การสร้างข้อสอบอัตนัยหรือเขียนตอบ
Download
Report
Transcript การสร้างข้อสอบอัตนัยหรือเขียนตอบ
ดร.ชนาธิป
ทุ้ยแป
สานักทดสอบทาง
การศึ กษา สพฐ.
1
ปัจจุบน
ั ทานก
าลังเป็ นครูผสอนอยู
่
ู้
่
ในช่วงไหนเอย?
่
1
2
กาลังเรียนครู
เริม
่ บรรจุ
3
สนุ กกับการ
ทางาน
4
ใกลเกษี
ยณ
้
5
เกษียณอายุ
ราชการ
การประเมินในระบบการศึ กษาไทย
การประเมินระดับ
นานาชาติ
PISA & TIMSS
การประเมิน
ระดับชาติ
ONET & NT
การประเมินระดับ
เขตพืน
้ ที่
LAS
การประเมินระดับ
สถานศึ กษา
การทดสอบระดับชัน
้
เรียน
การประเมินภายใน&
ภายนอก
การทดสอบในชัน
้
เรียน
ตามมาตรฐานและ
ตัวชีว้ ด
ั
ข้อสอบกลางที่ใช้เป็ นข้อสอบ
ปลายภาค/ปลายปี
ระดับชัน้
กลุ่ม
สาระ
ป.2, 4-5 และ ม.1-2
ภาษา
ไทย
ป.2
ป.45
ม.12
4
ภาษาไทย / คณิตศาสตร์ /
วิทยาศาสตร์
ภาษาไทย
/ คณิตศาสตร์ /
วิทยาศาสตร์ / สังคม
ศึกษาฯ /
ภาษาต่างประเทศ
ระบบการวัดและประเมินผลในระดับ
สถานศึ กษาโดยใช้ขอสอบกลาง
้
คะแนนผลสั มฤทธิท
์ างการเรียนของผู้เรียนทีใ่ ช้ในการ
ตัดสิ นผลการเรียน
คะแนนสอบปลาย
คะแนนเก็บระหวางภาคเรี
ยน
่
ภาค
- คะแนนจิตพิสัย
- คะแนนสอบทายบท/กลางภาค
้
- คะแนนตรวจงาน/โครงการ
- คะแนนสอบภาคปฏิบต
ั ิ
ฯลฯ
5
ข้อส
อบ
ข้อสอบของ
กลาง
โรงเรียน/
(สพฐ
เขตพืน
้ ที่
.)
(80 %)
(20
%)
การทดสอบระดับนานาชาติ (PISA)
กับ การทดสอบในชัน
้ เรียน (Classroom
Assessment)
ในปัจจุบน
ั
- ข้อสอบ
การทดสอบระดับ
นานาชาติ
(PISA)
การทดสอบ
ระดับชัน
้ เรียน
(Classroom)
Free content
Based
assessment
(เนื้อหาทัว่ ไป)
เลือกตอบ
- ข้อสอบเขียน
ตอบ
content
Based
assessment
(เนื้อหาตามตัวชีว
้ ด
ั )
- ข้อสอบ
เลือกตอบ
รูปแบบขอสอบอั
ตนัยหรือ
้
เขียนตอบ
การประเมินในระดับนานาชาติ
(PISA)
1. แบบสร้างคาตอบแบบปิ ด
2. แบบเขียนตอบสั้ น
3. แบบสร้างคาตอบแบบอิสระ
การประเมินในระดับชัน
้ เรียน
1. แบบจากัดคาตอบหรือตอบสั้ น
(Restricted Response or Shot
Essay Item: RR)
2. แบบขยายคาตอบหรือตอบ
อยางอิ
สระ (Unrestricted
่
Response or extended
Response: UR)
ตัวอยางข
อสอบเขี
ยนตอบ
่
้
ตามแนว
PISA
1. แบบสรางคาตอบแบบปิ ด มีลก
ั ษณะเป็ น
้
ขอสอบที
ม
่ ข
ี อค
ยน
้
้ าถามแลวให
้
้ผูเข
้ าสอบเขี
้
ทีม
่ ี
คาตอบทีเ่ ป็ นคาตอบถูกตอง
้
ลักษณะเฉพาะและชัดเจน
เช่น
โจทย ์
บริษท
ั ทีท
่ าขนมปังกรอบชือ
่ บริษท
ั
อะไร
...............................................................
...............................................................
...............................................................
.............
ตัวอยางข
อสอบเขี
ยนตอบ
่
้
ตามแนว
PISA
2. เขียนตอบสั้ น ๆ มีลก
ั ษณะเป็ นขอสอบทีม
่ ี
้
ขอค
ยนคาตอบสั้ น
้ าถาม และให้ผูเข
้ าสอบเขี
้
ซึง่
เ่ ตรียมไวในแบบทดสอบ
ๆ ในทีว่ างที
้
่
อาจเขียนคาตอบเป็ นตัวหนังสื อ วาดภาพ
โจทย
ถ
น
านั
ก
เรี
ย
นต
องการหาเส
นทางสั
้
้
้
้
์
และ/หรือเขียนตัวเลข
เช่น
ทีส
่ ด
ุ เพือ
่ เดินทางดวยรถไฟใต
ดิ
้
้ นจากสถานี
ซาโตไปยั
งสถานีป่าไม้ จงเขียนเส้นทางที่
้
นักเรียนจะใช้เดินทางลงในแผนที่
...............................................................
...............................................................
ตัวอยางข
อสอบเขี
ยนตอบ
่
้
ตามแนว
PISA
3. สรางคาตอบแบบอิสระ มีลก
ั ษณะเป็ น
้
ขอสอบที
ม
่ ข
ี อค
บาย
้
้ าถามแลวให
้
้ผูเข
้ าสอบอธิ
้
่ สดง
คาตอบหรือให้เหตุผลประกอบคาตอบทีแ
ความเขาใจที
ม
่ ต
ี อค
้
่ าถาม ผูเข
้ าสอบควร
้
เขียนคาตอบในเส้นบรรทัดทีก
่ าหนดไวให
้ ้
จโจทย
านวนเส
นบรรทั
ด
จะเป็
นตั
ว
บอกความยาว
ลั
ก
ษณะอย
างใดของภาพยนตร
้
่
์
์ ที่
อย
าง
คราว
ๆ ทีค
่ วรเขียนตอบ
ทาให
่ ้คนในเมื
่ องมาซอนโดโกรธแค
น
้
................................................................
................................................................
รูปแบบข้อสอบเขียนตอบในการทดสอบ
ระดับนานาชาติ (PISA)
1. แบบสรางค
าตอบ
้
แบบปิ ด
2. แบบเขียนตอบสั้ น
3. แบบสรางค
าตอบ
้
แบบอิสระ
ระดับพฤติกรรมทางสมอง
ขัน
้ พืน
้ ฐาน
• ความจา
• ความเขาใจ
้
• การนาไปใช้
ระดับพฤติกรรมทางสมอง
ขัน
้ สูง
• การวิเคราะห ์
• การประเมินคา่
• การสรางสรรค
้
์
รูปแบบขอสอบแบบเขี
ยนตอบใน
้
ชัน
้ เรียน
1. แบบจากัดคาตอบหรือตอบสั้ น
(Restricted Response or Shot
Essay Item)
เขียน
ตอบ
2. แบบขยายคาตอบหรื
ตอบอย
างา
4. อ
แบบกลุ
มค
่ ่
อิสระ ตอบสั มพันธ(
์
(Unrestricted Response or
1.แบบจากัดคาตอบหรือตอบสั้ น
(Restricted Response or Shot
Essay Item: RR)
เป็ นลักษณะขอสอบที
ใ่ ห้
้
คิดและเขียนคาตอบภายใต้
เงือ
่ นไขทีก
่ าหนด และมีแนว
ของคาตอบทีช
่ ด
ั เจน
(ออกยาก แตตรวจง
าย)
่
่
ตัวอยางข
่
้อสอบแบบจากัดคาตอบหรือ
ตอบสั้ น
(restricted-response question)
การเลือกตัง้ สมาชิกสภาผู้แทน
ราษฎร กับการเลือกตัง้ สมาชิกวุฒส
ิ ภา
ตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบน
ั มีความ
2. เหมือนและความแตกตางกันอยางไร
่
่
………………………………………
………………………………………
……………......................................
ตัวอยางข
อสอบในระดั
บชาติและ
่
้
นานาชาติ
โจทย ์ ลวดยาว 44 เซนติเมตร ถา้
นามาตัดแลวดั
่ มจัตุรส
ั
้ ดให้เป็ นรูปสี่ เหลีย
ยาวดานละ
2 เซนติเมตร จะไดรู
้
้ ป
สี่ เหลีย
่ มจัตุรส
ั มากทีส
่ ุด
............................ รูป
ทีม
่ า: ดัดแปลงจาก
ตัวอยางข
อสอบในระดั
บชาติและ
่
้
โจทย ์
นารูปสีนานาชาติ
่ เหลีย
่ มจัตรุ ส
ั จานวน 5 รูปทีม
่ ี
พืน
้ ทีเ่ ทากั
ื้ ทีร่ วมกัน
่ นมาตอกั
่ นดังภาพ ซึง่ มีพน
ทัง้ หมด 245 ตารางเซนติเมตร
จงหา
ก. พืน
้ ทีร่ ป
ู สี่ เหลีย
่ มจัตุรส
ั จานวน
คาตอบตอไปนี
้
่
1 รูป
ตอบ
...............................ตาราง
เซนติเมตร
ข. รูปสี่ เหลีย
่ มจัตุรส
ั ยาวดานละ
้
เทาใด
่
ตอบ
ตัวอยางข
อสอบในระดั
บชาติและ
่
้
โจทย ์ รูปแสดงลูนานาชาติ
กเตา๋ 6 รูป
มีชอ
ื่ ติด
กากับไวว
(a) (b) (c) (d) (e) และ
้ า่
(f) เป็ นกฎของลูกเตา๋ คือ จานวนจุดทีอ
่ ยูบน
่
หน้าตรงกันขามสองหน
นขามสองหน
้
้ ารวมกั
้ ดบน ้ า
จงเขี
ยนจานวนจุ
รวมกันตองเป็
น
7หนเสมอ
้
่ ยูด
างของ
้ าทีอ
่ านล
้
่
ลูกเตาที
่ ยูในภาพ
ลงใน
๋ อ
่
ตารางลาง
่
ทีม
่ า: ดัดแปลงจากขอสอบโครงการ
PISA
้
ตัวอยางข
อสอบในระดั
บชาติและ
่
้
นานาชาติ
โจทย ตอมเลีย
้ งปลาทอง นกพิราบ และ
์ ้
กระตาย
รวมกัน 10 ตัว นับขารวมกัน
่
ได้ 20 ขา ตอมจะมี
ปลาทอง
้
นกพิ
ราบ ตและกระต
าย
อย
างละกี
ต
่
ว
ั
คาตอบ
อมเลี
ย
้
งปลาทอง
...............
่
่
้
ตัว
นกพิราบ ............... ตัว และ
กระตาย
............... ตัว
่
ทีม
่ า : ขอสอบ สสวท.
ตัวอยางข
อสอบในระดั
บชาติและ
่
้
นานาชาติ
โจทย ์ ถ้าเขาตองการทดสอบความคิ
ดของเขา
้
ทีว่ าถ
้ รถจะเคลือ
่ นทีเ่ ร็วขึน
้ ไม่
่ าวางรางให
้
้สูงขึน
เขาจะตองเปรี
ยบเทียบการทดลองสามครั
้ ขใด
ทีม
่ า: ง
อสอบโครงก
้
้
ตัวอยางข
อสอบในระดั
บชาติและ
่
้
นานาชาติ
โจทย ์ จากภาพชุมชนหนู งู และตนข
จะ
้ าว
้
เกิดอะไรขึน
้ กับชุมชนนี้
ทีม
่ า: ขอสอบโครงก
้
ตัวอยางข
อสอบในระดั
บชาติและ
่
้
สถานีรถไฟนานาชาติ
3 สถานีอยูบนเส
่
้ นทาง
รถไฟสายเดียวกัน ดังภาพ
โจทยจากภาพ
สถานี ก และสถานี ค
์
อยูห
3,350 เมตร
่ ่างกัน
สถานี ข และสถานี ค อยูห
่ ่างกัน
1,780 เมตร
สถานี ก และสถานี ข อยูห
่ ่างกัน
กีเ่ มตร
จงแสดงวิธท
ี า
ตัวอยางข
อสอบในระดั
บชาติและ
่
้
มีน้าอยูในกระบอกตวงใบที
นานาชาติ่ 1 และใบ
่
ที่ 2
ดังภาพ
โจทยจากภาพ
ถ้าเทน้าจากกระบอกตวงใบที่
์
1 ลงในกระบอกตวงใบที่ 2 จนกระบอกตวงใบ
ที่ 2 มีน้าเพิม
่ เป็ น 925 มิลลิลต
ิ ร กระบอก
2. แบบขยายคาตอบหรือตอบอยาง
่
อิสระ
(Unrestricted Response or extended
Response: UR)
เป็ นลักษณะขอสอบที
ใ่ ห้
้
อิสระในการคิด โดยเปิ ดโอกาสให้
คิดและเขียนภายใตหลั
้ กวิชาที่
สมเหตุสมผล ตองมี
ประเด็นหรือ
้
เกณฑในการตรวจให
้คะแนนที่
์
ชัดเจนครอบคลุม
ตัวอยางข
อสอบแบบขยายค
าตอบหรือตอบ
่
้
อยางอิ
สระ
่
(extended-response question)
1. จงออกแบบระบบการบาบัดนา้ เสียในสถานศึกษา
ของเราที่มีลักษณะเป็ นมิตรกับสิ่งแวดล้ อม
.................................................................................
ประเด็นในการตรวจให้ คะแนน
• เกี่ยวกับการบาบัดนา้ เสีย
• เป็ นมิตรกับสิ่งแวดล้ อม
• เหมาะสมกับบริบทสถานศึกษา
• มีความเป็ นไปได้
ตัวอยางข
อสอบในระดั
บชาติและ
่
้
นักขาวโทรทั
ศน
แสดงกราฟต
อไปนี
้ และ
นานาชาติ
่
่
์
รายงานวา่ “กราฟแสดงให้เห็ นวาคดี
ปลนในปี
่
้
พ.ศ.2542 มีจานวนเพิม
่ ขึน
้ จากปี พ.ศ.2541
มาก”
โจทย ์ คาพูดของ
นักขาวคนนี
้ เป็ น
่
การแปลความหมาย
กราฟอยาง
่
สมเหตุสมผลหรือไม่
พรอมเขี
ยนคาอธิบาย
้
ทีม
่ คา:าตอบ
ขอสอบโครงก
สนับสนุ น
้
ตัวอยางข
อสอบในระดั
บชาติและ
่
้
ในการทาการบานเรื
อ
่ งสิ่ งแวดลอม
นักเรียนได้
้ นานาชาติ
้
รวบรวมเกีย
่ วกับระยะเวลาการสลายตัวของขยะ
ชนิดตางๆ
ทีป
่ ระชาชนทิง้ ไดดั
่
้ งนี้
โจทย ์ นักเรียนคนหนึ่งคิดทีจ
่ ะแสดงขอมู
้ ลเหลานี
่ ้
เป็ นแผนภูมแ
ิ ทง่ จงให้เหตุผลมาหนึ่งขอว
้ าท
่ าไม
แผนภูมแ
ิ ทงจึ
อมู
่ งไมเหมาะสมในการแสดงข
่
้ ลเหลานี
่ ้
ข้อดี ข้อจำก ัดของแบบทดสอบอ ัตน ัย
อดีดี
ข้ข้อ
1. สามารถวัด พฤติก รรมต่ างๆได้ ทุ ก ด้ าน
โดยเฉพาะกระบวนการคิ ด วิ เ คราะห ์ และ
สั งเคราะหจะวั
ดได้ดี
์
2. ผู้ ตอบมี โ อกาสใช้ ความรู้ แสดงความ
คิดเห็ นและความสามารถในการใช้ภาษา
3. ลดโอกาสในการเดา
4. สร้างได้งายและประหยั
ดคาใช
่
่
้จาย
่
จากัดัด
ข้อข้จอำก
1. ค าถามไม่ สามารถออกให้ ครอบคลุ ม
เนื้ อ หาที่ เ รี ย นได้ เนื่ อ งจากจ านวนข้ อมี
จ า กั ด เ ป็ น ก า ร ย า ก ที่ จ ะ สุ่ ม เ นื้ อ ห า ใ ห้
ครอบคลุมความรู้ทีต
่ ้องการจะวัดได้ครบถ้วน
2. การตรวจให้คะแนนไมคงที
แ
่ น่นอน มัก
่
มีความคลาดเคลือ
่ นมาก และควบคุมให้เกิด
ความยุตธ
ิ รรมได้ยาก
3. ไม่เหมาะที่จ ะใช้ กับ ผู้ สอบจ านวนมากๆ
เพราะใช้เวลาในการตรวจ
4. ลายมือของผู้ ตอบและความสามารถใน
การเขียนบรรยายอาจจะมีผลตอคะแนน
่
5. มีความเชือ
่ มัน
่ ตา่ และมักขาดความ
เทีย
่ งธรรม
ขัน
้ ตอนการสรางข
้ เรียน
้
้อสอบในชัน
กาหนดกรอบในการ
ประเมิน
แผนผังแบบ
สอบ
นาข้อสอบ
ทดลองใช้
เขียนขอสอบ
้
การตรวจสอบ
ตรวจสอบ
ภาษา/
ความตรงเชิงเนื้อหา ความถูกตอง
้
ตามหลักการ
วัดผล
วิเคราะห ์
มาตรฐาน
การวิเคราะห ์
คุณภาพ
ข้อสอบ/แบบ
ปรับสอบ
ปรุง/
บรรณาธิการกิจ
ข้อสอบ/แบบสอบ
นาข้อสอบไป
ใช้/
เก็บเขาคลั
ง
้
การวิเคราะห์มาตรฐานและตัวชี้วดั
เพื่อการวัดและประเมินผล
ในชัน้ เรียน
กำรวิเครำะห์มำตรฐำนและต ัวชวี้ ัดของหล ักสูตร
ตัวชีว้ ัด1
ตัวชีว้ ัด2
หลักสูตร
มาตรฐาน
1
ตัวชีว้ ัด3
ตัวชีว้ ัด4
มาตรฐาน
2
มาตรฐาน
3
ความรู้
(knowledge: K)
ทักษะกระบวนการ
(process skill: P)
คุณลักษณะ
(Attribute: A)
มฐ. ท 1.1ใช้กระบวนการอานสร
างความรู
่
้
้
และความคิดเพือ
่ นาไปใช้ตัดสิ นใจ
แก้ปัญหาในการดาเนินชีวต
ิ
และมีนิสัยรัก
การอ
าน
่
• อานออกเสี
ย
งค
า
ค
าคล
องจอง
ขอความ
่
้
้
•
•
•
•
และบทรอยกรองง
ายๆได
ถู
้
่
้ กตอง
้
อธิบายความหมายของคาและขอความที
่
้
อาน
่
ตัง้ คาถามและตอบคาถามเกีย
่ วกับเรือ
่ งที่
อาน
่
..................
ภาษาไ
ทย
มีมารยาทในการอาน
่
ป.2
31
กำรวิเครำะห์มำตรฐำนและต ัวชวี้ ัดของหล ักสูตร
(เพือ
่ กำรประเมินผลกำรเรียนรู)้
้ ระบวนกำรอ่ำนสร้ำงควำมรูแ
มำตรฐำน ท1.1 ใชก
้ ละควำมคิด เพือ
่ นำไปใช ้
ั ักกำรอ่ำน
ิ ใจ แก้ปญ
ในกำรต ัดสน
ั หำในกำรดำเนินชวี ต
ิ และมีนส
ิ ยร
มำตรฐำนกำรเรียนรู/
้
ต ัวชวี้ ัด
ควำมรู ้
(Knowledge)
ี งบทร้อย
ท 1.1 ม.1/1 อ่ำนออกเสย
แก้ว และบทร้อยกรองได้ถก
ู ต้อง
และเหมำะสม
ท1.1 ม.1/2 จ ับใจควำมสำค ัญจำก
เรือ
่ งทีอ
่ ำ
่ น
ท.1.1 ม.1/9 มีมำรยำทในกำรอ่ำน
ท ักษะกระบวนกำร
(Process Skill)
คุณล ักษณะพึง
ประสงค์
(Attribute)
/
/
/
มาตรฐาน ค ๑.๑
เข้าใจถึงความหลากหลาย
ของการแสดงจานวนและการใช้จานวนในชีวต
ิ จริง
ตัวชีว้ ด
ั
เปรียบเทียบและเรียงลาดับเศษส่วนและ
ทศนิยมไมเกิ
่ นสามตาแหน่ง
คาสาคัญ (key word)
หรือ
พฤติกรรมทีต
่ ้องการ
แสดง
สถานการณ ์ หรือ
บริบทเนื้อหา
การกาหนดกรอบในการประเมิน
(การกาหนดวิธีการและเครือ่ งมือที่เหมาะสม
กับสิ่งที่ต้องการวัด)
วิธก
ี ารวัดและประเมินผลผูเรี
ย
น
้
ความรู้หรือความสามารถ
ทางสมอง (Knowledge) -การทดสอบแบบปรนัย
ทักษะ
กระบวนการ
(Process
Skill)
คุณลักษณะอั
นพึงประสงค์
ความมีวน
ิ ย
ั ความซือ
่ สั ตย์
การใฝ่รู้ใฝ่เรียน เป็ นต้น
(Attribute)
-การทดสอบแบบอัตนัย
-การตรวจสอบผลงาน
-การตรวจการบาน
้
-การสั มภาษณ ์
เช
น
่
-แฟ้มสะสมงาน
ฯลฯ
วิธก
ี ารวัดและประเมินผลผูเรี
ย
น
้
ความรู้หรือความสามารถ
ทางสมอง (Knowledge)
-การทดสอบภาคปฏิบต
ั
ทักษะ
-การสั งเกต
-การสั มภาษณ ์
กระบวนการ
-แฟ้มสะสมงาน
(Process
Skill)
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ เช่น
ฯลฯ
ความมีวน
ิ ย
ั ความซือ
่ สั ตย์
การใฝ่รู้ใฝ่เรียน เป็ นต้น
(Attribute)
วิธก
ี ารวัดและประเมินผลผูเรี
ย
น
้
ความรู้หรือความสามารถ
ทางสมอง (Knowledge) -การรายงานตนเอง
-การสั งเกต
ทักษะ
-การสั มภาษณ ์
กระบวนการ
-การสนทนากลุม/สั
่ งคม
(Process
Skill)
-การทดสอบภาคปฏิ
บต
ั
คุณลักษณะอั
นพึงประสงค์ เช
น
่
ความมีวน
ิ ย
ั ความซือ
่ สั ตย์ -การตรวจสอบประวัต ิ
-แฟ้มสะสมงาน
การใฝ่รู้ใฝ่เรียน เป็ นต้น
ฯลฯ
(Attribute)
วิธก
ี ารวัดและประเมินผลผูเรี
ย
น
้
(แบบทดสอบ)
ถาม
ความรู้หรือความสามารถ
ทางสมอง (Knowledge)
ทักษะ
กระบวนการ
(Process
Skill)
คุณลักษณะอั
นพึง
ประสงค์ เช่น
ความมีวน
ิ ย
ั
ความซือ
่ สั ตย์
การใฝ่รู้ใฝ่เรียน
ถาม
ถาม
องคความรู
ตาม
้
์
ตัวชีว้ ด
ั
ขัน
้ ตอน/วิธก
ี าร/
หลักการ/
กระบวนการตาม
ตัวชีว้ ด
ั
พฤติกรรมที่
แสดงออก
ตามตัวชีว้ ด
ั
วิธก
ี ารและ
เครือ
่ งมือ
ในการวัด
และ
ประเมินผล
วิธก
ี ารใน
การวัด
และ
ประเมินผล
การทดสอบ
การ
สั มภาษณ ์
การสั งเกต
พฤติกรรม
การตรวจ
ชิน
้ งาน
เครือ
่ งมือ
ในการวัด
และ
ประเมินผล
ฯลฯ
แบบทดสอบ
แบบสั มภาษณ ์
แบบสั งเกต
พฤติกรรม
แบบบันทึกผลการ
ตรวจชิน
้ งาน
ฯลฯ
การกาหนดกรอบในการประเมิน
(การเลือกรูปแบบข้อสอบที่เหมาะสมกับ
สิ่งที่ต้องการวัด)
คาตอบ
เดียว
หลาย
คาตอบ
เชิงซ้อน
กลุ่มคาตอบ
สัมพันธ์
เลือกตอบ
ตัวชี้ว ั
ด
เขียนตอบ
แบบจากัด
คาตอบหรือตอบ
สัน้
แบบขยาย
คาตอบหรือ
ตอบอย่างอิสระ
แผนผังแบบสอบ (Test Blueprint)
ระด ับพฤติกรรมด้ำนควำมรู ้ (K)
หน่วย
กำร
เรียนที่
จำนวน
ต ัวชวี้ ัด
จำ
เข้ำ
ใจ
1.
4
1
1
1
2.
6
1
2
2
3
2
รวม
12
ประยุกต์
วิ
ประ สร้ำง
ใช ้
เครำะห์ เมินค่ำ สรรค์
1
2
4
1
1
2
1
MC
RR
8
2
12
1
3
จำนวนข้อสอบ
-
UR
10
1
5
2
25
4
รวม
ข้อสอบ
13
7
1
30
การเขียนข้อสอบอัตนัย
- ลักษณะของคาถาม
- การเขียนข้อสอบ
- การเขียนเกณฑ์การประเมิน (Rubric)
ลักษณะของคาถามแบบอัตนัย
ลักษณะของขอค
้ าถาม
1. ถามให้นิยามหรืออธิบายความหมาย
2. ถามให้จัดลาดับเรือ
่ งราวหรือลาดับ
เหตุการณ ์
3. ถามให้จัดหรือแยกประเภทสิ่ งของหรือ
เรือ
่ งราวตาง
ๆ
่
4. ถามให้อธิบายเหตุการณหรื
์ อ
กระบวนการ
5. ถามให้เปรียบเทียบเหตุการณ ์ ความ
(ตอ)
่
ลักษณะของขอค
้ าถาม
7. ถามให้อธิบายเหตุผลยอ
่ ๆ ในการ
สนับสนุ นหรือคัดค้าน
8. ถามให้วิเคราะหเรื
่ งราวหรือวิเคราะห ์
์ อ
ความสั มพันธ ์
้ จงหลักการหรือจุดประสงค ์
9. ถามให้ชีแ
10. ถามให้อภิปรายแสดงความคิดเห็ น
วิพากษวิจารณ
หลักการเขียนข้อสอบแบบอัตนัย
หลักการเขียนข้อสอบอัตนัย
1. เขียนคาชีแ
้ จงเกีย
่ วกับวิธก
ี ารตอบให้
ชัดเจน ระบุจานวนขอค
้ าถาม เวลาทีใ่ ช้สอบ
และคะแนนเต็มของแตละข
อ
่ ให้ผูตอบ
่
้ เพือ
้
สามารถวางแผนการตอบไดถู
้ กตอง
้
2. ข้อคาถามตองพิ
จารณาให้เหมาะสมกับ
้
พืน
้ ความรูของผู
ตอบ
้
้
3. ควรถามเฉพาะเรือ
่ งทีส
่ าคัญและเป็ นเรือ
่ ง
ทีแ
่ บบทดสอบปรนัยวัดไดไม
้ ดี
่ เทา่ เนื่องจากไม่
สามารถถามไดทุ
้ กเนื้อหาทีเ่ รียน ควรถาม
เกีย
่ วกับการนาไปใช้ การวิเคราะห ์ การ
สั งเคราะห ์ ความคิดสรางสรรค
์ การแสดงความ
้
หลักการเขียนข้อสอบอัตนัย (ต่อ)
5. การกาหนดเวลาในการสอบ จะต้อง
สอดคลองกั
บความยาวและลักษณะคาตอบที่
้
ต้องการ ระดับความยากงายและจานวนข
อสอบ
่
้
6. ไมควรมี
ขอสอบไว
ให
่
้
้ ้เลือกตอบเป็ นบาง
ข้อ เพราะอาจมีการไดเปรี
้ ยบเสี ยเปรียบกัน
เนื่องจากแตละข
อค
่
้ าถามจะมีความยากงายไม
่
่
เทากั
น รวมทัง้ จะไม่
่ นและวัดเนื้อหาแตกตางกั
่
ยุตธ
ิ รรมกับผูที
่ ามารถตอบไดทุ
้ ส
้ กขอ
้ ซึง่ มีโอกาส
ไดคะแนนเท
ากั
่ อบไดเพี
้
่ บผูที
้ ต
้ ยงบางขอ
้
7. หลีกเลีย
่ งคาถามทีว่ ด
ั ความรูความจ
า
้
หรือถามเรือ
่ งทีผ
่ เรี
ู้ ยนเคยทา หรือเคยอภิปรายมา
กอน หรือถามเรือ
่ งทีม
่ ค
ี าตอบในหนังสื อ เพราะ
หลักการเขียนข้อสอบอัตนัย (ต่อ)
8. พยายามเขียนคาถามให้มีจานวนมากขอ
้
โดยจากัดให้ตอบ
สั้ น ๆ เพือ
่
จะไดวั
มเนื้อหา ซึง่ จะทาให้
้ ดไดครอบคลุ
้
แบบทดสอบมีความเชือ
่ มัน
่ สูง
9. ควรเตรียมเฉลยคาตอบและกาหนดเกณฑ ์
การให้คะแนนตามขัน
้ ตอนและน้าหนักทีต
่ องการ
้
เน้นไวด
้ วย
้
10. ถ้าแบบทดสอบมีหลายขอ
้ ควร
เรียงลาดับจากของ
้ ายไปหายาก
่
หลักการเขียนเกณฑ์การประเมิน
(Rubric)
เกณฑการประเมิ
น (Rubric) คืออะไร
์
เกณฑการประเมิ
น (Rubric) คือ
์
แนวการให้คะแนนเพือ
่ ประเมินความรู้
ความสามารถ ผลงานหรือประเมินการ
ปฏิบต
ั งิ านของผูเรี
ว
้ ยน หรืออาจกลาวได
่
้ า่
Rubric เป็ นเครือ
่ งมือให้คะแนนชนิดหนึ่ง
ใช้ในการประเมินความรูความสามารถ
้
การปฏิบต
ั งิ านหรือผลงานของผูเรี
้ ยน
องคประกอบของเกณฑ
การประเมิ
น
์
์
(Rubric)
1.เกณฑหรื
่ ะประเมิน (criteria)
์ อประเด็นทีจ
เป็ นการพิจารณาวาการปฏิ
บต
ั งิ านหรือผลงาน
่
นั้นประกอบดวยคุ
ณภาพอะไรบาง
้
้
2.ระดับความสามารถหรือระดับคุณภาพ
(Performance Level) เป็ นการกาหนดจานวน
ระดับของเกณฑ ์ (criteria) วาจะก
าหนดกีร่ ะดับ
่
ส่วนมากจะกาหนดขึน
้ 3-6 ระดับ
3.การบรรยายคุณภาพของแตละระดั
บ
่
ความสามารถ (Quality Description) เป็ น
ชนิดของเกณฑการประเมิ
น
์
(Rubric)
เกณฑการประเมิ
นแบบภาพรวม (Holistic
์
Rubric)
เป็ นการประเมินภาพรวมของการ
ปฏิบต
ั งิ านหรือผลงาน
โดยดูคุณภาพ
โดยรวมมากกวาดู
องส
่ ขอบกพร
้
่
่ วนยอย
่
เกณฑการประเมิ
นแบบแยกส่วน (Analytic
์
Rubric)
เป็ นการประเมินแบบแยกส่วนของ
เกณฑการประเมิ
นออกเป็ นส่วนยอยๆหรื
อ
่
์
หลายมิต ิ เกณฑการประเมิ
นแบบนี้จะไดผล
้
์
เกณฑการประเมิ
นแบบ Holistic
์
Rubrics
มาตรฐาน ค 5.1 เขาใจและใช
ี ารทางสถิตใิ นการวิเคราะห ์
้
้วิธก
ข้อมูล
ตัวชีว้ ด
ั
5.1 ป.6/1 เขียนแผนภู
แิ ท่งเปรียบเที
บงและกราฟ
ดี ค(3 คะแนน)
พอใชม้(2คะแนน)
ปรับยปรุ
(1 คะแนน)
เส้น
แผนภูมม
ิ ค
ี วามถูกตองสมบู
รณครบทุ
กรายการ
้
์
ไดแก
้ ่
1.แผนภูมม
ิ อ
ี งคประกอบส
าคัญครบถวน
์
้
2.มีการกาหนดมาตราส่วนไดเหมาะสม
้
สอดคลองกั
บขอมู
้
้ ล
3.ขนาดของแทงแผนภู
มแ
ิ ละระยะหางของ
่
่
แผนภูมเิ ทากั
่ นทัง้ หมด
4.แทงแผนภู
มท
ิ น
ี่ าเสนอมีจานวนครบถวน
่
้
และถูกตองทุ
กรายการ
้
แผนภูมม
ิ ี
แผนภูมม
ิ ข
ี อผิ
้ ดพลาด
ขอผิ
้ ดพลาดรายการ มากกวา่ 1 รายการ
ใดรายการหนึ่ง
เกณฑการประเมิ
นแบบ Analytic
์
Rubrics
ดี (3 คะแนน)
พอใช้(2คะแนน)
๑. องคประกอบของ
์
แผนภูม ิ
มีองคประกอบส
าคัญ
์
ครบถวน
ไดแก
้
้ ่
ชือ
่ แผนภูม ิ มาตราส่วน
ชือ
่ แกนนอน ชือ
่ แกนตัง้
๒. ขนาดและระยะหาง
่
ของแผนภูม ิ
ขนาดและระยะหางของ
ขนาดและระยะหางของ
่
่
แทงแผนภู
มเิ ทากั
มไิ มเท
่
่ นทัง้ หมด แทงแผนภู
่
่ ากั
่ น
๑ แหง่
๓. การกาหนดมาตราส่วน กาหนดมาตราส่วน
ไดเหมาะสมสอดคล
อง
้
้
กับขอมู
้ ล
๔. ความครบถวนถู
กตอง
้
้
ของขอมู
้ ล
ปรับปรุง(1 คะแนน)
ขาดองคประกอบส
าคัญใด ขาดองคประกอบส
าคัญ
์
์
1 องคประกอบ
มากกวา่
์
๑ รายการ
กาหนดมาตราส่วน
ไมเหมาะสมกั
บขอมู
่
้ ล
ขนาดและระยะหาง
่
ของแทงแผนภู
มไิ มเท
่
่ ากั
่ น
มากกวา่
๑ แหง่
ไมมี
่ การกาหนด
มาตราส่วน
ขอมู
วน
ขอมู
อครบถวน
ขอมู
้ ลถูกตองและครบถ
้
้
้ ลถูกตองหรื
้
้
้ ลไมถู
่ กตองและไม
้
่
อยางใดอย
างหนึ
่ง
ครบถวน
่
่
้
การประเมิ
น
ขัน
้ ตอนการสรางเกณฑ
้
์
(Scoring Rubrics)
1. กาหนดระดับหรือคุณภาพทีต
่ องการให
้
้
คะแนน เช่น
2 ระดับ คะแนนเต็ม กับไมได
่ คะแนน
้
3 ระดับ คือ
คะแนนเต็ม
(2
คะแนน)
ไดคะแนนบางส
้
่ วน (1
คะแนน)
ไมได
(0 คะแนน)
่ คะแนน
้
2. พิจารณาขอค
้ าถามสถานการณ์ แลว
้
ขัน
้ ตอนการสรางเกณฑ
การให
้
้คะแนนแบบ
์
ระดับคุณภาพ
(Scoring Rubrics)
3. วิธก
ี ารเขียนคาอธิบายในแตละระดั
บสามารถ
่
เขียนได้ 3 รูปแบบ คือ
แบบที่ 1 กาหนดคาอธิบายแบบลดลง
หมายถึง
การเขียนเกณฑการให
่ เขียนเกณฑที
้คะแนนโดยเริม
์
์ ่
ระดับคุณภาพสูงสุดหรือไดคะแนนเต็
มกอนแล
วลด
้
่
้
คะแนนตามคุณภาพทีล
่ ดลง
แบบที่ 2 กาหนดคาอธิบายแบบบวกหรือเพิม
่ ขึน
้
หมายถึง การเริม
่ ต้นทีร่ ะดับคุณภาพตา่ สุดหรือไมได
่ ้
คะแนนกอนแล
วเพิ
ม
่ ระดับคุณภาพตามระดับคะแนนที่
่
้
เพิม
่ ขึน
้ ไปตามลาดับ
แบบที่ 3 กาหนดคาอธิบายแบบเพิม
่ ขึน
้ และลดลง
ขัน
้ ตอนการสรางเกณฑ
การให
้
้คะแนนแบบ
์
ระดับคุณภาพ
(Scoring Rubrics)
4. ตรวจสอบโดยคณะผู้มีส่วนรวมหรื
อ
่
ผู้เชีย
่ วชาญทางการวัดผล
5. ทดลองใช้เกณฑในการตรวจผลงานที
ม
่ ี
์
มาตรฐาน/คุณลักษณะ
ตามเกณฑที
่ าหนด
์ ก
6. หาความสอดคลองในการตรวจข
อสอบ
้
้
อัตนัยของกรรมการ
3 ทาน
ในลักษณะของ inter rater
่
reliability
ลักษณะความคลาดเคลื่อน
ในการตรวจข้ อสอบอัตนัยที่มาจากผู้ตรวจหรือผู้ประเมิน
1. Halo Error: รู้จักมักคุ้น
2. Leniency Error: มองโลกในแง่ ดี (เกินไป)
3. Horns Error: มองโลกในแง่ ร้าย (เกินไป)
4. Central Tendency Error: ยึดทางสายกลาง (ไว้ ก่อน)
5. Modeling Error: ผลสั มพัทธ์ ข้างเคียง
6. Contrast Error: ขัดแย้ งในใจ
6.1 Over Qualification Error: ให้ ต่ากว่ าความจริง
6.2 Under Qualification Error: ให้ สูงกว่ าความจริง
กำรตรวจสอบควำมถูกต้องและครอบคลุมของ
้ หำวิชำและจุดมุง
เนือ
่ หมำย
แนวทำงกำรพิจำรณำ
้ หำทีเ่ รียน
1) ข้อคำถำมครบถ้วนทุกต ัวชวี้ ัด/เนือ
หรือไม่
้ หำมี
2) จำนวนข้อคำถำมของแต่ละต ัวชวี้ ัด/เนือ
ั ว
่ นตำมนำ้ หน ักทีก
สดส
่ ำหนดไว้หรือไม่
3) ข้อคำถำมแต่ละข้อว ัดได้ตรงตำมพฤติกรรมที่
ระบุไว้ในต ัวชวี้ ัดหรือไม่
ต ัวชวี้ ัดตำมมำตรฐำน
ผูเ้ รียนสำมำรถบอกถึงหน้ำที่
หรือควำมแตกต่ำงของ
่ นประกอบต่ำงๆของพืชได้
สว
ข้อสอบ
ว ัดได้ตรง
หรือไม่
1. ใบของพืชมีหน้ำทีอ
่ ย่ำงไร จงอธิบำย?
ตรง
ื่ ของพืชทีเ่ ป็นพืชใบเลีย
้ งคู?
2. จงระบุชอ
่
ไม่ตรง
62
กำรตรวจสอบควำมถูกต้องและครอบคลุมของ
้ หำวิชำและจุดมุง
เนือ
่ หมำย
วิธด
ี ำเนินกำร
ี่ วชำญในเนือ
้ หำวิชำนนๆ
1) ตรวจสอบโดยผูเ้ ชย
ั้
2) ตรวจสอบโดยกำรเปรียบเทียบตำรำงกำหนด
จำนวนข้อคำถำม (test Blueprint)
กำรตรวจสอบภำษำและควำมสอดคล้องก ับเทคนิค
กำรเขียนคำถำม
แนวทำงกำรพิจำรณำ
ื่
1) ข้อควำมทีใ่ ชเ้ ขียนเป็นข้อคำถำมสำมำรถสอ
ควำมหมำยได้ดเี พียงไร
2) กำรเขียนข้อคำถำมนนมี
ั้ ควำมถูกต้องตำม
เทคนิคในกำรเขียนข้อคำถำมทีด
่ ห
ี รือไม่
2) กำรตรวจสอบภำษำและควำมสอดคล้องก ับเทคนิค
กำรเขียนคำถำม
วิธด
ี ำเนินกำร
ี่ วชำญทำงด้ำนภำษำ
1) ตรวจสอบโดยผูเ้ ชย
ี่ วชำญทำงด้ำนว ัดผล
2) ตรวจสอบโดยผูเ้ ชย
ึ ษำ
กำรศก
ี่ วชำญเพือ
(ถ้ำหำกไม่สำมำรถหำผูเ้ ชย
่ ชว่ ย
ตรวจสอบได้ อย่ำงน้อยควรให้เพือ
่ นครู หรือ
ต ัวครูเองเป็นผูท
้ ำกำรตรวจสอบ)
•
•
•
•
•
คุณลักษณะของผูเขี
้ ยน
ข
อสอบที
ด
่
ี
้
ผู้เขียนขอสอบต
องมี
ค
วามรู
ในเนื
้อหาทีม
่ งวั
ุ่ ด
้
้
้
เป็ นอยางดี
่
ผู้เขียนขอสอบจะต
องมี
ความรูเกี
่ วกับตัวชีว้ ด
ั /
้
้
้ ย
พฤติกรรมการเรียนรู้ และกระบวนการคิดที่
มุงวั
่ ด
มเป
องมี
ความเขาใจกลุ
ผู้เขียนขอสอบต
่ ้ าหมาย
้
้
้
ของการวัด
ผู้เขียนขอสอบต
องมี
ความสามารถในการใช้
้
้
ภาษาในการสื่ อความหมาย
ผู้เขียนขอสอบจะต
องมี
ทก
ั ษะในสามารถใช้
้
้
เทคโนโลยีสาหรับการเขียนขอสอบ
ความรูความเข
าใจของท
าน
้
้
่
ก่อนอบรม
แบบที่ 1
แบบที่ 2
แบบที่ 3
แบบที่ 4
หล ังอบรม