Transcript ระบบขับถ่าย
ระบบขับถ่ ายของเสี ยคืออะไร
คืออวัยวะทีข่ บั ถ่ ายของเสี ยออกจากร่ างกาย
เมื่อคนเรารับประทานอาหารเข้าไป อวัยวะที่มีหน้าที่ย่อยอาหารจะทา
การย่อ ยอาหาร และน าส่ ว นที่ เ ป็ นประโยชน์ ไ ปเลี้ ย งร่ า งกาย ช่ ว ยสร้ า งหรื อ
ซ่ อมแซมส่ วนต่างๆ ของร่ างกาย ส่ วนกากก็จะถูกขับออกมาเป็ นอุจจาระ ส่ วนที่
เป็ นน้ าก็เป็ นปัสสาวะหรื อเหงื่อควันหรื อก๊าซก็ออกมาเป็ นลมหายใจหรื อลมเสี ย
ปริมาณของเสี ยที่ร่างกายขับออกมา
ปัสสาวะถูกขับออกมาวันละประมาณ 1 ½ - 2 ลิตร
เหงือ่ ถูกขับออกมาวันละประมาณ
½ ลิตร
ขับนา้ ออกมากับอุจจาระวันละประมาณ
¼ ลิตร
ส่ วนทีเ่ ป็ นก๊าซออกมากับลมหายใจเล็กน้ อย
อวัยวะทีใ่ ช้ ในการขับถ่ าย มีดงั นี้
1) ผิวหนัง
3) ไต
2) ปอด
4) ลาไส้
1. ผิวหนัง
หน้ าที่ของผิวหนัง ผิวหนังเป็ นเยือ่ ผิวบาง ๆ ที่ปกคลุมร่ างกาย
มีความละเอียดอ่อนและไวต่อความรู ้สึก บางครั้งผิวหนังช่วยบอกได้ว่า
ภายในร่ างกายมีการเปลี่ยนแปลง เช่น ผิวหนังมีความร้อนสู งขึ้นกว่าปกติ
เมื่อเป็ นไข้ ผิวหนังยังช่วยป้ องกันฝุ่ นละอองหรื อสิ่ งแปลกปลอมเข้าไป
ในร่ างกาย สามารถช่ วยดูดซึ มและทาลายพิษของสาร เช่ น ไอพิษได้
เล็ก น้อ ย นอกจากนั้น ผิ ว หนัง ยัง แสดงให้ เ ห็ น ถึ ง สุ ข ภาพด้ว ย ผูท้ ี่ มี
สุ ขภาพดีผวิ หนังจะเปล่งปลัง่ แจ่มใส
ตามธรรมดาเมื่อเรากิ นอาหาร สารอาหารก็จะถูกดูดซึ มไปกับ
เส้นเลือดเข้าไปเลี้ยงเซลล์ของผิวหนังและต่อมต่าง ๆ ในเวลาเดียวกันก็
เก็บของเสี ยในเซลล์เหล่านั้นออกมากับเลือดด้วย
ผิวหนังจึงจาเป็ นต้องได้รับอาหารที่มีประโยชน์ อาหารที่จะช่วย
บารุ งผิวหนัง เช่น มะละกอสุ ก ฟั กทอง อาหารเหล่านี้ จะให้วิตามินเอ
ไปบารุ งเซลล์ทาให้ผวิ หนังสดชื่น
นอกจากนั้นผิวหนังจะขับเหงื่อออกมาทางรู ขุมขนด้วย เหงื่อที่
ถูกขับออกมาจะมีไขมันปนอยู่เล็กน้อย ซึ่ งจะช่วยให้ผิวหนังมีความชุ่ม
ชื่นอยูต่ ลอดเวลา
เซลล์ของผิวหนังชั้นบนสุ ดจะมีการเปลี่ยนแปลงอยูต่ ลอดเวลา เมื่อชั้นบนสุ ด
หลุดไปที่เราเรี ยกว่า ขีไ้ คล เซลล์ช้ นั ล่างจะเลื่อนขึ้นมาแทนที่ ดังนั้นจึงควรอาบน้ าทา
ความสะอาดทุกวัน เพื่อชาระล้างร่ างกายให้สะอาด และช่วยกาจัดสิ่ งหมักหมมของ
ร่ างกายเช่น ฝุ่ นละอองที่ลอยมาในอากาศ เหงื่อไคล และน้ ามันจากต่อมไขมันด้วย
2. ไต
หน้ าที่ของไต ไตมีหน้าที่ขบั ของเสี ยออกจากเลือด และมีหน้าที่ ช่วยกักสาร
ในเลือดให้อยูใ่ นระดับปกติ เช่น ในเลือดมีน้ าตาลมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ และ
ถ้าไตดีไตจะขับส่ วนที่เหลือใช้ทิ้งออกมากับปั สสาวะ
ในทางตรงข้าม คนที่ทอ้ งเดินมาก ๆ เสี ยน้ าออกไปจากร่ างกายมาก จะเกิด
อาการแห้ง ผิวหนังเหี่ ยวย่น ตาลึกโบ๋
1) ขับของเสี ยที่เป็ นน้ าออกมาในปั สสาวะ
2) ทาลายพิษจากสารที่มีไนโตรเจนซึ่ งเป็ นส่ วนประกอบของอาหารที่เรากินเข้าไปแล้ว
กลายเป็ นของเสี ยซึ่ งร่ างกายใช้ไม่ได้แล้ว
3) ถ้าสารพิษสะสมในร่ างกายนาน ไตจะไม่สามารถทาลายพิษได้ ก็จะทาให้ของเสี ย
ไหลกลับเข้าเส้นเลือดทาอันตรายกับร่ างกายทีละน้อยจนตาย
วิธีบารุงรักษาสุ ขภาพของไต
- ดื่มน้ าวันละประมาณ 2 ขวด
- ยืน นัง่ เดิน ให้ตวั ตรงไว้เสมอ
- อย่าปล่อยให้สารพิษเข้าร่ างกาย
- อย่าปล่อยให้เชื้อโรคเข้าร่ างกาย ดังนั้นจึงต้องรับประทานอาหารและ
ดื่มน้ าที่สะอาด
- รักษาเหงือกและฟันให้สะอาด
- พักผ่อนให้เพียงพอ
3. ปอด
หน้ าที่ของปอด คือ หายใจเอาออกซิ เจนเข้าไป ขับของเสี ยคื อ
คาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ปอดประกอบด้วยถุงลมเล็ก ๆ ซึ่งผนังด้านใน
ของถุงลมเหล่านี้ มีเส้นเลือดฝอยโผล่ข้ ึนมารับอากาศที่หายใจเข้าไป ส่ วน
ปลายของเส้ น เลื อ ดฝอยจะรั บ เอาออกซิ เจนเข้ า ไว้ แล้ ว ปล่ อ ย
คาร์บอนไดออกไซด์ออกมา พร้อมทั้งไอน้ าเล็กน้อย
ตามปกติการหายใจของคนเรานั้น ถุงลมในปอดไม่ได้พองทุกอัน
บางอันยังแฟบอยู่ ต่อเมื่อใดที่เราทางานหนักหรื อออกกาลังกาย ซึ่ งทาให้
หายใจแรง ถุงลมทุกอันจึงจะพองขยายตัวเต็มที่
วิธีรักษาสุ ขภาพของปอด คือ ไม่หายใจเอาแก๊สพิษเข้าไป เช่น
ก า ร สู บ บุ ห รี่ แ ล ะ แ ก๊ ส พิ ษ อื่ น ๆ ค วั น เ สี ย ทุ ก ช นิ ด จ ะ น า เ อ า
คาร์บอนไดออกไซด์เข้าปอดมากกว่าออกซิเจน จะทาให้เลือดไม่ได้รับการ
ฟอกให้บริ สุทธิ์ เลือดจะเสี ย ในที่สุดก็จะกลายเป็ นโรคโลหิ ตจาง
4. ลาไส้ ใหญ่
คนที่มีสุขภาพดี และอายุยนื นั้นจะต้ องมีการขับถ่ ายสม่าเสมอ
คนที่มีระบบย่อยอาหารดีจะทาให้มีการขับถ่ายดีดว้ ย ถ้าทางเดินอาหารของท่านเกียจคร้านไม่
ขับถ่าย ก็หมายความว่าตัวท่านเกียจคร้านด้วย ซึ่งจะทาให้มีอาการท้องผูกเป็ นประจา
ถ่ ายอุจจาระเกิดได้ อย่ างไรและเหตุใดจึงท้ องผูก การถ่ายอุจจาระเริ่ มเมื่อกากอาหาร
ในลาไส้ใหญ่เต็ม ก็จะมีแรงกดดันที่ปลายประสาทของลาไส้ใหญ่ ทาให้เกิดความรู้สึกอยาก
ถ่ายอุจจาระ และก็จะขับถ่ายออก ถ้าเรากลั้นไว้ไม่ถ่ายออกมาแรงกดดันที่ปลายประสาทนี้จะ
เสี ยไป ภายหลังก็เกิดอาการท้องผูก เมื่อมีการขับถ่ายก็ไม่เป็ นไปตามธรรมชาติและเกิดอาการ
ท้องผูกขึ้นมาแล้ว อุจจาระที่คา้ งอยูก่ จ็ ะไปทาความระคายเคืองให้กบั ลาไส้ใหญ่ และต่อไปถ้า
เกิ ดอาการอยากถ่ายก็จะต้องเบ่ง เพราะอุจจาระค้างอยู่ในร่ างกายนานนั้นจะแข็งและแห้ง
เนื่องจากถูกลาไส้ใหญ่ดูดน้ ากลับเข้าร่ างกาย ลาไส้ใหญ่กจ็ ะไม่สามารถบีบตัวได้ตามปกติตอ้ ง
เบ่งมากหู รูดทวารหนักก็จะบวม อุจจาระผ่านลาบาก เป็ นช่องทางให้เกิดโรคริ ดสี ดวงทวาร
หนักได้ !!
การฝึ กนิสัยขับถ่ ายเพือ่ ป้ องกันโรคท้ องผูก เราอาจทาให้ลาไส้ใหญ่ทางานให้
เป็ นปกติได้ โดยฝึ กทาให้เป็ นประจาทุกวันและตรงเวลา ในเวลาตื่นนอนเช้ าหรื อเมื่อ
ลาไส้ใหญ่เต็ม อาจเป็ นหลังอาการมื้อใดมื้อหนึ่ งก็ได้ แต่ถา้ สามารถทาได้เวลาเช้าก็จะ
เป็ นทางดี เพื่อจะได้หมดความกังวลใจ ไม่ตอ้ งเสี ยเวลาหาสถานที่ถ่ายอุจจาระ
ถ้ าต้ องการให้ ถ่ายอุจจาระเป็ นปกติ ทาได้ดงั นี้ เมื่อตื่นนอนเช้า ดื่มน้ าอุ่นที่
ผสมเกลือแกงสัก 1 หยิบมือ (ประมาณ ¼ ช้อนเล็ก ๆ ที่ใช้คนกาแฟ) ใช้น้ าอุ่น 1 ถ้วย
แก้ว แล้วดื่มน้ าอุ่นตามลงไปอีก 1 แก้ว น้ าจะไปกระตุน้ กระเพาะให้ตื่นตัว และกระตุน้
ประสาทของระบบทางเดินอาหารทุกส่ วน เกลือที่กินเข้าไปจะไปดูดน้ าที่ลาไส้ใหญ่มา
ไว้ในลาไส้ใหญ่แล้วขับออกมา ถ้าท่านทาดังนี้ ได้ทุกเช้าหรื อวันเว้นวัน ลาไส้ของท่าน
ก็จ ะท างานได้อ ย่า งเต็ม ที่ แ ละสม่ า เสมอ คื อ มี ก ารถ่ า ยอุ จ จาระทุ ก วัน ถ้า ท่ า นไม่
สามารถทาได้ทุกวันก็ควรจะดื่มน้ า เวลาเช้าหลังแปรงฟั นวันละ 2 แก้ว
ผลเสี ยของท้ องผูก การที่ทอ้ งผูกเป็ นสาเหตุหนึ่ งที่ทาให้ท่านไม่
เจริ ญอาหาร อาหารที่กระตุน้ ให้ลาไส้ใหญ่ทางานเป็ นอาหารที่ มีกากมาก
ได้แ ก่ ผัก ต่ าง ๆ ผลไม้ หน่ อ ไม้ สับปะรด วุน้ ที่ ท าจากสาหร่ ายทะเล
ข้าวโพด อาหารเหล่านี้ ทาให้ท่านถ่ายอุจจาระสะดวกขึ้น แต่ถา้ กินอาหาร
ละเอียดและเป็ นอาหารที่ไม่มีกากเลย เช่น พวกแป้ ง มันต้ม จะไม่กระตุน้
ให้ลาไส้ใหญ่ทางาน ทาให้ทอ้ งผูก การถ่ายอุจจาระวันละ 1 หรื อ 2 ครั้งนั้น
ถือเป็ นเรื่ องปกติ
การกินยาถ่ ายเพือ่ รักษาโรคท้ องผูก
การกินยาถ่ายเพื่อรักษาโรคท้องผูก ควรจะกินเมื่อเวลาจาเป็ นจริ ง ๆ
เท่านั้น การกินน้ ามันเพื่อให้ถ่ายอุจจาระ ทาให้ลาไส้หล่อลื่น ถ่ายคล่องก็
จริ ง แต่ทาให้วิตามินหลายชนิดไม่ได้ใช้ประโยชน์ในร่ างกาย เพราะร่ างกาย
จะขับถ่ายออก
ยาถ่ายที่เหมาะที่สุดคือสมุนไพรที่หาได้ไม่ยาก ได้แก่ดอกชุมเห็ด
ใบขี้เหล็ก มะละกอสุ ก สับปะรด มะยม สะเดา มะขาม เหล่านี้ เป็ นยา
ระบายที่ดี กล้วยน้ าว้าสุ กงอมเป็ นยาระบายอ่อน ๆ และหล่อลื่นลาไส้ทาให้
อุ จ จาระเหลว ส่ ว นยาถ่ า ยที่ มี ข ายตามท้อ งตลาดก็ใ ช้ไ ด้ แต่ มี ร าคาแพง
เกิ นไป ดังนั้นจึ งควรเอาชนะท้องผูกด้วยการเลือกรั บประทานอาหารให้
ถูกต้อง และบริ หารร่ างกายเป็ นประจา
การเสริมสร้ างและดารงประสิ ทธิภาพ
การทางานของระบบขับถ่ ายปัสสาวะ
1. ดื่มน้ าสะอาดมาก ๆ อย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว จะช่วยให้ระบบ
ขับถ่ายปัสสาวะดีข้ ึน
2. ควรป้ องกันการเป็ นนิ่ วในระบบทางเดินปั สสาวะโดยหลีกเลี่ยง
การรับประทานผักที่มี่สารออกซาเลตสู ง เพราะผักพวกนี้ จะทาให้เกิดการ
สะสมสารแคลเซี ยม ออกซาเลตในไตและกระเพาะปั สสาวะได้ แต่ควร
รับประทานอาหารประเภทเนื้ อสัตว์ นม ไข่ ถัว่ ต่าง ๆ จะช่วยลดอัตราของ
การเกิดนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะได้
3. ไม่ควรกลั้นปั สสาวะไว้นานจนเกินไป เพราะอาจทาเกิดการติด
เชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะได้
4. เมื่ อ มี อ าการผิ ด ปกติ เ กี่ ย วกับ ระบบทางเดิ น ปั ส สาวะควรรี บ
ปรึ กษาแพทย์