tiptaleangpai56

Download Report

Transcript tiptaleangpai56

ลิลติ ตะเลงพ่าย
โดย ครูภาทิพ ศรีสุทธิ์
โรงเรียนสุ ราษฎร์ ธานี
ลักษณะคาประพันธ์ :ลิลติ
ประกอบด้ วยร่ ายสุ ภาพ โคลงสองสุ ภาพ โคลงสามสุ ภาพ และโคลงสี่ สุภาพ
โดย ครูภาทิพ ศรีสุทธิ์
โรงเรียนสุ ราษฎร์ ธานี
ลักษณะคาประพันธ์ :ลิลติ
ประกอบด้ วยร่ ายสุ ภาพ โคลงสองสุ ภาพ โคลงสามสุ ภาพ และโคลงสี่ สุภาพ
โคลงสองสุ ภาพ
สองสุ ริยพงศ์ ผ่านหล้ า ขับคเชนทร์ บ่ายหน้ า
แขกเจ้ าจอมตะเลง แลนา
โดย ครูภาทิพ ศรีสุทธิ์
โรงเรียนสุ ราษฎร์ ธานี
ลักษณะคาประพันธ์ :ลิลติ
ประกอบด้ วยร่ ายสุ ภาพ โคลงสองสุ ภาพ โคลงสามสุ ภาพ และโคลงสี่ สุภาพ
โคลงสามสุ ภาพ
ภูบาลอืน้ อานวย อวยพระพรเลิศล้น
จงอยุธย์ อย่ าพ้น แห่ งเงือ้ มมือเทอญ พ่อนา
โดย ครูภาทิพ ศรีสุทธิ์
โรงเรียนสุ ราษฎร์ ธานี
ลักษณะคาประพันธ์ :ลิลติ
ประกอบด้ วยร่ ายสุ ภาพ โคลงสองสุ ภาพ โคลงสามสุ ภาพ และโคลงสี่ สุภาพ
โดย ครู ภาทิพ ศรีสุทธิ์
โรงเรียนสุ ราษฎร์ ธานี
พระนิพนธ์
สมเด็จพระมหาสมณเจ้ า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส
พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
มหาราช เป็ นสมเด็จพระสั งฆราชพระองค์ ที่ ๗ แห่ ง
อาณาจักรรัตนโกสิ นทร์ และเป็ นพระราชวงศ์ พระองค์ แรกที่
ทรงได้ รับสถาปนาให้ ดารงตาแหน่ งสมเด็จพระสั งฆราช
ทรงสถิต ณ วัดดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
โดย ครูภาทิพ ศรีสุทธิ์
โรงเรียนสุ ราษฎร์ ธานี
ทีม่ า
ลิลิตตะเลงพ่าย ได้เค้าเรื่ องมาจาก
พงศาวดารสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
โดย ครูภาทิพ ศรีสุทธิ์
โรงเรียนสุ ราษฎร์ ธานี
เรื่องย่ อ
กล่าวถึงการเสด็จเสวยราชสมบัติสืบต่อจากพระราชบิดา
และมีพระราชประสงค์ที่จะเสด็จไปตีเขมร
เพื่อเป็ นการแก้แค้นเขมรที่ยกทัพมาตีชายแดนไทย
โดย ครูภาทิพ ศรีสุทธิ์
โรงเรียนสุ ราษฎร์ ธานี
เรื่องย่ อ ๒
ต่อจากนั้น เนื้อเรื่ องกล่าวถึงพระเจ้าหงสาวดีโปรดให้
พระมหาอุปราชากรี ฑาทัพมาตีไทย เมื่อสมเด็จพระนเรศวรทรงทราบ
ข่าวศึกก็ยกทัพเสด็จออกไปทาศึกนอกพระนคร ระหว่างที่ทพั พม่า
ปะทะกับทัพหน้าของไทย ช้างทรงของสมเด็จพระนเรศวร และของสมเด็จพระ
เอกาทศรถตกมันวิ่งเข้าไปท่ามกลางข้าศึกตามลาพัง
สมเด็จพระนเรศวรทรงระงับความตกพระทัย และตรัสท้า
พระมหาอุปราชากระทาสงครามยุทธหัตถี
โดย ครูภาทิพ ศรีสุทธิ์
โรงเรียนสุ ราษฎร์ ธานี
ลิลติ ตะเลงพ่าย : เนือ้ เรื่อง
ญ าขัวมาไม่
ณฑ์ เขตด้
าวอัสาดงขณะนี
หงสาวดี
้ เหตุบอมิพระมหาธรรม
หึง แห่ งเอิกอึง
ฝ่ ฝ่ายพระนครรามั
ายมอญทราบข่
นานว่
ก้ ษัตบริุเรศ
ย์อรัยุ่วธรูยาคื
กิราชาสวรรคต
ดาการ ฝ่ ายพระสุ
ธารออกทิศ ว่ าอดิศน
ตรา พระเจ้ านันทบุเรงทราบ
พระนเรศวรโอรสขึ
้ วรกษั
ครองราชย์
มหาธรรมราชนริ
ทร์ บเจ้รรดาอ
าปถพินามาตย์
ทร์ ผ่านทวี
พิราลัดยเปลีย่ นผู้ครอง
ดังนั้น จึงกล่นาวแก่
ว่ าปกรุดังบศรีชนมชี
อยุธพยาผลั
เอารสไทนฤเบศ
นเรศวรเสวยสวรรยา
งกิจจาตระหนั
ก จึ่งพระปิบ่ พระเอกาทศรถ
นปัก
เมือง อาจจะมี
การชิงบัลลังก์กนั แจ้ระหว่
างพระนเรศวรกั
ธาษตรี
บุรีรัตนหงสาพธก็
บัญชาพิดภหากว่
าษ ด้ วายมวลมาตยากร ว่ านครรามินทร์
เราควรจะยกทั
ไปประชิ
ผลั
ด
แผ่
น
ดิ
น
เปลี
ย
่
นราช
เยี
ย
ววิ
ว
าทชิ
ง
ฉั
ต
ร
เพื
อ
่
กษั
ต
ริ
ย
์
ส
องสู
้
บร้
า
งรู
้
เ
หตุ
ผ
ล
เขาแตกสามัคคีกนั จะได้ โจมตี
ควรยาตรพลไปเยือน เตือนประยุทธ์ เอาเปรียบ แม้ นไป่ เรียบเป็ นที
โจมจู่ยยี า่ ภพ
ลิลติ ตะเลงพ่าย : เนือ้ เรื่อง
 เสนี
บรรดานายทหารก็
เห็นชอบ พระเจ้
านันทบุธเรงก็
สกับ

นบนึกชอบ ระบอบเบื
อ้ งบรรหาร
ก็เอืตอ้ รันสารเสาวพจน์
แด่
โอรสให้
ยกทัพไปร่องค์
วมกัอบศิ ทัเรศอุ
พของเชี
ยงใหม่
อยุธยา พ
เอารสยสเยศ
ปราช
ให้ ยไปตี
กยาตราทั
ปราชาได้
ฟังหพระราชด
ารัสก็กไปเหยี
ล่าวว่ ายโหรท
านายว่ า น
กับพอพระมหาอุ
นครเชียงใหม่
เป็ นพยุ
ใหญ่ ห้าแสน
บแดนปราจิ
พระองค์ มีเคราะห์ จะถูกฆ่ า
บุตรท่ านยินถ้ อถ้ อย ข้ อยผู้ข้าบาทบงสุ์ โหรควรคงทานาย
ทายพระเคราะห์ ถึงฆาต
ลิลติ ตะเลงพ่าย : เนือ้ เรื่อง
พระเจ้ านันทบุเรงได้ ฟังก็พูดประชดไปว่ าพระมหาธรรมราชามีโอรส
ฟังสารราชเอารส ธ ก็ผะชดบัญชา เจ้ าอยุธยามีบุตร
ไม่ ต้องใช้ ให้ ทาศึกสงคราม อาสาออกศึกโดยมิย่อท้ อ หากพระมหาอุปราชากลัวจะมี
ล้วนยงยุ
ทธ์กเใ็ ชีห้่ยเอาเสื
วชาญ
กศึกบมิอ่ สะเดาะเคราะห์
ย่อ ต่ อสู้ สึกบมิหยอน
เคราะห์
้อผ้าหาญหั
สตรีมาสวมเพื
ไป่ พัพระมหาอุ
กวอนว่ปาใช้ราชาได้
ให้ ธฟังหวง
ธ ห้ าม แม้ามาตย์
นเจ้ าคร้หน้ามเคราะห์
ก็อบั อายบรรดาอ
าซีด เสี ยใจกาจ
จงอย่
ายาตรยุวพระราชอาชญาก็
ทธนา เอาพัสตราสตรี
สวมอินทรีย์สร่ างเคราะห์
ด้ วยความกลั
รีบทูลลาออกไป

ธ ตรัสเยาะเยีย่ งขลาด
องค์ อุปราชยินสาร แสนอัประมาณมาตย์ มวล นวลพระพักตร์ ผ่อง
เผือด เลือดสลดหมดคลา้ ช้ากมลหมองมัว กลัวพระอาชญายอบ
นอบประณตบทมูล ทูลลาไท้ ลลี าศ
ลิลติ ตะเลงพ่าย : เนือ้ เรื่อง
 ธ ก็พระมหาอุ
ประกาศเกณฑ์
บอกยุบลบ่ มไพร่
หิ ึงพถึลไปถึ
งเชียงงใหม่
ระบั
ปราชารีพบลประกาศเกณฑ์
หัวเมืตองต่
างๆด
เมือรงต่
ต่ างก็แล้ตวกแต่
งยกทัพบอกทุ
มา กแดนทุกด้ าว
เร่ งบรรดาหั
แจงจัดวจตุ
งค์างทราบข่
ลงมาสู่ หาวงสา
ธให้งม้หาและช้
าเมือางออก
มากมายกท้บรรดาไพร่
วยหลายเชื
้อชาติภมาษา
ต่ างแต่ งกายออกรบ
บอกทุ
าวทุกเทศพทัลมากไปด้
ว่ ทุกเขตทุ
กขอบ รอบสี
ามณฑล
ทราบนุสนธิ์
ทุทีก่ขแห่
งตกแต่
งแสะสารว แสนยาหาญมหิมา คลาบรรลุเวียงราช
้ าศึกงเห็ต่นาแล้
วต้ องหวาดกลั
แลสระพราศสระพรั
่ง คัง่ คับนทันัพบหลวง
เหลือตรา
ต่ างภาษาต่
ทั้งนีพ้ ระมหาอุปราชาจะเป็
ตามรูปแบบการจั
ดทัพางเพศ พิเศษ
สรรพแต่
งตน ข้่ งาเช้ศึากแล้
ยลแสยงฤทธ์
ร ธวเที
โดย
จะเสด็จในเวลารุ
วพระองค์ กเ็ สด็จเข้บพิ
าวังตไปด้
ยหัยวบทั
ใจทีพห่ หลวง
ม่ นหมอง
กระทรวงพยุหบาตร จักยาตราตรู่ เช้ า เสด็จคืนเข้ านิเวศไท้ เกรียมอุระ
ราชไหม้ หม่ นเศร้ าศรีสลาย อยู่นา
ลิลติ ตะเลงพ่าย : เนือ้ เรื่อง บทสั่ งนาง
พระผาดผายสู
่ ห้อางห้ องไปพบกับหาอนุ
ชนวลน้ อง
พระมหาอุ
ปราชาเข้
บรรดานางสนมสาวๆ
หนุ่มเหน้ าพระสนม
ทุกคนรอปรนนิบัติพระองค์ ด้วยความเรียบร้ อยอ่อนหวาน
ปวงประนมนบเกล้
า
งามเสงี
่ยมเฟีจยมเฝ้
า
พระองค์
คลอเคลียกับบรรดานางสนม
พระองค์
าต้ องจาก
อยู่ถ้าทูลสนอง
ห่ างหายความรักเสน่ หาจากพวกนาง
กรตระกองกอดแก้
ว ่ ทางนีอ้ ย่เรีาเสียยมจัใจเลยไม่
กร้ างรสแคล้
ว บมา
พระองค์
จาใจจาก นางอยู
นานจะกลั
คลาดเคล้าคลาสมร
จาใจจรจากสร้ อย
ห่ อนช้ าคืนสม แม่ แล
อยู่แม่ อย่ าละห้ อย
ลิลติ ตะเลงพ่าย : เนือ้ เรื่อง พระเจ้ ากรุงหงสาวดีประทานโอวาท

หงสาวดี
ประทานโอวาท
 พระเจ้
พระเจ้าากรุ
นันงทบุ
เรงให้ โอวาท
ขอให้ อยุธยาจงตกอยู่ในเงือ้ มมือของพระมหาอุปราชา
ภู
บ
าลอื
น
้
อ
านวย
อวยพระพรเลิ
ศ
ล้
น
ขอให้ มีชัยชนะ ชาวอยุธยาอย่ าสู้ พระองค์ ได้ ให้ แพ้พระองค์
จงอยุธย์ อย่ าพ้น
แห่ งเงือ้ มมือเทอญ พ่อนา
และให้ ชนะพระนเรศวรและพระเอกาทศรถ

จงเจริญชเยศด้ วย
ชาวอยุธย์ อย่ าพะ
จงแพ้พนิ าศพระ
ชนะแด่ สองท่ านไท้
เดชะ
พ่อได้
วิริยภาพ พ่อนา
ธิราชเจ้ าจอมสยาม
ลิลติ ตะเลงพ่าย : เนือ้ เรื่อง พระเจ้ ากรุงหงสาวดีประทานโอวาท
สงครามเต็
สงครามความเศิ
กซึาหู้ง เบาคิแสนกล
มไปอุบาย จงอย่
ดอะไรตืน้ ๆ
จงพ่ออย่ ายินยล
อย่ าลองคะนองตน
การศึกลึกเล่ ห์พนื้
แต่ ตนื้
ตามชอบ ทานา
ล่ อเลีย้ วหลอกหลอน
ลิลติ ตะเลงพ่าย : เนือ้ เรื่อง พระเจ้ ากรุงหงสาวดีประทานโอวาท
๑.จงเข้
งคาสอนตามแบบโบราณ
 าใจถึจงแจ้
งแห่ งเหตุเบือ้ ง โบราณ
๒. จงเอาใจทหารให้
มอยู่เสมอ กล่ าวไว้
เป็ นประโยชน์ฮยึกุทเหิธการ
๓. อย่เอาใจทหารหาญ
าไว้ ใจคนทีข่ ขี้ ลาดและโง่ เขลา เริงรื่น อยู่นา
อย่ าระคนปนใกล้
เกลือกกลั้วขลาดเขลา
ลิลติ ตะเลงพ่าย : เนือ้ เรื่อง พระเจ้ ากรุงหงสาวดีประทานโอวาท
๕. ควรรอบรู้ในการจัดกระบวนทัพ
๖. รู้หลักหนึ
พิชัย่งสงคราม
รู้ พยุหเศิการตั
กไสร้้งค่ าย
เจนจิตวิทยาการ
รู้ เชิงพิชัยชาญ
อาจจักรอนรณแผ้ ว
สบสถาน
กาจแกล้ ว
ชุมค่ าย ควรนา
แผกแพ้พงั หนี
ลิลติ ตะเลงพ่าย : เนือ้ เรื่อง พระเจ้ ากรุงหงสาวดีประทานโอวาท
๗.รู้จกั ให้บาเหน็จความดีความชอบแก่แม่ทพั นายกองที่เก่งกล้า
หนึ่งรู้ บาเหน็จให้
ขุนพล
๘.อย่าลดความเพียรหรื ออย่าเกียจคร้าน
อันสมรรถมือผจญ
อย่ าหย่ อนวิริยะยล
แปดประการกลเทีย้ ร
จืดเสี้ยน
อย่ างเกียจ
ถ่ องแท้ ทางแถลง
ลิลติ ตะเลงพ่าย : เนือ้ เรื่อง
จงจาที่พ่อสอน ขอสมพรที่พ่อมอบ มีความสามารถในการรบ
จงจาคาพ่อไซร้
สั่ งสอน
กับศัตรู และสามารถเผด็จศึกอยุธยาได้ สาเร็จ


จงประสิ ทธิ์สมพร
จงเรืองพระฤทธิ์รอน
จงพ่อลุลาภได้
พ่อให้
อริราช
เผด็จด้ าวแดนสยาม
ลิลติ ตะเลงพ่าย : พระมหาอุปราชาราพันถึงนาง ลีลานิราศ
รู้สึกมาเดี
เปลีย่ ยวใจ
ชมพรรณไม้
ก็รู้สึกเบิ
กบานใจ
วเปลีเมืย่ ่อวอกอ้
า
อายสู
สถิคตดิ อยูถึ่งเอ้บรรดานางสนม
องค์ ดู
ละห้ อย
ทาให้
ก ใจนา า
เมื่อพิเห็ศโพ้
นต้นนพฤกษ์
สลัดใดพทบูาให้ คดิ ว่ าทาไมต้ องสลับานเบิ
ดนางมานอนในป่
พลางคะนึงนุชน้ อย
แน่ งเนือ้ นวลสงวน
การมาทาสงครามทาให้ ต้องสละนางมาเหมือนชื่อต้ นสละ
สลัดไดใดสลัดระก
น้ อาเหมื
ง อนกับชื่อต้แหนงนอน
ในทรวงอกของพระองค์
นระกา ไพรฤๅ
เพราะเพือ่ มาราญรอน
เศิกไสร้
สละสละสมร
เสมอชื่อ ไม้ นา
นึกระกานามไม้
แม่ นแม้ นทรวงเรียม
ลิลติ ตะเลงพ่าย : พระมหาอุปราชาราพันถึงนาง ลีลานิราศ
เล่นคาว่ า สายหยุ
“สายหยุดดหยุ
” ดอกสายหยุ
ด
เมื
อ
่
เวลาสายก็
ห
ยุ
ด
ส่
ง
กลิ
น
่
ดกลิน่ ฟุ้ ง
ยามสาย
แต่สายบ่
ความคิ
งของพี
ะผ่ านไปนานเท่ าใดไม่ห่มาหี งเศร้
ยุดเลย
หยุดดถึเสน่
ห์หจ่ าย
า
กีค่ นื กีว่ นั วาย
ถวิลทุกขวบคา่ เช้ า
วางเทวษ ราแม่
หยุดได้ ฉันใด
ลิลติ ตะเลงพ่าย : ลางร้ ายของพระมหาอุปราชา
พระมหาอุ
พระฝืปนทุ
ราชาเดิ
กข์ เทวษกล
นทางมาด้
า้ วยความทุ
แกล่ครวญ
กข์ จวบจนกระทัง่ เย็น
จักเพล้
มาถึขับรรลุ
งบป่ คชบทจรจวน
าพนมทวน
เกิ
ด
เหตุ
ร
้
า
ยขึ
น
้
พนมทวน
เถื่อนที่ นั้นนา
อนาถหนั
เกิดเหตุ
หมอกมื
ดทัว่ กท้เอ้องฟ้า คือลมเวรัอาจให้
มภา พัชดนเห็
อย่ านงรุนแรงจนฉัตร
บนช้ างทรงขาด ฝุ่ นคลุ้งไปรวดเร็วประหนึ่งการหมุนของจักร

เกิดเป็ นหมอกมืดห้ อง
ลมชื่อเวรัมภา
หวนหอบหักฉัตรา
แลธุลกี ลัดกลุ้ม
เวหา หนเฮย
พัดคลุ้ม
คชขาด ลงแฮ
เกลือ่ นเพีย้ งจักรผัน
ลิลติ ตะเลงพ่าย : ลางร้ ายของพระมหาอุปราชา

พระพลัปนราชาเห็
เห็นเหตุนไดัซร้
ยวดวง น่ แดเอย
พระมหาอุ
งนั้นรู้สึกเสีหวาดหวั
ประหนึ่งถูกภูเขา
ถนั
ด
ดั
ง
่
ภู
ผ
าหลวง
ตกต้
อ
ง
หล่นทับ พระพักตร์ ซีดเรียกให้ โหรทานาย
กระหม่ ากระเหม่ นทรวง
สั่ นซีด พักตร์ นา
บรรดาโหรต่
ทราบเหตุ
หนักหฤทัยท่าางมี
นร้คอวามเชี
ง ่ยวในศาสตร์
เรียกให้
โหรทายร้ายทีจ่ ะเกิดขึน้
แต่ ไม่ กล้ากล่าวความจริงเกรงพระราชอาชญา จึงทูลว่ าเป็ นเรื่องดี


ทั้งหลายล้วนจบแจ้ ง
เห็นตระหนักแน่ ใน
จักทูลบ่ ทูลไท
เสนอแต่ ดีกลบร้ าว
เจนไสย ศาสตร์ แฮ
เหตุห้าว
เกรงโทษ ท่ านนา
เกลือ่ นร้ ายกลายดี
ลิลติ ตะเลงพ่าย : ลางร้ ายของพระมหาอุปราชา
โหรทูลว่ าหาก ลมเวรัมภาพัดในเวลาเช้ าจะเกิดเหตุร้าย
นีผ้ วิ เช้ าชัน่วเป็ นสิ่ งดี พระองค์
ฉุกเข็ญท่าน อย่ าทุกข์ ร้อนเลย
แต่ นี่เเหตุ
กิดในยามเย็
เกิ
ด
เมื
อ
่
ยามเย็
น
ดี
ดอกไท้
พระองค์ จะสามารถเผด็จศึกครั้งนีไ้ ด้ สาเร็จ
อย่ าขุ่นอย่ าลาเค็ญ
ใจเจ็บ พระเอย
พระจักลุลาภได้
เผด็จเสี้ยนศึกสยาม

ลิลติ ตะเลงพ่าย : พระมหาอุปราชาราพึงถึงบิดา

พระมหาอุปราชา
ยังนทรงหวาดหวั
ตกกั
สระเทิ
สระทกแท้น่ ไม่ คลายความวิ
ไทถวิล อยู
่ เฮยงวล
ฤๅใคร่ คคลายใจจิ
นต์ ดาคือพระเจ้ านันจืทบุ
ดสร้
พระองค์
ดิ ถึงพระราชบิ
เรงอยิยง่ คร่าครวญ
งนฤบดินดทร์
พระแฮ
ว่คาถ้านึ
าพระราชบิ
าคือพระเจ้ านันทบุเรงต้ อบิงเสีตุเยรศ
พระองค์
ไป
พระเร่ งลานละห้ อย
เทวษไห้ โหยหา
พระเจ้ านันทบุเรงคงจะเสี ยพระทัยมากประหนึ่งถูกตัดแขน
อ้ าจอมจักรพรรดิผ้ ู
แม้ พระเสี ยเอารส
จักเจ็บอุระระทด
ถนัดดัง่ พาหาเหีย้ น
เพ็ญยศ
แก่ เสี้ยน
ทุกข์ ใหญ่ หลวงนา
หั่นกลิง้ ไกลองค์
ลิลติ ตะเลงพ่าย : พระมหาอุปราชาราพึงถึงบิดา
การสู้ รบกับณรงค์
พระนเรศวรซึ
นเรศวร์่งเป็ด้านศั
ว ตรู ใครจะสามารถสู
ดัสกร ้ ได้
กอาจออกรอน
้
แผ่ นใครจั
ดินมอญ(พม่
า)คงจะล่มสลาย เพราะไม่รบสู
มีผู้ใดทานฝี
มือ
เสี ยดายแผ่ นดินมอญ
พลันมอด ม้ วยแฮ
พระนเรศวรได้
เหตุบ่มีมือผู้
อืน่ ต้ านทานเข็ญ
สงสารพระราชบิดา คงจะเปลีย่ วใจสลดใจ พระองค์
(พระเจ้ านันทบุเอ็เรง)เป็
ตริยา์ ที่ชราแล้วเกรงว่
าจะพลาดให้
นดูภนกษั
จอมถวั
ลย์ กบั
ูธเรศเจ้
อยุธยา
เปลีย่ วอุระราชรันทดแท้
พระชนม์ ชราครัน
เกรงบพิตรจักแพ้
ครองภพ พระเอย
เพลีย่ งพลา้ ศึกสยาม
ลิลติ ตะเลงพ่าย : พระมหาอุปราชาราพึงถึงบิดา
สงครามครัสงครามครานี
้ งนีเ้ ป็ นสงครามที
ปราชารู้ สึก
ห้ นัย่ งิ่กใหญ่ พระมหาอุ
ใจเจ็บ ใจนา
เรียมเร่น่ ใจงแหนงหนาวเหน็
บ สิ้นพระชนม์
อกโอ้คงจะไม่ มีใครเก็บ
หวาดหวั
เกรงว่ าหากพระองค์
ลูกตายฤใครเก็
บ กทิง้ ไว้อย่างโดดเดี่ยผีวฝาก พระเอย
พระศพกลั
บไป คงจะถู
ผี
จ
ก
ั
เท้
ง
ที
โ
่
พล้
ที
เ
่
พล้
ใ
ครเผา
พระราชบิดา(พระเจ้ านันทบุเรง) คงจะโดดเดี่ยวไร้ ที่ปรึกษา
และร่ วมรบ พระเนานั
ทาการคงไม่คสเรศอ้
าเร็จาพระองค์ คงจะคั
บ
แค้
น
พระทั
ย
เอองค์


ฤๅบ่ มีใครคง
จักริจกั เริ่มรงค์
พระจักขุ่นจักข้ อน
คู่ร้อน
ฤๅลุ แล้ วแฮ
จักแค้ นคับทรวง
ลิลติ ตะเลงพ่าย : พระมหาอุปราชาราพึงถึงบิดา
พระคุณของพระเจ้
านันทบุยเบพื
รงเปรี
ผืนแผ่ นดินตั้งแต่
พระคุณตวงเพี
น้ ยบได้ภูกวบั ดล
เหนืเต็อมจรดใต้
พระองค์
คอื ผู้ให้ ชีวติ หวัน่ ใจเหลื
อเกินว่ าจะไม่ ได้
ตรลอดแหล่
งบน
บ่ อนใต้
กลัพระเกิ
บไปทดแทนพระคุ
ณ
ดพระก่ อชนม์
ชุบชีพ มานา


เกรงบ่ ทนั ลูกได้
กลับเต้ าตอบสนอง
ลิลติ ตะเลงพ่าย : พระสุ บินและพระนิมติ ของสมเด็จพระนเรศวร
เทวดามาดลใจให้
ระนเรศวรทรงพระสุ
บิน ว่ าสัมีงกหร
ระแสน
หลาก
เทวัญพแสดงเหตุ
ให้
เห็นา้ แฮ
มาท่ วมป่ าที่ต้งั ทัพ โดยนา้ นั้นมาจากทิศตะวันตก พระองค์
เห็นกระแสสาคร
หลัง่ ล้ น
มองไปที่นา้ นั้น
ไหลลบวนาดอน
แดนตก ทิศนา
พระแต่
เ
พ่
ง
ฤๅพ้
น
ที
น
่
า
้
นองสาย
พระองค์ เดินลุยนา้ ไปพบกับจระเข้ ตัวใหญ่ จระเข้ โถมใส่ จะกัด
พระกรายกรย่
อ้ ง ในแผ่ นดินทีจรลี
พระองค์
(เจ้ าช้ าง=ผู้เป็างเยื
นใหญ่
ม่ ชี ้ างมาก )
ลุยมหาวารี
เรี่ยวกว้ าง
พอพานพะกุมภีล์
หนึ่งใหญ่ ไสร้ นา
โถมปะทะเจ้ าช้ าง
จักเคีย้ วขบองค์
ลิลติ ตะเลงพ่าย : พระสุ บินและพระนิมติ ของสมเด็จพระนเรศวร
พระทรงแสงดาบแก้
ว สะเทือนทักัว่ บท้กร
พระนเรศวรใช้
ดาบต่ อสู้ กบั จระเข้
องนา้
โจมประจัญฟันบจระเข้
ฟอน และฆ่าจระเข้ ตาย นเฟืา้ ่ ทีองน
า้ าอยู่
พระนเรศวรโถมถี
ท่ ่ วมป่
งฤทธิง พระองค์
์ต่างรบรอน
ก็เหืต่อาดแห้
ยนิ ดีทสี่ ามารถเผด็จศึกสิ้นราญชี
ศัตรู ไพป กันแฮ
สระท้
า
นทุ
ก
ถิ
น
่
ท่
า
ถ
า
้
ท่
ง
ท้
อ
งชลธี
(กษัย=สิ้นไป)
นฤบดีโถมถีบสู้
ฟอนฟาดสุ งสุ มาร
สายสิ นธุ์ซึ่งนองพนานต์
พระเร่ งปรีดาด้ วย
ศึกธาร
มอดม้ วย
หายเหือด แห้ งแฮ
เผด็จเสี้ยนเศิกกษัย
ลิลติ ตะเลงพ่าย : พระสุ บินและพระนิมติ ของสมเด็จพระนเรศวร
เมือ่ พระองค์
สร่ างบรรทม
านาย ลย์
ทันใดดิ
ลกเจ้ า พระองค์ให้ โหรทจอมถวั
โหรรู
จ้ งในความฝัลฝันถวายค
สร่ า้ แงผทมถวิ
น าทานายว่ า ฝันห่ของพระองค์
อนรู้ เกิด
จากเทวดามาดลใจ
พระหาพระโหรพลัน
พลางบอก ฝันนา
ความฝันมี ๔ ประเภท
เร็๑.วปุเร่พงพนิ
ทายโดยกระทู
้ งกุศลธรรมทีหรื
่ถ้ออยตู
ถลง
มติ ด้ วยอานาจแห่
อกุแศลธรรม
พระโหรเห็
นแจ้ งจบตหน่วงเอาอารมณ์
ในมูล ทฝัี่ตนนได้
แฮเห็น
๒. จิตอาวรณ์
ด้วยอานาจของจิ
ถวายพยากรณ์
ทูล ว (ฝันนี้ไม่แน่นอน)แด่ ไท้
ได้
ยนิ หรื อได้พบมาแล้
๓.สุเทพสั
งหรณ์
ี ชี้นิมติ ฝันให้ ปรากฏ
บินบดิ
นทร์ด้สวยอ
ฝันร้าใฝ่ย เหตุ
นั้นดฤๅ
ู ร านาจเทวดามาบอกเหตุ
๔. ธาตุกาเริบ บุคคลที่ธาตุกาเริ บ เช่นท้องใส้ไม่ปกติ ก็ทาให้ฝันไปต่างนนานา
หากเทพสั งหรให้
ธิราชรู้ เป็ นกล
ลิลติ ตะเลงพ่าย : พระสุ บินและพระนิมติ ของสมเด็จพระนเรศวร
โหรทานายว่นุาสทีนธิ
่พระองค์
เห็า้ นว่ านา้ ท่ วนองพนา
มป่ ามาทางทิ
ตะวันตกนั้น
์ ซึ่งน่ านน
สณฑ์ศเฮย
หนปัจงทัฉิมพทิของมอญ
ศา
หมายถึ
ซึ่งเป็ นศัตรู ท่ วมไซร้
คือทัพอริรามัญหมู่ นีน้ า
ส่ วสมดั
นภัง่ยลัทางน
ปราชานั
เอง
กษณ์า้ ฝ(จระเข้
ันไท้ ) ก็คอื พระมหาอุ
ธเรศนั
้ นอย่่นาแหนง
สงครามครั้งนีอ้ าจจะยิง่ ใหญ่ ถึงขั้นการทายุทธหัตถี

เหตุแสดงแห่ งราชพ้อง
ได้ แก่ อุปราชา
สงครามซึ่งเสด็จครา
แท้ จักถึงยุทธ์ สู้
ภัยชลา
เชษฐ์ ผู้
นีใ้ หญ่ หลวงแฮ
ศึกช้ างสองชน
ลิลติ ตะเลงพ่าย : พระสุ บินและพระนิมติ ของสมเด็จพระนเรศวร

และทีพ่ ระองค์
สามารถเอาชนะจระเข้
(เดชะ
ศึกนา้ )ก็คอื ศัตรู
ซึ่งผจญอริ
ราชด้ วย
จะต้เพืออ่ งถูพระเดโชชนะ
กฆ่ าด้ วยพระแสงของ้ าว ศึกนา้
คือองค์ อมิตรพระ
จักมอด เมือเฮย
ทีเพราะพระหั
พ่ ระองค์ ลยุ ตนถ์า้ ก็หคากห
อื พระองค์
จะสามารถก
ดศัตรู ได้
า้
หั่นด้ วาจัยขอคม
ศัตรูจะไม่ สามารถเอาชนะพระองค์ ได้ พระองค์ จะได้ รับชัยชนะ
เบือ้ งบรมขัตติย์ท่องท้ อง แถวธาร
ดังพระองค์
พระจักไล่ใฝ่ลฝัยุ นลาญ
เศิกไสร้
ริปูบ่รอราญ
ฤทธิ์ราช เลยพ่อ
พระจักชาญชเยศได้
ดั่งท้ าวใฝ่ ฝัน
ลิลติ ตะเลงพ่าย : พระสุ บินและพระนิมติ ของสมเด็จพระนเรศวร
เมื่อพระนเรศวรได้
ฟังคาทานายพระองค์
ดีใจมากหากเป็
นไปตาม
ครั้นบดินทร์ ดาลได้
สดับพยากรณ์
ไท้
ราชแผ้
คธิาท
านายวพูนเกษม
พระองค์เปรมปรี
ทรงเครืด่อ์ปิ งออกรบอย่
เช่ นเดียวกับพระเอกาทศรถ
ราโมทย์ แท้ างงดงาม
เพราะพระโหรหากแก้

กล่ าวต้ องตามฝัน
พระพลันทรงเครื่องต้ น
แหล่ งหล้ าควรชม ชื่นนา
งามประเสริฐเลิศล้ น
สมเด็จอนุชาน้ องแก้ ว
เพริศพร้ อมเพราตา ยิง่ แฮ
ทรงสุ ภาภรณ์ แพร้ ว
ลิลติ ตะเลงพ่าย : พระสุ บินและพระนิมติ ของสมเด็จพระนเรศวร
พระนเรศวรและพระเอกาทศรถ
บเพืยบอ่ ทรงช้
าง
สองขั
ตติยายุรยาตร ยังเกยราชหอทัมายั
พ ขุงนเกยที
คชขั่ปบระทั
ช้ างเที
ทวยหาญ
บแผ่ นภู ดูทัม้งหิสองพระองค์
มาดาดาษสระพราศพร้
อมโดยขบวน
องค์้ นอดิศวรสอง
ไพร่เพีพยลมากมาย
คอยฤกษ์ เคลื
อ่ นทัพ ทันใดนั
กษัตริไยด้์ คอยนฤขั
ตรพิชัย บัริกดธาตุ
เดี๋ยวไททฤษฏี
ารีรย้ ิกงบรมธาตุ ไข
พระองค์
เห็นพระบรมสารี
ส่องสว่ างเท่พระศรี
าผลส้ มสเกลี
โอภาสโศภิต ช่ วงชวลิตพ่างผล ส้ มเกลีย้ งกลกุก่อง ฟ่ องฟ้าฝ่ ายทักษิณ
ลอยมาทางทิศใต้ เวียนขวา ๓ รอบกองทัพแล้วหายไปทางทิศเหนือ
ผินแวดวงตราทัพ นับคารบสามครา เป็ นทักษิณาวรรตเวียน ว่ าย
ทั้งฉวั
สองพระองค์
ดเฉวียนอัมทพราความเคารพ
ผ่ านไปอุดรโดยด้ าว พลางบพิตรโทท้ าว ท่ านตั้งสดุดี

อยู่นา
ลิลติ ตะเลงพ่าย : พระสุ บินและพระนิมติ ของสมเด็จพระนเรศวร
เคลือ่ นพลตามเกล็
เป็ นการเคลื
าราพิพชถััยบ
เคลืพระองค์
่อนพลตามเกล็
ดนาค ตากเต็ดมนาค(
ท่งแถวเถื
่อน เกลือ่ ่อนทั
นกล่พนตามต
แสนยาทั
สงครามโดยก
พนาคหันหัวภไปทิ
ศใดให้
เคลือ่ น
ปะทะไพริ
นทร์าหนดว่
ส่ วนหัสาวัดินนทีอุเ่ ภคลืยั อ่ เจ้นทั
าพระยาไชยานุ
าพ เจ้
าพระยาปราบ
ทัพไปทางทิ
ศนั้นจะเป็
จนปะทะกั
กองทั
างพระ
ไตรจั
กร ตรับตระหนั
กสนสิ
าเนีรยิมงงคล)
เสี ยงฆ้
องกลองปืบนศึ
ก อึพกข้เอิากศึก้กอช้งกาหล
ั่งทั้งสอง
าพ นและ
พระยาปราบไตรจั
กร ได้
เร่ทีงคน่ ารนเรี
ยกมัคืนอ ชัพระเจ้
นหูชูหาไชยานุ
างเล่นภแปร้
แปร๋เจ้แาลคะไขว่
บาทย่างใหญ่
ดุ่
ง ฆ้รอิ ยงาร่กลอง
ศึกาสูก็ศ้ สึก่ งโรมราญ
เสี ยงร้ องด้ วยความ
มด่สดัวนบเสีป่ ยวนกิ
าเริ ง บและเสี
าเทิงมัยนงปืครันของข้
่นครึ กาเข้
คึกคะนอง เพราะกาลังตกมัน
ลิลติ ตะเลงพ่าย : พระสุ บินและพระนิมติ ของสมเด็จพระนเรศวร
 ควาญช้
งบังคัอบยู่ ช้วูาว่ งทรงไว้
ยู่ วิวง่ ประเล่
ไปโดยเร็
จนทหารในกองทั
พ
ควาญคั
ดท้าายบมิ
างวิง่ ฉับไฉิม่วอปลิ
ห์ลวมพาน
ส่ าแสะสารแสน
ยา ขวาว้
าหลัางและควาญช้
ง ทั้งทวนพลตนขุ
น ถ้วนทุ
กมุวลยจนเข้
มวลมาตย์
ยาตรบ
ตามไม่
ทันายแซงหน้
มีแต่ กลางช้
างตามเสด็
จไปด้
าไปใกล้
ทันกองหน้
โทท้าวาของข้
ด้าวศึากศึสูกส้ องสาร
กสูส้ องไท้
ไร้พมิรองหาศั
ิ ยะแห่หตรูอ้ (มพระมหา
พร้อม
ข้ าศึกเต็ราญศึ
มไปหมด
พระองค์
แต่อุกปลางควาญคช
กาหนดสี่ โดยเสด็จ เห็จเข้าใกล้กองหน้า ข้าศึกดูดาษ
ราชา)
เดียร ธ ระเมียรหมู่ดสั กร
ลิลติ ตะเลงพ่าย : พระสุ บินและพระนิมติ ของสมเด็จพระนเรศวร
มอญและพม่
พระองค์
เห็นาบรรดาเหล่
ามอญพม่
มอญพม่
าดาดืา่นจานวนมหาศาล
เดินดุจคลื่นคลาฟอง
นองน่
นในอรรณเวศ
ตรัส า
องบร ไล่โรมรอนทวยสยาม
อหลัง่ คัง่ คับ
กาลัทอดพระเนตรเนื
งรบกับบรรดาทหารของพระองค์
อย่ างชุลมุนหลามเหลื
ทั้งสองพระองค์
ซับซ้อนแทรกสั
บสน ยล บ เป็ นก็ทัไพสช้เป็านงทรงเข้
กอง ธาก็ต่ไอสสองสารทรง
(พระนเรศวรกั
บพระเอกาทศรถ)
สู้ ด้วยกาลังตกมัตรงเข้
น า
ถีบเข้าแทง ด้วยแรงมันแรงกาย หงายงาเสยสารเศิก เพิกพังพ่ายบ่ายตน
บรรดาช้ างข้ าศึกต่ างพ่ายแพ้
ปนปะไปไขว่คว้าง

ลิลติ ตะเลงพ่าย : พระสุ บินและพระนิมติ ของสมเด็จพระนเรศวร
ช้ช้าางศึ
ตกใจหนีไปปะทะกั
ามมาข้
างหลัง
งศึกกได้
ได้กกลิลิน่ น่ มัน หัก็พนากั
หัวนหกตกกระหม่
า บ่ ากันบเลีพวกที
ย้ งกัน่ตหลบ
ประทบประ
ช้ างทรงทัสองคชชนชาญเชี
้งสองไล่แทงช้ างของข้
กอย่ างเมามั
น ทหารพม่
ทะอลวน
่ยว เรี่ยาศึวรณรงค์
เริงแรง
แทงถีบถีาบล้มฉัตาย
ด
เป็ นมจบอน
านวนมาก
ข้าศึกยิงปื น ธนูข้เข้าศึาใส่
ดุจห่านโซรม
ฝน แต่ไโรมกุ
ม่ถูกทช้าณ
ตะลุ
พม่ ามอญตายกลาด
กสาดปื
ั งทรง
ฑ์ ธนูทัดู้ งดั่ง
สองฝ่ ายต่ออง สูไป่ก้ ตกต้
นั จนฝุ่องตนสาร
นตลบมองหน้
ากันไม่
เห็น เหมือบอลเวงฟากฟ
อนกับเวลา ้ า ดูบ่
พรรษาซ้
ธุมาการเกิ
ดกระลบ
ตย์ =ไถง)
รูกลางคื
้ จักหน้นา (ไม่
หนึ่งมสิีด้นวงอาทิ
แสงไถง
ลิลิตตะเลงพ่าย :
จพระนเรศวรจึ
งตรัสมมุ
สประกาศแด่
เทวดา ว่ าพระองค์ คอื พระ
จึสมเด็
่ งไทเทเวศอ้
าง
ติ
ผู้คฏรองกรุงศรีอยุเกศหล้
ธยา มีาพระเดชานุภาพเลือ่ งลือ
มิ่งนเรศวร
มหิ ศวรมกุ
เถลิงภพแผ่นอยุธยายิง่ ยศแฮ
แสดงพระเดชฟุ้ งฟ้ า
เฟื่ องด้าวดินไหว
ลิลิตตะเลงพ่าย :
สมเด็
ภูวจนัพระนเรศวรจึ
ยผายโอษฐ์อ้ืนงตรัสประกาศแด่
โชยงการ เทวดาบนสวรรค์ ท้งั หกชั้ น
้งสิ บหกชั้นว่ า โปรดสดั
แก่และพรหมทั
เทพทุกถิ่นสถาน
ฉชั้น บฟังพระองค์
โสฬสพรหมพิมาน
กมลาสน์ แลนา
เชิญช่วยชุมโสตชั้น
สดับถ้อยตูแถลง
ลิลติ ตะเลงพ่าย :
ติเป็ให้นพระมหากษั
ทีใ่ ห้ พซึระองค์
่งแสร้ งมรัาประสู
งสฤษฏ์
มาอุตริบยัต์ปิ กครองบ้ านเมืองเพือ่ ให้
ทะนุบารุงรศาสนา
ในประยู
เศวตฉัและพระรั
ตร ตนตรัยให้สื บเจริเชืญ้อรุ่งเรือง นั้น
หวังผดุงบวรรัตน
ตรัเยศ ยืนนา
ทานุกพระศาสน์ เกือ้
ก่ อสร้ างแสวงผล
ลิลิตตะเลงพ่าย :
เหตุ
ใดจึงไม่
่ วยบัวนดาลให้ ท้องฟ
้ าสว่ดลฤๅ
าง ขจัดความมืดให้ หมดไป
กลใดไป่
ช่ วชยแผ้
นภา
ให้ใสสรว่
พระนเรศวรสามารถมองเห็
นเหล่มืาดบรรดาข้
างธุมา
ม้ วย าศึก ได้ ชัดเจน
มลักเล็งเหล่าพาธา
ทวยเศิก สมรแฮ
เห็นตระหนักเนตรด้ วย
ดั่งนีแ้ หนงฉงาย


ลิลิตตะเลงพ่าย :
พอพระองค์
ตรัสจบอก็้ าเงกิดพายุใหญ่
พดั พหอบเอา
พอวายวรวากย์
โอษฐ์
ระ
ฝุ่ นควัดาลมหาวาตะ
นจางหายไป มองเห็นสนามรบชั
ตื่นดฟเจน
้า
ทรหึงทรหวงพะหอบธุมางค์ จางจ้ า
พานพัด หาวแฮ
จรัสด้ าวแดนสมร
ลิลิตตะเลงพ่าย :
 พระนเรศวรมองหาพระมหาอุ
ปราชาซึ
จะทรงช้ างทีม่ ีฉัตร๑๖ ชั้น

ภูธรเมิลอมิตรไท้
ธารง ่งสารแฮ
แต่ กครบสิ
ไ็ ม่ พบบพระองค์
จึงเร่ งไสช้ างเข้ าไปหาเทริ ดเกล้า
หกฉัตรทรง
บ่จวนบ่จวบองค์
พลางเร่ งขับคชเต้า
อุปราช แลฤๅ
แต่ต้ งั ตาแสวง
ลิลิตตะเลงพ่าย :
ด้ านขวาของพระองค์
เห็นแม่ ทแลนา
ัพหนึ่ง มีเครื่องทรง

โดยแขวงขวาทิศพระนเรศวรได้
ท้าว
ทฤษฏี
ชั้นบัสูดงครบเครื
อยู่ทใี่ ต้ ร่มต้ นข่ อย
ธ เห็นขุ่อนง กรี
เถลิงฉัตรจัตุรพิรีย ์
หนแห่งฉายาไม้
หนึ่งไสร้
เรี ยงคัง่ ขูเฮย
ข่อยชี้เฌอนาม
ลิลิตตะเลงพ่าย :
 พระนเรศวรคิ
ปิ่ นสยามยลแท้
น ทัพคะเนนึ
่ นา อมล้อมไปด้ วย
ดว่ าน่ทา่ าจะแม่
ของพม่กา อยู
เพราะห้
ถวิกองทั
ลว่ าขุพนและเครื
ศึกสา-่องอุปโภคต่ างๆ ครบครั
นักโน้ นน
ทวยทัพเทียบพันลึก
แลหลาก หลายแฮ
ครบเครื่องอุปโภคโพ้ น
เพ่งเพีย้ นพิศวง
ลิลิตตะเลงพ่าย :
พระเรศวรและพระเอกาทศรถ
ช้ างเข้ าไปหา
โดยไม่
สองสุ ริยพงศ์ ผ่านหล้า จึงทรงขั
ขับบคเชนทร์
บ่ายหน้
า
หวัแขกเจ้
น่ เกรงใดๆ
บรรดาทหารฝ่
าจอมตะเลง
แลนา ายศัตรูต่างเร่ งระดมปื นไฟเข้ าใส่

ไป่ เกรงประภาพเท่ าเผ้ า
สู่ เสี้ยนไป่ หนี หน้ านา
ไพรีเร่ งสาดซ้ อง
ตื่นเต้ าแตกฉาน
พักตร์ ท่านผ่ องฤๅเศร้ า
โซรมปื นไฟไป่ ต้ อง
ลิลิตตะเลงพ่าย :
สออกไปด้
พระนเรศวรตรั
นฤบาลบพิ
ตรเผ้ าวยความไพเราะภูวนา ยกแฮ
ปราศจากเรื
่องขุ่นข้ อง
ผายสิ หนาทกถา
ไพเราะราชสุ ภาเสนอบ่ มีข้อข้ อง
ท่ านพร้ อง
ษิตสื่ อ สารนา
ขุ่นแค้ นคาไข
ลิลิตตะเลงพ่าย :
พระองค์ ผอู้้เป็าไทภู
นใหญ่ธเรศหล้
แห่ งมอญ(พม่
ยรติ
ยศเป็ นทีโลกฤๅ
น่ ่ าเกรงขาม

า า) มีพระเกี
แหล่
งตะเลง
ทั้งสิเผยพระยศยิ
บทิศต่ างหวาดเกรงในฝี
นเยง มือของพระองค์ท่าน(มหาอุ
ย่ านแกล้ปวราชา) ไม่ มีใคร
กล้
สิ บาต่ทิอศสูทั้ ดว่ ้ วลืยอ(แกลน=
ละเวง คร้ ามกลัว)
หวัน่ เดช ท่ านนา
ไป่ เริ่มรอฤทธิ์แผ้ ว
เผือดกล้ าแกลนหนี
ลิลิตตะเลงพ่าย :
ท่ านพีผ่ ู้เป็ นใหญ่ ในแผ่ นดินทีม่ คี วามอุดมสมบูรณ์
 พระพีพ
่ ระผู้ผ่าน
ภพอุต- ดมเอย
ทาไมจึ
งมาหยุดอยูย่ ทน
ไป่ ชอบเชษฐ์
ื รี่ ่ มหยุไม้ด
ร่ มไม้
เชิญเชิพระองค์
วมทายุ
ยรติ แก่
เราทัไว้้งแสอง
ญราชร่มวาร่มคชยุ
ทธ์ทธหัตถี เพือ่ เป็ นเกี
เผยอเกี
ยรติ
ฮ
ซึ่งจะไม่
นนีอ้ กี แล้ว
สื บกว่การรบเช่
าสองเราไสร้
สุ ดสิ้นฤๅมี

ลิลิตตะเลงพ่าย :
 การรบแบบยุ
ทธหัตาถีงนีจ้ ะเป็ นการรบครั
้ งสุ ดท้นีายน

หัสดีรณเรศอ้
อวสาน
้ า
เป็ นยุ
ธหัตถีของสองกษัตริย์ ตราบสิ้นฟ้าดิห่นอจะมี
นับทอนาคตกาล
นเพีแย้ ต่งเพียง
สองเราเท่
ขัตติยาายุนั้นทธ์ บรรหาร
คชคู่ กันแฮ
คงแต่ เผือพีน่ ้ อง
ตราบฟ้ าดินกษัย
ลิลิตตะเลงพ่าย :
การทายุทธหัตไว้
ถี เไว้ป็ เนมหรสพซ้
ป็ นเครื่องบันอเทิงงใจสาหรัสุ ขบศานติ
กษัตริย์ ์

ให้สท้าหรั
งั มนุบษย์ราชส
ตลอดจนเทพบนสวรรค์
ได้ ชื่นชมเริ่มรั้ง
าราญ
บาเทิงหฤทัยบาน
เสนอเนตรมนุษย์ ต้งั
ประดิยุทธ์ นั้นนา
แต่ หล้ าเลอสรวง
ลิลิตตะเลงพ่าย :
 อัญเชิ ญบรรดาเทพเทวาได้
ปวงไท้ เทเวศทัม้งาชื่นชมยุทธหั
พรหมาน
ตถีทเี่ ราทั้งสองได้
เชินญหากผู
ประชุ้ใดมี
มในสถาน
ที่นี้ ผู้น้ันได้ รับชัยชนะ
รบกั
ความเชี่ยวชาญขอให้ บันดาลให้
ชมชื่นคชราบาญ
ใครเชี่ยวใครชาญชี้
ตูต่อ กันแฮ
ชเยศอ้ างอวยเฉลิม
ลิลิตตะเลงพ่าย :
่ แผ่ นดิน
 จะเกิดเกี
หวัยรติ
งเริย่มศระหว่
คุณเกีายงการรบ
รติก้อง ยืนยาวคงคู
กลางรงค์
เกิยืดนการยกย่
พระยศอยู
องสรรเสริ
่ คง ญว่าสองกษัตริย์ได้คูต่ ห่ อล้สูา้ กนั
สงครามกษั
ตริย์ทรง
ภพแผ่
สองฤๅ
พระมหาอุปราชาได้
ฟังก็เกิดขัตติยมานะ
ขับช้นางเข้
าต่ อสู้
สองราชรอนฤทธิ
์
ร
้
า
เรื
่
อ
งรู
้
ส
รเสริ
ญ
ตามทีพ่ ระนเรศวรคิด
ดาเนินพจน์ พรากพร้ อง
องค์ อคั รอุปราชา
กอบเกิดขัตติยมาขับคชเข้ ายุทธ์ แย้ ง
พรรณนา
ท่ านแจ้ ง
นะนึก หาญเฮย
ด่ วนด้ วยโดยถวิล
ลิลิตตะเลงพ่าย :
ริย์ท้งั สอง(โท=๒)โททรง
เปรียบกับช้ างสมิทธิมาตงค์
 ช้ างทรงของกษั
หัสดินปิต่ นธเรศไท้
ทร์ กับช้ างคิริเมขล์ ของสวั
คืของพระอิ
อสมิทธิมนาตงค์
หนึ่ตงอ้ดีามงาร ที่มาผจญ
พระพุ
างส่ ามยศีง-รษะเข้ าไล่แทงกัคลอาสน์
น
หนึ่งทคืธเจ้
อคิารต่ิ เมขล์
มารเอย
ทั้งยสองต่
างจู่โจม พระแสงของ้
ว ควาญช้ าง
เศี
รส่ ายหงายงาคว้
าง าวปะทะกั
ไขว่นแอย่
คว้างงรวดเร็
แทงโถม
ต่ างขับเคีสองโจมสองจู
่ยวกัน
่จว้ ง บารู
สองขัตติยสองขอชู
เชิดด้ า
กะลึงกะลอกดู
ไวว่อง นักนา
ควาญขับคชแข่งค้ า
เข่นเขี้ยวในสนาม
ลิลิตตะเลงพ่าย :
ภาพการสูงามสองสุ
้ รบของสองกษั
ตริาย้ ์ งดงามประหนึ
่งพระอิ
ริยราชล
เลิศพิศ นาพ่
อ นทร์ (พัชรินทร์ ) รบกับ
ไพจิ
ตราสู
(ยักษ์ ซตึ่งรเป็ นพ่อของนางสุ
พ่างพั
ชริรนย์ทรไพจิ
ศึกชสร้าดา
าง ชายาพระอินทร์ ) ประหนึ่ง
พระรามรบกั
บทศกั์ณฑ์ ไม่ มีการรบทีรบราพณ์
่ไหนงามเท่
า
ฤๅรามเริ่มรณฤทธิ
แลฤๅ
ทุกเทศทุกทิศอ้าง านพระมหาอุอืปน่ ราชา
ไท้ ไป่ทัเที
ยม างไม่ กลัวและไม่ ลด
 พระนเรศวรสามารถต้
้งสองต่
ความดุดัน ต่ างยกพระแสงของ้ าวกวัดแกว่ ง เป็ นภาพการทายุทธหัตถี
ขุนเสี ยมสมรรถต้ าน ขุนตะเลง
ที่งดงามยิง่
ขุนต่ อขุนไป่ เยง
หย่ อนห้ าว
ยอหัตถ์ เทิดลบองเลบง
อังกุศ ไกวแฮ
งามเร่ งงามโทท้ าว
ท่ านสู้ ศึกสาร
ลิลิตตะเลงพ่าย :
ช้ างทรงของพระนเรศวร
คชยานขัตติเยศเบืโถมปะทะไม่
อ้ ง ออกถวัทลันย์มั่นคง ช้ างทรง
โถมปะทะไป่
เหยีา้ ยคางพระยาไชยานุ
บยั้ง
พระมหาอุ
ปราชาทัก็นแบกล่างได้ ทเี สยงาค
ภาพ
สารทรงราชรามั
ลงล่าง แลนาาวใส่ พระนเรศวรอย่ าง
ทาให้ พระมหาอุปญราชาถนัด ฟาดพระแสงของ้
เสยส่ าวยท้ ายทันต์ ท้งั
คู่คา้ คางเขิน
รวดเร็
ดาเนินหนุนถนัดได้ เชิงชิด
หน่ อนเรนทรทิศ
ตกด้ าว
เสด็จแสดงวราฤทธิ์
ราร่ อน ขอแฮ
ฟอนฟาดแสงของ้ าว
อยู่เพีย้ งจักรผัน


ลิลิตตะเลงพ่าย :
พระนเรศวรเบี
งพระมาลาหลบ
อาวุ
ธของพระมหาอุ
ปราชาจึง
เบือ้ งนั้น่ยนฤนาถผู
้
สยามิ
นทร์
ไม่ สเบีามารถท
าอะไรพระองค์
ได้ ทั้งนีเ้ พราะพระองค์
่ยงพระมาลาผิ
น
ห่ อนพ้อง ปัดด้ วย
ศัตราวุธอริาวนทร์
ฤๅถูก องค์ เอย
พระแสงของ้
ตถ์ หากป้อง
ปัดดด้มาแบกล่
วยขอทรง
ทันเพราะพระหั
ใดนั้นช้ างทรงของพระนเรศวร
สะบั
าง ใช้ งางัดคอ
บัดมงคลพ่าห์ ไท้
ทวารัติ
ช้ างของพระมหาอุปราชแหงนขึน้ เสี ยที
แว้ งเหวีย่ งเบี่ยงเศียรสะบัด
ตกใต้
อุกคลุกพลุกเงยงัด
คอคช เศิกแฮ
เบนบ่ ายหงายแหงนให้
ท่ วงท้ อทีถอย


ลิลิตตะเลงพ่าย :
พลอยพล
า้ เพลียกถ้ าท่าในการรบ
น ในรณ
ทาให้ พระมหาอุ
ปราชาพลาดท่
พระนเรศวรฟาด
บัดราชฟาดแสงพลายฟ้อน จศึก
พระแสงของ้
าวบนไหล่ขาดตลอดแนวเป็พ่นการเผด็
พระเดชพระแสดงดล
เผด็จคู่ เข็ญแฮ
พระองค์
สิ้นพระชนม์
เสด็จสูา่วโดยขวา
สวรรค์
ถนัดพระอั
งสาข้ อนบนหลังช้ างทรง ขาดด้
อุรารานร้ าวแยก
เอนพระองค์ ลงทบ
 เหนือคอคชซอนซบ
วายชิวาตม์ สุดสิ้น
ยลสยบ
ท่ าวดิน้
สั งเวช
สู่ ฟ้าเสวยสวรรค์
เล่ าเรื่องลิลติ ตะเลงพ่ายด้ วยลายเส้ น
(คลิกรู ปภาพเพือ่ ชมภาพยนตร์ )
ขณะที่พราหมณ์ ผ้ ูทาพิธีและผู้ชานาญไสยศาสตร์ ทาพิธีเบิกประตูป่าและพิธีละว้ าเซ่ นไก่
หลวงมหาวิชัยรับพระแสงดาบอาญาสิทธิ์ ไปทาพิธีตัดไม้ ข่มนามตามไสยศาสตร์ สมเด็จพระ
นเรศวรได้ ทรงสดับเสียงปื นซึ่งไทยกับมอญกาลังยิงต่ อสู้กัน แต่ เสียงนัน้ อยู่ไกลฟั งไม่ ถนัด จึง
รับสั่งให้ หมื่นทิพเสนารีบไปสืบข่ าว เห็นกองทัพไทยกาลังล่ าถอย รับพลางถอยพลาง มอญ
พม่ าตามมาอย่ างกระชัน้ ชิด หมื่นทิพเสนาได้ นาขุนหมื่นผู้หนึ่งมาเฝ้าสมเด็จพระนเรศวร ขุน
หมื่นผู้นัน้ กราบทูลว่ า เมื่อเวลา 7 นาฬิกา ทัพไทยได้ ปะทะกับทัพมอญที่ตาบลโคกเผาข้ าว
ทัพไทยต้ องถอยร่ นตลอดเวลา เพราะกาลังข้ าศึกมีมากกว่ า สมเด็จพระนเรศวร จึงตรั ส
ปรึกษาแม่ ทพ
ั นายกองว่ าควรคิดหาอุบายแก้ ไขการศึก บรรดาแม่ ทพ
ั นายกองกราบทูลขอให้
พระองค์ ส่งทัพไปยันไว้ ให้ ข้าศึกอ่ อนกาลังลงก่ อนจึงเสด็จยกทัพหลวงออกต่ อสู้ภายหลัง
สมเด็จพระนเรศวรตรัสตอบว่ าทัพไทยกาลังแตกพ่ ายอยู่ ถ้ าจะส่ งทัพไปต้ านทานอีก ก็จะ
พลอยแตกอีกครัง้ ควรที่จะล่ าถอยลงมาโดยไม่ หยุดยัง้ เพื่อลวงข้ าศึกให้ ละเลิงใจ ยกติดตาม
มาไม่ เป็ นขบวน พอได้ ทใี ห้ ยกกาลังส่ วนใหญ่ ออกโจมตี คงจะได้ ชัยชนะอย่ างง่ ายดาย แม่ ทพ
ั
นายกองเห็นชอบด้ วยกับพระราชดารินัน้ สมเด็จพระนเรศวรจึงมีรับสั่งให้ หมื่นทิพเสนากับ
หมื่นราชามาตย์ ไปแจ้ งทัพหน้ าของไทยให้ ล่าถอยโดยเร็ว ทัพพม่ า ไม่ ร้ ู อุบาย ก็รุกไล่ ตามจน
เสียกระบวน
1.โขลนทวารหรื อประตูป่า
3.ตัดไม้ ข่มนาม
พิธีทางไสยศาสตร์
เกีย่ วกับศึกสงคราม
4.เคลื่อนพลตามเกล็ด
นาค
2.ละว้ าเซ่นไก่
พิธีทางไสยศาสตร์ เกีย่ วกับศึกสงคราม
1.โขลนทวาร หรื อประตูป่า เป็ นพิธีบารุ งขวัญทหารเมื่อยกทัพออกจากเมือง
โดยทาซุม้ ประตูให้ทหารลอดสองข้างประตูทาเป็ นร้านนัง่ ให้พราหมณ์
ประพรมน้ ามนต์ขณะที่ทหารลอดซุม้ ประตูและมีพระสงฆ์สวดชยันโต
เพื่อเป็ นสิ ริมงคลและให้กาลังใจทหารที่ออกรบ
ละว้ าเซ่ นไก่ เป็ นพิธีบารุ งขวัญทหารอีกพิธีหนึ่ง พิธีนีเ้ ป็ นพิธีบวงสรวง
เทวดาและเจ้ าป่ าของชาวละว้ า ผู้ทาพิธีจะตัง้ เครื่ องสังเวย บวงสรวง
เทวดา ขอให้ งานสาเร็จลุล่วงแล้ วเสี่ยงทายโดยถอดกระดูกคางไก่ ท่ ีใช้ เป็ น
เครื่ องเซ่ น ถ้ ากระดูกยาวเรี ยว มีข้อถี่ถือเป็ นนิมติ ดี
ข้ อใดคือลักษณะเด่ นชัดของ
พระมหาอุปราชา
ก. กตัญญู
ข. รักศักดิ์ศรี
ค. ความกล้าหาญ
ง. เป็ นผู้ทรี่ ู้ จกั ให้ อภัย
เพราะเหตุใดพระเจ้ านันทบุเรงจึงมีรับสั่ งให้
พระมหาอุปราชายกทัพมารุกรานไทย
ก. เพราะเป็ นคาสั่ งของพระเจ้ าบุเรงนอง
ข. เพราะทรงทราบว่ าอยุธยามีการผลัดเปลีย่ น
แผ่ นดิน อาจมีการแย่ งชิงอานาจ จึงฉวยโอกาส
ค. เพราะทรงทราบว่ าอยุธยาเริ่มแข็งข้ อ
ง. เพราะทรงต้ องการทดสอบความกล้ าหาญของ
พระมหาอุปราชา
เหตุผลใดทาให้ พระมหาอุปราชายอมจัดทัพ
ไปรบกับพระนเรศวร
ก.
ข.
ค.
ง.
ต้ องการแสดงแสนยานุภาพของกองทัพ
ต้ องการข่ มขวัญประเทศไทย
ต้ องการแสดงอานาจให้ เมืองขึน้ ต่ างๆเห็น
เพือ่ จะได้ ไม่ แข็งข้ อ
หมดทางเลีย่ ง ต้ องจาใจออกรบ
พระบิดาของพระมหาอุปราชา พระนามว่ าอะไร
ก. พระเจ้ าบุเรงนอง
ข. พระเจ้ านันทบุเรง
ค. พระมหาธรรมราชา
ง. พระเอกาทศรถ
คาประพันธ์ ในข้ อใดเป็ นโคลงสี่ สุภาพ
ก.
ข.
ค.
ง.
พระฟังความลูกท้ าวลาเสด็จศึกด้ าวดัง่ เบือ้ งบรรหาร
ภูบาลอืน้ อานวยอวยพระพรเลิศล้ นจงอยุธย์
อย่ าพ้ นแห่ งเงือ้ มมือเทอญพ่ อนา
กับถึงกรุงทวารกรุงแก้ วเดียรดาษพลคลาดแคล้ ว
คลา่ คล้ ายคลาขบวน
สละสละสมรเสมอชื่อไม้ นานึกระกานามไม้ แม่ นแม้ น
ทรวงเรียม
“ เจ้ าอยธุ ยามีบุตร ล้ วนยงยทุ ธเชี่ยวชาญ
หาญศึกบ่ มิย่อ ต่ อสู้ บ่มิหย่ อน ไป่ พักวอนว่ าใช้
ให้ ธหวงธห้ าม ” ข้ อความนีผ้ ้ ูพูดคือใคร
มีจุดประสงค์ อย่ างไร
ก. พระมหาอุปราชา ยกย่ องเจ้ าอยุธยา
ข. พระเจ้ านันทบุเรง ยกย่ องเจ้ าอยุธยา
ค. พระมหาอุปราชา พูดแสดงโวหารเห็นใจ
ง. พระเจ้ านันทบุเรง พูดแสดงโวหารเห็นใจ
“ เร่ งแจงจัดจตุรงค์ ” จตุรงค์ หมายถึงอะไร
ก. ทหารสี่ เหล่ า คือ เหล่ าช้ าง ม้ า รถ พลเดินเท้ า
ข. โชคดีสี่ประการ คือ แม่ ทพั ดี อาหารสมบูรณ์
ทหารกล้ า วันเดือนดี
ค. พรสี่ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุ ข พละ
ง. อาวุธสี่ อย่ าง คือ ดาบ ของ้ าว หน้ าไม้ ปื นไฟ
จัดทาโดย
น.ส. พรณิชา อดุลยานุโกศล เลขที่ 13
น.ส. ภีรติกานต์ มีสุวรรณ
เลขที่ 24
น.ส. ชญานิน พัฒนศักดิ์ เลขที่ 41
ชั้น ม. 5/12
*************************************
ลิลิตตะเลงพ่าย : แบบทดสอบ
๑. ข้อใดเป็ นจุดมุ่งหมายที่แท้จริ งของผูแ้ ต่งที่แต่งเรื่ องลิลิตตะเลงพ่าย
ก. บันทึกการทาสงครามยุทธหัตถีครั้งสาคัญ
ข. สดุดีพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและสมเด็จพระเอกาทศรถ
ค. เพื่อแต่งวรรณคดีสดุดีพระมหากษัตริ ยเ์ ช่นเดียวกับลิลิตยวนพ่ายในสมัย
อยุธยา
ง. ต้องการบรรยายชัยชนะครั้งยิง่ ใหญ่ของฝ่ ายไทยในการทาสงครามระหว่าง
ไทยกับพม่า
ลิลิตตะเลงพ่าย :
๒. เนื้อความในลิลิตตะเลงพ่ายข้อใดที่ไม่ปรากฏในพระราชพงศาวดารกรุ งศรี อยุธยา
ตอนทายุทธหัตถี
สองโจมสองจู่จว้ ง
บารู
สองขัตติยสองขอชู
เชิดค้ า
ข.
งามสองสุ รยราชล้ า เลอพิศ
พ่างพัชริ นทร์ ไพจิตร
ศึกสร้าง
ค.
พระพี่พระผูผ้ า่ น
ภพอุต- ดมเอย
ไป่ ชอบเชษฐ์ยนื หยุด
ร่ มไม้
ง.
พระห่วงแต่ศึกเสี้ ยน อัสดง
เกรงกระลับก่อรงค์
รั่วหล้า
ก.
ลิลิตตะเลงพ่าย :
๓. พระราชดารัสของสมเด็จพระนเรศวรข้อใดที่ทาให้พระมหาอุปราชาตัดสิ นพระทัย
กระทายุทธหัตถี
ก.
สงครากษัติรย์ทรง
ภพแผ่น สองฤา
สองราชรอนฤทธิ์ ร้า
เรื่ องรู ้สรรเสริ ญ
ข.
ขัตติยายุทธ์บรรหาร
คชคู่ กันแฮ
คงแต่เผือพี่นอ้ ง
ตราบฟ้ าดินกษัย
ค.
เชิญราชร่ วมคชยุทธ์
เผยอเกียรติ ไว้แฮ
สื บกว่าสองเราไสร้
สุ ดสิ้ นฤามี
ง.
ไว้เพื่อผดุงเดชเจ้า
จอมปราณ
ก่อเกิดราชราบาญ
ใหม่แม้
ลิลิตตะเลงพ่าย :
๔. ความในข้อใดแสดงลักษณะวรรณศิลป์ มากที่สุด
ก.
ข.
ค.
ง.
พวกพลทัพรามัญ เห็นไทยผันหนีหน้า ไป่ หยุดยั้งช้า ตื่นต้อนแตกฉาน น่านนา
ว่องต่อว่องชิงชัย ไวต่อไวชิงชนะ ม้าไทยพะม้ามอญ ต่างเข้ารอนเข้าโรม
ธก็ไสสองสารทรง ตรงเข้าถีบเข้าแทง ด้วยแรงมันแรงกาย หงายงาเสยสารเศิก
ธุมาการเกิดกระลบ อบอลเวงฟากฟ้ า ดูบ่รู้จกั หน้า หนึ่งสิ้ นแสงไถง แลนา
ลิลิตตะเลงพ่าย :
๕. สมเด็จพระวันรัตใช้กลวิธีการโน้มน้าวจิตใจอย่างไรจึงทาให้สมเด็จพระนเรศวร
มหาราชพระราชทานอภัยโทษประหารชีวติ แก่แม่ทพั นายก
ก. พูดโน้มน้าวให้เห็นโทษของการสั่งประหารชีวิต
ข. พูดโน้มน้าวให้เห็นจริ งตามกระบวนการของเหตุผล
ค. พูดโน้มน้าวให้เห็นทางเลือกทั้งด้านดีและด้านเสี ย
ง. พูดโน้มน้าวให้เห็นความน่าเชื่อถือของบุคคลที่พดู
ลิลิตตะเลงพ่าย :
๖. คาประพันธ์ขอ้ ใดใช้อุปมาภาพพจน์ดงั ตัวอย่างต่อไปนี้
พระตรี โลกนาถแผ้ว
เผด็จมาร
เฉกพระราชสมภาร
พี่นอ้ ง
ก. เห็นประภาพเจ้าช้าง เชี่ยวกว่าเชี่ยวเหลืออ้าง
เอิกเอื้ออัศจรรย์
ยิง่ นา
ข. สองฝ่ ายหาญใช่ชา้
คือสี หสู ้สีหกล้า
ต่อแกล้วในกลาง
สมรนา
ค. กองทัพตามกันเต้า เสี ยงสนัน่ ลัน่ เท้า
พ่างพื้นไพรพัง
เพิกฤา
ง. ดังตรลบโลกแล้
ฤาบ่ร้างรู ้แพ้
ชนะผูใ้ ดดาล
ฉงนนา
ลิลิตตะเลงพ่าย :
๗. คาประพันธ์ในข้อใดใช้การสัทพจน์เป็ นกลวิธีในการประพันธ์
ก. ดูคะคลาคะคล่า บ่รู้กี่ส่ าสับสน
ข. ศรต่อศรยิงยืน ปื นต่อปื นยิงยัน
ค. อุดอึงโห่เอาฤกษ์ เอิกอึงโห่เอาชัย
ง. เงื้อดาบฟันฉะฉาด ง่าง้าวฟาดฉะฉับ
ลิลิตตะเลงพ่าย :
๘. คาประพันธ์ในข้อใดใช้คาว่า “ฉัตร” ต่างจากข้ออื่น
ก. อลงกตแก้วแกมกาญจน์ เครื่ องพุดตานตกแต่ง
แข่งสี ทองทอเนตร
ปั กเศวตรฉัตรฉานฉาย
ข. ซึ่ งแสร้งรังสฤษฎ์ให้
มาอุบตั ิ
ในประยูรเศวตฉัตร
สื บเชื้อ
ค. บัดธเห็นขุนกรี
หนึ่งไสร้
เถลิงฉัตรจัตุรพิรีย ์
เรี ยงคัง่ ขูเฮย
ง. ภูธรเมิลอมิตรไท้
ธารง สารแฮ
ครบสิ บหกฉัตรทรง
เทริ ดเกล้า
ลิลิตตะเลงพ่าย :
๙. ข้อใดแสดงลักษณะที่ขาดความมีระเบียบวินยั ของกองทัพ
ก. เคลื่อนพลตามเกล็ดนาค ตากเต็มท่งแถวเถื่อน เกลื่อนแสนยาทัพ ถับปะทะไพริ นทร์
ข. ขุนคชขับช้างเทียบ ทวยหาญเพียบแผ่นภู ดูมหาดาดาษ สะพราศพร้อม
โดยขบวน
ค. ไล่โรมรอนทวยสยาม หลามเหลือหลัน่ คัง่ คับ ซับซ้อนแทรกสับสน ยลบ่เป็ นทัพเป็ นกอง
ง. ปวงทัพปลูกค่ายสร้าง กลางสมร ภูมิพยุหไกรสร ศึกตั้ง
ลิลิตตะเลงพ่าย :
๑๐. ตอนใดที่แสดงให้เห็นชัดว่า สมเด็จพระนเรศวรทรงแก้ปัญหาเฉพาะ
หน้าด้วยสติและความเด็ดเดี่ยวสมกับเป็ นผูน้ าที่ดี
ก. ตอนที่ทรงทราบว่าทัพหน้าแตกยับเยิน
ข. ตอนที่ทรงท้ารบกับพระมหาอุปราชา
ค. ตอนที่ทรงทราบข่าวศึกพม่าจากเมืองกาญจนบุรี
ง. ตอนพระมหาอุปราชาสัง่ กองทัพทั้งหมดเข้าจู่โจมตีทพั ไทยที่ออกมาตั้ง
รับนอกพระนคร
ลิลิตตะเลงพ่าย :
๑๑. นักเรี ยนคิดว่าวรรณคดีเรื่ องลิลิตตะเลงพ่ายสามารถใช้เป็ นหลักฐานทาง
ประวัติศาสตร์ นาไปอ้างอิงได้หรื อไม่ เพราะเหตุใด
ก. ได้ เพราะกวีดาเนินเรื่ องตามพระราชพงศาวดารกรุ งศรี อยุธยา
ข. ได้ เพราะวรรณคดีถือเป็ นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ข้นั ทุติยภูมิ
ค. ไม่ได้ เพราะวรรณคดีถึงแม้จะมีขอ้ เท็จจริ งอยู่ แต่กย็ งั มีลกั ษณะของ
หนังสื อแต่งคือ มีจินตนาการของผูเ้ ขียนที่เพิ่มเข้ามา
ง. ไม่ได้ เพราะวรรณคดีเป็ นบันเทิงคดี ไม่น่าเชื่อถือ
ลิลิตตะเลงพ่าย :
๑๒. เพราะเหตุใดสมเด็จฯ กรมพระปรมานุชิตชิโนรสจึงให้ชื่อวรรณคดีเล่มนี้วา่
ลิลิตตะเลงพ่าย ทั้งน ที่สงครามครั้งนั้นเป็ นสงครามระหว่างไทยกับพม่า
ก. มอญกับพม่าเป็ นเผ่าพันธุ์เดียวกัน
ข. คนสมัยก่อนขาดความรู ้เรื่ องชาติพนั ธุ์วิทยา เข้าใจสับสนว่าพม่าเป็ นมอญ
ค. เมืองหงสาวดีซ่ ึงเป็ นเมืองหลวงของพม่า เคยเป็ นเมืองหลวงของมอญมาก่อน
ง. ทับที่ยกมาคราวนั้นส่ วนใหญ่เป็ นทัพมอญ
ลิลิตตะเลงพ่าย :
๑๓. ข้อใดใช้ภาพพจน์ต่างจากข้ออื่น
ก. สลัดไดใดสลัดน้อง แหนงนอน ไพรฤๅ
ข. เย็นพระยศปูนเดือน เด่นฟ้ า
ค. พระฤทธิ์ดงั่ ฤทธิ์ราม รอนราพณ์ แลฤๅ
ง. นึกระกานามไม้ แม่นแม้นทรวงเรี ยม
ปูน=เทียบ ปาน
ลิลิตตะเลงพ่าย :
๑๔. “หงสาวดีบุเรศ รั่วรู ้เหตุบ่มิหึง แห่งเอิกอึงกิดาการ”
ใครทราบเหตุอะไร
๑. สมเด็จพระศรี สุริโยทัยสวรรคต
๒. สมเด็จพระมหาธรรมราชาสวรรคต
๓. สมเด็จพระมหาจักรพรรดิสวรรคต
๔. พระเจ้าบุเรงนองสวรรคต
ลิลิตตะเลงพ่าย :
๑๕. “กล้าต่อกล้าชิงบัน่ กลัน่ ต่อกลัน่ ชิงรอน ศรต่อศรยิงยืน ปื นต่อปื นยิงยัน
กุทณ
ั ฑ์ต่างตอบโต้ โล่ต่อโล่ต่อตั้ง ดั้งต่อดั้งต่อติด เขนประชิดเขนสู ้ ตาว
คู่คู่ตาวต่อ หอกหันร่ อหอกรับ ง้าวง่าจับง้าวประจัญ ทวนผัดผันทวนทบ
รบอลวนอลเวง ต่างบเกรงบกลัว”
จากข้อความข้างต้น สัมพันธ์กบั ข้อใดมากที่สุด
ก. สร้างความรู ้สึกตื่นเต้น
ข. แสดงภาพการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ ว
ค. สร้างความรู ้สึกหวาดกลัว น่าพรั่นพรึ ง
ง. แสดงภาพความยิง่ ใหญ่ของกองทัพ
ลิลิตตะเลงพ่าย :
๑๖. “คงแต่เผือพี่นอ้ ง ตราบฟ้ าดินกษัย”
คาที่ขีดเส้นใต้ หมายถึงใคร
ก.
ข.
ค.
ง.
พระนเรศวร พระเอกาทศรถ
พระเอกาทศรถ พระมหาอุปราชา
พระสุ พรรณกัลยา พระนเรศวร
พระนเรศวร พระมหาอุปราชา
ลิลิตตะเลงพ่าย :
๑๗. เพราะเหตุใดสมเด็จพระนเรศวรมหาราชจึงตรัสว่า การทาศึกยุทธหัตถีน้ นั
เพื่อไว้เป็ นมหรสพซ้อง สุ ขศานต์
ก. การสงครามเป็ นกีฬาของกษัตริ ย ์ เป็ นเครื่ องบันเทิงยิง่ อย่างหนึ่ง
ข. ความตาย ความพลัดพรากสู ญเสี ยจากสงครามเป็ นมหรสพของกษัตริ ย ์
ค. การชนะสงครามเป็ นสุ ขยิง่ เพราะจะได้รับดินแดน ทรัพย์สิน แลการ
สงครามเหมือนมหรสพ ไม่มีอะไรจริ งจัง แพ้บา้ ง ชนะบ้างเป็ นธรรมดา
ง. การชนะสงครามเป็ นสุ ขยิง่ เพราะจะได้รับดินแดน ทรัพย์สิน และเชลยเป็ น
อันมากการสงครามเหมือนมหรสพ ไม่มีอะไรจริ งจัง แพ้บา้ ง ชนะบ้างเป็ น
ธรรมดา
ลิลิตตะเลงพ่าย :
๑๘.ข้อใดให้ภาพต่างจากข้ออื่น
ก. โถมปะทะไป่ ทัน เหยียบยั้ง
ข. แว้งเหวี่ยงเบี่ยงเศียรสะบัด ตกใต้
ค. ถึงพิราลัยลาญ ชีพมล่าง
ง. บัดราชฟาดแสงพล- พ่ายฟ้ อน
ลิลิตตะเลงพ่าย :
๑๙. ข้อใดมีผลให้พระมหาอุปราชา
กอบเกิดขัตติยมา นะนึก หาญเฮย
ขับคชเข้ายุทธ์แย้ง
ด่วนด้วยโดยถวิล
ก. เสนอเนตรมนุษย์ต้ งั แต่หล้าเลอสรวง
ข. ไว้เป็ นมหรสพซ้อง สุ ขศานต์
ค. เชิญราชร่ วมคชยุทธ์ เผยอเกียรติ ไว้แฮ
ง. สื บกว่าสองเราไสร้ สุ ดสิ้ นฤามี
ลิลิตตะเลงพ่าย :
๒๐
กลใดไป่ ช่วยแผ้ว
ใสสรว่างธุมา
มลักเล็งเหล่าพาธา
เห็นตระหนักเนตรด้วย
ใช้ลีลาการประพันธ์แบบใด
ก. เสาวรจนีย ์
ข. นารี ปราโมทย์
ค.พิโรจน์วาทัง
ง. ศัลปังคพิสัย
นภา ดลฤๅ
มืดม้วย
ทวยเศิก สมรแฮ
ดัง่ นี้แหนงฉงาย
ลิลิตตะเลงพ่าย :
๒๑.
“นุสรธิ์ซ่ ึงน่านน้ า นองพนา สณฑ์เฮย
หนปัจฉิมทิศา
ท่วมไซร้
คือทัพอริ รามัญหมู่ นี้นา
สมดัง่ ลักษณ์ฝันไท้ ธเรศนั้นอย่าแหนง”
ลักษณะเด่นของคาประพันธ์ขา้ งต้นคือข้อใด
ก. การใช้อุปลักษณ์ ข. การเล่นสัมผัสอักษร
ค. การใช้นาฏการ
ง. การใช้อพั ภาส
ลิลิตตะเลงพ่าย :
๒๒.
อุรารานร้าวแยก
ยลสยบ
เอนพระองค์ลงทบ
ท่าวดิ้น
เหนือคอคชซอนซบ
สังเวช
วายชิวาตม์สุดสิ้ น
สู่ฟ้าเสวยสวรรค์
แนวคิดของกวีบทนี้ตรงกับข้อใด
ก. ต้องการเทิดพระเกียรติพระมหาอุปราชา
ข. ต้องการบรรยายภาพการสิ้ นพระชนม์ของพระมหาอุปราชา
ค. ต้องการบรรยายภาพการสิ้ นพระชนม์ในสมรภูมิเยีย่ งวีรบุรุษ
ง. ต้องการให้ผอู ้ ่านตระหนักถึงความงามในการใช้ภาษาร้อยกรอง
ลิลิตตะเลงพ่าย :
๒๓. ข้อใดแสดงถึงปณิ ธานกวีได้เด่นชัดที่สุด
ก. มลายโลกอย่ามลายม้วย อรรถอื้นอัญขยม
ข. ขัตติยวงศ์ ผจงโอษฐ์ไว้ สื บหล้าอย่าศูนย์
ค. จงเจนจิตกวี วรวากย์ เฉลียวเอย
ง. อวยพรคณะปราชญ์พร้อม พิจารณ์ เทอญพ่อ
ลิลิตตะเลงพ่าย :
๒๔. “สลัดไดใดสลัดน้อง
แหนงนอน ไพรฤๅ
เพราะเพื่อมาราญรอน
เศิกไสร้
สละสละสมร
เสมอชื่อ ไม้นา
นึกระกานามไม้
แม่นแม้นทรวงเรี ยม
จากข้อความข้างต้นใช้กลวิธีในการสร้างความงามด้านวรรณศิลป์ อย่างไร
ก. อุปลักษณ์
ข.เล่นคา
ค. ปฏิพากย์
ง. บุคคลวัต
ลิลิตตะเลงพ่าย :
“สงครามครานีห้ นัก
ใจเจ็บ ใจนา
เรียมเร่ งแหนงหนาวเหน็บ
อกโอ้
ลูกตาย ฤ ใครเก็บ
ผีฝาก พระเอย
ผีจักเท้ งทีโ่ พล้
ที่เพล้ใครเผา”
คาทีข่ ีดเส้ นใต้ หมายถึงใคร
ก. พระนเรศวร พระมหาธรรมราชา
ข. พระเอกาทศรถ พระมหาธรรมราชา
ค. พระมหาอุปราชา พระเจ้ านันทบุเรง
ง. พระนเรศวร พระเอกาทศรถ
๒๕.
ลิลิตตะเลงพ่าย :
๒๖.
“สงครามครามนี้หนัก
ใจเจ็บ ใจนา
เรี ยมเร่ งแหนงหนาวเหน็บ อกโอ้
ลูกตาย ฤ ใครเก็บ
ผีฝาก พระเอย
ผีจกั เท้งที่โพล้
ที่เพล้ใครเผา"
ผูพ้ ดู มีความรู ้สึกอย่างไร
ก. เปล่าเปลี่ยวใจ ข. หวาดหวัน่ ใจ
ค. ดับแค้นใจ
ง. เศร้าใจ
ลิลิตตะเลงพ่าย :
๒๗. เหตุผลประการใดของสมเด็จพระวันรัตที่ทาให้สมเด็จพระนเรศวรพระราชทาน
อภัยโทษแก่แม่ทพั นายกองที่ตามเสด็จไม่ทนั
ก. พระตรี โลกนาถแผ่ว เผด็จมาร
เฉกพระราชสมภาร
พี่นอ้ ง
ข. ทุกทวยเทพคณา
ชุมช่วย พระเอย
แสดงพระเดโชชี้
ชเยศไว้ในสนาม
ค. พระเดชหากแสดงเอง อานาจ พระนา
เสนอทุกทวยธเรศก้อง เกียรติอา้ งอัศจรรย์
ง. ถวายพรบวรศรี สวัสดิ์ สว่างโทษ ท่านนา
นฤทุกข์นฤภัยแผ้ว
ผ่องพันอันตราย