Chapter 3 การวางแผนโครงการ

Download Report

Transcript Chapter 3 การวางแผนโครงการ

CHAPTER 3
การวางแผนโครงการ
1
โดย ...อาจารย์เกศแก้ว ประดิษฐ์
[email protected]
การวางแผนโครงการ
(Project Planning Phase)
ประกอบด้วยกิจกรรมดังต่อไปนี้
 กำหนดปั ญหำ
 กำรศึกษำควำมเป็ นไปได้
 กำรยืน่ ข้อเสนอรำยงำนข้อมูลผูบ้ ริหำรเพื่อยืนยันโครงกำร
 กำรวำงแผนและควบคุมโครงกำร
2
กาหนดปั ญหา
(Problem Definition)
1.
กำรตรวจสอบปั ญหำจำกกำรปฏิบตั งิ ำน
 กำรทำงำนให้เสร็จสมบูรณ์ เป็ นไปด้วยควำมล่ำช้ำ
 มีขอ้ ผิดพลำดสูง
 กำรทำงำนไม่ถูกต้อง
 กำรทำงำนไม่สมบูรณ์
 งำนไม่บรรลุวตั ถุประสงค์ตำมทีต่ อ้ งกำร
3
กาหนดปั ญหา
(Problem Definition)ต่อ
2.
กำรสังเกตพฤติกรรมของพนักงำน
 ด้ำนพฤติกรรมในกำรปฏิบตั งิ ำน
 พนักงำนมีอตั รำกำรเจ็บป่ วยสูง
 พนักงำนไม่พึงพอใจในงำนทีด่ ำเนินกำรอยู่
 ควำมกระตือรือร้นในกำรทำงำนมีตำ่
 อัตรำกำรลำออกของพนักงำนสูง
4
กาหนดปั ญหา
(Problem Definition)ต่อ
2.
กำรสังเกตพฤติกรรมของพนักงำน
 ด้ำนกำรปรับปรุงแก้ไขเพื่อลดปั ญญำระบบ
 เพิ่มควำมเร็วของกระบวนกำรทำงำน
 เพิ่มควำมกระชับของกระบวนกำร
 รวบกระบวนกำร
 ลดข้อผิดพลำดจำกกำร ป้ อนข้อมูล
 ลดควำมซำ้ ซ้อนของอุปกรณ์จดั เก็บข้อมูล
 ลดควำมซำ้ ซ้อนของ Output
 ปรับปรุงกำรทำงำน สภำพแวดล้อม
 เพิ่มคุณประโยชน์
5
การเขียนแผนภูมิกา้ งปลา
(Case-and-Effect Diagram)
สำเหตุที่ 2
สำเหตุท่ี 1
สำเหตุยอ่ ย
ปั ญหำ
สำเหตุที่ 3
6
ตัวอย่าง กรณีศกึ ษาบริษทั BM Car
Rent Service Center จากัด
ปั ญหาที่เกิดขึ้นภายในบริษทั
 ระบบข้อมูลของลูกค้ำ ยังมีกำรจัดกำรที่ไม่ดีพอ เนื่ องจำกมี
ข้อมูลซำ้ ซ้อน
 กำรขอดูร ำยกำรรถที่ปล่อ ยเช่ำไปหรือ รถที่ค งเหลือ อยู่และ
พร้อมปล่อยเช่ำ ในแต่ละวันจะมีกำรตรวจสอบหลำยครัง้ ทำให้
พนักงำนจำเป็ นต้องรวบรวมเอกสำรเพื่อทำกำรตรวจสอบซำ้
อยูต่ ลอด
 กำรคำนวณค่ำเช่ำรถ รวมถึงค่ำปรับที่เกิดจำกกำรส่งคืนรถ
7
่
เกิดกำหนด และกำรหักส่วนลด ซึงพนักงำนคำนวณผิด
ตัวอย่าง กรณีศกึ ษาบริษทั BM Car
Rent Service Center จากัด
ปั ญหาที่เกิดขึ้นภายในบริษทั (ต่อ)
 เอกสำรสัญญำบำงครัง้ สูญหำย ไม่สำมำรถสอบประวัติกำร
เช่ำรถของลูกค้ำได้
 ลูกค้ำบำงรำยเป็ นลูกค้ำที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เนื่องจำกมีประวัติ
โจรกรรมรถ ซึ่ง ไม่ ส ำมำรถตรวจสอบข้อ มู ล ได้ค รบถ้ว น
เนื่องจำก ต้องใช้เวลำ และประวัติลูกค้ำจัดเก็บไม่เป็ นระเบียบ
โดยเฉพำะลูกค้ำเปลี่ยนชือ่ ก็ยง่ิ ทำให้คน้ หำยุง่ ยำกมำกขึ้น
 รำยงำนบำงชนิด ใช้เวลำมำกเกิดควำมจำเป็ นในกำรจัดทำมัก
8
มีขอ้ ผิดพลำดอยูบ่ ่อย ๆ
ตัวอย่าง กรณีศกึ ษาบริษทั BM Car
Rent Service Center จากัด
แนวทางในการพัฒนาระบบของบริษทั
 ระบบเดิมไม่สำมำรถตอบสนองควำมต้องกำรของผูใ้ ช้ได้ ทำ
ให้ไม่พึงพอใจต่อกำรดำเนินกำรในปั จจุบนั
 ระบบเดิม มี อ งค์ป ระกอบของเทคโนโลยีที่ไ ม่เ หมำะสมหรือ
ค่อนข้ำงล้ำสมัย
 ระบบเดิมไม่สำมำรถสนับสนุนกำรดำเนินงำนในอนำคต
 ระบบเดิมมีขนั้ ตอนในกำรปฏิบตั ิงำนค่อนข้ำงยุ่งยำก ซำ้ ซ้อน
และไม่เป็ นระบบ
 ระบบเดิมมีก ำรด ำเนิ นกำรที่ผิด พลำดเรื่อ งรำยงำนมีควำม 9
น่ำเชือ่ ถือตำ่
การเขียนแผนภูมิกา้ งปลาบริษทั BM
เอกสำรและรำยงำน
ไม่มีประสิทธิภำพ
เอกสำรรำยงำนไม่สำมำรถ
ตอบสนองกำรใช้งำนได้จริง
กำรทำงำนไม่เป็ น
ระบบ
มีขนั้ ตอนยุง่ ยำกและซำ้ ซ้อน
ระบบงำนไม่สนับสนุนกำรดำเนินงำนในอนำคต
นำเสนอรำยงำนค่อนข้ำงช้ำ
เทคโนโลยีลำ้ สมัย
รำยงำนมีขอ้ ผิดพลำดบ่อย
ระบบศูนย์บริกำรรถ
เช่ำมีประสิทธิภำพตำ่
ใช้เวลำในกำรดำเนินงำนยำวนำน
ค้นหำข้อมูลล่ำช้ำ
ขำดกำรประสำนงำนทีด่ ใี นระบบ
กำรบริกำรไม่ดี
10
การศึกษาความเป็ นไปได้
(Feasibility Study)
ความเป็ นไปได้แบ่งเป็ น 3 ประเด็น
 ควำมเป็ นไปได้ทำงด้ำนเทคนิค
 ควำมเป็ นไปได้ดำ้ นเศรษฐศำสตร์
 ควำมเป็ นไปได้ ด้ำนกำรปฏิบตั ิ
11
การศึกษาความเป็ นไปได้
(Feasibility Study)
ความเป็ นไปได้ทางด้านเทคนิค
 กำรจัดหำอุปกรณ์ใหม่เพื่อพัฒนำระบบ
 อุ ป กรณ์ท่ี จ ดั หำมำเพื่ อ พัฒ นำระบบใหม่ ท่ีส ำมำรถรองรับ
เทคโนโลยีในอนำคตได้
 ควำมเข้ำกันได้ของอุปกรณ์ฮำร์ดแวร์กบั ซอฟต์แวร์
 ประสิทธิภำพของอุปกรณ์ฮำร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
 ระบบสำมำรถรองรับกำรขยำยตัวทำงธุรกิจในอนำคต
12
การศึกษาความเป็ นไปได้
(Feasibility Study)
ความเป็ นไปได้ทางด้านเศรษฐศาสตร์
 ต้นทุนกำรพัฒนำระบบ
 ต้นทุนกำรปฏิบตั งิ ำน
 ผลตอบแทนทีส่ ำมำรถประเมินค่ำได้
 ผลตอบแทนทีไ่ ม่สำมำรถประเมินค่ำได้
13
การศึกษาความเป็ นไปได้
(Feasibility Study)
ผลตอบแทน
ยอดขำยเพิ่มขึ้น
กำรบริกำรแก่ลูกค้ำมีทศิ ทำงทีด่ ขี ้ ึน
ลดต้นทุนด้ำนกำรจัดกำรคลังสินค้ำ
รวมยอดผลตอบแทนทัง้ สิ้น
จานวนเงิน
500,000
70,000
68,000
638,000
14
การศึกษาความเป็ นไปได้
(Feasibility Study)
ต้นทุนการพัฒนา
เซิรฟ์ เวอร์ 2 เครือ่ ง@ 125,000
เครือ่ งพิมพ์
ลิขสิทธ์ซอฟต์แวร์แอปพลิเคชัน่
เซิรฟ์ เวอร์ซอฟต์แวร์
ค่ำทีมงำนพัฒนำระบบ
รวมต้นทุนด้ำนกำรพัฒนำ
จานวนเงิน
250,000
100,000
34,825
10,945
1,236,525
1,632,295
15
การศึกษาความเป็ นไปได้
(Feasibility Study)
ต้นทุนการปฏิบตั ิงาน
ฮำร์ดแวร์
ซอฟต์แวร์
เงินเดือนผูป้ ฏิบตั งิ ำน
รวมต้นทุนด้านการปฏิบตั ิงาน
จานวนเงิน
54,000
20,000
111,788
185,788
16
การศึกษาความเป็ นไปได้
(Feasibility Study)
ความเป็ นไปได้ทางด้านการปฏิบตั ิงาน
 ผูใ้ ช้งำนต้องเข้ำใจถึงควำมจำเป็ นต่อกำรปรับเปลีย่ นระบบใหม่
 ต้องจัดเตรียมอะไรบ้ำง กับกำรฝึ กอบรมใช้งำนระบบใหม่ กบั
พนักงำน
 ระบบใหม่ทพี่ ฒ
ั นำขึ้นส่งผลต่อกำรลดจำนวนพนักงำนหรือไม่
 ขัน้ ตอนกำปฏิบตั งิ ำนมีกำรเปลี่ยนแปลงไปจำกเดิมหรือไม่
 ผลกระทบจะส่งผลต่อลูกค้ำทีเ่ ข้ำมำใช้บริกำร
 ระยะเวลำในกำรพัฒนำระบบทีย่ ำวนำน
17
การศึกษาความเป็ นไปได้
(Feasibility Study)
ความเป็ นไปได้ทางด้านการปฏิบตั ิงาน
หรืออำจจะพิจำรณำเพิ่มคือ
 ด้ำนกำรผลิต
 ด้ำนควำมแตกต่ำง
 ด้ำนกำรจัดกำร
18
การวางแผนและการควบคุมกิจกรรม
(Activity Planning and
Control)
การวางแผน (Planning) คือกำรกำหนดกิจกรรมและกำร
มอบหมำยงำน เพื่อให้งำนสำเร็จลุลว่ ง โดยมีระยะเวลำเป็ นตัวกำหนด
กำรกำหนดเวลำโครงกำร สำมำรถจัดทำขึ้นด้ำยกำรใช้เทคนิค แกนต์ชำร์ต
แกนต์ชำร์ต (Gantt Charts) คือ เทคนิคในกำรวำงแผนโครงกำร
อย่ำงหนึ่งซึง่ เป็ นอธิบำยกำรทำงำนของโครงกำร ซึง่ มีกำรกำหนดระยะเวลำของ
กำรทำงำนในแผนภูมิ ซึง่ ทำให้เข้ำใจได้ง่ำย
19
การใช้แกนต์ชาร์ตในการวางแผนโครงการ
Activity
ดำเนินกำรสัมภำษณ์
จัดทำแบบสอบถำม
อ่ำนรำยงำนของบริษทั
วิเครำะห์กำรไหลของข้อมูล
จัดทำโปรโตไทบ์
สังเกตกำรณ์ดำ้ นผลกระทบ
กำหนดต้นทุนและผลตอบแทน
จัดทำข้อเสนอของโครงกำร
นำข้อเสนอยืน่ ผูบ้ ริหำรเพื่ออนุมตั ิ
20
week
การบริหารโครงการ(Project
Management)
โครงกำร คือ กิจกรรมใด ๆ ทีม่ ีคณ
ุ สมบัตดิ งั ต่อไปนี้
 มีวตั ถุประสงค์ทช่ี ดั เจน
 มีกำหนดเวลำเริม่ ต้นและสิ้นสุด
 กำรดำเนินงำนจะอยูภ่ ำยใต้ขอ้ จำกัดของ
 งบประมำณ
 กำหนดเวลำของงำนต่ำงๆ
 คุณภำพของงำนตำมกำหนด
ดังนัน้ จะเห็นได้วำ่ โครงกำรใด ๆ จะมีลกั ษณะเป็ น “ชัว่ ครำว” หรือ
เกิดขึ้นในช่วงเวลำหนึ่งเท่ำนัน้ อำจเป็ นวัน เดือน หรือปี แล้วแต่ควำม
ซับซ้อนของโครงกำร
21
การบริหารโครงการ(Project
Management)
กำรบริหำรโครงกำร คือ
กำรจัดกำร กำรใช้ทรัพยำกรต่ำง ๆ ทีม่ ีอยูอ่ ย่ำงเหมำะสมและสมบูรณ์
ทีส่ ุด เพื่อให้กำรดำเนินโครงกำรบรรลุวตั ถุประสงค์ทตี่ งั้ ไว้
ทรัพยำกร หมำยถึง บุคลำกร รวมถึงควำมเชีย่ วชำญและ
ควำมสำมำรถทีม่ ีอยู่ ควำมร่วมมือของทีมงำน เครือ่ งมือ เครือ่ งใช้ และสิง่
อำนวยควำมสะดวกต่ำงๆ ตลอดจนข้อมูล ระบบงำน เทคนิค เงินทุนและเวลำ
22
การบริหารโครงการ(Project
Management)
คุณภำพ (Scope)
ต้นทุน (Cost)
เวลำ (Schedule)
โครงกำรต้องดำเนินไปตำมวัตถุประสงค์โดยได้ตำมเป้ ำหมำยทัง้ 3
ด้ำน คือต้นทุน เวลำ และคุณภำพ
23
การบริหารโครงการ(Project
Management)
สำเหตุทท่ี ำให้โครงกำรซอฟต์แวร์ประสบควำมล้มเหลว มีดงั ต่อไปนี้
 ขำดกำรศึกษำควำมเป็ นไปได้ทดี่ พี อ
 ข้อกำหนดหรือควำมต้องกำรทีร่ วบรวมไม่ชดั เจนหรือไม่สมบูรณ์
 ขำดกำรประสำนงำนทีด่ รี ะหว่ำงผูใ้ ช้กบั นักวิเครำะห์ระบบ เช่น ขำดควำม
ร่วมมือ กำรไม่เข้ำใจในรำยละเอียดของระบบงำนเดิม
 ขำดกำรควบคุมทีด่ ี เช่น ไม่มีกำรกำหนดหน้ำทีก่ ำรทำงำน ขัน้ ตอนกำร
ทำงำนทีช่ ดั เจน
 ซอฟต์แวร์มีควำมซับซ้อนมำกขึ้น และควำมต้องกำรก็เปลี่ยนแปลงบ่อย
ในขณะกำลังพัฒนำ ถ้ำไม่มีมำตรกำรในกำรรองรับกำรเปลี่ยนแปลงจะส่งผล 24
ต่อระบบ
การบริหารโครงการ(Project
Management)
สำเหตุทท่ี ำให้โครงกำรซอฟต์แวร์ประสบควำมล้มเหลว มีดงั ต่อไปนี้
 ผูใ้ ช้ไม่ยอมรับในระบบ เนื่องจำกระบบไม่สำมำรถปฏิบตั งิ ำนได้ตรงตำม
ควำมต้องกำรใช้งำนอย่ำงแท้จริง
 ระบบทำงำนผิดพลำดบ่อยครัง้ ทำให้ไม่น่ำเชือ่ ถือ
 ประสบกำรณ์ของนักวิเครำะห์ระบบมีนอ้ ย
 ผูบ้ ริหำรกำหนดนโยบำยไม่ชดั เจนทีน่ ำมำซึง่ กำรใช้งำนของระบบ
25
แผนภูมิแกนต์ (GANTT CHART)
แผนภูมแิ กนต์ (Gantt Chart) เป็ นแผนภูมิชนิดหนึ่งทีม่ ี
กำรใช้งำนมำช้ำนำน เป็ นเครือ่ งมือทีใ่ ช้ในกำรวำงแผนและกำหนดเวลำในกำร
ทำงำนของโครงกำร ใช้งำนง่ำยไม่ซบั ซ้อน ไม่แสดงควำมสัมพันธ์ระหว่ำงงำนให้
ชัดเจน และไม่สำมำรถบอกได้วำ่ กำรปฏิบตั งิ ำนทีล่ ำ้ ข้ำมีผลต่อโครงกำร
สรุป
ถ้ำเป็ นโครงกำรขนำดใหญ่ทม่ี ีระบบงำนทีก่ ระจำยเป็ นระบบย่อย ๆ
และมีจำนวนมำก มีขนั้ ตอนกำรดำเนินงำนทีซ่ บั ซ้อน จึงมักนำเทคนิคของเพิรต์
(PERT) และซีพีเอ็ม (CPM)มำประยุกต์กำรใช้งำนมำกกว่ำ
26
ตัวอย่างตารางการดาเนินการของเพิรต์ (PERT)และ ซีพเี อ็ม (CPM)
งาน
งานที่ตอ้ งทาเสร็จก่อน
เวลา(สัปดาห์)
A
-
3
B
-
5
C
B
3
D
AC
4
E
D
8
F
C
2
G
F
4
H
F
2
I
B
5
27
J
EGH
3
แผนภูมิแบบแกนต์ (GANTT)
A
B
C
D
E
F
G
H
I
J
งำนที่
ดำเนินกำร
เสร็จแล้ว
งำนทีย่ งั ไม่ได้
ดำเนินกำร
เวลำ(สัปดำห์)
5
10 13 15
20
23 25
28
PERT&CPM
กำรบริหำรโครงกำรด้วยกำรวำงแผน ควบคุมโดยใช้เทคนิ ค เพิรต์
PERT (Program Evaluation and Review
Technique
) และซีพีเอ็ม CPM ( Critical Path
Method) เป็ นกำรวิเครำะห์ข่ำยงำนทีม่ กั นำมำใช้ในกำรบริหำรโครงกำร ที่
มีจุดเริ่มต้นของโครงกำร จนกระทัง้ ปิ ดโครงกำร มีส่วนงำนย่อยต่ำงๆ ที่มีกำร
กระจำยโดยมีควำมสัมพันธ์ซง่ึ กันและกัน
29
PERT&CPM
 หลักกำรของเพิรต์ PERT และซีพีเอ็ม CPM จะมีพ้ ืนฐำนที่
คล้ำยคลึงกัน
 เพิรต์ PERT จะเน้นด้านเวลาในการดาเนินโครงการ
 ซีพีเอ็ม CPM จะเน้นด้ำนค่ำใช้จำ่ ยของโครงกำร
 ปั จจุบนั ได้มีกำรนำมำใช้งำนร่วมกัน โดยใช้คำว่ำ เพิรต์ PERT เพียง
คาเดียว อาจหมายถึงการนาเทคนิคของ CPM มำใช้รว่ มด้วย
30
PERT&CPM
 หลักกำรของเพิรต์ PERT และซีพีเอ็ม CPM จะมีพ้ ืนฐำนที่
คล้ำยคลึงกัน
 เพิรต์ PERT จะเน้นด้านเวลาในการดาเนินโครงการ
 ซีพีเอ็ม CPM จะเน้นด้ำนค่ำใช้จำ่ ยของโครงกำร
 ปั จจุบนั ได้มีกำรนำมำใช้งำนร่วมกัน โดยใช้คำว่ำ เพิรต์ PERT เพียง
คาเดียว อาจหมายถึงการนาเทคนิคของ CPM มำใช้รว่ มด้วย
31
PERT&CPM
PERT
 เน้นเวลำในกำรดำเนินโครงกำร
CPM
 เน้นด้ำนค่ำใช้จำ่ ยในกำรดำเนินโครงกำร
32
PERT&CPM
PERT เป็ นแผนงำนทีส่ ำมำรถแสดงภำพรวม ของโครงกำรด้วย
ข่ำยงำน (Network) โดยแสดงกิจกรรมต่ำง ๆ ในโครงกำร ลำดับกำร
ทำงำน และควำมสัมพันธ์ระหว่ำงกิจกรรมต่ำง ๆ โดยมีวตั ถุประสงค์ดงั นี้
1) วำงแผนโครงกำร ( Project Planning ) โดยจะทำกำร
คำนวณระยะเวลำกำรทำงำน และแสดงถึงกิจกรรมแต่ละกิจกรรม ว่ำควร
เริม่ เมื่อใด เสร็จเมื่อใด และสำมำรถกำหนดได้วำ่ กิจกรรมใดเป็ นกิจกรรม
สำคัญ ทำงำนล่ำช้ำไม่ได้ หรือล่ำช้ำได้ไม่เกินเท่ำใด
33
PERT&CPM
2) ควบคุมโครงกำร ( Project Control ) สำมำรถควบคุมกำร
ทำงำนตำมแผนทีไ่ ด้วำงไว้ และควบคุมกำรทำงำนไม่ให้ลำ่ ช้ำกว่ำกำหนด
3) บริหำรทรัพยำกร ( Resoures ) สำมำรถใช้ทรัพยำกรต่ำง ๆ เช่น
เงินทุน บุคลำกร เครือ่ งมือ อุปกรณ์ และอืน่ ๆ ได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ
และประโยชน์เต็มที่
4) บริหำรโครงกำร ( Project Management ) งำนที่
ดำเนินกำรอยูอ่ ำจจำเป็ นต้องเร่ง เพื่อแล้วเสร็จกว่ำกำหนด ก็สำมำรถทำได้
ด้วยกำรเร่งกิจกรรมใดบ้ำง เพื่อให้งำนแล้วเสร็จในระยะเวลำทีเ่ ร็วขึ้น
34
สัญลักษณ์ต่างๆ ของ PERT
คือจุดเชือ่ ม node ทีแ่ สดงถึงเหตุกำรณ์ตงั้ แต่
เริม่ แรกโครงกำรจนจบโครงกำร
1
3
A
2
เส้นตรงทีเ่ ชือ่ มระหว่ำงโหนด แสดงถึงกิจกรรม
หรืองำนทีท่ ำ หัวลูกศรคือจุดเสร็จสิ้นของกิจกรรม
หรืองำนนัน้
4
เส้นประทีเ่ ชือ่ มระหว่ำงโหนด แสดงถึงกิจกรรมหรือ
งำนสมมุติ () เป็ นกิจกรรมทีไ่ ม่มีตวั ตนในโครงกำร
แต่จำเป็ นต้องใส่ไว้เพื่อให้ถูกต้องกับควำมเป็ นจริง
35
ตัวอย่าง PERT
งำน
A
B
C
D
B
งำนทีต่ อ้ งเสร็จก่อน
A
A
B,C
A
1
3
2
5
C
D
4
6
36
ตัวอย่าง PERT
งำน
B
งำนทีต่ อ้ งเสร็จก่อน A
-
C
D
A
B
E
C,D
A
C
2
4
1
6
B
3
D
E
5
7
37
ตัวอย่าง PERT
ให้นกั ศึกษำเขียนโครงข่ำยงำนตำมตัวอย่ำงด้ำนล่ำงตำรำงที่ 1
งาน งานที่ตอ้ งเสร็จก่อน ระยะเวลา(สัปดาห์)
A
B
C
D
E
F
G
H
A
B
C
D
F
2
1
1
3
3
2
3
2
38
สายงานวิกฤติ (CRITICAL PATHS)
สำยงำนวิกฤต คือ เป็ นสำยงำนทีม่ ีระยะเวลำในกำรทำ
โครงกำรรวมยำวนำนทีส่ ุด
39
การเร่งโครงการ CPM
สำยงำนวิกฤต คือ เป็ นสำยงำนทีม่ ีระยะเวลำในกำรทำ
โครงกำรรวมยำวนำนทีส่ ุด หำกงำนหรือกิจกรรมในสำยงำนวิกฤต
เสร็จล่ำช้ำกว่ำกำหนด หมำยถึง โครงกำรจะดำเนินกำรล่ำช้ำกว่ำ
แผนทีก่ ำหนดไว้ จึงต้องมีกำรควบคุมโครงกำรให้เสร็จตำมกำหนด
ระยะเวลำซึง่ หลีกเลี่ยงกำรเร่งโครงกำร ทำให้ตอ้ งมีกำรสูญเสีย
ค่ำใช้จำ่ ยทีเ่ กิดขึ้นในโครงกำร
40
ตำรำงที่ 2
การเร่งโครงการ CPM
งาน งานที่ตอ้ งเสร็จก่อน
(บาท)
A
B
C
D
E
F
G
H
I
A
A
B
B
C
D,E
F
ระยะเวลา(วัน)
ปกติ เร่ง
7 6
8 6
9
7
11
9
8
5
10
7
13 11
13 12
14 10
ค่าใช้จา่ ยในการเร่งงาน 1 วัน
150
75
200
125
115
100
200
100
125
41
เฉลยตารางที่ 1
งาน งานที่ตอ้ งเสร็จก่อน ระยะเวลา(สัปดาห์)
A
2
B
1
C
1
D
A
3
E
B
3
F
C
2
G
D
3
H
F
2
สายงานที่ 1 1-2-3-7=2+3+3=8
สายงานที่ 2 1-4-7 = 1+3=4
สายงานที่ 3 1-5-6-7 = 1+2+2 =5
A,2
1
B,1
C,1
D,3
5
2
3
4
G,3
E,3
F,2
7
42
6
H,2
เฉลยตารางที่ 1
สำยงำนวิกฤต (Critical Paths) จะพิจำรณำจำกสำยงำนทีม่ ี
เวลำนำน หรือยำวทีส่ ุด ซึง่ ในทีน่ ้ ีคอื สำยงำน 1-2-3-7 รวมระยะเวลำ
ทัง้ สิ้น 8 วัน นัน้ หมำยถึง กำรดำเนินงำนทุกอย่ำงในแต่ละขัน้ ตอน
จะแล้วเสร็จภำยใน 8 วัน โดยในโครงกำรอำจมีสำยงำนวิกฤต
มำกกว่ำ 1 สำยงำนก็เป็ นได้
43
เฉลยตารางที่ 2
งาน
A
B
C
D
E
F
G
H
I
งานที่ตอ้ งเสร็จก่อน
A
A
B
B
C
D,E
F
ระยะเวลา(วัน)
ปกติ
เร่ง
7
6
8
6
9
7
11
9
8
5
10
7
13
11
13
12
14
10
ค่าใช้จา่ ยในการเร่งงาน 1 วัน (บาท)
150
75
200
125
115
100
200
100
125
44
เฉลยตารางที่ 2
A,7
C,9
2
D,11
1
B,8
3
G,13
4
8 H,13
E,8
5
6
9
I,14
F,10
7
สายงานที่ 1 1-2-3-9=7+9+13=29 สายงานที่ 2 1-2-4-8-9 = 7+11+13=31
สายงานที่ 3 1-5-6-8-9 = 8+8+13=29 สายงานที่ 4 1-5-7-9 = 8+10+14=32
45
สายงาน1-3-7-8 ประกอบด้วยกิจกรรม B,F,I ปรากฏว่ากิจกรรม B มี
ค่าใช้จา่ ยต่อวันตา่ ดังนัน้ จึงทาการเร่งกิจกรรม B เหลือ 6 วัน
A,7
C,9
2
D,11
1
B,6
G,13
4
8 H,12
E,8
5
F,10
สายงานที่ 1 1-2-3-9=7+9+13=29
3
6
9
I,14
7
สายงานที่ 2 1-2-4-8-9 = 7+11+13=30
46
สายงานที่ 3 1-5-6-8-9 = 6+8+13=27 สายงานที่ 4 1-5-7-9 = 6+10+14=30
ผลที่ได้รบั
หลังจำกทีไ่ ด้ทำกำรเร่งกิจกรรม B ก็ยงั ไม่ได้ทำให้โครงกำรเสร็จตำม
กำหนด ดังนัน้ จึงต้องเร่งกิจกรรมอืน่ โดยสำยงำนวิกฤตในทีน่ ้ ีคอื
1-2-5-8 ซึง่ ประกอบด้วยกิจกรรม A D H โดยค่ำใช้จำ่ ยของกิจกรรม
H ตำ่ สุด คือ 100 บำท ดังนัน้ จึงเลือกกิจกรรม H ด้วยกำรเร่งเวลำจำก 13 วัน
เป็ น 12 วัน
47
เร่ งกิจกรรม B และH
A,7
C,9
2
D,11
1
B,6
3
G,13
4
8 H,12
E,8
5
F,8
6
9
I,14
7
สายงานที่ 1 1-2-3-9=7+9+13=29 สายงานที่ 2 1-2-4-8-9 = 7+11+12=30
สายงานที่ 3 1-5-6-8-9 = 6+8+12=26 สายงานที่ 4 1-5-7-9 = 6+10+14=30
48
ผลที่ได้รบั
หลังจำกทีไ่ ด้ทำกำรเร่งกิจกรรม H ก็ยงั ไม่ได้ทำให้โครงกำรเสร็จ
ตำมกำหนด ดังนัน้ จึงต้องเร่งกิจกรรมอื่น โดยสำยงำนวิกฤตในที่น้ ีคือ
1-2-5-8 ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรม A D H และสำยงำน 1-3-7-8ซึ่ง
ประกอบด้วยกิจกรรม B F I โดยเส้นทำงที่หนึ่งกิจกรรม D จะมี
ค่ำใช้จ่ำยตำ่ สุ ดคือ 125 บำท และเร่งได้อีก 2 วัน ส่วนเส้นทำงที่สอง
กิจกรรม F จะมีค่าใช้จ่ายต่าสุ ดคือ 100 บาท เร่ งได้อีก 3 วัน โดยจะ
ทาการเร่ งกิจกรรม Dและ F ลง 2 วัน ซึ่ งกิจกรรม F สามารถเร่ งเร็ ว
ขึ้น 3 วันก็ตาม แต่กไ็ ม่ได้ทาให้โครงการเสร็ จเร็ วขึ้น ซึ่ งหากเร่ ง49
กิจกรรม F เป็ น 3 วัน ก็จะมีผลทาให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
เร่ งกิจกรรม B H D และF
A,7
C,9
2
D,9
1
B,6
3
G,13
4
8 H,12
E,8
5
6
F,8
สายงานที่ 1 1-2-3-9=7+9+13=29
9
I,14
7
สายงานที่ 2 1-2-4-8-9 = 7+9+12=28
สายงานที่ 3 1-5-6-8-9 = 6+8+12=26 สายงานที่ 4 1-5-7-9 = 6+8+14=28
50
ผลที่ได้รบั
หลังจำกทีไ่ ด้ทำกำรเร่งกิจกรรม D และ F ก็ยงั ไม่ได้ทำให้โครงกำรเสร็จ
ตำมกำหนด ดังนัน้ จึงต้องเร่งกิจกรรมอืน่ โดยสำยงำนวิกฤตในทีน่ ้ ีคอื 1-2-4-8
ซึง่ ประกอบด้วยกิจกรรม A C G โดยค่าใช้จ่ายของกิจกรรม A มีต่าสุ ด วันละ
150 บาท ดังนั้นจึงเลือกกิจกรรม A ด้วยการเร่ งเวลา จาก 7 วัน เป็ น 6 วัน
51
เร่งกิจกรรม B H D F และA
C,9
A,6
2
D,9
1
B,6
3
G,13
4
8 H,12
E,8
5
6
F,8
9
I,14
7
สายงานที่ 1 1-2-3-9=6+9+13=28 สายงานที่ 2 1-2-4-8-9 = 6+9+12=27
สายงานที่ 3 1-5-6-8-9 = 6+8+12=26 สายงานที่ 4 1-5-7-9 = 6+8+14=28
52
ผลที่ได้รบั
หลังจำกทีไ่ ด้ทำกำรลดกิจกรรม A B D F และ H จึงทำให้โครงกำรเสร็จ
ภำยใน 28 วัน ตำมแผนทีไ่ ด้กำหนดไว้ โดยจะได้สำยงำนวิกฤตอยู่ 2 สำย และมี
จำนวนวันยำวนำนทีส่ ุดคือ 28 วัน และค่ำใช้จำ่ ยต้องเพิ่มจำกกำรเร่งงำน ดัง
ตำรำง
53
รายละเอียดค่าใช้จา่ ยที่เพิม่ ขึ้นจากการเร่งโครงการเป็ น 28 วัน
กิจกรรมทีเ่ ร่ง
จำนวนวัน
ค่ำใช่จำ่ ยต่อวัน
รวม(บำท)
A
1
150
150
B
2
75
150
D
2
125
250
F
2
100
200
H
1
100
100
รวมค่าใช้จา่ ยที่เพิม่ ขึ้นจากการเร่งโครงการ
850
54