Hardware and Software

Download Report

Transcript Hardware and Software

MG 422 และ MGX 422
การเรี ยนครั้งที่ 6
โดย อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
แผนการสอน
 แจ้งเรื่ องรู ปแบบการทางานกลุ่ม และ ขยายเวลา
กาหนดส่ งงานกลุ่มย่อย และ แจ้งเรื่ องงานกลุ่มหหญ่
 เนื้ อหา: บทที่ 2 Hardware และ Software (ส่ วนที่ 2)
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
2
เน้นเนื้อหาเพิ่มเติม จากหน้า 43

Superconductivity
– หมายถึง ลักษณะของโลหะชนิดที่ยอมหห้กระแสน้ าไหล
ผ่านโดยมีแรงต้านทานของกระแสไฟฟ้ าน้อยที่สุด
– เป็ นโลหะที่สามารถนามาหช้แทนที่ซิลิคอนชิป (Silicon
Chip) ได้ เพราะมีแรงต้านทานกระแสไฟฟ้ าภายหนเครื่ อง
คอมพิวเตอร์นอ้ ย ทาหห้เครื่ องนั้น ทางานได้เร็ วขึ้น
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
3
ตัวอย่าง Chip
Pentium®
DuronTM
AthlonTM
CeleronTM
ตัวอย่าง RAM
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
4
ประเภทของอุปกรณ์หน่วยความจาสารอง
Types of Secondary Storage




เทปแม่เหล็ก (Magnetic
Tapes)
แผ่นแม่เหล็ก (Magnetic
Disks)
เรด (RAID)
แซน (Storage area network =
SAN)





อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
แผ่นนาแสง (Optical Disks)
แผ่นแม่เหล็ก - นาแสง
(Magneto-optical Disk)
แผ่นดีวีดี (Digital Video Disk
= DVD)
บัตรความจา (Memory Cards)
ที่เก็บขยาย (Expandable
Storage)
5
ตัวอย่างของอุปกรณ์หน่วยความจาสารอง

ดูรูปหน้า 47 หนหนังสื อ
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
6
อุปกรณ์หน่วยความจาหลัก (ฮาร์ดดิสก์ = Hard Disk)

ผูห้ ช้คอมพิวเตอร์สามารถดึงข้อมูลแบบโดยตรง (Direct
Access) จากอุปกรณ์หน่วยความจาหลัก (ดูรูป Figure 2.7
หน้า 47)ได้
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
7
ทบทวนวิธีการดึงข้อมูลของอุปกรณ์หน่วยความจา
เข้าถึงแบบลาดับขั้น = Sequential Access โดยหช้อุปกรณ์ที่
เรี ยกว่า SASDs (หน้า 46)
 เข้าถึงโดยตรง = Direct Access โดยหช้อุปกรณ์ที่เรี ยกว่า
DASDs (หน้า 46)

อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
8
ตัวอย่างแผ่น DVD และเครื่ องเล่นแผ่น DVD
(Digital Video Disk and Player)

แผ่น DVDs มีลกั ษณะคล้ายกับแผ่น CDs แต่มีความจุ
มากกว่าและสามารถโอนถ่ายข้อมูลได้เร็ วกว่า (ดู Figure 2.8
หน้า 48)
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
9
อุปกรณ์หน่วยความจาที่เคลื่อนย้ายได้
(Expandable Storage)

อุปกรณ์หน่วยความจาที่หช้แผ่นดิกส์และเครื่ องเล่นแผ่นดิกส์
ที่สามารถต่อ และ ถอดออกจากเครื่ องคอมพิวเตอร์ได้ หช้
เพื่อเพิ่มประสิ ทธิ ภาพหนการเก็บข้อมูลหห้กบั การหช้
คอมพิวเตอร์ (ดู Figure 2.9 หน้า 49)
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
10
การพัฒนาการของอุปกรณ์หน่วยความจาสารอง
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
11
อุปกรณ์รับผล
(Input Devices)




อุปกรณ์อ่าน (Scanning
Devices)
 อุปกรณ์ที่หช้ ณ จุดขาย [Pointแป้ นพิมพ์ และ เม้าส์
of-Sale (POS) Devices]
(Keyboard and mouse)
 เครื่ อง ATM [Automatic
อุปกรณ์จดจาเสี ยง (VoiceTeller Machine (ATM)
recognition devices)
Devices]
กล้องดิจิตอล (Digital
 จอภาพแบบสัมผัส (Touch
Computer Cameras)
Sensitive Screens)
อุปกรณ์ที่เป็ นช่องทางการ
 เครื่ องอ่านรหัส (Bar Code
สื่ อสาร (Terminals)
Scanners)
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
12

กล้องที่หช้กบั เครื่ องคอมพิวเตอร์
(ดู Figure 2.10 หน้า 51)
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
13
อุปกรณ์แสดงผล
(Output Devices)
จอภาพ (Display Monitors)
 จอภาพแบบหช้ของเหลว (Liquid Crystal Displays = LCDs)
 เครื่ องพิมพ์ และ เครื่ องพร็ อต (Printers and Plotters)

อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
14
ชนิดของระบบคอมพิวเตอร์
(Computer System Types)
คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computers)
 คอมพิวเตอร์ แบบโครงข่าย (Network Computers)
 คอมพิวเตอร์ แบบเวอร์ คสเตชัน
่ (Workstations)
 คอมพิวเตอร์ แบบมิดแรนจ์ (Midrange Computers)
 คอมพิวเตอร์ แบบเมนเฟรม (Mainframe Computer)
 ซุปเปอร์ คอมพิวเตอร์ (Supercomputer)

อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
15
ชนิดของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
(Types of Personal Computers)



แบบตั้งโต๊ะ (Desktops)
แบบพกพา (Laptops)
– โน้ตบุค (Notebooks)
– ซับโน้ตบุค (Subnotebook)
แบบมือถือ (Handhelds หรื อ
palmtops)




อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
แบบฝัง (Embedded
Computers)
แบบโครงข่าย (Network
Computers)
แบบเวอร์คสเตชัน่
(Workstations)
แบบหช้กบั เว็บ (Web
Appliances)
16
ตัวอย่างของ Mainframe Computers
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
17
ภาพรวมของการหช้โปรแกรม (หรื อ ชุดคาสัง่ )
(Overview of Software)
โปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Computer Programs)
 การทาเอกสาร (หนการหช้โปรแกรม) (Documentation)
 ชนิ ดของโปรแกรม (Types of Software)
– โปรแกรมที่เกี่ยวกับระบบ (System software)
– โปรแกรมที่เกี่ยวกับการหช้งาน (Application software)

อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
18
การจาแนกการหช้งานของโปรแกรม
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
19
โปรแกรมที่เกี่ยวกับระบบ
(Systems Software)
หช้กบั หน้าที่การหช้งานโดยทัว่ ไปของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
(Common Hardware Functions)
 หช้หนการโต้ตอบกับผูห้ ช้ (User Interface) โดยหช้ GUI =
Graphical User Interface


หช้หนการสร้างความเป็ นอิสระหห้กบั อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
(Hardware Independence) โดยหช้ API กล่าวคือ นักเขียน
โปรแกรมทาการเขียนคาสัง่ โดยไม่จาเป็ นต้องรู้วา่ เครื่ องนา
คาสัง่ ไปหช้อย่างไรภายหนตัวเครื่ อง
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
21
รู ปแบบการหช้ Application Program Interface (API)
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
22
หช้หนการจัดการของหน่วยความจาของเครื่ อง (Memory
Management)
 หช้หนการประมวลผล “งาน” (Processing Tasks)

อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
23
การประมวลผล “งาน” โดยการเข้าถึงข้อมูลทาง
กายภาพ (Physical Access to Data)
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
24


หช้หนการเชื่อมต่อ
(Networking Capability)
หช้หนการเข้าสู่แหล่งข้อมูล
ต่างๆ หนเครื่ อง (Access to
System Resources)

อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
หช้หนการจัดการข้อมูลต่างๆ
หนเครื่ อง (File Management)
25
ชนิดของโปรแกรมที่เกี่ยวกับระบบ
(Different Types of Systems Software)
 ระบบปฏิบต
ั ิการ (Operating System)
 โปรแกรมที่ช่วยหนการปฏิบต
ั ิการ (Utility Program)
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
26
หน้าที่ของระบบปฏิบตั ิการ
(Role of Operating Systems)
ดู Figure 2.12 หน้า 61
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
27
ระบบปฏิบตั ิการที่มีชื่อเสี ยง
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
28
ระบบปฏิบัตกิ ารของบริษัทไมโครซอล์ ฟ
Microsoft Personal Computer: Operating Systems
 PC-DOS
 Windows NT Workstation
 MS-DOS
 Windows 2000
Professional
 DOS with Windows
 Windows ME
 Windows 95
 Windows Xp (หหม่ล่าสุ ด
 Windows 98
ณ เดือนเมษายน ปี 2545)
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
29
ภาพแสดงส่ วนแบ่งการตลาดของระบบปฏิบตั ิการ
หน ปี 1998 (พ.ศ. 2541) ของประเทศสหรัฐอเมริ กา
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
30
โปรแกรมที่เกี่ยวกับการหช้งาน (Application Software)
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
31
โปรแกรมที่ช่วยหนการสร้างเอกสารต่างๆ
(Word Processing Application)

ดู Figure 2.20 หน้า 74
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
32
โปรแกรมที่ช่วยหนการคานวณต่างๆ
(Spreadsheet Program)

ดู Figure 2.21 หน้า 74
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
33
โปรแกรมที่ช่วยหนการสร้างฐานข้อมูล
(Database Program)

ดู Figure 2.22 หน้า 75
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
34
โปรแกรมหนการสร้างรู ปภาพต่างๆ
(Graphics Program)

ดู Figure 2.23 หน้า 75
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
35
ตัวอย่างโปรแกรมที่มาเป็ นชุด
(Software Suite)

ดู Figure 2.24 หน้า 76
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
36
การวางแผนการหช้แหล่งข้อมูลต่างๆ ขององค์กร หรื อ
Enterprise Resource Planning (ERP)
เป็ นกลุ่มของโปรแกรมที่ทาหน้าที่หนการจัดการหน้าที่หลักๆ
ขององค์กร (เช่น หน้าที่ของฝ่ ายผลิต และ ฝ่ ายการเงิน) หห้
ทางานร่ วมกันได้ ทุกสานักงาน ทุกภาษา ทัว่ โลก
 ระบบ ERP ต้องสามารถนาระบบกฏหมายของแต่ละ
ประเทศ ระบบภาษาของแต่ละประเทศ ระบบเงินตรา หรื อ
ระบบหลักๆ อื่นไปหช้ได้ทุกสานักงานทัว่ โลก

อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
37
ตัวอย่ างของผู้ประกอบการทีใ่ ห้ บริการการประยุกต์ ใช้ ERP
(Enterprise Resource Planning Vendors)
SAP
 Oracle
 PeopleSoft
 Dun & Bradstreet
 JD Edwards

Baan
 SSA
 Marcam
 QAD
 Ross Systems

อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
38
โปรแกรมที่หช้หนระดับองค์กร
Enterprise Application Software
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
39
Supply Chain Management
ดู Figure 2.25 หน้า 77
การนาโปรแกรมหลายๆ อย่างมาหช้แบบเชื่อมต่อกันหนห่วงโซ่มูลค่า
Integrated Enterprise Software to Support Supply Chain Management
Manufacturing Value Chain ดู Figure 1.12 หน้า 17
การมีโปรแกรมแต่ละอย่างมาหช้แบบไม่เชื่อมต่อกันหนห่วงโซ่มูลค่า
ภาษาหนการเขียนโปรแกรม (ชุดคาสัง่ )
Programming Languages

หมายถึง การหช้รหัส (ที่เครื่ องคอมพิวเตอร์เข้าหจ) เพื่อหช้หน
การสร้าง โปรแกรมที่เกี่ยวกับระบบ (Systems Software)
และ โปรแกรมที่เกี่ยวกับการหช้งาน (Application software)
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
42
วิวฒั นาการของภาษาหนการเขียนโปรแกรม
(Evolution of Programming Languages)

ภาษาหนยุคที่ 1 (First-Generation Languages = 1GLs)
– เป็ นภาษาเครื่ อง = Machine Language
– ยากแก่การเข้าหจสาหรับผูห้ ช้เครื่ อง แต่ง่ายสาหรับเครื่ อง
หนการเข้าหจ
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
43
Machine Language
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
44

ภาษาหนยุคที่ 2 (Second-Generation Languages = 2GLs)
– เข้าหจง่ายกว่าภาษาเครื่ อง
– เป็ นภาษาแอสแซมบรี = Assembly Language
– อุปกรณ์ที่เรี ยกว่า Assemblers จะเป็ นตัวแปลเป็ น
ภาษาเครื่ อง เพื่อหห้เครื่ องคอมพิวเตอร์เข้าหจ
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
45
Assembly Language
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
46

ภาษาหนยุคที่ 3 (Third-Generation Language = 3GLs)
– มีลกั ษณะคล้ายกับภาษาอังกฤษ ซึ่งผูเ้ ขียนสามารถเรี ยนรู้
ได้ง่ายขึ้น เช่น ภาษาเบสิ ค (BASIC) ภาษาโคบอล
(COBOL) ภาษาซี (C) ภาษาฟอร์แทรน (FORTRAN)
– ผูเ้ ขียนเขียนได้ง่ายขึ้น แต่เครื่ องต้องแปลคาสัง่ เป็ น
ภาษาเครื่ องก่อนจึงจะทางานได้ ภาษายุคนี้จึงทางานช้า
กว่ายุคที่ 2 หรื อ ยุคที่ 1
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
47
3GL
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
48
การหช้ตวั แปลภาษา (Language Translators)
ตัวแปลภาษา ทาหน้าที่แปลภาษาโปรแกรมที่เขียนขึ้นโดย
มนุษย์หห้เป็ นภาษาที่เครื่ องเข้าหจ
 ตัวแปลภาษา (Translators) มี 2 ชนิ ด คือ
– Interpreter จะแปลทีละคาสัง่ ที่เขียนขึ้น
– Compiler จะแปลคาสัง่ ทั้งหมดทีเดียว

อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
49
How an Interpreter Works
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
50
How a Compiler Works
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
51

ภาษาหนยุคที่ 4 (Fourth-Generation Language = 4GLs)
– เน้นผลลัพธ์ที่ออกมามากกว่าเน้นภาษาเขียนที่ทาการ
เขียน ฉะนั้น ภาษายุคนี้จึงมีความง่ายขึ้นหนการเขียน
ผูเ้ ขียนไม่ตอ้ งฝึ กเขียน หรื อ เรี ยนวิธีหนการเขียนยาวนาน
– ตัวอย่างของภาษาหนยุคนี้ เช่น Visual C + +, Visual
Basic, PowerBuilder, Delphi, SQL (นิยมมาก หช้หนการ
เขียนเพื่อดึงข้อมูลจากฐานข้อมูลมาหช้)
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
52
4GL
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
53

ภาษาหนยุคที่ 5 (Fifth-Generation Languages = 5GLs)
– เป็ นภาษาที่หกล้เคียงกับภาษาอังกฤษมากขึ้นอีก
– ตัวอย่างของภาษาหนยุคนี้ เช่น Java Studio
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
54

ภาษาโปรแกรมเชิงวัตถุ (Object-Oriented Programming
Languages)
– เป็ นภาษาที่เขียนโดยเชื่อมโยงข้อมูลกับการปฏิบตั ิการ
ต่างๆ เกี่ยวกับข้อมูลเข้าไว้ดว้ ยกัน
– มี Reusable Code หรื อ การนารหัสหนการเขียนโปรแกรม
ไปหช้กบั การเขียนโปรแกรมอื่นๆ ต่อไป (เป็ นประโยชน์
หลักของการหช้ภาษานี้)
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
55
Reusable Code in ObjectOriented Programming
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
56

Visual Programming Languages
– มีหน้าจอเมนูต่างๆ มาหห้ผเู้ ขียนเลือกหนการเขียน
โปรแกรม
– ตัวอย่าง เช่น Visual Basic
อ.เพ็ญจิรา คันธวงศ์
57