เรื่อง...ความรุนแรงในวัยรุ่ น กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 2 จัดทาโดย นางละเอียด นิตยชาติ โรงเรียนอุดมดรุ ณี สานักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษาสุ โขทัย เขต 1

Download Report

Transcript เรื่อง...ความรุนแรงในวัยรุ่ น กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 2 จัดทาโดย นางละเอียด นิตยชาติ โรงเรียนอุดมดรุ ณี สานักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษาสุ โขทัย เขต 1

เรื่อง...ความรุนแรงในวัยรุ่ น
กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา
ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 2
จัดทาโดย
นางละเอียด นิตยชาติ
โรงเรียนอุดมดรุ ณี
สานักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษาสุ โขทัย เขต 1
ความรุนแรงในวัยรุน่
ปัจจัยและพฤติกรรมเสี่ ยงต่ อสุ ขภาพเกีย่ วกับความรุ นแรงในวัยรุ่น
วัยรุ่ นเป็ นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านร่ างกาย จิตใจ อารมณ์ และ
สังคม เพื่อดารงชีวติ อยูใ่ นสังคมที่บุคคลที่แต่ละคนมีความแตกต่างกันทั้ง
ทางด้านนิสัย ความคิด การดาเนินชีวิต ทาให้อาจมีความเห็นขัดแย้งกัน
ประกอบกับการมีอารมณ์ร้อน ขาดความยับยั้งชัง่ ใจของวัยรุ่ น ก็อาจทาให้มี
การตัดสิ นใจหรื อมีพฤติกรรมใช้ความรุ นแรงได้ อันนามาซึ่ งปัญหาและ
ผลกระทบทั้งต่อตนเองและผูอ้ ื่นตามมาอีกมากมาย ดังนั้นการเรี ยนรู ้ถึงปัจจัย
และพฤติกรรม รวมทั้งปั ญหาและผลกระทบต่าง ๆ จะช่วยให้เราได้ตระหนัก
และหลีกเลี่ยงการใช้ความรุ นแรงที่อาจเกิดขึ้นกับเราได้
ประเภทของความรุนแรง
ความรุ นแรงในวัยรุ่ น มีผลสั่งสมมาจากปั จจัยเสี่ ยงหลายประการโดยไม่
สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าเป็ นปั จจัยใดปั จจัยหนึ่ งโดยเฉพาะ
ความรุ นแรงเป็ นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยความตั้งใจ หรื อข่มขู่ของบุคคลหนึ่ง
โดยใช้กาลังกระทากับผูอ้ ื่น เพื่อทาร้ายร่ างกายให้บาดเจ็บ
ความรุ นแรงแบ่งได้เป็ น 3 ประเภท คือ
1. การทาร้ายร่ างกาย เช่น เตะ ต่อย ทุบ ตี เป็ นต้น
2. การทาร้ายทางเพศ ล่วงเกินทางเพศ เช่น ข่มขืน เป็ นต้น
3. การทาร้ายทางจิตใจ ทางวาจา เช่น การบังคับ ขู่เข็ญ เป็ นต้น
ปั จจัยที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงในวัยรุน่
ปั จจัยเสี่ ยงเป็ นการเพิม่ โอกาสของความเป็ นไปได้ที่วยั รุ่ นจะใช้ความ
รุ นแรงซึ่ งเป็ นการทานายความเกี่ยวข้องกับการใช้ความรุ นแรงในวัยรุ่ น โดย
สามารถอธิ บายถึงปั จจัยเสี่ ยงได้ ดังนี้
1. ปั จจัยเสี่ ยงด้านกายภาพ เช่น เงื่อนไขทางพันธุกรรม การได้รับ
ความกระทบกระเทือนทางสมอง หรื อระบบประสาทจากการบาดเจ็บซึ่ งมีผลต่อ
พัฒนาการตามวัย การทีน้ าหนักต่ากว่าเกณฑ์ หรื อการได้สัมผัสสิ่ งปนเปื้ อนกับ
สารพิษ ทาให้สารพิษเข้าสู่ ร่างกาย เป็ นต้น
2. ปั จจัยด้านจิตใจ เช่น ชอบเสี่ ยง สมาธิ ส้ นั มีความเชื่อและเจตคติ
ต่อต้านสังคม ชอบความรุ นแรง ตื่นเต้นเมื่อละเมิดกฎข้อบังคับไม่ชอบเรี ยน
หนังสื อ หรื อไปโรงเรี ยน เป็ นต้น
3. ปั จจัยด้านสถานการณ์ เช่น พ่อแม่ถกู จับเพราะกระทาความผิด
ทะเลาะกันในครอบครัว ใช้อารมณ์ดุด่าทาร้ายลูก ครอบครัวแตกแยก การหย่า
ร้าง หรื อแยกกันอยูข่ องพ่อแม่เป็ นต้น
4. ปั จจัยด้านสิ่ งแวดล้อม เช่น ครอบครัวมีฐานะยากจนจึงมีบา้ นอยูใ่ น
สิ่ งแวดล้อมที่ใช้ความรุ นแรง มีเพื่อนเป็ นอันธพาล ชอบทะเลาะวิวาท ใช้กาลังใน
การตัดสิ นปัญหาความขัดแย้ง
5. ปั จจัยด้านอิทธิ พลของสื่ อ เช่น ชอบเล่นเกมคอมพิวเตอร์ ดูรายการ
โทรทัศน์ที่มีเนื้อหาสาระส่ งเสริ มความรุ นแรง เป็ นต้น
6. ปั จจัยด้านประสบการณ์ชีวิตของวัยรุ่ น เช่น ถูกทาร้ายหรื อถูกทอดทิ้งมา
ตั้งแต่เด็ก มีประสบการณ์เป็ นพยานรู ้เห็นเหตุการณ์ปล้นจี้ การทาร้ายหรื อ
ฆาตกรรม มีการเสพสารเสพติด หรื อดื่มเครื่ องดื่มแอลกอฮอล์
7. ปั จจัยด้านความสัมพันธ์ระหว่าง พ่อ แม่ และลูก เช่น พ่อแม่เลี้ยงลูก
แบบเข้มงวด ควบคุมบังคับลูกมากเกินไป ขาดความรัก ความเอื้ออาทร ไม่มี
ความอบอุ่นในครอบครัว เป็ นต้น
พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพของวัยรุน่ เกี่ยวกับ
การใช้ความรุนแรง
พฤติกรรมเสี่ ยงต่อสุ ขภาพของวัยรุ่ นเกี่ยวกับการใช้ความรุ นแรง สามารถ
ทานายการเกิดกรรมความรุ นแรงของวัยรุ่ นได้ ดังนี้
1. ขโมยสิ่ งของหรื อเงินทองของเพื่อน หรื อพ่อแม่ ผูป้ กครองเป็ น
ประจา แม้ถกู จับได้และได้รับการลงโทษก็ไม่หยุดกระทาพฤติกรรมลักเล็กขโมย
น้อย ซึ่ งทาให้มีผลกระทบต่อสุ ขภาพจิต และความมัน่ คงในชีวติ ของวัยรุ่ น
2. ต่อต้านสังคม เป็ นการแสดงออกของเจตคติ และความเชื่อของการ
ต่อต้านสังคมรวมถึงความไม่ซื่อสัตย์ต่อตนเองและสังคม ในกรณี พฤติกรรม
ต่อต้านสังคมนี้อาจไม่ได้ทาให้เกิดพฤติกรรมความรุ นแรงโดยตรง หรื ออาจเป็ น
พฤติกรรมเสี่ ยงที่มีต่อสุ ขภาพทางสังคมและชุมชนที่อาศัยอยู่
3. ก้าวร้าวโดยแสดงพฤติกรรมข่มขู่เพื่อน รุ่ นน้อง ใช้คาพูดข่มขู่ การ
พูดจาไม่แสดงสัมมาคารวะต่อพ่อ แม่ อาจารย์ หรื อผูท้ ี่อาวุโสมากกว่าตน ซึ่ งผู้
ถูกข่มขู่เกิดความวิตกกังวล มีความหวาดกลัว หรื อได้รับบาดเจ็บจากการถูกทา
ร้าย
การทาร้ ายร่ างกายผู้อื่นเป็ นเรื่ องทีท่ าไม่ ได้ และ
ไม่ ใช่ วิธีแก้ ปัญหาทีถ่ ูกต้ อง
ปั ญหาความรุนแรงในวัยรุน่
1. การก่ออาชญากรรมโดยใช้ความรุ นแรง เช่น ปล้นจี้ ทาร้ายร่ างกายแล้ว
ชิงทรัพย์ หรื อข่มขืนกระทาชาเรา เป็ นความรุ นแรงที่ทาให้ถกู จับดาเนินคดีอาญา
ส่ งผลเสี ยต่อตนเองทั้งด้านร่ างกาย จิตใจ รวมถึงบุคคลรอบข้างด้วย
2. การใช้อาวุธ เช่น ปื น มีด เป็ นต้น ทาร้ายผูอ้ ื่นให้ได้รับบาดเจ็บ หรื อ
เสี ยชีวติ มีผลทั้งต่อตนเองและผูอ้ ื่น
การป้ องกันไม่ ให้ เกิดการทะเลาะวิวาท ตบตีกนั ต้ องมี
การสื่อสารทีด่ ี และใช้ สติในการแก้ ปัญหา
ผลกระทบจากความรุนแรงในวัยรุน่
1. ผลกระทบระยะสั้ น ความรุ นแรงในวัยรุ่ นจะก่อให้เกิดผลกระทบระยะสั้น
คือ ขาดความพร้อมในการเรี ยนหนังสื อ การเรี ยนตกต่า เรี ยนไม่ทนั เพื่อน มีความ
เสี่ ยงต้องหยุดเรี ยนกลางคัน มีเจตคติต่อต้านสังคม มีความก้าวร้าวและวิตกกังวล
ได้รับการปฏิเสธจากการเข้ากลุ่มเพื่อน ทาให้ตอ้ งเข้ากลุ่มเพื่อนที่มีปัญหา ไม่สามารถ
ควบคุมอารมณ์และพฤติกรรมความรุ นแรงได้
2. ผลกระทบระยะยาว ความรุ นแรงในวัยรุ่ นจะก่อให้เกิดผลกระทบระยะยาว
คือ การทาผิดกฎหมาย มีประหวัดที่มวั หมอง มีคดีติดตัว มีปัญหาเรื่ องความ
ประพฤติระเบียบวินยั กับโรงเรี ยน ถูกพักการเรี ยน หรื อถูกไล่ออก เกิดความ
ซึมเศร้ารุ นแรง เสพสารเสพติดและเครื่ องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ใช้ความรุ นแรงแก่เพื่อน
เป็ นภาระต่อสังคม
ปั ญหาความรุ นแรงในวัยรุ่ น เกิดจากปั จจัยหลายประการ รวมทั้ง
พฤติกรรมต่าง ๆ ที่เกิดจากตัววัยรุ่ นเอง อันจะก่อให้เกิดปั ญหาต่อการใช้ชีวิต
และอยูร่ ่ วมกันในสังคมของวัยรุ่ น ซึ่ งส่ งผลกระทบทั้งต่อตนเองและผูอ้ ื่น ทาให้
สู ญเสี ยทั้งทรัพย์สินเงินทอง มีการบาดเจ็บ หรื อเสี ยชีวติ และยังส่ งผลกระทบ
ยาวถึงอนาคตของตนเองอีกด้วย
ดังนั้น เพื่อเป็ นการหลีกเลี่ยงหรื อลดปั ญหาความรุ นแรง วัยรุ่ นควรรู้จกั
ปรับตัว คิดไตร่ ตรองถึงสิ่ งที่จะทาให้รอบคอบ รู ้จกั ยับยั้งชัง่ ใจ อันจะส่ งผลให้
สามารถดาเนินชีวิตอยูใ่ นสังคมได้อย่างมีความสุ ข
การใช้ รุนแรงมีผลกระทบมากมาย ทาให้ เสียอนาคต
หรืออาจร้ าแรงถึงเสียชีวิตได้
แบบทดสอบหลังเรียน
1. ความรุ นแรงในวัยรุ่ นข้อใดที่รุนแรงที่สุด
ก. การชกต่อย
ข. การข่มขู่ผอู ้ ื่น
ค. การยกพวกตีกนั
ง. การถูกด่าว่า
2. ความรุ นแรงทั้งทางร่ างกายและจิตใจมักเกิดขึ้นกับใคร
ก. เด็ก
ข. สตรี
ค. เด็กและสตรี
ง. เกิดขึ้นได้กบั ทุกเพศทุกวัย
3. การต่อว่าหยาบคาย จัดเป็ นการใช้ความรุ นแรงหรื อไม่ เพราะอะไร
ก. เป็ น เพราะเป็ นการทาร้ายทางจิตใจ
ข. เป็ น เพราะอาจก่อการทะเลาะวิวาทได้
ค. ไม่เป็ น เพราะยังไม่ได้มีการทาร้ายร่ างกาย
ง. ไม่เป็ น เพราะยังไม่นบั ว่ารุ นแรงเนื่องจากเพียงแค่ต่อว่าเท่านั้น
4. ปั ญหาความรุ นแรงในวัยรุ่ นข้อใดเกิดขึ้นบ่อยที่สุด
ก. ชกต่อย ตบตีกนั
ข. ยกพวกตีกนั
ค. ดักรอบทาร้ายกัน
ง. ใช้อาวุธทาร้ายร่ างกาย
5. ที่จะแก้ไขปั ญหาความรุ นแรงในวัยรุ่ นได้ดีที่สุดคือบุคคลใด
ก. เพื่อน
ข. ตารวจ
ค. ตัวของวัยรุ่ นเอง
ง. พ่อ แม่ หรื อผูป้ กครอง
6. ปั ญหาการทะเลาะวิวาทของนักศึกษาระหว่างสถาบันเกิดจาก
สาเหตุใด
ก. เลียนแบบดารา
ข. ข่มขู่รีดไถเงิน
ค. ติดยาแล้วอยากแสดงออก
ง. ความแค้นระหว่าสถาบันแล้วยกพวกตีกนั
7. ข้อใดเป็ นเหตุการณ์ล่วงละเมิดทางเพศที่มีสาเหตุจากการแต่งกาย
ไม่เหมาะสม
ก. ใส่ เสื้ อสายเดี่ยว ถูกชิงทรัพย์
ข. ใส่ เสื้ อรัดรู ป ถูกหลอกให้ดื่มสุ รา
ค. ใส่ กางเกงเอวต่า ถูกชักชวนไปเที่ยว
ง. ใส่ กระโปรงสั้น ถูกฉุ ดเพื่อพาไปข่มขืน
8. หลังเลิกเรี ยนเพื่อนของนักเรี ยนทะเลาะวิวาท และถกเกียงกับ
นักเรี ยนโรงเรี ยนใกล้เคียงนักเรี ยนควรทาอย่างไรเป็ นอันดับแรก
ก. ช่วยเพื่อนเถียงเพราะเห็นว่าเพื่อนไม่ผิด
ข. ไปตามเพื่อนมามาก ๆ เพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามกลัว
ค. ห้ามปราบเพื่อนอย่ามีเรื่ องเด็ดขาด
ง. รี บไปแจ้งตารวจที่อยูใ่ กล้เคียง
9. ในโรงเรี ยนถ้ามีนกั เรี ยนรุ่ นพี่ของนักเรี ยนมาขู่กรรโชกต้องการเงินจาก
นักเรี ยนถ้าไม่ให้จะทาร้ายร่ างกายนักเรี ยนควรแก้ปัญหาอย่างไร
ก. ขอย้ายโรงเรี ยนเพื่อหลีกหนี
ข. ให้เงินรุ่ นพี่แล้วขอร้องว่าอย่ามาขู่อีก
ค. ให้เงินรุ่ นพี่ไปก่อนแล้วแจ้งให้ผปู ้ กครองทราบ
ง. ขอผลัดรุ่ นพี่พรุ่ งนี้จะเอาเงินมาให้และรี บไปแจ้งให้ครู ทราบ
10. การแก้ปัญหาการขัดแย้งและการทะเลาะวิวาทในกลุ่มเพื่อน
ควรทาอย่างไรจึงจะดีที่สุด
ก. เพื่อนต้องช่วยห้ามปรามก่อนจะมีเรื่ อง
ข. ครู ตอ้ งสอดส่ องดูแลให้ทวั่ ถึงอย่าให้เกิดการทะเลาวิวาท
ค. ตัวของผูม้ ีเรื่ องต้องอดทน รู ้จกั ข่มใจ อย่าใช้กาลังในการตัดสิ นปัญหา
ง. ผูป้ กครองจะต้องอบรมสั่งสอนอยูเ่ สมอ ถ้าไม่เชื่อควรมีการลงโทษ
ตามสมควร
เฉลย
แบบทดสอบ
หลังเรียน
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
ค
ค
ก
ก
ค
ง
ง
ค
ง
ค