Transcript ชื่อวิทยาศาสตร์ - คณะเทคโนโลยีการเกษตร

่ กบริเวณรอบ
ไม้ยน
ื ต้นทีปลู
คณะเทคโนโลยีการเกษตร
มหาวิทยาลัยราชภัฎราไพ
พรรณี
่ ก
บริเวณทีปลู
ผู จ
้ ัดทา
่ กไม้ยน
บริเวณทีปลู
ื ต้นรอบคณะ
อินทนิ ล
เทคโนโลยี
ก
ารเกษตร
่
ประดู ก
่ งิ
มะฮอก
อ่อน
กานี
ประดู ่
ส้ม
ตีนเ
ป็ ด
หมาก
เหลื
อง
มะย
ช ัยพฤ
กษ ์
ม
ก้ามปู
ไทร
หาง
นกยู ง
กระท้อ
น
หมาก
เขียว
1. ประดูก
่ งอ่
ิ ่ อน
่ ทยาศาสตร ์
- ชือวิ
- ลักษณะทางพฤกษศาสตร ์
- นิ เวศวิทยา
- ประโยชน์
่ ทยาศาสตร ์ Pterocarpus
• ชือวิ
indicus Willd.
• วงศ ์ LEGUMINOSAE PAPILIONOIDEAE
่ น
่ ประดูก
• ชืออื
่ งอ่
ิ่ อน สะโน อังสนา
ลักษณะทางพฤกษศาสตร ์
ไม้ต ้นขนาดกลางผลัดใบ สูง 10
- 20 เมตร ลาต ้นเปลาตรง เปลือกสี
้
นาตาลด
า แตกตามยาว เปลือกในมีนา้
้ สีแดง เรือนยอดทรงกลมหรือทรง
เลียง
้ กว ้าง หนาทึบ กิง่ ก ้าน
เจดีย ์ เตียแผ่
ทอดต่าย ้อยลงต่า ใบเป็ นใบประกอบแบบ
ขนนก เรียงสลับ มีใบย่อย 7 - 13 ใบ
่ ใบรูปขอบ
ปลายสุดของช่อเป็ นใบเดียว
ขนานแกมรูปไข่ ปลายมน หรือแหลม
เป็ น ติง่ ทู่ โคนใบมนกว ้าง ดอกสีเหลือง
่
กลินหอมอ่
อน ๆ ออกรวมกันเป็ นช่อ
ตามง่ามใบ หรือปลายกิง่ ช่อยาว 20 30 เซนติเมตร ผลเป็ นฝักแบนกลม
คล ้ายจานบิน ตรงกลางนู น ขนาด 3.5
- 5 เซนติเมตร มีปีกรอบ ๆ มีเมล็ด 1
นิ เวศวิทยา
• นิ เวศวิทยา พบตามป่ าเบญจ
พรรณทางภาคใต ้ สามารถ
่
ปลูกได ้ทัวไป
• ออกดอก เมษายน สิงหาคม ดอกจะบานและโรย
พร ้อม ๆ กัน
• ขยายพันธุ ์ โดยเมล็ด ปักชา
กิง่
• วิธป
ี ฏิบต
ั ต
ิ อ
่ เมล็ดและการ
เพาะเมล็ด เด็ดปี ก แล ้วแช่
้ ้ 1 คืน ก่อนนาไปเพาะ
นาไว
้ ใช ้ทาสิงก่
่ อสร ้าง เปลือกให ้นาฝาด
้
• ประโยชน์ เนื อไม้
้
สาหร ับฟอกหนัง และให ้สีนาตาลส
าหร ับย ้อมผ้า แก่น
ให ้สีแดงคลา้
2. ประดู ส
่ ม
้
่ ทยาศาสตร ์
- ชือวิ
-ลักษณะทางพฤกษศาสต
-ประโยชน์
่ ทยาศาสตร ์ Plerocarpus Indicus
ชือวิ
่
ชือวงศ
์ FABACEAE
่
ชือสามั
ญ Padauk
่ นๆ
่ Burmese Rosewood, ประดู ่ , ดู บ
ชืออื
่ า้ น , สะโน
(ภาคใต้)
่ าเนิ ด ประเทศอินเดีย
ถินก
อยูใ่ นวงศ ์ PAPILIONEAE เป็ นไม้กงผลั
ึ่ ดใบยืนต ้นขนาดใหญ่
สูง 20 – 30 เมตร เรือนยอดหนาทึบ ลาต ้นอ ้วน เปลือก
้
้ เปลือกชันใน
้
ต ้นเป็ นสีนาตาลเข
้มเกือบดา ไม่แตกร่องเกลียง
้
เป็ นสีดาอมชมพู มียางสีแดง แก่นเป็ นสีเหลืองหรือสีนาตาล
มี
่
่
กลินหอมอ่
อน ๆ ชืนใจดี
• ลักษณะทางพฤกษศาสตร ์
ประดูเ่ ป็ นพรรณไม้ยน
ื ต ้นขนาดใหญ่ มีลาต ้นสูงประมาณ 25
เมตร ใบจะออกรวมกันเป็ นช่อ ลักษณะของใบเป็ นรูปมนรี
้
่ ้งจะผลัดใบก่อนออกดอก ดอก
ปลายใบแหลม ถ ้าขึนในที
แล
ออกเป็ นช่อมีสเี หลืองสดลักษณะคล ้ายดอกถัว่ โคนกลีบ
้
เลียงกลี
บดอกติดกันเป็ นกรวยโค ้งเล็กน้อย กลีบดอกมี 5
กลีบ มีขนาดดอกเล็ก ขณะดอกย่อยบานมีเส ้นผ่าน
่
ศูนย ์กลางประมาร 0.5- 1 ซม. ดอกบานไม่พร ้อมกัน มีกลิน
่
่
้
หอมอ่อนๆ ดอกทีใกล
้โรยจะเปลียนเป็
นสีเหลืองอมนาตาล
ฤดูดอกบานอยูใ่ นช่วง เดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคม
– ประโยชน์
– ดอกจะออกช่วงฤดูร ้อน
ขยายพันธุ ์ด ้วยการเพาะเมล็ด
้ วไปตามป่
่
กับตอนกิง่ พบขึนทั
า
้ แข็งแต่ทา
ในประเทศไทย เนื อไม้
ให ้แห ้งในอากาศได ้ยาก เหมาะ
สาหร ับก่อสร ้างสะพาน
เฟอร ์นิ เจอร ์ เปลือกมีสาร
“แทนนิ น” มาก ให ้สีชมพูย ้อม
ตะกร ้าหวายได ้ดีมาก การปลูก
้ และ
่
“ประดูส
่ ้ม” ไม่เลือกพืนที
อากาศ ปลูกง่าย โตเร็ว ถ ้าจะ
ปลูกเอาร่มเงาต ้องให ้ห่างบา้ น
หน่ อย เพราะรากกระจายกว ้าง
่ ้นประดูส
เมือต
่ ้ม มีดอกจะ
งดงามประทับใจ
3. กระท ้อน
่ ทยาศาสตร ์
- ชือวิ
่
- ลักษณะทัวไป
-การดู แลร ักษา
่
• ชือพฤกษศาสตร
์ กระท ้อน
่ ทยาศาสตร ์ Sandoricum
ชือวิ
koetjape (Burm. f.) Merr.
ตระกูล MELIACEAE
่ นๆ
่ เตียน เลืยน
่ สะท ้อน มะต ้อง มะตึน
๋
ชืออื
่
• ลักษณะโดยทัวไป
ไม้ยน
ื ต ้น มียางขาว สูง 15 - 30 เมตร
ใบประกอบ มีใบย่อย 3 ใบ เรียงสลับ ใบย่อยรูปไข่แกมวงรี
่
แกมขอบขนาน กว ้าง 6 - 15 ซม. ยาว 8 - 20 ซม. เมือแห
้ง
่
่
จะเปลียนเป็
นสีส ้มแดง ดอกช่อ ออกทีซอกใบ
ดอกย่อย
จานวนมาก กลีบดอกสีเหลืองหม่น ผลเป็ นผลสด รูปกลม
แป้ น สีเหลือง ผิวมีขนแบบกามะหยี่
• การดู แลร ักษา
่
ราคาค่อนข ้างแพง หากปลูกไว ้
• เป็ นไม้ผลอีกชนิ ดหนึ่ งทีผลมี
ภายในบริเวณบ ้านจะช่วยประหยัดเงินได ้มากพอสมควร แถม
่
ยังมีผลไม้ราคาแพงไว ้แจกญาติพน้
ี่ องหรือเพือนบ
า้ นอีกด ้วย
่ ยมปลูกได ้แก่ พันธุ ์ทับทิม พันธุ ์อีลา่ และ
พันธุ ์กระท ้อนทีนิ
้ ้นพันธุ ์ทีขายยั
่
พันธุ ์ปุยฝ้ าย เป็ นต ้น ในขณะนี ต
งมีราคา
่
่
ค่อนข ้างแพง อาจใช ้วิธก
ี ารตอนกิงจากเพื
อนบ
้านหรือญาติพี่
่ ้นกระท ้อนติดผลก็ควรจะห่อผลให ้ด ้วย เพือ
่
น้องก็ได ้ เมือต
่ ยกกัน
้ งเรี
ป้ องกันหนอนเจาะผลและช่วยทาให ้เปลือกนุ่ มขึนซึ
่ ้ร่มเงาได ้ดีแต่มก
ว่า "กระท ้อนห่อ" กระท ้อนเป็ นไม้ผลทีให
ั มี
่ ้ต ้นมี
ใบร่วงบริเวณโคนต ้น ควรตัดแต่งต ้นกระท ้อนบ ้างเพือให
้ ของบ
่
ขนาดเล็กลงเหมาะสมกับพืนที
้าน
4. มะฮอกกานี
่ ทยาศาสตร ์
- ชือวิ
่
-ลักษณะทัวไป
-ประโยชน์
มะฮอกกานี
่ ทยาศาสตร ์: Swietenia macrophylla
ชือวิ
King.
่
ชือวงศ
์:MELIACEAE
่
ชือสามั
ญ: Bay Wood, Broad Leaf
Mahogany
่
ลักษณะทัวไป:
ไม้ยน
ื ต ้น ผลัดใบ สูง 15-25
เมตร ใบประกอบแบบขนนก เรียงสลับ ใบย่อย รูป
้ โค ้งเล็กน้อย กว ้าง 2.5-6 เซนติเมตร
วงรีเบียว
่
ยาว 6-15 เซนติเมตร ดอกช่อออกทีซอกใบ
ใกล ้
ปลายกิง่ กลีบดอกสีเหลืองอ่อน หรือเหลืองแกม
เขียว ผลแห ้งแตกได ้ รูปไข่ หรือหนาแข็ง
่
• ประโยชน์: ไม้ ใช ้ทาเครืองเรื
อน เปลือกต ้น ใช ้
เป็ นยาแก ้เจริญอาหาร
5. ไทรย ้อย
่ ทยาศาสตร ์
- ชือวิ
่
- ลักษณะทัวไป
- ลักษณะทางพฤกษศาส
- สรรพคุณ
• ไทรย้อย
่
• ชือสามั
ญ Weeping
fig
่ ทยาศาสตร ์ Ficus
• ชือวิ
benjamina
• ตระกูล MORACEAE
่ าเนิ ด ในประเทศ
• ถินก
เขตร ้อน โดยเฉพาะทวีป
เอเชีย เช่น ไทย อินเดีย
มาเลเซีย
่
ลักษณะทัวไป
้ั
ไทยย ้อยมีอยูห
่ ลายชนิ ด มีทงใบกลมและใบยาวรี
่
โดยทัวไปใบของไทรย
้อยจะยาวประมาณ1 - 2 นิ ว้ ก ้านใบ
่ ทรงพุ่ม
อ่อน ใบมีสเี ขียวเป็ นมัน เป็ นไม้พุ่มขนาดกลางทีมี
้
้อยระย ้าแลดูสวยงามและมี
หนาทึบแผ่กงก
ิ่ ้านสาขาทิงใบห
รากอากาศแตกออกจากลาต ้น ย ้อยลงสูพ
่ นดิ
ื ้ นเป็ นจานวน
มาก
• ลักษณะทางพฤกษศาสตร ์
• ไม้ไม่ผลัดใบร ัดพันไม้อน
ื่ สูงถึง 20 ม. กิง่
ก ้านลูล
่ ง มีรากอากาศไม่มาก ใบ 5 - 12 *
1.6 - 5 ซม.
รูปมนรีแคบ ปลายสอบยาวแหลมขอบใบ
เรียบ ใบแก่ไม่มข
ี น มีเส ้นใบข ้างเส ้นเล็กๆ
่
มากมาย ( > 17 คู่ )จรดกันเป็ นเส ้นทีขอบ
ใบ ก ้านใบ 0.6 - 1.8 ซม. หูใบแหลม 0.8 ่
่
1.1 ซม. ผลแบบมะเดือออกเป็
นคูห
่ รือเดียวๆ
ในซอกใบ สีส ้มหรือแดงเข ้ม รูปกลม หรือรูป
่
ไข่ ไม่มก
ี ้าน ทีฐานมี
กาบเล็กๆ 3 กาบรองร ับ
• สรรพคุณ
• ราก แก ้ตกเลือด แกฝ้ ี แก ้บวม ขับปัสสาวะ แก ้นิ่ ว ขับพยาธิ
ใช ้ทาแผลแก ้ฟกชา้
รากอากาศ ขับปัสสาวะ
เปลือกต้น ใช ้สมานแผล แก ้ท ้องเสีย ร ักษาฝี ขับพยาธิ แก ้
แผลฟกชา้ ร ักษาอาการตกเลือด
้ นจากเปลื
้
่
นาคั
อก แก ้โรคตับ แก ้ตับพิการ ใช ้ทาแผลทีฟกช
า้
ดอก แก ้ท ้องเสีย แกฝ้ ี แก ้บวม แก ้ตกเลือด ขับพยาธิ
ผล แก ้ท ้องเสีย แกฝ้ ี แก ้บวม ขับพยาธิ แก ้ตกเลือด
ยาง ฆ่าพยาธิ แก ้โรคมะเร็ง แก ้เท ้าเป็ นหน่ อ ใช ้ใส่บาดแผล
6. มะยม
่ ทยาศาสตร ์
-ชือวิ
่
-ลักษณะทัวไป
- การปลู ก
-สรรพคุณทางยา
• มะยม
่ ทยาศาสตร ์ Phyllanthus
• ชือวิ
acidus Skeels
่
• ชือวงศ
์ EUPHORBIACEAE
่
• ชือสามั
ญ Star Gooseberry
่ ้องถิน
่
• ชือท
่
• ทัวไป
เรียก มะยม
• ภาคอีสาน เรียก หมักยม,
หมากยม
• ภาคใต ้ เรียก ยม
่
• ลักษณะทัวไป
มะยมเป็ นไม้ยน
ื ต ้น
ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูง
้
ประมาณ 3–10 เมตร ลาต ้นตังตรง
่ ้านสาขาบริเวณ ปลายยอด
แตกกิงก
่ ้านจะเปราะและแตกง่าย เปลือก
กิงก
ต ้นขรุขระสีเทาปนน้าตาล ใบ เป็ นใบ
รวม มีใบย่อยออกเรียงแบบ สลับกัน
เป็ น 2 แถว แต่ละก ้านมีใบย่อย 20–
30 คู่ ใบรูปขอบขนานกลมหรือ
่ ยมขนมเปี
่
ค่อนข ้างเป็ นสีเหลี
ยกปูน
ปลายใบแหลม ฐานใบกลมหรือมน
ขอบใบเรียบ ดอก ออกเป็ นช่อตาม
่
กิง่ ดอกย่อยสีเหลืองอมน้าตาลเรือๆ
่ อ่อนสีเขียว เมือแก่
่
ผล เมือ
่
เปลียนเป็
นสีเหลืองหรือขาวแกม
้ ่ าน้า เมล็ดรูปร่างกลม
เหลือง เนื อฉ
แข็ง สีน้าตาลอ่อน 1 เมล็ด
• การปลู ก มะยมเป็ นพันธุ ์ไมก้ ลางแจ ้ง
้ั แดดจั
่
เจริญเติบโตได ้ดีทงที
ด หรือในทีร่่ มราไร
้ ้ดีในดินทีร่่ วนซุย มีความชืนพอเหมาะ
้
ปลูกขึนได
ขยายพันธุ ์ด ้วยการเพาะเมล็ด
• สรรพคุณทางยา
• ราก รสจืด สรรพคุณแก ้
โรคผิวหนัง แก ้ผดผืน
่ คัน
ั น้ ำเหลืองให ้แห ้ง
ชว่ ยซบ
แก ้ประดง ดับพิษเสมหะ
• เปลือกต ้น รสจืด
สรรพคุณแก ้ไข ้ทับระดู
ระดูทับไข ้ และแก ้เม็ดผด
ผืน
่ คัน
• ใบ รสจืดมัน ปรุงเป็ นสว่ น
ประของยำเขียว สรรพคุณ
แก ้ไข ้ ดับพิษไข ้ บำรุง
ประสำท ต ้มร่วมกับใบ
หมำกผู ้หมำกเมียและใบ
มะเฟื องอำบแก ้คัน ไข ้หัด
เหือด และสุกใส
• ดอก ดอกสดใชต้ ้มกรอง
เอำน้ ำแก ้โรคในตำ ชำระ
7. หางนกยูง
่ ทยาศาสตร ์
- ชือวิ
-การกระจายพันธุุุ์
- ลักษณะทางพฤกษศาสต
- ประโยชน์
่ นเมื
้
• ชือพื
อง : หางนกยูง
ไทย จาพอ ซาพอ ซมพอ
ส ้มผ่อ นกยูงไทย
หนวดแมว
่
• ชือสามั
ญ : Pride of
Barbados, Peacock's
Crest
่ ทยาศาสตร ์ :
• ชือวิ
Caesalpinia
pulcherrima Sw.
่
• ชือวงศ
์:
LEGUMINOSAE
• การกระจายพันธุุุ์ : เอเซียตะวันออกเฉี ยงใต ้
อเมริกาใต ้
• ลักษณะทางพฤกษศาสตร ์
• หางนกยูงเป็ นไม้ยน
ื ต ้นขนาดกลาง
่ ้าน
ถึงขนาดใหญ่ โตเร็ว แตกกิงก
กว ้าง สูง 10-15 เมตร เหมาะจะ
ปลูกให ้ร่มเงา แต่มรี ะบบรากที่
แข็งแรง อาจงัดหรือทาลาย
่ อสร ้างได ้ถินก
่ าเนิ ด เกาะ
สิงก่
มาดากัสการ ์ในแอฟริกา ทนแล ้ง
ชอบดินทราย
• เปลือกหางนกยูงขรุขระและหนา ไม่
ผลัดใบ ใบเป็ นใบประกอบขนนก
ประกอบด ้วยใบย่อย 10 – 15 คู่ แต่
ละใบย่อยมีขนาดเล็ก ดอกสีเหลือง
ส ้ม เหลือง ชมพู หรือแดง ตามพันธุ ์
ดอกออกรวมเป็ นช่อใหญ่ คล ้ายหาง
่
่ อกิงข
่ ้าง มี 5
นกยูงทีปลายกิ
งหรื
กลีบ ขนาดไม่เท่ากัน สีทพบมาก
ี่
เช่น ส ้ม แดง ออกดอกเดือน
เมษายน-มิถน
ุ ายน ผลเป็ นฝักยาว
• ประโยชน์ : ให ้ร่มเงา ใช ้เป็ นไม้ประดับได ้
8. หมากเหลือง
่ ทยาศาสตร ์
- ชือวิ
่
- ลักษณะทัวไป
-การใช้งานด้านภู มท
ิ ศ
ั น
หมากเหลือง
่
ชือไทย
หมากเหลือง
่
ชือสามั
ญ Yallow palm
่ ทยาศาสตร ์
ชือวิ
Chrysalidocarpus lutescens
ตระกูล PALMAE
วงศ ์ Palmae (Arecaceae)
่ าเนิ ด มาดากัสก ้า
ถินก
่
• ลักษณะโดยทัวไป
่ หน่ อเป็ นกอ
หมากเหลืองเป็ นปาล ์มทีมี
้
ขึนรวมกั
น กอหนึ่ งจะมีประมาณ 6 - 12
ต ้น สูงประมาณ 25 - 30 ฟุตลาต ้นมีข ้อ
ปล ้องโค ้งออกจากโคนกอ แลดูสวยงาม
ยิง่ ใบเป็ นใบรูปขนนก ทางใบยาว 6 - 8
ฟุต กาบใบจะ ห่อหุมล
้ าต ้นไว ้ หมาก
่ ้ร ับความนิ ยม นามา
เหลืองเป็ นปาล ์มทีได
ตกแต่ง
่ นอย่าง มาก
ประดับประดาตามสถานทีเป็
่ เล็ก
เพราะความสวยงามและมีรป
ู ร่างทีไม่
และก็ไม่ใหญ่จนเกินไป
• ใบ (Foliage) : ใบประกอบแบบขนนก
เรียงสลับ ใบย่อยรูปขอบขนาน กว ้าง 12 เซนติเมตร
ยาวประมาณ 60
เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลม โคนใบรูป
่ แผ่นใบสีเขียวอ่อน กาบใบสีเหลือง
ลิม
จนถึงทางใบ
้
• ผล (Fruit) : ผลสดแบบมีเนื อเมล็
ดเดียว
• การใช้งานด้านภู มท
ิ ศ
ั น์ (Landscape Used) :
ทรงพุ่มสวย ปลูกในกระถางประดับในอาคาร หรือ
้ มุมอาคาร อยู่ รมิ ทะเลได ้
ปลูกเป็ นฉากกัน
9. หมากเขียว
่ ทยาศาสตร ์
- ชือวิ
่
-ลักษณะทัวไป
-ลักษณะทางพฤกษศาสตร
่
• ชือไทย
หมากเขียว
่
• ชือสามั
ญ Mac Arthur
palm
่ ทยาศาสตร ์
• ชือวิ
Ptychosperma macarthuri
• ตระกูล PALMAE
่ าเนิ ด หมู่เกาะนิ วกินี
• ถินก
่
• ลักษณะทัวไป:
เป็ นพรรณไม้ปาล ์ม
่ าต ้นผอม และเป็ นข ้อปล ้อง
ทีล
ตรง ลาต ้นก็เกิดจากหน่ อและสูง
้
ประมาณ 10-20 ฟุตมีสน
ี าตาลอม
่ งอ่อนจะเป็ นสี
เขียวแต่เมือยั
เขียว เป็ นใบไม้รว่ มเช่นเดียวกับ
มะพร ้าว ลักษณะของใบต ้นหมาก
้ นใบขนนก ทางใบหนึ่ ง
เขียวนี เป็
ประกอบด ้วยใบย่อยอยู่
ประมาณ 40 ใบ และใบย่อย
ยาว 10 -15 นิ ว้ ทางใบยาว 4 ฟุต
ตรงโคนก ้านทางใบจะเป็ นกาบห่อหุ ้ม
้
เอาไว ้ มีเนื อใบอ่
อนและสีเขียว
เข ้ม ส่วนด ้านใต ้ใบสีเขียว
่
อ่อน ออกดอกเป็ นช่อคล ้ายจัน
หมาก ขนาดของดอกเล็กมีสเี หลือ
งอมเขียว หรือสีขาวนวล ผลเป็ น
ลูกกลมๆเล็ก มีสเี ขียวอ่อน แต่พอ
แก่จะกลายเป็ นสีแดง สดผลๆหนึ่ งจะ
ลักษณะทางพฤกษศาสตร ์
• ใบ (Foliage) : ใบ
ประกอบแบบขน
นก เรียงสลับ ใบย่อย
รูปขอบขนำน กว ้ำง 2-5
เซนติเมตร ยำว 90120
เซนติเมตร ปลำยใบ
เรียวแหลม โคนใบรูป
ลิม
่ แผ่นใบสเี ขียวเข ้ม
• ดอก (Flower) : สเี หลือ
่
งอมเขียว ออกเป็ นชอ
่ แยกแขนงใต ้
แบบชอ
โคนกำบใบ ดอกแยก
่ ดอก
เพศอยูร่ ว่ มต ้น ชอ
ยำวประมำณ 30
เซนติเมตร
• ผล (Fruit) : ผลสดแบบ
มีเนือ
้ เมล็ดเดียว ติดผล
10. ตีนเป็ ด
่ ทยาศาสตร ์
-ชือวิ
-ลักษณะทางพฤกษศาสต
- สรรพคุณทางยา
• ตีนเป็ ด
่ ตีนเป็ ด
• ชือ
่ ทยาศาสตร ์ Ardisia
• ชือวิ
crenata Roxb
• วงศ ์ MYRSINACEAE
่
• แหล่งทีพบ
พบทุกภาคของ
ประเทศ
• ลักษณะทาง
พฤกษศาสตร ์
• ต้น ไม้พุ่ม สูง 25-50 ซม.
่
• ใบ ใบเดียวเรี
ยวยาว รูป รี
แกมใบหอก ขอบใบหยักโค ้ง
กว ้าง 2-3 ซม. ยาว 5-8 ซม.
แผ่นใบเรียบเป็ นมัน
• ดอก เป็ นช่อสีชมพูออกตาม
่
ง่ กลีบ
ซอกใบหรือทีปลายกิ
ดอกสีม่วงแกมชมพู
• ผล ผลสดรูปกลมรีแดงสด มี
เมล็ดเดียวสีดา
่ บริโภค ยอดอ่อน
• ส่วนทีใช้
ผลสุก
• สรรพคุณทางยา
• แก ้ปากเปื่ อย ขูดเปลือกห่อใบพลูย่างไฟอบไข ้ รากต ้ม
้ มช่
่ วยให ้เจริญอาหาร ล ้านนาใช ้ทังต
้ ้นผสม
นาดื
้ มร
่ ักษา
สมุนไพรจาพวกประดงรวม 9 ชนิ ด ต ้มนาดื
โรคประดง พบว่า รากมีสารกลุม
่ ไตรเทอร ์ปี นอยด ์ ซึง่
กระตุนการบี
้
บตัวของมดลูก พบสาร friedelin มี
์ การอักเสบ และสาร rapanone ซึงสามารถ
่
ฤทธิลด
้
้
อน
ต ้านการเจริญของเชือโรคเรื
11. อินทนิ ล
่ ทยาศาสตร ์
- ชือวิ
่ าเนิ ด
- ถินก
- ประโยชน์
่
• ชือไทย
อินทนิ ลบก
่ ทยาศาสตร ์
• ชือวิ
Lagerstroemia
macrocarpa Wall.
• วงศ ์ Lythraceae
่ น
่ กากะเจา
• ชืออื
(อุบลราชธานี ) จันล่อ จะล่อ จะ
ล่อทุกวาง (ภาคเหนื อ)
่ าเนิ ด: ทีราบลุ
่
้
• ถินก
่มริมน้ า ป่ าเบญจพรรณชืน
่
และป่ าดิบทัวไป
• ลักษณะ
้
• ต ้น ลาต ้นเหนื อดิน ตังตรง
ได ้เอง ผิวแตกเป็ นเส ้น เห็น
้
ข ้อปล ้อง สีนาตาลไหม้
ไม่
มียาง
่
• ใบ ใบเดียวเรี
ยงสลับ สี
เขียว เห็นลายเส ้นช ัดเจน
รูป รี ปลายใบแหลมติง่ โคน
ใบแหลม ขอบใบเรียบ
• ดอก ออกดอกเป็ นช่อที่
ปลายยอด มีสม
ี ่วงแกมขาว
้ ดกัน กลีบดอก
กลีบเลียงติ
แยกกัน 6 กลีบ
• ประโยชน์
้ ำเครือ
• ใชท
่ งเรือน เครือ
่ งมือเกษตรกรรม ไม่ใช ้
ก่อสร ้ำง
12. จามจุร ี
่ ทยาศาสตร ์
-ชือวิ
่
-ลักษณะทัวไป
สรรพคุณ
• จามจุร ี
่ ทยาศาสตร ์ Samanea saman
• ชือวิ
(Jacq.) Merr
่
• ชือไทย
จามจุร ี
่ นเมื
้
• ชือพื
อง ก ้ามกุ ้ง ก ้ามปู (ภาคเหนื อ)
ฉาฉา ลิง สารสร
่
• ชือวงศ
์ LEGUMINOSAE
่ าเนิ ด อเมริกาใต ้เขตร ้อน
• ถินก
่
• ลักษณะทัวไป
• ต ้น - ไม้ต ้นสูงได ้ถึง 20 เมตร
เรือนยอดแผ่กว ้างคล ้ายรูปร่ม
เปลือกสีดาแตกล่อนได ้
• ใบ - ใบประกอบแบบขนนก
สองชัน้ ออกสลับช่อย่อย มีใบ
ย่อย 2-10 คู่ รูปไข่หรือรูป
้ กว ้าง
ขนมเปี ยกปูน เบียว
0.7- 4 cm . ยาว 1.5- 6 cm
้
. ปลายโค ้งมนเบียว
• ดอก - ออกเป็ นช่อตามซอกใบ
ใกล ้ปลายกิง่ ก ้านช่อดอกยาว
่
ดอกรวมเป็ นกระจุกทีปลาย
ก ้าน กลีบดอกขนาดเล็ก
่
เชือมกั
นเป็ นหลอด เกสรตัวผู ้
ยาวสีชมพู จานวนมาก
• ผล - เป็ นฝักรูปขอบขนาน
• สรรพคุณ:
ใบ - รสเย็นเมา ทา
ให ้เย็น ดับพิษ แก ้
ปวดแสบปวดร ้อน
เมล็ด - รสฝาด
แก ้โรคผิวหนัง กลาก
้ แก ้เยือตา
่
เกลือน
อักเสบ
เปลือกต้น - รส
ฝาด สมานแผลใน
ปากคอ แก ้โรคเหงือก
บวม แก ้ปวดฟัน แก ้
ริดสีดวงทวารหนัก
13. ช ัยพฤกษ ์
่ ทยาศาสตร ์
- ชือวิ
่
- ลักษณะทัวไป
ประโยชน์
• ช ัยพฤกษ ์
่
• ชือไทย
ช ัยพฤกษ ์
่ ทยาศาสตร ์ Cassia
• ชือวิ
javanica L.
• วงศ ์ LEGUMINOSAE
่ น
่ กัลปพฤกษ ์
• ชืออื
่ าเนิ ด อินโดนี เซีย
• ถินก
ลักษณะทั่วไป
ั พฤกษ์ เป็ นไม ้ต ้น สูงได ้ถึง 15
• ชย
ี ้ ำตำล ทรงคล ้ำย
เมตร ต ้นสน
ร่ม ต ้นอ่อนมีหนำม ใบ เรียง
สลับ ใบประกอบแบบขนนก ใบ
ย่อย 5-15 คู่ รูปไข่แกมรี โคน
ใบกลม ปลำยใบมน ใต ้ใบมีขน
่
ละเอียดแนบกับผิวใบ ดอกชอ
ออกตำมซอกใบใกล ้ปลำยกิง่
่ ดอกยำว 5โดยไม่ผลัดใบ ชอ
16 ซม. กลีบเลีย
้ ง 5 กลีบ ส ี
แดงเข ้มอมน้ ำตำล กลีบดอก 5
ี มพู แล ้ว
กลีบ รูปไข่กลับ สช
เปลีย
่ นเป็ นแดงเข ้ม ใกล ้โรยเป็ น
ี ำว ผล เป็ นฝั กหักข ้อ รูป
สข
ทรงกระบอก ยำว 20-60 ซม.
ี ำ มีเมล็ดมำก
ฝั กแก่สด
ระยะเวลำออกดอกเดือนกุมภำ
พันธุ-์ เมษำยนพันธุ์
• ประโยชน์ประโยชน์ ฝักป็ นยาระบาย ขับพยาธิ และ
มีสรรพคุณเช่นเดียวกับราชพฤกษ ์
ผู ้จัดทำ
1. นาย
กฤตพณ
ค้าผล
2. นายจักรพงษ ์ แก้วจร ัส
3. นาย สิงหา พุ่มนิ คม
ประวัติ
นาย กฤตพณ ค้าผล(ต่อ)
่ ่ 163/4 ถ.ศรีจน
ทีอยู
ั ทร ์ ต.วัด
ใหม่
อ.เมือง จ.จันทบุร ี 22000
เกิด 13 ตุลาคม 2529
จบการศึกษาระดับ
มัธยมศึกษาตอนปลาย ที่
ร.ร. ก.ศ.น จ.จันทบุร ี
ปั จจุบน
ั ศึกษาอยู ่ ม. ราชภัฎ
ราไพพรรณี จ. จันทบุร ี
รหัส นศ. 501f361001
โปรแกรมวิชา
เทคโนโลยีการเกษตร
ประวัต ิ
• นำยจักรพงษ์
แก ้วจรัสฉำย ( แบงค์ )
• Tel. 081-1555905
• เกิดวันที่ 24 กันยำยน 2529
• ทีอ
่ ยูป
่ ั จจุบัน 246/3 ถ.สุขม
ุ วิท ต.ทำงเกวียน อ.
แกลง จ.ระยอง
ึ ษำระดับมัธยมปลำยจำก รร.มกุฎเมือง
• จบกำรศก
รำชวิทยำลัย จ.ระยอง
ึ ษำอยู่ โปรแกรมวิชำ
• ปั จจุบน
ั ศก
เทคโนโลยีกำรเกษตร
คณะ เทคโนโลยีกำรเกษตร มหำวิทยำลัยรำชภัฎ
ประวัติ
่ ่ 29 ม. 5
นาย สิงหา พุ่มนิ คม(เล็ก)ทีอยู
ต. พลับพลา อ. เมือง จ. จันทบุร ี 22000
เกิด 27 สิงหาคม 2526
จบการศึกษาระด ับมัธยมศึกษาตอน
ปลายที่ กศน.จันทบุร ี
ปั จจุบน
ั อยู ่ ม. ราชภัฎราไพพรรณี จ.
จันทบุร ี
รหัส นศ. 501f361013
เอก เทคโนโลยีการเกษตร
คณะ เทคโนโลยีการเกษตร