Transcript reviewer
รศ.ดร.มนต์ชยั ดวงจินดา บรรณาธิการวารสารแก่นเกษตร Overload information :: กราฟช่วยแสดงให้เห็นประเด็นสาคัญ ไม่ใช่เพือ่ แสดงข้อมูลดิบหรืออธิบายผล ซับซ้อน Unnecessary use of graph :: หากนาเสนอข้อมูลในรูปตารางแล้วไม่ตอ้ งนาเสนอด้วยกราฟอีก, ไม่ใช้กราฟ เพือ่ พรรณนาลักษณะตัวอย่างที่สมุ Inappropriate graph type :: กราฟเส้นใช้แสดงแนวโน้มการตอบสนอง การเปลี่ยนแปลงของสิง่ ที่ศกึ ษาไป ตามเวลา, แกน X ต้องเป็ นตัวแปรต่อเนื่ อง Bad scale, bad labels :: ใช้สเกลของกราฟไม่เหมาะสม, หน่ วยไม่เหมาะสม, ลืม label กราฟหรือทาไม่ สมบูรณ์ ถ้าต้องการแสดงให้เห็นแนวโน้ม (trend) จึงเลือกใช้กราฟเส้น (line graph) นอกนั้นควรใช้กราฟแท่ง (bar graph) ถ้าต้องการแสดงการจาแนกในรูปสัดส่วนร้อยละที่ภาพรวมเท่ากับ 100% จึง ใช้กราฟวงกลม ไม่ควรมีเส้นกราฟมากกว่า 6 เส้นในกราฟเดียวกัน ในขณะกราฟแท่งที่มี ข้อมูลเพียง 2-3 แท่งก็ไม่จาเป็ นเช่นกัน ควรแสดง error bar เพือ่ แสดง confidence interval และช่วยตรวจสอบ นัยสาคัญได้คร่าวๆ # Example I ควรใช้กราฟเส้นหรือกราฟแท่ง? ทรีทเมนต์ I และ IH มีผลต่อค่าเฉลี่ย CH4 ต่างกันทางสถิตหิ รือไม่? ทรีทเมนต์ CI และ CIH มีผลต่อ ค่าเฉลี่ย CH4 ต่างกันทางสถิตหิ รือไม่? # Example II เห็นความแตกต่างระหว่างทรีทเมนต์ A, B, C ชัดเจนหรือไม่? เห็นความแตกต่างระหว่างการใส่ปยุ๋ 4 ระดับชัดเจนหรือไม่? เห็นการเปลี่ยนแปลงในแต่ละสัปดาห์ ชัดเจนหรือไม่? เห็นอิทธิพลร่วมระหว่างทรีทเมนต์กบั ระดับการใช้ปยหรื ุ๋ อไม่? # Example III 21.2 20.8 20.4 20.0 19.6 19.2 18.8 T1 T2 T3 T4 T1 T2 T3 T4 25 20 15 10 5 0 กราฟทัง้ สองใช้ขอ้ มูลชุดเดียวกันในการ นาเสนอ แต่ให้ความหมายต่างกัน อย่างไร ? กราฟใดถูกต้อง ? หากผลการวิจยั ได้ผลดังแสดงในกราฟที่ 2, จาเป็ นต้องนาเสนอในบทความ หรือไม่ ? # Example IV การนาเสนอกราฟในลักษณะนี้ เพียงพอ แล้วหรือไม่ ? สามารถนาเสนอกราฟที่ทาให้งานวิจยั นี้ มีความน่ าสนใจขึ้นได้อย่างไร ? Presenting raw data :: ไม่ควรใช้ตารางในการนาเสนอข้อมูลดิบ หรือแสดงรายละเอียดของตัวอย่างที่ สุม่ ควรใช้ช่วยในการอธิบายผล แสดงประเด็นที่ได้จากการศึกษา Too complicate :: ไม่ควรทาให้ตารางมีความซับซ้อนหรือมีขนาดใหญ่เกินไป As much as is needs and not more than is necessary! Incomplete statistics :: แสดงค่าเฉลี่ยโดยไม่บอกค่าแสดงความผันแปร SD, %CV, etc. แสดงความแตกต่างของค่าเฉลี่ย (กากับอักษร a,b) แต่ไม่ระบุค่า standard error, SEM, หรือค่า lsd, etc. ไม่ชดั เจนว่าเปรียบเทียบตามแนวคอลัมน์ หรือในแถว ฯลฯ ไม่ระบุหน่ วย จานวนทศนิ ยมมากเกินจาเป็ น Redundant :: ไม่ควรแสดงข้อมูลซ้าๆ แสดงเป็ นกรัม, กก., ทาเป็ น % ด้วยข้อมูลเดียวกัน # Example I ตารางนี้ ยังไม่สมบูรณ์ เพราะเหตุใด ? # Example II • การตรวจสอบนัยสาคัญคร่าวๆจาก SEM? การเสนอตารางเป็ นส่วนสาคัญของการเขียนบทความวิจยั ดังนั้นต้องออกแบบ ตารางให้เหมาะสม ทุกตารางที่เสนอต้องมีการอ้างอิงในเนื้ อหา ถ้านาเสนอในรูปตารางแล้ว ไม่จาเป็ นต้องอธิบายตารางซ้าในเนื้อหาอีก ควรจับเฉพาะประเด็นสาคัญที่วเิ คราะห์ได้จากตารางไปอธิบายในเนื้อหา ข้อวิจารณ์บทความวารสารจากผูท้ รงคุณวุฒิ At A Glance • บทความยาวเกินไป • บทคัดย่อยาวหรือ Abstract ภาษาอังกฤษมี ข้อผิดพลาดมาก • ชื่อเรื่องกับเนื้ อหาโดยรวมไม่สอดคล้องกัน • Format ไม่ตรงกับวารสาร บางครัง้ format ยังอยู่ ในรูปวิทยานิ พนธ์หรือรายงานฉบับสมบูรณ์ • ตรวจสอบ Check list ของวารสารให้ชดั เจนก่อน submit ปัญหาพบบ่อยในส่วนบทนา • การตรวจเอกสารไม่ทวั ่ ถึง ไม่มีการอ้างถึงงานวิจยั ที่มี การทาและตีพพิ ม์มาก่อนแล้ว • งานวิจยั ไม่มีประเด็นใหม่ • ที่มาของปัญหาและการทางานวิจยั ไม่ชดั เจน ปัญหาพบบ่อยในส่วนวิธีการ • • • • • ใช้ตวั สถิติไม่ถกู ต้อง จานวนซ้าไม่พอเพียง Plot size ไม่ได้มาตรฐาน ใช้เครื่องมือไม่ได้มาตรฐานหรือไม่เป็ นที่ยอมรับ แผนการทดลองไม่ถกู ต้อง หรือไม่ให้รายละเอียด อย่างชัดเจน • ผูอ้ น่ื ทาซ้าได้หรือไม่ หน่ วยทดลองหาอีกได้หรือไม่ ปัญหาพบบ่อยในส่วนผลและวิจารณ์ • • • • ขาดการวิจารณ์ผลที่ได้จากตารางหรือกราฟ ไม่แสดงค่าสถิติในตาราง ใช้กราฟผิดประเภท ใช้ scale ไม่ถกู ต้อง มองไม่เห็นประเด็นสาคัญที่ได้จากผลงานวิจยั ทาให้ งานวิจยั ไม่สมบูรณ์ • ขาดการนาเสนอให้เห็นภาพการนาไปใช้ Example Serious problem for common rejection • • • • • Wrong journal format Wrong statistics use, interpretation Wrong methodology, under standard Incomplete study, sampling, etc. Plagiarism Plagiarism • ตีพมิ พ์ซ้าซ้อน ส่งตีพมิ พ์หลายวารสารพร้อมกัน • ใช้ตน้ ฉบับเดิมเป็ นฐาน ปรับปรุง/เพิม่ เติมเนื้ อหา เพียงเล็กน้อยแล้วส่งวารสารใหม่ • ตัดต่อทรีทเมนต์ • คัดลอกกราฟ/ภาพ/ตาราง หรือนาข้อมูลตัวเลขจาก บทความผูอ้ น่ื มาดัดแปลง ส่งท้าย • เขียนบทความวิจยั เพือ่ ตีพมิ พ์ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ ไม่ใช่ทาไม่ได้ • การทาวิจยั คือโลกแห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู ้ ดังนั้นเรียนรูโ้ ดยใช้ peer review ของวารสารเป็ นผูช้ ้ ีนา • การเขียนบทความเป็ นทักษะ (skill) ทามาก คล่องมาก ใน ขณะเดียวกันเป็ นเรื่องของการแสดงแนวคิดของผูว้ จิ ยั ส่งท้าย (จริงๆ) • นักวิจยั ที่ดี – generate บทความดีๆ – มีประเด็นชัดเจน – มีผูอ้ า้ งอิง มาก – มีคนต่อยอดนาไปใช้ – เป็ นประโยชน์ต่อวงการวิชาการ หรือ • นักวิจยั ที่ดี – generate บทความมากๆ – มีแต่ประเด็นเล็กๆ หรือไม่ ชัดเจน – อ้างอิงแต่ในทีมนักวิจยั เอง – คนนาไปต่อยอดไม่ถกู – เป็ น ประโยชน์ต่อใคร ???