การ เรียน รู้ เชิง ผสมผสาน 2.0

Download Report

Transcript การ เรียน รู้ เชิง ผสมผสาน 2.0

การเรียนรู้เชิงผสมผสาน 2.0
ที่เน้ นผู้เรียนเป็ นสาคัญ
ด้ วยอินเตอร์ เน็ตแอพพลิเคชั่น
Blended Learning 2.0 for
Student-Based Learning Approach
Using Internet Applications
by ณัฏฐ์ โอธนาทรัพย์ (Nuth Otanasap)
มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์
South-east Asia University, August 9, 2011
Email: [email protected], Website:www.auisuke.com
IT vs. Human
•
•
•
•
•
•
•
มนุษย์ค้นพบสิ่งใหม่ทกุ วัน อยูต่ ลอดเวลา
ความรู้ความรู้มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลง และวิวฒ
ั นาการอย่างต่อเน่่อง
ความรู้ล้าสมัยเร็ว
ข้ อมูลข่าวสารเกิดขึ ้นเป็ นจานวนมาก
การเรี ยนรู้ไม่อาจจากัดอยูเ่ พียงในชันเรี
้ ยน
มนุษย์จาเป็ นต้ องปรับตัวในการดารงชีวิต
ต้ องเรี ยนรู้อย่างต่อเน่่องตลอดชีวิต เพ่่อให้ สอดคล้ องกับสภาพแวดล้ อม
และสังคมที่เปลี่ยนไป (Life Long Learning)
(Lertkulvanich, 2008)
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
2
IT vs. Human
IT
• วิธีการเรี ยนรู้ แหล่งความรู้ และวิธีเข้ าถึงแหล่งความรู้
• เกิดการหมุนเวียน แลกเปลี่ยนข้ อมูลข่าวสารกันอย่างรวดเร็ว
• เกิดระบบนิเวศน์การเรี ยนรู้ที่สลับ ซับซ้ อน
• มีกลุม่ คนที่สนใจเร่่ องเดียวกันมารวมกลุม่ กันเพ่่อแลกเปลี่ยนเรี ยนรู้
• ทาให้ เกิดการสัมพันธ์เช่่อมโยงระหว่างศาสตร์ ตา่ งๆ เข้ าด้ วยกัน
• อินเตอร์ เน็ต เว็บ ชุมชนออนไลน์ และนิเวศน์การเรี ยนรู้อ่นๆ เป็ น
เคร่่ องม่อสาคัญ
(Lertkulvanich, 2008) (บุปผชาติ ทัฬหิกรณ์, 2554)
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
3
กระบวนการการเรี ยนรู้ที่เน้ นผู้เรี ยนเป็ นสาคัญ
(Student-based Learning)
• ผู้เรี ยนทุกคนมีความสามารถเรี ยนรู้และพัฒนาตนเองได้
• ผู้เรี ยนมีความสาคัญที่สดุ
• กระบวนการจัดการศึกษาต้ องส่งเสริ มให้ ผ้ เู รี ยน สามารถพัฒนา
ตนเองได้ อย่างเต็มศักยภาพตามธรรมชาติของแต่ละบุคคล
• การจัดการเรี ยนรู้ระดับการอุดมศึกษา
• มุง่ พัฒนาความรู้และทักษะทางวิชาชีพ ทักษะชีวิตและทักษะสังคม
(สกอ, 2551)
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
4
1) การเรี ยนรู้ จากกรณีปัญหา
(Problem-based Learning : PBL)
• ผู้เรี ยนควบคุมการเรี ยนรู้ด้วยตนเอง
• ผู้เรี ยนคิดและดาเนินการเรี ยนรู้ กาหนดวัตถุประสงค์ และ
เล่อกแหล่งเรี ยนรู้ด้วยตนเอง
• ผู้สอนเป็ นผู้ให้ คาแนะนา เป็ นการส่งเสริมให้ เกิดการแก้ ปัญหา
มากกว่าการจาเน่ ้อหาข้ อเท็จจริง
• ส่งเสริมการทางานเป็ นกลุม่ และพัฒนาทักษะทางสังคม
• เหมาะกับการจัดการเรี ยนการสอนระดับอุดมศึกษา
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
5
เงื่อนไขที่ทาให้ เกิดการเรี ยนรู้ แบบ PBL
• ความรู้เดิมของผู้เรี ยน ทาให้ เกิดความเข้ าใจข้ อมูลใหม่ได้
• การจัดสถานการณ์ที่เหม่อนจริง ส่งเสริมการแสดงออก
• การนาไปใช้ อย่างมีประสิทธิภาพ
• การให้ โอกาสผู้เรี ยนได้ ไตร่ตรองข้ อมูลอย่างลึกซึ ้ง
• ทาให้ ผ้ เู รี ยนตอบคาถาม จดบันทึก สอนเพ่่อน สรุป
วิพากษ์ วิจารณ์สมมติฐานที่ได้ ตงไว้
ั ้ ได้ ดี
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
6
2) การเรี ยนรู้เป็ นรายบุคคล (individual study)
• บุคคลมีความสามารถในการเรี ยนรู้
และความสนใจในการเรี ยนรู้ที่แตกต่างกัน
• จาเป็ นที่จะต้ องมีเทคนิคหลายวิธี เพ่่อช่วยให้ การจัดการ
เรี ยนในกลุม่ ใหญ่สามารถตอบสนองผู้เรี ยนแต่ละคนที่
แตกต่างกันได้
2.1 เทคนิคการใช้ Concept Mapping
2.2 เทคนิค Learning Contracts
2.3 เทคนิค Know –Want-Learned
2.4 เทคนิคกระบวนการกลุม่ (Group Process)
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
7
2) การเรี ยนรู้เป็ นรายบุคคล (individual study)
2.1 เทคนิคการใช้ การทาแผนผังแนวคิด (Concept Mapping) การ
ตรวจสอบความคิดของผู้เรี ยนว่าคิดอะไร เข้ าใจสิ่งที่เรี ยนอย่างไร
2.2 เทคนิค Learning Contracts ค่อ สัญญาที่ผ้ เู รี ยนกับผู้สอนร่วมกันกาหนด
ใช้ เป็ นหลักยึดในการเรี ยนว่าจะเรี ยนอะไร อย่างไร เวลาใด ใช้ เกณฑ์อะไร
ประเมิน
2.3 เทคนิค Know –Want-Learned ใช้ เช่่อมโยงความรู้เดิมกับความรู้ใหม่
ผสมผสานกับ การใช้ Mapping ความรู้เดิม เทคนิคการรายงานหน้ าชันจากการ
้
ค้ นคว้ า
2.4 เทคนิคกระบวนการกลุ่ม (Group Process) เป็ นการเรี ยนที่ทาให้ ผ้ เู รี ยน
ได้ ร่วมม่อกัน แลกเปลี่ยนความรู้ความคิดซึง่ กันและกัน เพ่่อให้ บรรลุเป้าหมาย
เดียวกัน เพ่่อแก้ ปัญหาให้ สาเร็จ ตามวัตถุประสงค์
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
8
3) การเรี ยนรู้แบบสรรคนิยม (Constructivism)
“ผู้เรี ยนเป็ นผู้สร้ างความรู้ โดยอาศัยประสบการณ์ แห่ งชีวิต
ที่ได้ รับเพื่อค้ นหาความจริง”
มุมมองแบ่งออกเป็ น 2 กลุม่ ใหญ่
- กลุ่มที่เน้ นกระบวนการรู้คดิ ในตัวบุคคล
(radical constructivism or personal Constructivism or cognitive oriented
constructivist theories)
- กลุ่มที่เน้ นการสร้ างความรู้โดยอาศัยปฏิสัมพันธ์ ทางสังคม
(Social constructivism or socially oriented constructivist theories)
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
9
3) การเรี ยนรู้แบบสรรคนิยม (Constructivism)
กลุ่มที่เน้ นกระบวนการรู้ คดิ ในตัวบุคคล
เน้ นการเรี ยนรู้ของมนุษย์เป็ นรายบุคคล โดยมีความเช่่อว่า
มนุษย์แต่ละคนรู้วิธีเรี ยนและรู้วิธีคิด เพ่่อสร้ างองค์ความรู้ด้วย
ตนเอง
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
10
3) การเรี ยนรู้แบบสรรคนิยม (Constructivism)
กลุ่มที่เน้ นการสร้ างความรู้ โดยอาศัยปฏิสัมพันธ์ ทางสังคม
เน้ นว่า ความรู้ ค่อ ผลผลิตทางสังคม โดยมีข้อตกลงเบ่ ้องต้ นสอง
ประการ ค่อ
1) ความรู้ต้องสัมพันธ์กบั ชุมชน
2) ปั จจัยทางวัฒนธรรมสังคมและประวัติศาสตร์ มีผลต่อการ
เรี ยนรู้ ดังนัน้ ครู จงึ มีบทบาทเป็ นผู้อานวยความสะดวกในการ
เรี ยนรู้
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
11
4) การเรียนรู้แบบแสวงหาความรู้ได้ ด้วยตนเอง
(Self-Study)
ให้ ผ้ เู รี ยนศึกษาและแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ใช้ ในการ
เรี ยนรู้ทงที
ั ้ ่เป็ นรายบุคคล และ กระบวนการกลุม่
1.การจัดการเรี ยนการสอนแบบส่บค้ น
(Inquiry Instruction)
2. การเรี ยนแบบค้ นพบ (Discovery Learning)
3. การเรี ยนแบบแก้ ปัญหา (Problem Solving)
4. การเรี ยนรู้เชิงประสบการณ์ (Experiential Learning)
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
12
5) การเรี ยนรู้ที่ใช้ วิธีสร้ างผลงานจากการตก
ผลึกทางปั ญญา (Crystal-Based Approach)
• ส่งเสริมให้ ผ้ เู รี ยนได้ สร้ างสรรค์ความรู้ความคิดด้ วยตนเอง
• รวบรวม ทาความเข้ าใจ สรุป วิเคราะห์ และสังเคราะห์จากการศึกษาด้ วย
ตนเอง
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
13
5) การเรี ยนรู้ที่ใช้ วิธีสร้ างผลงานจากการตก
ผลึกทางปั ญญา (Crystal-Based Approach)
วิธีการเรี ยนรู้
• ทาความเข้ าใจกับผู้เรี ยนให้ เข้ าใจวัตถุประสงค์ของการเรี ยนรู้
• ทาความเข้ าใจในเน่ ้อหาและประเด็นหลักๆ ของรายวิชา
• มอบหมายให้ ผ้ เู รี ยนไป ศึกษาวิเคราะห์เอกสาร แนวคิดตาม
ประเด็นที่กาหนด
• ให้ ผ้ เู รี ยนพัฒนาแนวคิดในประเด็นต่างๆ แยกทีละประเด็น
• ให้ ผ้ เู รี ยนเขียนประเด็นเหล่านันเป็
้ นผลงานในลักษณะที่เป็ น
แนวคิดของตนเอง
• ผ่านการกลัน่ กรอง วิเคราะห์เจาะลึกจนตกผลึกทางความคิด
เป็ นของตนเอง
[email protected]:
• นาเสนอให้ กลุม่ เพ่่อนได้ ช่วNuth
ยวิเOtanasap:
คราะห์
วิจารณ์อีกครัง้
www.auisuke.com
14
ทักษะที่จาเป็ นในการดารงชีวิตยุคเทคโนโลยี
สารสนเทศ
ทักษะชีวติ และอาชีพ
ทักษะการเรียนรู้และ
การสร้ างสรรค์ ส่ งิ ใหม่
ทักษะทางเทคโนโลยี
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
15
(บุปผชาติ ทัฬหิ กรณ์ , 2554)
ทักษะที่จาเป็ นในการดารงชีวิตยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ
ทักษะการเรียนรู้และการสร้ างสรรค์ ส่ งิ ใหม่
• สามารถเรี ยนรู้ สรุป วิเคราะห์ สังเคราะห์ความรู้ได้
ด้ วยตนเอง
• การคิดและแก้ ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ
• การร่วมม่อ การติดต่อส่่อสาร และการนาเสนอ
• สามารถเช่่อมโยงความรู้เดิมกับความรู้ใหม่
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
16
(บุปผชาติ ทัฬหิ กรณ์ , 2554)
ทักษะที่จาเป็ นในการดารงชีวิตยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ
ทักษะชีวิตและอาชีพ
• ความสามารถในการปรับตัวทังชี
้ วิตส่วนตัว และการ
งานความคิดริเริ่มและมีแนวคิดของตัวเอง
• ทักษะทางสังคม วัฒนธรรม ประเพณีทงของพ่
ั้
้นถิ่น
และข้ ามชาติ
• ความสามารถในการสร้ างสรรค์ชิ ้นงาน ที่สามารถ
ตรวจสอบได้
• มีภาวะผู้นาและมีความรับผิดชอบทังต่
้ อตนเองและ
ผู้อ่น
(บุปผชาติ ทัฬหิ กรณ์ , 2554)
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
17
ทักษะที่จาเป็ นในการดารงชีวิตยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ
ทักษะทางเทคโนโลยี
• ความรู้ทางสารสนเทศขันพ่
้ ้นฐาน
• ความรู้เกี่ยวกับส่่อขันพ่
้ ้นฐาน
• ความรู้ทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่่อสาร
ขันพ่
้ ้นฐาน
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
18
(บุปผชาติ ทัฬหิ กรณ์ , 2554)
เทคโนโลยีการเรี ยนรู้ 2.0 (Learning 2.0)
• Web 2.0 มุง่ เน้ นให้ ทกุ คนมีสว่ นร่วม โดยการพัฒนาซอฟต์แวร์ เพ่่อ
สังคม สนับสนุนให้ ทกุ คนสามารถเข้ าถึงได้ โดยทัดเทียมกัน
• พัฒนาประสิทธิภาพในการเรี ยนรู้ 2.0 (Learning 2.0)
• สนับสนุนให้ เกิดการเรี ยนการสอนที่เน้ นผู้เรี ยนเป็ นสาคัญ
• ส่งเสริ มให้ ผ้ เู รี ยนมีสว่ นร่วมมากขึ ้น
• เว็บ 2.0 สนับสนุนให้ ผ้ ใู ช้ สามารถสร้ างเน่ ้อหา และนาเสนอเน่ ้อหา
ที่ตนเองสร้ างขึ ้นรวมทังน
้ าเน่ ้อหาอ่่นๆ จากอินเตอร์ เน็ตมา
ผสมผสานเข้ าด้ วยกัน แล้ วนาเสนอผ่านเว็บ
(Wangpipatwong, 2009) & (Vate-U-Lan, 2009)
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
19
เทคโนโลยีการเรี ยนรู้ 2.0 (Learning 2.0)
• ความสามารถในการแบ่งปั น
(Sharing)
• การร่วมม่อการทางานร่วมกัน
(Collaboration)
• การบริ การ (Services)
• ความรวดเร็ว(Speed)
• การทางานแบบหลายงานพร้ อมกัน
(Multitasking)
• ส่่อผสม(Multimedia)
(Sambandaraksa, 2008 อ้ างถึงใน Valte-U-Lan, 2008)
• สนับสนุนชุมชนแห่งการเรี ยนรู้
(Community)
• การเรี ยนผ่านอุปกรณ์เคล่่อนที่
(Mobility)
• เน่ ้อหาเปิ ด(Open Content)
• เทคโนโลยีเปิ ด
(Open Technology)
• โอเพ่นซอร์ ส (Open Source)
• การเรี ยนรู้ร่วมกัน (Contributing)
(Sambandaraksa, 2008 อ้ างถึงใน Valte-U-Lan, 2008)
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
20
Web 1.0 กับ 2.0
Web 1.0
เว็บที่สามารถอ่านได้
อย่างเดียว
มุ่งเน้ นการนาเสนอ
เน่ ้อหา
Web 2.0
เว็บที่สามารถอ่านและเขียนได้
ผู้ใช้ สามารถเป็ นผู้สร้ างเน่ ้อหา
มุ่งเน้ นซอฟต์แวร์ เพ่่อสังคม
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
21
e-Learning 1.0 vs 2.0
e-Learning 1.0
คอร์ สออนไลน์
(Online Course)
มุง่ เน้ นการนาเสนอ
เน่ ้อหา (Content)
e-Learning 2.0
การแบ่งปั นข้ อมูลและความรู้
การเรี ยนรู้เชิงผสมผสาน และการ
เรี ยนรู้ผ่านสังคมออนไลน์ (Social
Network)
มุง่ เน้ นการมีสว่ นร่วมของบุคคล
(People)
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
22
อินเตอร์ เน็ตแอพพลิเคชัน่ (Internet Application)
•
•
•
•
•
ซอฟต์แวร์ บริ การ (SaaS: Software as a Service) (IPA, 2009)
ซอฟต์แวร์ เว็บ 2.0 สามารถเข้ าถึงได้ ผ่านอินเตอร์ เน็ตด้ วยเว็บเบราเซอร์
ไม่จาเป็ นต้ องติดตังซอฟต์
้
แวร์ ไว้ ที่เคร่่ องคอมพิวเตอร์ ของตนเอง
ประหยัดค่าใช้ จ่ายในการจัดหารวมทังการบ
้
ารุงรักษา
สามารถเข้ าถึงและสร้ างงานได้ ทกุ ที่ทกุ เวลา
(Anyone Anytime Anywhere)
• มีให้ ใช้ ฟรี เป็ นจานวนมาก
• ส่วนใหญ่เป็ นซอฟต์แวร์ ที่มงุ่ เน้ นการมีปฏิสมั พันธ์ทางสังคม
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
23
อินเตอร์ เน็ตแอพพลิเคชั่นเครื่ องมือเพื่อ
การเรี ยนรู้ เชิงผสมผสานแบบ 2.0 (Blended Learning 2.0)
อดีต เคร่่ องม่อในการถ่ายทอดสารสนเทศ ข้ อมูลข่าวสาร
ความรู้ด้วย เอกสารดิจิตอล (e-Document) เสียง
(Audio) วีดิโอ (Video) ภาพ (Image) ส่่อผสม
(Multimedia) การนาเสนองาน (Presentation) วัตถุ
เสม่อนจริง (Virtual Reality)
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
24
อินเตอร์ เน็ตแอพพลิเคชั่นเครื่ องมือเพื่อ
การเรี ยนรู้ เชิงผสมผสานแบบ 2.0 (Blended Learning 2.0)
ปั จจุบนั เป็ นเคร่่ องม่อการเรี ยนรู้ 2.0 ที่มงุ่ เน้ นให้ ผ้ เู รี ยนมีสว่ นร่วม
งานบริการครบวงจร (One Stop Services) หร่ อผ่าน LMS
การเรี ยนรู้นอกชันเรี
้ ยน ผสมผสานกับการเรี ยนในชันเรี
้ ยน (InClass)
ส่งเสริมให้ เกิดการเรี ยนรู้ร่วมกัน การวิเคราะห์ สร้ างสรรค์พฒ
ั นา
ชิ ้นงาน การแบ่งปั น การเข้ าถึง การนาเสนอองค์ความรู้ระหว่างกัน
บลอก (ฺBlog) วิกิ (Wiki) พอดคาสต์ (Podcast) เคร่ อข่ายสังคมออนไลน์
(Social Network) เอกสารออนไลน์ (Online Document) กระดานคานวณ
ออนไลน์ (Online Spreadsheet) แบบฟอร์ มออนไลน์ (Online Form)
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
25
การเรี ยนรู้ เชิงผสมผสาน 2.0
บทบาทครู และนักเรี ยนที่เปลี่ยนไป
เดิม
ครูเป็ นผู้ถ่ายทอด
กาหนดงานให้ นกั เรี ยน
จากัดขอบเขตการเรี ยนรู้
อยูใ่ นชันเรี
้ ยน
ใหม่
ครูเป็ นผู้ให้ คาแนะนาช่วยเหล่อ ส่งเสริ ม
ให้ เกิดการเรี ยนรู้แบบมีสว่ นร่วม
ผู้เรี ยนสร้ างสรรค์ผลงานจริ ง
เกิดชิ ้นงานใหม่
เกิดกระบวนการการเรี ยนรู้ที่เน้ นผู้เรี ยน
เป็ นสาคัญ
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
26
ขันตอนการเรี
้
ยนการสอน
เชิงผสมผสาน 2.0
ที่มีผ้ เู รี ยนเป็ นศูนย์กลาง
ด้ วยอินเตอร์ เน็ต
แอพพลิเคชัน่
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
27
การเรี ยน
ในชันเรี
้ ยน
(In Class:
Face to Face)
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
28
การเรี ยนจาก
กรณีปัญหา
(Problem-based
Learning)
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
29
Student-based Learning
Google Apps & Google Sites
PICCS
One Stop Services
Blended Learning 2.0
One-Stop Service
Website for
One-stop Service
Nuth Otanasap: [email protected]:
https://sites.google.com/site/auisuke/ecommerce
www.auisuke.com
31
One-Stop Service
Online Quiz
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
32
One-Stop Service
E-Book, Online Orientation, Online Assignment
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
33
One-Stop Service
Online Score Report
Collaborative Commentator
Online Self Assessment
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
34
One-Stop Service
Online Assignment
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
35
One-Stop Service
Online Document
Otanasap: [email protected]:
Online Document: แบ่งปั น ความร่วมม่อNuth
ผสมผสาน
และความสามารถในการเข้ าถึงเพ่่อทางานร่ วมกัน
www.auisuke.com
36
One-Stop Service
Online Advertising as VDO Clip
Online HW submission
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
37
One-Stop Service
Google Site
Online Presentation
Online Survey
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
38
สรุป
• เทคโนโลยีเว็บ 2.0 และอินเตอร์ เน็ตแอพพลิเคชัน่
• สามารถนามาประยุกต์ใช้ ร่วมกันให้ เกิดการเรี ยนรู้เชิง
ผสมผสาน 2.0 ที่มงุ่ เน้ นผู้เรี ยนเป็ นสาคัญ
• สามารถลดปั ญหาด้ านค่าใช้ จ่ายในการจัดหา
ซอฟต์แวร์ รวมถึงค่าใช้ จ่ายในการบริหารจัดการ
บารุงรักษาซอฟต์แวร์
• สามารถลดปั ญหาทางด้ านการปฏิสมั พันธ์ระหว่าง
ผู้เรี ยนด้ วยกันเอง และผู้เรี ยนกับผู้สอน
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
39
สรุป
• จากการทดลอง ผู้เรี ยนมีความพึงพอใจในกระบวนการเรี ยนรู้
และมีความกระต่อร่ อร้ นในการเรี ยนรู้ด้วยตนเองเพิ่มมากขึ ้น
• สามารถนาศักยภาพในการเรี ยนรู้ด้วยตนเอง มาใช้ ให้ เกิด
ประโยชน์ตอ่ การเรี ยนได้ อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะใน
สิ่งที่ผ้ เู รี ยนสนใจ
• ผู้เรี ยนสามารถวิเคราะห์ สังเคราะห์ ความรู้ได้ เป็ นอย่างดี
• สร้ างพ่ ้นฐานให้ ผ้ เู รี ยนเกิดทักษะการเรี ยนรู้ด้วยตนเองตลอด
ชีวิต
Nuth Otanasap: [email protected]:
www.auisuke.com
40
Thanks
ภาษาดีประพฤติดี อีกทังมี
้ รสนิยม
ความคิดไตร่ตรองคม มัน่ คงตรงไม่แปรผัน
ค้ นคว้ าก้ าวหน้ าสู้
คิดค้ นอยูท่ กุ ค่นวัน
สมองไวคิดได้ พลัน ทุกสิง่ สรรพสัมฤทธิ์เร็ว
บัณฑิตในอุดมคติ
โดย วัลลภา เทพหัสดิน ณ อยุธยา
เว็บไซต์ผ้ บู รรยาย WWW.AUISUKE.COM
คู่มือการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา ระดับอุดมศึกษา
ของสานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา 2545