Transcript Slide 1

สาระการเรี ยนร้ ู
สาระหน่ วยนี ้ นักเรียนจะได้ ศึกษาเกี่ยวกับ “ ทัศนธาตุ ”
ในด้ านลักษณะและคุณสมบัติ ซึ่งเป็ นมูลฐานศิลปะที่สาคัทที่สุด
เมื่อนักเรียนเอาองค์ ประกอเหล่ านีม้ าสร้ างสรรค์ ร่วมกันจ
ก่ อให้ เกิดงานศิลป์ที่มีคุณค่ ายิ่ง
ทัศนธาตุ(VISAUL ELEMENT)
ทัศนธาตุ หมายถึง ส่ วนประกอบของการมองเห็น มีทงั ้ สิน้
7 อย่ าง ได้ แก่ จุด, เส้ น, สี, นา้ หนักอ่ อน-แก่ , รู ปร่ าง-รู ปทรง,
พืน้ ผิว, พืน้ ที่ว่าง
ผลงานทัศนศิลป์ที่มีคุณค่ าความงาม สามารถสร้ างอารมณ์
ความรู้สึกและความประทับใจกับผู้ท่ สี ัมผัสได้ นัน้ ก็เกิดมาจาก
การที่เรานาความรู้ ความเข้ าในความหมายของคุณลักษณะทาง
ทัศนธาตุ มาจัดตามหลักขององค์ ประกอบศิลป์ทัง้ สิน้
องค์ ประกอบทางทัศนธาตุ
จุด (Point, Dot)
• จุด (Point, Dot) เป็ นทัศนธาตุแม่ ที่ให้ กาเนิดทัศนธาตุ
อื่นๆ ตามมาและนาไปสร้ างสรรค์ งานศิลปะที่มีสวยงาม
ความสมบูรณ์ มีลักษณะกลม เกิดจากการจิม้
กด กระแทก ด้ วยนิว้ มือ ดินสอ ปากกา
พู่กัน โดยจุดมีอยู่ 2 ประเภท คือ
• 1.จุดที่เกิดจากธรรมชาติ
• 2.จุดที่มนุษย์ สร้ างขึน้
• ยาโยอิ คุซามะ
(Kusama Yayoi ) หลาย
คนคงไม่ ร้ ู จักเธอ แต่ เมื่อ
บอกว่ าเธอเป็ นผู้ทาให้ ลาย
จุด “Dot Infinity” ฮิต
ฮอทไปทั่วโลก หลังจับมือ
กับแบรนด์ ดังอย่ าง Louis
Vuitton ออกแบบคอล
เลคชั่นพิเศษที่มีช่ อื ว่ า
“Louis Vuitton –
Yayoi Kusama” ที่นา
เอกลักษณ์ งานศิลป์ของเจ้ า
แม่ ลายจุดมาตีความใหม่
และถ่ ายทอดออกมาเป็ นผล
งานแฟชั่นสุดไฮโซ
เส้ น (Line)
• เส้ น (Line) เกิดจากจุดที่เรียงต่ อกัน หรือ การเคลื่อนที่ของจุด
โดยการใช้ นิว้ ดินสอ ปากกา พู่กัน ลาก
• เส้ นมีมิตเิ ดียว มีเพียงความยาว ไม่ มีความกว้ าง ความลึก
• เส้ นคือหัวใจสาคัทในงานทัศนศิลป์ทุกแขนง เช่ น จิตรกรรม
ประติมากรรม สถาปั ตยกรรม ฯลฯ
• เส้ นมีความสาคัทในการสร้ างรูปร่ าง-รูปทรง
• เส้ นมี 2 ลักษณะ หลัก คือ เส้ นตรงกับเส้ นโค้ ง
เส้ นตัง้ ทาให้ เกิดความรู้ สึก สง่ าแข็งแรง เป็ นระเบียบ
เส้ นนอน ทาให้ เกิดความรู้สึก สงบ ปลอดภัย
เส้ นทแยง ทำให้ เกิดควำมรู้สึก รวดเร็ว มีพลัง
เส้ นโค้ ง ทำให้ เกิดควำมรู้สึก อ่ อนโยน เป็ นมิตร
เส้ นโค้ งอิสระ ทำให้ เกิดควำมรู้สึก เจริญเติบโต
เส้ นโค้ งขดหอย ทำให้ เกิดควำมรู้ สึก เคลือ่ นไหว คลีค่ ลำย
เส้ นคลื่น ทาให้ เกิดความรู้สึก เคลื่อนไหวต่ อเนื่อง
เส้ นหยัก ทำให้ เกิดควำมรู้สึก รุนแรง ตืน่ เต้ น
เส้ นประ ทาให้ เกิดความรู้ สึก วุ่นวาย ไม่ ม่ ันคง อันตราย
รูปร่ าง (Shape) และรูปทรง (Form)
• รู ปร่ าง (Shape) หมายถึง การบรรจบกันของเส้ น ทาให้ เกิดขอบเขต
ของวัตถุท่ มี องเห็นเป็ น 2 มิติ คือ มีความกว้ างและความยาว
• รู ปทรง (Form) หมายถึงรู ปลักษณะที่มองเห็นเป็ น 3 มิติ คือ
มีความกว้ างความยาวและความหนาลึก ให้ ความรู้ สึกมี
ปริมาตร ความหนาแน่ น มีมวลสาร ที่เกิดจากการใช้ ค่านา้ หนั ก
• รู ปร่ างและรู ปทรงที่ในทัศนศิลป์มี 3 ลักษณะ คือ
- แบบอิสระ (Free Form)
- แบบอินทรี ย์ (Organic Form)
- แบบเรขาคณิต (Geometric Form)
1. แบบอิสระ (Free Form)
• รูปอิสระ (Free Form) เกิดขึน้ อย่ างอิสระ ไม่ มีโครงสร้ างที่แน่ นอน
เป็ นไปตามอิทธิพลและการกระทาจากสิ่งแวดล้ อม เช่ น รูปก้ อน
เมฆ ก้ อนหิน แอ่ งนา้ หมอกควัน ซึ่งให้ ความรู้สึกที่เคลื่อนไหว
• รูปอิสระจะมีลักษณะขัดแย้ งกับรูปเรขาคณิต แต่ คล้ ายคลึงกับรูป
อินทรีย์
• รูปอิสระอาจเกิดจากรูปเรขาคณิตหรือรูปอินทรีย์ ที่ถูกกระทา จน
มีรูปลักษณะเปลี่ยนไปจากเดิม เช่ น รถยนต์ ท่ ถี ูกชนจน
ยับเยิน หรือ ซากสัตว์ ท่ เี น่ าเปื่ อยผุพัง
2.แบบอินทรี ย์ (Organic Form)
• รูปอินทรีย์ (Organic Form) เป็ นรูปของสิ่งที่มีชีวิต หรือ คล้ ายกับ
สิ่งมีชีวิต ที่สามารถเจริทเติบโต เคลื่อนไหวและสามา
เปลี่ยนแปลงรูปได้ เช่ น รูปของคน สัตว์ พืช
3.แบบเรขาคณิต (GeometricForm)
• รูปเรขาคณิต (Geometric Form) มีรูปที่เป็ นมาตรฐาน สามารถ
วัดหรือคานวณได้ เกิดจากการสร้ างของมนุษย์ เช่ น รูปสี่เหลี่ยม
รูปสามเหลี่ยม รูปวงกลม
• นอกจากนีห้ มายถึงรูปทรงของสิ่งที่มนุษย์ ประดิษฐ์ คดิ ค้ น ขึน้
อย่ างมีแบบแผน แน่ นอน เช่ น
รถยนต์ เครื่องจักรกล เครื่องบิน สิ่งของเครื่องใช้ ต่างๆ
• รูปเรขาคณิตเป็ นรูปที่ใช้ สร้ างสรรค์ โครงสร้ างของรูปร่ างและ
รูปทรงอื่นๆ
แสงและเงา (Light & Shade)
• แสงและเงาเกิดจากการร่ องรอยของดินสอ ปากกาหรืออื่นๆ ด้ วย
การควบคุมนา้ หนักผ่ อนหนักเบาในการ ขีด เขียน เกลี่ย ปาด ทับ
ไขว้ และใช้ รอยเหล่ านีส้ ร้ างนา้ หนักให้ เกิดลักษณะผิวของ
ธรรมชาติ หรือหุ่นที่ใช้ ในการเขียน
• การแรเงาจึงเป็ นการสร้ างความเข้ มด้ วยระยะต่ างๆ ของรูปทรง
• นา้ หนักที่ไล่ เรียงจากอ่ อนไปหาแก่ อย่ างสม่าเสมอนี ้ เรียกว่ า
( VALUE ) ของสีหรือนา้ หนักที่ระบาย มีระยะอ่ อน กลาง แก่
• แสงและเงา เป็ นองค์ ประกอบของศิลป์ที่แยกออกจากกันไม่ ได้
แสงเมื่อตกกระทบกับวัตถุ จะทาให้ เกิดเงา
• ความเข้ มของเงาจะขึน้ อยู่กับความเข้ มของแสง ในที่ท่ มี ีแสงสว่ าง
มาก เงาจะเข้ มขึน้ และในทางกลับกันที่ท่ มี ีแสงสว่ างน้ อย เงาจะ
ไม่ ชัดเจน ในที่ท่ ไี ม่ มีแสงสว่ าง
• เงาจะอยู่ในทางตรงข้ ามกับแสงเสมอ และมีรูปลักษณะเป็ นไป
ตามลักษณะของวัตถุ
ความสาคัทของแสง-เงา
1. ให้ ความแตกต่ างระหว่ างรูปและพืน้ หรือรูปทรงกับที่ว่าง
2. ให้ ความรู้สึกเคลื่อนไหว
3. ทาให้ รูปร่ าง ( 2 มิติ ) กลายเป็ น รูปทรง 3 มิติ
4. ทาให้ เกิดระยะความตืน้ - ลึก และระยะใกล้ - ไกลของภาพ
5. ทาให้ ภาพเกิดความกลมกลืนสวยงาม
ระยะของแสง-เงา
• แสง-เงา หลัก มีอยู่ 3 ระดับ คือ อ่ อน กลาง แก่
• แสง-เงา แบบละเอียด มี 9 ระดับ
ค่ านา้ หนักของแสงและเงาบนวัตถุ จาแนกได้ ดังนี ้
สี (Color)
สี หมายถึง ลักษณะความเข้ มของ
แสงในระดับต่ างๆที่ตกกระทบเข้ าสู่
สายตามนุษย์ และสีมีอทิ ธิพลต่ อ
ความรู้ สึก อารมณ์ และจิตใจ
มากกว่ าองค์ ประกอบอื่นๆ
สีทาให้ เกิดอารมณ์ ความร้ ู สึก
•
•
•
•
•
•
•
•
•
•
เหลือง
แดง
ชมพูอ่อน
เขียว
นา้ เงิน
ม่ วง
เทา
นา้ ตาล
ขาว
ดา










สว่ าง สดใส
ร้ อนแรง ตื่นเต้ น เร้ าใจ อันตราย
นุ่มนวล อ่ อนโยน
สดชื่น ปลอดภัย เจริทเติบโต
หนักแน่ น สภาพ เงียบขรึม สงบ
เยือกเย็น เศร้ าโศก มีเสน่ ห์ ลึกลับ
สง่ า ฉลาด สุขุม
อบอุ่น แห้ งแล้ ง
สะอาด เรียบร้ อย บริสุทธิ์ กว้ าง
เศร้ าโศก หวาดกลัว เหงา
สีมี 2 วรรณะ
วรรณะร้ อน (warm tone color)
ได้ แก่ สีเหลือง เหลืองส้ ม ส้ ม ส้ มแดง แดง แดงม่ วง ม่ วง
และยังรวมถึงสีท่ ี ชมพูท่ สี ดใส สีนา้ ตาลที่อบอุ่น แห้ งแล้ ง
วรรณะเย็น (cool tone color)
ได้ แก่ สีเหลือง เหลืองเขียว เขียว นา้ เงินเขียว นา้ เงิน นา้ เงิน
ม่ วง ม่ วง และยังรวมถึงสีท่ สี บายตา เช่ น ขาว เทา ดา
วงจรสีธรรมชาติ(color circle) มี 12 สี ดังนี ้
สีขัน้ ที่ 1 แม่ สีวัตถุธาตุ
สีขัน้ ที่ 2 แม่ สีวัตถุธาตุ
สีขัน้ ที่ 3 แม่ สีวัตถุธาตุ
พืน้ ที่ว่าง(Space)
• พืน้ ที่ว่าง คือ พืน้ ที่ว่างเปล่ าของกระดาษ ผ้ าใบ ผนัง ที่ยังไม่ มีภาพ
หรือร่ องรอยใด ๆ ปรากฏอยู่ หรืออากาศที่อยู่รอบ ๆ งาน
ประติมากรรมหรือสถาปั ตยกรรม
• ในทางทัศนศิลป์ถ้ ามีพนื ้ ที่ว่างมาก จะให้ ความรู้สึก โดดเดี่ยว
อ้ างว้ าง
• ในทางกลับกันถ้ ามีพนื ้ ที่ว่างน้ อย จะให้ ความรู้สึกแน่ น อึดอัด
• ชะลูด นิ่มเสมอ (2531) ได้ กล่ าวว่ า Space หมายถึง สิ่งที่ขยาย
กว้ างออกโดยไม่ มีขอบเขต เป็ นที่ซ่ งึ สิ่งทัง้ ปวงดารงอยู่ ระยะห่ าง
ระหว่ างรูปทรง ช่ วงเวลา อวกาศ
• พืน้ ที่ว่างโดยรอบวัตถุ เรียกว่ า บริเวณว่ างลบ (Negative Space)
• พืน้ ที่ว่างในตัววัตถุ เรียกว่ า บริเวณว่ างบวก (Positive Space)
พืน้ ผิว(Texture)
• พืน้ ผิว หมายถึง ลักษณะของบริเวณผิวหน้ าของสิ่งต่ าง ๆ ที่เมื่อ
สัมผัสแล้ วสามารถรับรู้ได้ ว่ามีลักษณะอย่ างไร คือรู้ว่า หยาบ นุ่ม
ลื่น มัน เรียบ เป็ น
• พืน้ ผิวหยาบจะให้ ความรู้สึกหนักแน่ น มั่นคง แข็งแรง ถาวร
• ผิวเรียบ จะให้ ความรู้สึกเบา สบาย
• การผสมผสานลักษณะของพืน้ ผิวที่มีความขัดแย้ งเอาไว้ ด้วยกันใน
สัดส่ วนที่พอเหมาะจะเกิดความสวยงาม เช่ น อาคารคอนกรีตมี
ลักษณะหยาบแต่ ตดิ กระจกที่เรียบเงา
ลักษณะพืน้ ผิวมี 2 ประเภท
1. พืน้ ผิวที่สัมผัสได้ ด้วยมือหรือกายสัมผัส
พืน้ ผิวที่สัมผัสได้ ด้วยมือหรือกายสัมผัส เป็ นลักษณะพืน้ ผิวที่มี
จริง ของผิวหน้ าของวัสดุ ซึ่งสามารถสัมผัสได้ จากงาน
ประติมากรรม และงานสถาปั ตยกรรม
2. พืน้ ผิวที่สัมผัสได้ ด้วยสายตา
พืน้ ผิวที่สัมผัสได้ ด้วยสายตา แต่ ไม่ ใช่ ลักษณะผิวที่แท้ จริงของ
วัสดุ เช่ น การวาดภาพลายเนือ้ ไม้ รอยยับของผ้ า เป็ นการสร้ าง
พืน้ ผิวลวงตาให้ สัมผัสได้ ด้วยการมองเห็นเท่ านัน้