บทที่ 1 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

Download Report

Transcript บทที่ 1 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสาร
เสนอ
คุณครู ศิริขวัญ วงศ์ชุมพันธ์
คณะผูจ้ ดั ทำ
1.นำย ธนกรณ์
บุสันเทียะ
2.นำงสำว สุ ธำริ นี
ปิ นใจ
3.นำงสำว ภัทริ นทร์ หัวนำ
4.นำงสำว สุ ดำรัตน์ ขันทวงศ์
5.นำย จักรพงษ์
เชียงแรง
6.นำย วุฒิภทั ร
ใจหนัก
7.นำงสำว กัญญำณัฐ อยูด่ ี
8.นำงสำว กำนต์ธิรำ วงศ์ใหญ่
9.นำงสำว สตรี รัตน์
ขอดแก้ว
10.นำงสำว ไอรดำ
เข็มทอง
ชั้นมัธยมศึกษำปี ที่ 4/10
เลขที่ 1
เลขที่ 2
เลขที่ 11
เลขที่ 12
เลขที่ 21
เลขที่ 22
เลขที่ 31
เลขที่ 32
เลขที่ 41
เลขที่ 42
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่ อสาร
ปั จจุบนั เทคโนโลยีสำรสนเทศ และกำรสื่ อสำรมีบทบำทต่อ
ชีวติ ประจำวันเป็ นอย่ำงมำก เช่น มีกำรใช้คอมพิวเตอร์ในกำร
ทำงำน ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อกำรสื บค้นข้อมูล หรื อรับ – ส่ งข้อมูล
ระหว่ำงกัน ตลอดจนกำรใช้
โทรศัพท์เคลื่อนที่ (mobile phone) หรื อโทรศัพท์ในกำร
ติดต่อสื่ อสำรองค์กรทั้งภำครัฐและเอกชนได้นำเทคโนโลยีสำรสนเทศ
และกำรสื่ อสำรมำใช้ในองค์กรเช่น งำนด้ำนกำรบริ หำร กำร
จัดกำร และกำรปฏิบตั ิกำร รัฐบำลประกำศให้ปี พ.ศ. 2538 เป็ นปี
แห่งเทคโนโลยีสำรสนเทศไทย มีกำรลงทุนเกี่ยวกับโครงกำรพื้นฐำน
ทำงด้ำนเทคโนโลยีสำรสนเทศและกำรสื่ อสำร
ชีวติ ควำมเป็ นอยูใ่ นปั จจุบนั มีควำมเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี
สำรสนเทศ และกำรสื่ อสำรต่ำง ๆ มำกมำย เช่น
1. กำรเรี ยนทำงไกลผ่ำนทำงเครื อข่ำยคอมพิวเตอร์
2. กำรสั่งซื้ อสิ นค้ำและชำระเงินด้วยบัตรเครดิตผ่ำนเครื อข่ำย
คอมพิวเตอร์
3. กำรเบิกเงินด้วยบัตรเอทีเอ็มจำกตูเ้ อทีเอ็มของธนำคำรต่ำง ๆ
4. กำรส่ งไปรษณี ยอ์ ิเล็กทรอนิ กส์ หรื ออีเมล์ ซึ่ งเป็ นกำรส่ งข้อควำม
ถึงกันผ่ำนเครื อข่ำยคอมพิวเตอร์ ผูร้ ับสำมำรถเปิ ดคอมพิวเตอร์ เพื่ออ่ำน
จดหมำยหรื อข้อควำมต่ำง ๆ และสำมำรถโต้ตอบกลับได้ทนั ที
เทคโนโลยี (Technology) หมายถึง การนาความรู้ทางด้ าน
วิทยาศาสตร์ มาประยุกต์ในการพัฒนา
เครื่ องมือ เครื่ องใช้ อุปกรณ์ วิธีการหรื อกระบวนการ เพื่อช่วยในการ
ทางานหรื อแก้ ปัญหาต่าง ทังนี
้ ้เพื่อให้ เกิดประโยชน์ตอ่ บุคคล กลุม่
บุคคล หรื อองค์กร
สารสนเทศ (Information) หมายถึง ผลลัพธ์ที่เกิดจากการนา
ข้ อมูลมาผ่านกระบวนการต่าง ๆ อย่างมีระบบ จนได้ สิ่งที่เป็ นประโยชน์ มี
คุณค่าและสาระ หรื อมีเนื ้อหาและรูปแบบที่เหมาะสมตามความต้ องการ
ของผู้ใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง การนาความรู้ทางด้ าน
วิทยาศาสตร์ มาประยุกต์ใช้ เพื่อสร้ างหรื อ จัดการกับสารสนเทศอย่าง
เป็ นระบบและรวดเร็ว โดยอาศัยเทคโนโลยีทางด้ าน
คอมพิวเตอร์ ทังนี
้ ้เพื่อให้ เกิดประโยชน์ตอ่ บุคคล กลุม่ บุคคล หรื อ
องค์กร ทังนี
้ ้เทคโนโลยีสารสนเทศยังต้ องพึง่ พาเทคโนโลยีด้านการ
สื่อสารและโทรคมนาคม ซึง่ เป็ นวิธีการส่งข้ อมูลจากที่หนึ่งไปยังอีกที่
หนึง่ เพื่อแลกเปลี่ยนหรื อเผยแพร่ข้อมูลและสารสนเทศได้ อย่าง
รวดเร็วการใช้ ประโยชน์ผ่านอุปกรณ์ เช่น วิทยุ โทรศัพท์
เครื่ องโทรสาร คอมพิวเตอร์ คลื่นวิทยุ และดาวเทียม
เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร
หมายถึง เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้ องกับข่าวสารข้ อมูล และการสื่อสารนับตังแต่
้
การสร้ าง การนามาวิเคราะห์หรื อการประมวลผล การรับและการส่ง
ข้ อมูล การจัดเก็บ และการนาข้ อมูลกลับไปใช้ งานใหม่
องค์ประกอบของระบบสำรสนเทศ
ระบบสารสนเทศ เป็ นระบบที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพการทางาน
โดยใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ระบบสารสนเทศ
ประกอบด้ วย
ฮาร์ ดแวร์ (hardware)
หมายถึง เครื่ องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ตอ่ พ่วงต่างๆ เช่น คีย์
บอรด์ (keyboard) เมาส์ (mouse) จอภาพ (monitor)
เครื่ องพิมพ์ (printer) ฮาร์ ดดิสก์ (hard disk) เป็ นต้ น
ซอฟต์ แวร์ (software)
หมายถึง โปรแกรมหรื อคาสัง่ ชุด (instruction) ที่ใช้ ในการ
ควบคุมการทางานของคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ตอ่ พ่วงต่างๆ เพื่อให้
ทางานตามคาสัง่ ของผู้ใช้ โดยแบ่งออกเป็ น 2 ประเภทใหญ่
ซอฟต์ แวร์ ระบบ (System software) หมายถึง ชุดคาสัง่ ทาที่
หน้ าที่ควบคุมการทางานของเครื่ องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ ตอ่ พ่วง
ต่างๆ และทาหน้ าที่เป็ นตัวกลางระหว่างผู้ใช้ กบั คอมพิวเตอร์
ซอฟต์แวร์ ระบบแบ่งออกเป็ น
1) ระบบปฏิบัตกิ าร (Operating system: OS) เป็ นซอฟต์แวร์
ที่ทาหน้ าที่ควบคุมการทางานของอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ ทงหมด
ั้
ภายในเครื่ องคอมพิวเตอร์ โดยจะทาหน้ าที่ดแู ลจัดการให้ ฮาร์ ทแวร์
และซอฟแวร์ ที่ติดตังอยู
้ ท่ างานประสานกันอย่างเป็ นเป็ นระบบ
2) โปรแกรมอรรถประโยชน์ (utilities program)
เป็ นโปรแกรมที่ช่วยเสริมการทางานของคอมพิวเตอร์ หรื อช่วย
ให้ โปรแกรมใช้ งานอื่นๆ ให้ มีความสามารถใช้ งานได้ สะดวกและ
รวดเร็วยิ่งขึ ้น เช่น โปรแกรมที่ใช้ ในการจัดการข้ อมูล (file
manager) โปรแกรมที่ใช้ ในการสารองและเรี ยกคืนข้ อมูล
(backup and restore) โปรแกรมที่ใช้ ในการบีบอัดแฟ้มข้ อมูล
(file compression) และโปรแกรมที่ใช้ ในการจัดพื ้นที่ของดิสก์
(disk defragmenter)
วิธีการเรี ยกใช้ งานโปรแกรมอรรถประโยชน์
3) โปรแกรมขับอุปกรณ์ หรื อดีไวซ์ ไดรฟ์เวอร์ หรื อดีไวซ์
ไดรฟ์เวอร์ (device driver)
เป็ นโปรแกรมที่ช่วยในการติดตังระบบเพื
้
่อให้ คอมพิวเตอร์
สามารถติดต่อหรื อใช้ งานอุปกรณ์ตา่ งๆ ได้
4) โปรแกรมแปลภาษา เป็ นโปรแกรมที่ทาหน้ าที่แปลโปรแกรมที่
เขียนขึ ้นด้ วยภาษาคอมพิวเตอร์ ระดับสูงให้ เป็ นรหัสที่อยูใ่ นรูปแบบที่
เครื่ องคอมพิวเตอร์ สามารถทางานได้ เช่น ตัวแปลภาษาจาวา
ตัวแปลภาษาซี
ซอฟต์ แวร์ ประยุกต์ (Application software)
หมายถึง ชุดคาสัง่ ที่เขียนขึ ้นเพื่อให้ เครื่ องคอมพิวเตอร์ ทางาน
ตามวัตถุประสงค์เฉพาะอย่าง ซอฟต์แวร์ ประยุกต์อาจเขียนขึ ้นโดยใช้
โปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ เช่น เบสิก (Basic) ปาสคาล
(Pascal) โคบอล (Cobol) ซี (C) ซีพลัสพลัส (C++) และจา
วา (Java) ซอฟต์แวร์ ประยุกต์แบ่งตามกลุม่ การใช้ งานได้ ดงั ตาราง
ตารางซอฟแวร์ประยุกต์
ข้ อมูล (data)
ข้ อมูลจะถูกรวบรวมและป้อนเข้ าสูเ่ ครื่ องคอมพิวเตอร์
โดยผ่านอุปกรณ์ของหน่วยรับเข้ า เช่น คีย์บอรด์ เมาส์ และ
สแกนเนอร์ (scanner) ข้ อมูลต้ องมีโครงสร้ างในการจัดเก็บ
ที่เป็ นระบบเพื่อการสืบค้ นที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ข้ อมูล
จะถูกจัดเก็บอยูใ่ นหน่วยความจา (memory unit)
ก่อนที่จะถูกย้ ายไปเก็บที่หน่วยเก็บข้ อมูล (storage unit)
เช่น ฮาร์ ดดิกส์ และแผ่นซีดี (Compact Disc: CD)
บุคลากร (people)
บุคลากรเป็ นองค์ประกอบที่สาคัญของระบบสารสนเทศ ในที่นี ้
หมายถึงบุคลากรที่เป็ นผู้พฒ
ั นาระบบสารสนเทศ และบุคลากรที่เป็ น
ผู้ใช้ ระบบสารสนเทศ บุคลากรที่เป็ นผู้พฒ
ั นาระบบสารสนเทศจะต้ อง
มีความรู้ความสามรถในการพัฒนาระบบสารสนเทศให้ มี
ประสิทธิภาพให้ สามารถทางานได้ ตามความต้ องการของผู้ใช้ ใช้ ง่าย
ได้ สะดวก ส่วนผู้ใช้ ต้องมีความรู้ ความเข้ าใจ และมีความสามารถใน
การใช้ งานระบบสารสนเทศและการสื่อสารต่างๆ ได้ อย่างถูกต้ องจึง
จะเกิดสารสนเทศที่เป็ นประโยชน์
บุคลากรที่เป็ นผูใ้ ช้ระบบ
สารสนเทศ
ขัน้ ตอนการปฏิบัตงิ าน (procedure)
ระบบสารสนเทศต้ องมีขนตอนการปฏิ
ั้
บตั ิงานที่เป็ นลาดับ
ขันตอน
้
เพื่อนให้ ผ้ ใู ช้ งานสามารถเข้ าใจได้ ง่าย และดาเนินงานได้ อย่าง
มีประสิทธิภาพ ทังในสถานการณ์
้
ปกติและสถานการณ์ฉกุ เฉิน เช่น
ขันตอนการบั
้
นทึกข้ อมูล ขันตอนการท
้
าสาเนาข้ อมูล ขันตอนการ
้
ปฏิบตั ิเมื่อข้ อมูลได้ รับความเสียหาย หรื อเมื่อเครื่ องคอมพิวเตอร์ และ
อุปกรณ์ตา่ งๆ เกิดการชารุดเสียหาย ขันตอนต่
้
างๆเหล่านี ้ควรได้ รับการ
รวบรวมและจัดทาให้ เป็ นรูปเล่มของคูม่ ือการใช้ งาน
คู่มือการใช้งาน
องค์กรต่างๆมีการลงทุนในการจัดหาระบบสารสนเทศที่มี
ประสิทธิภาพเพื่อนามาช่วยงานต่างๆ โดยเน้ นที่คณ
ุ ภาพของระบบ
สารสนเทศและความคุ้มค่าในการลงทุน การใช้ ระบบสารสนเทศจะเริ่ ม
จากการนาข้ อมูลป้อนเข้ าสูเ่ ครื่ องคอมพิวเตอร์ ระบบคอมพิวเตอร์ จะ
ทาการประมวลผลข้ อมูลเหล่านัน้ แล้ วจึงส่งผลลัพธ์ออกมาให้ กบั ผู้ใช้
ผู้ใช้ ระบบสารสนเทศจะนาสารสนเทศนันไปใช้
้
ประกอบการตัดสินใจใน
การทากิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่ง
กระบวนการประมวลผลข้อมูลและการใช้สารสนเทศ
ประโยชน์ และตัวอย่ างของการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศและการ
สื่ อสาร
การใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารก่อให้ เกิดประโยชน์
ในด้ านต่าง ๆ ดังนี ้
1 ด้ านการศึกษา เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารถูกนามาใช้
เพื่ออานวยความสะดวกในการบริหารด้ านการศึกษา เช่น ระบบการ
ลงทะเบียน และระบบการจดตารางสอน ตัวอย่างเทคโนโลยีสารสนเทศ
และการสื่อสารในด้ านการศึกษา
1) การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม
2) บทเรี ยนอิเล็กทรอนิกส์ยงั ช่วยเสริมประสิทธิภาพการเรี ยนการสอน
ในวิชาต่าง ๆ
ด้ านการแพทย์ และสาธารณสุข
เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารถูกนามาใช้ ตงแต่
ั ้ การทาทะเบียน
คนไข้ การรักษาพยาบาลทัว่ ไป ตลอดจนการวินิจฉัยและรักษาโรคต่าง ๆ ได้ อย่าง
รวดเร็วและแม่นยา สามารถค้ นคว้ าข้ อมูลทางการแพทย์ รักษาคนไข้ ด้วยระบบ
การรักษาทางไกลตลอดเวลาผ่านเครื อข่ายการสื่อสาร เครื่ องเอกซเรย์
คอมพิวเตอร์ ที่เรี ยกว่า อีเอ็มไอสแกนเนอร์ (EMI scanner) ถูกนามาใช้
ถ่ายภาพสมองมนุษย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติในสมอง ต่อมาได้ พฒ
ั นาให้
ถ่ายภาพหน้ าตัดได้ ทวั่ ร่างกาย เรี ยกชื่อว่า ซีเอที (CAT – Computerized
Axial Tomography scanner : CAT scanner) ใช้ วิธีฉายแสงเป็ น
จังหวะไปรอบ ๆ ร่างกายมนุษย์
ด้ านการเกษตรและอุตสาหกรรม
เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารถูกนามาใช้ ประโยชน์
ในด้ านเกษตร เช่น การจัดระบบข้ อมูลเพื่อการเกษตรและพยากรณ์
ผลผลิตด้ านการเกษตร การประดิษฐ์ หนุ่ ยนต์เพื่อใช้ ทางานบ้ าน
และหุน่ ยนต์เพื่องานอุตสาหกรรมที่ต้องเสี่ยงภัยและเป็ นอันตราย
ต่อสุขภาพ
ด้ านการเงินการธนาคาร
ใช้ ช่วยงานด้ านบัญชี หารฝากถอนเงิน โอนเงิน บริการสินเชื่อ
และเปลี่ยนเงินตรา บริการข่าวสารการธนาคาร การใช้ คอมพิวเตอร์
ด้ านการเงินการธนาคารที่ร้ ูจกั และนิยมใช้ กนั ทัว่ ไป เช่น การฝาก
ถอนเงิน การโอนเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์
ด้ านความมั่นคง
ใช้ ในการควบคุมประสานงานวงจรสื่อสารทหาร การแปลรหัส
ลับในหน่วยงาน จารกรรมระหว่างประเทศ การส่งดาวเทียมและการ
คานวณวิถีการโคจรของจรวดไปสูอ่ วกาศ สานักงานตารวจแห่งชาติ
ของประเทศไทยมีศนู ย์ประมวลข่าวสาร มีระบบจัดทาทะเบียนปื น
ทะเบียนประวัติอาชญากร ทาให้ เกิดความสะดวกและรวดเร็วในการ
สืบค้ นข้ อมูลเพื่อการสืบสวนคดีตา่ ง ๆ
ด้ านการคมนาคม
การเดินทางโดยรถไฟ มีการเชื่อมโยงข้ อมูลการจองที่นงั่ ไปยังทุก
สถานี ทาให้ สะดวกต่อผู้โดยสาร การเช็คอินของสายการบิน ได้ จดั ทา
เครื่ องมือที่สะดวกต่อลุกค้ า ในรูปแบบของการ เช็คอินด้ วยตนเอง
ด้ านวิศวกรรมและสถาปั ตยกรรม
มีการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารในด้ านการ
ออกแบบ หรื อจาลองสภาวการณ์ตา่ ง ๆ เช่น การรับแรงสัน่ สะเทือนของ
อาคารเมื่อเกิดแผ่นดินไหว โดยการคานวณและแสดงภาพสถานการณ์
ใกล้ เคียงความจริง ตัวอย่างซอฟต์แวร์ คานวณการเกิดแผ่นดินไหว
ด้ านการพาณิชย์
ใช้ ประโยชน์ในการบริหารจัดการ เพื่อช่วยเพิ่มความยืดหยุน่
ให้ กบั องค์กร ในการทางาน ทาให้ ประสานงานหรื อการทากิจกรรมต่าง
ๆ ของแต่ละหน่วยงานในองค์กร หรื อระหว่างองค์กรเป็ นไปอย่างมี
ประสิทธิภาพมากขึ ้น ตัวอย่างของการนาเทคโนโลยีสารสนเทศ และ
การสื่อสารมาใช้ ด้านการพาณิชย์ เช่น การให้ บริการชาระค่าสินค้ า
ผ่านจุดชาระค่าบริการ การสัง่ ซื ้อสินค้ าทางอินเทอร์ เน็ต และการ
ตรวจสอบราคาสินค้ าผ่านเครื่ องอ่านราคาสินค้ า
แนวโน้มกำรใช้งำนเทคโนโลยีสำรสนเทศและกำรสื่ อสำร
ด้ านอุปกรณ์ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
มนุษย์ใช้ อปุ กรณ์การสื่อสารแบบพกพามากขึ ้นเรื่ อย ๆ เริ่ มจากวิทยุเรี ยก
ตัว (pager) เป็ นเครื่ องรับข้ อความ มาเป็ นโทรศัพท์เคลื่อนที่ อุปกรณ์
สื่อสารชนิดนี ้ได้ ถกู พัฒนาจนสามารถใช้ งานด้ านอื่น ๆ ได้ นอกจากการพูดคุย
ธรรมดา โทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นใหม่สามารถใช้ ถ่ายรูป ฟั งเพลง ฟั งวิทยุ ดู
โทรทัศน์ บันทึกข้ อมูลสัน้ ๆ บางรุ่นมีลกั ษณะเป็ นเครื่ องช่วยงานส่วนบุคคล
(Personal Digital Assistant : PDA) สามารถเชื่อมต่อ
อินเทอร์ เน็ตได้ ระบบหน้ าจอแบบสัมผัส บางรุ่นสามารถสัง่ การได้ ด้วย
เสียง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในอนาคตมีแนวโน้ มเป็ น
ดังนี ้ คือ มีขนาดเล็กลง พกพาได้ ง่าย แต่มีประสิทธิภาพสูงขึ ้น
ตัวอย่างอุปกรณ์สื่อสารและ
สารสนเทศแบบพกพา
อุปกรณ์สาหรับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในอนาคต
มีแนวโน้ มเป็ นดังนี ้ คือ มีขนาดเล็กลง พกพาได้ ง่าย แต่มี
ประสิทธิภาพสูงขึ ้น เช่น เก็บข้ อมูลได้ มากขึ ้น ประมวลผลได้ เร็วขึ ้น
ใช้ งานได้ หลากหลายมากขึ ้น โดยมีการผนวกอุปกรณ์หลายๆ อย่าง
ไว้ ในเครื่ องเดียว (all-in-one) ที่สาคัญอุปกรณ์เหล่านี ้ต้ องใช้ งาน
ง่ายขึ ้น รวมถึงสามารถสัง่ การด้ วยเสียงได้ นอกจากนี ้ ยังมีระบบ
ความปลอดภัยที่ดีขึ ้นโดยอาศัยลายนิ ้วมือหรื อจอม่านตา แทนการ
พิมพ์รหัสผ่านแบบในปั จจุบนั
ด้ านระบบเครือข่ ายคอมพิวเตอร์
ระบบเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ ในอดีตมักเป็ นระบบที่ใช้ คอมพิวเตอร์ และ
อุปกรณ์เชื่อมต่อตรงเพียงชุดเดียว (Stand alone) ต่อมามีการเชื่อมต่อ
คอมพิวเตอร์ เข้ าด้ วยกันภายในองค์กร เพื่อทาให้ สามารถใช้ ข้อมูล
ร่วมกัน หรื อใช้ เครื่ องพิมพ์ร่วมกัน จนเกิดเป็ นระบบรับและให้ บริ การ หรื อที่
เรี ยกว่าระบบรับ – ให้ บริ การ (client – server system) โดยมี
เครื่ องให้ บริ การ (server) และเครื่ องรับบริ การ (client)เมื่อการใช้ งาน
อินเทอร์ เน็ตเป็ นไปอย่างแพร่หลาย การพัฒนาระบบเครื อข่ายเพื่อให้ ผ้ ใู ช้
สามารถสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้ อมูลกันได้ โดยตรง โดยที่เครื่ องให้ บริ การมี
หน้ าที่เพียงแค่เก็บตาแหน่งของเครื่ องผู้ใช้ งานที่มีข้อมูลนัน้ ๆ อยู่เพื่อให้ เครื่ องอื่น
สามารถทราบที่อยู่ที่มี
ด้ านเทคโนโลยี
ระบบทางานอัตโนมัติที่สามารถตัดสินใจได้ เองจะเข้ ามาแทนที่
มากขึ ้น เช่น ระบบแนะนาเส้ นทางจราจร ระบบจอดรถ ระบบ
ตรวจหาตาแหน่งของวัตถุ ระบบควบคุมความปลอดภัยภายใน
อาคาร ระบบที่ทางานอัตโนมัติเช่นนี ้ อาจกลายเป็ นระบบหลักในการ
ดาเนินการของหน่วยงานต่าง ๆ
พีเอ็นดี (Personal Navigation Device : PND) เป็ น
อุปกรณ์เพื่อช่วยในการนาทาง เสมือนผู้นาทาง บนท้ องถนนเพื่อให้
เกิดความคล่องตัว ค้ นหาเส้ นทางไปยังจุดหมายได้ อย่างถูกต้ อง และ
รวดเร็ว
ความเปลี่ยนแปลงจากการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ความก้ าวหน้ าของอุปกรณ์เทคโนโลยีเทคโนโลยีสารสนเทศและการ
สื่อสารเป็ นไปอย่างรวดเร็ว เพื่อสนองความต้ องการด้ านต่างๆ ของผู้ใช้ ใน
ปั จจุบนั ซึง่ มีจานวนผู้ใช้ งานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารทัว่ โลก
ประมาณพันล้ านคน และเพิ่มขึ ้นเรื่ อยๆ ทุกปี ผู้ใช้ สามารถใช้ งานอุปกรณ์
ดังกล่าวได้ ทกุ ที่ ทุกเวลา จึงทาให้ เกิดความเปลี่ยนแปลงด้ านต่างๆ
ทังที
้ ่เกิดประโยชน์และโทษ เช่น
ด้ านสังคม
สภาพเสมือนจริง การใช้ อินเตอร์ เน็ตเชื่อมโยงการทางานต่างๆ
จนเกิดเป็ นสังคมที่ติดต่อผ่านทางอินเตอร์ เน็ต หรื อที่ร้ ู จกั กันว่า ไซ
เบอร์ สเปซ (cyber space) ซึง่ มีกิจกรรมต่างๆ เช่น การพูดคุย
การซื ้อสินค้ า และการบริการ การทางานผ่านทางเครื อข่าย
คอมพิวเตอร์ ทาให้ เกิดสภาพที่เสมือนจริง (virtual) เช่น เกม
เสมือนจริง ห้ องเรี ยนเสมือนจริง ห้ องสมุดเสมือนจริง พิพิธภัณฑ์
เสมือนจริง ห้ องประชุมเสมือนจริง และที่ทางานเสมือนจริง ซึง่ ทาให้
ช่วยลดเวลาในการเดินทางและสามารถใช้ งานได้ ทกุ ที่ทกุ เวลา
การได้ รับเทคโนโลยีมากเกินไป (technology
overload) การพัฒนาของเทคโนโลยีเป็ นไปอย่างต่อเนื่องและ
รวดเร็ว โดยมีรูปแบบที่หลากหลายทาให้ น่าสนใจ และสะดวกใน
การเข้ าถึง สิ่งเหล่านี ้เป็ นแรงดึงดูดให้ บคุ คลเกิดความลุม่ หลงจนเกิด
เป็ นอาการติดเทคโนโลยี เช่น ติดการใช้ โทรศัพท์มือถือ การถ่าย
คลิป การเข้ าถึงข้ อมูลในอินเทอร์ เน็ต การส่งข้ อความออนไลน์ การ
ใช้ อีเมล หรื อการเล่นเกมส์ออนไลน์ ซึง่ นาไปสูป่ ั ญหาสุขภาพรวมถึง
การทาลายสัมพันธภาพทางสังคม
ตัวอย่างการที่ได้รบั
เทคโนโลยีมากเกินไป จนมี
อาการเหมือนเสพสิ่งเสพติด
ด้ านเศรษฐกิจ
ทาให้ เกิดสังคมโลกาภิวตั น์ (globalization) เพราะ
สามารถชมข่าว ชมรายการโทรทัศน์ที่สง่ กระจายผ่านดาวเทียมของ
ประเทศต่าง ๆ ได้ ทวั่ โลก สามารถรับข่าวสารได้ ทนั ที ใช้
อินเทอร์ เน็ตในการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน ระบบเศรษฐกิจกระจาย
เป็ นเศรษฐกิจโลก เกิดกระแสการหมุนเวียนแลกเปลี่ยนสินค้ าและ
บริการอย่างกว้ างขวางและรวดเร็ว ระบบเศรษฐกิจของทุกประเทศ
ในโลกเชื่อมโยงและผูกพันกันมากขึ ้น
ระบบเศรษฐกิจของโลกที่ผกู กันทุกประเทศ
ด้ านสิ่งแวดล้ อม
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มีประโยชน์ในด้ าน
ธรรมชาติและสิง่ แวดล้ อม เช่น ระบบป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ ง โดย
ใช้ ภาพถ่ายดาวเทียม หรื อภาพถ่ายทางอากาศร่วมกับการจัดเก็บ
รักษาข้ อมูลระดับน ้าทะเล ความสูงของคลื่นจากระบบเรดาร์ เป็ น
การศึกษาเพื่อหาสาเหตุ และนาข้ อมูลมาวางแผนและสร้ างระบบเพื่อ
ป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ งแต่ละ่ แห่งได้ อย่างเหมาะสม
เทคโนโลยีสารสนเทศและ
การสื่อสารช่วยรักษา
ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ขยะอิเล็กทรอนิกส์ ที่เสียหรื อไม่ใช้ งานที่ถกู ทิ ้งเป็ นขยะ ซึง่ ต่าง
จากขยะทัว่ ไปโดยในขยะอิเล็กทรอนิกส์ชิ ้นหนึง่ ๆ มีสว่ นประกอบที่
เป็ นโลหะและพลาสติก โดยเฉพาะในแผนวงจรอิเล็กทรอนิกส์ มี
รายงานพบว่าขยะเหล่านี ้นอกจากจะมีปริมาณเพิ่มขึ ้นมากอย่าง
รวดเร็วแล้ ว ยังปลดปล่อยสารพิษปะปนเข้ าสูส่ ิ่งแวดล้ อม การแยก
ชิ ้นส่วนขยะอิเล็กทรอนิกส์แลวนากลับมาหลอมใช้ ใหม่ หรื อรี ไซเคิล
จึงทาได้ ยากมากกว่าขยะทัว่ ไป เพราะต้ องมีขนตอนวิ
ั้
ธีที่เหมาะสม
จึงต้ องมีการศึกษาอย่างละเอียดโดยผู้เชี่ยวชาญและต้ องจัดการ
อย่างมีระบบ ดังนันจึ
้ งควรใช้ อปุ กรณ์อิเล็กทรอนิกส์ให้ ค้ มุ ค่า
ขยะอิเล็กทรอนิกส์
ตัวอย่ างอาชีพทางด้ านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ตลาดแรงงานต้ องการผู้ที่มีความรู้ความเข้ าใจงานเทคโนโลยี
สารสนเทศและการสื่อสารอย่างแท้ จริง ซึง่ งานด้ านนี ้จะรวมถึง งาน
ด้ านการออกแบบโปรแกรมต่างๆ โปรแกรมใช้ งานบนเว็บ งานด้ านการ
เขียนโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ งานด้ านฐานข้ อมูล งานด้ านระบบ
เครื อข่ายทังในและนอกองค์
้
กร รวมถึงการรักษาความมัน่ คงปลอดภัย
ในระบบคอมพิวเตอร์ บนเครื อข่าย ดังนันองค์
้ กรจึงมีความต้ องการ
บุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถในการบริหารจัดการ และพัฒนา
ซอฟต์แวร์ เพื่อใช้ งานด้ านต่างๆขององค์กร ตัวอย่างอาชีพด้ านเทค
โลโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เช่น
นักเขียนโปรแกรมหรื อโปรแกรมเมอร์ (programmer)
ทาหน้ าที่ในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้ ในงานด้ าน
ต่างๆ เช่น โปรแกรมเกี่ยวกับการซื ้อขายสินค้ า โปรแกรมที่ใช้ กบั งาน
ด้ านบัญชี หรื อ โปรแกรมที่ใช้ กบั ระบบงานขนาดใหญ่ขององค์กร
นักวิเคราะห์ ระบบ (system analyst)
ทาหน้ าที่ในการศึกษาวิเคราะห์และพัฒนาระบบสารสนเทศ
นักวิเคราะห์ระบบจะทาการวิเคราะห์ระบบงานและออกแบบระบบ
สารสนเทศให้ ตรงกับความต้ องการของผู้ใช้ งาน ซึง่ อาจรวมถึงงาน
ด้ านการออกแบบฐานข้ อมูลด้ วย
ผู้ดูแลและบริหารฐานข้ อมูล (database administrator)
ทาหน้ าที่บริหารและจัดการฐานข้ อมูล (database) รวมถึง
การออกแบบ บารุงรักษาข้ อมูล และการดูแลระบบความปลอดภัย
ของฐานข้ อมูล เช่น การกาหนดบัญชีผ้ ใู ช้ การกาหนดสิทธิ์ของผู้ใช้
ผู้ดูแลและบริหารระบบ (system administrator)
ทาหน้ าที่บริหารและจัดการระบบคอมพิวเตอร์ ในองค์กร โดย
ดูแลการติดตังฮาร์
้ ดแวร์ และบารุงรักษาระบบปฏิบตั ิการ การติดตัง้
ฮาร์ ดแวร์ การติดตังและการปรั
้
บปรุงซอฟต์แวร์ สร้ าง ออกแบบและ
บารุงรักษาบัญชีผ้ ใู ช้ สาหรับองค์กรขนาดเล็กเจ้ าหน้ าที่ควบคุมระบบ
อาจต้ องดูแลและบริหารระบบเครื อข่ายด้ วย
ผู้ดูแลและบริหารระบบเครื อข่ าย(networkadministrator)
ทาหน้ าที่บริหารและจัดการออกแบบระบบเครื อข่ายคอมพิวเตอร์
และดูแลรักษาความปลอดภัยของระบบเครื อข่ายขององค์กร เช่น
ตรวจสอบการใช้ งานเครื อข่ายของพนักงานและติดตังโปรแกรมป
้
้ องกันผู้
บุกรุกเครื อข่าย
ผู้พัฒนาและบริหารระบบเว็บไซต์ (webmaster)
ทาหน้ าที่ออกแบบพัฒนา ปรับปรุงและบารุงรักษาเว็บไซต์ให้ มี
ความทันสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้ องมีการปรับปรุงข้ อมูลให้ เป็ น
ปั จจุบนั อยูเ่ สมอ
เจ้ าหน้ าที่เทคนิค (technician)
ทาหน้ าที่ซอ่ มบารุงรักษาเครื่ องคอมพิวเตอร์ ติดตังโปรแกรม
้
หรื อติดตังฮาร์
้ ดแวร์ ตา่ งๆและแก้ ไขปั ญหาที่อาจเกิดจากการใช้
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ในองค์กร
นักเขียนเกม (game maker)
ทาหน้ าที่เขียนหรื อพัฒนาโปรแกรมเกมคอมพิวเตอร์ ในปั จจุบนั
นี ้การเขียนโปรมแกรมคอมพิวเตอร์ เป็ นอาชีพได้ รับความนิยมอย่าง
สูงในประเทศไทย
แหล่ งที่มา : หนังสื อเรียน รายวิชาพืน้ ฐาน
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสาร
ขอบคุณครั บ/ค่ ะ 