โคลงเป็ นคำพันธ์ที่บงั คับเอกโท ได้รับควำมนิ ยมมำตั้งแต่ สมัยกรุ งศรี อยุธยำตอนต้น คำประพันธ์ประเภทโคลงมี หลำยชนิ ด เช่น โคลงสอง โคลงสำม โคลงสี่ โคลงที่ดีจะต้องประกอบด้วยรส คำและรสควำมดังที่ พ ระรำชวงศ์เธอ กรมหมื่ นพิ ทยำลงกรณ์ ท.
Download ReportTranscript โคลงเป็ นคำพันธ์ที่บงั คับเอกโท ได้รับควำมนิ ยมมำตั้งแต่ สมัยกรุ งศรี อยุธยำตอนต้น คำประพันธ์ประเภทโคลงมี หลำยชนิ ด เช่น โคลงสอง โคลงสำม โคลงสี่ โคลงที่ดีจะต้องประกอบด้วยรส คำและรสควำมดังที่ พ ระรำชวงศ์เธอ กรมหมื่ นพิ ทยำลงกรณ์ ท.
่ งคับเอกโท ไดร้ บั ควำม โคลงเป็ นคำพันธ ์ทีบั นิ ยมมำตั้งแต่ ส มั ย กรุ ง ศรีอ ยุ ธ ยำตอนต น ้ คำ ประพันธ ์ประเภทโคลงมีหลำยชนิ ด เช่น โคลงสอง ่ จะต ้องประกอบด ้วยรส โคลงสำม โคลงสี่ โคลงทีดี ค ำและรสควำมดัง ที่พระรำชวงศ เ์ ธอ กรมหมื่ น พิทยำลงกรณ์ทรงอธิบำยไว ้ว่ำ โคลงดีดด ี ้วยรส นำนัย ไฉนนอ ต ้องจิตติดหฤทัย เทิดถ ้วน ไพเรำะรสคำไพเรำะรส ควำม เอย สองรสพจน์ล ้วน ทิทยลำจำรูญ ้ ขอให ้ ในขันนี ท ้ บทวนแผนผังโคลงชนิ ดต่ำงๆ แผนผังโคลงชนิ ดต่างๆ ตัวอย่าง ข ้ำง พระครวญถึงอ่อนท ้ำว หนักอุระรำชร ้ำว ทีร่ ้ำงแรมศรี ฯ ใครปรำนี หนึ่ งบ ้ำง เชิญนุ ชมำแนบ ้ ช่วยชีชวนชม พฤกษ ์นำ ฯ โคลงสามสุภาพ บทหนึ่ งมี ๑๙ คำ อำจมี คำสร ้อยได ้ ๒ คำ แบ่งเป็ น ๒ บำท บำท หนึ่ งมี ๒ วรรค มีลก ั ษณะบังคับตำมแผน ดังนี ้ ต ัวอย่าง หน้ำ พวกพลทัพรำมัญ เห็นไทยผันหนี ้ ้ำ ไป่ บ่หยุดยังช น่ ำนนำ ฯ ่ ้อนแตกฉำน ตืนต ่ ภาพ บทหนึ่ งมี ๓๐ คำ อำจมีคำ โคลงสีสุ สร ้อยได ้ ๒ คำ ในบำทที่ ๑ และ ๓ บทหนึ่ งมี ๔ บำท บำทหนึ่ งมี ๒ วรรค มีลก ั ษณะบังคับ ตำมแผนผังดังนี ้ ตัวอย่าง ่ เสียงลือเสียงเล่ำอ ้ำง อันใด พีเอย ่ เสียงย่อมยอยศใคร ทัวหล ้ำ ่ บใหล ่ ฤำพี่ สองเขือพีหลั ลืมตืน ่ ดเองอ ้ำ สองพีคิ อย่ำได ้ถำมเผือ ่ ภาพ ศิลปะการแต่งโคลงสีสุ ่ งคับวรรณยุกต ์เอก ๑. ตำแหน่ งทีบั อำจใช ้คำตำยแทนได ้ เช่น เพ็ญพิสำข ์สุขพ้อง นิ พพำน ประสู ตต ิ ร ัสรู ้กำล เกริก ก ้อง พระไตรร ัตน์รงุ ่ ชวำล เรือง โรจน์ ๒. คำจบบทควรลงด ้วยเสียงสำมัญหรือเสียงจัตวำ ใช ้คำ ่ รป ทีมี ู วรรณยุกต ์หรือคำตอำยในค่ำจบบท เช่น เวียนว่ำยตำยเกิดโอ ้ อนิ จจัง ้ พดับศพฝัง สินชี ป่ ำช ้ำ ่ นำศพัง ้ สรรพสิงพิ สินหมด ่ ั คฟ เหลือชวดี ฝำกให ้ครวญถวิล ู่ ้ ำ ฯ ในกรณี ทต ี่ ้องกำรแสดงภำพชุลมุนวุน ่ วำย หรือ ้ นใจอำจใช ้คำตำยในคำสุดท ้ำยของบำทแรก ควำมอัดอันตั และในคำที่ ๕ ของบำทที่ ๒ และ ๓ เช่น บัดมงคลพ่ำห ์ไท ้ ทรำร ัติ ่ ่ แว ้งเหวียงเบี ยงเศี ยรสะบัด ตกใต ้ อุกคลุกพลุกเงยงัด คอคช เศิกแฮ ๓. ถ ้ำคำที่ ๕ และ ๖ ของทุกบำทมีสม ั ผัสพยัญชนะ จะ ่ น้ เช่น ทำให ้โคลงมีควำมไพเรำะยิงขึ เอียงอกเทออกอ้าง อวดองค ์ อรเอย เมรุชบ ุ สมุทรดินลง เลขแต ้ม อำกำศจักจำรผจง จารึก พอฤำ โฉมแม่หยำดฟ้ ำแย้ม อยู ่ร ้อนฤำเห็น ๔. คำที่ ๔ และ ๕ ของบำทแรกสลับตำแหน่ งเอก โท กันได ้ แต่ในบำทสุดท ้ำยสลับไม่ได ้ เช่น แสงทองงำมแผ้วผ่อง พรรณรำย ยำมรุง่ ตะวันฉำย ฉำบฟ้ ำ ้ ไป่ งำมเพริศพริงพรำย เทียบเท่ำ ธรรม นอ สองจิตแจ่มเจิดจ ้ำ จวบแจ้งกัปกัลป์ ่ น้ ดัง ๕. หำกใช ้กลบทในโคลง จะทำให ้โคลงไพเรำะยิงขึ ตัวอย่ำง กลบทวัวพันหลัก ต่อไปนี ้ จำเรียงรจเรขแผ้ว เพียรผจง เพียงพิจารณ์ภำษิตทรง ประดับหล้า ประด ับโลกกวีวง วรรณภพ สนั่น แฮ วรรณเพริศพรำยพร่ำงฟ้ ำ เฟื่ องฟุ้ งนิ ร ันดร ์สมัย ฯ ๖. กำรใช ้ภำพพจน์ในกำรเขียนจะทำให ้โคลงบทนั้นมี ุ คลวัต ควำมงำมมำกขึน้ ดังตัวอย่ำงกำรใช ้ภำพพจน์บค ในโคลงบทต่อไปนี ้ ลมอรุณกระซิบขอบฟ้ ำ เฉลยฝัน ่ เพียงล่องตระเวนแสงตะวัน เงียเช ้ำ ่ ๗. กำรใช ้คำสร ้อยในโคลงจะใช ้เมือใจควำมของ โคลงในบทนั้นยังไม่สมบูรณ์ หำกใจควำมดีอยู่ แล ้วก็ไม่จำเป็ นต ้องใช ้คำสร ้อย ขอใหส้ งั เกต ่ โคลงทีใจควำมไม่ สมบูรณ์ และจำเป็ นต ้องใช ้ คำสร ้อยดังนี ้ อยุธยำศล่มแล ้ว ลอยสวรรค ์ ลงฤา สิงหำสน์ปรำงค ์ร ัตนบรรเจิดหล ้ำ บุญเพรงพระหำกสวรรค ์ ศำสน์รงุ ่ เรือง แฮ ้ ๘. กำรใช ้เอกโทษ โทโทษ ควำมหมำยของคำว่ำ “โทษ” ในกำร แต่งคำประพันธ ์คือ ข ้อบกพร่อง ดังนั้น โทโทษจึงหมำยถึง ข ้อบกพร่องในกำรใช ้รูปวรรณยุกต ์เอก และรูปวรรณยุกต ์โท ่ ่ รป กล่ำวคือเมือหำค ำทีมี ู วรรณยุกต ์เอก โท ในตำแหน่ งนั้นไม่ได ้ ่ ้องกำร เอกโทษ คือ ก็ใช ้กำรแปรคำให ้มีรป ู วรรณยุกต ์ตำมทีต ่ รป กำรแปรคำทีมี ู วรรณยุกต ์โทให ้มีรป ู วรรณยุกต ์เอก “โทโทษ” ่ รป คือ กำรแปรคำทีมี ู วรรณยุกต ์เอกให ้มีรป ู วรรณยุกต ์โท หำกไม่ จำเป็ นจริงๆ ในกำรประพันธ ์โคลงไม่ควรใช ้เอกโทษ โทโทษ พระ ่ ทยำลงกรณได ้ทรงพระรำชนิ พนธ ์โคลง รำชวรวงศ ์เธอ กรมหมืนพิ ่ ้คำเอกโทษ โทโทษไว ้ดังนี ้ ทีใช เชิญดูตค ู า ่ เหล้น โคลงโลด โผนเฮย ้ ยกค่อยอประโยชน์ เค่ำเหยียง เอกโทท่อยเป็ นโทษ เทียบไฮ่ เห็นนำ ้ ้ แสดง แปรแชร่งแปลงถูกเถียง ท่วนถีที ้ ่ ไฮ่-ให ้ (อธิบำยคำ : ค่ำ-ข ้ำ เหล ้น-เล่น ค่อ-ข ้อ เหยียง-เยี ยง ่ ยกว่ำ “โคลงกระทู”้ ก็ ๙. กำรใช ้กระทู ้ในโคลง หรือทีเรี ่ น้ คำทีเป็ ่ นกระทูจะเขี จะทำให ้โคลงมีควำมไพเรำะยิงขึ ้ ยน ไว ้ต ้นบำท ผูเ้ ขียนจะต ้องตีควำมกระทูให ้ ้เข ้ำใจ และ เขียนอธิบำยควำมหมำยของกระทู ้ภำยในโคลงบทนั้น ้ั โคลงกระทู ้มีตงแต่ ๑-๔ คำ โคลงกระทู ้ ๑ คา ์ ้ วงศ ์หงส ์ เสีย สินสงวนศักดิไว ่ ้ เสีย ศักดิสู์ ้ประสงค ์ สิงรู เสีย รู ้เร่งดำรง ควำมสัตย ์ ไว ้นำ เสีย สัตย ์อย่ำเสียสู ้ ชีพม้วยมรณำ ฯ ่ ั ้ำ หัว หูดช ู วช ไฉไล ่ ล้าน เลือมแลเงำใส เกือบแก ้ว ได้ ส่องกระจกใจ เจียนขำด โคลงกระทู ้ ๒ คา ช้างสาร หกศอกไซร ้ เสียงำ งู เห่า กลำยเป็ นปลำ อย่ำต ้อง ข้าเก่า เกิดแต่ตำ ตนปู่ ก็ดี เมียร ัก อยูร่ ว่ มห ้อง อย่ำไว ้วำงใจ ฯ โคลงกระทู ้ ๓ คา ่ อ หมู่ไม้ มำกมูล ป่ าพึงเสื ่ เรือพึงพาย พำยูร ยำตรเต ้ำ ่ าว บริบูรณ์ นายพึงบ่ ตำมติด มำกเฮย ่ า ค่ำเช ้ำ เจ้าพึงข้ ช่วยสิน้ โคลงกระทู ้ ๔ คา ร ักดีหามจัว่ แจ ้งควำมดี เด่นนำ ่ั ร ักชวหามเสา มี แต่สร ้อย ่ ่ มะพร ้าวตืนดก ปี ละหมืน ่ ยาจกตืนมี น้อย อ ว ด ล้ ำ เหลือหลำย ฯ ่ น ในกำรฝึ กแต่งโคลงนั กเรียนอำจเริมต ้ ดว้ ยกำร ่ ำงๆ ในชีวต เขียนถึงสิงต่ ิ ประจำวันโดยไม่จำเป็ นตอ้ งใช ้ คำศัพท ์สูง เมื่อชำนำญฉั นทลักษณ์แลว้ สำมำรถแต่ง ้ั งได ้เอง ไพวรินทร ์ ขำวงำม กวีซ ี โดยใช ้ศัพท ์แสงชนสู ่ ไรด ์ พ.ศ. ๒๕๓๘ ไดเ้ คยสังเกตเกียวกั บกำรแต่งโคลง ่ ว่ำ ในยีโคลงก ำลังจะตำย หำกปรุงชีวต ิ ชีวำใหม่ๆ ให ้ ่ ่ อยำก ่ โคลง ลดและหลีกเลียงศั พท ์แสง เขีย นถึง สิงที กิจกรรมเสนอแนะ ๑. ร่วมกันร ้องเพลงไทยสำกลต่อไปนี ้ ่ ้ั ยน เพือสร ้ำงบรรยำกำศในชนเรี ร ักกันอยูข ่ อบฟ้ ำ เสมออยูห ่ อแห่งเดียว ช ังกันบ่แลเหลียว กันนำ เหมือนขอบฟ้ ำมำป้ อง เขำเขียว ร่วมห ้อง ต ำ ต่ อ ป่ ำไม้ม ำ ่ ๒. ช่วยกันกำหนดควำมคิดสำคัญทีจะ ่ เขียนโคลงโดยกำหนดจำกสิงแวดล อ้ มใกลต้ วั ่ องอื ่ นๆ ่ หรือเรื ทีน่่ ำสนใจ ๓. รวบรวมโคล งบทที่ ไพเรำะจำ ก วรรณคดี หรือกวีนิพนธ ์ปัจจุบน ั นำมำอ่ำน ้ั ยน หรืออำจรวบรวมลงใน ออกเสียงในชนเรี สมุด “คำคม-คำโคลง” ก็ได ้ ๔ . แ บ่ ง ก ลุ่ ม ศึ ก ษ ำ ค น ้ ค ว ้ำ ค ว ำ ม รู ้ เพิ่มเติม เกี่ยวกับโคลงโบรำณ เช่น โคลง วิช ชุม ำลี โคลงสิ น ธุ ม ำลี โคลงจิต รลดำ ่ ภาพ ทดสอบโคลงสีสุ ๑. โคลง ๑ บท มี . .............บำท ๑ บำท มี ...............วรรค วรรคหน้ำ มี . .............ค ำ วรรค สุดท ้ำยมี...............คำ โคลง ๑ บท มี..................คำ ่ ่ อำจมีคำสร ้อยได ้ในบำทที..........................และบำทที ............................. ๒. โคลง ๑ บท มีคำเอก..................แห่ง คำโท ...............แห่ง ๓ . ค ำ เ อ ก คื อ .................................................................................... ย ก ตั ว อ ย่ ำ ง ๕ ค ำ .............................................................................. ๔. คำเอก อำจใช ้คำ.........................................แทนได ้ คำเอกโทษ คือ ............................................................................................. เช่น ................................................................................... คำโทโทษ คือ ............................................................................................. เช่น ................................................................................... ่ ่ งของโคลงสีสุ ่ ภาพ ตอนที่ ๑ ให้นก ั เรียนฝึ กแต่งบาททีหนึ โดยให้หาคามาเติมให้ถูกต้อง ๑. พระคุณครู _____ _____ _____ _____ ๒. รอนรอน อำทิตย ์ _____ อัสดง ่ ่ ตอนที่ ๒ ให้นก ั เรียนฝึ กแต่งบาททีสองของโคลงสี สุภาพโดยให้หาคามาเติมให้ถูกต้องตามตาแหน่ งที่ กาหนด ๑. ๒. _____ ๓. _____ ๔. ๕. คน _____ เดินหลังโกง ่ ท่อง _____ ให ้ทัวไทย _____ _____ อย่ำขัดขวำง ควำม _____ จงอย่ำทำ ่ มี _____ นับหมืนแสน ยิง่ _____ _____ แน่ _____ เช ้ำ _____ ปลืม้ ๑. แปลงกลอน ๘ เป็ นโคลง ๔ สุภาพ กลอน ๘ ยำมเย็นลมพัดโอ ้อำวรณ์จต ิ เทวษคิดสมรมิตรด ้วยผิดหวัง นั่งหรือนอนทุกข ์หนักจิตจักพัง ่ ำฟำดกำยขำดเอย คงม้วยดังฟ้ เอย แปลงหรือถอดเป็ นโคลง ๔ สุภาพ ได ้ดังนี ้ ยำมเย็นลมพัดโอ ้ อำวรณ์ จิตเทวษคิดสมร มิตรด ้วย ผิดหวังนั่งหรือนอน ทุกข ์หนัก ่ ำฟำดกำย ขำด จิตจักพังคงม้วย ดังฟ้ ่ ่ ตอนที่ ๓ ให้นก ั เรียนฝึ กแต่งบาททีสามของโคลงสี สุภาพโดยให้หาคามาเติมให้ถูกต้องตามตาแหน่ งที่ กาหนด ๑. ปัญญำ _____ _____ ดัง ๒. วิชำ _____ ให ้เรำ ๓. ฉันเห็น _____ ปักษำ _____ นำ ๔. คน _____ _____ มีคน แฮ ๕. ยำ _____ _____ มิด ี อำวุธ _____ _____ _____ _____ ร ัก _____ _____ อย่ำ _____ ่ ของโคลงสี ่ ่ ตอนที่ ๔ ให้นก ั เรียนฝึ กแต่งบาททีสี สุภาพโดยให้หาคามาเติมให้ถูกต้องตามตาแหน่ งที่ กาหนด ๑. รีบ _____ นอนแต่ _____ _____ _____ ๒. ควำม _____ ให ้ห่ำง _____ _____ ใกล ้ตัว ๓. _____ _____ ยำอีให ้ _____ _____ ๔. _____ _____ ของป่ ำไม้ _____ ให ้ _____ อย่ำ _____ ช่วย _____ ตอนที่ ๕ ให้นก ั เรียนขีดเส้นใต้คาตายในตาแหน่ งเสียง เอก ่ ้ ก. เพือนกิ น สินทร ัพย ์แล ้ว แหนงหนี ่ หำง่ำย หลำยหมืนมี มำกได ้ ่ เพือนตำย ถ่ำยแทนซีวำอำตม ์ หำยำก ฝำกผีไข ้ ยำกแท ้จักหำ ข. บัณฑิตจักเปรียบแม ้ นที จืดฤำ เห็นขุน ่ จอกแหนมี มำกด ้วย ่ นดี กระหำยดืมเย็ ตนสุข เกษม แฮ ่ อยนักม้วย น้อยยิงน้ มอดได ้แทนตัว ่ ภาพ โคลงสีสุ ่ ำหนดให ้มำใส่ลงในคำประพันธ ์ให ้ จงเลือกคำทีก ถูกต ้องเหมำะสม ้ ดี) (นี ้ ไกล ขึน้ แท ้ วัย เยือง นำพ่อ ้ั ย่่ ำง ทุกชนที ลองเปรียบชีวต ิ ใน ่ เรำเริมแต่ เยำว ์ ่ ำงชนสู ้ั งชี ้ ยิงย่ บันได โลก ่ เรียนเรือย ่ ้องศึกษำ ยิงต การท่องจาคาประพันธ ์ประเภทต่างๆ ่ ภาพ มีหลักในกำรท่อง ดังนี ้ ๑. โคลงสีสุ ๑. ทอดเสียงให ้ตรงตำมจังหวะของแต่ละวรรค วรรคหน้ำแต่ละบำทมี ๒ จังหวะ จังหวะ ๒ คำ และ ๓ คำ วรรคหลังบำทที่ ๑ และบำททที่ ๓ มี ๑ จังหวะ เป็ นจังหวะ ๒ คำ ถำ้ มีคำสร ้อยก็เพิ่มอีก ๑ จังหวะ ๒ คำ วรรคหลัง บำทที่ ๒ มี ๑ จัง หวะ เป็ น จังหวะ ๒ คำ วรรคหลังบำทที่ ๔ มี ๒ จังหวะ จังหวะ ละ ๒ คำ ่ ้คำเสียงจัตวำ ตอ้ งเอน ๒. คำทำ้ ยวรรคทีใช ่ ภำพทีแต่ ่ ง เสียงใหส้ ูงเป็ นพิเศษ ตำมปกติโคลงสีสุ ถูก ต อ้ งและไพเรำะ ใช ้ค ำเสีย งจัต วำตรงค ำท ำ้ ย ของบำทที่ ๑ หรือคำท ้ำยบท ้ งบำทที่ ๒ ใหเ้ สียงต่ำกว่ำ ๓. เอือนวรรคหลั ปกติ ๔. ตำมปกติค ำประพัน ธ ท ์ ุ ก ชนิ ดก ำหนด จำนวนคำแต่ละวรรค และแต่ละบทไวต้ ำยตัว เช่น โคลงสี่สุ ภ ำพบทหนึ่ งมี ๔ บำท บำทหนึ่ งมี ๒ วรรค วรรคหน้ำ ของแต่ ล ะบำทมี ๕ ค ำ วรรค หลัง บำทที่ ๑-๓ มี ๒ ค ำ แต่ อ ำจมีค ำสร อ้ ย ่ ่ ค ำที่ก ำหนดจ ำนวนไว ใ้ นค ำประพัน ธ แ์ ต่ ล ะชนิ ด หมำยถึง คำพยำงค ์เดียว เช่น โรง เรียน ต ้น ไม้ ต่ำง เป็ น ๑ ค ำ ส่ ว น โรงเรีย น ต น ้ ไม้ ต่ ำ งเป็ น ๒ ค ำ ิ ำ อำนุ ภำพ ต่ำงเป็ น ๓ คำ นำฬก ่ ในกรณี ทีพยำงค ์หน้ำ ของค ำเสีย ง อะ ไม่ ประวิส รรชนี ย ์ อำจไม่ นั บ เป็ นคำก็ ไ ด ้ เช่น ขจร จร สั ต่ำงเป็ น ๑ คำ อนุ เครำะห ์ สหกรณ์ ต่ำงเป็ น ๒ คำ กำรอ่ ำ นค ำที่ไม่ นั บ พยำงค ห ์ น้ำ เป็ นอีก ค ำ หนึ่ งเช่น นี ้ ต อ้ งอ่ ำ นรวบเสีย ง โดยไม่ เ น้น พยำงค ห์ น้ำ ดังกล่ำว ตัวอย่างการแบ่งจังหวะโคลงสุภาพ ครำหิว/ใช่จก ั ต ้อง เสียศรี ้ อุทก/กลัวนำภี อยู่ได ้ ใบความรู ้ที่ ๘.๑ ่ คาประพันธ ์ประเภทโคลง เรือง รอยรูปอินทร ์หยำดฟ้ ำ หล ้ำ แหล่งให ้คนชม มำอำองค ์ใน แลฤำ น้อย มำนำ ไป่ แจ ้งกำรแหงเล่ห ์ ต่ำงเร่งติดเร่งต ้อย เท่ห ์กลไทยใช่ ่ เร่งเต ้ำตืนตำม โอ ้ศรีเสำวลักษณ์ลำ้ แลโลม โลกเอย ่ แม้วำ่ มีกงโพยม ิ่ ยืนหล ้ำ แขวนขวัญนุ ชชูโฉม แมกเมฆ ไว ้แม่ กีดบ่มก ี งฟ้ ิ่ ำ ฝำกน้องนำงเดียว ใบงานที่ ๘.๑ ่ เรือง คาประพันธ ์ประเภทโคลง ่ ชือกลุ ่ม ............................................. ตอนที่ ๑ ้ ้ คาสัง่ จงขีดเสน ้ ใตค้ ำเอก และวงกลมคำโทในโคลงต่อไปนี ให ถูกต ้องตำมลักษณะบังคับของโคลงชนิ ดนั้นๆ โคลงสองสุภาพ หล ้ำ ่ ำ พันลึกล่มลันฟ้ ้ แหล่งเพียงพกพั ง เฉกอสุ นี ผ่ ำ แลนำ โคลงสามสุภาพ ท่ำนได ้ เอย ้ ใครจะเอือมมติ ได ้ ่ ภาพ โคลงสีสุ คน ้ สองนำยเกลียงกล่ ำวทูล ว่ำนเรสูร เท่ำเผ้ำฤำษี พระ เสียงไห ้ทุกรำษฎร ์ไห ้ ทุกเรือน อกแผ่นดินดูเหมือน จักขวำ้ บ่เห็นตะวันเดือน ดำวมืด มัวนำ ้ แลแห่งใดเห็นนำ้ ย่อมนำตำ ใบความรู ้ที่ ๘.๒ คาสัง่ จงเติมคำลงในช่องว่ำงให ้ได ้ควำมและถูกต ้องตำมลักษณะ โคลงสองสุภาพ ญำติเกือ้ _____ _____ สัมพันธ ์ โคลงสามสุภาพ _____ _____ สุขแล ่ ภาพ โคลงสีสุ มิตรดีมแี ต่ _____ ยำมใดใจเบิกบำน แม้ _____ ใช่ ทวีนำ ทำกิจกำร สุ _____ ดวงจิต _____ _____ _____ พำเกษม มะลิหอมละคร ้ำว ่ กลินตลบอบอวล _____ ยวนใจ จริงแฮ ่ ทัวหล ้ำ ตอนที่ ๓ คาสัง่ จงใช ้ข ้อควำมต่อไปนี ฝึ้ กแต่งโคลงตำมที่ กำหนดให ้ ถึงร่ำงกำยร ้อนฝ่ ำว เพียงใด ้ ยงหนเดียว อำบนำเพี ดับร ้อนได ้ แต่ควำมเดือดร ้อนใจ ระงับยำก ่ เพรำะแฝงอยู่ลก ึ ยำกทีจะขจั ดไป ่ ภำพทีถู ่ กต ้องตำม ๑. จงปร ับปรุงข ้อควำมข ้ำงต ้นให ้เป็ นโคลงสีสุ ลักษณะบังคับ ................................................................................. ................................................................................. ................................................................................. ................................................................................. ๒. จงแต่งโคลงสำมสุภำพ ๑ บท ให ้ถูกต ้องตำมลักษณะบังคับ ้ ่ ภำพทีแต่ ่ งในข ้อ ๑ และมีเนื อหำเช่ นเดียวกันโคลงสีสุ ................................................................................. ................................................................................. ................................................................................. ................................................................................. ๓. จงแต่งโคลงสองสุภำพ ๑ บท ใหถ ้ ูกตอ้ งตำม ลัก ษณะบัง คับ และมีเ นื ้อหำเช่น เดีย วกับโคลงสี่ ่ งในข ้อ ๑ สุภำพทีแต่ ................................................................ ................................................................ ................................................................ ............................................................... ่ เรือง การแต่งบทร ้อยกรองประเภทโคลง ่ กต ้องทีสุ ่ ดเพียงข ้อเดียว คาสัง่ จงเลือกคำตอบทีถู ่ กต ้องของโคลงสีสุ ่ ภำพ ๑. ข ้อใดไม่ใช่ลก ั ษณะทีถู ่ ภำพ ๑ บท มี ๔ บำท ก. โคลงสีสุ ข. คำเอกมี ๗ แห่ง คำโทมี ๔ แห่ง ค. วรรคหน้ำมีจำนวน ๕ คำ วรรคหลังมี ๒ คำ ่ มคำสร ้อยได ้ คือ ท ้ำยบำทที่ ๑ และ ๓ ง. ตำแหน่ งทีเติ ๒. ข ้อใดเรียงลำดับข ้อควำมได ้ถูกต้องตำมลักษณะบังคับของ ่ ภำพ โคลงสีสุ ๑. งำนเร่งรีบทำตัง้ สติสู ้เสร็จงำน ่ แรงนำ ๒. งำนมำกมุ่งติดตำม เต็มเรียว ่ ๓. งำนยำกยิงพยำยำม อย่ำยัง้ ๔. งำนหนักเอำบ่ำเข ้ำ แบกหำม เถิดพ่อ ก. ๑ ๒ ๓ ๔ ข. ๒ ๓ ๑ ๔ จงอ่านคาประพันธ ์ต่อไปนี ้ แล้วตอบ คาถามข้อ ๓ - ๔ ออกจำกคลองขุดข ้ำม ครรไล ่ เรือวิงอกว ้ำใจ หวำดชวำ้ ่ ดใย เด็ดแดดังเด็ บัวเบ่ง มำแม่ ่ ้ในนำง จำกแต่อกใจปลำ้ เปลียนไว ่ ภำพข ้ำงต ้นใช ้คำตำยแทนคำเอกตำมลักษณะบังคับโคลงสี่ ๓. โคลงสีสุ ่ ำ สุภำพกีค ก. ๑ คำ ข. ๒ คำ ค. ๓ คำ ง. ๔ คำ ่ ภำพข ้ำงต ้นในบำทใด ๔. มีคำโทโทษปรำกฏในโคลงสีสุ ก. บำทที่ ๑ ข. บำทที่ ๒ ค. บำทที่ ๓ ง. บำทที่ ๔ ๕. ควรเติมคำในข ้อใดในช่องว่ำงจึงจะได ้ควำมถูกต ้องตำมลักษณะบังคับ ่ ภำพ ของโคลงสีสุ ระยะทำงนับร ้อย พัน ____ ่ เริมจำกจรดเท ้ำไป แรก ____ ่ ่ ั ____ ้ ด รีรอหวันพร น ยังหยุ หนชีพจักอะคร ้ำว ____ ดังหวัง ได ้ ก. โยชน์ เริม่ จิต เฟื่ องฟุ้ ง ค. ไมล ์ ก ้ำว ใจ รุง่ ได ้ ข. ลี ้ เริม่ ไย รุง่ เรือง ง. โล ก ้ำว ไฉน สุข ๖. ข ้อใดไม่ใช่ลก ั ษณะบังคับของโคลงสำมสุภำพ ก. โคลงสำมสุภำพ ๑ บท มี ๔ บำท ข. โคลงสำมสุภำพ ๑ บท มี ๔ วรรค ค. มีคำเอก ๓ แห่ง คำโท ๓ แห่ง ง. วรรคสุดท ้ำยมีคำสร ้อย ได ้ ๒ คำ จงอ่านคาประพันธ ์ต่อไปนี ้ แล้วตอบคาถามข้อ ๗ – ๘ หล ้ำ ขับพลวำงเข ้ำแหล่ง แลธุลฟ ี ุ้ งฟ้ ำ แห่งอยุธเยศ มีดคลุมมั ้ วมล ๗. โคลงสำมสุภำพข ้ำงต ้นมีคำเอกตำมลักษณะบังคับของโคลงสำมสุภำพ คำใดบ ้ำง ก. แหล่ง แห่ง ยิง่ ข. (อยุธ)เยศ ธุ(ลี) มืด ค. แห่ง มืด ยิง่ ง. (อยุธ)เยศ มืด ยิง่ ๘. ข ้อใดคือคำสร ้อยของโคลงสำมสุภำพข ้ำงต ้น ก. ฟุ้ งฟ้ ำ ข. มืดคลุม้ ่ ค. มัวมล ง. ยิงนำ ๙. ข ้อใดไม่ใช่ลก ั ษณะบังคับของโคลงสองสุภำพ ก. โคลงสองสุภำพ ๑ บท มี ๓ วรรค ข. วรรคที่ ๑ และ ๒ มี วรรคละ ๕ คำ ค. วรรคสุดท ้ำยมี ๔ คำ ง. มีคำเอก ๒ แห่ง คำ โท ๒ แห่ง ่ ๑๐. ข ้อใดกล่ำวไม่ถูกต้องเกียวกั บโคลงสองสุภำพต่อไปนี ้ ละห ้อย ก. ข. ค. ง. จำใจจำจำกสร ้อย ห่อนช ้ำคืนสงบ อยู่แม่อย่ำ แม่แล คำเอกตำมลักษณะบังคับ คือ จำก แม่ ห่อน คำโทตำมลักษณะบังคับ คือ สร ้อย ห ้อย ช ้ำ ่ คำสร ้อยทีปรำกฏ คือ ห่อนช ้ำคืนลม แม่แล ่ สัมผัสบังคับทีปรำกฏ คือ สร ้อย - ห ้อย