ภาพนิ่ง 1

Download Report

Transcript ภาพนิ่ง 1

การวิเคราะห์คณ
ุ ภาพแบบทดสอบ
(Test Quality Analysis)
ดร.ชนาธิป ทุย
้ แป
ึ ษา สพฐ.
สาน ักทดสอบทางการศก
การวิเคราะห์คณ
ุ ภาพแบบทดสอบ
1. คุณล ักษณะของแบบทดสอบทีด
่ ี
2. วิธก
ี ารวิเคราะห์แบบทดสอบ
2.1 วิธก
ี ารวิเคราะห์โดยไม่ใชว้ ธ
ิ ก
ี ารทางสถิต ิ
2.1 วิธก
ี ารวิเคราะห์โดยใชว้ ธ
ิ ก
ี ารทางสถิต ิ
1. คุณล ักษณะของแบบทดสอบทีด
่ ี
1. ความตรง/ความเทีย
่ งตรง (validity)
ื่ มน
2. ความเทีย
่ ง/เชอ
่ ั (reliability)
3. ความยากง่าย (difficulty)
4. อานาจจาแนก (discrimination )
5. เป็นปรน ัย (objectivity)
1.1 ความตรง/เทีย
่ งตรง (Validity)
ความถูกต้องแม่นยาของเครือ
่ งมือในการว ัด
สงิ่ ทีต
่ อ
้ งการจะว ัด
ประเภทของความเทีย
่ งตรง
้ หา (Content Validity)
1. ความตรงตามเนือ
้ หาของเครือ
้ หาของข้อคาถามว ัดได้ตรง
เนือ
่ งมือ หรือเนือ
ตามประเด็นหรือต ัวชวี้ ัดทีต
่ อ
้ งการว ัดหรือไม่?
2. ความตรงเชงิ โครงสร้าง (Construct Validity)
เครือ
่ งมือนนสามารถว
ั้
ัดได้ครอบคลุมขอบเขต ความหมาย
้ ร้าง
หรือครบตามคุณล ักษณะประจาตามทฤษฎีทใี่ ชส
เครือ
่ งมือหรือไม่?
1.1 ความตรง/เทีย
่ งตรง (Validity)
ประเภทของความตรง (ต่อ)
ั ันธ์ (Criterion-related
3. ความตรงตามเกณฑ์สมพ
Validity) เครือ
่ งมือว ัดได้ตรงตามสภาพทีต
่ อ
้ งการว ัด โดย
้ านาย
พิจารณาจากเกณฑ์ทเี่ กีย
่ วข้องว่าเครือ
่ งมือนนจะใช
ั้
ท
พฤติกรรมของบุคคลในสภาพเฉพาะเจาะจงตามต้องการ
หรือไม่? จาแนกได้ 2 ชนิด คือ
3.1 ความตรงร่วมสม ัยหรือตามสภาพทีเ่ ป็นจริง
(Concurrent Validity) สอดคล้องก ับสภาพความเป็น
จริงในปัจจุบ ัน
3.2 ความตรงเชงิ ทานาย (Predictive Validity)
สอดคล้องก ับสภาพความเป็นจริง หรือสภาพ
ความสาเร็จในอนาคต
ื่ มน
1.2 ความเทีย
่ ง/เชอ
่ ั (Reliability)
้ คงวาของผลที่
ความคงทีห
่ รือความคงเสน
ได้จากการว ัด
ประเภทค่าความเทีย
่ ง
1. การสอบซา้ (Test-retest)
2. การว ัดความสอดคล้องภายใน (Measure of Internal Consistency)
1 วิธแ
ี บ่งครึง่ ข้อสอบ (Split-half)
2 วิธข
ี อง Kuder-Richardson (Kr20 , Kr21) สาหร ับแบบสอบทีใ่ ห้
คะแนนแบบ 0-1
ั
ิ ธ์แอลฟาของ Cronbach (Cronbach’s alpha ()
3 วิธส
ี มประส
ท
method) สาหร ับแบบสอบทีใ่ ห้คะแนนแบบ 0-1 หรือ มากกว่า 1
1.3 ความยากง่าย (Difficulty)
ความยากง่ายของแบบทดสอบมีความ
เหมาะสมก ับความสามารถของผูส
้ อบ
ั ว
่ น หรือเปอร์เซ็นต์
ซงึ่ พิจารณาจาก สดส
ของจานวนคนทีต
่ อบข้อสอบข้อนนถู
ั้ กจาก
คนทีส
่ อบทงหมด
ั้
1.4 อานาจจาแนก (Discrimination)
ความสามารถของข้อสอบแต่ละข้อ
ในการจาแนกคนทีอ
่ ยูใ่ นกลุม
่ เก่งออก
จากคนทีอ
่ ยูใ่ นกลุม
่ อ่อนได้
ั ว
่ น
ซงึ่ พิจารณาจากผลต่างของสดส
ของกลุม
่ เก่งทีต
่ อบถูกก ับกลุม
่ อ่อนที่
ตอบถูก
1.5 ความเป็นปรน ัย (Objectivity)
ั
ความชดเจนของแบบทดสอบหรื
อคาถามทีท
่ ก
ุ คน
เข้าใจตรงก ัน รวมทงการตรวจให้
ั้
คะแนนมีเกณฑ์ท ี่
แน่นอน ความเป็นปรน ัย มีองค์ประกอบ 3 ประการ :
1. โจทย์หรือข้อคาถาม
2. วิธก
ี ารตรวจให้คะแนน
3. การแปลความหมายของคะแนน
การหาความเป็นปรน ัยทีน
่ ย
ิ มปฏิบ ัติก ัน คือ
ี่ วชาญพิจารณาและตรวจสอบ
ให้ผเู ้ ชย
2. วิธก
ี ารวิเคราะห์คณ
ุ ภาพแบบสอบ
2.1 การวิเคราะห์แบบสอบโดยไม่ใชว้ ธ
ิ ก
ี ารทางสถิติ
2.2 การวิเคราะห์แบบสอบโดยใชว้ ธ
ิ ก
ี ารทางสถิต ิ
2.1 การวิเคราะห์แบบสอบโดยไม่ใชว้ ธ
ิ ก
ี ารทางสถิต ิ
1) การตรวจสอบความถูกต้องและครอบคลุมของ
้ หาวิชาและจุดมุง
เนือ
่ หมาย
แนวทางการพิจารณา
้ หาทีเ่ รียนหรือไม่
1) ข้อคาถามครบถ้วนทุกเนือ
ั ว
่ นตาม
้ หามีสดส
2) จานวนข้อคาถามของแต่ละเนือ
นา้ หน ักทีก
่ าหนดไว้หรือไม่
3) ข้อคาถามแต่ละข้อว ัดได้ตรงตามพฤติกรรมทีร่ ะบุไว้ใน
ต ัวชวี้ ัดหรือไม่
2.1 การวิเคราะห์แบบสอบโดยไม่ใชว้ ธ
ิ ก
ี ารทางสถิต ิ
1) การตรวจสอบความถูกต้องและครอบคลุมของ
้ หาวิชาและจุดมุง
เนือ
่ หมาย
วิธด
ี าเนินการ
ี่ วชาญในเนือ
้ หาวิชานนๆ
1) ตรวจสอบโดยผูเ้ ชย
ั้
2) ตรวจสอบโดยการเปรียบเทียบตารางกาหนดจานวน
ข้อคาถาม (test Blueprint)
2.1 การวิเคราะห์แบบสอบโดยไม่ใชว้ ธ
ิ ก
ี ารทางสถิต ิ
2) การตรวจสอบภาษาและความสอดคล้องก ับเทคนิค
การเขียนคาถาม
แนวทางการพิจารณา
ื่
1) ข้อความทีใ่ ชเ้ ขียนเป็นข้อคาถามสามารถสอ
ความหมายได้ดเี พียงไร
2) การเขียนข้อคาถามนนมี
ั้ ความถูกต้องตามเทคนิคใน
การเขียนข้อคาถามทีด
่ ห
ี รือไม่
2.1 การวิเคราะห์แบบสอบโดยไม่ใชว้ ธ
ิ ก
ี ารทางสถิต ิ
2) การตรวจสอบภาษาและความสอดคล้องก ับเทคนิค
การเขียนคาถาม
วิธด
ี าเนินการ
ี่ วชาญทางด้านภาษา
1) ตรวจสอบโดยผูเ้ ชย
ี่ วชาญทางด้านว ัดผลการศก
ึ ษา
2) ตรวจสอบโดยผูเ้ ชย
ี่ วชาญเพือ
(ถ้าหากไม่สามารถหาผูเ้ ชย
่ ชว่ ยตรวจสอบได้
อย่างน้อยควรให้เพือ
่ นครู หรือต ัวครูเองเป็นผูท
้ าการ
ตรวจสอบ)
2.2 การวิเคราะห์แบบสอบโดยใชว้ ธ
ิ ก
ี ารทางสถิต ิ
1) การวิเคราะห์ขอ
้ สอบเป็นรายข้อ
1.1) ด ัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อสอบก ับจุดประสงค์
(IOC-Index of Item Objective Congruence)
1.2) ค่าระด ับความยากง่าย (Difficulty Index)
1.3) ค่าอานาจจาแนก (Discrimination Power)
2) การวิเคราะห์ขอ
้ สอบทงฉบ
ั้
ับ
2.1) ความเทีย
่ งตรง (Validity)
่ื มน
2.2) ความเชอ
่ ั (Reliability)
1) การวิเคราะห์ขอ
้ สอบรายข้อ
1.1) ด ัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อสอบก ับจุดประสงค์
(IOC-Index of Item Objective Congruence)
วิธด
ี าเนินการ
ี่ วชาญตงแต่
้ ไป ประเมินความ
ให้ผเู ้ ชย
ั้
3 คนขึน
้ หาที่
สอดคล้องระหว่างข้อคาถามในเครือ
่ งมือก ับเนือ
ต้องการว ัด จากนนน
ั้ าผลการประเมินมาคานวณค่า IOC
้ ต
โดยใชส
ู ร
IOC =
R
N
ี่ วชาญ
เมือ
่ R แทน ผลรวมของคะแนนจากผูเ้ ชย
ิ IOC ควรมีคา่ มากกว่า 0.5
เกณฑ์ต ัดสน
1.1) ด ัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อสอบก ับจุดประสงค์
(IOC-Index of Item Objective Congruence)
ต ัวอย่าง ตารางการหาค่า IOC
ต ัวชวี้ ัดตามมาตรฐาน
ผลการประเมิน
ข้อสอบ
-1
ผูเ้ รียนสามารถบอกถึงหน้าที่
หรือความแตกต่างของ
่ นประกอบต่างๆของพืชได้
สว
1. หน้าทีข
่ องใบคืออะไร?
ก. ยึดลาต้น
ข. ดูดอาหาร
ั
ค. สงเคราะห์
แสง
ง. ลาเลียงอาหาร
้ งคู?
2. ข้อใดเป็นพืชใบเลีย
่
ก. ข้าว
ข. อ้อย
ค. กล้วย
ง. มะเขือ
- 1 หมายถึง ไม่สอดคล ้อง
0 หมายถึง ไม่แน่ใจ
1 หมายถึง สอดคล ้อง
0
1
1.1) ด ัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อสอบก ับจุดประสงค์
(IOC-Index of Item Objective Congruence)
ต ัวอย่าง การคานวณหาค่า IOC
ข้อคาถาม
คนที่ 1
คนที่ 2
คนที่ 3
คนที่ 4
คนที่ 5
IOC
ข้อ 1
1
1
1
0
1
4/5=0.8
ข้อ 2
1
0
-1
0
-1
-1/5=-0.2
้ ไป
เกณฑ์การพิจารณา ข้อสอบทีใ่ ชไ้ ด้ คือ ข้อสอบทีม
่ ค
ี า่ IOC ตงแต่
ั้
.5 ขึน
สรุป...
ข้อสอบข้อ 1 มีความสอดคล้องก ับจุดมุง
่ หมายเชงิ พฤติกรรม สามารถ
้ อบได้
นาไปใชส
ข้อสอบข้อ 2 ไม่สอดคล้องก ับจุดมุง
่ หมายเชงิ พฤติกรรม ไม่ควรนาไปใช ้
ต้องต ัดทิง้ หรือปร ับปรุงใหม่
1) การวิเคราะห์ขอ
้ สอบรายข้อ
1.2) ค่าระด ับความยากง่าย (Difficulty Index)
ั ว่ น หรือเปอร์เซ็นต์ของจานวนคนที่
ระด ับความยากง่าย หมายถึง สดส
ตอบข้อสอบข้อนนถู
ั้ กจากคนทีส
่ อบทงหมด
ั้
้ ญล
ั
ใชส
ักษณ์ “p”
ข้อสอบแบบปรน ัย (คะแนนแบบทวิภาค 0 ก ับ 1)
ข้อสอบแบบอ ัตน ัย (คะแนนแบบพหุภาค มากกว่า 2 ค่า)
1.2) ค่าระด ับความยากง่าย (Difficulty Index)
ค่าความยากง่าย (Difficulty Index)
มีคา่ ตงแต่
ั้
0.00 จนถึง 1.00
เกณฑ์ในการแปลความหมายค่าความยากง่าย
ค่า p = 0.00-0.19 หมายความว่า ข้อสอบข้อนนยากเกิ
ั้
นไป
ค่า p = 0.20-0.39 หมายความว่า ข้อสอบข้อนนค่
ั้ อนข้างยาก
ค่า p = 0.40-0.59 หมายความว่า ข้อสอบข้อนนยากง่
ั้
ายปานกลาง
ค่า p = 0.60-0.79 หมายความว่า ข้อสอบข้อนนค่
ั้ อนข้างง่าย
ค่า p = 0.80-1.00 หมายความว่า ข้อสอบข้อนนง่
ั้ ายเกินไป
เกณฑ์: ข้อสอบทีม
่ ค
ี า่ ความยากง่ายพอเหมาะ หรือมีคณ
ุ ภาพดี
ค่า p ใกล้เคียง .50 หรือ อยูร่ ะหว่าง 0.20 – 0.80
1.2) ค่าระด ับความยากง่าย (Difficulty Index)
(1) ค่าระด ับความยากง่าย (Difficulty Index) ข้อสอบปรน ัย
R R
L
p H
N N
H
L
R
N
RH
RL
NH
NL
แทน
แทน
แทน
แทน
แทน
แทน
จานวนคนทีต
่ อบข้อนนถู
ั้ ก
จานวนคนทีส
่ อบทงหมด
ั้
จานวนคนทีต
่ อบข้อนนถู
ั้ กในกลุม
่ สูง
จานวนคนทีต
่ อบข้อนนถู
ั้ กในกลุม
่ ตา่
จานวนคนในกลุม
่ สูง
จานวนคนในกลุม
่ ตา่
กลุ่มสู ง
(RH)
(20 คน)
กลุ่มตำ่
(RL)
(20 คน)
P
6
3
5
(9+3)/40 = 0.3
ค
4
9
3
ง
6
4
รวม
20
20
ข้ อ
1
ก
ข*
1.2) ค่าระด ับความยากง่าย (Difficulty Index)
(2) ค่าระด ับความยากง่าย (Difficulty Index) ข้อสอบอ ัตน ัย
1. ตรวจและเรียงคะแนนรวมจากสูงสุดถึงตา
่ สุด
2. แบ่งกลุม
่ สูง (H) และกลุม
่ ตา
่ (L)
ั ว่ นของคะแนนรวมรายข้อทีไ่ ด้จาแนกตามกลุม
3. คานวณสดส
่
H
PH = ——
TH
L
PL = ——
TL
H รวมคะแนนกลุ่มสู ง
TH รวมคะแนนเต็มกลุ่มสู ง
4. วิเคราะห์คา่ ความยาก (p)
L รวมคะแนนกลุ่มต่ำ
TL รวมคะแนนเต็มกลุ่มต่ำ
PH + P L
• p = ————
2
ข้ อ คะแนน
เต็ม
1
2
3
4
5
รวม
10
10
20
30
30
100
กลุ่มสู ง (H) (4 คน)
1
10
9
20
25
16
80
2
10
10
15
25
10
70
3
9
8
15
24
10
68
กลุ่มตำ่ (L) (4 คน)
4
8
9
17
20
7
61
5
5
8
15
16
11
60
6
8
7
9
17
7
48
7
8
6
10
13
6
43
8
7
3
8
10
2
30
คะแนน
ข้ อ
เต็ม
1
2
3
4
5
10
10
20
30
30
H
กลุ่มสู ง
(4 คน)
เต็ม
37
36
67
94
43
40
40
80
120
120
L
กลุ่มตำ่
(4 คน)
เต็ม
28
24
42
56
26
40
40
80
120
120
PH
PL
Pi
.93
.90
.84
.78
.36
.70
.60
.53
.47
.22
.81
.75
.68
.62
.29
ข้อ 1
ง่ายเกินไป อานาจจาแนกตา่
ข้อ 2 – ข้อ 4 เป็ นข้อสอบทีใ่ ช้ได้
ข้อ 5
ค่อนข้างยาก อานาจาแนกตา่
1) การวิเคราะห์ขอ
้ สอบรายข้อ
1.3) ค่าอานาจจาแนก (Discrimination power)
อานาจจาแนก หมายถึง ความสามารถของข ้อสอบแต่ละข ้อในการจาแนกคน
ทีอ
่ ยูใ่ นกลุม
่ เก่งออกจากคนทีอ
่ ยูใ่ นกลุม
่ อ่อนได ้
(ข ้อสอบทีม
่ อ
ี านาจจาแนกดี คนเก่งจะตอบถูก แต่คนอ่อนจะ
ั ลักษณ์ “r”
ตอบผิด) ใชส้ ญ
ข้อสอบแบบปรน ัย (คะแนนแบบทวิภาค 0 ก ับ 1)
ข้อสอบแบบอ ัตน ัย (คะแนนแบบพหุภาค มากกว่า 2 ค่า)
1.3) ค่าอานาจจาแนก (Discrimination power)
ค่าอานาจจาแนก (Discrimination power)
มีคา่ ตงแต่
ั้
-1.00 จนถึง 1.00
เกณฑ์ในการแปลความหมายค่าอานาจจาแนก
ค่า r = -1.00-0.19 หมายความว่า ข้อสอบข้อนนจ
ั้ าแนกไม่ได้เลย
ค่า r = 0.20-0.39 หมายความว่า ข้อสอบข้อนนจ
ั้ าแนกได้เล็กน้อย
ค่า r = 0.40-0.59 หมายความว่า ข้อสอบข้อนนจ
ั้ าแนกได้ปานกลาง
ค่า r = 0.60-0.79 หมายความว่า ข้อสอบข้อนนจ
ั้ าแนกได้ด ี
ค่า r = 0.80-1.00 หมายความว่า ข้อสอบข้อนนจ
ั้ าแนกได้ดม
ี าก
เกณฑ์: ข้อสอบทีม
่ ค
ี ณ
ุ ภาพดี
้ ไป
ค่า r ตงแต่
ั้
+0.20 ขึน
1.3) ค่าอานาจจาแนก (Discrimination power)
(1) ค่าอานาจจาแนก ข้อสอบปรน ัย
RH  RL
r
NH
หมายเหตุ
NH = NL
RH
RL
NH
NL
จานวนคนทีต
่ อบข้อนนถู
ั้ กในกลุม
่ สูง
จานวนคนทีต
่ อบข้อนนถู
ั้ กในกลุม
่ ตา่
จานวนคนในกลุม
่ สูง
จานวนคนในกลุม
่ ตา่
แทน
แทน
แทน
แทน
้ ไป
ค่า r มีคา่ ตงแต่
ั้
-1 จนถึง +1 เกณฑ์การพิจารณา คือ r มีคา่ ตงแต่
ั้
.2 ขึน
เป็นลบ เมือ
่ คนกลุม
่ อ่อนตอบถูกมากกว่าคนกลุม
่ เก่ง
เป็นบวก เมือ
่ คนกลุม
่ เก่งตอบถูกมากกว่าคนกลุม
่ อ่อน
กลุ่มสู ง
(RH)
(20 คน)
กลุ่มตำ่
(RL)
(20 คน)
r
6
3
5
(9 - 3)/20 = 0.3
ค
4
9
3
ง
6
4
รวม
20
20
ข้ อ
1
ก
ข*
1.3) ค่าอานาจจาแนก (Discrimination power)
(2) ค่าอานาจจาแนก ข้อสอบอ ัตน ัย
1. ตรวจและเรียงคะแนนรวมจากสูงสุดถึงตา
่ สุด
2. แบ่งกลุม
่ สูง (H) และกลุม
่ ตา
่ (L)
ั ว่ นของคะแนนรวมรายข้อทีไ่ ด้จาแนกตามกลุม
3. คานวณสดส
่
PH = H
——
TH
H รวมคะแนนกลุ่มสู ง
TH รวมคะแนนเต็มกลุ่มสู ง
L
PL = ——
TL
L รวมคะแนนกลุ่มต่ำ
TL รวมคะแนนเต็มกลุ่มต่ำ
4. วิเคราะห์คา่ อานาจจาแนก (r)
• r = PH – PL
กลุ่มสู ง
คะแนน
(4 คน)
ข้ อ
เต็ม  H
เต็ม
1
2
3
4
5
10
10
20
30
30
37
36
67
94
43
40
40
80
120
120
กลุ่มตำ่
(4 คน)
L
เต็ม
28
24
42
56
26
40
40
80
120
120
PH
PL
ri
.93
.90
.84
.78
.36
.70
.60
.53
.47
.22
.23
.30
.31
.31
.14
ข้อ 1
ง่ายเกินไป อานาจจาแนกตา่
ข้อ 2 – ข้อ 4 เป็ นข้อสอบทีใ่ ช้ได้
ข้อ 5
ค่อนข้างยาก อานาจาแนกตา่
เกณฑ์ในการสรุปว่าข้อสอบมีคณ
ุ ภาพดี
ข้อสอบข้อนนต้
ั้ องมีคา่ ความยากง่าย และค่าอานาจจาแนกเป็นไปตามเกณฑ์ทก
ี่ าหนด
ข้อ
ต ัวเลือก
กลุม
่ สูง
กลุม
่ ตา่
(H=20)
(L=20)
ก
3
4
7/40 = 0.18
(4-3)/20 = 0.05
(ข)
13
6
19/40 = 0.48
(13-6)/20=0.35
ค
-
3
3/40 = 0.08
(3-0)20 = 0.15
ง
2
4
6/40 = 0.15
(4-2)/20 = 0.10
จ
2
3
5/40 = 0.13
(3-2)/20 = 0.05
ที่
1
เกณฑ์: ต ัวถูก
p = 0.20 – 0.80
้ ไป
r = +0.20 ขึน
p
r
ความหมาย
ยากง่ายปานกลาง
สรุป
ใชไ้ ด้
การค ัดเลือกข้อสอบทีม
่ ค
ี ณ
ุ ภาพ
1
ค่าความยากง่
าย (p)
.9
4
.8
.7
เกณฑ์: ข้อสอบทีม
่ ค
ี ณ
ุ ภาพ
p = 0.20 – 0.80
้ ไป
r = +0.20 ขึน
.6
.5
.4
1
.3
3
.2
2
.1
5
ค่าอานาจจาแนก (r)
-1 -.9 -.8 -.7 -.6 -.5 -.4 -.3 -.2 -.1 0 .1 .2 .3 .4 .5 .6 .7 .8 .9 1
•
•
•
•
•
คุณลักษณะของผูเขี
้ ยน
ข
อสอบที
ด
่
ี
้
ผู้เขียนขอสอบต
องมี
ค
วามรู
ในเนื
้อหาทีม
่ งวั
ุ่ ด
้
้
้
เป็ นอยางดี
่
ผู้เขียนขอสอบจะต
องมี
ความรูเกี
่ วกับตัวชีว้ ด
ั /
้
้
้ ย
พฤติกรรมการเรียนรู้
ผู้เขียนขอสอบต
องมี
ความเขาใจกลุ
มเป
้
้
้
่ ้ าหมาย
ของการวัด
ผู้เขียนขอสอบต
องมี
ความสามารถในการใช้
้
้
ภาษาในการสื่ อความหมาย
องมี
ทก
ั ษะในสามารถใช้
ผู้เขียนขอสอบจะต
้
้
เทคโนโลยีสาหรับการเขียนขอสอบ
้
ความรูความเข
าใจของท
าน
้
้
่
ก่อนอบรม
แบบที่ 1
แบบที่ 2
แบบที่ 3
แบบที่ 4
หล ังอบรม
ข้อสอบทีม
่ ค
ี ณ
ุ ภาพ ว ัดได้ตรง ครอบคลุม
ความสามารถของผูเ้ รียนและ
มีการบริหารจ ัดการทีเ่ หมาะสมแล้ว
ผลการสอบจะมีคณ
ุ อน ันต์น ัก
แต่เมือ
่ ใดข้อสอบไร้ซงึ่ คุณภาพ
ิ ชวี ต
และนาผลไปต ัดสน
ิ คนนน
ั้
่ นีจ
้ ัดว่าเป็น
การกระทาเชน
“การทาบาปทางวิชาการทีท
่ าร้ายคนทงช
ั้ วี ต
ิ ”
...ไชโย...
ไดกลั
้ บบาน
้
แลว...
้