SCOPE of Project

Download Report

Transcript SCOPE of Project

PART 1.
ขอบเขตการบริหารงานโครงการ (SCOPE) =
เวลา(T: Time) + ทรั พยากร (R: Resources)
ประกอบด้ วยข้ อ Course Description ข้ อ 1-2
SCOPE of Project
1
แนวทางการบริหารจัดการโครงการที่ดี (Scope = Resources + Time)
ออกแบบ
แกนตัง้ การสร้ างความพร้ อม จัดสรร
ทรั พยารที่จากัดของโครงการ CSF of
ICT Infrastructure (CBIS/ TBIS) คือ>>
•Goals
Architecture
People ware
•Business
Process
Architecture
Hardware/ Software Of
Computer and Network
•Data
INFORMATION
Architecture
•Application
Architecture
BUSINESS RULE / ACTS:Structured Rules / Code of
Conducts/ ETHICS
•ICT
Infrastructure
Architecture BUDGETS
•ICT
Good Governance
Architecture
SCOPE of Project
บรรลุแผนICT
ขับเคลื่อนห่ วงโซ่
คุณค่ า 4 ส่ งเสริม
สนับสนุน และ
การคิด
~40% -50%
ขั ้นตอน 1
การศึกษา
วิเคราะห์
และออก
แบบเป้า
ประสงค์
กระบวนงาน
และข้ อมูล
การทา
ขอบเขต การ
บริหารโครงการ
ไอทีท่ ีดี
~30% 40%
ขัน้ ตอน 2
การจัดทา
และพัฒนา
ซอฟต์ แวร์
การแก้ ไข ปิ ดโครงการ
~-30% -10%
ขัน้ ตอน 3
การทดสอบและปรั ประบบ
ฝึ กอบรม
ใช้ งาน และจัดการศูนย์ ข้อมูล.
เพื่อ MA
กาหนดกรอบ เวลา….>
กระบวนงานI
CTขับ
เคลื่อนห่ วงโซ่
Software
Back Bone
ขับเคลื่อน
Digital Firms
ขับ
2
เคลื่อนห่ วงโซ่
SCOPE of Project
3
รู ปที่ 1-4 การบริหารโครงการ Project Management VS. การบริหารการเปลี่ยนแปลง VS. การบริหารการพัฒนา
•การใช ้
ปัจจ ัย
ทร ัพยากร
/INPUTที่
มีความ
พร้อมเป็น
ทร ัพยากร
นว ัตกรรม
DNA การ
บริหาร
จ ัดการที่
ท ันสม ัย
CBIS,
TBIS
การใช้ เวลา 2
การใช้ เวลา 1
การคิด
75%
จัดการ
วางแผน
ยุทธศาสตร์
Systems
Analysis and
Design
SCOPE of Project
การทางาน
10%
ขอบเขตการบริหารจัดการ = เวลาคิด- ทา แก้ + ทรั พยากรที่มีความพร้ อม Modern DNA
Innovation
นาแผน
ยุทธศาสตร์
ไปปฏิบัต:ิ
การใช้ เวลา 3
จัดทาเป็ น
ยุทธ วิธีลงสู่
ปฏิบัติ
ปั ญหา SWOTติดตามประเมิน
สถานการณ์ สิ่งแวดล้ อมเพื่อตัง้ เป็ น
วัตถุประสงค์ องค์ กร
การแก้ ไข คาดการณ์ 15%
Software
Engineering
Software Project / Risk
Management
เวลาที่ใช้ ในเรื่องการจัดการอะไร VS. คิด ทา แก้
4
รูปที่ 1-4 โครงการInheritance
Project VS. การบริหารการเปลี่ยนแปลง VS. การบริหารการพัฒนา
Inheritance
ถ่ายทอดพันธุกรรมต้นแบบ
ถ่ายทอดพันธุกรรมต้นแบบ
•การใช ้
ปัจจ ัย
ทร ัพยากร
/INPUTที่
มีความ
พร้อมเป็น
ทร ัพยากร
นว ัตกรรม
DNA การ
บริหาร
จ ัดการที่
ท ันสม ัย
CBIS,
TBIS
SW Reuse Component
การใช้ เวลา 2
การใช้ เวลา 1
การคิด
75%
จัดการ
วางแผน
การทางาน
10%
นาแผน
ยุทธศาสตร์
ไปปฏิบัต:ิ
SW Reuse Component
ขอบเขตการบริหารจัดการ = เวลาคิด- ทา แก้ + ทรั พยากรที่มีความพร้ อม Modern DNA
Innovation
การใช้ เวลา 3
การแก้ ไข คาดการณ์ 15%
Inheritance
ปั ญหา SWOTติดตามประเมิ
น
จัดทาเป็ น
ยุทธ วิธีลงสู่ สถานการณ์ สิ่งแวดล้
มเพื่อตัง้ เป็นนธุ กรรมต้นแบบ
ถ่าอยทอดพั
ยุทธศาสตร์
Inheritance
ปฏิบัติ
วัตถุประสงค์ องค์ กรSW Reuse Component
Systems
ถ่ายทอดพันธุกรรมต้นแบบ
Software
Software Project / Risk
Analysis
SW and
Reuse Component
Engineering
Design
Management
เวลาที่ใช้ ในเรื่องการจัดการอะไร VS. คิด ทา แก้
SCOPE of Project
5
ตัวอย่ าง
กฎเกณฑ์ ระบบธรรมชาติส่ งิ แวดล้ อมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่ แน่ นอน
1. ระบบธรรมชาติส่ งิ แวดล้ อมยุคต่ างๆ (Environmental Nature
of Entity Metaphysics and Ontology)
3. CO- OPERATORS:- Information Processors
2. ระบบมนุษย์ สร้ างขึน้ (Manmade Systems)
SCOPE of Project
6
การบริหารโครงการ คือ การบริหารการเปลี่ยนแปลง คือยุทธศาสตร์ การบริหารจัดการที่ดี ตามธรรมชาติ อริ ยสัจสี่
(NATURAL ENTITY) ธรรมชาติส่ ิงแวดล้ อม
Information World / Knowledge Society
Information Processor (Value Chain1) อริยสัจสี่
/STRATEGY
Intellectual Property
Information Processor
(Value Chain6) SOCIO-cultural INNOVATION / MBO
Information Processor
(Value Chain5) Science Methodology / MBO
WISDOM ภูมิปัญญา
Information Processor
(Value Chain4) Inter-disciplinary RESEARCH / MBO
Information Processor
(Value Chain3) Computer Science / MBO
Information Processor
(Value Chain2) Data Processing / MBO
Information Processor (Value Chain1) การบริ หารจัดการอริ ยสัจสี่ / การบริ หาร
การเปลี่ยนแปลง / การบริ หารยุทธศาสตร์ / การบริ หารการพัฒนา เพื่อเข้าสู่ สัจ
จธรรม
/ การบริ หofารระบบธรรมชาติ
SCOPE
Project สิ่งแวดล้อม / STRATEGY
Knowledge
Information
DATA
FACT สัจ
จธรรม
ENTITY
ธรรมชาติ
สิ่งแวดล้ อ
ม
7
1. เหตุผลการมีการบริหารโครงการ (Project Management Causes)
1. ระบบธรรมชาติสงิ่ แวดล้ อม เป็ น ENTITY เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาไม่แน่อน ไตร
ลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
2. สิ่งมีชีวิตทังธรรมชาติ
้
ฯ และมนุษย์ พึง่ พากัน มนุษย์ มีIQ, EQ ไม่ยอมให้ ธรรมชาติ
ฯ เปลี่ยนแปลงตามยถากรรมเพราะจะกระทบมนุษย์ด้วยความรู้สกึ และเรี ยนรู้
ดังนัน้ มนุษย์จะทาการถ่ายทอด DNA ของมนุษย์สามารถควบคุมการ
เปลี่ยนแปลงธรรมชาติฯ เข้ าสูว่ ิถีชีวิตของมนุษย์ได้ ให้ อยูร่ อด ยัง่ ยืน มากที่สดุ
3. วิธีการ ควบคุมการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติฯได้ เรี ยกว่ า การพัฒนา
(Development) ซึง่ เป็ นส่วนหนึง่ ของทฤษฎีการบริหารการเปลี่ยนแปลง หรื อ
ทฤษฎีกระบวนการเปลี่ยนแปลงให้ เป็ นสมัยใหม่ (Modernization)
SCOPE of Project
8
1. เหตุผลการมีการบริหารโครงการ (Project Management Causes) ต่อ 1
4. กระบวนการเปลี่ยนแปลงให้ เป็ นสมัยใหม่ จะต้ องมีการกาหนดแนวความคิด
และทิศทาง หรื อเป้าหมายการพัฒนา คือการมีแผน (Plan) หรื อ มีแผนพัฒนา
(Development Plan) เพื่อจะวางกรอบในการประยุกต์ใช้ ประโยชน์ ทรัพยากร
และเวลา ให้ เกิดห่วงโซ่คณ
ุ ค่าสูงสุด (Value Chain) โดยกระบวนการทางานของ
ตัวประมวลผลสารสนเทศแบบ IPO Logic และการใช้ เครื่ องมือนวัตกรรม
เทคโนโลยี
5. แผนพัฒนา (Development Plan) จะประกอบด้ วยแผนงานของ Entity Class
ต่างๆโดยแต่ละแผนงาน จะประกอบด้ วย จานวนโครงการหลากหลาย ที่
เกี่ยวข้ องกันรวมเป็ นแผนงานเดียวกัน
SCOPE of Project
9
1. เหตุผลการมีการบริหารโครงการ (Project Management Causes) ต่อ 2
ระบบ Systems เปลี่ยนแปลงด้ วย IPO Logic
เปลี่ยนแปลงด้ วย แผนพัฒนา Development Plan
ประกอบด้ วย การจัดทา ความจริง ข้ อมูล สารสนเทศ ประกอบด้ วยการจัดทา เอกสาร Hard GOODS
องค์ ความรู้ ภูมิปัญญา ทรั พยสินทางปั ญญา
Information/ Soft GOODS
1.Systems หรือ ENTITY คือ
METAPHYSICS of FACTS EXISTENCE:Environmental Natures
1.แผน Plan คือเป้าหมายแนวความคิดที่
ต้ องการ บรรลุวิสัยทัศน์ พันธกิจที่ควรทา
(FACTS Problem) ในปั จจุบันและอนาคต
โดยต้ องมีผลผลิตของแผน(Output) คือมี
แผนงาน
2. Entity CLASS คือ ลาดับชัน้ ย่ อยของความ 2. แผนงาน คือ วิธีการ (Epistemology) ที่มี
จริงที่เป็ นอยู่ มีอยู่จริง๖(NTOLOGY of การวางแผน (Planning) โดยมีระเบียบ
BEING :- Things, Botany, Zoology,
กฎเกณฑ์ รองรับ ที่จะสร้ างแผนหรือจัดทา
Human-being, Concept, Events,
แผนให้ เป็ นรู ปธรรมในลักษณะเอกสาร
Phenomenon, Situations)
(Construction) และสามารถมอบหมายให้ มี
SCOPE of Project
การปฏิบัตติ ามแผนได้ (Authorization) 10
1. เหตุผลการมีการบริหารโครงการ (Project Management Causes) ต่อ 3
ระบบ Systems เปลี่ยนแปลงด้ วย IPO Logic
เปลี่ยนแปลงด้ วย แผนพัฒนา Development Plan
ประกอบด้ วย การจัดทา ความจริง ข้ อมูล สารสนเทศ ประกอบด้ วยการจัดทา เอกสาร Hard GOODS
องค์ ความรู้ ภูมิปัญญา ทรั พยสินทางปั ญญา
Information/ Soft GOODS
3.
Entity OBJECT คือลาดับชันย่
้ อยของ
CLASS ที่มีการบ่งชี ้ถึง ประเภทของ
CLASS หรื อสายพันธ์ของ CLASS เช่นดู
Class ที่เป็ นคน จะสามารถระบุประเภท
ของ Class ได้ ว่า นิยาม Ontology ระบุ
ประเภทของคนคือ ลูกค้ า นักธุรกิจ
ข้ าราชการ นักวิชาการ Stakeholders,
Stockholders เป็ นต้ น
SCOPE of Project
3. โครงการ คือส่วนประกอบสาคัญที่สดุ ของ
แผนงานมีหลากหลายโครงการ และโครงการ
เป็ นทางเลือกหลากหลายทางเลือกที่ดีท่ ีสุดที่มี
บทบาท ความชอบธรรม กาหนดแนวทาง
ปฏิบัตติ ามแผนที่ได้ ระบุไว้ ในอนาคตของ
แผนงาน หรื อ โครงการคือแผนงานกลยุทธ์
เพื่อบรรลุเป้าหมายของแผน และบรรลุ
วัตถุประสงค์ของแผนงาน
11
1. เหตุผลการมีการบริหารโครงการ (Project Management Causes) ต่อ 4
ระบบ Systems เปลี่ยนแปลงด้ วย IPO Logic
เปลี่ยนแปลงด้ วย แผนพัฒนา Development Plan
ประกอบด้ วย การจัดทา ความจริง ข้ อมูล สารสนเทศ ประกอบด้ วยการจัดทา เอกสาร Hard GOODS
องค์ ความรู้ ภูมิปัญญา ทรั พยสินทางปั ญญา
Information/ Soft GOODS
4. Entity PROPERTY คือลาดับ
ชันย่
้ อยของ OBJECT ที่มี
ลักษณะคุณสมบัติบง่ ชี ้ถึง
องค์ประกอบต่างๆของออบเจ็ค
SCOPE of Project
1.แผนปฏิบตั ิงานโครงการ
Action Plan หรื อการวางแผน
ดาเนินการโครงการ
ประกอบด้ วยกิจกรรมและ
กระบวนงาน
12
1. เหตุผลการมีการบริหารโครงการ (Project Management Causes) ต่อ 5
ระบบ Systems เปลี่ยนแปลงด้ วย IPO Logic
เปลี่ยนแปลงด้ วย แผนพัฒนา Development Plan
ประกอบด้ วย การจัดทา ความจริง ข้ อมูล สารสนเทศ ประกอบด้ วยการจัดทา เอกสาร Hard GOODS
องค์ ความรู้ ภูมิปัญญา ทรั พยสินทางปั ญญา
Information/ Soft GOODS
5. Method คือพฤติกรรม หรื อการ
5. กิจกรรม Activity คือกลุม่ ภารกิจ
กระทาให้ เกิดการขึ ้นจากการทา
หรื อกระบวนงาน ที่มีการแบ่งแยก
หน้ าที่ความรับผิดชอบของ Property
งานออกเป็ นส่วนๆ (Work
ซึง่ ถูกแบ่งเป็ นหน้ าที่ความรับผิดชอบ
Structure Break Down: WSB)
ในการทางาน
SCOPE of Project
13
1. เหตุผลการมีการบริหารโครงการ (Project Management Causes) ต่อ 6
ระบบ Systems เปลี่ยนแปลงด้ วย IPO Logic
เปลี่ยนแปลงด้ วย แผนพัฒนา Development Plan
ประกอบด้ วย การจัดทา ความจริง ข้ อมูล สารสนเทศ ประกอบด้ วยการจัดทา เอกสาร Hard GOODS
องค์ ความรู้ ภูมิปัญญา ทรั พยสินทางปั ญญา
Information/ Soft GOODS
6.
Events เหตุการณ์ที่กาหนดเป็ นเงื่อนไข
เพื่อทาให้ Method ทางานได้
7. Inheritance การเลียนแบบ สาเนา
หน้ าที่การทางานของ Method ที่มีอยูก่ ่อน
หน้ าแล้ ว นามาสืบทอดพฤติกรรม เป็ นการ
ทางานของ Method ใหม่เพื่อนากลับมาใช้
ใหม่ได้ ในลักษณะของกระบวนงานที่เป็ น
สากล ที่ครบวงจรทัง้ IPO Cycle
SCOPE of Project
6.
ตัวชี ้วัดความสัมฤทธิ์ผลของกิจกรรม Key
Performance Indicators / KPI
7. การติดตามทบทวน การประยุกต์ใช้
ประโยชน์ ประหยัดและประสิทธิภาพของ
แผน แผนงาน โครงการ กิจกรรมเป็ นไป
ตามตัวชี ้วัด KPI เพื่อให้ ครบวัฏจักรการ
พัฒนาตามแผนพัฒนา
14
2. การวางแผนดาเนินงานโครงการ
1. การวางแผนโครงการคือ การจัดทาเอกสารที่เกี่ยวกับการคาดคะเน ความ
สัมฤทธิ์ผลที่จะได้ รับ และตอบสนองความต้ องการของผู้ท่ จี ะได้ รับเมื่อจบ
โครงการ ภายใต้ การดาเนินการโครงการและการควบคุม ตามข้ อกาหนดของ
ผลงาน ระยะเวลา งบประมาณที่มีอยู่ ด้ วยเหตุผลและหลักการดังนี ้
1.1 ความสัมฤทธิ์ผลที่จะได้ รับ มีความหมายถึง
 ผลผลิต ผลลัพธ์ และผลกระทบของโครงการคืออะไร สามารถ
ตอบสนองความต้ องการ ผลประโยชน์ ของผู้ท่ จี ะได้ รับเมื่อจบ
โครงการ จะทาให้ คุณภาพ และปริมาณงานของแผนงานประจา ดี
ขึน้ มีความรวดเร็วขึน้ มีขัน้ ตอนน้ อยลง การให้ บริการรวดเร็วลูกค้ า
พึงพอใจ ส่ งผลทาให้ การประหยัดค่ าใช้ จ่าย ปั จจัยจาเป็ นต่ อการ
บริหารงาน ที่ต่อเนื่อง มีการประยุกต์ ใช้ นวัตกรรมสนับสนุ นในการ
ปฏิบัตงิ านได้ ง่าย
SCOPE of Project
15
2. การวางแผนการดาเนินงานโครงการ ต่ อ 1
1.2 การดาเนินงานโครงการ หมายถึงการกาหนดรายละเอียดกิจกรรมและ
งบประมาณ ที่จะใช้ ในแต่ ละระยะเวลา ตัง้ แต่ ก่อนเริ่มงานจริง เริ่ ม
ดาเนินการจริง ระหว่ างดาเนินการ และการสิน้ สุดของแต่ ละกิจกรรม
และกิจกรรมหลังเสร็จสิน้ โครงการ โดยมีกาหนดการ ควบคุม กากับดูแล
ติดตาม ประเมินผลงานแต่ ละกิจกรรม ให้ เกิดห่ วงโซ่ คุณค่ าเพิ่ม ประสาน
เชื่อมโยงกัน จนบรรลุผลสัมฤทธิ์
1.3 การควบคุม คุณภาพและปริมาณผลงานในกิจกรรม เวลา และ
งบประมาณโครงการ ให้ สอดรั บกับ องค์ ประกอบแผนงาน
ต่ อไปนีค้ ือ ขัน้ การวิเคราะห์ ขัน้ การออกแบบการพัฒนา
เตรี ยมเอกสาร ฝึ กอบรม และการนาระบบมาใช้ งานจริงแต่ ละ
กิจกรรมก็จะประกอบด้ วย งานย่ อยแยกไปอีก ในหัวข้ อนี ไ้ ด้ แก่
การคาดคะเนเวลา และการเตรี ยมตารางการทางาน คาดคะเน
SCOPE of Project ค่ าใช้ จ่าย ผลประโยชน์ ท่ ีจะได้ รับ
16
2. การวางแผนการดาเนินงานโครงการ ต่ อ 2
2.
แผนงาน กับ โครงการ ต่ างกันอย่ างไร พิจารณาภายใต้ IPO Logic
2.1 ความหมายแผน(Plan) ในฐานะมองเป้าหมาย-นิโรธ ที่จะบรรลุ คือ งานที่ควรจะทา
ในอนาคตให้ สัมฤทธิ์ผล ในระยะใกล้ ระยะกลาง และระยะยาว ด้ วยเหตุผลและ
หลักการคือ
2.1.1 งานที่ควรจะทาคือการแก้ ไขปั ญหาความจาเป็ นพืน้ ฐาน (Needs) เพื่อมีวินัย
ความพร้ อม ที่เป็ นปั จจัยจาเป็ นขัน้ พืน้ ฐานต่ อการผลิตผลผลิตที่ต่อเนื่ อง (SUPPLY) ให้
บรรลุห่วงโซ่ อุปทานที่มีห่วงโซ่ คุณค่ า (Supply Chain and Value Chain)
2.1.2 งานที่มีอัตถประโยชน์ สูงสุด (Wants Utilization) เพื่อส่ วนรวมมากกว่ าเพื่อ
ส่ วนตัว
2.1.3 งานที่มีห่วงโซ่ คุณค่ าเพิ่มสูง ส่ งผลให้ เกิดเกิดพลังให้ เกิดอานาจการซือ้
(Purchasing Power) ตามบริบทนวัตกรรมสังคมวัฒนธรรม หรือตามธรรมชาติ
สิ่งแวดล้ อมกาหนด (DEMAND)
SCOPE of Project
17
2. การวางแผนการดาเนินงานโครงการ ต่ อ 2
2.2 ความหมายแผน ในฐานะมองวิธีการ-มรรค คือกระบวนการ สร้ างฐาน
แนวความคิด ความรู้ ความเข้ าใจ ในการกาหนดแนวทาง (หรื อ การชี ้
แนวทางหรื อชี ้ช่องทาง หรื อเป็ นดัชนีชี ้วัดการดาเนินการ) ไปสูง่ านที่ควรจะ
ทาในอนาคตฯ
2.3 ผลผลิตของแนวความคิด ความรู้ ความเข้ าใจ ในการกาหนดแนวทาง
ไปสูง่ านที่ควรจะทาในอนาคตฯ คือการลงมือปฏิติการจัดทาแผนงาน
ขึ ้นมาเรี ยกว่า หรื อการจัดทาแผนงาน หรื อการวางแผนงาน (Planning) ซึง่
หลังจากมีกระบวนการจัดทาแผนงานขึ ้นมาแล้ วจะได้ ผลผลิตเรี ยกว่า
แผนงาน(Plan)
SCOPE of Project
18
2. การวางแผนการดาเนินงานโครงการ ต่ อ 3
2.4 สรุ ป ความสาคัญของ การวางแผนงาน planning แลโครงการ
คือหน้ าที่พื ้นฐาน อันแรกของการทาหน้ าที่บริหาร กาหนดกฎเกณฑ์ใน
รายละเอียดของความหลากหลายของแผนงาน แต่ละแผนงาน มีองค์ประกอบของ
โครงการหลากหลายโครงการที่เชื่อมโยงเกี่ยวข้ องกันรวมกันเป็ นแผนงาน ซึ่งส่งผลทา
ให้ แผนงานทังหมด
้
ได้ มีการประสานเชื่อมโยงเข้ าด้ วยกัน กลายเป็ นแผนพัฒนา
ระบบงานทังระบบ
้
เพื่อบรรลุความสัมฤทธิ์ผลสูงสุด และสอดรับกับความจาเป็ นและ
ความต้ องการสูงสุด ในการใช้ ทรัพยากรได้ ตลอดเวลา เพื่อนาเข้ าสูก่ ระบวนการ
วางแผนงาน ดังนี ้
SCOPE of Project
19
2. การวางแผนการดาเนินงานโครงการ ต่ อ 4
กาหนดเป้าหมายหรื อวัตถุประสงค์ที่สมั ฤทธิ์ผล
ปรับกลยุทธ์ที่จะเป็ นระเบียบวิธีการนาไปสู่ การบรรลุวตั ถุประสงค์
 จัดสร้ างระเบียบวิธีการ กาหนดไว้ ในกลยุทธ์ เพื่อบรรลุความต้ องการ
ลงมือนาระเบียบที่กาหนดมาดาเนินการ ติดตาม สัง่ การ ตามลาดับทุกขันตลอด
้
อย่างต่อเนื่อง
SCOPE of Project
20
2. การวางแผนการดาเนินงานโครงการ ต่ อ 5
3. โครงการ Project คืออะไร
การวางแผนเฉพาะเรื่อง หรือการออกแบบงานใหม่ ให้ ดกี ว่ า
ระบบงานเดิมทีม่ ีอยู่เป็ นอยู่ “A specific plan or design”
การจัดงานโครงการต้ องมีการวางแผน และหรือนาแนวความคิด
รวบยอดของแผนมาใช้ งานอย่ างเต็มที่ “A planned undertaking”
SCOPE of Project
21
2. การวางแผนการดาเนินงานโครงการ ต่ อ 6
ลักษณะของโครงการ
•
•
•
•
•
เพิ่มงานที่เป็ นอยูเ่ ดิมดีขึ ้น บรรลุวิสยั ทัศน์ของงานมากขึ ้น เร็วขึ ้น
A task is more ‘project-like’ if it is:
เป็ นภารกิจใหม่ Non-routine
มีการทางาน อย่ างมีแผน ตามแผนทางานทุกขัน้ ตอน Planned
มีเป้าหมายที่เสร็จสิน้ ตามเวลาที่กาหนด Aiming at a specific target
ทางานเพื่อตอบสนองผู้ใช้ ลูกค้ า Work carried out for a customer
ใช้ ทมี งานที่เก่ งหลากหลายด้ าน จากหลากหลายหน่ วยงานมาเป็ น
ทีมงานเดียวกัน Matrix Organization/ Mission impossible/ Involving
several specialists / Inter-disciplinary
SCOPE of Project
22
2. การวางแผนการดาเนินงานโครงการ ต่ อ 7
ลักษณะของโครงการ ต่ อ 1
• สร้ างงานโครงการมีสาระสาคัญในการพัฒนา หลากหลายขัน้ ตอน แต่ ละ
ขัน้ ตอนสามารถประสานเชื่อมโยงก่ อให้ เกิดห่ วงโซ่ คุณค่ าเพิ่มในภาพ
รายละเอียดและภาพรวม Made up of several different phases
• อุปสรรคความล้ มเหลวของโครงการขึน้ กับความสามารถในการบริหาร ภายใต้
สูตร กรอบระยะเวลาที่กาหนด ผนวกกับปั จจัยทรั พยากร ที่มีความพร้ อมและมี
อยู่ Constrained by time and resources
• ความท้ าทายโครงการคือ ปริมาณงานใหม่ ๆ ผสมผสานกับของเดิมที่มีปริ มาณ
มาก และมีความซับซ้ อนของกระบวนงาน ข้ อเท็จจริง ข้ อมูลข่ าวสาร องค์
ความรู้ ภูมปิ ั ญญา ของทีมจัดการโครงการเพื่อให้ ได้ ผลลัพธ์ ท่ เี ป็ นทรั พย์ สนิ ทาง
ปั ญญาของหน่ วยงาน Large and/or complex
SCOPE of Project
23
2. การวางแผนการดาเนินงานโครงการ ต่ อ 7
ลักษณะของโครงการ ต่ อ 2
• การบริหารโครงการ เป็ นการเร่ งรั ด ส่ งเสริม สนับสนุน และผลักดัน พลัง
ขับเคลื่อนการทางานตามแผนงานประจาต่ อเนื่อง ที่ล้าช้ า มีปัญหามาก ให้ เกิด
กระบวนการเปลี่ยนแปลงให้ เป็ นสมัยใหม่ (Modernization) ซึ่งเป็ นลักษณะที่
ต้ องการอาศัยทฤษฎีการบริหารการเปลี่ยนแปลงอย่ างมีระบบ หรื อทฤษฎีการ
บริหารการพัฒนา เช่ น การบริหารจัดการมุ่งผลสัมฤทธิ์ (RBMS) หรื อ การ
บริหารเชิงกลยุทธ์
• การบริหารโครงการ ต้ องใช้ เครื่ องมือการบริหารเชิงนวัตกรรมสังคมวัฒนธรรม
(Socio-cultural Innovation) เป็ น DNA ในการออกแบบระบบงานอย่ าง
สร้ างสรรค์ และมีธรรมาภิบาล
SCOPE of Project
24
2. การวางแผนการดาเนินงานโครงการ ต่ อ 8
ลักษณะของโครงการ ต่ อ 3
• การบริหารโครงการ เป็ นการบริหารการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ แน่ นอน
จะต้ องมีการดาเนินการวางแผนบริหารความสี่ยง ที่ม่ ันคงปลอดภัย
• การบริหารโครงการ เป็ นแผน การประยุกต์ ใช้ ประโยชน์ ฐาน
ความคิด ความรู้ ความเข้ าใจของผู้นา ของผู้คดิ ค้ น และหรื อผู้ผลิต
จัดทาเอกสารโครงการ ขึน้ มา เป็ นแผนงาน เพื่อทาให้ และหรื อผู้ท่ ี
ได้ รับมอบหมายเป็ นผู้นา ผู้บริหารโครงการ สามารถนาเอกสาร
โครงการมาบริหารจัดการให้ สัมฤทธิ์ผล ต่ อเนื่องได้ อย่ างกลมกลืน
กัน ตามผังภาพ
SCOPE of Project
25
2. การวางแผนการดาเนินงานโครงการ ต่ อ 9
ลักษณะของโครงการ ต่ อ 4
http://www.visualthesaurus.com
SCOPE of Project
26
2. การวางแผนการดาเนินงานโครงการ ต่ อ 10- Page 45
http://en.wikipedia.org/wiki/Project_manage
ment
Project management is the discipline of planning, organizing, and managing resources to bring about the
successful completion of specific project goals and objectives. It is sometimes conflated with program
management, however technically a program is actually a higher level construct: a group of related and
somehow interdependent projects.
A project is a temporary endeavor, having a defined beginning and end (usually constrained by date, but can be
by funding or deliverables[1]), undertaken to meet unique goals and objectives[2], usually to bring about
beneficial change or added value. The temporary nature of projects stands in contrast to business as usual (or
operations)[3], which are repetitive, permanent or semi-permanent functional work to produce products or
services. In practice, the management of these two systems is often found to be quite different, and as such
requires the development of distinct technical skills and the adoption of separate management.
The primary challenge of project management is to achieve all of the project goals[4] and objectives while
honoring the preconceived project constraints.[5] Typical constraints are scope, time, and budget.[1] The
secondary—and more ambitious—challenge is to optimize the allocation and integration of inputs necessary to
meet pre-defined objectives.
SCOPE of Project
27
History of project management
Roman Soldiers Building a Fortress, Trajan's Column 113 AD
Project management has been practiced since early civilization. Until 1900 civil engineering projects were generally managed by creative
architects and engineers themselves, among those for example Vitruvius (1st century BC), Christopher Wren (1632–1723) , Thomas
Telford (1757-1834) and Isambard Kingdom Brunel (1806–1859) [6] It was in the 1950s that organizations started to systematically apply
project management tools and techniques to complex projects.[7]
Henry Gantt (1861-1919), the father of planning and control techniques.
As a discipline, Project Management developed from several fields of application including construction, engineering, and defense
activity.[8] Two forefathers of project management are Henry Gantt, called the father of planning and control techniques[9], who is famous
for his use of the Gantt chart as a project management tool; and Henri Fayol for his creation of the 5 management functions which form
the foundation of the body of knowledge associated with project and program management.[10] Both Gantt and Fayol were students of
Frederick Winslow Taylor's theories of scientific management. His work is the forerunner to modern project management tools including
work breakdown structure (WBS) and resource allocation.
The 1950s marked the beginning of the modern Project Management era. Project management became recognized as a distinct
discipline arising from the management discipline.[11] In the United States, prior to the 1950s, projects were managed on an ad hoc
basis using mostly Gantt Charts, and informal techniques and tools. At that time, two mathematical project-scheduling models were
developed. The "Critical Path Method" (CPM) was developed as a joint venture between DuPont Corporation and Remington Rand
Corporation for managing plant maintenance projects. And the "Program Evaluation and Review Technique" or PERT, was developed by
Booz-Allen & Hamilton as part of the United States Navy's (in conjunction with the Lockheed Corporation) Polaris missile submarine
program;[12] These mathematical techniques quickly spread into many private enterprises.
SCOPE of Project
28
Henry Gantt (1861-1919), the father of planning and control techniques.
As a discipline, Project Management developed from several fields of application including construction, engineering, and
defense activity.[8] Two forefathers of project management are Henry Gantt, called the father of planning and control
techniques[9], who is famous for his use of the Gantt chart as a project management tool; and Henri Fayol for his creation of
the 5 management functions which form the foundation of the body of knowledge associated with project and program
management.[10] Both Gantt and Fayol were students of Frederick Winslow Taylor's theories of scientific management. His
work is the forerunner to modern project management tools including work breakdown structure (WBS) and resource
allocation.
The 1950s marked the beginning of the modern Project Management era. Project management became recognized as a
distinct discipline arising from the management discipline.[11] In the United States, prior to the 1950s, projects were
managed on an ad hoc basis using mostly Gantt Charts, and informal techniques and tools. At that time, two mathematical
project-scheduling models were developed. The "Critical Path Method" (CPM) was developed as a joint venture between
DuPont Corporation and Remington Rand Corporation for managing plant maintenance projects. And the "Program
Evaluation and Review Technique" or PERT, was developed by Booz-Allen & Hamilton as part of the United States Navy's
(in conjunction with the Lockheed Corporation) Polaris missile submarine program;[12] These mathematical techniques
quickly spread into many private enterprises.
SCOPE of Project
29
PERT network chart for a seven-month project with five milestones
At the same time, as project-scheduling models were being developed, technology for project cost estimating, cost
management, and engineering economics was evolving, with pioneering work by Hans Lang and others. In 1956, the
American Association of Cost Engineers (now AACE International; the Association for the Advancement of Cost
Engineering) was formed by early practitioners of project management and the associated specialties of planning and
scheduling, cost estimating, and cost/schedule control (project control). AACE continued its pioneering work and in 2006
released the first integrated process for portfolio, program and project management (Total Cost Management Framework).
The International Project Management Association (IPMA) was founded in Europe in 1967,[13] as a federation of several
national project management associations. IPMA maintains its federal structure today and now includes member
associations on every continent except Antarctica. IPMA offers a Four Level Certification program based on the IPMA
Competence Baseline (ICB).[14] The ICB covers technical competences, contextual competences, and behavioral
competences.
In 1969, the Project Management Institute (PMI) was formed in the USA.[15] PMI publishes A Guide to the Project
Management Body of Knowledge (PMBOK Guide), which describes project management practices that are common to
"most projects, most of the time." PMI also offers multiple certifications.
SCOPE of Project
30
History of Project Management
SCOPE of Project
31
Traditional Approach
SCOPE of Project
32
[edit] Extreme Project Management
SCOPE of Project
33
Process-Based Management
SCOPE of Project
34
SCOPE of Project
35
structured approach to project management,
SCOPE of Project
36
Project Management Processes
SCOPE of Project
37
Initiation
SCOPE of Project
38
Planning and design
SCOPE of Project
39
Executing Process
SCOPE of Project
40
Monitoring and Controlling Process
SCOPE of Project
41
MA
SCOPE of Project
42
CLOSing
SCOPE of Project
43
Project Management Triangle
SCOPE of Project
44
[edit] Work Breakdown Structure
SCOPE of Project
45
Project Management Framework
SCOPE of Project
46
Click Continue… SWPROJECT-Management
Ads by GoogleWorldwide Health plan
Award-Winning Health Insurance For Expats. Get A Quote & Buy Online!
www.GoodHealthWorldwide.com ING Life Insurance
Life Insurance Company for Expat More than 15 Years of Experience
www.Kuvanant.com + 1000 houses in France
Personal assistance in english where you need it: in France !
www.immoboulevard.complan (pl n)
n.
1. A scheme, program, or method worked out beforehand for the accomplishment of an objective: a plan
of attack.
2. A proposed or tentative project or course of action: had no plans for the evening.
3. A systematic arrangement of elements or important parts; a configuration or outline: a seating plan; the
plan of a story.
4. A drawing or diagram made to scale showing the structure or arrangement of something.
5. In perspective rendering, one of several imaginary planes perpendicular to the line of vision between the
viewer and the object being depicted.
6. A program or policy stipulating a service or benefit: a pension plan.
SCOPE of Project
47