนัน้
ศึกษำผูเ้ รียนเป็ นรำยบุคคล
วำงแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ให้ดี
โทษหลักสูตร โทษระบบกำรศึกษำ โทษคนในกระทรวงศึกษำธิกำร
โทษกิจกรรมที่โรงเรียนทำให้เวลำไม่พอ ฯลฯ
เพือ่ .............................?
เรำคิดอย่ำงไรกับ
ภำพนี้ ???
เรำคิดอย่ำงไรกับ
ภำพนี้ ???
กำรออกแบบ
เป็ นกระบวนการออกแบบการจัด กิจ กรรม
ย้การเรี
อนกลั
บ
คื
อ
อะไร
?
ยนรู้ทีเ่ สนอไว้โดย Grant Wiggins และ
Jay McTighe ในหนังสื อ Understanding by
การสร
างหน
วยการเรี
ย
นรู
้
่
้
Design ในปี ค.ศ. 1998
(Unit of learning) โดยเริม
่ จากการ
กาหนดหลักฐานการแสดงออกของ
ผู้เรียนหรือกิจกรรมการประเมินผล
การเรียนรู้ของผู้เรียนตามมาตรฐาน
การเรีย นรู้ ก่อน แล้ วจึ ง ออกแบบ
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพือ
่ ให้
ผู้ เรีย นมีค วามรู้ ทัก ษะ และเจต
คติ ตามหลักฐานทีก
่ าหนดไว
กำรออกแบบ
พื่ อ ท าบ
ใส
ห้ เำคั
กิ ด ญ
ก า ร? เ รี ย น ก า ร ส อ น ที่ เ น้ น
ย้กระบวนการ
อเนกลั
(การสร างและพัฒ นาความเข าใจ
้
้
ของผู้เรียน) มากกวาผลลั
พธ ์
่
 เพือ
่ นาเสนอแนวคิดเกีย
่ วกับหลักสูตรและการ
เรีย นการสอนที่เ น้ นการแสวงหาความรู้ มากกว่า
การปู พ รมให้ ครอบคลุ ม และมุ่ งเน้ นการสร้ าง
ความเข้าใจในแนวคิดหลัก
 เ พื่ อ แ ก้ ปั ญ ห า ค ว า ม ไ ม่ เ ชื่ อ ม โ ย ง ร ะ ห ว่ า ง
ประสบการณเรี
์ ยนรู้และการประเมินผล
 เพื่อ ศึ กษาแนวทางประเมิน ความเข้ าใจของ
กระบวนกำร
ขัน
้ ที่ 1 กาหนดเป้าหมายหลักของการเรียนรู้
ออกแบบย้
อนกลั
(Identify desired
results)บ
ขัน
้ ที่ 2 กาหนดหลักฐานการแสดงออกของผู้เรียนที่
ต้องการให้เกิดขึน
้ หลังจากทีไ่ ดเรี
้ ยนรูแล
้ ว
้
(Determine acceptable evidence of learning)
ขัน
้ ที่ 3 ออกแบบการจัดประสบการณการเรี
ยนรู้
์
(Plan learning experience and instruction)
กระบวนกำร
ขัน
้ ที่ 1 กาหนดเป้าหมายหลักของการเรียนรู้
(Identify
desired results)
ออกแบบย้
อนกลั
บ
สาระ/ความรูที
่ ะให้ผู้เรียนคุ้นเคย
้ จ
เป็ นเรือ
่ งทีจ
่ ะให้ผู้เรียนไดศึ
้ กษา
ตลอดหน่วยการเรียนรูนี
้ ้
ความรู้ (หลักการ ความคิดรวบ
ยอด) และทักษะทีส
่ าคัญ (ทักษะ
กระบวนการ วิธก
ี าร เจตคติ) ที่
ผู้เรียนจาเป็ นตองใช
ยน
้
้ระหวางเรี
่
ในหน่วยการเรียนรู้ เพือ
่ ให้มี
ความคิ
ดหรือหลักการทีก
ส
่ าหนดไว
าคัญ
ความรูความสามารถที
่
้
้
ของหน่วยการเรียนรูที
่ องการ
้ ต
้
ให้เป็ น ความเขาใจที
ค
่ งทน ติด
้
ตัวผูเ้ รียนไปถึงแม้วา่ เขาจะลืมรายละเอียดไป
ควำมเข้ำใจที่คงทน
ควรเป็ น
 ความรูที
่ ามารถนาไปใช้ไดในสถานการณ
ใหม
ที
้ ส
้
่ ่
์
หลากหลายทัง้ ในเรือ
่ งทีเ่ รียน หรือเรือ
่ งอืน
่ ๆใน
ชีวต
ิ ประจาวั
...น
 ความรูที
้ เ่ ป็ นหัวใจสาคัญของหน่วยการเรียนรูที
้ ่
เรียน ซึง่ ครูควรจัดกิจกรรมให้ผูเรี
้ ยนไดเรี
้ ยนรู้
อยางเป็
นกระบวนการ ละค้นพบหลักการ/แนวคิด
่
นี้ดวยตนเอง
้
 ความรูที
หรือมักเขาใจผิ
ด เช่น กฎ
้ เ่ ขาใจยาก
้
้
การเคลือ
่ นทีข
่ องนิวตัน ทฤษฎีววิ ฒ
ั นาการ เป็ น
ตน
่ งดังกลาวมาจั
ดประสบการณ์
้ ซึง่ ครูควรนาเรือ
่
เพือ
่ ให้ผูเรี
ถ
่ ก
ู ตอง
ชัดเจน
้ ยนมีความเขาใจที
้
้
 ความรูที
ั จ
ิ ริงใน
้ เ่ ปิ ดโอกาสให้ผูเรี
้ ยนไดปฏิ
้ บต
การศึ กษา ค้นคว้า และเป็ นสิ่ งทีผ
่ ้เรี
ู ยนสนใจ
จึงจะทาใหผูเรียนตัง้ ใจและทากิจกรรมเพือ
่ ใหเกิด
องค์ประกอบที่ควร
พิจำรณำ... สามารถอธิบายปรากฏการณหรื
Explanation
์ อ
ทฤษฎี
Interpretation บรรยาย, ขยายความ, อุปมาอุปไมย
, ชีค
้ ุณคา,
่ มโยง
่ เชือ
Application
สามารถปรับประยุกตใช
์ ้ ความรู้ได้
อยางเหมาะสมตามบริ
บท
่
Perspective
แสดงมุมมองอยางมี
วจ
ิ ารณญาณ
่
ข้ อดี / ข้ อเสี ย และสามารถแสดงทั ศ นะได้ อย่ าง
หลากหลาย
กระบวนกำร
ขัน
้ ที่ 2 กาหนดหลักฐานการแสดงออกของผู้เรียนทีต
่ องการ
้
ให
้ หลังจากทีไ่ อ
ดเรี
ยนรูแล
ว
้เกิดขึน
้ นกลั
้ บ
้ (Determine acceptable
ออกแบบย้
evidence of learning)
-ครูจะรูได
าผู
วชีว้ ด
ั ทีห
่ น่วย
้ อย
้ างไรว
่
่ ้เรียนมีความรูตามมาตรฐาน/ตั
้
การเรียนรูก
้ าหนดไว้?
-คาตอบ
____________________________________________________
______________
____________________________________________________
____________________
____________________________________________________
____________________
-การแสดงออกของผู้เรียนควรมีลก
ั ษณะอยางไร
จึงจะบอกไดว
่
้ ามี
่
ความรูตามที
ก
่ าหนด?
้
-คาตอบ
____________________________________________________
______________
____________________________________________________
____________________
____________________________________________________
กระบวนกำร
ออกแบบย้อนกลับ
กระบวนกำร
ขัน
้ ที่ 2 กาหนดหลักฐานการแสดงออกของผู้เรียนทีต
่ องการ
้
ให
้ หลังจากทีไ่ อ
ดเรี
ยนรูแล
ว
้เกิดขึน
้ นกลั
้ บ
้ (Determine acceptable
ออกแบบย้
evidence of learning)
-ครูจะรูได
าผู
วชีว้ ด
ั ทีห
่ น่วย
้ อย
้ างไรว
่
่ ้เรียนมีความรูตามมาตรฐาน/ตั
้
การเรียนรูก
้ าหนดไว้?
-คาตอบ
____________________________________________________
______________
____________________________________________________
ศึกษำมำตรฐำนกำรเรียนรู้และตัวชี้วดั ที่เกี่ยวข้องโดยละเอี ยด เพื่อหำ
____________________
สำระควำมรู้ ทักษะกระบวนกำร และจิตพิสยั ที่เกี่ยวข้อง
____________________________________________________
____________________
-การแสดงออกของผู้เรียนควรมีลก
ั ษณะอยางไร
จึงจะบอกไดว
่
้ ามี
่
ความรูตามที
ก
่ าหนด?ำงสรรค์ผลงำน หรือแสดงออกให้เห็นได้ว่ำ มีควำมรู้
้ ผูเ้ รียนสำมำรถสร้
-คาตอบ ทักษะกระบวนกำร และจิตพิสยั ที่เกี่ยวข้องกับมำตรฐำนกำรเรียนรู้และ
ตัวชี้วดั
____________________________________________________
______________
____________________________________________________
____________________
____________________________________________________
กระบวนกำร
ขัน
้ ที่ 2 กาหนดหลักฐานการแสดงออกของผู้เรียนที่
ตออกแบบย้
้ หลัอ
งจากที
ไ่ ดเรี
ยนรูแล
้องการให้เกิดขึน
้บ
้ ว
้
นกลั
(Determine acceptable evidence of learning)
กำรทดสอบแบบปรนัย/อัตนัย
กำรสังเกตพฤติกรรม
กำรทำโครงงำน/ชิ้นงำน/ภำระงำน
กำรประเมินตำมสภำพจริง
กำรวัดและประเมินผล
ิ
ตำมสภำพจร
ง
การประเมิ น ผลตามสภาพจริ ง
หมายถึ ง
กระบวนการสั งเกต การบันทึก และการรวบรวม
ข้ อมู ล จากงานและวิธ ีก ารที่นัก เรีย นท า เพื่อ เป็ น
พืน
้ ฐานในการตัดสิ นผลการศึ กษาของผู้เรียน
ข้อมูลจากกรมวิชาการ กระทรวงศึ กษาธิการ
(2542 : 6 )
จะรู้ได้อย่ำงไร ว่ำสิ่งที่เรำคิดจะประเมิน
เป็ นกำรประเมินตำมสภำพจริง?
กำรวัดและประเมินผล
ตำมสภำพจริง
กำรประเมินแบบเดิม
กำรประเมินตำมสภำพจริง
(Traditional Assessment)
(Authentic Assessment)
เน้นพฤติกรรม
แยกการเรียนการสอบออกจากกัน
เน้นพฤติกรรมทีเ่ ป็ นความซับซ้อนและวิธกี ารในการเรียนรู้
ไม่แยกการเรียนและการสอบออกจากกัน เปิดโอกาสให้การ
เรียนรูด้ าเนินไปอย่างต่อเนื่อง
วัดได้ในวงจากัด
วัดได้อย่างกว้างขวาง
เชือ่ ในตัวเลข (Number) ทีไ่ ด้จากการสอบ
เชือ่ ในคา (Word) ทีเ่ ขียนบรรยาย
ดึงการวัดออกจากบริบทของการเรียนการสอน
การวัดถือเป็ นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอน
ครูเปรียบเสมือนผูป้ ระเมินภายนอก
ครูเป็ นส่วนหนึ่งของการสอบ
เชือ่ ในการให้ผอู้ น่ื เป็ นผูป้ ระเมิน
เชือ่ ในการประเมินตนเอง
มีเกณฑ์มาตรฐานเพือ่ บ่งบอกความสาเร็จ
มีเกณฑ์หลากหลายตามสภาพเพือ่ บ่งบอกความสาเร็จ
เน้นการประเมินโดยแยกทักษะ
เน้นการประเมินโดยบูรณาการทักษะ
เป็ นรายวิชา
เป็ นสหวิทยาการ
กำรวัดและประเมินผล
 การวัดผลจะต้องใช้หลายๆ วิธใ
ี นการวัด เพือ
่ จะได้
ิ ง ม เช่น การวัดแบบสังเกต
ตำมสภำพจร
ประเมินตัวผู้เรียนได้ครอบคลุ
การสั มภาษณ ์ แบบสอบถาม การวัด จินตภาพ การวัด
ภาคปฏิบต
ั แ
ิ ละการวัดโดยใช้ขอสอบ
เป็ นตน
้
้
 จะต้องมีการจัดทาแฟ้มสะสมงาน (Portfolio) ซึ่งจะเป็ น
ทีร่ วบรวมผลงานตาง
ๆ ของผู้เรียนคนหนึ่งๆ อันเป็ นผล
่
มาจากการเรีย นการสอน มาเป็ นองค ประกอบหนึ
่ ง ของ
์
การประเมินปลายภาคหรือปลายปี
 การวัด ผลต่างๆ ทีเ่ กิดขึ้น ในระดับ ชั้น ต่าง ๆ ในตัว
ผู้เรียนแตละตน
จะต้องตอบให้ได้ว่าบรรลุเป้าหมายมาก
่
น้อยเพียงไร
 เป้าหมายระดับชาติ เป้าหมายสูงสุดหรือปรัชญา
 เปาหมายระดับทองถิน
่ เปาหมายหลักสูตร
กระบวนกำร
ขัน
้ทีก่ าหนดหลั
3 ออกแบบการจั
ดประสบการณการเรี
ยย
นรู
ก ฐานการแสดงออกของผู
นที
่แ สดงให้
้ (Plan
์
้ เรี
ออกแบบย้
นกลั
บ
learning
and
instruction)
เห็ น ว่า experience
ผู้ เรีย นมีคอ
วามรู
ทั
ก
ษะกระบวนการ ทีเ่ ป็ นไป
้
ตามมาตรฐาน/ตัวชีว
้ ด
ั ของหน่วยการเรียนรู้ทีก
่ าหนดไว้ใน
ขัน
้ ที่ 2
 ก าหนดกิจ กรรมการเรีย นรู้ ที่ช่ วยให้ ผู้ เรีย นมีค วามรู้
ทักษะกระบวนการ ตามมาตรฐาน/ตัวชีว
้ ด
ั ของหน่วยการ
เรียนรู้
 ก าหนดสาระการเรี ย นรู้ /เนื้ อ หาที่ ใ ช้ ในการจัด การ
เรียนรู้ วิธก
ี ารจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทีเ่ หมาะสมทีส
่ ุดทีจ
่ ะ
ท า ใ ห้ ผู้ เ รี ย น มี ค ว า ม รู้ ทั ก ษ ะ ก ร ะ บ ว น ก า ร ต า ม
มาตรฐาน/ตัวชีว้ ด
ั ของหน่วยการเรียนรู้
 กาหนดสื่ อ/อุ ปกรณ/แหล
งเรี
่ ะทาให้
่ ยนรู้ทีเ่ หมาะสมทีจ
์
ผู เ รี ย นมี ค วามรู ทัก ษะกระบวนการ ตามมาตรฐาน/
1. กาหนดชือ
่ หน่วยการเรียนรู้/จัดทาหน่วยการเรียนรู้
กระบวนกำร
ทีม
่ ค
ี ุณคาต
อ สอดคลอง
เหมาะสมกับวัย
่ อผู
่ ้เรียน กลาวคื
่
้
ประสบการณเดิ
์ ม และความสนใจของผู้เรียน
ออกแบบย้
อญนกลั
2. ตัง้ คาถามสาคั
ทีส
่ รุปบ
ความเขาใจรวบยอดของ
้
หน่วยการเรียนรูเพื
่ นาไปสู่การกาหนดความเขาใจที
ค
่ งทน
้ อ
้
3. กาหนดความเขาใจที
ค
่ งทนของหน่วยการเรียนรู้ ที่
้
ต้องการให้เป็ นความรูติ
้ ดตัวผู้เรียนไปใช้ในสถานการณต
่
์ างๆ
ได้
4. กาหนดจิตพิสัยของหน่วยการเรียนรูที
่ ้องการให้เกิด
้ ต
ขึน
้ กับผู้เรียน
5. กาหนดความคิดรวบยอดหลักทีส
่ าคัญ ซึ่งแตละ
่
ความคิดรวบยอดควรมีความเชือ
่ มโยงสอดคลองกั
น
้
6. กาหนดความรูและทั
กษะวิชาทีเ่ ป็ นดานความรู
้
้
้
(Knowledge: K) ทักษะกระบวนการ (Psychomotor: P)
และเจตคติ (Attitude: A) เฉพาะวิชาของแตละความคิ
ดรวบ
่
7. ตรวจสอบความสอดคลองด
านความรู
้
้
้ (Knowledge:
K) ทักษะกระบวนการ (Psychomotor: P) และเจตคติ
(Attitude: A) กับหลักสูตรแกนกลางการศึ กษาขัน
้ พืน
้ ฐาน
พ.ศ. 2551
8. กาหนดทักษะครอมวิ
ชาทีจ
่ าเป็ นตองใช
่
้
้ในการจัดการ
เรียนรูให
้ ้กับผู้เรียน ไดแก
้ ่ กระบวนการกลุม
่ การคิด
รูปแบบตางๆ
การเขียน/แตงโคลง
กาพย ์ กลอน การ
่
่
ประดิษฐ ์ ฯลฯ ทีเ่ ป็ นทักษะทีป
่ รากฏในหลายวิชาหรือเป็ น
ของวิชาอืน
่
9. กาหนดการแสดงออกของผู้เรียนทีเ่ ป็ นหลักฐานที่
แสดงวา่ ผู้เรียนมีความรู้ (Knowledge: K) ทักษะ
กระบวนการ (Psychomotor: P) และเจตคติ (Attitude: A)
ทีค
่ รูต้องการให้เกิดขึน
้ กับผู้เรียน โดยครูตองออกแบบการ
้
ประเมินผลการเรียนรูให
้ ้เหมาะสม
10. จัดกลุมหลั
กฐานการแสดงออกของผู้เรียนให้
่
เหมาะสมกอนน
าไปจัดกิจกรรมการเรียนรูให
่
้ ้กับผู้เรียน โดย
กระบวนกำร
ออกแบบย้อนกลับ
สรุ
ป
กระบวนกำร
 กระบวนการออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เริม
่ จาก
กา รก าหนดหลั ก ฐา นก ารแสดงออก ของผู้ เรี ย นหรื อ
ออกแบบย้
อ
นกลั
บ
กิ จ ก ร ร ม ก า ร ป ร ะ เ มิ น ผ ล ก า ร เ รี ย น รู้ ข อ ง ผู้ เ รี ย น ต า ม
มาตรฐานการเรียนรูก
แลวจึ
้ อน
่
้ งออกแบบการจัดกิจกรรม
การเรีย นรู้ เพือ
่ ให้ผู้เรีย นมีความรู้ ทัก ษะ และเจตคติ
ตามหลักฐานทีก
่ าหนดไว้
 มี 3 ขัน
้ คือ
ขัน
้ ที่ 1 กาหนดเป้าหมายหลักของการเรียนรู้
ขัน
้ ที่ 2 กาหนดหลักฐานการแสดงออกของผู้เรียน
ทีต
่ ้องการให้เกิดขึน
้ หลังจากทีไ่ ดเรี
้ ยนรูแล
้ ว
้
ขัน
้ ที่ 3 ออกแบบการจัดประสบการณการเรี
ยนรู้
์
ซักถามและขอเสนอแนะ
้
ครัง้ ที่ 1
ปฏิบัตกิ ารออกแบบย้ อนกลับ
 แบงกลุ
ม
3-4 คน
่
่ กลุมละ
่
 ในกลุมต
นิสิตทุกสาขา
่ องมี
้
กรณี ศึกษำ: กระบวนกำร
ออกแบบย้อนกลับ
สถานการณ ์ :
ทานได
่
้รับมอบหมายจากกลุมสาระการ
่
เรียนรู้วิทยาศาสตรให
่ ฏิบต
ั ก
ิ ารสอนในรายวิชา
์ ้ ทาหน้าทีป
วิทยาศาสตรพื
้ ฐาน ระดับชัน
้ มัธยมศึ กษาปี ที่ 2 ในเรือ
่ ง
์ น
แรง โดยท่ านจะต้ องส่ งแผนการจั ด การเรี ย นรู้ ให้ กับ
หั ว หน้ ากลุ่ มสาระการเรี ย นรู้ วิ ท ยาศาสตร ์ก่ อนสอน 1
สั ปดาห ์ ทานจะท
าอยางไร
่
่
ข้อมูลทีม
่ ี : 1.
คาอธิบายรายวิชาวิทยาศาสตรพื
้ ฐาน
์ น
ระดับชัน
้ มัธยมศึ กษาปี ท ี่ 2
2.
ตัวชีว
้ ด
ั สาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุม
่
สาระการเรียนรูวิ
้ ทยาศาสตร ์
3. หนังสื อเรียน
ปฏิบตั ิ : กระบวนกำร
ออกแบบย้อนกลับ
ปฏิบตั ิ : กระบวนกำร
ออกแบบย้อนกลับ
1. กาหนดชือ
่ หน่วยการเรียนรู้/จัดทาหน่วยการเรียนรู้
_________________________________________________
________________
2. ตัง้ คาถามสาคัญ ทีส
่ รุปความเขาใจรวบยอดของ
้
หน่วยการเรียนรูเพื
่ นาไปสู่การกาหนดความเขาใจที
ค
่ งทน
้ อ
้
แรง
_________________________________________________
________________
_________________________________________________
แรงเป็ นปริมำณชนิดใด? รู้ได้อย่ำงไร?
________________
แรงลัพธ์ คืออะไร?
_________________________________________________
จะหำแรงลัพธ์โดยวิธีกำรรวมเวกเตอร์ได้อย่ำงไร?
________________
3. กาหนดความเขาใจที
ค
่ งทนของหน่วยการเรียนรู้ ที่
้
ต้องการให้เป็ นความรูติ
้ ดตัวผู้เรียนไปใช้ในสถานการณต
่
์ างๆ
นักเรี
ได
้ ยนสำมำรถบอกได้ว่ำแรงเป็ นปริมำณเวกเตอร์
นักเรียนสำมำรถอธิบำยได้ว่ำแรงลัพธ์ คือผลรวมของแรงโดยวิธีกำรรวมเวกเตอร์
_________________________________________________
นักเรียนสำมำรถทดลองหำแรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุได้โดยวิธีกำรรวมเวกเตอร์ได้อย่ำงไร?
________________
ปฏิบตั ิ : กระบวนกำร
ออกแบบย้อนกลับ
ขึน
้ กับผู้เรียน
_________________________________________________
________________
_________________________________________________
________________
ยอมรับฟังควำมคิดเห็นของผูอ้ ื่น, เข้ำร่วมกิจกรรมโดยไม่ต้องบังคับ,
_________________________________________________
ทำงำนร่วมกับผูอ้ ื่นได้, มีควำมรับผิด5.
ชอบในกำรส่
งงำน, มีควำมซื
สัตย์ในกำรทำงำนกที่
________________
กาหนดความคิ
ด่อรวบยอดหลั
สาคัญ ซึ่งแตละความคิ
ดรวบยอดควรมีความเชือ
่ มโยง
่
สอดคลองกั
น
้
_________________________________________________
 แรงเป็ นปริมำณเวกเตอร์ เมื่อมีแรงหลำยแรงในระนำบเดียวกันกระทำ
________________
ต่อวัตถุเดียวกัน สำมำรถหำแรงลัพธ์ได้โดยใช้หลักกำรรวมเวกเตอร์
_________________________________________________
 เมื่อแรงลัพธ์มีค่ำเป็ นศูนย์กระทำต่อวัตถุที่หยุดนิ่ง วัตถุนัน้ ก็จะหยุดนิ่ง
________________
ตลอดไป แต่ถ้ำวัตถุเคลื่อนที่ด้วยควำมเร็วคงตัว ก็จะเคลื่อนที่ด้วยควำมเร็ว
_________________________________________________
คงตัวตลอดไป
________________
_________________________________________________
ปฏิบตั ิ : กระบวนกำร
ออกแบบย้อนกลับ
(Knowledge: K) ทักษะกระบวนการ (Psychomotor: P)
และเจตคติ (Attitude: A) เฉพาะวิชาของแตละความคิ
ดรวบ
่
ยอดทีค
่ รูพจ
ิ ารณามา
K
_________________________________________________
_______________
_________________________________________________
บอกควำมหมำยของแรงได้ถกู ต้อง, เขียนสัญลักษณ์แทนแรงได้ถกู ต้อง, เขียนแผนภำพ
________________
แรงที่กระทำต่อวัตถุได้ถกู ต้อP
ง, อธิบำยผลของแรงที่กระทำต่อวัตถุได้ถกู ต้อง
_________________________________________________
ทำงำนกลุ่มร่วมกับผูอ้ ื่นได้อย่ำงมีควำมสุข, ลงสรุป จำกข้อมูลและหลักฐำน,
_______________
จัดกระทำข้อมูลได้
_________________________________________________
ยอมรับฟังควำมคิดเห็นของผูอ้ ื่น, เข้ำร่วมกิจกรรมโดยไม่ต้องบังคับ,
________________
A บผิดชอบในกำรส่งงำน, มีควำมซื่อสัตย์ในกำรทำงำน
ทำงำนร่วมกับผูอ้ ื่นได้, มีควำมรั
_________________________________________________
______________
_________________________________________________
________________
ปฏิบตั ิ : กระบวนกำร
ออกแบบย้อนกลับ
รูปแบบตางๆ
การเขียน/แตงโคลง
กาพย ์ กลอน การ
่
่
ประดิษฐ ์ ฯลฯ ทีเ่ ป็ นทักษะทีป
่ รากฏในหลายวิชาหรือเป็ น
ของวิชาอืน
่
_________________________________________________
________________
_________________________________________________
________________
กระบวนกำรกลุ่ม, กำรนำเสนอผลงำนผ่ำนควำมคิดสร้ำงสรรค์รปู แบบต่ำงๆ,
9. กำนวณทำงคณ
าหนดการแสดงออกของผู
ิ ตศำสตร์
้เรียนทีเ่ ป็ นหลักฐานที่
ทักษะกำรค
แสดงวา่ ผู้เรียนมีความรู้ (Knowledge: K) ทักษะ
กระบวนการ (Psychomotor: P) และเจตคติ (Attitude: A)
ทีค
่ รูต้องการให้เกิดขึน
้ กับผู้เรียน โดยครูตองออกแบบการ
้
ประเมิ
ผลการเรียนรู่กระท
ให
้ ำต่
้เหมาะสม
กำรนน
ำเสนอแผนภำพแรงที
อวัตถุ
K กำรสังเกตกระบวนกำรทำงำนกลุ่ม
_________________________________________________
กำรสังเกตพฤติกรรม
_______________
P
กระบวนกำร
ออกแบบย้อนกลับ
ในการประเมิน ตามสภาพจริง ผู้ สอนจ าเป็ นต้ องมี
เครือ
่ งมือในการให้คะแนนเพื
่ อมูอธิ
บดร.ายความสั
์ ยศรีลของ
ขอขอบคุณข้อ
ลจาก อ.
ชนินนั ท์ พฤกษ์ประมูมล ฤทธิ
มหาวิทยาลัผ
นครินทรวิโรฒ
ผู้เรียน Scoring Rubrics หรือเกณฑการให
้คะแนน เป็ น
์
เครื่อ งมือ ในการให้ คะแนนที่ม ีก ารระบุ เ กณฑ ์ Criteria)
ประเมินชิน
้ งานและคุณภาพของชิน
้ งานในแตละเกณฑ
่
์
ในการสร้ างรู บ ริค เพื่ อ ประเมิน งานแต่ ละชิ้ น ครู
จะต้ องก าหนด ประเด็ น การประเมิ น ให้ ชั ด เจนและ
ครอบคลุมเพือ
่ ให้เกิดความยุตธ
ิ รรมทุกชิน
้ งานและจะมีส่วน
ช่วยให้มาตรฐานของงานชัดเจนยิง่ ขึน
้
การก าหนดประเด็ น การประเมิน อาจเป็ นข้ อตกลง
ระหว่างครูกบ
ั นักเรียนก็ ได้เพือ
่ ให้นักเรียนได้มีส่วนรวมใน
่
การประเมิน
เกณฑ์กำร
ให้คะแนน
ตัวอย่าง: ในการประเมินการพูดเลาเรื
่ ง อาจมีการตกลง
่ อ
กันว่าจะใช้ประเด็ นต่างๆ ได้แก่ การใช้ภาษา Usage)
เ นื้ อ ห า ส า ร ะ Content) ก า ร เ รี ย บ เ รี ย ง เ นื้ อ เ รื่ อ ง
เกณฑ์กำร
ให้คะแนน
รูบริคเป็ นเครือ
่ งมือขอขอบคุ
ทีส
่ ามารถใช
ไดทัง้ กับการสอนและ
ณข้อมูลจาก อ. ดร. ชนิ้ นนั ท์้ พฤกษ์ประมูล มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
การประเมิน เราสามารถใช้รูบริคเพือ
่ พัฒนาหรือปรับปรุง
การปฏิบต
ั งิ านของผู้เรียนได้ สามารถแสดงให้ผู้เรียนเห็ น
ได้อย่างชัดเจนว่าทาอย่างไรจึง จะปฏิบต
ั งิ านได้ตามความ
คาดหวังทีต
่ ง้ั ไว้ ครูผู้สอนสามารถชี้ให้ผู้เรีย นได้รู้ว่าควร
จะทาอยางไรเพื
อ
่ พัฒนาผลงานตนเอง
่
รู บ ริค เป็ นเครื่อ งมือ ที่ม ีป ระโยชน์ ในการช่ วยเหลือ
ผู้เรีย นให้เป็ นผู้ทีส
่ ามารถตัดสิ นคุณภาพชิ้นงานได้อย่างมี
เหตุ ผ ล ทั้ง งานของตนเองและผู้ อื่น การที่นั ก เรีย นได้
เรีย นรู้ ข้ อผิด พลาดของตนเองและผู้ อื่น บ่อย ๆ ช่ วยให้
นักเรียนเกิดความรับผิดชอบในงานของตนเองมากยิง่ ขึน
้
รู บ ริ ค เป็ นเครื่ อ งมื อ ช่ วยลดเวล าที่ ค รู ใ ช้ ในกา ร
ประเมินผลงานของผู้เรียนลงได้ เพราะครูต้องประเมินผล
งานผู้ เรี ย นที ล ะชิ้ น แต่ ถ้ า ใช้ รู บ ริ ค ประเมิ น งานแล้ ว
เกณฑ์กำร
ขั
้น ที่ ค1ะแนน
ก าหนดโครงร่าง คุ ณ ลัก ษณะทีต
่ ้ องการวัด ผล
ให้
โดยอาศั ยประสบการณในการสอนของตนเองว
าการจะผ
าน
่
่
์
ขอขอบคุณข้อมูลจาก อ. ดร. ชนินนั ท์ พฤกษ์ประมูล มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
จุ ด ประสงค การเรี
ย นรู้ จุ ดประสงค หนึ
์
์ ่ ง ควรมีคุ ณ ลัก ษณะ
อยางไรบ
าง
และในแตละลั
กษณะควรมีคุณภาพกีร่ ะดับ
่
้
่
ขั้น ที่ 2 น าคุ ณ ลัก ษณะและระดับ คุ ณ ภาพที่ ต้ องการ
ประเมินชี้แจงแก่นักเรียนและใช้วิธก
ี ารระดมสมองเพือ
่ เพิม
่
หรือตัดบางคุณลักษณะใดควรพิจารณาเหตุผลสนับสนุ นและ
การยอมรับของนักเรียนส่วนใหญ่
ขัน
้ ที่ 3 เมือ
่ ได้ระดับคุ ณลักษณะทีต
่ ้องการวัดแล้ว ต่อมา
คือการสร้างระดับคุณภาพของคุณลักษณะทีต
่ ้องการจะวัด
เกณฑ์กำร
ขั้น ที่ 4 เมื่อ ได้ โครงร่ างอัน ประกอบด้ วยส่ วนส าคัญ 2
ค
ะแนน
สให้
วนคื
อ
คุณลักษณะทีต
่ ้องการวัดและระดับคุณภาพของแต่
่
ขอขอบคุณข้อมูลจาก อ. ดร. ชนินนั ท์ พฤกษ์ประมูล มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ละคุณลักษณะเรียบร้อยแล้ว ให้แสดงโครงรางกั
บนักเรียน
่
เพื่อ ถามความเห็ น หรือ ข้ อเสนอแนะอีก ครั้ง ซึ่ ง นัก เรีย น
อาจจะมีขอเสนอแนะเพื
อ
่ ปรับปรุงกอนน
าไปใช้
้
่
ข้อควรปฏิบต
ั ิ
ครูควรให้โอกาสนักเรียนในการปรับปรุงชิน
้ งานเสมอ
และให้เพือ
่ นช่วยกันประเมินชิ้นงานของกันและกันโดยใช้
รูบ ริค ดัง กล่าว เป้ าหมายทีเ่ พือ
่ ช่ วยประเมินแล้ว ควรให้
นักเรียนไดมี
้ งานดวยเช
้ โอกาสปรับปรุงชิน
้
่ นกัน
เกณฑ์กำร
ให้คะแนน
ประเด็นการ
พิจารณา
ดีมาก
(3)
ดี
(2)
พอใช้
(1)
ปรับปรุง
(0)
น้าหนัก
คะแนน
0.5
ภาพวาด
เครือ
่ งบิน
กระดาษ
ในแผนภาพมีรป
ู
เครือ
่ งบินทีก
่ ลุม
่
ของตนเลือก
พรอมทั
ง้ บอก
้
วิธก
ี ารพับ
ในแผนภาพมีรป
ู
เครือ
่ งบินทีก
่ ลุม
่
ของตนเลือก แต่
ไมบอกวิ
ธก
ี ารพับ
่
ในแผนภาพไมมี
่
หรือไมใช
่ ่ รูป
เครือ
่ งบินทีก
่ ลุม
่
ของตนเลือก แต่
บอกวิธก
ี ารพับ
ในแผนภาพไมมี
่
หรือไมใช
่ ่ รูป
เครือ
่ งบินทีก
่ ลุมของ
่
ตนเลือก และไม่
บอกวิธก
ี ารพับ
การระบุแรงที่
กระทาตอ
่
เครือ
่ งบิน
กระดาษ
ระบุแรงทีก
่ ระทา
ตอเครื
อ
่ งบิน
่
กระดาษไดครบทั
ง้
้
4 แรง
ระบุแรงทีก
่ ระทา
ตอเครื
อ
่ งบิน
่
กระดาษได้ 3
แรง
ระบุแรงทีก
่ ระทา
ตอเครื
อ
่ งบิน
่
กระดาษได้ 2
แรง
ระบุแรงทีก
่ ระทาตอ
่
เครือ
่ งบินกระดาษ
ได้ 1 แรง
ความคิด
สรางสรรค
้
์
มีการใช้สี มากกวา่
5 สี และวาด
ภาพประกอบดวย
้
ลายมือตนเอง
มีการใช้สี น้อย
กวา่ 5 สี และ
วาดภาพประกอบ
ดวยลายมื
อ
้
ตนเอง
มีการใช้สี
มากกวา่ 5 สี
แตไม
่ ได
่ วาด
้
ภาพประกอบดวย
้
ลายมือตนเอง
มีการใช้สี น้อยกวา่
5 สี และไมได
่ วาด
้
ภาพประกอบดวย
้
ลายมือตนเอง
1
0.5
น้ า หนัก คะแนนใช
่อนประเมิ
น ผลในรู
ป ตัว เลข เช่ นนาเสนอแรงที
ครู กาหนดผลงาน
้ ก าหนดเพื
นาเสนอแรงที
่
าเสนอแรงที่
นาเสนอแรงที่
่
แผนภาพแรงของเครื
่อ งบิน กระดาษพั
บ โดยให
ม ชิาต
้น งานนี
้ นคือ 9
กระทาตอ
กระทาตอ
กระทาต้ คะแนนเต็
อ
กระท
อเครื
อ
่ งบิ
่
่
่
่
คะแนน และแบ
าคัญเครื
ของการระบุ
แรงที
่ งบิระท
ถุ และการน
าเสนอ
เครือ
่ ่งความส
งบินกระดาษ
อ
่ งบิน
เครือ
่ก
น าตอวั
1
่ ตกระดาษได
้ 1 แรง
การนาเสนอ
กระบวนกำร
10. จัดกลุมหลั
กฐานการแสดงออกของผู้เรียนให้
่
เหมาะสมก
อนน
าไปจัดอ
กินกลั
จกรรมการเรี
ยนรูให
ออกแบบย้
บ
่
้ ้กับผู้เรียน โดย
ไมควรใหผูเรียนทางานซาซอนหรือมีภาระงานทีม
่ ากจนเกินไป
้ ้
้ ้
11. ออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 5Es, TGT,
4MAT… etc.
่
ปฏิบตั ิ : กระบวนกำร
ออกแบบย้อนกลับ
1. กาหนดชือ
่ หน่วยการเรียนรู้/จัดทาหน่วยการเรีย5.
นรูก้ าหนดความคิดรวบยอดหลักทีส
่ า
6. กาหนด
K PA
ทีส
่ อดคลอง
้
กับข้อ 3 4
และ 5
8. กาหนดทักษะครอมวิ
ชา
่
2. ตัง้ คาถามสาคัญ
3. กาหนดความเขาใจที
ค
่ งทนของหน่วยการเรียนรู้
้
9. กาหนดการแสดงออก
ปฏิบตั ิ : กระบวนกำร
ออกแบบย้อนกลับ
Rubric Score
ปฏิบตั ิ : กระบวนกำร
ออกแบบย้อนกลับ
ซักถามและขอเสนอแนะ
้
ครัง้ ที่ 2
pound1983.wordpress.c
om
ปฏิบตั ิ : กระบวนกำร
ออกแบบย้
นกลั
บ3-4 คน
 แบงกลุ
ม
มละ
่
่ อกลุ
่
(กลุมเดิ
่ ม)
มช
 แตละกลุ
่ ่ วยกันวิพากษหน
่
์ ่ วยการ
เรียนรูที
้ ไ่ ดรั
้ บวาใช
่
้การออกแบบตาม
หลักการออกแบบยอนกลั
บหรือไม่
้
อยางไร
่
 นาเสนอผานผั
งความคิด หน้าชัน
้
่
กลุมละ
2 นาที
่
 มีเวลา 20 นาที กอนน
าเสนอ
่
ปฏิบตั ิ : กระบวนกำร
ออกแบบย้อนกลับ
กำรประเมินแบบเดิม
กำรประเมินตำมสภำพจริง
(Traditional Assessment)
(Authentic Assessment)
เน้นพฤติกรรม
แยกการเรียนการสอบออกจากกัน
เน้นพฤติกรรมทีเ่ ป็ นความซับซ้อนและวิธกี ารในการเรียนรู้
ไม่แยกการเรียนและการสอบออกจากกัน เปิดโอกาสให้การ
เรียนรูด้ าเนินไปอย่างต่อเนื่อง
วัดได้ในวงจากัด
วัดได้อย่างกว้างขวาง
เชือ่ ในตัวเลข (Number) ทีไ่ ด้จากการสอบ
เชือ่ ในคา (Word) ทีเ่ ขียนบรรยาย
ดึงการวัดออกจากบริบทของการเรียนการสอน
การวัดถือเป็ นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอน
ครูเปรียบเสมือนผูป้ ระเมินภายนอก
ครูเป็ นส่วนหนึ่งของการสอบ
เชือ่ ในการให้ผอู้ น่ื เป็ นผูป้ ระเมิน
เชือ่ ในการประเมินตนเอง
มีเกณฑ์มาตรฐานเพือ่ บ่งบอกความสาเร็จ
มีเกณฑ์หลากหลายตามสภาพเพือ่ บ่งบอกความสาเร็จ
เน้นการประเมินโดยแยกทักษะ
เน้นการประเมินโดยบูรณาการทักษะ
เป็ นรายวิชา
เป็ นสหวิทยาการ
ปฏิบตั ิ : กระบวนกำร
ออกแบบย้
 แตละกลุ
มออกแบบหน
่
่ อนกลับ ่ วยการเรียนรู้
บทีว่ พ
ิ ากษ์ หรือ
โดยปรับจากตนฉบั
้
พัฒนาใหมก็
่ ได ้
 เขียนแผนการจัดการเรียนรู้ ตาม
หน่วยการเรียนรูที
้ ไ่ ดออกแบบไว
้
้ จานวน
1 แผน
 นาเสนอตัวอยางกิ
จกรรม ตามการถูก
่
จับสลาก กลุมละ
15 นาที (หลังพัก)
่
 มีเวลา 60 นาที กอนน
าเสนอ
่
ซักถามและขอเสนอแนะ
้
ครัง้ ที่ 3
แหล่งข้อมูล
ิ่ มเต
ิ
เพเดชกุ
ม
ล มัทวานุ กุล. (ม.ป.ป.). การออกแบบหนวยการ
่
เรียนรูแบบย
้
้อนกลับ (Backward Design).
http://graduate2.srru.ac.th/curr2556/backwar
d.pdf
นายสุเมธ
พรมสี ดา. (ม.ป.ป.). ทาอยางไรให
่
้เขาถึ
้ ง
แกนแท
ของ
Backward Design .
่
้
http://www.kroobannok.com/blog/49159
http://www.krupai.net/backward.htm