ดร. สุจต ิ รา ธนานันท์ กฎหมายทีเ่ กีย ่ วข้อง ั พระราชบ ัญญ ัติประก ันสงคม พ.ศ.2533, 2537, 2542 ั (สาน ักงานประก ันสงคม) กาหนดให ้มีการจัดเก็บเงินสมทบจากนายจ ้าง ลูกจ ้าง และรัฐบาล เพือ ่ ให ้ความคุ ้มครองแก่ลก ู.

Download Report

Transcript ดร. สุจต ิ รา ธนานันท์ กฎหมายทีเ่ กีย ่ วข้อง ั พระราชบ ัญญ ัติประก ันสงคม พ.ศ.2533, 2537, 2542 ั (สาน ักงานประก ันสงคม) กาหนดให ้มีการจัดเก็บเงินสมทบจากนายจ ้าง ลูกจ ้าง และรัฐบาล เพือ ่ ให ้ความคุ ้มครองแก่ลก ู.

ดร. สุจต
ิ รา
ธนานันท์
1
กฎหมายทีเ่ กีย
่ วข้อง
ั
พระราชบ ัญญ ัติประก ันสงคม
พ.ศ.2533, 2537, 2542
ั
(สาน ักงานประก ันสงคม)
กาหนดให ้มีการจัดเก็บเงินสมทบจากนายจ ้าง ลูกจ ้าง
และรัฐบาล
เพือ
่ ให ้ความคุ ้มครองแก่ลก
ู จ ้างทีป
่ ระสบ
อันตราย เจ็บป่ วย ทุพพลภาพ หรือตายทีม
่ ใิ ชเ่ ป็นผล
ื เนือ
สบ
่ งจากการทางาน
รวมทัง้ กรณีคลอดบุตร
กรณี
สงเคราะห์บต
ุ ร กรณีชราภาพ และกรณีวา่ งงาน โดยอัตรา
เงินสมทบกรณีประสบอันตราย เจ็บป่ วย ทุพพลภาพ ตาย
และคลอดบุตร ให ้จัดเก็บในอัตรารวม 3 ฝ่ ายไม่เกินร ้อยละ
4.5 (เพิม
่ เป็ นร ้อยละ 5 ตัง้ แต่ปี 2547) ของค่าจ ้าง
2
สาหรับกรณีสงเคราะห์บต
ุ รและกรณีชราภาพ ให ้
จัดเก็บในอัตรารวม 3 ฝ่ ายไม่เกินร ้อยละ 9 ของค่าจ ้าง
และกรณีวา่ งงาน
ให ้จัดเก็บในอัตรารวม 3 ฝ่ ายไม่เกิน
ร ้อยละ 15 ของค่าจ ้าง
ทัง้ นีล
้ ก
ู จ ้างทีเ่ ข ้าข่ายจะได ้รับ
บริการทางการแพทย์และเงินทดแทนการขาดรายได ้
รวมถึงค่าคลอดบุตร ค่าทาศพ เงินสงเคราะห์ทายาท
ในกรณีตาย ค่าสงเคราะห์บต
ุ ร และเงินบาเหน็ จบานาญ
กรณีชราภาพ สาหรับกรณีวา่ งงาน จะดาเนินการเมือ่ ใดให ้
ตราเป็ นพระราชกฤษฎีกาขึน
้ ใชบั้ งคับ
3
พระราชบ ัญญ ัติเงินทดแทน พ.ศ.2537
ั
(สาน ักงานประก ันสงคม)
กาหนดให ้มีการจัดเก็บเงินสมทบจากนายจ ้างปี ละ
หนึง่ ครัง้ ในอัตราร ้อยละ 0.2-1.0 ของค่าจ ้าง ตาม
ี่ งภัยของประเภทกิจการนัน
ลักษณะความเสย
้ ๆเงินสมทบที่
จัดเก็บได ้นีใ้ ห ้นาไปจ่ายเป็ นเงินทดแทนให ้แก่ลก
ู จ ้างที่
ี อวัยวะ สูญเสย
ี
ประสบอันตรายหรือเจ็บป่ วย สูญเสย
สมรรถภาพของร่างกายตายหรือสูญหายอ ันเนือ
่ งมาจาก
การทางานให้ก ับนายจ้าง โดยลูกจ ้างจะได ้รับเงิน
ทดแทนเป็ นค่ารักษาพยาบาล ค่าทดแทนการขาดรายได ้
ค่าทาศพ หรือค่าฟื้ นฟูสมรรถภาพในการทางาน ซงึ่
ขึน
้ อยูก
่ บ
ั ระดับของการประสบอันตรายนัน
้ ๆ
4
พระราชบ ัญญ ัติคม
ุ ้ ครองแรงงาน พ.ศ.2541
(กรมสว ัสดิการและคุม
้ ครองแรงงาน)
ิ ธิและ
กฎหมายคุ ้มครองแรงงานเป็ นเรือ
่ งทีเ่ กีย
่ วกับสท
หน ้าทีร่ ะหว่างนายจ ้างและลูกจ ้าง
เป็ นกฎหมายทีก
่ าหนด
้
้
มาตรฐานขัน
้ ตา่ ในการใชแรงงานทั
ว่ ไป การใชแรงงานหญิ
ง
้
การใชแรงงานเด็
ก ค่าตอบแทนการทางาน สวัสดิการ
ความปลอดภัยในการทางาน ค่าชดเชยการเลิกจ ้าง และ
กองทุนสงเคราะห์ลก
ู จ ้าง
รวมทัง้ การดาเนินการของ
พนักงานเจ ้าหน ้าทีใ่ นการให ้ความคุ ้มครองลูกจ ้าง ทัง้ นีเ้ พือ
่
ให ้เกิดความเป็ นธรรมและให ้ลูกจ ้างมีสข
ุ อนามัยทีด
่ ี อันจะ
เกิดประโยชน์สงู สุดแก่นายจ ้าง ลูกจ ้าง และการพัฒนา
ประเทศ
5
Health :
พน ักงานปราศจากการเจ็บ
ป่วยทงทางร่
ั้
างกายและ
จิตใจ มีสข
ุ ภาพกายและใจ
ทีส
่ มบูรณ์แข็งแรง
Safety :
การป้องก ันพน ักงานจาก
การบาดเจ็บทีเ่ กีย
่ วข้องมา
จากอุบ ัติเหตุจากการ
ทางาน
6
Safety and Health Trends
“ ปัจจุบ ันองค์การใชเ้ งินจานวนมากเพือ
่ สร้าง
สุขภาพและความปลอดภ ัย ”
เหตุผล :
1. ผลผลิตทีด
่ ี
ิ ของบริษ ัท
้ น
2. ลดหนีส
ั ันธ์ระหว่างพน ักงาน
3. ความสมพ
4. การตลาดก่อให้เกิดการแข่งข ัน
5. กาไร
7
่ นประกอบของสภาพการทางาน
สว
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
สถานทีท
่ างาน
การใชเ้ ครือ
่ งจ ักร เครือ
่ งมือ
เครือ
่ งป้องก ันอ ันตรายจากเครือ
่ งจ ักร
เครือ
่ งป้องก ันภ ัย
สภาพแวดล้อมในทีท
่ างาน
ี ง กลิน
ส ี แสง เสย
่
สภาพภายนอกทีท
่ างาน
8
สงิ่ แวดล้อมทีเ่ ป็นภ ัยต่อสุขภาพและความปลอดภ ัย
1. สงิ่ แวดล้อมทางกายภาพ
(Physical Environment)
2. สงิ่ แวดล้อมทางชวี ภาพ
(Biological Environment)
3. สงิ่ แวดล้อมทางเคมี
(Chemical Environment)
ั
4. สงิ่ แวดล้อมทางสงคม
เศรษฐกิจ
(Social and Economic Environment)
9
ปัจจ ัยทีม
่ ผ
ี ลกระทบต่อสุขภาพ
และความปลอดภ ัยในการทางาน
1. ล ักษณะงาน
2. ท ัศนคติของบุคลากร
3. ท ัศนคติของฝ่ายบริหารขององค์การ
4. สภาพทางเศรษฐกิจ
5. สหภาพแรงงาน
6. ร ัฐบาล
10
ว ัตถุประสงค์ของ Safety Program
1. เพือ
่ สร้างสงิ่ แวดล้อมทางจิตวิทยา และ
่ เสริมเรือ
ท ัศนคติทจ
ี่ ะสง
่ งความปลอดภ ัย
2. พ ัฒนาและร ักษาสภาพแวดล้อมของการ
ทางานทางด้านกายภาพทีป
่ ลอดภ ัย
11
เหตุผลทีผ
่ จ
ู ้ ัดการระด ับสูงสน ับสนุน
Safety Program
ี ทางด้านบุคลากร
1. การสูญเสย
ี ทางด้านการเงินแก่พน ักงานที่
2. การสูญเสย
เจ็บป่วย
ี ผลิตผล
3. การสูญเสย
้ ประก ันจะสูงขึน
้
4. ค่าเบีย
ี เงินค่าปร ับและการ
5. องค์การอาจจะต้องเสย
จาคุก
ั
6. ความร ับผิดชอบต่อสงคม
12
สาเหตุความไม่ปลอดภ ัยในการทางาน
1. สภาพการณ์ทไี่ ม่ปลอดภ ัย
(Unsafe Conditions)
- สภาพทางเคมี
- สภาพทางกายภาพ
- สภาพทางกลไก
2. การกระทาของบุคคลทีไ่ ม่ปลอดภ ัย
(Unsafe Personal Acts)
13
การร ักษาความปลอดภ ัยในการทางาน
1. ควบคุมสภาพทีก
่ อ
่ ให้เกิดอ ันตราย
อ ันมีสาเหตุมาจาก
- สภาพการณ์ทไี่ ม่ปลอดภ ัย
- การกระทาทีไ่ ม่ปลอดภ ัยของบุคคล
2. ควบคุมขณะปฏิบ ัติงาน
3. ควบคุมมิให้เกิดอ ันตรายซา้
14
การตรวจสอบและรายงานความปลอดภ ัยในการทางาน...
1. ว ัตถุประสงค์ในการตรวจสอบและรายงาน
1) เพือ
่ แสดงให้เห็นว่าฝ่ายบริหารมีความจริงใจ
และตงใจจริ
ั้
งต่องานด้านร ักษาความปลอดภ ัย
2) เพือ
่ หาข้อมูลและสาเหตุของความไม่ปลอดภ ัย
สาหร ับนามาใชใ้ ห้เป็นประโยชน์ตอ
่ การแก้ไข
และการกาหนดมาตรการป้องก ันมิให้อ ันตราย
้ อีก
เกิดขึน
3) เพือ
่ เปรียบเทียบผลงานด้านการร ักษาความ
ปลอดภ ัยในการทางานก ันแผนงานทางด้านนี้
ทีก
่ าหนดล่วงหน้า
15
การตรวจสอบและรายงานความปลอดภ ัยในการทางาน...
4) เพือ
่ กระตุน
้ ให้พน ักงาน ห ัวหน้างาน ผูร้ ับผิดชอบ
และฝ่ายบริหารสนใจในงานด้านการร ักษาความ
ปลอดภ ัย
5) เพือ
่ ประเมินและยกมาตรฐานของการร ักษาความ
ปลอดภ ัยให้อยูใ่ นระด ับทีต
่ อ
้ งการ
6) เพือ
่ แก้ไขและบ ันทึกพฤติกรรมทีไ่ ม่ปลอดภ ัยของ
ผูบ
้ ังค ับบ ัญชาโดยตรงของหน่วยงานเท่านน
ั้
7) เพือ
่ ว ัดผลงานในด้านการร ักษาความปลอดภ ัย
ของผูบ
้ ังค ับบ ัญชาโดยตรงของหน่วยงานเท่านน
ั้
8) เพือ
่ ตรวจสอบงาน เครือ
่ งจ ักรอุปกรณ์ และว ัสดุ
อยูใ่ นสภาพทีส
่ ร้างความปลอดภ ัยในการทางาน
16
การตรวจสอบและรายงานความปลอดภ ัยในการทางาน(ต่อ)
2. ผูร้ ับผิดชอบในการตรวจสอบและรายงาน
3. ล ักษณะของรายงาน
ห ัวข้อในรายงานควรประกอบด้วย
้ ทางเข้าออก
- ความสะอาดเรียบร้อยของพืน
และการจ ัดเก็บว ัสดุ
- สภาพเครือ
่ งจ ักรอุปกรณ์ตา่ ง ๆ
่ นบุคคลทีใ่ ชใ้ นการทางาน
- เครือ
่ งป้องก ันสว
- เครือ
่ งป้องก ันภ ัยอ ันตราย
- การระบายอากาศ
- แสงสว่าง
- ล ักษณะการปฏิบ ัติงานหรือพฤติกรรมการทางาน
- การประเมินผลการตรวจสอบความปลอดภ ัย
- ข้อเสนอแนะเพือ
่ ป้องก ันหรือแก้ไข
17
การจูงใจบุคคลในการสร้างความปลอดภ ัยในการทางาน...
ี้ จง
1. การจูงใจผูบ
้ ริหารระด ับสูง คือ การชแ
้ า่ ยทีอ
เกีย
่ วก ับค่าใชจ
่ งค์การจะต้องร ับภาระ
้ หากละเลยการสร้างความปลอดภ ัย
เพิม
่ ขึน
้ า่ ยด ังกล่าว ได้แก่
ในการทางาน ค่าใชจ
้ า่ ยทางตรง
1) ค่าใชจ
้ า่ ยทางอ้อม
2) ค่าใชจ
18
การจูงใจบุคคลในการสร้างความปลอดภ ัยในการทางาน...
2. การจูงใจห ัวหน้างาน
ให้สนใจทางด้านการ
ร ักษาความปลอดภ ัยกระทาได้ 2 วิธ ี คือ
1) การเพิม
่ พูนความรู ้
2) ค่าตอบแทน
19
การจูงใจบุคคลในการสร้างความปลอดภ ัยในการทางาน(ต่อ)
3. การจูงใจพน ักงานผูป
้ ฏิบ ัติงาน
การจูงใจ
พน ักงานให้ทางานอย่างปลอดภ ัย คือ
1) การให้การฝึ กอบรม
2) ให้ห ัวหน้างานเป็นผูด
้ าเนินการ
่ เสริมให้มก
3) การสง
ี ารทางานโดย
ปลอดภ ัย
4) ท ัศนคติของกลุม
่ ในด้านความ
ปลอดภ ัย
20
ผูร้ ับผิดชอบทางด้านความปลอดภ ัย
1.
2.
3.
4.
5.
ผูบ
้ ริหาร
ผูอ
้ านวยการด้านความปลอดภ ัย
ห ัวหน้างาน
พน ักงาน
สหภาพแรงงาน
21
โครงการทางด้านสุขภาพกาย...
1. จ ัดให้มก
ี ารตรวจร่างกายก่อนเข้าทางาน
2. จ ัดหาข้อมูลและความรูท
้ างด้านสุขภาพ
สาน ักงาน
3. แนะนาควบคุมและจ ัดให้มก
ี ารร ักษาอนาม ัย
ของพน ักงานอย่างถูกต้องและเหมาะสม
4. ให้คาปรึกษาแนะนาแก่พน ักงานทีม
่ ป
ี ญ
ั หา
ทงสุ
ั้ ขภาพกายและสุขภาพจิต
5. จ ัดให้มก
ี ารบ ันทึกประว ัติพน ักงาน
22
โครงการทางด้านสุขภาพกาย
(ต่อ)
6. จ ัดให้มก
ี ารปฐมพยาบาลอย่างเหมาะสม
ในงาน
7. จ ัดให้มอ
ี ป
ุ กรณ์ร ักษาพยาบาลให้เพียงพอ
8. จ ัดให้มน
ี ายแพทย์และพยาบาลอยูป
่ ระจา
องค์การ
9. ให้ความร่วมมือก ับแพทย์เพือ
่ ประสานงานก ัน
ในการจ ัดระบบป้องก ันอ ันตรายจากการ
ทางาน
10. ให้ความร่วมมือก ับหน่วยงานสาธารณสุข
ของร ัฐ
23
โครงการทางด้านสุขภาพจิต
เหตุผล :
1. ล ักษณะการดาเนินงานในปัจจุบ ันมี
ั อ
้ นมากขึน
้
ความยุง
่ ยากสล ับซบซ
2. ความค ับข้องใจหรือความยุง
่ ยากของ
ผูป
้ ฏิบ ัติงานมีผลต่องานขององค์การ
3. ไม่อาจแยกสุขภาพทางกายออกจาก
สุขภาพจิตได้
24
Stress Management
ทีม
่ าของความเครียด :
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
ครอบคร ัว
ปัญหาทางการเงิน
ั
สภาพแวดล้อมทีอ
่ ยูอ
่ าศย
ว ัฒนธรรมของหมูค
่ ณะ
บทบาททีค
่ ลุมเครือ
บทบาททีข
่ ด
้ แย้งก ัน
ภาระงานทีม
่ ากเกินไป
สภาพแวดล้อมการทางาน
25
Stress Management…
1. General Organization Program
- การวิเคราะห์งาน (Job Analysis)
- การพ ัฒนาทร ัพยากรมนุษย์ (HRD)
ื่ สาร การจูงใจ รูปแบบ
- การมีการสอ
ิ ธิผล
ภาวะผูน
้ าทีม
่ ป
ี ระสท
- การพ ัฒนาองค์การ
ี
- การวางแผนและการพ ัฒนาสายอาชพ
- การประเมินผลงาน
- การจ่ายค่าตอบแทน
26
Stress Management
(ต่อ)
2. Specific Techniques
- การสะกดจิต (Hypnosis)
- การเรียนรูก
้ ารควบคุมการทางานของกาย
และจิต (Biofeedback)
- การทาสมาธิ
(Transcendental meditation)
3. Special Organization Program
- Physical fitness
- Alcohol and Drug Abuse
- Employee Assistance Programs
27
Hyponosis คือ การสะกดจิต เพือ
่ เป็น
การทาให้จต
ิ ใจสงบและให้ผท
ู้ ถ
ี่ ก
ู สะกดจิตบอกเล่าถึง
่ ยใน
เรือ
่ งราวทีอ
่ ยูใ่ นระด ับจิตใต้สานึกออกมา จะชว
เรือ
่ งการผ่อนคลาย ลดความตึงเครียดทีม
่ อ
ี ยูใ่ นใจ
Biofeedback เป็นวิธก
ี ารใชเ้ พือ
่ ควบคุม
กระบวนการทางร่างกายทีไ่ ม่สามารถควบคุมได้
Transcendental meditation
คือ
เทคนิคการลดความเครียดโดยการทาสมาธิ เพือ
่ ให้
พน ักงานหยุดความคิดทีว่ น
ุ่ วาย และเกิดความสบาย
้
ใจขึน
28
Physical Fitness Programs
ต ัวอย่าง
ในอเมริกา บริษ ัททางธุรกิจหลายแห่งมีโปรแกรม
เกีย
่ วก ับการออกกาล ังกาย มีว ัตถุประสงค์เพือ
่ ให้
ี
พน ักงานมีสข
ุ ภาพทีแ
่ ข็งแรง เพือ
่ ลดความสูญเสย
ี ทางด้านผลผลิต
ในการทางานทงจากการสู
ั้
ญเสย
หรือการเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ
29
Alcohol Abuse Programs
Alcolholism คือ การเจ็บป่วยทีม
่ ล
ี ักษณะควบคุม
ตนเองไม่ได้ และต้องดืม
่ สุราอย่างหน ัก ซงึ่ จะเข้า
ไปทาลายชวี ต
ิ ความเป็นอยูข
่ องคน ๆ นน
ั้
ให้ม ี
ล ักษณะผิดแผกออกไป ในปัจจุบ ันถือเป็นปัญหา
ใหญ่ ซงึ่ อาจเกิดจากความเครียดมากเกินไป
การดืม
่ มากเกินไปทาให้ความสามารถในการทางาน
ลดลง
ด ังนน
ั้ Alcohol Abuse Programs จึง
ต้องทางานร่วมก ับ Wellness Programs ทีด
่ ด
ี ว้ ย
30
Drug Abuse Programs จะคล้ายก ับ Alcohol
Abuse Program คือ จะให้ความสนใจแก่พน ักงานทีต
่ ด
ิ
ยาเสพติด บางบริษ ัทจะไม่มก
ี ารจ้างพน ักงานทีต
่ ด
ิ ยาให้
่ พน ักงานทีต
ทางานหรือมีการจ ัดสง
่ ด
ิ ยาไปร ับการบาบ ัด
ี่ วชาญและการสง
่ พน ักงานเพือ
โดยแพทย์หรือผูท
้ เี่ ชย
่ เข้า
Employee Assistance Programs
Employee Assistance Programs (EAP)
้ เพือ
เป็นแนวทางซงึ่ หลายองค์การได้จ ัดทาขึน
่ จ ัดการก ับ
ปัญหาต่าง ๆ ไม่วา
่ จะเป็นปัญหาทางบ้านหรือทีท
่ างาน
ใน EAP จะมีการจ ัดหาผูท
้ ม
ี่ ค
ี วามชานาญเพือ
่ ให้คาปรึกษา
หรือแนะนาการบริการด้านต่าง ๆ ทีเ่ หมาะสมให้แก่พน ักงาน
่ ยเหลือพน ักงานทงใน
ว ัตถุประสงค์ของ EAP คือ การชว
ั้
ด้านสุขภาพและทางด้านจิตใจ
31
แนวคิดการจ ัดการด้านสุขภาพและความปลอดภ ัยของ
มาตรฐานระบบการจ ัดการอาชวี อนาม ัยและความ
ปลอดภ ัย ( มอก. 18001 )
ี ต่อ
• เล็งเห็นการเจ็บป่วยและอุบ ัติเหตุเป็นความสูญเสย
พน ักงาน ครอบคร ัว นายจ้าง และองค์การ
ี ทีเ่ กิดขึน
้ จากอุบ ัติเหตุและโรคภ ัย
• ป้องก ันความสูญเสย
ไข้เจ็บจากการทางาน
• เอาใจใสเ่ รือ
่ งความปลอดภ ัยและอาชวี อนาม ัย
่ ยให้องค์การมีความยงยื
เพราะชว
่ั น
่ ย
• มีความเห็นว่าการคุม
้ ครองด้านแรงงานชว
้
เพิม
่ ผลผลิตได้มากขึน
• เน้นการสร้างจิตสานึกเรือ
่ งความปลอดภ ัยให้
ก ับพน ักงาน
้ า่ ยจากเงินกองทุนทดแทน
• เพือ
่ ประหย ัดค่าใชจ
32
ประโยชน์จากการนามาตรฐาน มอก. 18001 ไปใช ้
• ป้องก ันอุบ ัติภ ัยและเตรียมพร้อมสาหร ับอุบ ัติเหตุ
และภาวะฉุกเฉิน
ี่ งในการเกิดอุบ ัติเหตุ
• ลดอ ัตราอุบ ัติเหตุ ความเสย
้ า่ ย
และประหย ัดค่าใชจ
้ า่ ยด้านการจ ัดการลดลงหากนาระบบการ
• ค่าใชจ
จ ัดการอืน
่ มาใชร้ ว่ มด้วย
• พน ักงานมีสภาพแวดล้อมในการทางานที่
เหมาะสม
• ชุมชนมน
่ ั ใจในความปลอดภ ัยขององค์การ
• เพิม
่ ผลผลิต
33
ขนตอนในการจ
ั้
ัดทามาตรฐาน มอก. 18001
1. ทบทวนสถานะเริม
่ ต้น
2. กาหนดนโยบายอาชวี อนาม ัยและความ
ปลอดภ ัย
3. วางแผน
้ ละการปฏิบ ัติ
4. นาไปใชแ
34