Transcript ผัก
ผัก (Vegetable Crop) ผัก เป็ นพืชล้ มลุกที่มีช่วงอายุการเจริญเติบโตสัน้ (annual crop) สามารถนามาบริโภคเกือบได้ ทงั ้ ต้ น ทัง้ ใบ ก้ าน ผล ธรรมชาติของ พืชผักส่ วนใหญ่ เป็ นพืชอวบนา้ (succulent) การจัดจาแนก Kingdom (อาณาจักร) Division (หมวด) Class (ชัน้ ) Order (อันดับ) Family (วงศ์ ) Genus (สกุล) Species (ชนิด) Varity (สายพันธุ์) การเรียกชื่อพืช 1. ชื่อสามัญ (Common name) เป็ นชื่อที่จาได้ ง่ าย แต่ พืชชนิดเดียวกันมีช่ ือเรียกได้ หลายชื่อ แตกต่ าง กันไปในแต่ ละท้ องถิ่น ชื่อดังกล่ าวจึงอาจทาให้ เกิด ความสับสนได้ 2. ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific mane) เป็ นชื่อ สากลที่ใช้ เรี ยกพืชชนิดเดียวกันทั่วโลก ประกอบด้ วยชื่อสกุล (genus) และชื่อที่ระบุชนิด ของพืชในสกุลนัน้ (species) การเขียนชื่อวิทยาศาสตร์ 1. ชื่อทัง้ สอง คือ genus กับ species จะต้ องเขียนคู่ กันเสมอ 2. จะใช้ การเขียนด้ วยตัวเอน หรือการขีดเส้ นใต้ แต่ ละชื่อ เพื่อแสดงว่ าเป็ นชื่อเฉพาะ 3. ชื่อสกุลเขียนขึน้ ต้ นด้ วยอักษรตัวใหญ่ ส่ วนชื่อชนิด เขียนด้ วยอักษรตัวเล็กทัง้ หมด 4. บางครั ง้ อาจเขียนชื่อนักวิทยาศาสตร์ ท่ เี ป็ นผู้ตงั ้ ชื่อพืช นัน้ เป็ นคนแรกลงไปด้ วย ตัวอย่ างการเขียนชื่อวิทยาศาสตร์ ข้ าว Oryza sativa Linn. สกุล (genus) ชนิด (species) Linnaeus นักวิทยาศาสตร์ ผ้ ูตัง้ ชื่อ 1. การจัดจาแนกตามลักษณะทางพฤกษศาสตร์ (Botanical Classification) เป็ นการจัดให้ พืชผักที่มีลักษณะทางสัณฐานวิทยา และวงจรชีวติ ที่คล้ ายกันอยู่ในกลุ่มเดียวกัน เช่ น Division Anthophyta Class Monocotyledons Family Alliaceae Allium cepa : onion Allium sativum : garlic Division Anthophyta Class Monocotyledons Family Liliaceae Asparagus officinalis : asparagus Family Poaceae Zea mays : corn Division Anthophyta Class Dicotyledons Family Brassicaceae Brassica oleracea var. botrytis : cauliflower Brassica oleracea var. cepitata : cabbage Brassica oleracea var. italica : broccoli Division Anthophyta Class Dicotyledons Family Apiaceae Daucus carota : carrot Petroselium crispum : parsley Division Anthophyta Class Dicotyledons Family Cucurbitaceae Cucumis sativus : cucumber Cucurbita maxima : pumpkin Division Anthophyta Class Dicotyledons Family Solanaceae Capsicum annuum : pepper Lycopersicon asculentum : tomato Solanum melongena : egg plant 2. การจัดจาแนกตามส่ วนของพืชที่กนิ ได้ (Classification based on edible part) 2.1 ผักกินราก หรือ หัว 2.1.1 ส่ วนสะสมอาหารอยู่ท่ รี ากแก้ ว เช่ น แครอท ผักกาดหัว 2.1.2 ส่ วนสะสม อาหารอยู่ท่ รี ากแขนง เช่ น มันเทศ 2.2 ผักกินลาต้ น 2.2.1 ลาต้ นเหนือดิน เช่ น หน่ อไม้ ฝรั่ ง 2.2.2 ลาต้ นใต้ ดนิ เช่ น มันฝรั่ ง 2.3 ผักกินใบ 2.3.1 กินส่ วนของกาบใบ เช่ น หอมหัวใหญ่ หอมแดง 2.3.2 กินทัง้ ต้ น ทัง้ ใบ เช่ น ผัดกาดหอม กะหล่าปลี คะน้ า 2.4 ผักกินดอกที่ยังไม่ เจริญเต็มที่ เช่ น กะหล่าดอก บร็อคโคลี่ 2.5 ผักกินผล 2.5.1 กินผลที่ยังอ่ อนอยู่ เช่ น ถั่วลันเตา มะเขือ กระเจีย๊ บ แตงกวา 2.5.2 กินผลแก่ เช่ น มะเขือเทศ พริก ฟั กทอง 3. การจัดจาแนกตามวงชีวิต (Classification based on life cycle) ตามระยะเวลาในการครบชีพจักร แบ่ งเป็ น 3 กลุ่ม ได้ แก่ 3.1 Annual plants หมายถึง พืชที่เจริญครบชีพจักรได้ ภายใน 1 ฤดูปลูก พืชผักส่ วนใหญ่ เป็ นพืชฤดูเดียว มีอายุการ เก็บเกี่ยวสัน้ เช่ น ผักกาดหอม มะเขือเทศ แตงกวา 3.2 Biennial plants หมายถึง พืชที่ต้องการ 2 ฤดูปลูก ในการเจริญเติบโตครบชีพจักร เช่ น บร็อคโคลี่ กะหล่าดอก กะหล่าปลี ขึน้ ฉ่ าย ผักพวกนีต้ ้ องการอุณหภูมิท่ เี หมาะสมใน การออกดอก 3.3 Perennial plants หมายถึง พืชที่ปลูกอยู่ในแปลง และเก็บผลผลิตได้ นานมากกว่ า 2 ปี เช่ น หน่ อไม้ ฝรั่ ง 4. การจัดจาแนกตามอุณหภูมิ (Classification based on temperature) 4.1 ผักเมืองร้ อน (warm-season vegetables) เจริญได้ ดที ่ อี ุณหภูมิ 25-30 องศาเซลเซียส เช่ น แตง มะเขือ กระเจี๊ยบ พริก ฟั กทอง มะเขือเทศ 4.2 ผักเมืองหนาว (cool-season vegetables) เจริญได้ ดที ่ อี ุณหภูมิ 10-20 องศาเซลเซียส เช่ น กะหล่าปลี บร็อคโคลี่ ขึน้ ฉ่ าย ผักกาดหัว 5. การจัดจาแนกตามกลุ่มพืชที่เป็ นที่ร้ ู จัก (Classification based on family grouping) การจัดจาแนกแบบนีเ้ ป็ นที่นิยมและใช้ กันมากอย่ าง แพร่ หลาย เนื่องจากพืชในวงศ์ เดียวกันจะมีวธิ ีการปลูก ดูแล และการจัดการด้ านโรคแมลงที่คล้ ายกัน ได้ แก่ 5.1 Cole crops หมายถึง ผักที่อยู่ในตระกูล กะหล่า และผักกาด 5.2 Green หมายถึง ผักที่สามารถกินได้ ทงั ้ ต้ นและใบ ซึ่งส่ วนใหญ่ มีสีเขียว และมักต้ องผ่ านการปรุ งให้ สุกก่ อน เช่ น ผักโขม คะน้ า 5.3 Salad crops หมายถึง ผักที่นิยมกินสดๆ เช่ น ผักกาดหอม ขึน้ ฉ่ าย ผักชีฝรั่ง 5.4 Perennial crops หมายถึง ผักที่ปลูกอยู่ใน แปลงและเก็บเกี่ยวได้ นานกว่ า 2 ปี เช่ น หน่ อไม้ ฝรั่ง 5.5 Root crops หมายถึง ผักที่ส่วนสะสมอาหารที่ นามากินได้ เป็ นส่ วนของรากที่อยู่ใต้ ดนิ เช่ น แครอท บีท มันเทศ 5.6 Bulb crops หมายถึง ผักที่นิยมกินส่ วนของกาบ ใบ ได้ แก่ หอมหัวใหญ่ หอมแดง กระเทียม 5.7 Legumes หมายถึง พืชตระกูลถั่ว เช่ นถั่วลันเตา ถั่วฝั กยาว 5.8 corn หมายถึง ผักตระกูลข้ าวโพด เช่ น ข้ าวโพด หวาน ข้ าวโพดฝั กอ่ อน 5.9 Solanum crops หมายถึง ผักตระกูลพริก เช่ น พริก มะเขือเทศ มะเขือต่ างๆ 5.10 Cucurbits หมายถึง ผักตระกูลแตง เช่ น แตงกวา ฝั กทอง ตาลึง นา้ เต้ า ความสาคัญของผักต่ อมนุษย์ 1. การใช้ เป็ นอาหาร (Food Uses) 1.1 ใช้ เป็ นอาหารหลัก (Main dish) อาหารหลาย ชนิดมีผักเป็ นองค์ ประกอบส่ วนใหญ่ เช่ น สลัดผัก ส้ มตา แกงจืด แกงเลียง 1.2 ใช้ เป็ นเครื่องเคียง (Side dish)ผักหลายชนิด เช่ น มะเขือเทศ แตงกวา แครอท ถูกนามาเป็ นเครื่อง เคียงหรือใช้ รับประทานเพื่อเรียกนา้ ย่ อยได้ 1.3 ใช้ เป็ นของหวาน (dessert) เช่ น แคนตาลูป ใช้ บริโภคสด ส่ วนมันเทศ ฟั กทอง นาไปเชื่อมหรือทาขนม หวานได้ หลายชนิด 1.4 ใช้ เป็ นเครื่องเทศ (Spice or flavoring)ช่ วย ปรุ งแต่ งกลิ่น รส ของอาหาร เช่ น หอมหัวใหญ่ กระเทียม พริก ต้ นหอม ผักชี 1.5 ใช้ เป็ นเครื่องประดับในจานอาหาร (Garnish) ผักบางชนิดช่ วยเพิ่มสีสัน ประดับจานอาหารให้ ดนู ่ า รับประทาน เช่ น แครอทให้ สีส้ม ผักกาดหอมใช้ รองจาน 2. การใช้ เป็ นยา (Medical Uses) ผักเป็ นแหล่ งของวิตามินและเกลือแร่ หลายชนิดที่ จาเป็ นต่ อร่ างกาย ช่ วยให้ การทางานของร่ างกาย ดาเนินได้ อย่ างปกติ มีภมู ติ ้ านทานโรค และใน ยามเจ็บป่ วย ผักบางชนิดมีคุณค่ าทางยา ช่ วย ป้องกันและรั กษาโรคได้ เช่ น มะเขือเทศ (tomato : Lycopersicon esculentum ) เป็ นผักที่มีคุณค่ าทางอาหารมากมาย มีทงั ้ ไขมัน โปรตีน คาร์ โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรั ส เหล็ก เบต้ าแคโรทีน วิตามิน เอ วิตามินบี1 บี2 วิตามินซี ถ้ า รั บประทานเป็ นประจาวันละ 1-2 ผล จะทาให้ เส้ น เลือดยืดหยุ่นดีไม่ เปราะง่ าย ช่ วยให้ ผิวหนังและเยื่อ บุทางเดินอาหารแข็งแรง ป้องกันโรคหวัดและโรค เลือดออกตามไรฟั น กระเทียม (garlic : Allium SPP .) เป็ นผักที่มีคุณค่ าทางยามาก ในหัวกระเทียมสดมี สารอัลลิซนิ (allicin) ช่ วยลดโคเรสเตอรอล และไตร กลีเซอไรด์ ในเลือด กระตุ้นการทางานของต่ อมใต้ สมอง ช่ วยบารุ งหัวใจ มีรายงานว่ าสารซีลีเนียมใน กระเทียมสามารถยับยัง้ อนุมูลอิสระซึ่งเป็ นสาเหตุของ การเกิดเซลล์ มะเร็งได้ อย่ างมีประสิทธิภาพและยังช่ วย กาจัดสารพิษของโลหะหนักได้ แครอท (carrot : Daucus carota) เป็ นผักที่มีคุณค่ าทางยาสูง มีแคโรทีนที่เปลี่ยนเป็ น วิตามินเอ ช่ วยให้ ผิวหนังยืดหยุ่นดี บารุ งสายตา ตาใส เป็ นประกาย กระดูกไม่ เปราะง่ าย และยังช่ วยขับ สารพิษออกจากร่ างกายได้ วิตามินเอเมื่อทางาน ร่ วมกับโปรตีนจะทาให้ ความสามารถในการมองเห็น ในช่ วงกลางคืนดี พริก (pepper : Capsicum annumm) ในผลพริก นอกจากจะอุดมไปด้ วยวิตามินซี เบต้ าแค โรทีน แล้ วยังมีสารแคบไซซิน (capsicin) ซึ่งมีมากใน ไส้ กลางของพริก สารเหล่ านีจ้ ะช่ วยยับยัง้ การ เกิดปฏิกริ ิยาลูกโซ่ และต่ อต้ านอนุมูลอิสระ ที่เป็ น สาเหตุของการเสื่อมสภาพของเซลล์ และอวัยวะของ ร่ างกาย กะหล่าต่ างๆ (crucifers : Brassica SPP. ) เป็ นผักที่มีซีลีเนียมมาก โดยเฉพาะอย่ างยิ่งในบร๊ อค โคลีและกะหล่าดอก ซีลีเนียมจะทางานร่ วมกับวิตามิน อี ในการต้ านอนุมูลอิสระซึ่งเป็ นสาเหตุของการเกิด มะเร็ง มีรายงานทางการแพทย์ และโภชนาการว่ าการ บริโภคผักกะหล่าเป็ นประจา จะช่ วยลดอัตราเสี่ยงต่ อ การเกิดมะเร็งของระบบทางเดินอาหารได้ กะเพรา (holy basil : Ocimum sanctum ) ในใบกะเพรามีนา้ มันหอมระเหยอยู่หลายชนิด เช่ น เอสเซนเชียล ออย (essential oil) และเมนทอล (mental) ซึ่งสามารถช่ วยขับลม ลดการบีบตัวของ ลาไส้ นอกจากนีย้ ังมีสารยูกลีนอล (eugenol) ช่ วย ย่ อยไขมันและลดการจุกเสียดท้ องได้ มะนาว (lime or lemon : Citrus aurantifolia ) ใช้ ปรุ งแต่ งรสชาติอาหารและเครื่ องดื่มหลายชนิด ใน มะนาวมีวติ ามินซีสูง ช่ วยให้ ผิวพรรณดี มีภมู ิต้านทาน โรคหวัด และช่ วยลดความเสี่ยงต่ อการเป็ นมะเร็ง เปลือกของมะนาวมีนา้ มันหอมระเหยที่มีฤทธิ์ขับลม แก้ ท้องอืด ท้ องเฟ้อได้ ขมิน้ (tumeric : Curcuma longa) ในเหง้ าของขมิน้ มีนา้ มันหอมระเหยที่มีประโยชน์ หลายชนิด เช่ น เคอร์ คูมนิ (curcumin) ช่ วยยับยัง้ การหลั่งของกรดในกระเพาะอาหาร ใช้ เป็ นยารั กษา หรื อบรรเทาอาการโรคกระเพาะอักเสบได้ นอกจากนี ้ ยังยังมีการใช้ ผงขมิน้ เป็ นยาทาภายนอก ลดอาการผื่น แพ้ ช่ วยสมานแผล และบารุ งผิวพรรณ 3. การใช้ ประดับอาคารสถานที่ (Ornamemtal Uses) ในการจัดงานเลีย้ ง นิทรรศการ ประชุม สัมมนา การตกแต่ งสถานที่ในปั จจุบันนิยมใช้ วัสดุจาก ธรรมชาติ นอกจากดอกไม้ แล้ ว ผักหลายชนิดมี สีสันสะดุดตา และรู ปทรงที่หลากหลาย นอกจากนี ้ ยังนามาแกะสลัก เพื่อแสดงศิลปวัฒนธรรม และ ธรรมเนียมไทย 4. ด้ านเศรษฐกิจ (Economic Uses) ผักเป็ นพืชที่มีการเจริญเติบโตเร็ว อายุเก็บเกี่ยวสัน้ ทาให้ ในแต่ ละปี สามารถปลูกผักได้ อย่ างน้ อย 4-6 รุ่ น ในขณะที่การปลูกข้ าว อ้ อยหรื อพืชไร่ อ่ ืน อาจ ปลูกได้ อย่ างมาก 2-3 รุ่ น ดังนัน้ มูลค่ าการผลิตทัง้ ปี สามารถหมุนเวียนทารายได้ ได้ มาก โดยประเทศ ไทยสามารถส่ งผักหลายชนิด ทัง้ ในรู ปผักสดผักแช่ แข็ง ผักแปรรู ป เป็ นมูลค่ าปี ละหลายพันล้ านบาท ปั ญหาและอุปสรรคในการปลูกผัก 1. ความไม่ เหมาะสมของสถานที่ปลูกเนื่องจาก สภาพแวดล้ อม พืชทั่วไปเติบโตได้ ดีท่ ี 10-40 องศาเซลเซียส ความชืน้ สัมพัทธ์ มากกว่ า 60 เปอร์ เซนต์ ความเป็ นกรดด่ างของดินอยู่ในช่ วง 4-8 2. ภูมปิ ระเทศและดินปลูก ผักเป็ นพืชที่ต้องการนา้ ตลอดระยะเวลาการเจริญเติบโต บริเวณที่ปลูกผักได้ ดีส่วนใหญ่ จะเป็ นที่ราบลุ่ม ดินปลูกที่ ร่ วนซุย มีความอุดมสมบูรณ์ สูง 3. ระยะทางในการขนส่ ง ยิ่งระยะทางขนส่ งไกลมากขึน้ เท่ าใด ผักจะเสียหาย ระหว่ างการส่ งมากขึน้ เท่ านัน้ 4. ความไม่ คงทนของพืชผักหลักการเก็บเกี่ยว ผักเป็ นพืชที่มีโครงสร้ างของเซลล์ อวบ มีนา้ ในเซลล์ สูง หลังจากเก็บเกี่ยวแล้ วไม่ สามารถเก็บได้ นาน 5. พ่ อค้ าคนกลาง ตลาด และการกาหนดราคาผลผลิต ราคาสินค้ าถูกกาหนดโดยพ่ อค้ า ไม่ สามารถ นาไปขายเองได้ ไม่ มีสถานที่ขาย ไม่ มีเวลา ไม่ มี ความชานาญในการขาย 6. ภัยธรรมชาติ ในบางปี การปลูกผักในบางพืน้ ที่ อาจประสบภัย ธรรมชาติต่างๆ เช่ น นา้ ท่ วม ลมพายุ ลูกเห็บ 6. โรคและแมลงศัตรู พชื สร้ างความเสียหายแก่ พืชผักทัง้ ด้ านปริมาณและ คุณภาพ ในแต่ ละฤดูปลูกจะมีผลผลิตผักได้ รับความ เสียหาย จากโรคและแมลงศัตรู พชื อย่ างน้ อย 10-20 เปอร์ เซ็นต์ บางแห่ งสูงถึง 40-50 เปอร์ เซ็นต์ หรื อเก็บ ผลผลิตไม่ ได้ เลยก็มี (Pholiota cylindracea) ารา ท 3 PDA การทดสอบประสิ ทธิภาพสารสกัดสมุนไพรกับเชื้อเห็ด สารสกัดสมุนไพร เปอรเ ็น การ บั ้ั การเ ริ เ ิบ (ppm) 0 100 500 1000 5000 10000 (Hexane) 0y 2.62wxy 4.62vwxy 13.24opqr 20.51ijkl 53.01d (MeOH) 0y 1.95xy 6.60tuvw 24.49hi 66.88b 66.88b (Hexane) 0y 11.71pqrs 16.62lmno 16.62lmno 46.04e 60.76c (MeOH) 0y 1.31y 7.27stuv 9.93qrstu 15.18mnop 23.85hij (Hexane) 0y 1.32y 9.04rstuv 10.52pqrst 14.34nopq 20.76ijkl (MeOH) 0y 15.17mnop 18.94klmn 22.89hijk 26.09gh 36.08f (Hexane) 0y 63.69bc 75.47a 75.47a 75.47a 75.47a (MeOH) 0y 4..62vwxy 11.24pqrs 19.18klm 29.76g 35.07f (Hexane) 0y 16.62lmno 16.62lmno 16.62lmno 46.04e 75.47a (MeOH) 0y 11.71pqrs 16.62lmno 19.57jklm 23.47hijk 27.38gh ( Trichoderma spp.) ารา ท 2 การทดสอบประสิ ทธิภาพสารสกัดสมุนไพรกับเชื้อราเข ว สารสกัดสมุนไพร PDA เปอรเ ็น การ บั ้ั การเ ริ เ ิบ (ppm) 0 100 500 1,000 5,000 10,000 (Hexane) 0m 0m 0m 0m 51.88h 59.22g (MeOH) 0m 0m 0m 0m 80.89e 85.99cd (Hexane) 0m 0m 29.56j 48.66h 62.66g 82.00de (MeOH) 0m 0m 0m 0m 0m 0m (Hexane) 0m 0m 0m 21.66k 59.67g 87.33bc (MeOH) 0m 0m 0m 0m 0m 0m (Hexane) 0m 37.66i 74.89f 81.44de 89.66abc 93.89a (MeOH) 0m 0m 0m 0m 11.55l 51.22h (Hexane) 0m 0m 0m 64.11g 92.00ab 93.44a (MeOH) 0m 0m 0m 0m 0m 0m กราฟเปร บเท บเปอรเ ็น การ บั ้ั ด้ ว สารสกัดสมุนไพรชนิด ่ า ๆ ระหว่ า เชื้อราเข วและเชื้อเห็ด ภาพเปร บเท บการ ับ ้ั ขอ สารสกัดข่ า ากเฮกเ นระหว่ า เชื้อราเข ว กับเชื้อเห็ดทระดับความเข้ มข้ น 10,000 ppm ราเข ว เห็ด คน ปุ่ น