Transcript การใช้ภาษาพัฒนาความคิด
Slide 1
บทเรียนโปรแกรม
POWER POINT
เรือ
่ ง การใช้ภาษา
พัฒนาความคิด
ผู้สอน
นางศิ รพ
ิ รรณ
รัก
Slide 2
ภาษากับการแสดงความคิด
และการใช้ความคิด
ภาษา
คือ เครือ
่ งมือทีม
่ นุ ษยใช
์ ้
ถายทอดและแสดงออกทางความคิ
ด
่
โดยสื่ อออกมาทางคาพูด
การคิด
ความคิด
หมายถึง
หมายถึง การคิดที่
กระบวนการทางาน
บรรลุแลว
้ หรือผล
ของสมองในการหา
หรื
อ
ค
าตอบที
ไ
่
ด
รั
บ
้
การฝึ กฝนการคิดให้พัฒนา ให้คิดได้
ค
าตอบ
หรื
อ
หา
จากการคิ
ด
วองไว
แหลมคมและมีประสิ ทธิภาพ จนมี
่
หนทางออก
หรื
อ
ความเชีย
่ วชาญในการคิด เรียกวา่ มีกาลัง
คิ
ด
ในเรื
อ
่
งต
างๆ
่ งปัญญาหรือมีพลังสมอง
ความคิด กาลั
Slide 3
การคิดของมนุ ษยแบ
น
่
์ งออกเป็
ทิศทาง
ดังนี้
๒
ทิศทางในการคิด
คิดในทางวัฒนะ
คิดในทางหายนะ
ในทางสรางสรรค
เป็ นประโยชน
ไมเป็
คิด์ ในทางทาลาย
์
้
่ นประโยชน
Slide 4
จุดมุงหมายสู
งสุดของการพัฒนาความคิด
่
คือ
คิดไปในทิศทางวัฒนะ
เพราะผลของการคิด กอให
่
้เกิดประโยชน์
ตอส
และเมือ
่ ความคิด
่ ่ วนรวม
เปลีย
่ นเป็ นการกระทา
ผลของการ
กระทาก็กอให
่
้เกิดประโยชนสุ
์ ข
การคิดของมนุ ษย ์
แบงเป็
่ น ๒ ประเภท
คือ
คิดอยางมี
- ตองมี
เหตุผล
หลักการ
่
้
ขอสนั
บสนุ น เพือ
่ ให้เกิดขอสรุ
ปทีม
่ ี
้
้
เหตุผล
Slide 5
อุปสรรคของการคิด
อคติ
ความเรงรั
่ ด
ความเหนื่อยลา้
ความซา้ ซาก จาเจ
ขาดพืน
้ ความรูที
้ เ่ พียงพอ
สภาพแวดลอมไม
เอื
้ อานวย
้
่ อ
สุขภาพจิตและสุขภาพกายไม่
สมบูรณ์
Slide 6
ความสั มพันธระหว
าง
่
์
ภาษากับความคิด
บทบาทของภาษา
ในการพัฒนาความคิด
– ถายทอดความคิ
ดให้ผูอื
่ รับรู้
่
้ น
และเขาใจได
้
้
– ขัดเกลาความคิดให้กระจางชั
ด
่
ขึน
้
Slide 7
การพัฒนาความคิด
ตามลาดับขัน
้ ตอน
การประเมินค่ า
การสังเคราะห์
การวิเคราะห์
การประยุกต์ ใช้
ความเข้ าใจ
ความจา
Slide 8
วิธค
ี ด
ิ
แบงออกเป็
น
่
- วิธค
ี ด
ิ เชิงวิเคราะห ์
เชิงสั งเคราะห ์
ประเมินคา่
๓ วิธ ี
ดังนี้
- วิธค
ี ด
ิ
- วิธค
ี ด
ิ เชิง
วิธค
ี ด
ิ เชิงวิเคราะห ์
หมายถึง
การพิจ ารณาแยกสิ่ งใด
สิ่ งหนึ่ ง ออกเป็ นส่ วนๆ
เพื่อ ท าความ
เข้าใจแตละส
แล้วทา
่
่ วนให้แจ่มแจ้ง
ความเข้าใจตอไปว
่ ว
่
่าแตละส
่
่ วนสั มพันธเกี
์ ย
เนื่ อ งกัน อย่างไร
การจะคิด วิเ คราะห ์
Slide 9
ขัน
้ ตอนของวิธค
ี ด
ิ เชิง
วิเคราะห ์
๑. กาหนดขอบเขตของ
เรือ
่ งทีจ
่ ะวิเคราะห ์
ให้ชัดเจน
๒. กาหนดจุดมุงหมาย
่
ในการวิเคราะห ์
๓. พิจารณาหลักทฤษฎี
ทีจ
่ ะนามาเป็ น
เครือ
่ งมือในการ
วิเคราะห ์
๔. ใช้หลักทฤษฎีมา
๑. เพือ
่ ให้รูว
้ าเราจะ
่
วิเคราะหอะไร
์
๒. เพือ
่ ให้รูว
้ าวิ
่ เคราะห ์
สิ่ งนั้นเพือ
่ อะไร
๓. เพือ
่ ให้รูว
้ าเราใช
่
้
อะไรเป็ นเครือ
่ งมือ
ในการวิเคราะห ์
๔. ตองรู
วิ
ี าร
้
้ ธก
วิเคราะหว์ า่ จะ
Slide 10
ตัวอยาง
่
การวิเคราะหประโยค
คือ
การ
์
แยกประโยคออกเป็ น
ประธาน
ขยายประธาน
กริยา
ขยายกริยา
กรรม
ขยายกรรม
เป็ นตน
้
เสื ออาศั ยอยูในป
่
่ าลึก
(เสื อ - ประธาน / อาศั ยอยู่ - กริยา /ป่า
- กรรม / ลึก - ขยายกรรม)
นักเรียนชัน
้ ม.๖เรียนวิชาภาษาไทยอยาง
่
สนุ กสนาน
(นักเรียน - ประธาน / ชัน
้ ม.๖ - ขยาย
ประธาน / เรียน - กริยา / วิชา
Slide 11
วิธค
ี ด
ิ เชิงสั งเคราะห ์
วิธค
ี ด
ิ เชิงสั งเคราะห ์
หมายถึง
การรวมส่วนตางๆ
่
ให้ประกอบกันเขาด
ธท
ี เี่ หมาะสม
้ วยกรรมวิ
้
จนเกิดเป็ นสิ่ งใหมขึ
้
สาหรับจะได้
่ น
นาไปใช้ประโยชนต
การ
่
์ อไป
สั งเคราะหต
กความรูหรื
้
้ อทฤษฎี
์ องการหลั
ในการรวมส่วนตางๆเช
่
่ นเดียวกับการ
วิเคราะห ์
Slide 12
ขัน
้ ตอนของวิธค
ี ด
ิ
เชิงสั งเคราะห ์
๑. กาหนด
จุดมุงหมายในการ
่
สั งเคราะหให
์ ้
ชัดเจน
๒. หาความรูเพื
่ ใช้
้ อ
ในการสั งเคราะห ์
๓.
ทาความเขาใจ
้
ส่วนตางๆที
จ
่ ะ
่
นามาสั งเคราะห ์
๔. ใช้หลักความรูให
้ ้
๑. จะสรางอะไร
้
นาไปใช้
ประโยชนอะไร
์
หรือทาหน้าที่
อะไร
๒. เพือ
่ นามาใช้เป็ น
หลักในการ
สั งเคราะห ์
๓. ทาความเขาใจ
้
ส่วนประกอบตางๆ
่
ของสิ่ งทีจ
่ ะนามา
Slide 13
ตัวอยาง
การ
่
สั งเคราะหประโยค
์
การสั งเคราะหประโยค
คือ
การ
์
นาส่วนประกอบของประโยค มี
ประธาน
ขยายประธาน
กริยา
ขยายกริยา
กรรม
ขยาย
กรรม
มารวมเขาด
นตามหลักการ
้ วยกั
้
างประโยค
เพืสอ
่ วนประกอบต
ให้ไดประโยคที
ส
่ ื่ อ้
้
้
ใหสร
นั
ก
เรี
ย
นสั
ง
เคราะห
อไปนี
้
่
์ ่
ความหมายได
ตามต
องการ
้
้ ดพรอมตั
ให
๑
ชนิ
เป็
นอาหาร
ง้ ชือ
่ ให้
้
้
น่าสนใจ
มะเขือเทศ
มันฝรัง่
Slide 14
วิธค
ี ด
ิ เชิง
ประเมิ
น
ค
า
การใชดุลพินิจ่ ตัดสิ น
หมายถึง
้
คุณคา่
ของสิ่ งใดสิ่ งหนึ่งวาดี
่ หรือ
เลว
มีคุณหรือโทษอยางไร
่
แนวปฏิ
ต
ั ข
ิ องวิ
ี ด
ิ เชิงประเมิ
น
คา่ การ
มี
มากน้บ
อยแค
ไหน
กอนที
จ
่ ะมี
่ ธค
่
ดังนี้ นคาได
ประเมิ
เราจาเป็ นตอง
่
้
้
๑.มีทเกณฑ
าความเข
าใจหรื
จั
เป็
่ งตัอดทสิาความรู
นกอน
้ อ
้ กกับ
่
์ นเครื
สิ่ งทีเ่ ราจะประเมินให้ดีเสี ยกอน
่
๒.พิจารณาถึงเกณฑที
่ ะตัดสิ น
์ จ
๓.อาจประเมินโดยไมต
่ องใช
้
้เกณฑก็
์ ได ้
Slide 15
ตัวอยาง
วิธค
ี ด
ิ เชิง
่
ประเมินคา่
เรือ
่ งมงคลสูตรคาฉันท ์
คุณคาด
มงคลสูตรคาฉันท ์
งคม
่ านสั
้
นี้ มีคุณอเนกประการแกผู
ปฏิบต
ั ิ
่ ประพฤติ
้
ตาม เช่น
มีวาจาสุภาษิต คือ กลาว
่
ความจริงลวนแต
มี
ใช้ถอยค
า
้
่ ประโยชน์
้
สุภาพยอมท
าให้บุคคลทีค
่ บหาสมาคมดวยมี
่
้
ความรักใคร่ อยากคบหาสมาคม ฯลฯ
Slide 16
การคิดเพือ
่
แกปั
ญ
หา
้
การทีม
่ นุ ษยรู์ จั
่ แกปั
้ กคิดเพือ
้ ญหา
จะเป็ นประโยชนแก
งคม
่
์ ตนเองและสั
ไดเป็
้ นอยางดี
่
่ แก้ปัญหา
หลักสาคัญทีใ่ ช้ในการคิดเพือ
มีดงั นี้
๑.ตองเข
าใจประเภทของปั
ญหา
้
้
๒.ตองเข
าใจสาเหตุ
และสภาพแวดลอม
้
้
้
ของปัญหา
Slide 17
ประเภทของ
ปัญหา
ปัญหาแบงออกเป็
น
3 ประเภท
่
ดังนี้
๑. ปัญหาเฉพาะบุคคล เป็ นปัญหาที่
เกิดขึน
้ เฉพาะคนใดคนหนึ่ง
แต่
อาจเชือ
่ มโยงไปถึงบุคคลอืน
่ หรือสิ่ ง
อืน
่ ได้
๒. ปัญหาเฉพาะกลุม
่ เป็ นปัญหาของ
กลุมบุ
มหนึ
่ง ทีต
่ อง
่ คคลกลุมใดกลุ
่
่
้
Slide 18
สาเหตุและสภาพแวดลอม
้
ของปัญหา
เ มื่ อ มี ปั ญ ห า เ กิ ด ขึ้ น
ไม่ ว่ าจะ เป็ นปั ญ หาประเภทใดก็ ตาม
เรา
การที่เ ราจะแก้ ปั ญ หานั้ น ๆได้
ต้องทราบถึงสาเหตุทท
ี่ าให้เกิดปัญหานั้น
นอกจากนี้
เรายัง ต้ องพิจ ารณาถึง
สภาพแวดล้ อมของปั ญ หานั้ น ๆอีก ด้ วย
เพราะ ปั ญ หาเดีย วกัน
ถ้ าเกิด ใน
สภาพ
สภาพแวดลอมที่ ต างกั น
Slide 19
หลักสาคัญในการคิดเมือ
่ มี
ปัญหา
หลักสาคัญในการคิดเมือ
่ มีปญ
ั หา
มีดงั นี้
๑. ทาความเขาใจลั
กษณะของปัญหา
้
และวางขอบเขตของปัญหา
๒. พิจารณาสาเหตุของปัญหา
๓. วางเป้าหมายในการแกปั
้ ญหา
๔. คิดหาวิถท
ี างตางๆในการแก
ปั
่
้ ญหา
Slide 20
ตัวอยาง
การคิดเพือ
่
่
แกปั
้ ญหา
สมมุตวิ า่
มีปญ
ั หาของหายขึน
้ ใน
ห้องเรียนอยูบ
เมือ
่ เราตระหนักถึง
่ อยๆ
่
ปัญหานี้แลว
เรามีเป้าหมายวา่
้
จะตองป
้ อีก
้ ้ องกันไมให
่ ้เกิดของหายขึน
ตอไป
่
่ งของไว้
๑. หาคนคอยเฝ
้ าดู
เราอาจมองเห็
นวิ
ถท
ี แลสิ
างในการ
ตลอดเวลา
แก
หาหลายทางด
วยกั
นนคนเฝ้า
้ ปญ
้
(อุปั
สรรค
คือ ใครจะมาเป็
เอางบประมาณไหนมาจาง)
Slide 21
๑. หาคนคอยเฝ้าดูแลสิ่ งของไวตลอดเวลา
้
(อุปสรรค คือ ใครจะมาเป็ นคนเฝ้า
เอางบประมาณไหนมาจ้าง)
๒. พยายามสื บเสาะหาตัวคนรายให
้
้ได้
(อุปสรรค คือ ใครจะเป็ นคนสื บเสาะหา
ตัวคนราย
หากทาจริงๆจะกอให
้
่
้เกิด
ความหวาดระแวงซึง่ กันและกัน
ที่
สาคัญไมอาจมั
น
่ ใจไดว
บคนรายได
)้
่
้ าจะจั
่
้
๓. แนะนาไมให
้
่ ามา
่ ้นักเรียนนาของมีคาเข
Slide 22
่ ้
ไวในห
้
้องเรียน
่
๕. จัดให้มีทรี่ บ
ั ฝากของมีคา่ เมือ
่
นักเรียนมีความจาเป็ นตองเข
ามาใน
้
้
โรงเรียน
สรุป วิธท
ี ี่ 4 และ5 ควรใช้มาก
ทีส
่ ุด
เพราะไมเกิ
่ ดการขัดกัน แตกลั
่ บ
ส่งเสริมให้บรรลุเป้าหมายในการ
Slide 23
เมื่อเรี ยนเรื่ องนี้จบแล้วให้นกั เรี ยนปฏิบตั ิ ดังนี้
• ทำแบบฝึ กทักษะ
• ทำแบบทดสอบ
• ทำชิ้นงำนที่ครู มอบหมำย(ถ้ำมี)
สวัสดี
คะ่
บทเรียนโปรแกรม
POWER POINT
เรือ
่ ง การใช้ภาษา
พัฒนาความคิด
ผู้สอน
นางศิ รพ
ิ รรณ
รัก
Slide 2
ภาษากับการแสดงความคิด
และการใช้ความคิด
ภาษา
คือ เครือ
่ งมือทีม
่ นุ ษยใช
์ ้
ถายทอดและแสดงออกทางความคิ
ด
่
โดยสื่ อออกมาทางคาพูด
การคิด
ความคิด
หมายถึง
หมายถึง การคิดที่
กระบวนการทางาน
บรรลุแลว
้ หรือผล
ของสมองในการหา
หรื
อ
ค
าตอบที
ไ
่
ด
รั
บ
้
การฝึ กฝนการคิดให้พัฒนา ให้คิดได้
ค
าตอบ
หรื
อ
หา
จากการคิ
ด
วองไว
แหลมคมและมีประสิ ทธิภาพ จนมี
่
หนทางออก
หรื
อ
ความเชีย
่ วชาญในการคิด เรียกวา่ มีกาลัง
คิ
ด
ในเรื
อ
่
งต
างๆ
่ งปัญญาหรือมีพลังสมอง
ความคิด กาลั
Slide 3
การคิดของมนุ ษยแบ
น
่
์ งออกเป็
ทิศทาง
ดังนี้
๒
ทิศทางในการคิด
คิดในทางวัฒนะ
คิดในทางหายนะ
ในทางสรางสรรค
เป็ นประโยชน
ไมเป็
คิด์ ในทางทาลาย
์
้
่ นประโยชน
Slide 4
จุดมุงหมายสู
งสุดของการพัฒนาความคิด
่
คือ
คิดไปในทิศทางวัฒนะ
เพราะผลของการคิด กอให
่
้เกิดประโยชน์
ตอส
และเมือ
่ ความคิด
่ ่ วนรวม
เปลีย
่ นเป็ นการกระทา
ผลของการ
กระทาก็กอให
่
้เกิดประโยชนสุ
์ ข
การคิดของมนุ ษย ์
แบงเป็
่ น ๒ ประเภท
คือ
คิดอยางมี
- ตองมี
เหตุผล
หลักการ
่
้
ขอสนั
บสนุ น เพือ
่ ให้เกิดขอสรุ
ปทีม
่ ี
้
้
เหตุผล
Slide 5
อุปสรรคของการคิด
อคติ
ความเรงรั
่ ด
ความเหนื่อยลา้
ความซา้ ซาก จาเจ
ขาดพืน
้ ความรูที
้ เ่ พียงพอ
สภาพแวดลอมไม
เอื
้ อานวย
้
่ อ
สุขภาพจิตและสุขภาพกายไม่
สมบูรณ์
Slide 6
ความสั มพันธระหว
าง
่
์
ภาษากับความคิด
บทบาทของภาษา
ในการพัฒนาความคิด
– ถายทอดความคิ
ดให้ผูอื
่ รับรู้
่
้ น
และเขาใจได
้
้
– ขัดเกลาความคิดให้กระจางชั
ด
่
ขึน
้
Slide 7
การพัฒนาความคิด
ตามลาดับขัน
้ ตอน
การประเมินค่ า
การสังเคราะห์
การวิเคราะห์
การประยุกต์ ใช้
ความเข้ าใจ
ความจา
Slide 8
วิธค
ี ด
ิ
แบงออกเป็
น
่
- วิธค
ี ด
ิ เชิงวิเคราะห ์
เชิงสั งเคราะห ์
ประเมินคา่
๓ วิธ ี
ดังนี้
- วิธค
ี ด
ิ
- วิธค
ี ด
ิ เชิง
วิธค
ี ด
ิ เชิงวิเคราะห ์
หมายถึง
การพิจ ารณาแยกสิ่ งใด
สิ่ งหนึ่ ง ออกเป็ นส่ วนๆ
เพื่อ ท าความ
เข้าใจแตละส
แล้วทา
่
่ วนให้แจ่มแจ้ง
ความเข้าใจตอไปว
่ ว
่
่าแตละส
่
่ วนสั มพันธเกี
์ ย
เนื่ อ งกัน อย่างไร
การจะคิด วิเ คราะห ์
Slide 9
ขัน
้ ตอนของวิธค
ี ด
ิ เชิง
วิเคราะห ์
๑. กาหนดขอบเขตของ
เรือ
่ งทีจ
่ ะวิเคราะห ์
ให้ชัดเจน
๒. กาหนดจุดมุงหมาย
่
ในการวิเคราะห ์
๓. พิจารณาหลักทฤษฎี
ทีจ
่ ะนามาเป็ น
เครือ
่ งมือในการ
วิเคราะห ์
๔. ใช้หลักทฤษฎีมา
๑. เพือ
่ ให้รูว
้ าเราจะ
่
วิเคราะหอะไร
์
๒. เพือ
่ ให้รูว
้ าวิ
่ เคราะห ์
สิ่ งนั้นเพือ
่ อะไร
๓. เพือ
่ ให้รูว
้ าเราใช
่
้
อะไรเป็ นเครือ
่ งมือ
ในการวิเคราะห ์
๔. ตองรู
วิ
ี าร
้
้ ธก
วิเคราะหว์ า่ จะ
Slide 10
ตัวอยาง
่
การวิเคราะหประโยค
คือ
การ
์
แยกประโยคออกเป็ น
ประธาน
ขยายประธาน
กริยา
ขยายกริยา
กรรม
ขยายกรรม
เป็ นตน
้
เสื ออาศั ยอยูในป
่
่ าลึก
(เสื อ - ประธาน / อาศั ยอยู่ - กริยา /ป่า
- กรรม / ลึก - ขยายกรรม)
นักเรียนชัน
้ ม.๖เรียนวิชาภาษาไทยอยาง
่
สนุ กสนาน
(นักเรียน - ประธาน / ชัน
้ ม.๖ - ขยาย
ประธาน / เรียน - กริยา / วิชา
Slide 11
วิธค
ี ด
ิ เชิงสั งเคราะห ์
วิธค
ี ด
ิ เชิงสั งเคราะห ์
หมายถึง
การรวมส่วนตางๆ
่
ให้ประกอบกันเขาด
ธท
ี เี่ หมาะสม
้ วยกรรมวิ
้
จนเกิดเป็ นสิ่ งใหมขึ
้
สาหรับจะได้
่ น
นาไปใช้ประโยชนต
การ
่
์ อไป
สั งเคราะหต
กความรูหรื
้
้ อทฤษฎี
์ องการหลั
ในการรวมส่วนตางๆเช
่
่ นเดียวกับการ
วิเคราะห ์
Slide 12
ขัน
้ ตอนของวิธค
ี ด
ิ
เชิงสั งเคราะห ์
๑. กาหนด
จุดมุงหมายในการ
่
สั งเคราะหให
์ ้
ชัดเจน
๒. หาความรูเพื
่ ใช้
้ อ
ในการสั งเคราะห ์
๓.
ทาความเขาใจ
้
ส่วนตางๆที
จ
่ ะ
่
นามาสั งเคราะห ์
๔. ใช้หลักความรูให
้ ้
๑. จะสรางอะไร
้
นาไปใช้
ประโยชนอะไร
์
หรือทาหน้าที่
อะไร
๒. เพือ
่ นามาใช้เป็ น
หลักในการ
สั งเคราะห ์
๓. ทาความเขาใจ
้
ส่วนประกอบตางๆ
่
ของสิ่ งทีจ
่ ะนามา
Slide 13
ตัวอยาง
การ
่
สั งเคราะหประโยค
์
การสั งเคราะหประโยค
คือ
การ
์
นาส่วนประกอบของประโยค มี
ประธาน
ขยายประธาน
กริยา
ขยายกริยา
กรรม
ขยาย
กรรม
มารวมเขาด
นตามหลักการ
้ วยกั
้
างประโยค
เพืสอ
่ วนประกอบต
ให้ไดประโยคที
ส
่ ื่ อ้
้
้
ใหสร
นั
ก
เรี
ย
นสั
ง
เคราะห
อไปนี
้
่
์ ่
ความหมายได
ตามต
องการ
้
้ ดพรอมตั
ให
๑
ชนิ
เป็
นอาหาร
ง้ ชือ
่ ให้
้
้
น่าสนใจ
มะเขือเทศ
มันฝรัง่
Slide 14
วิธค
ี ด
ิ เชิง
ประเมิ
น
ค
า
การใชดุลพินิจ่ ตัดสิ น
หมายถึง
้
คุณคา่
ของสิ่ งใดสิ่ งหนึ่งวาดี
่ หรือ
เลว
มีคุณหรือโทษอยางไร
่
แนวปฏิ
ต
ั ข
ิ องวิ
ี ด
ิ เชิงประเมิ
น
คา่ การ
มี
มากน้บ
อยแค
ไหน
กอนที
จ
่ ะมี
่ ธค
่
ดังนี้ นคาได
ประเมิ
เราจาเป็ นตอง
่
้
้
๑.มีทเกณฑ
าความเข
าใจหรื
จั
เป็
่ งตัอดทสิาความรู
นกอน
้ อ
้ กกับ
่
์ นเครื
สิ่ งทีเ่ ราจะประเมินให้ดีเสี ยกอน
่
๒.พิจารณาถึงเกณฑที
่ ะตัดสิ น
์ จ
๓.อาจประเมินโดยไมต
่ องใช
้
้เกณฑก็
์ ได ้
Slide 15
ตัวอยาง
วิธค
ี ด
ิ เชิง
่
ประเมินคา่
เรือ
่ งมงคลสูตรคาฉันท ์
คุณคาด
มงคลสูตรคาฉันท ์
งคม
่ านสั
้
นี้ มีคุณอเนกประการแกผู
ปฏิบต
ั ิ
่ ประพฤติ
้
ตาม เช่น
มีวาจาสุภาษิต คือ กลาว
่
ความจริงลวนแต
มี
ใช้ถอยค
า
้
่ ประโยชน์
้
สุภาพยอมท
าให้บุคคลทีค
่ บหาสมาคมดวยมี
่
้
ความรักใคร่ อยากคบหาสมาคม ฯลฯ
Slide 16
การคิดเพือ
่
แกปั
ญ
หา
้
การทีม
่ นุ ษยรู์ จั
่ แกปั
้ กคิดเพือ
้ ญหา
จะเป็ นประโยชนแก
งคม
่
์ ตนเองและสั
ไดเป็
้ นอยางดี
่
่ แก้ปัญหา
หลักสาคัญทีใ่ ช้ในการคิดเพือ
มีดงั นี้
๑.ตองเข
าใจประเภทของปั
ญหา
้
้
๒.ตองเข
าใจสาเหตุ
และสภาพแวดลอม
้
้
้
ของปัญหา
Slide 17
ประเภทของ
ปัญหา
ปัญหาแบงออกเป็
น
3 ประเภท
่
ดังนี้
๑. ปัญหาเฉพาะบุคคล เป็ นปัญหาที่
เกิดขึน
้ เฉพาะคนใดคนหนึ่ง
แต่
อาจเชือ
่ มโยงไปถึงบุคคลอืน
่ หรือสิ่ ง
อืน
่ ได้
๒. ปัญหาเฉพาะกลุม
่ เป็ นปัญหาของ
กลุมบุ
มหนึ
่ง ทีต
่ อง
่ คคลกลุมใดกลุ
่
่
้
Slide 18
สาเหตุและสภาพแวดลอม
้
ของปัญหา
เ มื่ อ มี ปั ญ ห า เ กิ ด ขึ้ น
ไม่ ว่ าจะ เป็ นปั ญ หาประเภทใดก็ ตาม
เรา
การที่เ ราจะแก้ ปั ญ หานั้ น ๆได้
ต้องทราบถึงสาเหตุทท
ี่ าให้เกิดปัญหานั้น
นอกจากนี้
เรายัง ต้ องพิจ ารณาถึง
สภาพแวดล้ อมของปั ญ หานั้ น ๆอีก ด้ วย
เพราะ ปั ญ หาเดีย วกัน
ถ้ าเกิด ใน
สภาพ
สภาพแวดลอมที่ ต างกั น
Slide 19
หลักสาคัญในการคิดเมือ
่ มี
ปัญหา
หลักสาคัญในการคิดเมือ
่ มีปญ
ั หา
มีดงั นี้
๑. ทาความเขาใจลั
กษณะของปัญหา
้
และวางขอบเขตของปัญหา
๒. พิจารณาสาเหตุของปัญหา
๓. วางเป้าหมายในการแกปั
้ ญหา
๔. คิดหาวิถท
ี างตางๆในการแก
ปั
่
้ ญหา
Slide 20
ตัวอยาง
การคิดเพือ
่
่
แกปั
้ ญหา
สมมุตวิ า่
มีปญ
ั หาของหายขึน
้ ใน
ห้องเรียนอยูบ
เมือ
่ เราตระหนักถึง
่ อยๆ
่
ปัญหานี้แลว
เรามีเป้าหมายวา่
้
จะตองป
้ อีก
้ ้ องกันไมให
่ ้เกิดของหายขึน
ตอไป
่
่ งของไว้
๑. หาคนคอยเฝ
้ าดู
เราอาจมองเห็
นวิ
ถท
ี แลสิ
างในการ
ตลอดเวลา
แก
หาหลายทางด
วยกั
นนคนเฝ้า
้ ปญ
้
(อุปั
สรรค
คือ ใครจะมาเป็
เอางบประมาณไหนมาจาง)
Slide 21
๑. หาคนคอยเฝ้าดูแลสิ่ งของไวตลอดเวลา
้
(อุปสรรค คือ ใครจะมาเป็ นคนเฝ้า
เอางบประมาณไหนมาจ้าง)
๒. พยายามสื บเสาะหาตัวคนรายให
้
้ได้
(อุปสรรค คือ ใครจะเป็ นคนสื บเสาะหา
ตัวคนราย
หากทาจริงๆจะกอให
้
่
้เกิด
ความหวาดระแวงซึง่ กันและกัน
ที่
สาคัญไมอาจมั
น
่ ใจไดว
บคนรายได
)้
่
้ าจะจั
่
้
๓. แนะนาไมให
้
่ ามา
่ ้นักเรียนนาของมีคาเข
Slide 22
่ ้
ไวในห
้
้องเรียน
่
๕. จัดให้มีทรี่ บ
ั ฝากของมีคา่ เมือ
่
นักเรียนมีความจาเป็ นตองเข
ามาใน
้
้
โรงเรียน
สรุป วิธท
ี ี่ 4 และ5 ควรใช้มาก
ทีส
่ ุด
เพราะไมเกิ
่ ดการขัดกัน แตกลั
่ บ
ส่งเสริมให้บรรลุเป้าหมายในการ
Slide 23
เมื่อเรี ยนเรื่ องนี้จบแล้วให้นกั เรี ยนปฏิบตั ิ ดังนี้
• ทำแบบฝึ กทักษะ
• ทำแบบทดสอบ
• ทำชิ้นงำนที่ครู มอบหมำย(ถ้ำมี)
สวัสดี
คะ่