สงครามอิเล็กทรอนิกส์ (EW

Download Report

Transcript สงครามอิเล็กทรอนิกส์ (EW

1
สงครามอิเล็กทรอนิกส์
(EW-Electronic Warfare)
วัตถุประสงค์
เพือ่ ให้ นักเรียนได้ ร้ ู ถงึ หลักการสงคราม อิเล็กทรอนิกส์
เบือ้ งต้ น
เพือ่ ให้ นักเรียนรู้ จกั นาหลักการสงครามอิเล็กทรอนิกส์ ไป
ประยุกต์ ใช้ งานด้ านยุทธการอย่ างเหมาะสม
เพือ่ ให้ นักเรียนใช้ เป็ นแนวทางในการศึกษาเพิม่ เติมใน
อนาคต
2
คาจากัดความของสงครามอิเล็กทรอนิกส์
“การปฏิบัติทางทหารที่เกีย่ วข้ องกับการใช้
พลังงานคลืน่ แม่ เหล็กไฟฟ้าเพือ่ กาหนด ขยาย
ผล ลดหรือป้องกัน การใช้ คลืน่ แม่ เหล็กไฟฟ้า
ของข้ าศึก และมุ่งดารงการใช้ ประโยชน์ จากการ
ใช้ คลืน่ แม่ เหล็กไฟฟ้าของฝ่ ายเราอย่ างมี
ประสิ ทธิภาพสู งสุ ด”
3
4
คลืน่ แม่ เหล็กไฟฟ้าย่ านความถี่ต่างๆ
ย่ านความถี่วทิ ยุ เป็ นคลืน่ แม่ เหล็กไฟฟ้าทีม่ ีความยาวคลืน่
มากทีส่ ุ ด บางความถี่ความยาวคลืน่ ใหญ่ กว่ าสนามฟุตบอล
5
ย่ านMicrowave ใช้ ในเตาMicrowave
ระบบวิทยุเชื่อมโยง , เรดาร์
คลืน่ แม่ เหล็กไฟฟ้ าที่เกิดจากการแผ่ รังสี ความร้ อน
6
“แสง”คลืน่ แม่ เหล็กไฟฟ้าชนิดเดียวที่สามารถมองเห็นด้ วยตาเปล่ า
ที่เห็นได้ ชัดเจนคือ“รุ้งกินนา้ ”สี แดงเป็ นสี ที่มคี วามยาวคลื่นยาวที่สุด
“อุลตราไวโอเล็ต” มนุษย์ ไม่ สามารถมองเห็นได้ เว้ นแต่ แมลงบางชนิด
เช่ นผึง้ สามารถมองเห็น
7
X - Ray
คลืน่ แม่ เหล็กไฟฟ้าทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์ ใช้ คุณสมบัตใิ นการ ดูดซับพลังงาน
คลืน่ X-Ray ของกระดูกและฟันทีม่ ีมากกว่ าผิวหนังและเหงือ โดย
พลังงานX-Rayสามารถทะลุผ่านผิวหนังและเหงือกได้
8
การสงครามอิเล็กทรอนิกส์ แบ่ งออกเป็ น 3 มาตรการ
1. มาตรการสนับสนุนทางอิเล็กทรอนิกส์
(ESM-Electronic Support Measure)
2.มาตราการตอบโต้ ทางอิเล็กทรอนิกส์ (ECMElectronic Countermeasures)
3.มาตรการตอบโต้ การต่ อต้ านทางอิเล็กทรอนิกส์
(ECCM-Electronic counter-countermeasures)
9
โครงสร้ างสงครามอิเล็กทรอนิกส์
ESM
Radar Interception and DF
Communication Interception and DF
ECM
Electronic Jamming
Communication Noise Jamming
Radar Noise Jamming
ECCM
Mechanical Jamming or Non-Electronic Jamming
Deception ECM-DECM
Chaff
Anti - ESM
Anti - ECM
Rope (Ribbon)
Distance Deception
Decoy
Bearing Deception
Gull
Kite
Flare
10
มาตรการสนับสนุนทางอิเล็กทรอนิกส์์
(Electronic Support Measure-ESM)
เป็ นมาตรการที่เกีย่ วข้ องกับการปฏิบัตกิ ารเพือ่
ค้ นหา ดักรับ กาหนดตาบลที่ และวิเคราะห์
คลืน่ แม่ เหล็กไฟฟ้าของฝ่ ายข้ าศึก เพือ่ นามาใช้
ประโยชน์ ในมาตรการตอบโต้ ทางอิเล็กทรอนิกส์
(ECM) และมาตราการ ตอบโต้ การต่ อต้ านทาง
อิเล็กทรอนิกส์
( E C C M )
11
วัตถุประสงค์ ในการใช้
มาตราการสนับสนุนทางอิเล็กทรอนิกส์์
1.ทาให้ รู้ข้อมูลทางยุทธการทีเ่ กีย่ วข้ องกับการวางกาลังและ
การวางระบบอาวุธของข้ าศึก
2.ทาให้ รู้ข้อมูลทางยุทธการทีเ่ กีย่ วข้ องกับการประกอบกาลัง
และการเคลือ่ นย้ ายกองกาลังของข้ าศึก
3.ทาให้ สามารถกาหนดแนวทางที่ใช้ ในการต่ อต้ านและทาให้
ระบบควบคุมอาวุธของฝ่ ายข้ าศึกทางานล้ มเหลว
12
4.ทาให้ รู้ ข้อมูลทางยุทธการทีเ่ กีย่ วข้ องกับยุทธวิธี
ในการปฏิบัติ
และกาลังรบของข้ าศึก
5.ทาให้ รู้ ข้อมูลทางยุทธการเพือ่ ใช้ เป็ นฐานข้ อมูล
เพือ่ สนับสนุนมาตราการ ECM และ ECCM
6.ทาให้ รู้ ข้อมูลทางยุทธการทีเ่ กีย่ วข้ องกับขีด
ความสามารถด้ านสงครามอิเล็กทรอนิกส์ ของ
ข้ าศึก
13
นิกส์์
1.
ค้ นหา/ดักรับการแพร่ คลืน่ แม่ เหล็กไฟฟ้าของข้ าศึก
2.
กาหนดตาบลที่และติดตามความเคลือ่ นไหวอย่ างต่ อเนื่อง
3. วิเคราะห์ สัญญาณจากพารามิเตอร์ ต่างๆ เพือ่ วิเคราะห์ ลกั ษณะของ
ภัยคุกคามทีอ่ าจจะเกิดขึน้
ต้ องใช้ ร่วมกับทาเนียบกาลังรบทาง
อิเล็กทรอนิกส์ (EOB -Electronic Order of Battle)
4. บันทึกข้ อมูลทั้งภาพและเสี ยงจากอุปกรณ์ ตรวจจับเพือ่ รวบรวม
เป็ นฐานข้ อมูล
เพือ่ ใช้ วเิ คราะห์ ในอนาคตและศึกษาข้ อมูล
รายละเอียดในอนาคต
5. พิสูจน์ ทราบ(Classification)ขั้นตอนนีส้ ามารถระบุ ว่ าภัยคุกคาม
ประเภทใด
14
อ์ุปกรณ์ ทใี่ ช้ ในการตรวจจับการแพร่ คลืน่
1.วิทยุหาทิศ(Radio Direction and Finding-DF)
ดักรับการติดต่ อสื่ อสารและ ตรวจจับการแพร่ คลืน่ แม่ เหล็กไฟฟ้า
ของข้ าศึก ทาให้ ทราบตาบลทีก่ ารวางกาลัง
วิเคราะห์ โครงสร้ างการสื่ อสารของข้ าศึก ทาให้ ทราบการประกอบ
กาลัง การเคลือ่ นกาลังของข้ าศึก
2. เครื่องมือตรวจจับการแพร่ คลืน่ เรดาร์ (RWR-Radar Warning Receiver)
วิเคราะห์ คุณสมบัตขิ องเรดาร์ ว่าเป็ นเรดาร์ ประเภทใด
ทราบโครงสร้ างการวางกาลังของข้ าศึก
15
RDF)
16
(RWR-Radar Warning Receiver)
17
Laser Warning Receivers
18
การวิเคราะห์ การแพร่ คลืน่ เรดาร์
(Radar Characteristics=Fingerprints)
ลักษณะเฉพาะของเรดาร์ ที่ควรทราบ
1. ความถี่ ( C a r r i e r
Frequency)
2. อัตราการหมุนของสายอากาศ (Antenna Scan Rate)
3
.
แบบการหมุนของสายอากาศ
19
4.อัตราการทวนซ้าของสั ญญาณ(PRR-Pulse Repetition
FrequencyหรือPulse Repetition Rate)
5.ความกว้ างของห้ วงคลืน่ (Pulse LengthหรือPulse
Width)
6.ช่ วงว่ าง หรือช่ วงเวลาที่เครื่องรับทางาน(REST Time)
7.ความกว้ างของห้ วงคลืน่ (Pulse Width)
8.กาลังส่ ง (Power Output)
20
ความถี่ (Carrier Frequency)
ความถีต่ ่า ใช้ กบั เรดาร์ ตรวจการระยะไกล
ความถีส่ ู ง ใช้ กบั เรดาร์ ตรวจการระยะใกล้
21
อัตราการหมุนของสายอากาศ(Antenna Scan Rate)
เรดาร์ ตรวจการณ์ ระยะไกลอัตราการหมุนของสายอากาศจะช้ า
เรดาร์ ตรวจการณ์ ระยะใกล้ และเรดาร์ ควบคุมการยิงอัตราการ
หมุนของสายอากาศจะเร็ว
22
อัตราการทวนซ้าของสั ญญาณ(PRR-Pulse Repetition
FrequencyหรือPulse Repetition Rate)
จานวนห้ วงคลืน่ ทีถ่ ูกส่ งออกไปในหนึ่งวินาที(Pulse per
Second-PPS) เป็ นตัวกาหนดระยะไกลสุ ดของเรดาร์
PRF ต่ำกว่ำ 350 PPS เรดำรตรวจกำรณระยะไกล
PRF สูงกว่ำ 1000 PPS เรดำรตรวจกำรณระยะใกล้
23
ความกว้ างของห้ วงคลืน่ (Pulse Length or Pulse Width)
เป็ นตัวกาหนดขีดความสามารถในการแยกเป้าทางระยะ
และระยะใกล้ สุดของเรดาร์ (Min Range=Pw X 164)
24
ความกว้ างของห้ วงคลืน่ (Beam Width)
ความกว้ างของห้ วงคลืน่ ที่ส่งออกอากาศ
ขึน้ กับขนาดของสายอากาศและความถี่ของเรดาร์
ความกว้ างของลาคลืน่ ทางตั้งเป็ นตัวกาหนดการแยกเป้าทางสู ง
ความกว้ างของลาคลืน่ ทางแนวนอนเป็ นตัวกาหนดการแยกเป้าทางแบริ่ง
25
แบบการหมุนของสายอากาศ
1. แบบหมุนรอบตัว (Circular Scan)
ใช้ ในเรดาร์ เดินเรือและเรดาร์ ตรวจการณ์ ทาง
อากาศ และเรดาร์ ตรวจการณ์ พนื้ นา้
26
แบบการหมุนของสายอากาศ
2.Vertical Sector Scan
3. Horizontal Sector Scan
27
การกวาดแบบ Steady
28
การกวาดแบบ Raster Scan
29
การกวาดแบบ Spiral Scan
30
การกวาดแบบ Conical Scan
31
เรดาร์ ประเภทต่ างๆ
เรดาร์ 2 มิติ (2-D - Two Dimension Radar)ให้ ข้อมูล แบริ่ง (ความสู ง)
และ ระยะ
1.เรดาร์ พนื้ นา้ (Surface Radar)
-ความถี่สูง
-Pulse Width สั้ น , Beam Width กว้ าง , PRF สู ง
2.เรดาร์ ตรวจการณ์ ทางอากาศ(Air Search Radar)
- ความถี่ต่า
-Pulse Width ยาว , Beam Width แคบ , PRF ต่า
3.เรดำรวัดควำมสูง(Height Finding Radar)
-ควำมถี่สูงกว่ำเรดำรอำกำศเนื่องจำกไม่จำเป็ นต้องตรวจจับระยะไกล
-Pulse Width และกำลังส่ งน้อยกว่ำเรดำรอำกำศ }Horizontal Beam Width แคบมำก
ให้ขอมู
้ ลความสูงกับ บ.ขับไล่ และ ป้ อนมุมกระดกให้
32
เรดาร์ 3มิต(ิ 3-D -Three Dimension
Radar)
เรดาร์ ทใี่ ห้ ข้อมูลทั้ง แบริ่ง ระยะ และความสู ง
1.เรดาร์ 3มิติ แบบ V - Beam
33
2. เรดาร์ 3 มิติ แบบStack Beam
34
3. เรดาร์ 3 มิติ แบบ Frequency Scan หรือ Frescan
35
เรดาร์ ตดิ ตามเป้ าและเรดาร์ ควบคุมการยิง
Tracking Radar-Fire Control Radar
เรดาร์ ที่ใช้ ในการติดตามความเคลือ่ นไหวของเป้า
สามารถ
คานวณเข็ม-ความเร็วของเป้ าได้ อย่ างต่ อเนื่อง หลังจากนั้นจะ
ส่ งข้ อมูลของเป้าทีเ่ ปลีย่ นแปลงทั้งทางแบริ่ง , ระยะ และความ
สู งให้ ระบบควบคุมอาวุธ
เพือ่ ใช้ ในการสกัดกั้นและทาลาย
เป้าหมายนั้นต่ อไป การกวาดเพือ่ ติดตามเป้ าของ เรดาร์ ติดตาม
เป้าและควบคุมการยิงมี
2
แบบ
คือ
1. Continuous Tracking ใช้ ติดตามเป้าครั้งละหนึ่งเป้า
2. T r a c k
W h i l e
S c a n
( T W S )
36
Continuous Tracking
1.Conical Scan
 สายอากาศจะชี้ไปที่เป้าตลอดเวลา โดยการหมุน B e a m เป็ น
วงกลมรอบๆเป้า ขณะทีเ่ ป้าอยู่กลางBeam จะถือว่ า เรดาร์ “Lock
O
n
”
37
2.Conical Scan on Receiver
Only(COSRO)
เป็ นP a s s i v e S c a nพัฒนาเพือ่ ป้ องกันการทาเป้ าลวง
(Deceptionของข้ าศึก (Deception)โดยการScan เฉพาะภาครับ
38
3. Lobe Switching
Beam จะเปลีย่ นจากตาแหน่ งหนึ่งไปอีกตาแหน่ งโดยไม่ มี
การแพร่ คลืน่
39
Lobe-on-Receiver-Only
(LORO)
เป็ นPassive Scan พัฒนาเพือ่ ป้องกันการทาเป้าลวงของ
ข้ าศึก (Deception)โดยการScan เฉพาะภาครับ

40
Track While Scan (TWS)
สามารถติดตามเป้าได้ ครั้งละ หลายเป้ าพร้ อมกัน โดยมีหลักการ
ทางานคล้ ายกระดานหน คือจะใช้ ข้อมูลของเป้าแต่ ละเป้า 2 3 ครั้งแล้ วนามาประเมินผลหาเข็มและความเร็ว นอกจากนั้น
ยังสามารถคาดหมายตาบลที่เป้าล่ วงหน้ าได้ อกี ด้ วย
41
Track While Scan (TWS)
42
43