English Conversation ******************
Download
Report
Transcript English Conversation ******************
ENGLISH CONVERSATION
การสนทนาภาษาอังกฤษ BY LIKHITTA
จบม.6 ใน 8 เดือน
มาตรฐานการเรียนรู ้
1. สนทนาที่เกี่ยวข้องกับงานอาชีพ
ตัวบ่งชี้
1.1 รูแ้ ละเข้าใจศัพท์ เกี่ยวกับงานอาชีพ ธุรกรรมกับสถาบันการเงิน
1.2 สนทนาเกี่ยวกับการทางาน หรือการให้บริการ
1.3 เจรจาต่อรองเกี่ยวกับอาชีพ
2. สนทนาเพื่อเข้าสูป่ ระชาคมอาเซียน
ตัวบ่งชี้
1.1 พูดแนะนาตัวเองสนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรูเ้ กี่ยวกับกลุ่ม
ประเทศอาเซียน
1.2 แนะนาสินค้า/บริการ แหล่งท่องเที่ยว สถานที่สาคัญ ศิลปะ วัฒนธรรม
ประเพณีของชุมชนและประเทศ
จับใจความจากหัวใจสาคัญก็คือ
โครงสร้างหลักๆในเรื่อง
phrase(วลีหรือกลุมค
่ ำ), sentence (ประโยคหลัก) และ clause (ประโยคยอย)
่
ใคร (Who) ทำอะไร (What)ทีไ่ หน (Where)เมือ่ ไร (When)อย่ำงไร (How)กับใคร
(Whom)
P
A big bird in the bush. นกใหญตั
่ วหนึ่งในพุมไม
่
้
S
A big bird is singing in the bush.
c
After a big bird is singing in the bush.
หลักคิดเรื่อง โครงสร้างหลักที่จาเป็ นต่อการสอบ
(พืน
้ ฐานเรื่องโครงสร้างประโยค)
1. คา
2. กลุ่มคา หรือวลี (phrase) คือเอำคำมำรวมกันหลำยๆคำ
3. ประโยค (sentence)
ประกอบดวยอย
ำงน
้
่
้ อย คือ
ประธำน กริยำ สำมำรถวำงไวได
สระ
้ อย
้ ำงอิ
่
4. ประโยคย่อย (clause) ประกอบดวยอย
ำงน
้
่
้ อย คือ
ประธำน กริยำ ตองขึ
น
้ ตนประโยคด
วยตั
วเชือ
่ มตำงๆเสมอ
้
้
้
่
เช่น which, that, because, although, when เป็ นตน
้
โครงสร้างพืน้ ฐานหลัก
1. คา (word)
2. วลี/กลุ่มคา (phrase)
3. ประโยค
ประโยคสมบูรณ์ (sentence)
ประโยคย่อย (clause)
ทดสอบความสามารถในด้านไวยากรณ์
Structure Part
แบ่งออกเป็ น
ให้หำขอถู
้ ก และให้หำขอผิ
้ ด
ควรใช้เทคนิคคือ ยังไม่ต้องอ่านโจทย์ พยายามจับให้ได้ว่าข้อสอบต้องการวัดเรื่องอะไร และ
เมื่อสังเกตจะพบว่า...
1. มีคาเหมือนกัน สลับที่ กน
ั ไปมา (ห้ามอ่านเด็ดขาด)
2. ใช้ศพ
ั ท์คาเดียวกัน แต่หน้ าตาแตกต่างกัน เช่น invention, inventing, invented (เขาวัด
หน้ าที่ของคา วัดรูปแบบของ verb หรืออาจจะวัดเป็ น ประโยค ประโยคย่อ วลี ก็ได้
3. ใช้คาไม่เหมือนกัน (สังเกตจากประเภทของคาหลักๆที่ ต่างกัน) เช่น which, they, and, in
พยายามจับประเด็นว่าข้อสอบต้องการวัดอะไร
ความสามารถในการอ่าน
Reading Part
มักจะถามคาถามหลักๆ ต่อไปนี้
- ให้สรุปความคิดเห็นหลักของเรื่อง Main idea ความคิดหลัก, Title หัวเรื่อง,Topic หัวข้อ
- ให้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่อง (infer)
- ตอบรายละเอียดเกีย
่ วกับเรือ่ งทีอ่ ่าน (detail)
- เป็ นการถามถึงอารมณ์ หรือแนวการเขียนของผูเ้ ขียน
(tone)
- ทดสอบความสามารถในการใช้ศพ
ั ท์ (vocabulary)
ตอบรายละเอียดเกีย่ วกับเรือ่ งทีอ่ ่าน (detail)
หลักคิด
ใคร
S
ทา
V
อะไร
O
3. ส่วนประกอบของประโยค
My mom
ประธาน
Made
กริยา
แม่ฉนั ทาพิซซ่า
Pizza
กรรม
ส่วนประกอบประโยค
1
ประธาน
2
กริยา
3
กรรม
ประโยค
ส่วน
เติม
เต็ม
เป็ นกรรม(O) หรือ เป็ นส่วนเติมเต็ม (C)
I
love
you.
ประธาน
S
กริยา
V
กรรม
O
I
am
an artist.
ประธาน
S
กริยา
V
ส่วนเติมเต็ม
C
คำกริยำ (verbs)
คือคำทีแ
่ สดงกำรกระทำ รวมทัง้ บอกอำกำร มี, เป็ น, อยู,่ คือ
ของประธำนในประโยค (ซึง่ อำจเป็ นชือ
่ คน สรรพนำม หรือนำมโดยสมมุต)ิ
คากริยาแสดงอาการ
“มี”
หรือ “verb to Have”
ได้แก่ Has, have
คากริยาแสดงอาการ
คากริยาแสดงอาการ
“เป็ น,อยู,่ คือ”
“อื่นๆ”
เช่น eat, sit,
play
หรือ “Verb to be”
คากริยา
verbs
ได้แก่ is, am, are
กริยาธรรมดา
เติม ed เมื่อเป็ น
ประเภท
กริยา
กริยาพิเศษ
เปลี่ยนแปลงรูป
ช่อง 2 ,3
I wanted you last week.
He ate mango yesterday
กริยาช่วย
คือ กริยำทีใ่ ช้คูกั
่ (กริยำแท้)
่ บกริยำตัวอืน
เพือ
่ ให้ไดใจควำมสมบู
รณยิ
้ และช่วยสรำง
Tense ทีแ
่ ตกตำงกั
นออกไป
้
์ ง่ ขึน
้
่
ตองกำรเน
้
้ นให้
ใจควำม
ของประโยค
ควำมหมำยไป
ในทำนองวำ่
จะ, ควรจะ,
หรือสำมำรถ
Verb to be
Is, am, are, was, were
“เป็ น อยู่ คือ”
กริยาช่วยตัวอื่นๆ
เช่น shall can
may need
must
Ought to
used to
ect..
เพือ
่ แสดง Perfect Tense
หรือกำรกระทำทีเ่ สร็จเรียบรอยแล
ว
้
้
กริยา4 กลุ่ม
(24 ตัว)
อยูห่ น้า
กริยาแท้เสมอ
Verb to have
have, has, had
Verb to do
do, does,
did
ใช้ในกำรเปลีย
่ น
ประโยคบอกเลำ่
ให้เป็ นปฏิเสธ
หรือคำถำม ใน
Present simple,
Past simple
ลักษณะพิเศษกริยาช่วย 3 ข้อ
1. แม้ประธานเป็ นบุรุษที่ 3 เอกพจน์ ก็ไม่เติม –(e)s
Ratree can swim well.
Ton must do this homework.
2. ลาดับคาต้องเป็ น “กริยาช่วย + กริยาช่อง 1”
Ratree will be a pilot.
Ton can sing a song.
3. ประโยคปฏิเสธและคาถาม ไม่ใช้ do(es)
Can I look at the picture ? ฉันขอดูรปู ได้ไหม No, you can,t. ไม่ได้ เธอดูไม่ได้
You may use my car. เธอใช้รถของฉันก็ได้
May I come in ? ขอฉันเข้าไปได้ไหม Yes, you may. ได้ เธอเข้ามาได้
Fa may not come home tonight. ฟ้ าอาจจะไม่กลับบ้านคืนนี้
ชนิดของประโยค
1. ประโยคบอกเล่า
2. ประโยคคาถาม
3. ประโยคคาสัง่
4. ประโยคอุทาน
I like pizza. ฉันชอบพิซซ่า
Do you want some cola ? เอาโคล่าไหม
Have some pizza. กินพิซซ่าซิคะ/ครับ
How delicious ! อร่อยจังเลย !
โครงสร้างประโยค 5 แบบ
มาตรฐานของการแบ่งประเภทของประโยค E ก็คือ “คากริยา”
แบบที่ 1
แบบที่ 2
แบบที่ 3
แบบที่ 4
แบบที่ 5
S+V
ไมมี
่ กรรม
S+V+C
S+V+O
S + V + IO +DO มีกรรม
S + V + O + OC
คานิยาม
S = Subject
V = Verb
C = Complete
O = Object
DO= Direct Object
IO = Indirect Object
OC = Object Complete
ประธาน
กริยา
สมบูรณ์
กรรม
กรรมตรง
กรรมรอง
ส่วนเติมเต็มกรรม
โครงสร้างประโยค 5 แบบ
แบบที่ 1
S + V (กริยำทีไ่ มต่ องมี
กรรม หรืออกรรมกริยำสมบูรณ)์
้
อกรรมกริยำ คือกริยำทีใ่ ช้เดีย
่ วๆได้ ไมต
กรรม
่ องมี
้
นกรอง
้
พระอำทิตยส
์ ่ องแสง
Birds sing.
S
+
V
The sun
S
shines.
+ V
แบบที่ 2 S + V + C
ประธำน + กริยำ + ส่วนเติมเต็ม (ทีเ่ ป็ นคำนำม/คุณศัพท/กริ
์ ยำบอกกำร
รับรู้)
I am a doctor. ฉันเป็ นหมอ (ฉัน = หมอ)
She is beautiful. หลอนสวย
่
The leaves turned red. ใบไมเปลี
่ นเป็ นสี แดง
้ ย
This ice cream tastes sweet. ไอศกรีมนี่มรี สหวำน
Fa looks happy. ฟ้ำดูทำทำงมี
ควำมสุข
่
(look taste smell sound feel)
แบบที่ 3 S + V + O
ประธาน + กริยา(สกรรมกริยา) + กรรม
I have a car. ฉันมีรถ
S+ V + O
My father loves me very much. พอของฉั
นรักฉันมำก
่
I want to drink some coffee. ฉันอยำกดืม
่ กำแฟ
แบบที่ 4 S + V + IO + DO
กรรมรองมักระบุคาว่า “แก่หรือให้”
He gave me a present. เขำให้ของขวัญแกฉั
่ น
Please pass me the salt. ช่วยส่งขวดเกลือให้ฉันหน่อย
Fa told Toan the news. ฟ้ำบอกขำวแก
ต
่
่ น
้
She sent me a card. หลอนส
่
่ งกำรดมำให
้ฉัน
์
The students asked me some Questions. พวกนักเรียนถำมคำถำมฉัน
Mother made her a new dress. คุณแมตั
่ ดชุดใหมให
่ ้หลอน
่
Please get me some water. ขอน้ำให้ฉันหน่อยคะ/ครั
บ
่
แบบที่ 5 S + V + O+ OC
ประธาน+กริยา+กรรม+ ส่วนเติมเต็มกรรม(อยู่หลังกรรม)
We call him Toan. เรำเรียกเขำวำต
่ น
้
I think him a great musician. ฉันคิดวำเขำเป็
นนักดนตรีทย
ี่ อด
่
เยีย
่ ม
The news made Fa happy. ขำวนั
้นทำให้ฟ้ำมีควำมสุข
่
I want you to do the work. ฉันอยำกให้เธอทำงำนนั้น
คำเชือ
่ มอนุ ประโยค (ประพันธสรรพนำม
= Relative Pronoun)
์
Who whom whose which that what where when why how
Who (ผูซึ
้ ่ง )
เป็ นคนโดยเฉพำะทำ
หน้ำทีเ่ ป็ นประธำนของ
ประโยค
whom (ผู้ซึง่ เป็ นกรรม)
คำทีถ
่ ก
ู ขยำยเป็ นคนเฉพำะ
Which (ที,่ ซึ่ง, อัน)
คำทีข
่ ยำยเป็ นสิ่ งของและสั ตว ์
Why
คำทีถ
่ ก
ู ขยำยเป็ นเหตุผล
What “สิ่ งซึง่ , ทีซ
่ ง่ึ ”
ใช้แทนสิ่ งของโดยเฉพำะ
Whose “ของผู้ซึง่ , ของผู้ที”่
ใช้แสดงควำมเป็ นเจ้ำของเป็ น คนหรือ สั ตว ์ ก็ได้
That “ที,่ ซึง่ , อัน”
คำทีถ
่ ก
ู ขยำยเป็ นไดทั
้ ง้ คน สั ตว ์ หรือสิ่ งของ
How
คำทีถ
่ ก
ู ขยำยเป็ นวิธก
ี ำร
Where “ทีซ
่ ง่ึ ”
ใช้แทนสถำนทีโ่ ดยเฉพำะ
When
คำทีถ
่ ก
ู ขยำยเป็ นเวลำ
การใช้ Yes, No
ใช้เป็ นคาตอบสาหรับประโยคคาถาม
ซึ่งนาหน้าด้วยกริยา
is, am, are,
have, has,
will, shall, can
และกริยาช่วย do, does, did เป็ นต้น
24 กริยาพิเศษ มี 11 หมวด
1. is, am, are/was, were
2. has, have/ had
3. will, shall/ would, should
4. can/ could
5. may/ might
6. must
7. ought to
8. used to
9. need
10. dare
11. do, does,/ did
= เป็ น, อยู,่ คือ
= มี
= จะ, ควรจะ
= สามารถ
= อาจจะ, ขออนุ ญาต
= ต้อง...แน่ ๆ
= ควรจะ
= เคย
= จาเป็ นต้อง
= กล้า, ท้า
= ใช้ถาม และปฏิเสธ
คาแสดงคาถาม (Question Words)
ต้องตอบอธิบายเป็ นประโยคบอกเล่า ไม่ใช้ Yes หรือ No
Who (ใคร) ต้องการทราบว่า บุคคลใด เป็ นผูก้ ระทา กริยาหลัง Who ต้องเป็ นเอกพจน์เสมอ
(เช่น wants, is, has)
What (อะไร) ใช้ในการถามเกี่ยวกับ “สิ่งของทัว่ ๆไป ชื่อ การกระทา”
ถ้าใช้ what กับคน หมายถึง ต้องการถามถึงอาชีพ What is your father ?
Where (ที่ไหน) ใช้ถามเมื่อต้องการทราบถึงสถานที่วา่ เป็ นที่ไหน เช่น Where
When (เมื่อไร)
Why (ทาไม)
How (อย่างไร)
Whom (ใคร) ใช้เป็ นกรรม
Which (สิ่งไหน, อันไหน)
Whose (ของใคร)
Who (ใคร)
Who + กริยำ + ……?
ตองกำรทรำบว
ำ่ “บุคคลใด” เป็ นผู้กระทำ
้
Who likes a cat ? ใครชอบแมว?
Who is playing ? ใครกำลังเลนอยู
่
่ ?
Who is there ? ใครอยูที
่ ่น
ั ?
่ น
Who has a pen ? ใครมีปำกกำ ?
กริยำหลัง Who ตองเป็
นเอกพจนเสมอ
(เช่น wants, is, has)
้
์
What (อะไร)
ใช้ในกำรถำมเกีย
่ วกับ
“สิ่ งของทัว่ ๆไป ชือ
่ กำรกระทำ”
ถำใช
งอำชีพ
้
้ what กับคน หมำยถึง ตองกำรถำมถึ
้
What is your father? พอของคุ
ณมีอำชีพอะไร
่
What are you doing ? คุณกำลังทำอะไร?
What is your name ? คุณชือ
่ อะไร ?
What is that ? นั่นคืออะไร ?
What do you want ? คุณตองกำรอะไร
?
้
When “เมือ
่ ไร” ใช้เมือ
่ ตองกำรทรำบเวลำ
้
When + กริยำช่วย + …….?
ตัวอย่างประโยค
อ
่ ไร ?
When do you go home ? คุณกลับไปบำนเมื
้
When did he come here ? เขำมำทีน
่ ี่เมือ
่ ไร ?
When did she get up ? เธอตืน
่ นอนเมือ
่ ไหร่ ?
Why ใช้ถำมเมือ
่ ตองกำรทรำบเหตุ
ผลวำ่ “ทาไม”
้
Why + กริยาช่วย + ........ ?
ตัวอย่างประโยค
Why does she go ? เธอไปทาไม ?
Why is he angry ? ทาไมเขาถึงโกรธ ?
Why does she get up early ? ทาไมเธอถึงตื่นเช้า ?
Why do we work hard ?ทาไมพวกเราถึงต้องทางานหนัก ?
กำรใช้ where
ใช้ถำมเมือ
่ ตองกำรทรำบถึ
งสถำนทีว่ ำเป็
้
่ น “ทีไ่ หน”
ตัวอยำงประโยค
่
Where is your house ? บำนของคุ
ณตัง้ อยูที
้
่ ไ่ หน ?
Where were you born ? คุณเกิดทีไ่ หน ?
Where do you come from ? คุณมำจำกไหน ?
Where are you going ? คุณจะไปไหน ?
ใช้ถำมเกีย
่ วกับสั ตวหรื
่ น “อันไหน, ตัวไหน”
์ อสิ่ งของวำเป็
หำกคำนำมทีเ่ ป็ นบุคคลตำมหลัง Which จะใช้ถำมวำ่ “คน
ไหน”
ตัวอยำงประโยค
่
Which is your pen ? ปำกกำดำมไหนเป็
นของคุณ ?
้
Which dog do you like ? คุณชอบสุนข
ั ตัวไหน ?
Which teacher do you like best ? ครูคนไหนทีค
่ ุณชอบทีส
่ ุด
?
ใช้ถำมวำสิ
่ ่ งทีเ่ ห็ นเป็ น “ของใคร”
และจะวำง whose อยูหน
่ ้ ำคำนำมเสมอ
ตัวอยำงประโยค
่
Whose book is this ? หนังสื อนี้เป็ นของใคร ?
Whose cats are black ? แมวของใครสี ดำ ?
Whose rulers are there ? ไมบรรทั
ดของใครอยูที
่ ่น
ั ?
้
่ น
ใช้ถำมเมือ
่ ตองกำรค
ำตอบวำเป็
้
่ น บุคคลใด
แตเป็
่ นในลักษณะทีเ่ ป็ นกรรม (object)
ของกริยำ (verb) หรือบุพบท (preposition)
ตัวอยำงประโยค
่
Whom do you like ? คุณชอบใคร ?
Whom does he speak to ? เขำพูดกับใคร ?
Whom do you go with ? คุณไปกับใคร ?
ใช้เมือ
่ ตองกำรถำมเกี
ย
่ วกับอำกำรหรือกำรเดินทำงวำ่
้
เป็ น “อยำงไร”
อำจจะนำไปผสมกับ
่
คำคุณศั พท ์ (adjective) และกริยำวิเศษณ ์ (adverb)
แลววำงไว
ที
่ น้ำประโยค
้
้ ห
How are you ? คุณสบำยดีหรือ ?
How far is it from here ? จำกนี่ไปไกลแคไหน
?
่
How long is your hair ? ผมของคุณยำวแคไหน
?
่
How many pens do you have ? คุณมีปำกกำกีด
่ ำม
?
้
How much money does he has ? เขำมีเงินมำกเทำไร
?
่
คาถามที่ตอ้ งการรู ้
รายละเอียดมากขึ้ น
เช่น Who why
where when
what how
คาถามที่ตอ้ งการ
คาตอบว่า
yes หรือ no
(ไม่ตอ้ งการ
รายละเอียด)
Do you like FA ?
ตอบ
Yes หรือ No
PASSIVE VOICE
การที่ประธานเป็ นผูถ้ กู กระทา และทาหน้าที่เป็ นกรรม
ประธำน
HE
กริยำ
loves
She
ประธำน
Is loved
Be+กริยำช่อง 3
กรรม
Her.
By him.
ผู้กระทำ
เขำรักหลอน
่
หลอนถู
กเขำรัก
่
He was killed in the battle. เขำถูกฆำตำยในสงครำม
่
Japanese is spoken in Japan. ภำษำญีป
่ ่ นถู
ุ กใช้พูดในญีป
่ ่น
ุ
จงเลือกคำแสดงคำถำมเติมลงในช่องวำงให
่
้ถูกตอง
้
1. A : ____ is Toan so angry ?
B : Toan is angry because he lost his digital camera.
1. Why
2. Who
3. What
4. How
2. A : ____ shoes are those ?
B : Those are Fa’s.
1. Why
2. Who
3. Whom
4. Whose
3. A : ____ one is her car ?
1. Who
2. Which
3. What
4. Why
4. A : ____ are you talking to ?
B : I’ m talking to Fa.
1. Whom
2. Why
3. Which
5. A : ____ did Fa go there ?
B : She went there last Monday.
1. Who
2. How
3. Which
6. A : ____ often does she go to the movies ?
1. Who
2. How
3. What
7. A : ____ is this book ?
1. Who
2. What
3. Whose
4. How
4. When
4. When
4. When
จงเติมคาลงในช่องว่าง
1. Where ____ Toan live ?
1. is
2. are
3. do
4. does
2. How much ____ this ?
1. is
2. are
3. be
4. does
3. ____ you go there ?
1. How
2. How did
3. Why are 4. Why were
4. ____ you like best ?
1. Which does
2. Which sports does
3. Which sports do
4. What sports does
5. ____ the bus stop ?
1. When did it
2. When does it
3. Where is
4. How often
สนทนาที่เกี่ยวข้องกับงานอาชีพ
1.
รูแ้ ละเข้าใจศัพท์
เกี่ยวกับงานอาชีพ
ธุรกรรมกับสถาบันการเงิน
Pictures of Occupations
explorer
An explorer explores unknown places and discovers new things.
For example, Magellan was an explorer who led the first
expedition that sailed around the Earth.
artist
An artist creates works of art.
athlete
Someone who is good at a sport is an athlete.
magician
A magician performs magic tricks.
teacher
A teacher is someone who helps you learn.
soldier
A soldier is a person who fights for a country.
สาระการเรียนรู้
โครงสร้ างประโยคอาชีพ
• What do you like to be
• I like to be ……………………because……….
• What’s your intention in the future?
What do you intend to do in the future ?
แบบทดสอบก่อนเรียน
10 ข้อ15 นาที
1. If you work in a hospital, you are not…………………..
a. a nurse
b. a doctor
c. a dentist
d. an actor
2. You can work in your free time if you are……………………….
a. athlete
b. receptionist
c. photographer
d. soldier
3. I would like to be an explorer because…………………………….
a. I like to discover new things.
b. I want to see more people.
c. I wish to service people.
d. I love to protect my country.
Summer jobs
Qualifications: male /female
: upper 18 years
: have an own vehicle
: enable to get up early
You can apply by person
ABC company123/2 Sukhumwit road Bangkok
4. I am very strong and can play sport well?
What do I do?
a. an athlete
b. a clerk
c. a manager
d. an actor
5. According to above passage, what occupation do you apply?
a. postman
b. policeman
c. newspaper deliver d. manager
6. How can you apply this job?
a. By letter
b. By person
c. By E-mail
d. By telephone
ข้อ 7-9
Joe :
Jane :
Joe :
Jane :
Joe :
Jane:
What do you plan to do after graduation?
I will find a good job.
What job are you looking for?
Receptionist
Oh! why?
I like to work with other people and practice my
English.
7. According to above passage, where can Jane work?
a. Bank
b. Hotel
c. Museum
d. Library
8. According to above passage, what character must Jane have?
a. friendly
b. service mind
c. profound
d. a and b
9. Why does Jane want to be a receptionist?
a. She wants to contact with another people.
b. She loves to travel around the world.
c. She will get much money.
d. She wants to practice her English and work with a lot of people.
10. My name is Britney Spear. I am from USA. At the
year 2000 I got 4 awards: female artist of The year,
new artist of the year, female hot 100 singles artist,
and female albums artist.
What is my job?
a. actress
b. super model
c. singer
d. artist
บทสนทนา
Dialogue 1
Teacher:
Student:
Teacher:
Student:
Teacher:
Student:
What do you plan to do after graduation M. 6?
I plan to study at university.
What major do you intend to study?
English
Oh! Why:
I want to be a guide.
บทสนทนา
Dialogue 2
Golf:
Mike:
Golf:
Mike:
Golf:
Mike:
Golf:
Mike:
Golf:
What do your parents do?
My father is a pilot, my mother is a clerk.
In the future what do you intend to do?
I intend to be a soldier.
Why do you want to be a soldier?
It is an honor job, and you?
I like to be a manager?
Oh! Why?
I like to be a manager because it is high salary.
ตัวอย่างข้อความ
Q:
A:
Q:
A:
What do you do?
I am……อาชีพ………….
What does he/she do?
He/She is…..อาชีพ…….
Q:
A:
What do you plan to do after graduation M. 6?
I plan to study at university.
ตัวอย่างข้อความ
Q:
A :
Q:
What major do you intend to study?
English major.
Why do you want to be ........อาชีพ........?
A :
Q:
I want to be ………………………because it is high salary
Why do you intend to be ........อาชีพ........ in the future?
A :
Q:
I intend to be…………………….. because it is honor job.
Why do you like to be........อาชีพ........?
A :
I like to be………………………. because I will get much money
Worksheet 1
Match the sentences in column A with the suitable sentences in column B
Column A
Column B
1. I want to be a teacher because……..
A. I want to take care of people
2. In the future I plan to be a doctor because ……
B. I love to teach children
3. I would like to be a soldier because …………
C. I want to be a banker
4. I intend to work in a bank because …………..
5. I like to be a bus driver because ………
D. I plan to be a scientist
E. I like drawing pictures.
6. I like to be an artist because …………
F. I like to travel on a bus
7. I plan to work in a hotel because ………….
G. I intend to be an explorer
8. I would like to be an athlete because ………
H. I am good at sport
9. I am good at science so…
I. I want to protect my country
10. I like to discover new things around the world so… J. I want to be a receptionist
Worksheet 2
Golf and Mike are studying in M.6 at Bannamuang School. Their father
is an English teacher but their mother is a secretary. Golf likes to study
math and science but Mike doesn’t like them. Mike prefers to study art.
In his free time he always draws the pictures and listens to music. Golf
intends to be an engineer after graduation because he thinks that he
will get much money. Now he tries to study and read books hard so
that they can pass the entrance examination to go to study at
Chulalongkorn University. For Mike, He plans to study in art major at
Silpakorn University. He intends to be an artist because he likes free
work.
Directions: Choose the best answer for each item.
1. What is the topic of this passage?
a. The best occupation
b. Golf’s favorite job
c. Mike’s favorite job
d. Golf and Mike’ intentions
2. What do their parents do?
a An engineering and an English teacher
b. An English teacher and a secretary
c. An engineer and an artist
d. A secretary and an artist
3.What does Golf plan to do?
a. An artist
b. A teacher
c. An English teacher
d. An engineer
4.Why does Mike want to be an artist?
a. He wants to get much money.
b. His parents wish him to do that.
c. He loves free job.
d. He isn’t good at math
5.If you are good at physics and biology, what major
should you plan to study?
a. Economic science
b. Psychology
c. Pharmaceutical science
d. Financial
ศัพท์การทาธุรกรรมเกี่ยวกับสถาบันการเงิน
MONEY
SECRETARY
CASH
CONTACT
CHECK
BANK
TELLER
ACCOUNT
BILL
GOVERMENT
IDENTIFICATION
ศัพท์การทาธุรกรรมเกี่ยวกับสถาบันการเงิน
loan
Money
exchange
overdraft
BANK
Traveler’s
check
draft
ศัพท์การทาธุรกรรมเกี่ยวกับสถาบันการเงิน
Clerk
Kindly
sign
Specimen
signature
Deposit
slip
ACCOUNT
Current
account
Savings
account
My card
Application
from
ศัพท์การทาธุรกรรมเกี่ยวกับสถาบันการเงิน
Check book
Not
sufficient
Refer
to
certificate
BANK
amount
Drawer
Refused to
pay
overdraw
Returned
the check
ศัพท์การทาธุรกรรมเกี่ยวกับสถาบันการเงิน
loan
Rate of
interest
furnish
BANK
some
security
overdraft
Bank
allow
Lodge
security
ศัพท์การทาธุรกรรมเกี่ยวกับสถาบันการเงิน
Any
particular
Redeem
my loan
Large bills
BUSINESS
Inside our
line
monthly
report
Arrange
a mortgage
สนทนาที่เกี่ยวข้องกับงานอาชีพ
2
สนทนาเกี่ยวกับ
การทางาน หรือการให้บริการ
สนทนาที่เกี่ยวข้องกับงานอาชีพ
3
เจรจาต่อรองเกี่ยวกับอาชีพ
สนทนาเพื่อเข้าสูป่ ระชาคมอาเซียน
1
พูดแนะนาตัวเอง
สนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู ้
เกี่ยวกับกลุ่มประเทศอาเซียน
สนทนาเพื่อเข้าสูป่ ระชาคมอาเซียน
2
แนะนาสินค้า/บริการ
แหล่งท่องเที่ยว สถานที่สาคัญ
ศิลปะ วัฒนธรรมประเพณี
ของ
ชุมชนและประเทศ
1. ประโยคคืออะไร
ฉัน
ชอบ
พิซซ่า
(I)
(like)
(pizza)
ประโยคคืออะไร
I
like
pizza
(ใคร)
(ทา)
(อะไร)
You
(ใคร)
Love
(ทา)
Me
(อะไร)
ใคร
ทา
อะไร
ชนิดของประโยค
1. ประโยคบอกเล่า
2. ประโยคคาถาม
3. ประโยคคาสัง่
4. ประโยคอุทาน
I like pizza. ฉันชอบพิซซ่า
Do you want some cola ? เอาโคล่าไหม
Have some pizza. กินพิซซ่าซิคะ/ครับ
How delicious ! อร่อยจังเลย !
2. ชนิดของประโยค
1
ประโยค
บอกเล่า
Do you want some cola ?
เอาโคล่าไหม
2
ประโยค
คาถาม
Yes, please.
เอาครับ
Mom, have some pizza.
แม่ครับ กินพิซซ่าสิครับ
3
ประโยค
คาสั ่ง
How delicious !
อร่อยจังเลย !
4
ประโยค
อุทาน
เพราะฉะนั้นประโยคก็แบ่งออกเป็ น
2
ประโยค
คาถาม
3
ประโยค
คาสั ่ง
1
ประโยค
บอกเล่า
4
ประโยค
อุทาน
3. ส่วนประกอบของประโยค
My mom
ประธาน
Made
กริยา
แม่ฉนั ทาพิซซ่า
Pizza
กรรม
ประโยค
1
ประธาน
2
กริยา
3
กรรม
ประโยค
ส่วน
เติม
เต็ม
ส่วนประกอบของประโยค
1. ประธาน
2. กริยา
3. กรรม
4. ส่วนเติมเต็ม
: “คน สัตว์ สิ่งของ” ที่เป็ นผูท้ าสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
: คาแสดงการกระทาของประธาน
: สิ่งทีถ่ ูกกระทา
: คาแสดงสถานภาพของประธาน
My mom made pizza.
ชนิดของคา
PARTS OF SPEECH
คานาม (Noun) ทำหน้ำที่ เป็ น ประธำน(subject), กรรม(object) และส่วนเติมเต็มของประโยค
(complement)
คานาหน้านาม (Article) a, an, the
คาสรรพนาม (Pronoun) คือ คาที่ใช้แทนที่ noun ทาอะไรได้คล้ายๆ noun
คากริยา (Verb) ทาหน้าที่บ่งบอกการกระทาของประโยค
คาคุณศัพท์ (Adjective) ทาหน้าที่ขยาย noun (วางหน้า noun และส่วนใหญ่อยูห่ ลัง v. to be
คาวิเศษณ์ (Adverb) ทาหน้าที่ขยาย verb
คาบุพบท (Preposition) ทาหน้าที่เชื่อมคา
คาสันธาน (Conjunction) คาเชื่อมประโยค although, because, so that
คาอุทาน (Interjection) คาที่ใช้แสดงการอุทาน Oh, Wow
ทุกสิ่งในโลกนี้ จาเป็ นต้องมีชื่อเรียก
คน
1
คานาม
NOUN
สิ่งของ
สัตว์
เอกพจน์/พหูพจน์
จงเลือกประโยคที่ผิด (ข้อสอบต้องกำรวัดอะไร)
1. 1) There’s a beach near here.
2) Fa is singing song.
3) They have any enough cups.
4) We sang some songs.
2. 1) Toan was listening to music.
2) Does she have any money?
3) I eat a rice every day.
4) Fa has a car.
3. 1) There’s sands in my shoes.
2) He has many friends.
3) She has much money.
4) There was some money juice in the bottle.
จงเลือกคาที่ถูกต้องเติมลงในช่องว่าง
1. There____ some wine in the bottle.
1) is
2) are
3) be
2. Mice____ afraid of cat.
1) is
2) are
3) was
3. Mathematics____ my favorite subject.
1) is
2) are
3) be
4) being
4) be
4) were
ดูวำ่ ข้อสอบต้องกำรวัดอะไร
4. My father has almost____.
1) two hundred sheep
2) two hundred sheeps
3) two hundreds sheep
4) two hundreds sheeps
5. There are ____ in the park.
1) six child
2) six childs
3) six children
4) six childrens
คาที่วางไว้หน้า คน สัตว์ สิ่งของ เพื่อให้คาชัดเจนขึ้นตามความประสงค์ของผูพ้ ูด
a
คานาหน้า
นาม
The
ชี้เฉพาะ
ARTICLE
an
AEIOU
คาที่ใช้แทน“คานาม”นี่ แหละเรียกว่า “คาสรรพนาม”
บุรุษที่ 1
บุรุษที่ 2
บุรุษที่ 3
อากาศ
เวลา
วันเดือนปี
วันในสัปดาห์
ระยะทาง
ต้องใช้ it
I is cold.
I/ my/ me/ mine
You /your/ you/ yours
he she it we they/him her it us them
his her its our their/his hers ours theirs
วิธีใช้ it
แบบ
พิเศษ
คาสรรพนาม
นิ ยม
PRONOUN
(เจาะจง)
สิ่งอยูใ่ กล้
ใช้ this/ these
สิ่งอยูไ่ กล
ใช้ that /those
อนิ ยม
(ไม่เจาะจง)
one
ใช้ one แทนคน สัตว์ สิ่งของ(โดยทัว่ ไป)
ที่พดู ถึงแล้วจะได้ไม่ตอ้ งพูดซ้า
จงเลือกคาที่ถกู ต้องเติมลงในช่องว่าง
1. Toan and Fa are good friends____ study together.
a.
d. Them
They
b. We
c. She
d. It
She
b. her
c. he
d. his
c. His
d. They
c. her
d. our
4. ____ name is toan.
a.
c. He
3. I am going to play tennis with____.
a.
b. She
2. Fa and I are from Thailand.____ are Thai.
a.
They
He
b. She
5. This computer is____.
a.
my
b. mine
จงเลือกคาที่ถกู ต้องเติมลงในช่องว่าง
6. Fa : Where is my pencil ?
Than : ____ is on the sofa.
a. It
b. One
d. Its
c. it
d. that
7. Um : What time is____?
Jane: It is 10.10.
a. they
b. them
c. They
8. Than : Do you have a computer ?
Fa
a. it
: Yes, I have____.
b. them
c. one
d. ones
จงเลือกคาที่ถูกต้องเติมลงในช่องว่าง
9. Toan : What is that ?
Fa
a. It
c. They
d. One
10. Toan : I have a car.
Fa
a. my
: ____ is a rabbit.
b. Itself
11. Fa
: Can I use____car ?
b. your
c. you
d. yours
: Do you like your cat ?
Toan : Yes, I love____.
a. one
b. ones
c. it
d. them
จงเลือกคาที่ถกู ต้องเติมลงในช่องว่าง
12. Um : What are ____?
Jane : They are used cars.
a. this
b. that
c. it
13. ____ were watching TV Last night.
a. Toan and me
c. Jane and myself
b. Fa and my
d. Um and I
14. ____ hot in summer in Thailand.
a. It’s
d. those
b. Its
c. They
d. They is
15. Toan : Do you have the time ?
Fa : ____ ten to ten.
a. It is
b. This is
c. I have
d. I am
คาที่สื่อความหมายถึงอากัปกิริยาเรียกว่า “คากริยา”
คากริยาอื่นๆนอกเหนื อจาก verb to be
ใช้บอกความเคลื่อนไหว หรือการกระทา
เช่น like(ชอบ) have(มี) sing(ร้องเพลง)
คากริยา
VERB
เมื่อประธานเป็ นบุรุษที่ 3 และเป็ นปั จจุบนั กาล
ต้องเติม-s หรือ -es หลังคากริยา
เช่น She goes to school. (หล่อนไปโรงเรียน)
เมื่อเป็ นประโยคคาถาม Does she go to school ?
Do they go to school ?
เมื่อเป็ นประโยคปฎิเสธ She does not go to school.
They do not go to school .
เปลี่ยนไปตามประธานของประโยค
ประโยคบอกเล่า I am a doctor.
ประโยคคาถาม Are you a doctor ?
ประโยคปฏิเสธ I am not a doctor.
จงเลือกคาที่ถกู ต้องเติมลงในช่องว่าง
1. It__ very cold today.
a. am
b. are
c. is
2. I___ very tired.
a. am
b. are
c. is
3. My mom and I____ playing computer games.
a. am
b. are
c. is
4. The shop____ closed.
a. am not
b. are not
c. is not
5. ____ Toan a cook ?
a. Am
b. Are
c. Is
จงเลือกคาที่ถกู ต้องเติมลงในช่องว่าง
6. ____ Toan and Fa friends ?
a. Am
b. Are
7. They____ at the meeting yesterday.
a. aren’t
b. wasn’t
8. There____ many balls in the box.
a. am
b. are
9. ____ you have a pen ?
a. Do
b. Does
10. ___ yours sister study hard ?
a.
Do
b. Does
c. Is
c. weren’t
c. is
c. Are
c. Are