ฟิสิกส์พื้นฐาน-แรงและสนามของแรง

Download Report

Transcript ฟิสิกส์พื้นฐาน-แรงและสนามของแรง

แรงและสนามของ
แรง
้
วิทยาศาสตร ์พืนฐาน
1
อ.มรกต
แสนกุล
Force (แรง) คือปริมาณทีก่ ระทาต่อวัตถุแล ้วทาให ้
วัตถุเปลีย
่ นแปลง
จากสภาพเดิม คือเปลีย
่ นรูปร่าง หรือเปลีย
่ นแปลงการ
เคลือ
่ นที่
เป็ นปริมาณเวกเตอร์ มีหน่วยเป็ น นิวตัน (N)
้
แรงนี อาจจะสั
มผัสกับวัตถุหรือไม่สม
ั ผัสกับวัตถุก็ไ้
่ มผัสวัตถุไ้แก่ แรง้ึง แรงผลัก และแรงยก แรงเสีย้ทาน
แรงทีสั
แรงยื้หยุ่น
้
้ วของวัตถุ
แรงพวกนี กระท
าบนพืนผิ
ั ผัสกับวัตถุ ไ้แก่ 1.แรงแม่เหล็ก 2.แรงทาง
แรงทีไ่ ม่สม
ไฟฟา 3.แรงโน ้มถ่วง
จะไม่กระทาบนผิวของวัตถุ แต่กระทากับเนือ
้ ของวัตถุ
่ น้ าหนักของวัตถุ ก็คอ
ทุกตาแหน่ง เชน
ื แรงดึงดูดของ
ั ผัสกับผิวของวัตถุ
โลกทีก
่ ระทากับวัตถุโดยไม่ต ้องสม
เลย
เราเรียกแรงประเภทนี ว่้ า แรงสนาม หรือ สนามของแรง
่
(field force) กล่าวคือวัตถุจะไ้ร ับแรงเมืออยู
ใ่ นสนาม
้ านั้น
เหล่านี เท่
Field (สนาม)
่ านาจของแรงส่งไป
สนามของแรงคือบริเวณทีอ
ถึง แบ่งสนามของแรงได้เป็ น 3 ประเภท
1. สนามโน้มถ่วง (gravitational field)
2. สนามแม่เหล็ก (magnetic field)
3. สนามไฟฟ้า (electric field)
สนามโน้มถ่วง
สนามโน้มถ่วง
m
Fg = m g
g
g
g
ปริมาณที่
ั พันธ์กบ
สม
ั
ขนาดของ
สนามของ
แรง
แรง
โลก
5
สนามโน้มถ่วง
้
วัตถุเคลือ
่ นทีต
่ ามเสนทาง
E ได ้ด ้วยความเร็วหลุดพ ้น
(11.2 km/s)
แม่เหล็ก
้ั
้
้
้
แม่เหล็กจะมีขวสองขั
วเสมอ
คือ ขัวเหนื
อ (N) และขัวใต้
(S)
่ าแม่เหล็กสองชินมา
้
้
โ้ยเมือน
เขาใกลกัน ขัวเหมื
อนกันจะ
้ างกัน จะ้ึงู้้กัน เราเรียกแรงเนื่ องจาก
ผลักกัน ขัวต่
แม่เหล็กนี ว่้ า แรงแม่เหล็ก (magnetic force)
่ น
แม่เหล็กสามารถออกแรงกระทาซึงกั
และกันไ้ทันทีโ้ยไม่ตองอาศัยตัวกลางใ้ๆ
สนามแม่เหล็ก
หมายถึง บริเวณโดยรอบแท่งแม่เหล็ก หรือวัตถุ
่ สภาพเป็ นแม่เหล็ก
ทีมี
่ อานาจทางแม่เหล็กส่งไปถึง มี 2
ทีมี
ประเภท
1.สนามแม่เหล็กจากแม่เหล็กถาวร
2.สนามแม่เหล็กจากแม่เหล็กไฟฟ้า
สนามแม่เหล็กจากแม่เหล็กถาวร
้
แม่เหล็กขัวเหมื
อนกน
ั จะผลักกน
ั
้ างก ันจะดู ดก ัน
แม่เหล็กขัวต่
โดเมนแม่เหล็ก
การทาลายอานาจแม่เหล็ก
คือการทาให้โดเมนแม่เหล็กเรียง
ตัวอย่างไม่มรี ะเบียบ
มี 3 วิธ ี
1.การทุบ
2.การเผา
3.การใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ
่
สนามแม่เหล็กจากเส้นลวดทีมี
กระแสไฟฟ้าไหล
ฮันส ์ คริสเตียน เออร ์สเตด
ฮันส ์ คริสเทียน เออร ์สเตด
(Hans Christian Ørsted, 14
สิงหาคม พ.ศ. 2320 – 9
มีนาคม พ.ศ. 2394) เป็ นนัก
ฟิ สิกส ์และนักเคมีชาว
เดนมาร ์ก เป็ นผู ค
้ น
้ พบ
ความสัมพันธ ์ระหว่างไฟฟ้า
และความเป็ นแม่เหล็ก หรือที่
เรียกว่า ทฤษฎีแม่เหล็กไฟฟ้า
สนามแม่เหล็กจากแม่เหล็กไฟฟ้า เป็ นไป
ตามกฎมือขวา
กฎมือขวากล่าวว่า
้ วแม่มอ
้
“ ถ้ากาเส้นลวดให้นิวหั
ศ
ื ชีไปตามทิ
้ งสี
้ จะแสดงทิ
่
การไหลของกระแสไฟฟ้า นิ วทั
ศ
่ ดขึน”
้
ของสนามแม่เหล็กทีเกิ
่
กฎมือขวาโดยทัวไป
แสดงทิศ สนามแม่เหล็ก แรง และ
กระแสไฟฟ้า
ขดลวดโซลิ
นอยด ์
่
การใช้กฎมือขวา พิจารณาแรงทีกระท
า
่ กระแสไฟฟ้าไหลและอยู ่ใน
ต่อลวดทีมี
่ สนามแม่เหล็ก
บริเวณทีมี
้ วแม่มอ
- นิ วหั
ื
แทนทิศของ F
้ ้ แทนทิศ
- นิ วชี
ของ I
้
- นิ วกลาง
แทนทิศ
ของ B
้ วแม่มอ
ื แทนทิศ
- นิ วหั
ของ F
้ งสี
้ ่ แทน
- ปลายนิ วทั
ทิศของ I
สาคัญมาก
นะคร ับ
่
่
การใช้กฎมือขวา พิจารณาการเคลือนที
่
่
่ าไปใน
ประจุบวก ทีเคลื
อนที
เข้
สนามแม่เหล็ก
หรือ ใช้อก
ี วิธห
ี นึ่ ง ใช
้ วแม่มอ
- นิ วหั
ื แทนทิศ
ของ F
้ งสี
้ ่ แทน
- ปลายนิ วทั
ทิศของ V
้ ้ ่
้ วแม่มอ
- นิ วหั
ื
แทนทิศของ F
้ ้ แทนทิศ
- นิ วชี
ของ V
้
- นิ วกลาง
แทนทิศ
B
** ในกรณี ทของ
เป็
ี่ นประจุไฟฟ
้า
ลบเราก็จะต้องกลับทิศทาง F
ไปอีก 180 องศา
ทิศ
สนามแม่เหล็ก
พุ่งเข้า
ทิศสนามแม่เหล็ก
พุ่งออก
สนามแม่เหล็กสมา่ เสมอ
ถ้าเส้นลวดสองเส้นมีกระแสฟ้าไหลไปทาง
เดียวกัน จะดู ดกัน
ถ้าเส้นลวดสองเส้นมีกระแสฟ้าไหลสวน
ทางกัน จะผลักกัน
่
ประจุไฟฟ้าทีวางอยู
่ในสนามแม่เหล็ก
สนามแม่เหล็กไม่สง่ ผลใดๆ ต่อ
ประจุไฟฟ้า
่
่
่ าไปใน
ประจุไฟฟ้าทีเคลื
อนที
เข้
สนามแม่เหล็ก
ประจุไฟฟ้าจะถูกแรงแม่เหล็กกระทาให้
่
ศทาง
เบียงเบนทิ
้ ขึ
้ นอยู
้
ทังนี
่ก ับขนาดและทิศของความเร็ว
่
่
่ าไปใน
ประจุไฟฟ้าทีเคลื
อนที
เข้
สนามแม่เหล็ก
F=
qvBsinθ
ฟลักซ ์แม่เหล็ก (magnetic flux)
่ ่งผ่านพืนที
้ ใด
่ ๆ
คือจานวนเส้นแรงแม่เหล็กทีพุ
เป็ นปริมาณสเกลาร ์ มห
ี น่ วยเป็ น เวเบอร ์ (Wb)
่
้ั
่ ฟลักซ ์แม่เหล็ก
ยิงใกล้
ขวแม่
เหล็กจะยิงมี
หนาแน่ น
่
่ างจากขัวแม่
้
จะยิงเบาบางเมื
อห่
เหล็ก
่
เครืองก
าเนิ ดไฟฟ้า โดย ไมเคิล ฟาราเดย ์
หลักก
าร
่
การกาเนิ ้แรงเคลือนไฟฟ
าโ้ยวิธก
ี ารของ
สนามแม่เหล็กตั้ผ่านข้ลว้มีหลักการ คือ ให
่ วหาพลังงานกลมาขับให
ข้ลว้ลว้ตัวนาอยูก
่ บ
ั ทีแล
สนามแม่เหล็กตั้ผ่านข้ลว้ตัวนาทาใหไ้
่
้ ข้ลว้ตั
่
แรงเคลือนไฟฟ
าเหนี่ ยวเกิ้ขึนที
วนานี ้
่
เครืองก
าเนิ ดไฟฟ้ากระแสตรง
่
เครืองก
าเนิ ดไฟฟ้ากระแสสลับ
หม้อแปลงไฟฟ้า
ขวดลวดในหม้อ
แปลง
ความสัมพันธ ์ของแรงด ันไฟฟ้ากับ
จานวนขดลวด
ประโยชน์
ของ
สนามแม่เหล็
ก
มอเตอร ์ไฟฟ้ากระแสตรง
มอเตอร ์ไฟฟ้ากระแสสลับ
ลาอิเล็กตรอนในหลอดร ังสีแคโทด ถู ก
่
เบียงเบน
่
การเบียงเบนล
าอิเล็กตรอนในจอโทรทัศน์
จอคอมพิวเตอร ์
ออดไฟฟ้า แผ่นโลหะจะถูกู้้โ้ยแม่เหล็กไฟฟา ทาใหจุ้
่ ามายังแม่เหล็กไฟฟาหยุ้ไหล
สัมผัสแยกออก มีผลใหกระแสทีเข
้ นนี เรื
้ อยๆ
่
้ังนั้นแผ่นโลหะจึง้ี้กลับ เกิ้ขึนเช่
มีผลใหแผ่น
่ ้เสียงออ้ขึน้
โลหะสันเกิ
่
่
ปั้ นจันแม่
เหล็ก ใชสาหร ับู้้เศษเหล็กจากเศษโลหะอืนๆ
่ องการใชก็เปิ ้สวิทช ์ ทาใหเหล็กทีเป็
่ นแกนของข้ลว้
เมือต
่ เสร็จก็ปิ้สวิทช ์ แกน
เป็ นแม่เหล็กู้้เศษเหล็กไ้ และเมือใช
เหล็กก็จะไม่เป็ นแม่เหล็ก ปล่อยเศษเหล็กใหหลุ้ลงมา
หู ฟัง เสียง ใชแม่เหล็กถาวรู้้แผ่นไ้อะแฟรม ความแรงของ
่
่
แรง้ึงู้้เปลียนไปตามการเปลี
ยนแปลงกระแสไฟฟ
าในข้ลว้
่ าใหเกิ้เสียง
แม่เหล็กไฟฟา แผ่นไ้อะแฟรมจะสันท
ความเร็วสู ง
่
เป็ นรถไฟทีมี
แม่เหล็กไฟฟ้าติด
อยู ่ขา้ งใต้ซงึ่
่
่ ไปบน
เคลือนที
่
รางทีมี
แม่เหล็กไฟฟ้า
แม่เหล็กผลักซึง่
ก ันและก ันทาให้
รถไฟลอยเหนื อ
ราง เป็ นการลด
แรงเสียดทาน
ระหว่างรถไฟและ
ราง ทาให้
แบบทดสอบ สนามแม่เหล็ก
1. โดยปกติเข็มทิศจะวางตัวตามแนวทิศ
่ าเข็มทิศมาวางใกล้ๆ กับ
เหนื อ-ใต้ เมือน
่
่ าแหน่ งด ังรู ป เข็ม
กึงกลางแท่
งแม่เหล็กทีต
้
ทิศจะชีในลั
กษณะใด
่
2.วางลวดไว้ในสนามแม่เหล็กด ังรู ป เมือให้
กระแสไฟฟ้าเข้าไปใน
เส้นลวดต ัวนาจะเกิดแรงเนื่องจาก
สนามแม่เหล็กกระทาต่อลวดนี ้
ในทิศทางใด
1. ไปทางซ ้าย (เข้าหา N) 2. ไปทางขวา
(เข้าหา S)
้ านบน
3. ลงข้างล่าง
4. ขึนด้
่
่ าไปในทิศ
3. อนุ ภาคโปรตอนเคลือนที
เข้
ขนานกับสนามแม่เหล็ก
่ ทศ
ซึงมี
ิ พุ่งเข้ากระดาษ แนวการ
่
่
เคลือนที
ของอนุ
ภาคโปรตอน
เป็ นอย่างไร
ตัว
่ อไปเป็ นเส้นตรงด้วยความเร็วคง
1. วิงต่
2. เบนไปทางขวา
3. เบนไปทางซ ้าย
่ อไปเป็ นส้นตรงและถอยหลังกลับ
4. วิงต่
่ ด
ในทีสุ
4.จากแผนภาพแสดงลักษณะของเส้น
่ ดจากแท่งแม่เหล็กสองแท่ง
สนามแม่เหล็กทีเกิ
้
่ าแหน่ ง
ข้อใดบอกถึงขัวแม่
เหล็กทีต
A , B , C และ D ได้ถูกต้อง
้
1. A และ C เป็ นขัวเหนื
อ
้
D เป็ นขัวใต้
้
2. A และ D เป็ นขัวเหนื
อ
้
C เป็ นขัวใต้
้
3. B และ C เป็ นขัวเหนื
อ
้
D เป็ นขัวใต้
้
4. B และ D เป็ นขัวเหนื
อ
้
C เป็ นขัวใต้
B และ
B และ
A และ
A และ
่ ABCD เป็ นบริเวณที่
่ ยม
่ เหลี
้ สี
5.บริเวณพืนที
่ ทศ
มีสนามแม่เหล็กสม่าเสมอซึงมี
ิ พุ่งออกตัง้
้ ท
่ าให
ฉากกับกระ้าษ้ังรูป ขอใ้ต่อไปนี ที
่
่
อนุ ภาคโปรตอนเคลือนที
เบนเข
าหา้าน AB
ไ้
1. ยิงอนุ ภาคโปรตอนเขาไปในบริเวณ จากทาง้าน AD ใน
้
ทิศตังฉากกั
บเสน AD
2. ยิงอนุ ภาคโปรตอนเขาไปในบริเวณ จากทาง้าน BC ใน
้
ทิศตังฉากกั
บเสน BC
3. ยิงอนุ ภาคโปรตอนเขาไปในบริเวณ จากทาง้าน AD ใน
้
ทิศตังฉากกั
บเสน AC
4. ยิงอนุ ภาคโปรตอนเขาไปในบริเวณ จากทาง้าน DC ใน
้
ทิศตังฉากกั
บเสน DB
้
6.วางเข็มทิศอันหนึ่ งบนโต๊ะ เข็มทิศชีขึ้ นในลั
กษณะ้ัง
ถานาประจุบวกไปวางไวทาง้านซายของเข็มทิศ จะเก
้
้
1. เข็มทิศชีไปทางขวา
2. เข็มทิศชีไปทางซ
าย
้
้
3. เข็มทิศชีลง
4. เข็มทิศชีทางเ้ิ
ม
สนามไฟ
ฟ้า
Benjamin Franklin
ึ ษา ปรากฏการณ์ทาง
ศก
ธรรมชาติคอ
ื ฟ้ าแลบ ฟ้ า
ร ้อง และฟ้ าผ่า
ใชว่้ าวกับแผ่นทองแดงไปล่อ
ฟ้ าผ่านัน
้ เอง ทาให ้เรารู ้ว่า
ฟ้ าผ่าเป็ นปรากฎการณ์ทเี่ กิด
จากการไหลของประจุไฟฟ้ า
ั ย์ไฟฟ้ าสูงไปยังทีๆ่
จากทีๆ่ มีศก
ั ย์ไฟฟ้ าตา่
มีศก
การทาให้ว ัตถุมก
ี าร
่
้า
เปลียนแปลงประจุไฟฟ
การ
ถู
บัญชีของว ัตถุทท
ี่ าให้เกิดไฟฟ้าสถิตโดยการ
ขัดสีไว้
1.ขนสัตว ์
11.แก้วผิวขรุขระ
2.ขนแกะหรือสักหลาด
12.ผิวหนัง
3.ไม้
13.โลหะต่างๆ
4.เชลแลค (shellac)
14.ยางอินเดีย (India
rubber)
15.อาพัน
5.ยางสน
6.ครง่ ั
16.กามะถัน
้
7.แก้วผิวเกลียง
(ebonite)
17.อิโบไนต ์
8.ผ้าฝ้าย หรือสาลี
18.ยาง Gutta-perchta
9.กระดาษ
าแพร
่ 19.ผ้
* ลาดับน้อยกว่า เมือถู
ก ันจะแสดง
Amalgamated
การถ่ายเท
การเหนี่ ยวนา
อุปกรณ์ตรวจสอบประจุฟ้า
66
สนามไฟฟ้า
สนามไฟฟ้ า
E
ปริมาณที่
ั พันธ์กบ
สม
ั
FE = q E ขนาดของFE = q E
+q
แรง
สนามของ E
+
แรง
+q
แรงระหว่างประจุ ส่งถึงกันโดยตรง อย่าง
ทันทีทน
ั ใดทันที ?!
67
68
ประจุทดสอบจะต้องมีคา
่ ไม่มากเกินไป
จนไปรบกวนประจุทก่
ี่ อให้เกิด
สนามไฟฟ้า
69
สนามไฟฟ้ าจากจุดประจุ
70
สนามไฟฟ้ าจากจุดประจุ
71
สนามไฟฟ้ าจากจุดประจุ
72
้
เสนแรงไฟฟ้
า
73
้
เสนแรง
ไฟฟ้ า
74
้
เสนแรงไฟฟ้
า
75
้
เสนแรงไฟฟ้
าสมา่ เสมอ
76
จุดประจุในสนามไฟฟ้ า
77
จุดประจุในสนามไฟฟ้ า
78
การทดลองวัดค่าประจุมล
ู ฐาน
79
การทดลองวัดค่าประจุมล
ู ฐาน
R. A. Millikan,
1868-1953
่
่
การเคลือนที
ของอนุ
ภาคใน
สนามไฟฟ้าสม่าเสมอ
่
่
การเคลือนที
ของอนุ
ภาคใน
สนามไฟฟ้าสม่าเสมอ
่
่
้ั
การเคลือนที
ในทิ
ศตงฉากก
ับ
สนามไฟฟ้า
ประโยชน์ของ
ไฟฟ้าสถิต
การพ่นสี พ่นปุ๋ ย
สายล่อ
ฟ้า
่
เครืองถ่
ายเอกสาร
แรงยืดหยุ่น
่
่
คือแรงทีกระท
าต่อวัตถุแล้ววัตถุเปลียน
่
รู ปร่างไป เมือหยุ
ดแรงกระทาวัตถุจะ
กลับคืนสภาพเดิม (elasticity)
กฎของฮุค
(Hooke’s
law)
แรงยืดหยุ่นในสปริงแปรผันตรงกับระยะ
ยืดหรือหดของสปริงในช่วงระยะยืดของ
่ เกินขีดจากัดของความ
สปริงทีไม่
ยืดหยุ่น
Fα
X
F=
แรงลอยตัว (Buoyant
Force)
่ ตถุอยู ่ในของเหลวจะเกิดแรงดัน
เมือวั
ของของเหลวพยายามยกตัววัตถุขนสู
ึ้ ่
ผิวหน้าของของเหลว เรียกว่า แรง
ลอยตัว
่
* เปลียนไปตามรู
ปร่างของวัตถุ
* ไม่ขนกั
ึ ้ บความลึกของน้ า
แรงลอยตัว
หลักของอาร ์คีมด
ิ ส
ี
่
“แรงลอยตัวทีกระท
าบนวัตถุ
เท่ากับ
่ ก
น้ าหนักของของเหลวทีถู
่
้ั
แทนทีโดยวั
ตถุนน”
แรงเสียดทาน (frictional
force)
คือ แรงระหว่างผิวสัมผัสกับวัตถุ ที่
่
่ านกัน เกิดขึนได้
้
เคลือนที
ผ่
ก ับวัตถุทุก
สถานะ
ปั จจัยต่อแรงเสียด
ทาน
1. มวล
้ วสัมผัส
2. ชนิ ดพืนผิ
*ดอกยาง ช่วยลด
่
ความลืน
่
หรือเพิมแรง
่ ทศ
7. จุ้ A และ B อยู่ภายในสนามไฟฟาทีมี
ิ ตาม
ตัวอย่
างงข้
ออใ้ต่
สอบอไปนี
O-NET
้ กตอง
ลูกศร้ั
รูป ข
ถู
ไปที่ B
่
่
1. วางประจุลบที่ A ประจุลบจะเคลือนที
2. วางประจุบวกที่ B ประจุบวกจะ
่
่
่A
เคลือนที
ไปที
3. สนามไฟฟาที่ A สูงกว่าสนามไฟฟา
ที่ B
4. สนามไฟฟาที่ A มีคา่ เท่ากับ
ให้เกิดประจุไฟฟ้าโดย
่ ผลดังนี ้ A และ B ผลักกัน
การถู ซึงได้
ส่วน A และ C ดู ดกัน
้ กต้อง
ข้อใดต่อไปนี ถู
1. A และ C มีประจุบวก แต่ B มี
ประจุลบ
2. B และ C มีประจุลบ แต่ A มีประจุ
บวก
3. A และ B มีประจุบวก แต่ C มี
ประจุลบ
4. A และ C มีประจุลบ แต่ B มี
ประจุบวก
่
9.วางอนุ ภาคอิเล็กตรอนในบริเวณซึงมี
่ ทศ
เฉพาะสนามไฟฟ้าทีมี
ิ ไป
ทางขวาดังรู ป อนุ ภาคอิเล็กตรอนจะมีการ
่
่ นไปตาม
เคลือนที
เป็
ข้อใด
่
่ นเส้นโค้ง เบนขึนข้
้ างบน
1. เคลือนที
เป็
่
่ นเส้นโค้ง เบนลงข้างล่าง
2. เคลือนที
เป็
่
่ นเส้นตรงขนานกับ
3. เคลือนที
เป็
สนามไฟฟ้า ไปทางขวา
่
่ นเส้นตรงขนานกับ
4. เคลือนที
เป็
สนามไฟฟ้า ไปทางซ ้าย
10. อนุ ภาคโปรตอน อิเล็กตรอน และ
นิ วตรอน อนุ ภาคใน
่ อน
่ าไปวางในสนามไฟฟ้า
ข้อใดทีเมื
แล้วจะมีแรงไฟฟ้า
กระทา
1. นิ วตรอน
2. โปรตอนและนิ วตรอน
3. โปรตอนและอิเล็กตรอน
4. โปรตอน อิเล็กตรอน และ
นิ วตรอน
่
่
ของ
11.ในรู ปซ ้าย A และ B คือเส้นทางการเคลือนที
่ กยิงมาจากจุด P ไปทางขวาเข้าไป
อนุ ภาค 2 อนุ ภาคทีถู
่ สนามแม่เหล็ก (ดู รูปซ ้าย) ถ้านาอนุ ภาคทัง้
ในบริเวณทีมี
่ สนามไฟฟ้าดังรู ปขวา จะเกิด
สองไปวางลงในบริเวณทีมี
้ (ด แทนสนามแม่เหล็กทีมี
่ ทศ
้
อะไรขึน
ิ พุ่งเข้าและตังฉาก
กับกระดาษ)
่
่
1. A เคลือนที
ไปทางขวา
ส่วน B
่
่
เคลือนที
ไปทางซ
้าย
่
่
2. A เคลือนที
ไปทางซ
้าย ส่วน B
่
่
เคลือนที
ไปทางขวา
่
่
3. ทัง้ A และ B ต่างก็เคลือนที
ไป
ทางขวา
4. ทัง้ A และ B ต่างก็อยู ่นิ่งก ับที่
12.ยิงอนุ ภาคอิเล็กตรอนเข้าไปใน
้
่ ทศ
แนวตังฉากกั
บสนามไฟฟ้าสม่าเสมอทีมี
ิ
่
่
พุ่งออกจากกระดาษเส้นทางการเคลือนที
ของอิเล็กตรอนจะเป็ นอย่างไร (g แทนทิศ
้
สนามไฟฟ้าพุ่งออกและตังฉากกั
บกระดาษ)
้
1. เบนขึน
2. เบนลง
3. เบนพุ่งออกจากกระดาษ
4. เบนพุ่งเข้าหากระดาษ