เอกสารการประชุม (3.95 MB.)

Download Report

Transcript เอกสารการประชุม (3.95 MB.)

การประชุมปฏิบตั ิ การ..พัฒนากลไกการดาเนินงานอาเภอควบคุมโรค
เข้มแข็งแบบยังยื
่ น
วันที ่ ๑๑-๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๖
ณ โรงแรมปัญจดารา อ.เมือง จ.นครราชสีมา
๓๐ วินาที
• แนะนำตัวเองและบอกถึงบทบำทงำนที่ได้ ทำอยู่ใน
ปั จจุบนั
facebook
1. ใครเอ่ย ?ที่ชอบ
ซื้อหวย/
ลอตเตอรี่ ..
คุณ .. กำลังมองหำ , คิดอะไรอยู่
2. ใครเอ่ย ?.ที่เคยแอบ
ชอบแฟนเพือ่ น
4. แลกเปลีย่ น .. สิ่ งทีค่ าดหวังจาก
เวทีในครั้งนี้
3. ใครเอ่ย ? ที่เชื่อมั่น
ในรักแท้ ..
5. แลกเปลีย่ น..ความคาดหวังต่ อการ
ดาเนินงานอาเภอควบคุมโรคเข้ มแข็ง
4.
•
•
•
•
•
•
•
•
•
แลกเปลี่ยน .. สิ่งที่คาดหวังจากเวทีในครัง้ นี้
แลกเปลี่ยนประสบการณ์
ได้เครือข่ายเพิ่ม
พัฒนางานที่เราทาอยู่
ได้วิธีการเพิ่มเติม รูปแบบ กลยุทธ์การทางาน
ระบบที่ดีขึน้ ในชุมชน
อาเภอเครือข่ายแก้ปัญหาโรคได้
อสม งานเยอะ อยากได้ขวัญกาลังใจ
อยากพัฒนาอาเภอตัวเองให้ติดหนึ่ งในห้า
ได้รปู แบบพัฒนาระบบ และการพัฒนาเครือข่ายที่เข้มแข็ง
4
5. แลกเปลี่ยน..ความคาดหวังต่อการดาเนินงานอาเภอควบคุมโรคเข้มแข็ง
• ให้ขวัญกาลังใจ ???? .ปรับปรุง..เกณฑ์ วิธีการ...ประเมิน ขยายการ
ประเมินไปที่ตาบล อยากเห็นการประเมินเชิงคุณภาพ...
• ผลักดันอยู่ในตัวชี้วดั ???
• เกิดประสิทธิภาพ ชุมชนต้องทาได้ ภาคีมีส่วนร่วมดาเนินงาน
• อย่าลืม...มองให้เห็นภาพรวม เศรษฐกิจ สังคม
• เป้ าหมาย....ปชช สุขภาพดี ที่อายุยืน
• ความยังยื
่ น...อยู่ที่ไหน
• คนรับผิดชอบเปลี่ยน...
• ต้องทารอบด้าน.. เพิ่มความรู้
• กระบวนการทางานทีมจังหวัด....กระบวนการพี่เลี้ยง(Coaching) 5
มองภูเขานี้
เปรียบเทียบกับ
เรื่องสุ ขภาพ
ท่ านนึกถึง
อะไร ??
มองภูเขานี้
เปรียบเทียบกับ
เรื่องสุ ขภาพ
ท่ านนึกถึง
อะไร ??
โจทย์.. ๑.ความรูส้ ึกต่อปัญหาสุขภาพในอดีต ปัจจุบนั อนาคต
๒.ความห่วงกังวล อึดอัด ไม่ได้ดงั ใจ ในการดูแลสุขภาพ
ในบทบาทของ.....
๓.ความคาดหวัง/เป้ าหมายที่ต้องการในการดูแลสุขภาพ
ประชาชน
โจทย์.. ๑.ความรูส้ ึกต่อปัญหาสุขภาพในอดีต ปัจจุบนั อนาคต
อดีต โรคระบาด ติดเชื้อ คนอายุยืน โรคมีไม่มาก
ปัจจุบนั โรคไร้เชื้อ คนไม่ใส่ใจ เกิดจากพฤติกรรม NCD สุขภาพจิต คมนาคมดี
ขึน้ กินดีไม่มีคณ
ุ ภาพ มลภาวะ เป็ นภูมิแพ้
อนาคต เป็ นโรคเกี่ยวกับวิถีชีวิต มลพิษ อุบตั ิ ใหม่
โจทย์.. ๒.ความห่วงกังวล อึดอัด ไม่ได้ดงั ใจ ในการดูแลสุขภาพ ในบทบาทของ.....
สคร ทาได้เพียงต้นแบบ
สสจ ขาด ต่อเนื่ อง นโยบายปรับเปลี่ยน
สสอ รพช รพ สต ยังไม่เป็ นรูปแบบ เข้าชุมชนไม่ต่อเนื่ อง
ท้องถิ่น คนละบริบท ทางานที่หลากหลาย
เกษตรกร ไม่ตระหนักถึงคนอื่น คมนาคม เกิดอุบตั ิ เหตุ
ปชช ให้การดูแลตนเองน้ อย
สุขภาพ ถูกมองว่าเป็ นเรื่องสาสุข
นโยบาย สังการ
่
ตัวชี้วดั
อสม งานเยอะ
Coach ดีกด็ ี มีต่างด้าว ??? มีโรคที่ไม่เคยเกิด
ขาดผูเ้ ชี่ยวชาญด้านการแพทย์
การเมือง ส่งผลสุขภาพจิต
งบประมาณ การศึกษา เด็กรุ่นใหม่ น่ าจะศึกษาเรื่องสุขภาพ
โจทย์.. ๓.ความคาดหวัง/เป้ าหมายที่ต้องการในการดูแลสุขภาพประชาชน
ปชช ตระหนัก ดูแลตนเองได้ มองว่าเป็ นปัญหาตัวเองได้
มีเครือข่าย ดูแลสุขภาพในพืน้ ที่
เข้าถึงบริการมาตรฐาน ปชช อายุยืน
ภาวะเสี่ ยงต่ อการเกิดโรคหัวใจ
•
•
•
•
•
•
•
•
•
พันธุกรรม
เบาหวาน
สูบบุหรี่
ความดันโลหิตสูง
ขาดการออกกาลังกาย
3 ไม่ พอ
โรคซึมเศร้ า
ไฮโปรไทยรอยด์
โรคอ้ วน
ความเครี ยด
ระดับไขมันในเลือดสูง
โฮโมซีสเตอีนในเลือดสูง
การขาดความศัทธาต่ อศาสนา
กินผักผลไม้ ไม่ เพียงพอ
ระดับกรดไขมันโอเมก้ า
ปัจจัยเสี่ ยงที่ทาให้ เกิดโรคมะเร็ง
•
•
•
•
•
•
•
•
•
พันธุกรรม
ขาดการออกกาลังกาย
โรคอ้ วน
ความเครียด
กินอาหารไขมันสูง
กินผักและผลไม้ ไม่ เพียงพอ
กินเค็ม
มลพิษ
อาหารรมควัน ปิ ้ งย่ าง
แสงแดด
ติดเชือ้
ขาดวิตามินดี
ซีอาร์ พีสูง
ดือ้ อินสุลิน เบาหวานชนิดที่ 2
Recap.......ทบทวนวันวาน
ประเด็นสาคัญที่ได้เรียนรู้
สิ่งที่จะนากลับไปประยุกต์ใช้
14
ประเด็นที่เรี ยนรู้
• งาน สุขภาพ ไม่ ใช่ งานสาธารณสุข
•การให้ ความรู้ผ้ ูนาชุมชน รู้จริง
•พัฒนาภาคีเครือข่ าย ความสัมพันธ์
ขยายวง มองหาแกนนา แล้ วเชื่อม
• ต้ องมองสขภาพ ไม่ โรคติดต่ อ
•เรียนรู้กลยุทธ์ การทางาน
• ประเด็นโรค เปลี่ยนแปลง ต้ องอาศัย
หลายภาคส่ วน
• ภูเขานา้ แข็ง ต้ องมองในสิ่งที่มองไม่
เห็น จะมองเห็นภาคีร่วม เห็นข้ อมูล
• ได้ แรงจูงใจการทางาน “บัสพลังชีวิต”
สิ่งที่จะนากลับไปปรับใช้
• การประสานงาน
• การจัดระบบข้ อมูล
• การวิเคราะห์ ปัญหากับภาคี ไม่
มีโอกาสเห็นภาระงานร่ วมกัน
• จะใช้ กลไกอาเภอควบคุมโรค
15
ประเด็นที่เรียนรู้
• ต้ องมีการสนับสนุนที่ต่อเนื่อง
• ต้ องมีการจัดการข้ อมูลเป็ นศูนย์ กลาง
• การให้ ประชาชนคิดเอง ทีมงานต้ อง
เข้ มแข็ง มีศักยภาพ ในการทางานกับ
ชุมชน ต้ องเพิ่มทักษะให้ ทมี การคิด
คุย วิเคราะห์ แยกแยะ
• การมีเครือข่ ายทุกส่ วน ให้ มีความ
เป็ นเจ้ าของ
สิ่งที่จะนากลับไปปรับใช้
• ให้ การสนับสนุนที่มีคุณภาพ
• มีศูนย์ กลางข้ อมูลที่ได้ เรียนรู้ได้
พร้ อมๆกัน
• การสื่อสารแต่ ละภาคี ใช้
ช่ องทาง ภาษา เดียวกัน
16
สถานการณ์ และสภาพปัญหา
้ ร ัง
สถานการณ์การตายด้วยโรคไม่ตด
ิ ต่อเรือ
้ ร ังทีส
กราฟแสดงอ ัตราตายต่อประชากร 100,000 คน ด้วยโรคไม่ตด
ิ ต่อเรือ
่ าค ัญ ได้แก่ โรคความด ัน
้ ร ัง
โลหิตสูงโรคห ัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง และโรคปอดอุดกนเรื
ั้ อ
ปี พ.ศ.2546 – 2555
120
100
80
60
40
20
0
2546
2547
2548
ความดันโลหิ ตสูง
2549
หัวใจขาดเลือด
2550
2551
หลอดเลือดสมอง
2552
เบาหวาน
2553
มะเร็ง
2554
COPD
ทีม
่ า: สาน ักนโยบายและยุทธศาสตร์ สาน ักงานปล ัดกระทรวงสาธารณสุข
2555
้ ร ัง
สถานการณ์การป่วยด้วยโรคไม่ตด
ิ ต่อเรือ
้ ร ังทีส
แผนภาพ แสดงอ ัตราผูป
้ ่ วยในต่อประชากรแสนคน ด้วยโรคไม่ตด
ิ ต่อเรือ
่ าค ัญ ตามกลุม
่
สาเหตุป่วย (75 โรค) จากสถานบริการสาธารณสุขของกระทรวงสาธารณสุข
ปี พ.ศ. 2546 – 2555 ทงประเทศ
ั้
ยกเว้นกทม.
2000
HT
1500
IHD
1000
Stroke
500
DM
0
2546 2547 2548 2549 2550 2551 2552 2553 2554 2555
ทีม
่ า : สำนักนโยบำยและยุทธศำสตร์ สป.
วิเคราะห์โดย กลุม
่ ยุทธศำสตร์และแผนงำน สำนักโรคไม่ตด
ิ ต่อ กรมควบคุมโรค
คนไทยมีภาระโรค
1.มะเร็ง
2. ห ัวใจและหลอดเลือด
การใช้ชีวิตประจาวันก็มีภาวะที่เสี่ยง... ????
ประเทศไทยมีเนื้ อที่ทาการเกษตรมากเป็ นอันดับที่ 48
ของโลกแต่ใช้ยาฆ่าแมลงมากเป็ นอันดับ 5 ของโลก
ใช้ยาฆ่าหญ้าเป็ นอันดับ 4 ของโลก
การใช้ชีวิตประจาวันก็มีภาวะที่เสี่ยง... ????
ใช้สารเคมีพิษอันตราย 4 ชนิด ได้แก่ คาร์โบฟูราน เมโทมิล
ไดโครโตฟอส และอีพีเอ็น ที่หลายประเทศทัวโลกห้
่
ามใช้แต่ยงั มี
การใช้ในประเทศไทย สารเคมีพิษกลุ่มนี้ ใช้กบั พืช ผัก ผลไม้
หลายชนิดที่เราบริโภคในชีวิตประจาวัน
มองให้ลึก.....ถึงสุขภาวะของประชาชน
ความเจ็บป่วย
22
มองให้ลึก.....ถึงสุขภาวะของประชาชน
ความเจ็บป่วย
Teenage Pregnancy
เอดส์
วัณโรค
DHF
เบาหวาน ความดัน
มะเร็ ง
23
มองให้ลึก.....ถึงสุขภาวะของประชาชน
Teenage Pregnancy
อุบตั ิเหตุ
ความเจ็บป่วย
DHF
เอดส์ วัณโรค
กลุมเสี
่ ่ ยงไมแสดงอาการ
่
ใช้สารเคมี
การกิน
เพศสั มพันธที
ย
์ ไ่ มปลอดภั
่
เบาหวาน ความดัน
มะเร็ ง
ติดเชื้อไม่แสดงอาการ
มีพฤติกรรมเสี่ยง ปัจเจก
ไมรู่ ้
ชิน
ไมตระหนั
ก
่
นิสัย
24
มองให้ลึก.....ถึงสุขภาวะของประชาชน
ความเจ็บป่วย
Teenage Pregnancy
เอดส์
วัณโรค
DHF
ติดเชื้อไม่แสดงอาการ
กลุมเสี
่ ่ ยงไมแสดง
่
อาการ
ใช้สารเคมี
การ
กิน
เพศสั มพันธที
ย
่
์ ไ่ มปลอดภั
สังคม /เทคโนโลยี
เบาหวาน ความดัน
มะเร็ ง
มีพฤติกรรมเสี่ยง ปัจเจก
ไมรู่ ้
ชิน
เศรษฐกิจ
ไมตระหนั
ก
่
นิสัย
สิ่งแวดล้อม
25
มองให้ลึก.....ถึงสุขภาวะของประชาชน
ความเจ็บป่วย
Teenage Pregnancy
เอดส์
วัณโรค
DHF
ติดเชื้อไม่แสดงอาการ
กลุมเสี
่ ่ ยงไมแสดง
่
อาการ
ใช้สารเคมี
การ
กิน
เพศสั มพันธที
ย
่
์ ไ่ มปลอดภั
สังคม /เทคโนโลยี
เบาหวาน ความดัน
มะเร็ ง
มีพฤติกรรมเสี่ยง ปัจเจก
ไมรู่ ้
ชิน
ไมตระหนั
ก
่
เศรษฐกิจ
นิสัย
สิ่งแวดล้อม
อีกมากมายที่ต้อง ให้ผเู้ กี่ยวข้องร่วมวิเคราะห์ ให้ลึก และ โดนใจ
มีแรงบันดาลใจ ร่วมกันแก้ไข
26
GAP ของการดาเนินงานด้ านสุขภาพในปั จจุบัน
ความเจ็บป่ วย
ติดเชือ้ ไม่ แสดงอาการแสดงอาการ
กลุ่มเสี่ยง ไม่ แสดงอาการ
มีพฤติกรรมเสีย่ ง
สังคม
เศรษฐกิจ
สิ่งแวดล้ อม
หลักการและโครงสร้างของพฤติกรรม
ความรู้
(ทาอะไร ทาเพื่ออะไร)
ทักษะ
(ทาอย่ างไร)
อุปนิสัย ความปรารถนา
(อยากทา)
28
นิยาม
“อาเภอควบคุมโรคเข้มแข็งแบบยังยื
่ น”
หมายถึง
อาเภอที่มีระบบและกลไกการบริหารจัดการ
การเฝ้ าระวัง ป้ องกัน ควบคุมโรคและภัยสุขภาพของพืน้ ที่
อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ทันสถานการณ์
29
29
องค์ประกอบสาค ัญ บ่งช ้ี
“อาเภอควบคุมโรคเข้มแข็งแบบยง่ ั ยืน”
1. มีคณะกรรมการฯ :
่ นทีส
่ นร่วม
ภาคสว
่ าค ัญมีสว
่ อปท. สาธารณสุข อสม.
เชน
5. มีผลสาเร็ จของการ
ควบคุม ป้องก ันโรคและ
ภ ัยสุขภาพ : แก้ไข
้ ทีท
ปัญหาพืน
่ ันการณ์
4. มีการระดมทุน
SRRT
ตาบล
2. มีระบบระบาด
วิทยาทีด
่ ี : ข้อมูล
ท ันสถานการณ์
3. มีการวางแผนฯ :
แนวทางแก้ไข
้ ที่
ตามปัญหาพืน
ทีม
่ ำ: คูม
่ อ
ื ประเมินอำเภอควบคุมโรคเข ้มแข็งแบบยั่งยืน ปี 2556 (ดำวน์โหลดจำก www.kmddc.go.th)
ทาไมจึงเป็ นอาเภอควบคุมโรคเข้ มแข็งฯ...ไม่ เป็ นจังหวัด หรือตาบล
•อาเภอมีอสิ รภาพ มีศักยภาพ มีงบประมาณ มีความเข้ มแข็ง เป็ นจุดเชื่อมโยง
การทางานสู่ท้องถิ่น ชุมชน
•การกระจายอานาจทาให้ ท้องถิ่นมีบทบาทในการดูแลสุขภาพประชาชนมากขึน้
•โรงพยาบาลชุมชนและสานักงานสาธารณสุขอาเภอ มีบทบาทสนับสนุนซึ่งกันและ
กัน ถ้ าเชื่อมโยงกันได้ เข้ มแข็งจะส่ งผลต่ อกลไกการทางานระดับอาเภอ
•มีผ้ ูเกี่ยวข้ องในการดูแลสุขภาพมากขึน้ คปสอ.อาจไม่ เพียงพอต่ อการจัดการ
ปั ญหา
•บทบาทหลักของโรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลส่ งเสริมสุขภาพตาบล คือการ
ส่ งเริมสุขภาพและป้องกันโรค
“อาจมีคาถามมากมาย ทาไมต้ องเปลี่ยนแปลง
มีคาตอบเพื่อบอกว่ า เปลี่ยนแปลงเพื่อสิง่ ที่ดีขน้ึ ”
“ ไม่มค
ี วำมสำเร็จใด ทีค
่ ด
ิ เหมือนเดิม ทำ
เหมือนเดิม แล ้วจะดีกว่ำเดิม”
บทบำทของเรำเปลีย
่ นจำกผู ้เชยี่ วชำญเป็ น
ั เจน
ผู ้จัดกำรเห็นบทบำทของแต่ละสว่ นชด
ปั ญหาเกิดจาก การทางานแบบเดิมๆ ระบบการศึกษา
ระบบบริการสุขภาพ ระบบข้ อมูล
เราให้ โอกาสชาวบ้ านได้ มีส่วนร่ วมมากน้ อยแค่ ไหน
กรอบแนวคิด .. กลไกการดาเนิ นงานอาเภอควบคุมโรคเข้ มแข็งอย่างยัง่ ยืน
1
ภำคี/เครือข่ำย
 เป็ นเจ ้ำของร่วม
 มีเป้ ำหมำยร่วม
 ร่วมดำเนินกำร
 ร่วมงบประมำณ
 ร่วมติดตำมประเมินผล
3
้
มีกระบวนกำรทำแผนทีม
่ ค
ี ณ
ุ ภำพ โดยใชกลยุ
ทธ์ใน
กำรสง่ เสริมสุขภำพ ตรงกับสภำพปั ญหำทีแ
่ ท ้จริง
่ ก ้ปั ญหำตำมนโยบำย มีแผน
ของประชำชนไม่ใชแ
แก ้ไขปั ญหำทีแ
่ ท ้จริงของประชำชน แก ้ทีร่ ำกของ
ปั ญหำ โดยชุมชนเอง
P D
A C
ผล
1.อะไรที่ต้องทาเพิ่มขึน้
2 อะไรที่ต้องทาน้ อยลง
K
4 ระดมทุน
- อปท ท ้องถิน
่
- กองทุนตำบล
-NGOฯลฯ
- ทุนประชำชน
2
ข้อมูล
ระบบข ้อมูล
• ระบบข ้อมูลครบถ ้วนถูกต ้องทันเวลำ รอบ
ด ้ำน ทัง้ เชงิ ปริมำณและเชงิ คุณภำพ
• วิเครำะห์ สงั เครำะห์ คืนข ้อมูลนำไปสู่
กำรทำแผนทีม
่ ค
ี ณ
ุ ภำพ แก ้ทีร่ ำกของปั ญหำ
สิ่งที่ทาเพิ่มขึน้
•
•
•
•
•
•
•
•
•
พัฒนาภาคี ศักยภาพ เปลี่ยนแนวคิด ให้เขาเป็ นเจ้าภาพ
การประสานงานครอบคลุม ต่อเนื่ อง ทาให้จริง ยาวนาน
คืนข้อมูล มีศนู ย์ IT ที่ CUP ครอบคลุมทุกประเด็น
แต่ละตาบลให้ทราบ
ชวนภาคีเขาออกแบบแก้ไข ปัญหา
เขียนแผน เงินจะมาเอง
เราต้องมีทกั ษะ ในการทางานสร้างภาคี มีความรู้รอบด้าน
รู้จกั เรียนรู้ ถ่ายทอด
ระดมทุนจากภาคเอกชน กฐิน ผ้าป่ า เป็ นเจ้าของงบเจ้าของโร
คงการ
พูดคุยกับภาคีที่บอ่ ยขึน้
34
สิ่งที่ทาเพิ่มขึน้
•
•
•
มีคาสังทุ
่ กภาคส่วนในปี ที่ผา่ นมา มีนายอาเภอเป็ นประธาน
ปรับบทบาทให้ภาคีมีส่วนร่วมมากขึน้ เช่นเป็ นเจ้าภาพสถานที่ประชุม
35
•เราทาบทบาทของเราเต็มทีห่ รือยัง
•เราทาอย่ างไร...
แกนนา
อาเภอ
ภาคี
อาเภอ
กลไกตาบล
ชุมชน/
อสม
ชุมชน/
อสม
กลไกตาบล
ภาคี
จังหวัด
โรงเรียน
ชุมชน/
อสม
หล ักการและแนวคิด
้ ทีค
พืน
่ วบคุมโรคเข้มแข็งและยง่ ั ยืน
ประเทศควบคุมโรค
เข้มแข็ง
ความร่วมมือ
จากภาคี
ระบบงาน
ระบาดวิทยา
คุณล ักษณะทีส
่ ะท้อน
ความเข้มแข็งและยงยื
่ั น
มีแผน&ผลงาน
ควบคุมโรคที่
เป็นปัญหา
การระดม
ทร ัพยากรมา
ดาเนินการ
บทบาทกรมควบคุมโรค
ี้ ั ญหำ
ประสำน สนั บสนุน กระตุ ้น ชป
สร ้ำงแรงจูงใจ แลกเปลีย
่ นเรียนรู ้
จ ังหว ัดควบคุมโรค
เข้มแข็ง
อาเภอควบคุมโรค
เข้มแข็ง
ตาบลควบคุมโรค
เข้มแข็ง
ลดโรคและ
ภ ัยสุขภาพ
รายงานการสารวจขององค์การอาหารและเกษตรแห่ง
ใช้ยาฆ่าหญ้าเป็ นอันดับ 4 ของโลก รวมถึงการสุ่มตรวจผักในท้องตลาด
ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เมื่อกลางปี 2553
ที่พบสารเคมีตกค้างในผัก และสารเคมีพิษอันตรายที่ทวโลกห้
ั่
ามใช้
นับเป็ นเรื่องที่ไม่น่ายินดีนัก สารเคมีเหล่านี้ ไม่เพียงแต่เกษตรกรเ
ท่านัน้ ที่จะได้รบั อันตราย ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
เมื่อมีการใช้อย่างเข้มข้น และในปริมาณมาก จะปนเปื้ อนอยู่ในดิน น้า
และสะสมอยู่ในสัตว์เล็ก สัตว์ใหญ่ ในห่วงโซ่อาหาร
ที่สดุ สะสมอยู่ในคนเมื่อคนกินอาหารนัน้ ๆ แต่จะส่งผลต่อร่างกาย
อย่างไรนัน้ ขึน้ อยู่กบั ชนิด และปริมาณของสารเคมีพิษเหล่านัน้
ซึ่งการเกิดอาการจะขึน้ อยู่กบั ฤทธ์ ิ ความรุนแรงของสารเคมีด้วย
39
พีรามิดประชากร ไทยปี 2533
หญิง
ชาย
70 ขึน้ ไป
60 - 64 ปี
่ งอายุ
ชว
50 - 54 ปี
40 - 44 ปี
30 - 34 ปี
20 - 24 ปี
10-14 ปี
0 - 4 ปี
-8
-6
-4
-2
0
ร้อยละ
2
4
6
8
พีรามิดประชากรไทย ปี 2553
หญิง
ชาย
70 ปี ขนึ้ ไป
60 - 64 ปี
่ งอายุ
ชว
50 - 54 ปี
40 - 44 ปี
30 - 34 ปี
20 - 24 ปี
10-14 ปี
0 - 4 ปี
-5
-4
-3
-2
-1
0
ร้อ ยละ
1
2
3
4
5
พีรามิดประชากรญีป่ ุ่ น ปี 2573
หญิง
ชาย
ึ้ ไป
70 ปี ขน
60 - 64 ปี
่ งอายุ
ชว
50 - 54 ปี
40 - 44 ปี
30 - 34 ปี
20 - 24 ปี
10-14 ปี
0 - 4 ปี
-10
-8
-6
-4
-2
0
ร้อ ยละ
2
4
6
8
10
สาระสาคัญ การเปลี่ยนแปลงกระทรวงสาธารณสุข
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
• การปรับกลไกและโครงสร้าง ต้องทาควบคู่กบ
ั การปรับทัศนะ
และวิธีการทางานของบุคลากร
• บุคลากรของ สธ.จาเป็ นต้องคิดเชิงระบบ บริหารเชิงยุทธศาสตร์
สร้างเครือข่ายเพื่อการทางานเชิงรุก
• การปรับเปลี่ยนวิธีคิดจาเป็ นต้องมีกระบวนการเรียนรู้และมีระบบสนับสนุนที่ดี
43
วิเคราะห์/สังเคราะห์ GAP อาเภอควบคุมโรคเข้มแข็ง ปี 56
1. คณะทางาน/ภาคี
แกนนาต้องเข้าใจเป้ าหมายของการสร้างภาคี เห็นบทบาทของตัวเองและภาคี
ต้องสร้างโอกาสให้ภาคีมีส่วนร่วม / มีทกั ษะในการสร้างภาคี
บทบาท จังหวัด...ต้องเป็ นพี่เลี้ยงให้อาเภอ.???
อาเภอ...ต้องการพี่เลี้ยงในการพัฒนาแนวคิด / ทักษะอย่างต่อเนื่ อง
แนวคิดในการส่งเสริมสุขภาพ ทักษะการสร้างภาคี การสร้างการมีส่วนร่วมการ
วิเคราะห์และคืนข้อมูล การเป็ นพี่เลี้ยงและพัฒนาช่วยตาบล
ตาบล...ต้องสร้างโอกาสให้ภาคีมีส่วนร่วม
44
วิเคราะห์/สังเคราะห์ GAP อาเภอควบคุมโรคเข้มแข็ง ปี 56
2. การจัดการข้อมูล มุมมองเรื่องข้อมูลยังอยู่ในวงจากัด ข้อมูลเชิงคุณภาพ ข้อมูล
จากภาคี การวิเคราะห์ การคืนข้อมูล ยังน้ อย ????
ข้อมูล = Inspiration
3.กระบวนการวางแผน แผนการแก้ปัญหาตาม KPI ไม่ได้แก้ปัญหาที่ราก (บุคคล
สังคมสิ่งแวดล้อม ระบบบริการ) ไม่ได้แก้ปัญหาเชิงระบบ ยุทธศาสตร์ ขาดการ
เชื่อมโยง ต่างคนต่างทา(คิดว่าทาเต็มที่แล้ว) แก้ปัญหาแบบเดิม /ทาตามกันมา/
ทาเป็ น Pattern/Package เช่น การคัดกรอง รณรงค์ อบรม ประกวด ขาดหลัก
คิดกลยุทธ์การส่งเสริมสุขภาพ
45
วิเคราะห์/สังเคราะห์ GAP อาเภอควบคุมโรคเข้มแข็ง ปี 56
4.การระดมทุน กองทุนสุขภาพตาบลส่วนใหญ่เจ้าหน้ าที่
สาธารณสุขเป็ นคนทาแผน ยังไม่แก้เชิงระบบ ภาคีอื่นๆยัง
ไม่ได้รบั การพัฒนาแนวคิด/ยังไม่เข้าถึง การทาประชาคม ยัง
เป็ น โจทย์ การคัดเลือกปัญหา ยังเป็ นโจทย์
46
เสริมสร้างแนวคิดและทักษะ
๑.การจัดการ/การสร้างภาคีเครือข่าย
๒. การจัดการข้อมูล
๓. การดาเนินงานแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ
47
The Energy Bus รถบัสพลังชีวิต
The Energy Bus (รถบัส พลังชีวิต)
By Jon Gordon
กฎทอง ๑๐ ประการ
ที่จะเติมพลังให้กบั ชีวิต การงาน และสร้างทีมให้เวิรก์
ด้วยพลังแห่งความคิดเชิงบวก
49
ความคิดเชิงบวก หมายถึง การมีทศั นคติที่ดี ความเชื่อมัน่
ความตระตือรือร้น มีความรัก ความทุ่มเท อยู่แบบมีแรงบันดาลใจ
การมีชีวิตอย่างมีเป้ าหมาย การมีจิตวิญญาณ
การทางานและก้าวสู่ระดับที่สงู ขึน้ การพยายามผลักดันทีมงาน
การแชร์พลังเชิงบวกให้กบั ทีมงาน
50
กฎทองข้อที่ ๑ คุณคือคนขับรถบัสของตัวเอง
ตัวเอง
ครอบครัว
องค์กร
51
กฎทองข้อที่ ๒ มีเป้ าหมายและกาหนดทิศทางที่จะไปให้ชดั เจน
52
กฎทองข้อที่ ๓ เติมพลังสู่เป้ าหมายด้วยการคิดบวก
53
กฎทองข้อที่ ๔ เชิญคนอื่นขึน้ รถบัสของคุณและให้พวกเขา
รูเ้ ป้ าหมายที่จะไป
54
กฎทองข้อที่ ๕ อย่าเสียพลังไปกับคนที่ไม่ยอมขึน้ รถบัสของคุณ
55
กฎทองข้อที่ ๖ ติดป้ ายบอกว่ารถคันนี้ ไม่ต้อนรับคนคิดลบ
56
กฎทองข้อที่ ๗ ความกระตือรือร้นดึงดูดผูโ้ ดยสารมากขึน้
และช่วยกระตุ้นพวกเขาได้ระหว่างทาง
57
กฎทองข้อที่ ๘ รักผูโ้ ดสารทุกคน
58
กฎทองข้อที่ ๙ ขับอย่างมีจดุ หมาย
59
กฎทองข้อที่ ๑๐ มีความสุขและสนุกไปกับการเดินทาง
60
ผลลัพธ์
ศักยภาพมนุษย์
กรอบความคิด
ความรู้สึก นึก คิด
รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส (อายตนะ ทัง้ 5)
ทบทวน...วันวาน
• สิ่งสาคัญ/ประเด็นสาคัญ ที่ได้ เรียนรู้
• เรียนรู้การจัดกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วน
ร่ วมอย่ างไร..
• จะกลับไปใช้ ต่อ
62
ทบทวน...วันวาน
สิ่ งสาคัญ/ประเด็นสาคัญ จะกลับไปใช้ ต่อ
• ได้ ค้นพบปั ญหา การวิเคราะห์ เรามองที่ KPI เพื่อหาปั ญหา แล้ ววิเคราะห์ ตาม
ปั ญหา
• เรี ยนรู้ กระบวนการมีส่วนร่ วม..ได้ แสดงความคิดเห็น แต่ ละหน่ วยงานจะมีแนวทาง
ที่แตกต่ างกัน
• ใช้ ต่อ...แต่ ละหน่ วยมีบทบาทที่ต่างกันแตกต่ างกัน นาไปสู่เป้าหมายเดียวกัน
• เราถูกกาหนด..ตามกรอบตัวชีว้ ัด แต่ ปัญหาแต่ ละที่ไม่ เหมือนกัน
• คนมามีส่วนร่ วมวิเคราะห์ ต้ องมีความรู้ ความเข้ าใจ..
• ทักษะการสื่อสาร...คนไม่ เหมือนกัน..อาจจะต้ องการกระตุ้น..
• ข้ อมูลยังมีความสาคัญ...
• คน...มีคุณลักษณะส่ วนตัว..ฐานคิดไม่ เหมือนกัน
ทบทวน...วันวาน
สิ่ งสาคัญ/ประเด็นสาคัญ จะกลับไปใช้ ต่อ
• อะไรที่ดีอยู่แล้ ว..ต่ อยอดต่ อไป
• ปั ญหาอุปสรรค ถ้ าไม่ มากก็เสริมแรง
• การสร้ างมีส่วนร่ วม...”คน” สาคัญต้ องพัฒนา ให้ ความรู้ และเราต้ องเข้ าใจ
ศักยภาพ คนอาจจะคิดต่ าง มองทุกคนอย่ างเข้ าใจ.
• การสื่อสาร ให้ เป็ นเรื่ องเดียวกัน สร้ างความสัมพันธ์
• ปั ญหามีหลายปั จจัยที่ก่อให้ เกิด...ไม่ ควรแก้ ท่ ีประเด็นเดียว
• กิจกรรมเดียวอาจจะแก้ ได้ หลายประเด็น
• การแก้ ปัญหา...มองทรั พยากร เราเพียงพอหรื อไม่ ???
• คนในกลุ่มน้ อย รากปั ญหาเราอาจจะไม่ ร้ ู จริง คนที่ทาต้ องหลากหลาย
เห็นกระบวนการสร้ างการมีส่วนร่ วม
•
•
•
•
•
•
•
•
ใช้ บัตรคา
ฝึ กการพูด
ฝึ กให้ คิดตาม
การสรุ ปร่ วม
ตัง้ คาถาม
ใช้ เกมส์
มีการทบทวน..กลับไปคิด
การใช้ ต้นไม้
•
•
•
•
•
การเชื่อมโยงประเด็น
การกระตุ้น
การมองรอบด้ าน
มองลึก
เคารพความคิดซึ่งกันและกัน
65
ทบทวน...วันวาน (อาเภอปี 56)
สิ่ งสาคัญ/ประเด็นสาคัญ จะกลับไปใช้ ต่อ
นาไปใช้
การรับรข้ ู องคน
10% การอ่าน
20% การฟัง
ดูภำพ-ภำพยนตร์
30% สิ่งที่เราเห็น
50% เห็น + ฟัง
70% สิ่งที่เราพูด
90% สิ่งที่เรา
ได้ลงมือทา
กำรอ่ำน รับรจ้ ู ากการฟัง เห็น พูด
กำรฟั ง
รับรู้จำกกำร
มองเห็น
ชมสำธิต - ไปดูงำน
ร่วมอภิปรำย + แสดงควำมคิดเห็น
ได้แสดง / อยู่ในสถำนกำรณ์จำลอง
ลงมือทำจริง + สรุป (นำไปเล่ำต่อ) ..
จำกกำรมี
ส่วนร่วม
กระบวนการเรี ยนร้ ูผ่านประสบการณ์
(Experiential Learning) + 4 A Model
Do/Experience
ทากิจกรรม/
มีประสบการณ์ ร่วม
Apply
ประยุกต์ ใช้
Reflect
สะท้ อนสิ่ งทีเ่ รียนรู้
Analyze/Synthesize
คิด/วิเคราะห์ /สั งเคราะห์ /สรุ ป
GAP ของการดาเนินงานด้านสุขภาพในปัจจุบ ัน
• กำรมีสว่ นร่วม ของภำคียังไม่เป็ นจริง
“กำรดูแลสุขภำพเป็ นเรือ
่ งของสำธำรณสุขเท่ำนัน
้ ”
• มีตวั ชวี้ ัด/นโยบำยสงั่ กำรลงไปพืน
้ ทีม
่ ำก
บำงตัวชวี้ ัดไม่ตอบสนองต่อปั ญหำจริงในพืน
้ ที่
• ขำดกำรจั ด กำรข ้อมู ล ที่เ ป็ นระบบและมีคุณ ภำพเพื่ อ
ื่ มโยงข ้อมูลและกำรสง่
สะท ้อนรำกของปั ญหำ ขำดกำรเชอ
สะท ้อนข ้อมูลต่อภำคี
69
GAP ของการดาเนินงานด้านสุขภาพในปัจจุบ ัน
• กระบวนกำรวำงแผนแก ้ไขปั ญหำ ยังไม่ตอบกำรแก ้ปั ญหำ
ที่ร ำกและไม่ร อบด ้ำนเพีย งพอที่จ ะก่อ ให ้เกิด กำรปรั บ เปลี่ย น
่ ให ้ควำมรู ้ รณรงค์ เน ้นรักษำ
พฤติกรรม ยังแก ้ทีป
่ ลำยเหตุ เชน
มำกกว่ำป้ องกัน
• จนท.สว่ นใหญ่ไม่เข ้ำใจแนวคิดกำรทำงำนเพือ
่ สง่ เสริมสุขภำพ
กำรแก ้ปั ญหำยังทำเป็ นรำยกิจกรรม ขำดควำมต่อเนื่อง ไม่ มอง
เชงิ ระบบ
“ ไม่มค
ี วำมสำเร็จใด ทีค
่ ด
ิ เหมือนเดิม ทำเหมือนเดิม แล ้วจะดีกว่ำเดิม”
ทีม
่ ำ...จำกกำรถอดบทเรียนภำคีเครือข่ำยอำเภอควบคุมโรคเข ้มแข็ง ในกำรอบรมเชงิ ปฏิบัตก
ิ ำรเรือ
่ ง
กำรจัดกำรเชงิ ระบบเพือ
่ พัฒนำกำรดำเนินงำนอำเภอควบคุมโรคแบบยั่งยืน 14 ม.ค.-มี.ค.2554
70 70
หลักเกณฑ์การประเมิน
อาเภอควบคุมโรคเข้มแข็งแบบยัง่ ยืน
ปี ๒๕๕๖
อาเภอควบคุมโรคเข้ มแข็ง...ปี ทีส่ าม ก้ าวอย่ างเข้ มแข็ง
Disease Control Competent District..3rd firm step
เกณฑ์ การประเมินตนเองปี 2556
คะแนน
เต็ม
คุณล ักษณะ
1. มีคณะกรรมการป้องก ันควบคุมโรคและภ ัยสุขภาพ
2. มีระบบระบาดวิทยาทีด
่ ใี นระด ับอาเภอ
3. มีการวางแผน กาก ับติดตามและประเมินผลการป้องก ัน
ควบคุมโรคและภ ัยสุขภาพ
4. มีการระดมทร ัพยากรหรือการสน ับสนุนงบประมาณ
จากหน่วยงานทีเ่ กีย
่ วข้องเป็นรูปธรรม
5. มีผลสาเร็จของการควบคุมป้องก ันโรคทีส
่ าค ัญตาม
้ ที่
นโยบายกระทรวงสาธารณสุขและเป็นปัญหาในพืน
้ ไป
อย่างน้อยประเด็นละ 1 เรือ
่ งขึน
5
20
10
5
10
รวม
50
ร่ างเกณฑ์ ประเมินตนเอง คุณลักษณะที่ ๑
คะแนน
ประเด็นการประเมิน
1.มีคณะกรรมการและการมีส่วนร่ วมขององค์ กรในการป้องกันควบคุมโรคและภัย
5
สุขภาพ
1.1 คาสั่งคณะกรรมการสุขภาพระดับอาเภอประกอบด้ วยตัวแทนจาก 3 ภาคส่ วน
1
(ครบ 1 ไม่ ครบ 0)
- ภาครัฐ (รพ./ สสอ. นายอาเภอ)
- ท้ องถิ่น (อปท.ภายในอาเภอ)
- ภาคประชาชน (อสม./ผู้นาชุมชน/องค์ กรพัฒนาเอกชน)
1.2 มีรายงานการประชุมของคณะกรรมการฯ อย่ างสม่าเสมออย่ างน้ อยไตรมาสละ
1
1 ครัง้
1.3 นาผลการวิเคราะห์ สถานการณ์ มากาหนดปั ญหาและแนวทางในการดาเนินงาน
1
แก้ ไขปั ญหา
1.4 มีการมอบหมายผู้รับผิดชอบให้ ดาเนินการต่ างๆ ครบทัง้ 3 ภาคส่ วน อย่ างน้ อย
1
ร้ อยละ 50 ของการประชุม
1.5 มีการติดตามผลการดาเนินงานตามมติการประชุมคณะกรรมการอย่ าง
1
สม่าเสมอ
ร่ างเกณฑ์ ประเมินตนเอง คุณลักษณะที่ ๒
2.1 ทีม SRRT อาเภอและเครือข่ายมีความพร้อมและปฏิบ ัติงานได้อย่างมี
ิ ธิภาพ
ประสท
8
2.1.1 ทีม SRRT ระด ับอาเภอ ผ่านการประเมินร ับรองมาตรฐาน SRRT โดย สคร.
6
2.1.2 ทีม SRRT ระด ับอาเภอติดตามและสรุปผลการดาเนินงานของทีม SRRT
ตาบล 2 ครง/ต่
ั้
อปี
2
2.2 ทีม SRRT ระด ับตาบลมีการดาเนินงานด ังนี้
2.2.1 อสม.ได้ร ับการถ่ายทอดการเฝ้าระว ังเหตุการณ์
2.2.2 ร ับแจ้งข่าวจากอสม.หรือเครือข่ายในเขตร ับผิดชอบอย่างน้อย 1 ครง/เดื
ั้
อน
2.2.3 แจ้งข่าวให้เครือข่ายภายใน 24 ชม. หล ังตรวจสอบข่าว
2.2.4 ลงข้อมูลการร ับแจ้งข่าวในโปรแกรมออนไลน์ถก
ู ต้อง (1 ปี ย้อนหล ัง)
้ งต้น อย่างเหมาะสม
2.2.5 ดาเนินการควบคุมการเกิดโรค/เหตุการณ์เบือ
5
0.5
1
1
0.5
1
2.2.6 จ ัดประชุมทีม SRRT และเครือข่ายระด ับตาบลอย่างน้อยปี ละ 2 ครงั้
0.5
2.2.7 มีเครือข่ายการเฝ้าระว ัง สอบสวน นอกตาบล
0.5
ร่ างเกณฑ์ ประเมินตนเอง คุณลักษณะที่ ๒
2.3 มีระบบข ้อมูลและกำรเฝ้ ำระวังโรคและภัยสุขภำพ
2.3.1 ระบบข ้อมูลและกำรเฝ้ ำระวังโรคติดต่อมีคณ
ุ ลักษณะดังนี้
2.3.1.1 มีควำมครอบคลุมของสถำนบริกำรทีส
่ ง่ รำยงำน *
2.3.1.2 ข ้อมูลมีควำมทันเวลำเป็ นปั จจุบน
ั *
7
3
0.5
0.5
2.3.1.3 ดำเนินกำรตรวจจับกำรระบำดจำกข ้อมูลในระบบเฝ้ ำระวังโรคอย่ำงน ้อย
เดือนละ 1 ครัง้ (ย ้อนหลัง ๑๒ เดือน)
2.3.1.4 มีกำรจัดทำหรือนำเสนอรำยงำนสถำนกำรณ์ทก
ุ เดือน *
2.3.2 ระบบข ้อมูลและกำรเฝ้ ำระวังโรคไม่ตด
ิ ต่อมีคณ
ุ ลักษณะดังนี้
2.3.2.1 มีฐำนข ้อมูลผู ้ป่ วยโรคเบำหวำน โรคควำมดันโลหิตสูง โรคหัวใจขำด
เลือดและโรคหลอดเลือดสมอง *
2.3.2.2 สำรองข ้อมูลอย่ำงน ้อย 5 ปี ย ้อนหลัง *
2.3.2.3 จัดทำหรือนำเสนอรำยงำนสถำนกำรณ์ ทุก 6 เดือน *
ี่ งอืน
2.3.3 ระบบข ้อมูลและกำรเฝ้ ำระวังโรค/ปั จจัยเสย
่ ๆมีคณ
ุ ลักษณะดังนี้
ี่ ง หรือพฤติกรรมเสย
ี่ ง
2.3.3.1 มีข ้อมูลเฝ้ ำระวัง/กำรสำรวจด ้ำนปั จจัยเสย
(Behavior, Risk factor)สำหรับโรคและภัยสุขภำพตำมคุณลักษณะที่ 5
2.3.3.2 มีกำรจัดทำหรือนำเสนอรำยงำนสถำนกำรณ์เฝ้ ำระวัง/กำรสำรวจอย่ำงน ้อย
1 ฉบับ
1
1
2.5
0.5
1
1
1.5
0.5
1
ร่ างเกณฑ์ ประเมินตนเอง คุณลักษณะที่ ๓
ประเด็นการประเมิน
3. การวางแผน กากับติดตาม และประเมินผลการป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ
3.1 มีเป้าหมายและแผนปฏิบัตกิ ารป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพที่เป็ นปั ญหา
สาคัญของพืน้ ที่อย่ างน้ อย 1 เรื่อง และสอดคล้ องกับความสาเร็จตามคุณลักณณะที่ 5
3.2 มีเป้าหมายและแผนปฏิบัตกิ ารป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพที่เป็ นปั ญหา
สาธารณสุขตามนโยบายอย่ างน้ อย 1 เรื่อง และสอดคล้ องกับความสาเร็จตาม
คุณลักณณะที่ 5
3.3 มีปฏิทนิ ปฏิบัตกิ ารป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพที่เป็ นปั ญหาของพืน้ ที่และที่
เป็ นนโยบายของประเทศ ตามเป้าหมายที่กาหนดในข้ อ 3.1-3.2
3. 4 มีปฏิบัตกิ ารร่ วมกับท้ องถิ่นและภาคประชาชนในการป้องกันควบคุมโรค/ปั ญหา
สุขภาพที่เป็ นปั ญหาของพืน้ ที่และที่เป็ นนโยบายของประเทศ
ตามเป้าหมายที่กาหนดในข้ อ 3.1-3.2
3.5 มีแผนติดตามการดาเนินงานและมีผ้ ูรับผิดชอบการติดตามงานตามแผนปฏิบัตกิ าร
ป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพที่เป็ นปั ญหาของพืน้ ที่และที่เป็ นนโยบายปของระเทศ
ตามเป้าหมายที่กาหนดในข้ อ 3.1-3.2
คะแนน
10
1
1
1
1
1
ร่ างเกณฑ์ ประเมินตนเอง คุณลักษณะที่ ๓ (ต่ อ)
คะแนน
ประเด็นการประเมิน
10
3. การวางแผน กากับติดตาม และประเมินผลการป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ
1
3.6 โครงการแผนงานมีการกาหนดแนวทางการดาเนินงาน/การประเมินผลความสาเร็จ
ของแผนปฏิบัตกิ ารป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ ที่เป็ นปั ญหาของพืน้ ที่ และที่เป็ น
นโยบายของประเทศตามเป้าหมายที่กาหนดในข้ อ 3.1-3.2
1
3.7 มีรายงานความก้ าวหน้ า
ผลการติดตามการปฏิบัตงิ านตามแผนปฏิบัตกิ าร
ป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพที่เป็ นปั ญหาของพืน้ ที่และที่เป็ นนโยบายของประเทศ
ตามเป้าหมายที่กาหนดในข้ อ 3.1-3.2 เสนอต่ อคณะกรรมการป้องกันควบคุมโรคและภัย
สุขภาพในระหว่ างปี อย่ างน้ อย 1 ครัง้
1
3.8 มีรายงานการประเมินผลความสาเร็จ ปั ญหาอุปสรรค และข้ อเสนอแนะ ตาม
แผนปฏิบัตกิ ารป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ ที่เป็ นปั ญหาของพืน้ ที่และที่เป็ น
นโยบายของประเทศ ตามเป้าหมายที่กาหนดในข้ อ 3.1-3.2 เสนอต่ อคณะกรรมการ
ป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ
1
3.9 มีแผนปฏิบัตกิ ารรองรับการควบคุมโรค/ ภัยฉุกเฉินทางด้ านสาธารณสุขระดับ
อาเภออย่ างน้ อย 1 แผน
1
3.10 มีการซ้ อมแผนรับการควบคุมโรค/ภัยฉุกเฉินด้ านสาธารณสุขระดับอาเภออย่ าง
น้ อยปี ละ 1 ครัง้
ร่ างเกณฑ์ ประเมินตนเอง คุณลักษณะที่ ๔
ประเด็นกำรประเมิน
คะแนน
4. มีกำรระดมทุนหรือกำรสนั บสนุนงบประมำณจำกหน่วยงำนทีเ่ กีย
่ วข ้องเป็ นรูปธรรม
5
่ อบจ.,เทศบำล, อบต.
4.1 องค์กรปกครองสว่ นท ้องถิน
่ เชน
-ร ้อยละขององค์กรปกครองสว่ นท ้องถิน
่ มีกำรจัดสรรทรัพยำกรเพือ
่ กำร
ควบคุมโรคอย่ำงเป็ นรูปธรรม
1
4.2 กองทุนใน ได ้แก่ กองทุนสุขภำพชุมชน ทีอ
่ งค์กรปกครองสว่ นท ้องถิน
่
สมัครกับ สปสช.
-ร ้อยละของกองทุนสุขภำพชุมชน จัดสรรทรัพยำกรเพือ
่ กำรควบคุมโรค
้ น)
อย่ำงเป็ นรูปธรรม (มีแผนกำรทำงำนและกำรใชเงิ
2
4.3 CUP
- โรงพยำบำลจัดสรรทรัพยำกรเพือ
่ กำรควบคุมโรคอย่ำงเป็ นรูปธรรม
1
่ องค์กรเอกชน วัด ประชำชน เป็ นต ้น
4.4 อืน
่ ๆ เชน
่ องค์กรเอกชน วัด ประชำชน จัดสรรทรัพยำกรเพือ
- หน่วยงำนอืน
่ ๆเชน
่ กำร
ควบคุมโรคอย่ำงโดยมีระบบกำรบริหำรจัดกำรทรัพยำกรเป็ นรูปธรรม ที่
สำมำรถตรวจสอบได ้
1
ร่ างเกณฑ์ ประเมินตนเอง คุณลักษณะที่ ๕
ประเด็นกำรประเมิน
5. มีผลสำเร็จของกำรควบคุมป้ องกันโรคทีส
่ ำคัญ
คะแนน
10
5.1 โรคนโยบำย
- กระบวนกำรกำรป้ องกันควบคุมโรคทีเ่ ลือก
3
- วัดผลสำเร็จของคุณภำพกำรป้ องกันควบคุมโรค
2
5.2 โรคทีเ่ ป็ นปั ญหำในพืน
้ ที่
- ผลสำเร็จของกำรดำเนินกิจกรรม
3
- ขนำดปั ญหำของโรคทีส
่ ำคัญในพืน
้ ทีล
่ ดลง
2
โจทย์สำคัญ .. ที่ต้องทำไปพร้อมๆกัน
5
สร้างประเด็นเยาวชน
เป็ นนโยบายสาธารณะ
(talk of the town)
• ผูบ้ ริ หาร
• สื่ อมวลชน
• ฯลฯ
2
พัฒนาทักษะส่วนบุคคล
• ปรับหลักสูตร
• ปรับกิจกรรมในโรงเรียน
ทีเ่ ปิดกว้าง-เหมาะสมกับ
การเรียนรูข้ องเยาวชน
เยาวชน
4
สร้างสิ่ งแวดล้อม
ที่เอื้อต่อสุ ขภาพ
• สื่ อ สิ่ งพิมพ์ (TV VCD)
• internet
• การบริ โภคสุ รา
• สถานบันเทิง ฯลฯ
1
3
สร้างชุมชนเข้มแข็ง
และสนับสนุนการมีส่วนร่ วม
(เปิ ดพื้นที่ทางสังคม – สนับสนุน)
• เครื อข่ายผูป้ กครอง
• บทบาทท้องถิ่น
ทีส่ ำคัญ .. ปรับทัศนะคนทำงำน + ปรับระบบงำน
กรอบการดาเนินงานเอดส์&STIs ปี 2556
เข้าสู่ ระบบการรักษาช้า
การเสี ยชีวติ ผูไ้ ม่รับยาสู งกว่ารับยา
ขาดยา ดื้อยา
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สูงขึ้น
VCT ยังต่า Condom ต่า
กลไกการ พัฒนาระบบ
ป้ องกัน ???
กลไกการเชื่อมประสานใน
พืน้ ที่ ยังไม่ เข้ มแข็งพอ
พัฒนาระบบบริ การดูแล
รักษา HIV/AIDS
พัฒนาระบบบริ การโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
พัฒนาระบบบริการให้ การปรึกษา
สนับสนุนและพัฒนาศักยภาพองค์ กรเอกชน
ด้ านเอดส์
พัฒนาระบบเพศศึกษา
พัฒนาระบบ อาเภอควบคุม
โรคเข้ มแข็ง ตาบลสุ ขภาพ
กรอบการดาเนินงานเอดส์&STIs ปี 2556
กรอบการดาเนินงานเอดส์&STIs ปี 2556
เข้าสู่ ระบบการรักษาช้า
การเสี ยชีวติ ผูไ้ ม่รับยาสู งกว่ารับยา
ขาดยา ดื้อยา
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สูงขึ้น
VCT ยังต่า Condom ต่า
สังคม สิ่งแวดล้ อม ครอบครั ว ปั จเจก
กระบวนการปรับเปลีย่ นพฤติกรรม
สังคม
การทาพฤติกรรมใหม่อย่างต่อเนื อ่ ง
การลองทาพฤติกรรมใหม่(ทางเลือก)
เกิดแรงจูงใจทีจ่ ะทา
ปรับความคิด/มีทกั ษะ
เกิดความรู/้ ความตระหนัก
ไม่ตระหนัก
บุคคล
การปรั บเปลี่ยนพฤติกรรม
 ความรู้ และข้อมูลเป็ นเพียงจุดเริ่มต้น แต่ไม่เพียงพอที่ จะทาให้เปลี่ยน
พฤติกรรม
 การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็ นเรื่องไม่ง่าย เปลี่ยนได้ แต่ใช้เวลา และความ
พยายามต่อเนื่ อง
 การให้ข้อมูลที่ ทาให้เกิดความกลัวมีข้อจากัดในการกระตุ้นให้ เปลี่ยน
พฤติกรรม
 พฤติกรรม ของแต่ละคนแตกต่างกันไปตามแต่ละช่วงวัย/สภาพแวดล้อม
 พฤติกรรมบุคคลเป็ นผลจากค่านิยมและการให้คณ
ุ ค่าในสังคม
 บุคคลจะยอมรับพฤติกรรมใหม่ง่ายขึน
้ ถ้ารู้สึกว่าตัวเองสามารถทาได้
 การเปลี่ยนพฤติกรรมบุคคลเกี่ยวพันกับแบบแผนการปฏิบต
ั ิ ของชุมชนและ
สภาพแวดล้อมด้วย
หลักการเรียนรู้
 กำรใช้ คำถำมเปิ ด (Open Questions)
 สไตล์กำรเรี ยนรู้ (กำรอ่ำน/ดู, กำรฟั ง, กำรลงมือ
ทำ)
 กำรสร้ ำงควำมรู้สกึ ปลอดภัย (Safety)
 กำรใช้ กระบวนกำรเรี ยนรู้ผ่ำน ประสบกำรณ์ และ
4As model
 กำรฟั ง
 สื่อสำรสองทำง (Dialogue)
 กำรสร้ ำงกำรมีสว่ นร่วม (Engagement)
 ควำมรับผิดชอบต่อกำรเรี ยนรู้ของผู้เรี ยน
(Accountability)
การเคารพ (Respect)
 การรอ (Waiting)
 การเชื่อมโยงประเด็น (Weaving)
 การสร้างความรู้สึกความเป็ นส่วน
หนึ่ ง (Inclusion)
 ความเกี่ยวข้องของประเด็นเนื้ อหากับ
ประสบการณ์ผเู้ รียน (Relevancy)
 การคานึ งถึงการนาไปปรับใช้
(Immediacy)
 การสรุปสาระสาคัญในแต่ละเรือ่ ง
ร่วมกับผูเ้ รียน
 อื่นๆ ..........................................
หลัก “การเรียนรู้แบบผู้ใหญ่ ” (Adult Learning)
•
•
•
•
•
•
รู้สึกสบาย/ปลอดภัย กับบรรยากาศการเรียนรู้ (Safety)
ได้ รับการเคารพ (Respect)
มีความเกี่ยวข้ องกับตัวเอง (Relevancy)
เห็นประโยชน์ และสามารถนาไปใช้ ได้ (Immediacy)
มีส่วนร่ วมในการเรียนรู้ (Engagement)
รู้สึกเป็ นส่ วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ (Inclusion)
การเรียนรู้แบบผูเ้ รียนเป็ นศูนย์กลาง
(Learner-centered)
สมอง .. กับ กำรเรียนรู้ในสภำวะต่ำง ๆ
สภำวะปิ ดกัน
้ ..
Defense mode
อยู่ในสภำวะเปิ ดใจ/พร้อม
ึ สนุก
• รูส
้ ก
• บรรยากาศสบายๆ
ั ันธ์แนวราบ
• สมพ
• มีการกระตุน
้ ด้านบวก
• มีคนร ับฟัง
สภำวะเรียนรู ้ ..
Learning mode
ในสภาวะคับขัน/ระวังตัว
สมองจะหย ุดการเรียนร ้ ู
เพื่อเตรียมพร้อม เช่น
• สถานการณ์ฉ ุกเฉิน
• ความสัมพันธ์แนวดิ่ง
• บรรยากาศด้านลบ
• ถ ูกกดดัน ตาหนิ
• บีบคัน้
การวิเคราะห์ ปัญหาและจัดทาแผน
๑.วิเคราะห์ ปัญหา โดยใช้ แผนภูมิต้นไม้ (Problem tree analysis)
๑. เลือก “ปั ญหาสุขภาพหรือพฤติกรรมเสี่ยงต่ อสุขภาพ” (ส่ วนลาต้ น)
๒. วิเคราะห์ หาสาเหตุท่ ที าให้ เกิด “ปั ญหาสุขภาพและพฤติกรรมเสี่ยงต่ อ
สุขภาพ” (ส่ วนราก) ให้ ได้ มากและลึกที่สุด โดยแบ่ งเป็ น
1.ด้ านปั จเจก (ชีวภาพ ความเชื่อ/วิถีชีวิต พฤติกรรม)
2.ด้ านครอบครัว/ชุมชน/สังคม/สิ่งแวดล้ อม
3.ด้ านระบบบริการ
๓. ช่ วยกันวิเคราะห์ ผลที่เกิดจาก “ปั ญหาสุขภาพและพฤติกรรมเสี่ยงต่ อ
สุขภาพ” (ส่ วนดอก/ใบ)
89
คัดเลือกปัญหาสุ ขภาพ ๑๐ ลาดับ
คัดเลือกจัดลาดับความสาคัญ
๑. ขนาดของปั ญหา
๒. ความรุ นแรงของปั ญหา (ตัวเอง ครอบครัว ชุมชน)
๓. แนวโน้ มการแก้ ปัญหา ความยากง่ าย
๔. ความร่ วมมือของชุมชนหรือความตระหนัก
๕. ผลกระทบระยะยาว (ผลกระทบด้ านเศรษฐกิจ สังคม)
90
การให้น้าหนัก
ค่ านา้ หนักตัวแปร
สูง
๕
ค่ อนข้ างสูง ๔
ปานกลาง ๓
ค่ อนข้ างต่า ๒
ต่า
๑
นา้ หนักเกณฑ์ มาตรฐาน
(นิยมใช้ )
ขนาดของปั ญหา
๔
ความรุ นแรงเร่ งด่ วน ๓
แนวโน้ มการแก้ ปัญหา ๕
ความร่ วมมือของชุมชน ๕
ผลกระทบระยะยาว
๒
91
การให้น้าหนัก
นา้ หนักเกณฑ์ มาตรฐาน
(นิยมใช้ ) W
ขนาดของปั ญหา
๔
ความรุ นแรงเร่ งด่ วน ๓
แนวโน้ มการแก้ ปัญหา ๕
ความร่ วมมือของชุมชน ๕
ผลกระทบระยะยาว
๒
คะแนนที่ได้
สูง
ค่ อนข้ างสูง
ปานกลาง
ค่ อนข้ างต่า
ต่า
R
๕
๔
๓
๒
๑
92
ตัวอย่ างการจัดลาดับความสาคัญ
ประเด็น
ขนาดปั ญหา
ความรุ นแรง
R
W=4 R
NCD
4
16
ไข้ เลือดออก
3
12
Teenage
Pre
4
16
W= 3
ความยากง่ าย
R
ความตระหนัก
W=5 R
ผลกระทบ
W=5 R
รวม
W=2
93
๒.นาสาเหตุ(ส่ วนราก) มากาหนดผลลัพธ์ ท่ ตี ้ องการเห็น ในระดับ
บุคคล ครอบครัว ชุมชน โดยแบ่ งเป็ นระยะสัน้ ระยะกลาง
ระยะยาว
ผลลัพธ์ คือ สิ่งที่อยากให้ เกิดขึน้
ระยะสัน้ (๑-๒ปี ) ระยะกลาง(>๒ปี ) ระยะยาว
(impact)
บุคคล
ครอบครัว
ชุมชน
94
๒.นาสาเหตุ(ส่ วนราก) มากาหนดผลลัพธ์ ท่ ตี ้ องการเห็น ใน
ระดับบุคคล ครอบครัว ชุมชน โดยแบ่ งเป็ นระยะสัน้ ระยะ
กลาง ระยะยาว
ระยะสัน้ =ความรู้
กลาง=พฤติกรรม
ยาว=เปลี่ยนแปลง
บรรลุเป้าหมายสูงสุด
ทัศนคติ ทักษะ 1-2 นโยบาย กติกา
ปี
ข้ อบังคับ มากกว่ า 2 ปี ผลกระทบ สังคม
สิ่งแวดล้ อม
บุคคล
ครอบครั ว
ชุมชน
95
3.วิเคราะห์ ต้นทุน และความท้ าทาย พร้ อมกับคิดกิจกรรมเสริมต้ นทุน และกิจกรรม
เพื่อพิชติ ความท้ าทาย/ลดแรงต้ าน
อะไรคือต้ นทุนของพืน้ ที่
กิจกรรมเพิ่มเสริมต้ นทุน
อะไรคือความท้ าทาย/แรงต้ าน/อุปสรรค
ในการดาเนินงาน
กิจกรรมเพื่อพิชติ ความท้ าทาย/ลดแรง
ต้ าน
96
๔.นากิจกรรมเพิม่ แรงเสริม ลดแรงต้ าน มาจัดทาโครงการ
โครงการ
กลุ่มเป้าหมาย ภาคีท่ เี กี่ยวข้ อง
ผู้รับผิดชอบ
. กิจกรรม1
. กิจกรรม2
97
๔.นากิจกรรมเพิ่มแรงเสริม ลดแรงต้าน มาจัดทาโครงการ
ผลลัพธ์ ท่ ตี ้ องการ....
โครงการ.......
กิจกรรม1
กลุ่มเป้าหมาย.. กลุ่มภาคี..หรือ กลุ่มประชาชน.....
กิจกรรม2
กลุ่มเป้าหมาย.. กลุ่มภาคี..หรือ กลุ่มประชาชน.....
กิจกรรม3
กลุ่มเป้าหมาย.. กลุ่มภาคี...หรือ กลุ่มประชาชน
98
๓. ผลลัพธ์ ที่ต้องการเห็น........... มากาหนด
แรงเสริม แรงต้ านที่จะส่ งผลต่ อผลลัพธ์ ท่ ตี ้ องการ พร้ อมกับคิด
กิจกรรมเพิ่มแรงเสริม และกิจกรรมเพื่อลดแรงต้ าน
อะไรคือแรงเสริม/สิ่งสนับสนุน
กิจกรรมเพิ่มแรงเสริม
• นโยบาย
• ดาเนินงานต่ อยอดนโยบาย
• ทุนสังคม
• ต้ นแบบ
• ความเชื่อที่เป็ นประโยชน์
อะไรคือแรงต้ าน/อุปสรรคในการ
ดาเนินงาน
• ไม่ มีนโยบาย
•ชาวบ้ านต่ อต้ าน
•สื่อต่ างๆ
• ขาดการมีส่วนร่ วม
• ใช้ ทุนที่มีอยู่ให้ มากขึน้
• ใช้ ต้นแบบเป็ นแหล่ งเรี ยนรู้
• เพิ่มประเด็น เกาะติดกระแสความเชื่อ
กิจกรรมเพื่อลดแรงต้ าน
• ผลักดันใหมีนโยบาย
• สร้ างความรู้ ให้ ชาวบ้ าน /
• สร้ างการเท่ าทันสื่อ
• สร้ างการมีส่วนร่ วม
99
คุยเป็ นรายอาเภอ/จังหวัด/สคร
• สิ่งที่อยาก/ต้ อง กลับไปขับเคลื่อนต่ อ..
• สิ่งที่ต้องการสนับสนุน..จากใคร..อย่ างไร (ยกเว้ นเรื่ อง
เงิน)
100
กลยุทธ์ .. กำรส่งเสริมสุขภำพ ที่ต้องทำพร้อมกัน
5
สร้ างประเด็นเยาวชน
เป็ นนโยบายสาธารณะ
(talk of the town)
• ผู้บริหาร
• สื่ อมวลชน
• ฯลฯ
4
2
หลักสูตรท้องถิ่น ชุมชน
ครอบครัว
เยาวชน/ท้ องไม่ พร้ อม/ ยาเสพติด
สร้ างสิ่ งแวดล้อม
ทีเ่ อือ้ ต่ อสุ ขภาพ
•ระบบบริ การ
พัฒนาทักษะส่วนบุคคล
3
สร้ างชุมชนเข้ มแข็ง
และสนับสนุนการมีส่วนร่ วม
อบรมผู้ปกครองเรื่อง ผู้นา
เรื่องเพศศึกษา เด็ก แกนนา อสม ต้ องมี
ความรู้ เรื่องเพศ
ทีส่ ำคัญ .. ปรับทัศนะคนทำงำน + ปรับระบบงำน
1