ชุดกิจกรรมที่ 1 เริ่มก้าวแรกกับ

Download Report

Transcript ชุดกิจกรรมที่ 1 เริ่มก้าวแรกกับ

ชุดกิจกรรมการเรียนรูเรื
่ ง
้ อ
จุดประกายกับโครงงานวิทยาศาสตร ์
จัดทาขึน
้ เพือ
่ ใช้
ประกอบการเรียนการสอนทีเ่ น้นผูเรี
้ ยนเป็ นสาคัญ รายวิชา
วิทยาศาสตรเพิ
่ เติม
รหัสวิชา
ว 20202
์ ม
ชุดกิจกรรมการเรียนรูเป็
าใจ
การ
้ นสื่ อกลางให้เกิดความรูความเข
้
้
ปฏิสัมพันธภายในกลุ
ม
์
่ ส่งเสริมความ สามารถในการคิด
แกปั
กเรียนอยางมี
้ ญหา และกระบวนการทางานเป็ นกลุมของนั
่
่
ความสุข สนุ กสนาน
ในการสรางโครงงานวิ
ทยาศาสตร ์
ซึ่งจะช่วยพัฒนา
้
ความสามารถของนักเรียนอยางเต็
มศักยภาพ มีทง้ั หมด
จานวน
่
11 ชุด ดังนี้
ชุดกิจกรรมการเรียนรูชุ
เรือ
่ ง
้ ดที่ 1
เริม
่ กาวแรกกั
บ..กระบวนการสื บเสาะแสวงหาความรูทาง
้
้
วิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
์
ชุดกิจกรรมการเรียนรูชุ
2
เรือ
่ ง
้ ดที่
ความหมายและองคประกอบโครงงานวิ
ทยาศาสตร ์
์
ชุดกิจกรรมการเรียนรูชุ
เรือ
่ ง
คุณคาของ
้ ดที่ 3
่
กิจกรรมโครงงานวิทยาศาสตร ์
ชุดกิจกรรมการเรียนรูชุ
เรือ
่ ง
ประเภทของ
้ ดที่ 4
โครงงานวิทยาศาสตร ์
ชุดกิจกรรมการเรียนรูชุ
เรือ
่ ง
ขัน
้ ตอนการทา
้ ดที่ 5
โครงงานวิทยาศาสตร ์
ชุดกิจกรรมการเรียนรูชุ
เรือ
่ ง
การสารวจและ
้ ดที่ 6
เลือกเรือ
่ งทาโครงงาน
ชุดกิจกรรมการเรียนรูชุ
เรือ
่ ง
การศึ กษา
้ ดที่ 7
เอกสารหรือแหลงเรี
่ วกับโครงงาน
่ ยนรูที
้ เ่ กีย
วิทยาศาสตร ์
ชุดกิจกรรมการเรียนรูชุ
้ ดที่ 8
เรือ
่ ง
การออกแบบการ
เรือ
่ ง
คานา
หน้า
ก
สารบัญ
ข
คูมื
่ อครู
ค
คูมื
่ อนักเรียน
ฌ
กิจกรรมที่
1 ทดสอบกอนเรี
ยน
่
- แบบทดสอบกอนเรี
ยน
่
2
กิจกรรมที่ 2 ศึ กษาบัตรเนือ
้ หาความรู้
เทคโนโลยี
- กระบวนการสื บเสาะแสวงหาความรู้ทางวิทยาศาสตรและ
์
- ทักษะการคิดและลักษณะการคิดทีเ่ กีย
่ วของกั
บกระบวนการ
้
คิดแบบวิทยาศาสตร ์
กิจกรรมที่ 3
18
ปฏิบต
ั ก
ิ จ
ิ กรรม
- กิจกรรม 1.1 เรือ
่ ง พินจ
ิ เหตุและผล
22
- กิจกรรม 1.2 เรือ
่ ง ตาไวไดฝึ
้ ก
23
- กิจกรรม 1.3 เรือ
่ ง กาวแรกของนั
กวิทยาศาสตร ์
้
25
- กิจกรรม 1.4 เรือ
่ ง เขาใจทั
กษะวิทยาศาสตร ์
้
26
กิจกรรมที่ 4 ฝึ กคิดกับวิทยาศาสตร ์
- กิจกรรม เริม
่ ตนกั
้ บลับคมความคิด
กิจกรรมที่
6
28
5 ทดสอบหลังเรียน
- แบบทดสอบหลังเรียน
31
ภาคผนวก
34
บรรณานุ กรม
42
ค
คูมื
่ อ
ครูเรื
ชุดกิจกรรมการเรียนรู
่ ง
้ อ
จุดประกายกับ
โครงงานวิทยาศาสตร ์
วิชาวิทยาศาสตรเพิ
่ เติม (ว 20202) ชัน
้
์ ม
ษาปี
่ 1
ชุดที่ 1มัธเรืยมศึ
อ
่ ง กเริ
ม
่ กที
้าวแรกกับ...
กระบวนการสื บเสาะแสวงหาความรูทาง
้
วิทยาศาสตร ์ และเทคโนโลยี
คาชีแ
้ จงสาหรับค
1.
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรือ
่ ง จุด
ประกายกับโครงงานวิทยาศาสตร ์ ชุดที่ 1
เรือ
่ ง เริม
่ ก้าวแรกกับ...กระบวนการสื บเสาะ
แสวงหาความรูทางวิ
ทยาศาสตร ์ และ
้
เทคโนโลยี
วิชาวิทยาศาสตรเพิ
่ เติม (ว
์ ม
20202) ชัน
้ มัธยมศึ กษาปี ท ี่ 1 มีแผนการ
จัดการเรียนรูจ
1 แผน เวลาเรียน 2
้ านวน
ชัว
่ โมง
2. ผู้สอนควรศึ กษาเนื้อหาทีจ
่ ะสอนโดย
ละเอียด และศึ กษาชุดกิจกรรมการเรียนรูอย
้ าง
่
รอบคอบ
3. กอนการจั
ดกิจกรรมการเรียนรู้
่
ผู้สอนตองเตรี
ยมชุดกิจกรรมการเรียนรูพร
้
้ อม
้
ทัง้ วัสดุอุปกรณ์
ฆ
6. ผู้สอนชีแ
้ จงให้นักเรียนทุกคนเข้าใจ
ขัน
้ ตอนการเรียนรูด
ดกิจกรรมการเรียนรู้
้ วยชุ
้
7. ผู้สอนควรชีแ
้ จงหรือรวมกั
บนักเรียน
่
ตกลงวิธก
ี ารวัดและประเมินผลรายวิชา
8. ขณะทีน
่ ก
ั เรียนปฏิบต
ั ก
ิ จ
ิ กรรม
ผู้สอนควรดูแลการปฏิบต
ั ก
ิ จ
ิ กรรมของ
นักเรียนอยางใกล
ชิ
่
้ ดหากนักเรียนบางคนหรือ
กลุมใดมี
ปญ
ั หาผู้สอนตองให
่
้
้การช่วยเหลือ
ทันที
9. การสรุปบทเรียน ควรเน้นกิจกรรม
รวมของนั
กเรียนทุกกลุมหรื
อตัวแทนกลุม
่
่
่
รวมกั
น
่
10. กรณีทม
ี่ น
ี ก
ั เรียนคนใดขาดเรียน
ผู้สอนควรให้เรียนเป็ นรายบุคคลจากชุด
กิจกรรมการเรียนรูที
้ เ่ ตรียมไว้
12. นักเรียนทีไ่ มผ
นผลหลัง
่ านการประเมิ
่
เรียน จะตองปฏิ
บต
ั ก
ิ จ
ิ กรรมการเรียนซ่อม
้
เสริมและสอบแกตั
้ วตามผลการเรียนรูที
้ ไ่ ม่
ผาน
่
13. หลังจากนักเรียนศึ กษาชุดกิจกรรม
การเรียนรูเสร็
้ จ ผู้สอนควรทาตารางสรุป
คะแนน แบบทดสอบสอบกอนเรี
ยน หลัง
่
ง
ส่วนประกอบของชุดกิจกรรม
การเรียนรู้ ้าหรับครูผ้สอนใช
1. คูมื
ู
่ อครู มีไวส
้
เป็ นแนวทางในการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้
แตละชุ
ด
่
2. คูมื
่ อนักเรียน มีไวส
้ าหรับนักเรียน
ศึ กษาแนวทางในการเรียนรู้ดวยชุ
ดกิจกรรม
้
การเรียนรูแต
ด
้ ละชุ
่
3. แผนการจัดการเรียนรู้ มีไวส
้ าหรับ
ครูใช้เป็ นแนวทางในการจัดกิจกรรมการ
เรียนรู้ เพือ
่ ให้บรรลุจุดประสงคการเรี
ยนรูที
้ ่
์
กาหนดไว้
4. บัตรเนื้อหา
5. บัตรกิจกรรม
6. เฉลยบัตรกิจกรรม
7. แบบทดสอบกอนเรี
ยน พรอมเฉลย
่
้
8. แบบทดสอบหลังเรียน พรอมเฉลย
้
จ
สิ่ งทีผ
่ ้สอนต
ู
้อง
เตรียม
1. ศึ กษาชุดกิจกรรมการเรียนรู้
ให้เขาใจ
้
2. ศึ กษาแผนการจัดการเรียนรู้
ประกอบการใช้
ชุดกิจกรรม
การเรียนรูแต
ดอยางละเอี
ยด
้ ละชุ
่
่
3. ฝึ กใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้
และสื่ อตาง
ๆ
่
ให้คลอง
่
4. เตรียมสถานทีแ
่ ละแหลงเรี
่ ยนรู้
ฉ
ชุดกิจกรรมการ
เรียนรู้
1 เรือ
่ ง เริม
่ กาวแรกกับ...
ชุดที่
้
กระบวนการสื บเสาะแสวงหา
ทางวิ
้ ่ 8:ทยาศาสตร
ความรู
สาระที
ธรรมชาติ์ ขและเทคโนโลยี
อง
วิทยาศาสตร
และเทคโนโลยี
์
มาตรฐาน
ว 8.1:
ใช้กระบวนการทาง
วิทยาศาสตรและจิ
ตวิทยาศาสตรใน
์
์
การสื บเสาะหาความรู้ การ
แกปั
ทาง
้ ญหา รูว
้ าปรากฏการณ
่
์
ธรรมชาติทเี่ กิดขึน
้ ส่วนใหญมี
ู แบบ
่ รป
ทีแ
่ น่นอน สามารถอธิบายและ
ตรวจสอบได้ ภายใตข
้ อมู
้ ลและ
เครือ
่ งมือทีม
่ อ
ี ยูในช
่
่ วงเวลานั้นๆ
เขาใจว
า่ วิทยาศาสตร ์
้
ผลการเรียเทคโนโลยี
นรู้
สั งคม และสิ่ งแวดลอม
้
มีความเกีย
่ วของสั
มพันธกั
น
้
์
1. สื บค้นขอมู
้ ลและอธิบายความหมาย
กระบวนการสื บเสาะแสวงหาความรูทาง
้
วิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
ได ้
์
ช
จุดประสงคการเรี
ยนรู้
์
1. ดานความรู
้
้ (K)
1.1 อธิบายกระบวนการสื บเสาะ
แสวงหาความรู้ทาง
วิทยาศาสตรและ
์
เทคโนโลยี ได้
1.2 สามารถบอกทักษะกระบวนการ
ทางวิทยาศาสตรได
์ ้
2. ดานทั
กษะกระบวนการ (P)
้
2.1 ทักษะการคิดแกปั
้ ญหา
3. ดานคุ
ณธรรม จริยธรรม คานิ
้
่ ยม
และคุณลักษณะ
อันพึงประสงค ์ (A)
3.1 มีพฤติกรรมการทางานกลุมที
่ ่
ดี
รูปแบบการจัดกิจกรรม
ดวยชุ
ดกิจกรรมการ
้
เรียนรู้
ทดสอบกอน
่
เรียน
นาเขาสู
้ ่
บทเรียน
ชีแ
้ จงขัน
้ ตอนการ
ปฏิบต
ั ก
ิ จ
ิ กรรม
ปฏิบต
ั ก
ิ จ
ิ กรรมตามชุด
กิจกรรมการเรียนรู้
สรุป
ทดสอบหลัง
เรียน
ผาน
่
จบ
สอน
เสริม
ไม่
ผาน
่
พบ
ครู
ซ
คูมื
่ อ
นักเรียน่ ง
ชุดกิจกรรมการเรียนรูเรือ
จุดประกาย
้
กับโครงงานวิทยาศาสตร ์
วิชาวิทยาศาสตรเพิ
่ เติม
(ว 20202)
์ ม
ชุดทีชั
่ น
อ
่ ง กเริ
ม
่ ก้าวแรกกั
้ 1มัเรื
ธยมศึ
ษาปี
ท ี่ 1 บ...
กระบวนการสื บเสาะแสวงหาความรู้
ทางวิทยาศาสตร ์ และเทคโนโลยี
จุดประสงคของชุ
ดกิจกรรมการเรียนรู้
์
1. เพือ
่ ใช้เป็ นสื่ อประกอบกิจกรรมการ
เรียนรู้
หน่วยการเรียนรู้ เรือ
่ ง จุดประกาย
กับโครงงานวิทยาศาสตร ์ ชุดที่ 1 เรือ
่ ง เริม
่
กาวแรกกั
บ...กระบวนการสื บเสาะแสวงหา
้
ความรูทางวิ
ทยาศาสตร ์ และเทคโนโลยีวช
ิ า
้
วิทยาศาสตรเพิ
่ เติม (ว 20202) ชัน
้
์ ม
มัธยมศึ กษาปี ท ี่ 1
2. เพือ
่ พัฒนากระบวนการจัดกิจกรรม
การเรียนรู้ และผลสั มฤทธิท
์ างการเรียนหน่วย
การเรียนรู้ เรือ
่ ง จุดประกายกับโครงงาน
วิทยาศาสตร ์ วิชาวิทยาศาสตรเพิ
่ เติม (ว
์ ม
20202) ชัน
้ มัธยมศึ กษาปี ท ี่ 1
3. เพือ
่ ส่งเสริมให้นักเรียนไดศึ
้ กษา
คนควาดวยตนเอง และมีเปาหมายในการ
ฌ
ญ
คาชีแ
้ จงสาหรับนักเรียน
1. นักเรียนแตละกลุ
มศึ
่
่ กษาคูมื
่ อสาหรับ
นักเรียนประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรูและปฏิ
บต
ั ิ
้
กิจกรรมตามลาดับขัน
้ อยางระมั
ดระวัง
่
2. การเรียนรูด
ดกิจกรรมการเรียนรูจะต
อง
้ วยชุ
้
้
้
ปฏิบต
ั ต
ิ ามขัน
้ ตอนทีก
่ าหนดให้อยางเคร
งครั
ดและมี
่
่
ความซือ
่ สั ตยต
่
์ อตนเอง
3. ถานั
ั หาทีไ่ ม่
้ กเรียนคนใดสงสั ยหรือมีปญ
เขาใจ
สามารถขอคาแนะนาจากครูผ้สอนได
ู
้
้
ตลอดเวลา
4. นักเรียนควรมีการบริหารการทางานกลุมที
่ ี
่ ด
หากมีปญ
ั หาใด ๆ ควรปรึกษาครูผ้สอนทุ
ู
กครัง้
และควรแบงบทบาทกั
นให้ชัดเจน
่
5. ทุกกิจกรรมการเรียนมีเวลาจากัด ผู้เรียน
ควรปฏิบต
ั งิ านให้ทันเวลา
ไมควรปล
อยทิ
ง้ สะสมงานค้างเนื่องจากผลงานของ
่
่
แตละกิ
จกรรมการเรียนจะเป็ นองคความรู
ส
่
้ าหรับ
์
กิจกรรมการเรียนในลาดับถัดไป
7. ในการทากิจกรรมการเรียน ขอให้ผู้เรียน
เป็ นผู้สรางองค
ความรู
ช
้
้ ่ วยเหลือกันค้นควาช
้ ่ วยกัน
์
เรียนดวยความตั
ง้ ใจ
้
8. เมือ
่ เรียนจบแตละชุ
ดกิจกรรมการเรียนรู้
่
ฎ
คา
ชีแ
้ จง
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้
เรือ
่ ง จุดประกายกับโครงงานวิทยาศาสตร ์
สาหรับ
นักเรียนชัน
้ มัธยมศึ กษาปี ที่ 1 กลุมสาระการเรี
ยนรู้
่
วิทยาศาสตร ์ มีจานวน
11 เลม
่
เอกสารเลมนี
่ ้
เป็ นชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุดที่
1
เรือ
่ ง เริม
่
กาวแรกกั
บ..กระบวนการสื บเสาะแสวงหาความรูทาง
้
้
วิทยาศาสตร ์
และเทคโนโลยี ใช้เวลา
2 ชัว
่ โมง
ให้นักเรียนปฏิบต
ั ิ ดังนี้
1. ให้นักเรียนแบงกลุ
ม
5 คน
่
่ กลุมละ
่
2. นักเรียนรับชุดกิจกรรมการเรียนรูจาก
้
ครู
เทากั
่ บจานวนสมาชิกในกลุม
่
3. นักเรียนศึ กษาคูมื
่ อนักเรียนให้เขาใจ
้
อยางละเอี
ยด และปฏิบต
ั ต
ิ ามขัน
้ ตอนทีก
่ าหนดให้
่
4.
นักเรียนอานมาตรฐานการเรี
ยนรู้ /
่
ผลการเรียนรู้
5. ให้นักเรียนทาแบบทดสอบกอนเรี
ยน
่
จานวน
10 ขอ
้ ลงในกระดาษคาตอบเป็ นรายบุคคล
6. ตรวจแบบทดสอบดวยตนเอง
และ
้
เขียนคะแนนไวในช
ยน
้
่ องคะแนนกอนเรี
่
7. นักเรียนศึ กษาใบความรู้ ทาแบบฝึ ก
กิจกรรมตามลาดับ
8. เมือ
่ เสร็จทุกขัน
้ ตอน
ให้เปิ ดดูเฉลย
ในทายเล
ม
ดหรือไม่
้
่ และตรวจสอบ ถาหากตอบผิ
้
แน่ใจให้กลับไปศึ กษาใหมอี
่ กครัง้ (เฉลยบางขอ
้ จะ
เป็ นแนวคาตอบเทานั
่ ้ น)
ฏ
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้
ชุดที่ 1
เรือ
่ ง เริม
่ ก้าวแรกกับ...กระบวนการสื บเสาะ
แสวงหาความรูทางวิ
ทยาศาสตรและ
้
์
เทคโนโลยี
สาระที่ 8 ธรรมชาติของวิทยาศาสตรและ
์
เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 8.1
ใช้
กระบวนการทางวิทยาศาสตรและจิ
ตวิทยาศาสตร ์
์
ในการสื บเสาะหาความรู้ การแกปั
้ ญหา รู้วา่
ปรากฏการณทางธรรมชาติ
ทเี่ กิดขึน
้ ส่วนใหญมี
์
่
รูปแบบทีแ
่ น่นอนสามารถอธิบายและตรวจสอบได้
ภายใตข
่ งมือทีม
่ อ
ี ยูในช
้ อมู
้ ลและเครือ
่
่ วงเวลานั้นๆ
เขาใจว
าวิ
้
่ ทยาศาสตร ์ เทคโนโลยี สั งคม และ
สิ่ งแวดลอม
มีความเกีย
่ วของสั
มพันธกั
้
้
์ น
ผลการเรียนรู้
สื บค้นขอมู
้ ลและอธิบายความหมาย
กระบวนการสื บเสาะแสวงหาความรู้ทาง
เร็ วๆ พวกเรารี บไปทา
วิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
ไ
ด
์
้
กิจกรรมกัน
2
แบบทดสอบกอนเรี
ยน
่
กลุมสาระการเรี
ยนรูวิ
่
้ ทยาศาสตร ์
ชัน
้ มัธยมศึ กษาปี ที่ 1
เรือ
่ ง
เริม
่ กาวแรกกั
บ...กระบวนการสื บเสาะ
้
แสวงหาความรูทางวิ
ทยาศาสตร ์
้
และเทคโนโลยี
คำชี้แจง 1. ข้อสอบชุดนี้มี จานวน
10 ข้อ
2. ให้เลือกคาตอบที่ถูกที่สุดเพียงคาตอบเดียวแล้ว
คะแนนเต็
ม ่ องหมายกากบาท
10 คะแนน
เขียนเครื
(X) ลงในกระดาษคาตอบ
1. วิทยาศาสตรประกอบด
วยองค
ประกอบใด
์
้
์
ก. ความรู้
- ความจา
ข. ความจา
- ความเขาใจ
้
ค.
ความรู้
- การนาไปใช้
ง.
ความเขาใจ
- การนาไปใช้
้
2. ทักษะ หมายถึง
อะไร
ก. ความรู้
ข. ความจา
ค. ความเขาใจ
้
ง. ความชานาญ
3. วิธก
ี ารทางวิทยาศาสตรเริ
่ ตนด
อใด
์ ม
้ วยข
้
้
ก. ปัญหา
ข.
ทดลอง
ค. สมมติฐาน
ง. รวบรวมขอมู
้ ล
3
4. การแกปั
้ ญหาโดยใช้กระบวนการวิทยาศาสตรจะ
์
ใช้ทักษะใดเป็ นลาดับแรก
ก. การวัด
ข. การสั งเกต
ค. การทดสอบ
ง. ตัง้ สมมติฐาน
5. เด็กน้อยเอามือไปแหยเปลวไฟจึ
งรูว
อน
่
้ าเปลวไฟร
่
้
จัดวาเป็
่ นการเรียนรูโดย
้
วิธใี ด
ก. การสั งเกต
ข. การทดลอง
ค. การจัดระบบ
ง. ความบังเอิญ
6. ถาข
1 2 3 5 8 13 จงพยากรณว์ า่
้ อมู
้ ล
ขอมู
ดนี้คอ
ื ขอใด
้ ลตอไปของชุ
่
้
ก. 13
ข. 15
ค. 18
ง. 21
7. ขอมู
้ ลใดเป็ นขอมู
้ ลทีเ่ กิดจากการสั งเกต
ก. คนแหมาชุ
มนุ มครัง้ นี้ม ี
่
ประมาณ 800 คน
ข. กลุมเลื
่ อดจาแนกเป็ นหมู่ A, O , และ
AB
4
8. วิธก
ี ารใดสามารถนามาใช้ในการป้องกัน
แกไขผลกระทบอั
นเนื่องมาจากวิทยาศาสตรและ
้
์
เทคโนโลยี
ก. ศึ กษาทดลองมากขึน
้
ข. รักษาสภาพแวดลอมให
ล
้
้อยูในสมดุ
่
ค. ศึ กษาสั งเกตปรากฏการณต
รอบตัว
์ างๆ
่
ง. ศึ กษาหาความรูในเรื
อ
่ งนั้นๆอยางเข
าใจ
้
่
้
และนาไปใช้ให้กอเกิ
่ ด
ประโยชนอย
์ าง
่
แทจริ
้ ง
9. ขอใดไม
ใช
ทยาศาสตร ์
้
่ ่ คุณคาของโครงงานวิ
่
ก. สรางความส
านึกความรับผิดชอบ
้
ข. ส่งเสริมให้สมาชิกในกลุมมี
่ คุณธรรม
ค. ช่วยให้ผูสอนกั
บผูเรี
้
้ ยนได้
ทางานรวมกั
น
่
ง. ช่วยให้ผูเรี
้ ยนใช้เวลาวางให
่
้เกิด
ประโยชน์
10. โครงงานวิทยาศาสตรมี
อ
่ ให้
์ จุดมุงหมายเพื
่
ผูเรี
่ ุด
้ ยนเกิดสิ่ งใดมากทีส
เก่งมำกเลยค่ ะ
ก. ความรับผิดชอบ
ข. เจตคติทด
ี่ ต
ี อกระบวนการทาง
่
วิทยาศาสตร ์
ค. ความรูและประสบการณ
ในการท
า
้
์
โครงงาน
6
บัตรเนื้อหาความรู้
เรือ
่ ง
เริม
่ ต้นกับ...กระบวนการ
สื บเสาะแสวงหาความรูทางวิ
ทยาศาสตร ์
้
และเทคโนโลยี
คาชีแ
้ จง
ให้นักเรียนศึ กษาใบความรูเรื
่ ง
้ อ
กระบวนการสื บเสาะ
แสวงหาความรู้ทางวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
์
วิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
มค
ี วาม
์
เจริญกาวหน
ว
มนุ ษยซึ
้
้ าไปอยางรวดเร็
่
์ ่งเป็ นผูสร
้ างและ
้
ใช้เทคโนโลยี จึงมีความพยายามทีจ
่ ะศึ กษาคนคว
า้ วิจย
ั
้
เพือ
่ หาความรูใหม
ๆ่ ทางวิทยาศาสตร ์ สะสมไวเพื
่ สราง
้
้ อ
้
ศั กยภาพเมือ
่ มีความจาเป็ นก็จะไดน
้ าความรู้
ทีค
่ นพบนั
้นไปสรางเทคโนโลยี
เพือ
่ อานวยความ
้
้
สะดวกสบายและประโยชนต
ใน
์ างๆ
่
การดารงชีวต
ิ ให้มีความผาสุก โครงงานวิทยาศาสตรเป็
์ น
กิ1.จควำมสั
กรรมวิ
่ ่ วย และเทคโนโลยี
์ ช
มพัทนยาศาสตร
ธ์ ระหว่ำงวิทที
ยำศำสตร์
ให้นักเรียนไดเรี
้ ยนรู้ ฝึ กฝนการใช้ทักษะกระบวนการ
ทางวิทยาศาสตรในการแก
ปั
์
้ ญหารวมทัง้ การพัฒนาเจตคติ
ทางวิทยาศาสตร ์ 1.ความสั มพันธระหว
างวิ
์
่ ทยาศาสตร ์
และเทคโนโลยี
วิทยาศาสตรเป็
ธก
ี ารทีจ
่ ะ
์ นความรูที
้ ไ่ ดมาโดยวิ
้
เริม
่ ตนด
งเกต และการทดลองทีเ่ ป็ นระเบียบ มี
้ วยการสั
้
ขัน
้ ตอนโดยปราศจากอคติ
สามารถพิสจ
ู นได
์ ว
้ าถู
่ กต้อง
สรุปไดเป็
้ นกฎเกณฑสากล
์
โดยทัว่ ไปวิทยาศาสตรแบ
์ งเป็
่ นวิทยาศาสตร ์
พืน
้ ฐานและวิทยาศาสตรประยุ
กต ์ วิทยาศาสตรพื
้ ฐาน
์
์ น
7
เทคโนโลยี คือความรูวิ
้ ชาการรวมกับความรู้
วิธก
ี ารและความชานาญทีส
่ ามารถนาไปปฏิบต
ั ภ
ิ ารกิจให้มี
ประสิ ทธิภาพสูง
โดยปกติเทคโนโลยีน้น
ั มีความรูวิ
้ ทยาศาสตร ์
รวมอยูด
้นคือวิทยาศาสตร ์
่ วยนั
้
เป็ นความรูเทคโนโลยี
เป็ นการนาความรูไปใช
ั ิ
้
้
้ในทางปฏิบต
จึงมักนิยมใช้สองคาควบคูกั
่ น
วิทยาศาสตร
และเทคโนโลยี
เพือ
่ เนแ้ นให
าทั
2.คือกระบวนกำรสื
บเสำะแสวงหำควำมรู
้ ทำงวิทยำศำสตร์
ละเทคโนโลยี
์
้เขาใจว
้
่ ง้
สองอยางนี
้ตองควบคู
กั
่
้
่ นไปจึงจะมีประสิ ทธิภาพสูง
การทางานของนักวิทยาศาสตรในการแสวงหา
์
ความรูทางวิ
ทยาศาสตรนั
้
์ ้น
จะตองอาศั
ยกระบวนการสื บเสาะแสวงหาความรูทาง
้
้
วิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
ถานั
์
้ กวิทยาศาสตรไม
์ มี
่
กระบวนการนี้ก็จะไมสามารถค
นคว
าหาความรู
ทาง
่
้
้
้
วิทยาศาสตรได
์ ้
กระบวนการสื บเสาะแสวงหาความรูทางวิ
ทยาศาสตรและ
้
์
1.
เจตคติ
ท
างวิ
ท
ยาศาสตร
์
เทคโนโลยี คือ วิธก
ี ารและขัน
้ ตอน
attitude)
ทีใ่(Scientific
ช้ดาเนินการค
นคว
าหาความรู
ทางวิ
ทยาศาสตร ์ ซึ่ง
้
้
้
กระบวนการทางวิทยาศาสตรแบ
์ งออก
่
เป็ น 3 ประเภทดังตอไปนี
้ คือ
่
1. เจตคติทางวิทยาศาสตร ์
2. วิธก
ี ารทางวิทยาศาสตร ์
3. กระบวนการทางวิทยาศาสตร ์
หมายถึง คุณลักษณะหรือลักษณะนิสัยของ
8
2. ยึดมัน
่ ในความจริงและขอเท็
จจริง พรอมที
่
้
้
จะยอมรับประกาศและยืนยันความจริงและขอเท็
จจริงโดย
้
ปราศจากอคติหรือบิดเบือนเนื่องมาจากอิทธิพลทาง
อารมณส
์ ่ วนตนและสั งคม
3. ยึดมัน
่ ในอิสรเสรีภาพทางความคิด พรอมที
่
้
จะยืนยันและตอสู
่
่ ้ ป้องกันความคิดเห็นของตนเอง ไมเชื
่ อ
ตามความเชือ
่ ทีส
่ ื บทอดกันมาโดยไมมี
่ เหตุผล และขัดแยง้
กับความคิดเห็นของตนเองและในขณะเดียวกันก็พรอมที
่
้
จะรับฟังและพิจารณาความคิดเห็นของผูอื
่ แมจะขั
ดแยง้
้ น
้
หรือตางจากความคิ
ดของตนเองอยางตรงไปตรงมาไม
มี
่
่
่
อคติ
4. อดทดตอการรอคอยเพื
อ
่ ความรูที
่ ก
ู ตอง
่
้ ถ
้
อดทนตอการถู
กคัดคานโจมตี
และเยาะเยย
่
้
้ อดทนตอ
่
ความผิดพลาดพรอมที
จ
่ ะแสวงหาแนวทางใหมส
้
่ าหรับ
การแกปั
่ นสนใจและกาลังศึ กษาอยูอย
้ ญหาทีต
่ างไม
่
่
ทอถอย
้
5. ใฝ่หาเหตุผลทางธรรมชาติของสิ่ งตางๆ
ที่
่
เกิดขึน
้ เสมอ
ซึ่งไดแก
อไปนี
้
้ ตั
่ วอยางต
่
่
ก) ไมเชื
่ ไสยศาสตรและเวทมนตร
่ อ
์
์
ตางๆ
่
ต้องอดทน และรอคอย
ข) เชือ
่ วาปรากฏการณ
ที
้ ไม่
่
์ เ่ กิดขึน
วาจะแปลกประหลาดและลึ
กลับเพียงใดก็ตาม ในทีส
่ ุดจะ
่
สามารถอธิบายดวยเหตุ
ผลไดเสมอ
้
้
ค) เชือ
่ วาเหตุ
การณสองอย
างที
่
่
์
่
เกิดขึน
้ ในเวลาเดียวกัน ไมจ
ความสั มพันธ ์
่ าเป็ นจะตองมี
้
ตอกั
่ นเสมอไป
9
6. มีใจกวาง
ยอมรับขอมู
้
้ ลและความคิดเห็นของ
ผูอื
่ ทีเ่ กีย
่ วของกั
บปัญหาของตน ซึ่งไดแก
้ น
้
้ ตั
่ วอยาง
่
ดังตอไปนี
้
่
ก) เชือ
่ วาสั
่ นแปลง
่ จธรรมไมมี
่ การเปลีย
แตความคิ
ดเห็นวาอะไรจริ
งหรือไมจริ
่ นแปลงไดเสมอ
่
่
่ งเปลีย
้
ข) รวบรวมความคิดเห็นจากสิ่ งทีม
่ ี
หลักฐานเชิงประจักษยื
่ ท
ี ส
ี่ ุด ไมยึ
่ ืบ
์ นยันทีด
่ ดถือความคิดทีส
ทอดกันมาเพียงอยางเดี
ยว
่
ค) พรอมที
จ
่ ะปรับเปลีย
่ นความคิดเห็น
้
หรือขอสรุ
ปของตนเองเมือ
่ มีขอมู
่ ถือไดเพิ
่ เติม
้
้ ลทีเ่ ชือ
้ ม
ง ) พรอมที
จ
่ ะสั งเกต รับฟัง หรือ
้
ศึ กษาหลักฐานเชิงประจักษ์ ทีส
่ นับสนุ น
ความคิดซึ่งขัดแยงกั
้ บความคิดเห็นของตน
จ) ยอมรับวาไม
มี
ปใดจะมี
่
่ ขอสรุ
้
ความถูกตองสมบู
รณ ์
้
7. เลือกขอสรุ
ปหรือความคิดทีม
่ ห
ี ลักฐานเชิง
้
ประจักษเพี
งตอไปนี
้
์ ยงพอ ไดแก
้ ตั
่ วอยางดั
่
่
ก) รีรอทีจ
่ ะรับวาสิ
จจริง
่ ่ งนั้นเป็ นขอเท็
้
ในเมือ
่ ยังไมมี
ู นชั
่ ขอพิ
้ สจ
์ ดแจง้
ข) สรางข
อสรุ
ปจากหลักฐานเชิง
้
้
ประจักษหลายๆ
ดานหลายแหล
งที
่ า
์
้
่ ม
ค) หาคาอธิบายทีด
่ ท
ี ส
ี่ ุดสาหรับ
รวบรวมข้อมูล ให้มากๆ
ปรากฏการณที
่ ลักฐานเชิงประจักษจะ
์ ไ่ ดสั
้ งเกตเทาที
่ ห
์
อานวยให้
ง) เขมงวดต
อข
จจริง เวนจากการ
้
่ อเท็
้
้
โออวดเกิ
นความจริง
้
จ) ไมยอมให
่
้ความภูมใิ จ อคติ ความ
ลาเอียงหรือ
ความทะเยอทะยานส่วนตนมาบิดเบือนความ
จริง
10
8. ประเมินความถูกตองและเหมาะสมของ
้
เทคนิคเครือ
่ งมือทีใ่ ช้
และขอมู
้ ลทีไ่ ดรั
้ บ
เสมอซึ่งไดแก
งตอไปนี
้คอ
ื
้ ตั
่ วอยางดั
่
่
ก) ในการดาเนินงานเพือ
่ แกปั
้ ญหา
กระทาตามขัน
้ ตอนทีว่ างแผนไว้
ข) ใช้กระบวนการและเทคนิคตางๆ
่
เพือ
่ ให้ไดข
้ อมู
้ ลถูกตอง
้
ค) พิจารณาอยางรอบคอบเสมอว
า่
่
ขอมู
้ ลทีไ่ ดสั
้ มพันธกั
์ บปัญหาหรือไม่
ง) ทางเลือกแหลงความรู
และข
อมู
่
้
้ ลที่
ทันสมัยทีส
่ ุดเสมอ
9. มีความกระตือรือรน
้ สนใจและจริงจังตอสิ
่ ่ง
ทีต
่ นกาลังสั งเกต
ซึ่งไดแก
้ ตั
่ วอยาง
่
ดังต2.
อไปนี
่
วิธ้ ก
ี ารทาง
วิทยาศาสตร ์ ก) ถามปัญหา “อะไร” “ทาไม”
“อยางไร”
ในปรากฏการณที
่ าลังสั งเกตเสมอ
่
์ ก
ข) ไมพอใจในค
าตอบใดๆ ทีม
่ ี
่
ความคลุมเครือ
วิธก
ี ารทางวิทยาศาสตรเป็
ี ื บเสาะหา
์ นวิธส
ความรูของนั
กวิทยาศาสตรแบบมี
ลาดับขัน
้ ตอน
การ
้
์
ทางานของนักวิทยาศาสตรทุ
น คือเมือ
่ พบ
์ กคนจะคลายกั
้
ปัญหาแลว
ี ารแกปั
้ เขาจะใช้วิธก
้ ญหาในแนวทาง
เดียวกัน จะมีการเริม
่ ตน
้ ณ จุดๆ หนึ่ง แลวท
้ า
ตอเนื
้ ตนถึงจุดสุดทาย
ก็จะครบ
่ ่องกันไปตามลาดับขัน
้
วงจรของการแกปั
้ ญหา ถาอยากตรวจสอบใหม
้
่ ณ
จุดใดก็สามารถจะทดสอบไดตามวงจรนั
้น
้
11
เผชิญกับ
ปั ญหา
จุดเริ่มต้ น
ตัง้ ปั ญหา
รวมรวมข้ อมูล
ตั ้งปั ญหาในรูปของ
คาถาม
-ทาการทดลอง
-สารวจรวบรวมข้ อมูล
-สังเกต
-อภิปรายซักถาม
สร้ างสมมติฐาน
สร้ างไว้ หลายๆสมมติฐาน
แล้ วเลือกสมมติฐานที่ดี
ที่สดุ ทาการทดสอบก่อน
ลงข้ อสรุ ป
ตรวจสอบหาความ
จริงที่ปรากฏใน
ข้ อมูลและสรุปผล
กฎ ทฤษฎีใหม่
ปั ญหาใหม่
รูปที่ 1 แผนภาพแสดงขัน
้ ตอนในการ
ทางานของนักวิทยาศาสตร ์
ตามวิธก
ี ารทางวิทยาศาสตร ์
12
3. กระบวนการทาง
วิทยาศาสตร ์
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรนั
์ ้น
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
์
(สสวท.) ไดแบ
้ งไว
่ ้ 13 ลักษณะ ดังรายละเอียดใน
ตารางตตารางที
อไปนี
้ ่ 1 ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร ์
่
บโครงงานวิทยาศาสตร ์
ทักกัษะ
กระบวนการ
ความหมาย
ทาง
วิทยาศาสตร ์
1.การสั งเกต
การสั งเกต หมายถึง การใช้ประสาท
สั มผัสอยางใดอย
างหนึ
่งหรือหลายอยาง
่
่
่
รวมกัน ไดแก
้ และ
้ ่ ตา หู จมูก ลิน
ผิวกาย เขาไปสั
มผัสโดนตรงกับวัตถุ
้
หรือเหตุการณ ์ โดยมีจุดประสงคที
่ ะหา
์ จ
ขอมู
้ ลซึ่งเป็ นรายละเอียดของสิ่ งนั้นๆ
โดยไมใส
่ ่ ความคิดเห็นของผูสั
้ งเกตลงไป
ขอมู
งเกตอาจ
้ ลทีไ่ ดจากการสั
้
แบงได
เป็
คือ ขอมู
่
้ น 3 อยาง
่
้ ล
เกีย
่ วกับลักษณะและสมบัต ิ ขอมู
้ ลเชิง
ปริมาณ (โดยการประมาณ) และขอมู
้ ล
เกีย
่ วกับการเปลีย
่ นแปลง
2.การวัด
การวัด หมายถึง การเลือก
และใช้เครือ
่ งมือทาการวัดหาปริมาณของ
สิ่ งของตางๆ
ออกมาเป็ นตัวเลขทีแ
่ น่นอน
่
ไดอย
และถูกตองโดยมี
้ างเหมาะสม
่
้
หน่วยกากับเสมอ
3.การจาแนก
การจาแนกประเภท หมายถึง
ประเภท
การแบงพวกหรื
อเรียงลาดับวัตถุ หรือสิ่ ง
่
ทีอ
่ ยูในปรากฎการณโดยมีเกณฑ เกณฑ
13
ทักษะ
กระบวนการทาง
วิทยาศาสตร ์
5.การคานวณ
ความหมาย
การคานวณ หมายถึง การนับ
จานวนของวัตถุและการนาตัวเลขแสดง
จานวนทีน
่ บ
ั ไดมาคิ
ดคานวณ โดยการ บวก
้
ลบ คูณ หาร หาคาเฉลี
ย
่ หรืออืน
่ ๆ
่
6.การจัดทา
การจัดกระทาและสื่ อความหมาย
กระทาและสื่ อ
ขอมู
้ ล หมายถึง การนาขอมู
้ ลทีไ่ ดจากการ
้
ความหมาย
สั งเกต การวัด การทดลองและจากแหลง่
ขอมู
อืน
่ ๆ มาจัดกระทาเสี ยใหม่ โดยการหา
้ ล
ความถี่ เรียบลาดับ จัดแยกประเภทหรือ
คานวณ
หาคาใหม
เพื
่ ให้ผูอื
่ เขาใจ
่
่ อ
้ น
้
ความหมายของขอมู
ึ้ โดยอาจ
้ ลชุดนั้นดีขน
เสนอในรูปของตาราง แผนภูม ิ แผนภาพ
แผนผัง วงจร กราฟ สมการ การเขียน
และบรรยาย เป็ นตน
้
7.การลงความ
การลงความเห็นจากขอมู
้ ล
คิดเห็นจากขอมู
่ ความคิดเห็นให้กับขอมู
้ ล หมายถึง การเพิม
้ ลที่
ไดจากการสั
งเกตอยางมี
เหตุผล โดยอาศั ย
้
่
ความรูหรื
้ อประสบการณเดิ
์ มมาช่วย
8.การพยากรณ ์
การพยากรณ ์ หมายถึง การสรุป
คาตอบลวงหนา
กอนจะทดลองโดยอาศั
ย
่
่
ปรากฏการณที
์ เ่ กิดซา้ ๆ หลักการ กฎหรือ
ทฤษฎีทม
ี่ อ
ี ยูแล
อ
่ งนั้นๆ มาช่วยในการ
่ วในเรื
้
สรุป
การพยากรณข
่ วกับตัวเลข
์ อมู
้ ลเกีย
ไดแก
้ ่ ขอมู
้ ลทีเ่ ป็ นตารางหรือกราฟ ทาได้
2 แบบ คือ การพยากรณภายในของเขต
์
ของขอมู
่ อ
ี ยูกั
้ ลทีม
่ บการพยากรณภายนอก
์
14
ทักษะ
กระบวนการ
ความหมาย
ทาง
วิทยาศาสตร ์
10.การ
การกาหนดนิยามเชิงปฏิบต
ั ก
ิ าร
กาหนดนิยาม หมายถึง การกาหนดความหมายและขอบเขตของ
เชิงปฏิบต
ั ก
ิ าร คาตางๆ(ที
อ
่ ยูในสมมติ
ฐานทีต
่ องการทดลอง)
ให้
่
่
้
เขาใจตรงกั
นและสามารถสั งเกตหรือวัดได้
้
11.การ
การกาหนดตัวแปร หมายถึง การชีบ
้ ง่
กาหนดและ
ตัวแปรตน
่ องควบคุ
มใน
้ ตัวแปรตามและตัวแปรทีต
้
ควบคุมตัว
สมมติฐานหนึ่งๆ
แปร
ตัวแปรตน
ี่ าให้
้ คือสิ่ งทีเ่ ป็ นสาเหตุทท
เกิดผลตางๆ
หรือสิ่ งทีเ่ ราตองการทดลองดู
วาเป็
่
้
่ น
สาเหตุทก
ี่ อให
่
้เกิดผลเช่นนั้นจริงหรือไม่
ตัวแปรตาม คือสิ่ งทีเ่ ป็ นผลเนื่องมาจาก
ตัวแปรตน
่ ตัวแปลตนหรื
อสิ่ งทีเ่ ป็ นสาเหตุ
้ เมือ
้
เปลีย
่ นไป ตัวแปรตามหรือสิ่ งทีเ่ ป็ นผลจะเปลีย
่ น
ตามไปดวย
้
ตัวแปรทีต
่ องควบคุ
ม คือสิ่ งอืน
่ ๆ
้
นอกเหนือจากตัวแปรตนที
่ ผ
ี ลตอการทดลองด
วย
้ ม
่
้
ซึ่งจะตองควบคุ
มให้เหมือนๆ กัน มิเช่นนั้นอาจทา
้
ให้ผลการทดลองคลาดเคลือ
่ น
12.การ
การทดลอง หมายถึงกระบวนการ
ทดลอง
ปฏิบต
ั ก
ิ ารเพือ
่ หาคาตอบหรือตรวจสอบสมมติฐาน
ทีต
่ ง้ั ไว้ ในการทดลองจะประกอบดวยกิ
จกรรมหลัก
้
3 ขัน
้ ตอนคือ
1.การออกแบบการทดลอง หมายถึงการวาง
แผนการทดลองกอนลงมื
อทดลองจริงเพือ
่ กาหนด
่
1.1 วิธท
ี ดลอง (ซึ่งเกีย
่ วของกั
บการกาหนด
้
และควบคุมตัวแปร)
1.2 อุปกรณหรื
ี่ ะตองใช
์ อสารเคมีทจ
้
้ในการ
15
3. โครงงำนวิทยำศำสตร์ และเทคโนโลยี
โครงงานวิทยาศาสตร ์ คือ การศึ กษาเรือ
่ งใด
เรือ
่ งหนึ่ง เกีย
่ วกับวิทยาศาสตรด
โดยใช้
์ วยตนเอง
้
กระบวนการทางวิทยาศาสตร ์ เพือ
่ ให้ผูศึ
้ กษารูจั
้ ก
การคนคว
า้ การทดลอง การเก็บรวบรวมขอมู
้
้ ล การ
แปลขอมู
ทก
ั ษะ แบบแผน
้ ล และนาเสนอขอมู
้ ลอยางมี
่
เป็ นการตรวจสอบสมมติฐาน หรือกลาวได
ว
่
้ าเป็
่ น
งานวิจย
ั ขัน
้ พืน
้ ฐานภายใตค
้ าแนะนาให้คาปรึกษาและ
การดูแลของครู อาจารยหรื
่ วชาญ อาจกลาวได
์ อผูเชี
้ ย
่
้
วา่ การทาโครงงานวิทยาศาสตรเป็
ั อยางง
์ นการวิจย
่ าย
่
ทางวิทยาศาสตรนั
์ ่นเอง ในการทาโครงงาน
วิทยาศาสตร
4. หลักการของโครงงานวิ
ทยาศาสตร
์ ผูเรี
้ ยนจะตองแสวงหาความรู
้
้ ์ และแกไข
้
ปัญหาโดยการใช
้กระบวนการทางวิทยาศาสตร ์ ตัง้ แต่
และเทคโนโลยี
ตนจนกระทั
ง่ สาเร็จดวยตนเอง
ในการทาโครงงาน
้
้
วิทยาศาสตรนั
์ ้น นักเรียนสามารถทาเป็ นบุคคลหรือเป็ น
กลุมก็
่ ได้
ในการทาโครงงานวิทยาศาสตรนั
์ ้น มี
หลักการทีส
่ าคัญ 4 ประการ ไดแก
้ ่
1.เป็ นกิจกรรมทีเ่ กีย
่ วกับวิทยาศาสตรหรื
์ อ
เทคโนโลยี
2.นักเรียนเป็ นผูริ
่ และเลือกเรือ
่ งทีจ
่ ะศึ กษา
้ เริม
ผมเป็ นที่ปรึ กษาให้ครับ
คนคว
าด
บความรู้
้
้ วยตนเองตามความในใจและระดั
้
ความสามารถ
3.เป็ นกิจกรรมทีม
่ ก
ี ารใช้วิธก
ี ารทาง
วิทยาศาสตรช
าเพื
่ ตอบปัญหาที่
์ ่ วยในการศึ กษาคนคว
้
้ อ
สงสั ย
16
5.
จุดมุงหมายของโครงงาน
่
วิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
์
จุดมุงหมายส
าคัญของการทาโครงงานไมได
่
่ อยู
้ ที
่ ่
การส่งเขาประกวดเพื
อ
่ รับรางวัล แตเป็
่ ก
ั เรียนจะ
้
่ นโอกาสทีน
ไดประสบการณ
ตรงในการใช
ี ารทางวิทยาศาสตร ์
้
์
้วิธก
แกปั
ประดิษฐคิ
าหาความรู
ต
้ ญหา
์ ดคน
้ หรือคนคว
้
้
้ างๆ
่
ตลอดจนการแสดงผลงานของตนเองให้เพือ
่ นนักเรียน
ผูปกครอง
และผูสนใจในชุ
มชนไดชม
เมือ
่ มีการจัด
้
้
้
กิจกรรมของโรงเรียนหรืองานอืน
่ ๆ
การทาโครงงานและการจัดงานแสดงโครงงาน
วิทยาศาสตร ์ จะมีคุณคาต
กให้นักเรียนมีความรู้
่ อการฝึ
่
ความชานาญ และมีความมัน
่ ใจในการนาวิธก
ี ารทาง
วิทยาศาสตรไปใช
าหา
์
้แกปั
้ ญหา ประดิษฐคิ
์ ดคน
้ หือคนคว
้
้
ความรูต
ดวยตนเอง
ดังทีไ่ ดกล
ว
้ างๆ
่
้
้ าวมาแล
่
้ ยังมีคุณคา่
อืน
่ ๆ อีก ดังนี้
1.สรางความส
านึกและรับผิดชอบในการศึ กษา
้
คนคว
าหาความรู
ด
้
้
้ วยตนเอง
้
2.เปิ ดโอกาสให้นักเรียนไดพั
้ ฒนาและแสดง
ความสามารถตามศั กยภาพของตนเอง
3.เปิ ดโอกาสหนักเรียนไดศึ
าและ
้ กษา คนคว
้
้
เรียนรูในเรื
อ
่ งทีน
่ ก
ั เรียนในใจไดลึ
ยนใน
้
้ กซึง้ กวาการเรี
่
ห้องเรียนตามปกติ
4.ส่งเสริมและพัฒนากระบวนการคิด การ
ผลงำนของ
แกปั
้ ญหา การตัดสิ นใจ รวมทัง้ การสื่ อสาร
พวกเรำ เย้ ...
5.กระตุนให
้
้นักเรียนมีความในใจในการเรียน
วิทยาศาสตร ์ และมีความสนใจทีจ
่ ะประกอบอาชีพทาง
วิทยาศาสตร ์
6.ส่งเสริมให้นักเรียนไดใช
น
้ ้เวลาอยางเป็
่
ประโยชนในการสร
างสรรค
์
้
์
17
6. คุณคาของโครงงาน
่
วิทยาศาสตร ์
การทาโครงงานวิทยาศาสตร ์ นอกจากจะมี
คุณคาทางด
านการฝึ
กให้นักเรียนไดมี
่
้
้ ความรู้ ความ
ชานาญและมีความมัน
่ ใจในการนาเอาวิธก
ี ารทาง
วิทยาศาสตร ์
ไปใช้ในการแกปั
อคนคว
าหา
้ ญหา ประดิษฐ ์ คิดคนหรื
้
้
้
ความรูต
ดวยตนเองแล
ว
านอื
น
่ ๆอีก
้ างๆ
่
้
้ ยังมีคุณคาในด
่
้
มาก ซึ่ง สสวท. ไดสรุ
้ ปไดดั
้ งนี้
1.สรางความส
านึกและความรับผิดชอบในการ
้
ศึ กษรคนคว
าหาความรู
้
้
้
ดวยตนเอง
้
2.เปิ ดโอกาสให้นักเรียนไดพั
้ ฒนาและแสดง
ความสามารถตามศั กยภาพของตนเอง
3.เปิ ดโอกาสให้นักเรียนคนคว
าและเรี
ยนรูใน
้
้
้
เรือ
่ งทีต
่ นเองสนใจนอก
เหนือหรือลึกซึง้ กวาการศึ
กษาในหลักสูตรปกติ
่
4.ช่วยให้นักเรียนทีม
่ ค
ี วามสามารถพิเศษ
(talent) ไดมี
้ โอกาสแสดงความสามารถของตนเอง
5.ช่วยส่งเสริมและกระตุนให
่ ค
ี วาม
้
้นักเรียนทีม
สนใจในการเรียนวิทยาศาสตรและสนใจที
จ
่ ะประกอบ
์
อาชีพทางวิทยาศาสตรมากขึ
น
้
์
6.ช่วยให้นักเรียนไดใช
้ ้เวลาวางให
่
้เกิด
ประโยชนในทางสร
างสรรค
์
้
์ วิทยาศาสตร์เป็ นเรื่ องสนุก
ตามแนวทางวิทยาศาสตรมากขึ
น
้
์
ครับผม
7.ช่วยทาให้ครูกบ
ั นักเรียนไดท
น
้ างานรวมกั
่
และครูจะให้คาปรึกษาหารือในการทางานใกลชิ
้ ดกันมาก
ขึน
้
8.ช่วยสรางความสั
มพันธระหว
างชุ
มชนกับ
้
์
่
โรงเรียนใหมีความสั มพันธกันมากขึน
้ โดยโรงเรียนเปิ ด
18
ทักษะการคิดและลักษณะการคิด
ทีเ่ กีย
่ วของกั
บ
้
กระบวนการคิดแบบวิทยาศาสตร ์
ขัน
้ ต
อน
และ
วิธค
ี ด
ิ
ขัน
้ ตอนการคิดในแตละ
่
ขัน
้ ตอนตามกระบวนการคิดแบบวิทยาศาสตร ์ ตอง
้
อาศัยทักษะการคิดและลักษณะการคิดหลายอยางมา
่
รวมกัน ดัปังญนีหา
้
เกิดปัญหา
ขอสงสั
ยจึง
้
กาหนด
ปัญหาหรือ
ระบุปญ
ั หา
ให้ชัดเจน
ตัง้ สมมติฐาน
คาดคะเนคาตอบลวงหน
่
้ าหลาย
ๆ คาตอบแลวใช
้
้เหตุผล
พิจารณาวาค
่ าตอบใดเหมาะสม
ทีจ
่ ะนามาทดสอบหรือ
ตรวจสอบความถูกตอง
้
ศึ กษาค้นควารวบรวมข
อมู
้
้ ล
นาสมมติฐานมาวิเคราะหในเรื
อ
่ ง
์
ตอไปนี
้
่
1.ตองศึ
กษาเรือ
่ งอะไรบาง
้
้
2.ตองเก็
บขอมู
เก็บที่
้
้ ลอะไรบาง
้
ไหน
เก็บอยางไร
่
3.มีขน
้ั ตอนดาเนินการอยางไร
่
จากนั้นทาการทดลองหรือทาการ
เก็บขอมู
่ ด
ิ ไว้
้ ลตามทีค
สรุ ปผล
นาข้ อมูลที่ได้ มาทาความเข้ าใจและทา
การสรุป
19
ทีส
่ าคัญต้องนาลักษณะ
การคิดหลายลักษณะ
มารวมกัน เช่น
กำรคิดอย่ ำงมีเหตุผล
กำรคิดริเริ่ม
กำรคิดละเอียด ชัดเจน
กำรคิดไกล
การ
วิเคราะห ์
การคิดดี
คิดถูก
ทาง
ทักษะการคิด
และ
ลักษณะการ
คิด
การคิดลึกซึง้
การคิดแกปั
้ ญหา
การคิดอยางมี
จจ
ิ า
่
รนญาณ
การคิด
ริเริม
่
การคิด
กว้าง
การคิด
สรางสรร
้
ค์
21
เริม
่ ต้นกับ
กิจกรรม
คาชีแ
้ จง
ให้สมาชิกในกลุมปฏิ
บต
ั ก
ิ จ
ิ กรรมดังตอไปนี
้
่
่
1. ให้นักเรียนแตละกลุ
มปฏิ
บต
ั ก
ิ จ
ิ กรรมที่ 1.1
่
่
เวลา 10
นาที
คะแนนเต็ม
10
คะแนน
2. ให้นักเรียนแตละกลุ
มร
นปฏิบต
ั ก
ิ จ
ิ กรรมที่
่
่ วมกั
่
1.2
เวลา 10
นาที
คะแนนเต็ม
10
คะแนน
3. ให้นักเรียนแตละกลุ
มร
นปฏิบต
ั ก
ิ จ
ิ กรรมที่
่
่ วมกั
่
1.3
เวลา 10
นาที
คะแนนเต็ม
10
คะแนน
4. ให้นักเรียนแต
นปฏิบต
ั ก
ิ จ
ิ กรรมที่
สมำชิละกลุ
่ กในกลุมร
่ ่ ม วมกั
่
1.4
เวลา 10
นาที
คะแนนเต็ม
10
คะแนน
1………………………………………………………ชั้น ม.1/……เลขที่…….
2………………………………………………………ชั้น ม.1/……เลขที่…….
3………………………………………………………ชั้น ม.1/……เลขที่…….
4………………………………………………………ชั้น ม.1/……เลขที่…….
5………………………………………………………ชั้น ม.1/……เลขที่…….
ถาพร
อมแล
วก็
้
้
้ ไปลุย
กันเลย
22
แบบฝึ กกิจกรรม
ที่ 1.1
เรือ
่ ง
พินิจ เหตุ
และผล
คะแนนเต็ม 10 คะแนน
คาชีแ
้ จง
ให้นักเรียนแตละกลุ
มร
นพิจารณา
่
่ วมกั
่
จากขอมู
่ าหนดให้ วาข
น
้ ลทีก
่ อใดเป็
้
วิทยาศาสตรและไม
เป็
์
่ นวิทยาศาสตร ์
ข้อมูล
คาตอบ
1. วันนีจ
้ ามทัง้ วันแสดงวามี
่ คน
คิดถึง
2. ดวงอาทิตยหมุ
์ นรอบโลก
3. น้าแข็งละลายเพราะไดรั
้ บ
ความรอน
้
4. ถาเอามื
อชีร้ งกิ
ุ้ นน้าแลวมื
้
้ อจะ
กุด
5. ดอกทานตะวันจะหันไปหา
ดวงอาทิตย ์
6. ถาบรรจุ
น้าอัดลมเต็มขวด
้
แลวน
้ าไปแช่แข็ง
ขวดจะแตกได้
7. อากาศรอนจะขยายตั
วลอย
้
ขึน
้ สู่ทีส
่ งู
8. เอาน้าทะเลไปตมจะได
เม็
้
้ ด
เกลือ
คะแนนเต็ม
10 คะแนน
9. นั
วัน
้ ยองโชคไม
ดี
้ นได้
่ แน่เพราะ
กนี
เรีต
จิง้ จกร
องทั
ก
้
คะแนน
คะแนนที่
เหตุผล
23
แบบฝึ กกิจกรรม
ที่ 1.2
เรือ
่ ง
ตาไวไดฝึ
้ ก
คะแนนเต็ม 10 คะแนน
คาชีแ
้ จง
ให้แตละกลุ
มร
นสั งเกตรูปภาพ
่
่ วมกั
่
ห้องปฏิบต
ั ก
ิ ารวิทยาศาสตรแห
่ง
์ งหนึ
่
ในเวลา 5 นาที แลว
้
บันทึกสิ่ งทีไ่ ดจากการสั
งเกตเป็ นขอๆ
อยางละเอี
ยด
้
้
่
ที่มา http://awongyai.files.wordpress.com
สังเกตดีๆนะจ๊ะ
24
ผลการสั งเกต
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
เกณฑการประเมิ
น / ตรวจสอบกับภาพตนฉบั
บ
้
์
สิ่ งทีส
่ ั งเกตไดแต
างให
หากบอกจานวน
้ ละอย
่
่
้ 1 คะแนน
ดวย
ให้ 2 คะแนน
้
ถาได
คะแนน
21 – 25
ถือวามี
ั ษะการสั งเกตดี
้
้
่ ทก
เยีย
่ ม
คะแนน
16 – 20
ถือวามี
ั ษะการสั งเกต
่ ทก
พอใช้
คะแนน
ตา่ กวา่ 10
ยังตองฝึ
กทักษะเพิม
่ เติม
้
สรุป
นักเรียนมีทก
ั ษะการสั งเกตอยูในระดั
บ
่
25
แบบฝึ กกิจกรรมที่
1.3
เรือ
่ ง
กาวแรกของ
้
นักวิทยาศาสตร ์
คะแนนเต็ม 10 คะแนน
คาชีแ
้ จง
ให้นักเรียนนาคาตอไปนี
ไ
้ ปเติมลงใน
่
ช่องวางให
ส
่ มบูรณ ์
่
้ไดใจความที
้
1. กฎ ทฤษฎีใหม่ ปัญหาใหม่
2. ลง
ขอสรุ
ป
3. รวบรวมขอมู
4. สั งเกต
้
้ ล
5. เผชิญกับปัญหา 6. อภิปรายและซักถาม 7. ตัง้
ปัญหา 8. สรางสมมติ
ฐาน
้
จุด9.
เริ่ มท
ต้นาการทดลอง
10. สารวจรวบรวมขอมู
้ ล
...........................
..................................
........................................
..................................................
..................................................
..................................................
..................................................
ตรวจสอบหาความจริ งที่ปรากฏ
ในข้อมูลและสรุ ปผล
ตั้งปั ญหาในรู ปของคาถาม
สร้างไว้หลายๆ สมมติฐาน
แล้วเลือกสมมติฐานที่ดีที่สุด
ทาการทดสอบก่อน
.............................................
26
แบบฝึ กกิจกรรม
ที่ 1.4
เรือ
่ ง
เขาใจทั
กษะ
้
วิทยาศาสตร ์
คะแนนเต็ม 10 คะแนน
คาชีแ
้ จง
ให้นักเรียนนาอักษรหน้าขอความทางขวามื
อ ไป
้
เติมหน้าขอความทางซ
่ ี
้
้ายมือทีม
ความสั มพันธกั
์ น
1.เห็ ดในปัจจุบน
ั มี 2 ประเภทคือ
เห็ ดมีพษ
ิ กับ
เห็ ดไมมี
ิ
่ พษ
2.ห้างสรรพสิ นค้าแห่งหนึ่งจดสถิตผู้
มาเทีย
่ วใน
รอบปี ทผ
ี่ านมาโดย
่
เฉลีย
่ 13,000 คน/ปี
ก. การตีความหมาย
ขอมู
้ ลและ
ลงขอสรุ
ป
้
ข. การทดลอง
ค. การกาหนดและ
ควบคุมตัวแปร
3.การคิดหาคาตอบลวงหน
่
้ ากอนจะ
่
ทาการ
ทดลองโดยอาศั ยการ
สั งเกต ความรู้ ประสบการณ ์
4.ผักแปลงนีม
้ แ
ี มลงกัดกินแสดงวาผู
่ ้
ปลูกไมได
่ ใช
้ ้สารเคมี
5.ถาน
่งเป็ น
้ าสาเหรายหางกระรอกซึ
่
พืชน้ามาปลูกบนดิน สาหรายหาง
่
กระรอกจะตายหมด
6.จุฑามาศสั งเกตเห็ นฟ้ามีเมฆสี ดา
มากเลยบอกเพือ
่ นวาอี
่ กไมนานฝนคง
่
ตก
7.ในเวลา 7 สั ปดาหต
กสูง
้
์ นพริ
14 เซนติเมตร
8.ดอกมะลีมส
ี ี ขาว ดอกเล็กมีกลิน
่
หอม
ง. การกาหนดนิยามเชิง
ปฏิบต
ั ก
ิ าร
จ. การตัง้ สมมติฐาน
ฉ. การพยากรณ ์
9.สารทีม
่ วลและปริมาตรเทากั
่ นจะมี
ความหนาแน่นเทากั
่ น
ฏ. การสั งเกต
ฐ. การหาความสั มพันธ ์
ช. การลงความคิดเห็ น
จากขอมู
้ ล
ซ. การจัดทากระทาและ
สื่ อความหมายขอมู
้ ล
ฌ. การคานวณ
ญ. การวัด
ฎ. การจาแนกประเภท
28
เรือ
่ ง
เริม
่ ต้นกับ
ลับคมความคิด
คาชีแ
้ จง
1. ให้นักเรียนศึ กษาใบความรูเพิ
่ เติมเรือ
่ ง
้ ม
ปัญหาคืออะไร
2. เมือ
่ ศึ กษาแลว
้ ให้นักเรียนทากิจกรรมหน้า
ตอไปโดยท
าเครือ
่ งหมาย /
่
หน้าขอความที
เ่ ป็ น
้
ปัญหา และทาเครือ
่ งหมาย x
หน้าขอความที
ไ่ มใช
้
่ ่
ปัญหา
3. กิจกรรมนี้เป็ นกิจกรรมรายบุคคลขอให้นักเรียน
ทากิ
จหาคื
กรรมตามความคิ
ของตนเอง
1.
ปัญ
ออะไร ปัญด
หา
คืออะไร
4.หา
ให้นัคืกอเรียนใช
าถาม
20้บุ
ปัญ
สภาวะ
หรือสถานการณ
ที
่ าให
้เวลาในการตอบค
์ ท
นาที สบายกาย
คลไม
ไมสบายใจ
ไมสนองความต
องการ
่
่
่
้
จาเป็ นพืน
้ ฐานของบุคคล (โกวิท วรพิพฒ
ั น์ อางถึ
งในสุ
้
วิทย ์ มูลคา 2549 : 10
2. ปัญหาเกิดขึน
้ เมือ
่ ไร
ปัญหาเกิดขึน
้ ไดทุ
้
้ กวันและตลอดเวลา เกิดขึน
ไดทุ
่ งกับมนุ ษยทุ
่ งการดาเนินชีวต
ิ
้ กเรือ
์ กคน ไมว่ าเป็
่ นเรือ
ส่วนตัว เรือ
่ งงานการ หรือเรือ
่ งเกีย
่ วกับสั งคม เช่น
ปัญหาสุขภาพ ปัญหาการเรียน ปัญหาอุบต
ั เิ หตุ ปัญหา
สิ่ งแวดลอม
้
3. ปัญหากับการคิดสั มพันธกั
์ นอยางไร
่
ปัญหาทาให้เกิดการคิด เพราะการคิดเกิดขึน
้ เมือ
่
บุคคลเผชิญสถานการณที
่ อให
์ ก
่
้เกิดปัญหา ความขัดแยง้
หรือคาถามจะเกิดสภาวะความไมสมดุ
ลขึน
้ จะเป็ นความไม่
่
สบายกาย
ไมสบายใจ
ซึ่งจะเป็ นสิ่ งเรากระตุ
นให
่
่
้
้
้บุคคลคิดเพือ
แกปั
่ สามารถแกปั
้ ญหาหรือหาคาตอบ เมือ
้ ญหาหรือตอบ
คาถามนั้นๆได้ บุคคลจะกลับเขาสู
้ ่ สภาวะสมดุล
29
บันทึกฝึ กคิด
คาชีแ
้ จง
ยนทงเป็
าเครื
อ
่ งหมาย
/
……………..1.
ถูให
กยุ้นังกกัเรี
ดระวั
นโรคไข
เลื
้ อดออก
หน้าขอความที
ญหายมีและท
……………..2.
ปีเ่ ป็นนปั
ี้เกาะสมุ
ผลไมาออกตลอดปี
้
้
เครื
อ
่
งหมาย
……………..3. เด็กหญิงเกวลินไดรั
เกียรติบต
ั xร
้ บ
ไ่ มใช
เรียหน
นดี้ าขอความที
้
่ ่ ปัญหา
……………..4. ครอบครัวของจอยมี
รายรับไมพอกั
บ
้
่
รายจาย
่
……………..5. อนามัยตาบลมะเร็ตไดรั
้ บรางวัล
อนามัยดีเดน
่
……………..6. กอนชอบขโมยเงิ
นแมไปเล
นเกม
้
่
่
คอมพิวเตอร ์
……………..7. นักเรียนชายชัน
้ มัธยมศึ กษาตอนต้น
ชอบหนีเรียนไปเทีย
่ ว
……………..8. นักเรียนชัน
้ ประถมศึ กษาปี ที่ 5 ไมมี
่
ระเบียบวินย
ั
……………..9. เด็กชายเอชอบกินขนมในห้องเรียน
และโดนครูดุเสมอ
……………..10. กอยไม
มี
้ อุปกรณการเรี
ยน
้
่ เงินซือ
์
สรุป เหตุกำรณ์ ทถี่ ือว่ ำเป็ นปัญหำคือ
ตองยื
มเพือ
่ นเสมอ
้
..........................................................
..........................................................
..........................................................
......................................................
ชื่อ............................................................................................................ช้ น.....................เลขที.่ ....................
31
แบบทดสอบหลังเรียน
กลุมสาระการเรี
ยนรูวิ
แบบทดสอบหลั
่
้ ทยาศาสตร ์ ง
ชัน
้ มัธยมศึ กษาปี ที่ 1เรียน
เรือ
่ ง
เริม
่ กาวแรกกั
บ...กระบวนการสื บเสาะ
้
แสวงหาความรูทางวิ
ทยาศาสตร ์
้
และเทคโนโลยี
คะแนนเต็
มทยาศาสตร
10 คะแนน
1. วิ
ประกอบด
วยองค
ประกอบใด
์
้
์
ก. ความรู้
- ความจา
ข. ความจา
- ความเขาใจ
้
ค. ความรู้
- การนาไปใช้
ง. ความเขาใจ
- การนาไปใช้
้
2. วิธก
ี ารทางวิทยาศาสตรเริ
่ ตนด
อใด
์ ม
้ วยข
้
้
ก. ปัญหา
ข. ทดลอง
ค. สมมติฐาน
ง. รวบรวมขอมู
้ ล
3. ทักษะ หมายถึง
อะไร
ก.ความรู้
ข. ความจา
ค. ความเขาใจ
้
ง. ความชานาญ
4.
ขอใดเป็
นการแกปั
้
้ ญหาโดยใช้กระบวนการ
วิทยาศาสตรจะใช
์
้ทักษะใด
เป็ นลาดับแรก
ก. การวัด
ข. การสั งเกต
ค. การทดสอบ
ง.
ตัง้ สมมติฐาน
32
5. ถาข
1 2 3 5 8 13 …… จง
้ อมู
้ ล
พยากรณว์ าข
่ อมู
้ ลตอไป
่
ของชุดนี้คอ
ื ขอใด
้
ก. 13
ข. 15
ค. 18
ง. 21
6. เด็กน้อยเอามือไปแหยเปลวไฟจึ
งรูว
อน
่
้ าเปลวไฟร
่
้
จัดวาเป็
่ น
การเรียนรูโดยวิ
ธใี ด
้
ก. การสั งเกต
ข. การทดลอง
ค. ความบังเอิญ
ง. การจัดระบบ
7. ขอมู
้ ลใดเป็ นขอมู
้ ลทีเ่ กิดจากการสั งเกต
ก. คนแหมาชุ
มนุ มครัง้ นี้มป
ี ระมาณ 800
่
คน
ข. กลุมเลื
่ อดจาแนกเป็ นหมู่ A, O , และ
AB
ค. จานวยผูป
้ ่ วยไขเลื
้ อดออกในปี 2550 มี
จานวน 1,200 คน
ง. จานวนผูเสี
ิ จากอุบต
ั เิ หตุในช่วง
้ ยชีวต
เทศกาลในปี 2551
จานวนลดลงจากปี
2550
33
8. โครงงานวิทยาศาสตรมี
อ
่ ให้
์ จุดมุงหมายเพื
่
ผูเรี
่ ุด
้ ยนเกิดสิ่ งใดมากทีส
ก. ความรับผิดชอบ
ข. เจตคติทม
ี่ ต
ี อกระบวนการทาง
่
วิทยาศาสตร ์
ค. ความรูและประสบการณ
ในการท
า
้
์
โครงงาน
ง. แนวทางในการ
ประยุกตใช
ี ารทางวิทยาศาสตร ์
์ ้วิธก
9. ขอใดไม
ใช
ทยาศาสตร ์
้
่ ่ คุณคาของโครงงานวิ
่
ก. สรางความส
านึกความ
้
รับผิดชอบ
ข. ช่วยให้ผูเรี
้ ยนใช้เวลา
วางให
่
้เกิดประโยชน์
ค. ช่วยให้ผูสอนกั
บผูเรี
้
้ ยน
ไดท
น
้ างานรวมกั
่
ง. ส่งเสริมให้สมาชิกใน
กลุมมี
่ คุณธรรม
10. วิธก
ี ารใดสามารถนามาใช้ในการป้องกัน
แกไขผลกระทบ
้
อันเนื่องมาจากวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
์
ก. ศึ กษาทดลองมากขึน
้ ศึ กษา
ข. สั งเกตปรากฏการณต
รอบตัว
์ างๆ
่
ค. รักษาสภาพแวดลอมให
ล
้
้อยูในสมดุ
่
ง. ศึ กษาหาความรูในเรื
อ
่ งนั้นๆอยางเข
าใจ
้
่
้
35
แนวทางตอบ
ปัญหา
แบบฝึ กกิจกรรมที่
1.1
เรือ
่ ง
พินิจ เหตุและผล
คาชีแ
้ จง
ให้นักเรียนแตละกลุ
มร
นพิจารณา
่
่ วมกั
่
จากขอมู
่ าหนดให้ วาข
น
้ ลทีก
่ อใดเป็
้
วิทยาศาสตรและไม
เป็
์
่ นวิทยาศาสตร ์
ขอมู
้ ล
คาตอบ
เหตุผล
1. วันนีจ
้ ามทัง้ วันแสดงวามี
่ คน
คิดถึง
ไมเป็
่ น
อาจจะไมสบายมี
่
อาการหวัด
2. ดวงอาทิตยหมุ
์ นรอบโลก
ไมเป็
่ น
โลกหมุนรอบดวง
อาทิตย ์
3. น้าแข็งละลายเพราะไดรั
้ บ
ความรอน
้
เป็ น
เป็ นการเปลีย
่ น
สถานะของสาร
4. ถาเอามื
อชีร้ งกิ
ุ้ นน้าแลวมื
้
้ อจะ
กุด
ไมเป็
่ น
รุงกิ
้ นน้าเป็ น
ปรากฏการณทาง
์
ธรรมชาติ
5. ดอกทานตะวันจะหันไปหา
ดวงอาทิตย ์
เป็ น
6. ถาบรรจุ
น้าอัดลมเต็มขวด
้
แลวน
้ าไปแช่แข็ง
ขวดจะแตกได้
7. อากาศรอนจะขยายตั
วลอย
้
ขึน
้ สู่ทีส
่ งู
เป็ น
เป็ นการตอบสนอง
ตอสิ
ช
่ ่ งเราของพื
้
ปริมาตรจะเพิม
่ ขึน
้
เมือ
่ มีการเปลีย
่ น
สถานะ
8. เอาน้าทะเลไปตมจะได
เม็
้
้ ด
เกลือ
เป็ น
เป็ น
อากาศรอนมี
ความ
้
หนาแน่นน้อยจึง
ลอยขึน
้ สู่ทีส
่ งู
น้าจะระเหย
กลายเป็ นไอ
36
แนวทางตอบ
ปัญหา
แบบฝึ กกิจกรรมที่
1.2
เรือ
่ ง
ตาไวไดฝึ
้ ก
ผลการสั งเกต
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
เกณฑการประเมิ
น / ตรวจสอบกับภาพตนฉบั
บ
้
์
สิ่ งทีส
่ ั งเกตไดแต
างให
หากบอกจานวน
้ ละอย
่
่
้ 1 คะแนน
ดวย
ให้ 2 คะแนน
้
ถาได
คะแนน
21 – 25
ถือวามี
ั ษะการสั งเกตดี
้
้
่ ทก
เยีย
่ ม
คะแนน
16 – 20
ถือวามี
ั ษะการสั งเกต
่ ทก
พอใช้
คะแนน
ตา่ กวา่ 10
ยังตองฝึ
กทักษะเพิม
่ เติม
้
สรุป
นักเรียนมีทก
ั ษะการสั งเกตอยูในระดั
บ
่
...............................................
แนวทางตอบ
ปัญหา
แบบฝึ กกิจกรรมที่
1.3
เรือ
่ ง
กาวแรกของ
้
นักวิทยาศาสตร ์
กฎ ทฤษฎีใหม่
ปั ญหาใหม่
37
แนวทางตอบ
ปัญหา
38
แบบฝึ กกิจกรรมที่
1.4
เรือ
่ ง เขาใจทั
กษะ
้
วิทยาศาสตร ์
1.เห็ ดในปัจจุบน
ั มี 2 ประเภทคือ
ฎ เห็ ดมีพษ
ิ กับ
เห็ ดไมมี
ิ
่ พษ
2.ห้างสรรพสิ นค้าแห่งหนึ่งจดสถิตผู้
ฌ มาเทีย
่ วในรอบปี ทผ
ี่ านมาโดยเฉลี
ย
่
่
13,000 คน/ปี
จ
ช
ข
ฉ
ญ
ฏ
3.การคิดหาคาตอบลวงหน
่
้ ากอนจะ
่
ทาการ
ทดลองโดยอาศั ยการ
สั งเกต ความรู้ ประสบการณ ์
4.ผักแปลงนีม
้ แ
ี มลงกัดกินแสดงวาผู
่ ้
ปลูกไมได
่ ใช
้ ้สารเคมี
5.ถ้านาสาเหรายหางกระรอกซึ
่งเป็ น
่
พืชน้ามาปลูกบนดิน สาหรายหาง
่
กระรอกจะตายหมด
6.จุฑามาศสั งเกตเห็ นฟ้ามีเมฆสี ดา
มากเลยบอกเพือ
่ นวาอี
่ กไมนานฝนคง
่
ตก
7.ในเวลา 7 สั ปดาหต
กสูง
้
์ นพริ
14 เซนติเมตร
8.ดอกมะลีมส
ี ี ขาว ดอกเล็กมีกลิน
่
หอม
ก 9.สารทีม
่ วลและปริมาตรเทากั
่ นจะมี
ความหนาแน่นเทากั
่ น
ก. การตีความหมาย
ขอมู
้ ลและ
ลงขอสรุ
ป
้
ข. การทดลอง
ค. การกาหนดและ
ควบคุมตัวแปร
ง. การกาหนดนิยามเชิง
ปฏิบต
ั ก
ิ าร
จ. การตัง้ สมมติฐาน
ฉ. การพยากรณ ์
ช. การลงความคิดเห็ น
จากขอมู
้ ล
ซ. การจัดทากระทาและ
สื่ อความหมายขอมู
้ ล
ฌ. การคานวณ
ญ. การวัด
ฎ. การจาแนกประเภท
ฏ. การสั งเกต
ฐ. การหาความสั มพันธ ์
39
บันทึกฝึ กคิด
……………..1. ถูกยุงกัดระวังเป็ นโรคไขเลื
้ อดออก
……………..2. ปี นี้เกาะสมุยมีผลไมออกตลอดปี
้
……………..3. เด็กหญิงเกวลินไดรั
ั ร
้ บเกียรติบต
เรียนดี
……………..4. ครอบครัวของจอยมี
รายรับไมพอกั
บ
้
่
รายจาย
่
……………..5. อนามัยตาบลมะเร็ตไดรั
้ บรางวัล
อนามัยดีเดน
่
……………..6. กอนชอบขโมยเงิ
นแมไปเล
นเกม
้
่
่
คอมพิวเตอร ์
……………..7. นักเรียนชายชัน
้ มัธยมศึ กษาตอนต้น
ชอบหนีเรียนไปเทีย
่ ว
……………..8. นักเรียนชัน
้ ประถมศึ กษาปี ที่ 5 ไมมี
่
ระเบียบวินย
ั
……………..9. เด็กชายเอชอบกินขนมในห้องเรียน
และโดนครูดุเสมอ
……………..10. กอยไม
มี
้ อุปกรณการเรี
ยน
้
่ เงินซือ
์
ตองยื
มเพือ
่ นเสมอ
้
สรุปเหตุกำรณ์ ทถี่ ือว่ ำเป็ นปัญหำคือ
..........................................................
..........................................................
..........................................................
......................................................
40
เฉลยแบบทดสอบกอนเรี
ยน
่
เรือ
่ ง
เริม
่ กาวแรกกั
บ...กระบวนการ
้
สื บเสาะแสวงหาความรู้
ทางวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
์
1.
2.
3.
4.
5.
ค
ข
ก
ข
ข
6. ง
7. ก
8. ง
9. ข
10. ข
เราออกเดินทางหาความรู้
กันเลยนะครับ
41
เรือ
่ ง
เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน
เริม
่ กาวแรกกั
บ...กระบวนการสื บเสาะ
้
แสวงหาความรู้
ทางวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
์
1. ค
2.
3.
4.
5.
ก
ง
ง
ง
เยีย
่ มมากเลย
พบกันเลมต
่ อไป
่
นะจ๊ะ
6. ข
7. ก
8. ข
9. ง
10. ง
กอบนวล
จิตตินน
ั ทน.์ คูมื
่ อเตรียมสอบสาระการเรียนรูวิ
้ ทยาศาสตร ์
ช่วงชัน
้ ที่ 3 (ม.1-3)
ชัน
้ มัธยมศึ กษาปี ท ี่ 1. กรุงเทพมหานคร : ภูมบ
ิ ณ
ั ฑิต, 2547.
ถนัด
ศรีบุญเรือง, กนิษฐา
อุนอนั
นต ์ และ ปิ่ นศั กดิ ์
ชุม
่
เกษียน. สื่ อการเรียนรูรายวิ
ชาพืน
้ ฐาน
้
กลุมสาระการเรี
ยนรูวิ
สั มฤทธิม์ าตรฐานวิทยาศาสตร ์
่
้ ทยาศาสตร ์
ม.1 เลม
้ ที่ 3
่ 2 ช่วงชัน
ชัน
้ มัธยมศึ กษาปี ท ี่ 1. พิมพครั
์ ง้ ที่ 4. กรุงเทพมหานคร : อักษร
เจริญทัศน,์ 2547.
ประดับ
นาคแกว
เสริมบุญสุข. หนังสื อเรียน
้ และ ดาวัลย ์
รายวิชาพืน
้ ฐาน วิทยาศาสตร ์
ชัน
้ มัธยมศึ กษาปี ท ี่ 1 กลุมสาระการเรี
ยนรูวิ
่
้ ทยาศาสตร.์
กรุงเทพมหานคร : แม็ค. 2553.
พิมพพั
เตชะคุปต ์ และคณะ. ชุดกิจกรรมการเรียนรูพั
้ ฒนาการ
์ นธ ์
คิดวิเคราะห ์ กลุมสาระการเรี
ยนรู้
่
วิทยาศาสตร ์ ชัน
้ มัธยมศึ กษาปี ท ี่ 1 เลม
่ 2. กรุงเทพมหานคร :
บริษท
ั พัฒนาคุณภาพวิชาการ,
2546.
วิมลศรี สุวรรณรัตนและคณะ.
โครงงานวิทยาศาสตร.์
์
กรุงเทพมหานคร : บริษท
ั พัฒนาคุณภาพวิชาการ,
2544.
สมพงศ์
จันทรโพธิ
ศ์ รี. โครงงานวิทยาศาสตรระดั
บมัธยมศึ กษา.
์
์
กรุงเทพมหานคร : บริษท
ั เจ้าพระยาระบบการพิมพ,์ 2552.