R2R พัฒนำงำนประจำด้วยกำรวิจยั ภูมิภกั ด์ พิทกั ษ์เขื่อนขันธ์ สำนักบริหำรกำรวิจยั มหำวิทยำลัยขอนแก่น ชม VDO เปลี่ยนงำนประจำที่จำเจ ให้เป็ นงำนสนุกที่ทำ้ ทำย ผูร้ บั บริกำรพึงพอใจ และ ประทับใจ.

Download Report

Transcript R2R พัฒนำงำนประจำด้วยกำรวิจยั ภูมิภกั ด์ พิทกั ษ์เขื่อนขันธ์ สำนักบริหำรกำรวิจยั มหำวิทยำลัยขอนแก่น ชม VDO เปลี่ยนงำนประจำที่จำเจ ให้เป็ นงำนสนุกที่ทำ้ ทำย ผูร้ บั บริกำรพึงพอใจ และ ประทับใจ.

R2R
พัฒนำงำนประจำด้วยกำรวิจย
ั
่
ภู มภ
ิ ก
ั ด ์ พิทก
ั ษ ์เขือนขันธ ์
สำนักบริหำรกำรวิจ ัย
มหำวิทยำลัยขอนแก่น
ชม
VDO
่
เปลียนงำนประจำ
่
ทีจำเจ ให้เป็ น
่
งำนสนุ กทีท้ำทำย
ผู ร้ ับบริกำรพึง
หัวข้อ
กำรพัฒนำ
ประสิทธิภำพงำน
ประจำด้วยกำรวิจยั
(R2R)
กำรวิ
เครำะห ์
ข้อเสนอ
กำรเขียนข้อเสนอ
โครงกำร
วัตถุประสงค ์กำร
ฝึ กอบรม
่
เพิมควำมเข้
ำใจกำรพัฒนำ
ประสิทธิภำพงำนประจำด้วย
กำรวิจยั (R2R)
ฝึ กวิเครำะห ์ข้อเสนอ
โครงกำร
ฝึ กกำรเขียน
R2R
Slogan : R2R
ฒนำประสิทธิภำพงำนประจำด้วยกำ
นำงำน พัฒนำคน พัฒนำองค ์กร
นเห็นผล คนเป็ นสุข
่
พัฒนำงำนทีทำอยู ่เป็ นประจำ สู ง่ ำนว
สยบงำนจำเจด้วยกำรวิจย
ั สู โ่ ลกใหม่
3 ประเภทงำนวิจย
ั (แบ่งตำม
เป้ ำหมำย)
่
• กำรวิจยั เพือพัฒนำองค ์
ควำมรู ้
่
• กำรวิจย
ั เพือพัฒนำองค ์กร
(วิจย
ั สถำบัน) หรือ กำรวิจย
ั
องค ์กำร
่
• กำรวิจยั เพือพัฒนำ
ประเภทของงำนวิจย
ั สถำบัน
• งำนวิจย
ั สถำบัน
้ั
• มีทงระดั
บคณะและระดับ
มหำวิทยำลัย
• กำหนดหัวข้อ (โดยคณะ หรือ
มหำวิทยำลัย)
• เปิ ดให้
เสนอข้
• งำน
R to
R อเสนอโครงกำร (บำง
ำ และอำจต้
องวข้อเอง
• หั
ผูวว้ ข้
จ
ิ อ
ย
ั อำจต้
ร่วมกัอ
บงจ้
หน่ำวงท
ยงำนก
ำหนดหั
่
ใช้
ผ
ู
เ
้
ชี
ยวชำญภำยนอก)
(เครือข่ำยร่วมกันคิด)
• ผู ว้ จ
ิ ย
ั ต้องเป็ นคนในหน่ วยงำน
่
่ ดทุกคน
• ปี ต่อไปต้องเปลียนคนท
ำ ให้ในทีสุ
กำรวิจ ัยสถำบัน/
เ
ป็
น
ก
ำ
ร
ศึ
ก
ษ
ำ
แ
ล
ะ
วิ
เ
ค
ร
ำ
ะ
ห
์
(Institutional
Research, Administrative
องค
์กร
่
เ กี ยResearch,
ว กั บ กOperational
ำ ร ด ำResearch)
เ นิ น ง ำ น
สภำพแวดล้อ ม และกระบวนกำร
่
ข อ ง ส ถ ำ บั น อุ ด ม ศึ ก ษ ำ เ พื อ
ป ร ะ โ ย ช น์ ใ น ก ำ ร จั ด ห ำ ข้ อ มู ล
สำหร ับสนับสนุ นกำรวำงแผน กำร
ก ำหนดนโยบำย และกำรต ด
ั สินใจ
่
เรืองต่ำงๆ โดยกำรใช้หลักกำรวิจย
ั
กำรวิจ ัยสถำบัน/
(Institutional
องค
์กร Research, Administrative
Research, Operational Research)
่
เป็ นกำรวิจ ย
ั เพือพัฒ นำ
ประสิทธิภำพกำรจัดกำรองค ์กร
แ ล ะ ส นั บ ส นุ น ก ำ ร ตั ด สิ นใ จ
น ำไปใช้ใ นกำรวำงแผน และ
กำรพัฒนำหน่ วยงำน & องค ์กร
กำรพัฒนำประสิทธิภำพงำนประจำด้วย
กำรวิจยั (R2R)
ควำมหมำยของ R2R
กระบวนกำรแสวงหำควำมรู ้
ด้วยวิธก
ี ำรอย่ำง เป็ นระบบของ
ผู ป
้ ฏิบต
ั งิ ำนในกำรแก้ปัญหำ หรือ
พัฒนำงำน โดยมีผลลัพธ ์เป็ นกำร
พัฒนำตนเองและหน่ วยงำน
ควำมหมำย
ของ
R2R
ศ.นพ.วิจำรณ์ พำนิ ช
Rำ 2 R
กล่ำวว่
คือ กำรใช้งำนวิจย
ั เป็ น
่
เครืองมือ ในกำรทำให้เกิดกำรสร ้ำงควำมรู ้
เพื่อน ำมำพัฒ นำงำน ท ำให้ค นที่ท ำงำน
้
ประจำมีโอกำสคิด ทดลอง และตังโจทย
์ให้ม ี
้ แล้ว น ำมำทดลองเก็ บ
ควำมช ด
ั เจนขึ น
ข้อ มู ลวิเ ครำะห ข
์ อ
้ มู ล สรุ ป ผล นั่ นคือใช้
่
งำนวิจย
ั มำเป็ นเครืองมือในกำรพัฒนำขีด
ควำมสำมำรถของคนทำงำน ผลิตผลงำน
ควำมหมำย
ของR2R
R2R
ท ำให้ค วำมจ ำเจของงำน
ประจำหำยไป กลำยเป็ นควำมท้ำทำย
่
ควำมสนุ กที ได้ค ิ ด ค้น วิ ธ ี ก ำรสร ำ
้ ง
่
้
ควำมรู ้เล็กๆ ทีเป็ นควำมรู ้ใหม่ๆ ขึนมำ
ท ำประโยชน์ เกิด ควำมภำคภู ม ิใ จใน
่
งำนทีตัว เองท ำ หรือ จะเรีย กว่ ำ เป็ น
่
เครืองมือในกำรพัฒ นำคน (Human
Resource Development: HRD) ก็
กำรพัฒนำประสิทธิภำพงำนประจำด้วย
กำรวิจ ัย (R2R)
Routine to Research, R to R, R2R
สรุป R2R เป็ นกำรวิจ ัยงำนประจำ
หรือหน้ำงำนนำไปใช้
ปร ับปรุงหรือพัฒนำงำน
่
ประจำ & ทำต่อเนื องจนเกิด
เป็ น R2R2R (Routine to
Research to Routine)
ควำมเป็ นมำของ
R2R
นิ ยำม R2R
โดย ศ.นพ.
วิจำรณ์ พำนิ ช
่
่
เพือส่งเสริมให้เจ้ำหน้ำทีระดับ
้
ปฏิบต
ั ก
ิ ำร สร ้ำงควำมรู ้ขึนมำ
พัฒนำงำนของตัวเอง
่
เปลียนสถำนะจำกเดิม เป็ นผู ้
เสพควำมรู ้ เป็ นผู ส
้ ร ้ำงควำมรู ้
ทำไมต้อง R
2
R
?
่
 R 2 R จะเป็ นกำรเปลียนงำนประจ
ำ
เป็ นบรรยำกำศกำรเรียนรู ้ทำให้คน
้
รู ้มำกขึน
่
อมที่
 R 2 R เป็ นกำรสร ้ำงสิงแวดล้
ปลอดภัยใน กำรแสดงควำมไม่รู ้ของ
คนได้
่
 R 2 R เป็ นกำรพัฒนำ เพือให้
ผู ป
้ ฏิบต
ั งิ ำนเป็ นผู ผ
้ ลิต เป็ นผู ส
้ ร ้ำง
ทำไมต้อง R
2R?
Routine เป็ นอุปสรรคต่อ
้
งำนทั
งปวง
1. แบ่งงำนกันทำเป็ น
ส่วนๆ
่
2. เบือ: งำนถู กลด
คุณค่ำ
่
่
่
3. เป็ นงำนทีคนอืนสัง
หล ักการและแนวคิด R 2 R
(งานเห็นผล คนเป็นสุข)
งานประจา
-ซา้ ซาก จาเจ
ั อ
้ น
- ยุง
่ ยาก ซบซ
- น่าเบือ
่ ฯลฯ
คิดสร้างสรรค์
คิดนอกกรอบ
+
เทคโนโลยี /
นว ัตกรรม
(แปลกใหม่)
ปร ับปรุง / พ ัฒนา
งาน / สงิ่ ใหม่ๆ
ทีเ่ ป็นประโยชน์ตอ
่ ตน
เพือ
่ นร่วมงาน และ
องค์กร
-ทบทวน/แลกเปลีย
่ นเรียนรู ้
- กาหนดโจทย์
- วิธแ
ี ก้ไข / พ ัฒนา
- ทดลอง / ประเมิน
- ปร ับปรุง
- ใชง้ าน / ปร ับปรุง
- ประเมิน
• บุคลำกรสำยสนับสนุ นมีควำมรู ้
เป้ ำหมำยของ
R2R
ทักษะและประสบกำรณ์ในกำร
พัฒนำงำนประจำไปสู ่งำนวิจย
ั
่
้
เพิมขึนและกระจำยอยู ่ทุกหน่ วยงำน
่
• มีจำนวนผลงำน/นวัตกรรมทีเกิด
่
จำก R2R เพือกำรแก้ปัญหำหรือกำร
ปร ับปรุงกำรทำงำนขององค ์กร
่
้
เพิมขึน
้
• มีเครือข่ำยบุคลำกรด้ำน R2R ทังใน
ลักษณะของ R2R
่
 เริมจำกปั ญหำ/คำถำม
่
วิจ ัยทีได้จำกหน้ำงำน
หรืองำนประจำ
 มีเป้ ำหมำยช ัดเจนว่ำ
จะแก้ไขปั ญหำ พัฒนำ
หรือขยำยผล
 พิสูจน์หำคำตอบด้วย
่
่
ลักษณะของ R2R
 ช่วยพัฒนำข้อมู ล
ฐำนข้อมู ลให้เกิด
ประโยชน์
 ยืดหยุ่นในรู ปแบบกำร
วิจ ัย (ไม่มรี ู ปแบบ
ตำยตวั )
้
่
 เปิ ดพืนทีสำหร ับ
ลักษณะของ R2R
 สำมำรถประยุกต ์ใช้ให้
เข้ำกับบริบทของงำนได้
่
่
 เป็ นเครืองมือทีช่วย
คนทำงำนในกำรสร ้ำง
ควำมรู ้ และสำมำรถนำ
กลับมำช่วยงำนประจำ
ได้
องค ์ประกอบของ
R2โจทย
R ์วิจยั ต้องมำจำกงำน
ประจำ เป็ นกำรแก้ปัญหำหรือ
พัฒนำงำนประจำ
 ผู ท
้ ำวิจ ัย ต้องเป็ นผู ท
้ ำงำน
้
ประจำนันเอง
 ผลลัพธ ์ของกำรวิจย
ั ต้องวัดผล
่
ทีเกิดต่อต ัวผู ป
้ ฏิบต
ั ิ ผู ร้ ับผลงำน
ผลลัพธ ์ของ
R2R
่
้
 คุณภำพงำนเพิมขึน เช่น กำร
่
ดู แลสวน / อำคำรสถำนที มี
์
้
ผลสัมฤทธิดีขน
ึ
้
 คนทำงำนประจำเก่งขึน (คิด
่
่
้
เก่ง+สือสำรให้คนอืนฟั งดีขน)
ึ
มีควำมสุขภำคภู มใิ จ และ
ก้ำวหน้ำ
ต ัวอย่าง R 2 R
 การพัฒนาระบบการเบิกจ่ายและการตรวจสอบบัญช ี
คงเหลือพัสดุ ภาควิชาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
 การพัฒนาระบบเครือ
่ งแม่ขา่ ยทีใ่ ชจั้ ดการเครือ
่ งคอมพิวเตอร์
ในห ้องปฏิบต
ั ก
ิ าร ภาควิชาคณิตศาสตร์
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
 พัฒนากระบวนการรวมศูนย์การจัดหาพัสดุ "โครงการรวม
ื้ -กระจายสง่ “
ซอ
การพัฒนาระบบการบันทึกปริมาณน้ าเข ้าและและน้ าออก
จากร่างกาย
ต ัวอย่าง R 2 R
 ประดิษฐ์ชด
ุ ให ้อาหารทางสายยางทีบ
่ ้าน
 การประดิษฐ์เครือ
่ งขัดไข่ไก่สด
 อุปกรณ์ป้องกันโคเตะ
 การประดิษฐ์ล ้อยางรถจักยานยนต์แบบยางกึง่ ลม
 อุปกรณ์ลากจูงรถยนต์แบบพกพา
 การประดิษฐ์ถงั หมักปุ๋ยชวี ภาพกึง่ อัตโนมัต ิ
ั ว์ป่วย
 การประดิษฐ์เปลสนามเคลือ
่ นทีส
่ าหรับสต
ปั จจัยควำมสำเร็จ
ของ R2R
1. ผู บ
้ ริหำร มีวส
ิ ย
ั ทัศน์
เป้ ำหมำยและมี
่
ยุทธศำสตร ์ ทีมองเห็น
่
่
สิงทีเป็ นควำมสำเร็จ
ของหน่ วยงำนหรือ
องค ์กรได้อย่ำงช ัดเจน
่
และสำมำรถสือสำรให้
ปั จจัยควำมสำเร็จ
ของ
R2R
้
2. หัวหน้ำงำน ควรช่วยตังแต่
้
กำรตังโจทย ์ ให้ช ัดเจน และ
แนะนำวิธก
ี ำรทดลอง เก็บ
ข้อมู ลเป็ นต้น หำกทำไม่ได้
่
้
่
้
ควรมีพเลี
ี ยงหรือทีมพีเลียง
3. ผู ท
้ ำ R 2 R ควรทำเป็ นทีม
่
เพือให้เกิดกำรเรียนรู ้ และกำร
การวิเคราะห์
ข ้อเสนอโครงการ
การเขียน
ข ้อเสนอ
โครงการวิจัย
สถาบัน &
R2R
กำรวิเครำะห ์
และพัฒนำ
ข้อเสนอ
โครงกำร
R
2
R
สำนักบริหำรกำรวิจ ัย
มหำวิทยำลัยขอนแก่น
กำรวิเครำะห ์
โครงกำร
ใช้หลักกำรวิเครำะห ์จำกผล
้
่
ไปสู เ่ หตุโดยกำรตงค
ั ำถำม เพือ
กำรหำคำตอบ และนำไปเขียน
หรือจัดทำเป็ นรำยละเอียดของ
โครงกำร
้
ดงั นี
กำรวิเครำะห ์
โครงกำร
 ลักษณะงำนของหน่ วยงำนหรืองำนทีร่ ับผิดชอบอยู ่ เป็ นอยู ่
้
อย่ำงไร? มีกระบวนกำรหรือขันตอนในกำรด
ำเนิ นงำนหรือ
่ ำน
ให้บริกำรอย่ำงไรและกับใคร? และผลกำรดำเนิ นงำนทีผ่
มำเป็ นอย่ำงไรบ้ำง?
 มีปัญหำหรือข้อจำกัดใดบ้ำง? และอย่ำงไร? เคยแก้ปัญหำ
หรือปร ับปรุงหรือไม่ และผลเป็ นอย่ำงไร?
่
หำกไม่ใช่ปัญหำหรือข้อจำกัด มีโอกำสหรือแนวโน้มทีจะท
ำ
ให้ดก
ี ว่ำเดิมอย่ำงไร?
กำรวิเครำะห ์
โครงกำร

กรณี ทเป็
ี่ นปั ญหำ หำกไม่แก้ไข/ปร ับปรุง จะส่งผลเสียอย่ำงไร?
่ ขน
และต่อใคร? กรณี ทไม่
ี่ ใช่ปัญหำ หำกทำแล้วจะส่งผลทีดี
ึ้
อย่ำงไร ?

่ ำวมำ มีใครเคยศึกษำและเสนอวิธก
ปั ญหำ/ศ ักยภำพทีกล่
ี ำร
ปร ับปรุงแก้ไขหรือพัฒนำให้ดก
ี ว่ำเดิมอย่ำงไรบ้ำง? (กำร
ทบทวนผลกำรศึกษำ หรือ กำรประดิษฐ ์คิดค้นของผู อ
้ น)
ื่
กำรวิเครำะห ์
โครงกำร



จะมีแนวทำงหรือแนวคิดในกำรแก้ปัญหำ/ปร ับปรุง/พัฒนำ/ปั ญหำหรือ
่ ฒนำงำนของหน่ วยงำนหรือของตนอย่ำงไร จึง
กำรใช้ศ ักยภำพเพือพั
จะทำให้แก้ปัญหำ/ปร ับปรุง/พัฒนำในปั ญหำดังกล่ำวได้ หรือมีแนวทำง
่
หรือแนวคิดทีสอดคล้
องหรือแตกต่ำง หรือต่อยอดจำกผลงำนของผู อ
้ น
ื่
อย่ำงไร?
้ โจทย ์ทีต้
่ องกำรแก้ไข/ปร ับปรุง/พัฒนำในปั ญหำ หรือโอกำสนัน
้
ด ังนัน
่
่ ำหนดคืออะไร? (โจทย ์ที่
เพือให้
สอดคล้องกับแนวทำงหรือแนวคิดทีก
้ั นคำถำม เพือให้
่
จะนำไปกำหนดวัตถุประสงค ์ โดยอำจตงเป็
ง่ำยต่อกำร
่ อง)
่
นำไปกำหนดวัตถุประสงค ์ และปร ับเป็ นชือเรื
่ นอยู ่อย่ำงไร?
ทำแล้วจะได้อะไรและเกิดผลดีกว่ำทีเป็
กำรวิเครำะห ์
โครงกำร
วัตถุประสงค ์ของ
กำรวิ
จ
ัย
จะต้องทำอะไรบ้ำง จึงจะแก้ไขปั ญหำ/
่ ำหนดได้
ปร ับปรุง/พัฒนำตำมโจทย ์ทีก
? (2 – 3 ข้อ) เช่น ศึกษำ... ออกแบบ...
สร
้ำง...
ทดลอง...
ประเมิ
น
...
เป็
นต้
น
่
ผลทีจะได้ร ับ
้ั ้
อธิบำยเป็ นข้อๆว่ำกำรทำวิจ ัยครงนี
ทำแล้วจะได้อะไรบ้ำงและอย่ำงไร? (อิง
กำรวิเครำะห ์
โครงกำร
่
ระโยชน์ทคำดว่
ี
ำจะได้ร ับ
้
้
ผลจำกกำรวิจ ัยครงนี
ั จะสำมำรถ
นำไปแก้ไขปั ญหำ ปร ับปรุงหรือ
พัฒนำงำนของหน่ วยงำนหรือของ
ตนอย่ำงไร และใครคือผู ไ้ ด้ร ับ
ประโยชน์
กำรวิเครำะห ์
โครงกำร
กรอบแนวคิดหรือทฤษฎี- ถ ้ามี
แสดงกรอบแนวคิด หรือทฤษฎีของ
่
กำรวิจ ัยให้เห็นควำมเชือมโยงกับ
ปั ญหำและโจทย ์วิจย
ั (อธิบำยในรู ป
ของแผนภู ม ิ หรือค้นคว้ำทฤษฎีมำ
อ้ำงอิงก็ได้)
กำรวิเครำะห ์
โครงกำร
ขอบเขตกำรวิจ ัย
้
้
กำรวิจย
ั ครงนี
ั จะดำเนิ นกำร
โดยมีขอบเขตด้ำนสำระ
้
เนื อหำ ขอบเขตด้ำน
กลุ่มเป้ ำหมำยของกำรวิจ ัย
่
้
หรื
อ
อื
นๆ
รวมทั
งข้
อ
จ
ำกั
ด
(ถ้
ำ
่
ยะเวลำและสถำนทีทำวิจย
ั
มี
)
อย่
ำ
งไร
่
้
่
่
่
ดือนปี ทีเริมต้น-สินสุด และสถำนทีทีทำ
กำรวิเครำะห ์
โครงกำร
ธีกำรดำเนิ นกำรวิจย
ั
้
้
กำรวิจย
ั ครงนี
ั จะใช้วธ
ิ ก
ี ำรอย่ำงไร
่
(ทีสอดคล้องกับวัตถุประสงค ์)
แหล่งข้อมู ล ประชำกรและกลุ่ม
่
ตัวอย่ำง และกำรได้มำซึงกลุ่ม
ตัวอย่ำง วิธก
ี ำรเก็บข้อมู ล และ
่
่
เครื
องมื
อ
ที
ใช้
เ
ก็
บ
ข้
อ
มู
ล
กำร
วิธก
ี ำรดำเนิ นกำรวิจ ัย ต้องสอดคล้
อ
ง
่
กำรวิเครำะห ์
โครงกำร
ผนกำรดำเนิ นงำน
่
แสดงกิจกรรม (ทีสอดคล้องกับ
วัตถุประสงค ์) ช่วงเวลำ และ
ผู
ร
้
ับผิ
ด
ชอบในรู
ป
ของตำรำง
แผนปฏิ
บ
ต
ั
ก
ิ
ำร
้ั
ในแต่ละกิจกรรมจะมีขนตอนหรื
อมี
วิธก
ี ำรอย่ำงไร กลุ่มเป้ ำหมำย/กลุม
่
่ ำ ตัวชีวัด
้ ระยะเวลำ
ตัวอย่ำง จำนวนทีท
สถำนที่ ค่ำใช้จำ
่ ยและผู ร้ ับผิดชอบ โดย
ตัวอย่ำงตำรำงแผนปฏิบต
ั ก
ิ ำร
ลำ กิจกรรม
ดับ
ที่
้
ขันตอน/
วิธก
ี ำร
กลุ่มเป้ ำหมำย
/กลุ่มตัวอย่ำง
จำนวน
(หน่ วยนับ)
ครัง้
คน/กลุม
่
ตัวอย่าง
ตัวชีว้ ัด
ระยะเวลำ
เดือน
ที่
ระยะเวลา
ดาเนินการ
สถำน
ที่
ค่ำใช้จำ
่ ย
รายการ
จานวน
(บาท)
ผู ร้ ับผิด
ชอบ
กำรวิเครำะห ์
โครงกำร
นำค่ำใช้จำ
่ ยจำกวิธก
ี ำรและแผนงำนมำ
รวมเป็ นหมวดรำยจ่ำย ดังนี ้
1.ค่ำตอบแทน (ค่ำทำกำรนอกเวลำ) =
2.ค่ำใช้สอย (เช่น จ้ำงเหมำ, ถ่ำยเอกสำร
เป็ นต้น) =
3.ค่ำวัสดุ (อะไรบ้ำง) =
่ (ระบุ) =
4. ค่ำใช้จำ
่ ยอืนๆ
ฝำกไว้
จำกท่ำน ว.วชิรเมธี
์
"คนสำรำญ งำนสัมฤทธิ"
์
ไม่ใช่ "งำนสัมฤทธิ แต่ชวี ต
ิ
ไม่สำรำญ"
"กำรทำงำนประสำนกับ
คุณภำพชีวต
ิ
ขอบคุณ...และสวัสดี
Thank you!
Contact Address:
Prof. Somchai Doe
Tel:
Email:
www.kku.ac.th