Transcript การประเมินผล (Evaluation)

เทคนิคการประเมินผล
การเรียนการสอน
(การให้ระด ับคะแนน:
เกรด)
โดย
รศ. ดร. ล ัดดาว ัลย์ เพชรโรจน์
การว ัดผลและการประเมินผลการเรียนรู ้
 การว ัดผล (Measurement)
 การประเมินผล (Evaluation)
 การประเมินผล (Assessment)
การว ัดผล (Measurement) หมายถึง
การกาหนดค่าเชงิ ปริมาณ
(Quantitative Description)เป็นต ัวเลข
การประเมินผล(Evaluation) หมายถึง
ิ ค่า (Value Judgement) ผล
การต ัดสน
การว ัด เป็นเชงิ ปริมาณ
การประเมินผล (Assessment) หมายถึง
ิ ผลวิเคราะห์ทไี่ ด้จากการว ัด ทงั้
การต ัดสน
เชงิ ปริมาณและเชงิ คุณภาพ
Evaluation = Measurement +Value Judgment
Assessment = Measurement + Non Measurement
(Quantitative)
+ Value Judgment
(Qualitative)
การว ัดและการประเมินผลการเรียนการสอน
1. ว ัดความรูด
้ ว้ ยข้อสอบปรน ัย และอ ัตน ัย ผลทีไ่ ด้เป็น
เชงิ ปริมาณ
2. ว ัดท ักษะจากการประเมินผลกิจกรรมและการปฏิบ ัติ
ด้วยกิจกรรมและแบบฝึ ก ทงเช
ั้ งิ ปริมาณและเชงิ
คุณภาพ
3. การประเมินอิงเกณฑ์และอิงกลุม
่
4. ผลการประเมินเป็น ระด ับคะแนน เกรดแทนด้วย
ต ัวอ ักษร หรือต ัวเลข
การให้ระด ับคะแนน
ิ ใจทีจ
เป็ นการตัดสน
่ ะแปลค่าของคะแนนเป็ น
ั ญลักษณ์หรือ
สญ
ตัวเลขหรือ
ั ญลักษณ์อน
 สญ
ื่ ๆ
ทีส
่ ามารถบอกระดับความสามารถในการเรียนรู ้
การให้ระด ับคะแนน 6 วิธ ี
วิธท
ี ี่ 1 โดยตรงจากคะแนนดิบ
้ ะแนนร้อยละ
วิธท
ี ี่ 2 โดยใชค
้ ันด ับที่
วิธท
ี ี่ 3 โดยใชอ
วิธท
ี ี่ 4 โดยการว ัดการกระจาย
้ ะแนนมาตรฐาน
วิธท
ี ี่ 5 โดยใชค
วิธท
ี ี่ 6 โดยวิธอ
ี งิ เกณฑ์ และอิงกลุม
่
วิธท
ี ี่ 1 การให้ระด ับคะแนน
โดยตรงจากคะแนนดิบ
คะแนนดิบ(Raw Score)มีความหมายน ้อยมาก
เพราะเป็ นคะแนนทีเ่ กิดจากการสอบโดยตรง
ั ว่า
ไม่สามารถตีความหมายให ้แน่ชด
ึ ษามีสภาพการเรียนรู ้ดีมากน ้อย
นั กศก
่
เพียงใด เพราะไม่มเี กณฑ์เทียบเชน
ึ ษาได ้คะแนนภาษาไทย 40 คะแนน
นั กศก
จากคะแนนเต็ม 60 คะแนน
วิธท
ี ี่ 2 การให้ระด ับคะแนน
้ ะแนนร้อยละ
โดยใชค
การทาคะแนนดิบให ้เป็ นร ้อยละ จะ
สามารถเปรียบเทียบกับเกณฑ์ได ้
วิธน
ี จ
ี้ ะรู ้ว่าใครเก่งหรืออ่อนกว่ากัน
ต ัวอย่าง 1 วิชาสถิตมิ คี ะแนนเต็มทัง้ หมด 300
คะแนน มีนักศกึ ษาสอบได ้คะแนนสูงสุด 270 คะแนน
คะแนนตา่ สุด 80 คะแนน จงหาค่าคะแนนร ้อยละของ
ึ ษาทีส
นักศก
่ อบได ้คะแนนสูงสุดและตา่ สุด
วิธท
ี า
ึ ษาได ้คะแนนสูงสุดคือ 270 คะแนน
นักศก
ึ ษาได ้คะแนนตา่ สุดคือ 80 คะแนน
นักศก
คะแนนเต็มทัง้ หมด 300 คะแนน
ึ ษาทีไ่ ด ้คะแนนสูงสุด คิดเป็ นร ้อยละ
นักศก


270
300
 100
=90 หรือ 90%
 นักศกึ ษาทีไ่ ด ้คะแนนตา่ สุด คิดเป็ นร ้อยละ =26.67
้ ันด ับที่
วิธท
ี ี่ 3 โดยใชอ
(Ranking)
อ ันด ับทีเ่ ป็นการแปลงตา
่ แหน่งเมือ
่ เทียบ
ก ับคนอืน
่ ๆ ในกลุม
่ เดียวก ันหรือคนเดียวก ัน
แต่ตา่ งวิชา โดยใช ้ เปอร์เซนไทล์ ควอไทล์
เดไซล์
ต ัวอย่าง กลุม
่ ที่ 1จันทนาได ้คะแนน 50 ไดเปอร์
้ เซน
ไทล์ ที่ 92 กลุม
่ ที่ 2 สุดาได ้คะแนน 60 ไดเปอร์
้ เซนไทล์ ที่ 80
จงเปรียบเทียบ
วิธค
ี ด
ิ : กลุม
่ ที1
่ จันทนาได ้คะแนน 50 ได ้
ึ ษา
เปอร์เซนไทล์ ที่ 92หมายความว่ามีนักศก
ได ้คะแนนน ้อยกว่า 50 อยูร่ ้อยละ 92 ในขณะที่
กลุม
่ ที2
่ สุดา ได ้เปอร์เซนไทล์ ที่ 80
ึ ษาได ้คะแนนน ้อยกว่า 60
หมายความว่ามีนักศก
อยูร่ ้อยละ 80
ดังนัน
้ จันทนาเก่งกว่าสุดา
่ นิดดาได ้คะแนนวิชา
หากเป็ นคนเดียวกัน เชน
ภาษาไทย 70 คะแนน ตรงกับ P60 ได ้คะแนน
วิชาสงั คม 65 คะแนน ตรงกับ P73 ดังนัน
้
นิดดาได ้ตาแหน่งในวิชาสงั คมดีกว่าภาษาไทย
ตัวอย่างการหาเปอร์เซนไทล์
ึ ษา 20คน
จงหาค่าเปอร์เซนต์ของคะแนนนักศก
20 18 16 15 14 11 8 8 6 4
การนาคะแนนทีเ่ ป็ นร ้อยละและเปอร์เซนไทล์
ิ ใจให ้เกรดได ้ดังนี(้ Linn
มาชว่ ยในการตัดสน
and Miller,2005)
A= 95-100%
B=87-94%
C=78-86%
D=69-77%
F=0- 68%
A= 90-100% A= 80-100%
B=80-89%
B=70-79%
C=70-79%
C=60-69%
D=60-69%
D=50-59%
F=0-59%
F=0-49%
A= Percentage Top ลงมา 10-20% ,
B= next from A ลงมา 20- 30%
C= next from B ลงมา 30-50%
D=next from C ลงมา 10-20%
F= low 0-10%
A= Percentage Top ลงมา 20% ,
B = next from A ลงมา 30%
C= next from B ลงมา 30%
D= next from C ลงมา 15%
F= low 5 %
ค่ากลาง
ฐานนิยม (Mode) คือจานวนคะแนนทีซ
่ ้ากัน
มากทีส
่ ด
ุ
มัธยฐาน(Median)คือค่ากึง่ กลางทีม
่ ค
ี ะแนนน ้อย
กว่า มัธยฐานอยู่ 50% และทีม
่ ค
ี ะแนนมากกว่า
มัธยฐานอยู่ 50%
ค่ามัชฌิมเลขคณิตหรือค่าเฉลีย
่ (Mean) คือค่า
กลางทีไ่ ด ้จากการรวมค่าข ้อมูลทุกตัวแล ้วหารด ้วย
จานวนข ้อมูล
ค่าการกระจาย
ั คือค่าทีบ
พิสย
่ อกความแตกต่างระหว่างคะแนนสูงสุด
กับตา่ สุด
สว่ นเบีย
่ งเบนควอไทล์ คือค่าแตกต่างระหว่าง
ควอไทล์ท ี่ 1กับควอไทล์ท ี่ 3 หรือ P25 กับ P75
สว่ นเบีย
่ งเบนมาตรฐานคือค่าเฉลีย
่ ของการกระจายของ
ข ้อมูลทุกตัวจากค่ามัชฌิมเลขคณิตยกกาลังสอง แล ้ว
ถอดรากทีส
่ อง
วิธท
ี ี่ 4 โดยการว ัดค่ากลางและค่า
การกระจาย
ค่ าวัดแนวโน้ มเข้ าสู่
ส่ วนกลาง
ค่ าวัดการกระจาย
ฐานนิยม (Mode)
พิสัย (Range)
มัธยฐาน (Median)
ส่ วนเบี่ ย งเบนควอไทล์
(Quartile Deviation)
ค่าเฉลี่ย (Mean) หรื อ
มัชฌิมเลขคณิ ต
(Arithmetic Mean)
ส่ วนเบี่ ยงเบนมาตรฐาน
(Standard Deviation)
ั าการกระจาย
การต ัดเกรดโดยอาศยค่
ม ักเป็นการต ัดเกรดแบบอิงกลุม
่ และ
ั
อาศยการแจกแจงโค้
งปกติ
ั
วิธท
ี 4ี่ . 1 การตัดเกรดทีพ
่ จ
ิ ารณาค่าพิสย
ตามวิธข
ี อง Douglas
จานวนเกรดได ้จากการหาอัตราสว่ น
ระหว่างคะแนนตา่ สุดกับสูงสุดแล ้วเทียบ
ตาราง
เกรด 2 ระดับ ผ่าน-ไม่ผา่ น
เกรด 3 ระดับ ดี (G) ผ่าน(P) ตก(F)
ดีเยีย
่ ม(H) ผ่าน(S) ตก(F)
ั มัธยฐานและสว่ นเบีย
วิธท
ี ี่ 4.2การตัดเกรดทีอ
่ าศย
่ งเบนมาตรฐาน
้
วิธท
ี 5
ี่ การให ้ระดับคะแนนโดยใชคะแนนมาตรฐาน
T-score= 5019Z
Stanines แบ่งเป็ น 9 ชว่ ง
วิธท
ี ี่ 6 การให้ระด ับคะแนน
โดยผสมผสานระหว่าง
อิงเกณฑ์ และอิงกลุม
่