Be happy attitude 2

Download Report

Transcript Be happy attitude 2

ทัศนคติทเี่ ป็ นสุข
(Be happy attitude)
ทัศนคติที่สอง
ฉันได้ รับความเจ็บปวดชอกช้าใจ
จริงๆ ...
แต่ ฉันมั่นใจว่ าฉันจะพลิกกลับมาอย่ างมีชีวติ ชีวา
I am really hurting – but I am going
to bounce back
พระวจนะ (มัทธิว 5:4)
“บุคคลใดโศกเศร้ าผู้น้ันเป็ นสุ ข
เพราะเขาจะได้ รับการปลอบประโลม”
ความหมาย
โศกเศร้ าหมายถึง อาการสะเทือนอารมณ์ ของบุคคลทีเ่ กิดจากสิ่ ง
เลวร้ าย เจ็บป่ วย อมทุกข์ เวทนา
ปลอบประโลมหมายถึง ได้ รับกาลังใจ การหนุนใจ
คาถามทีถ่ ูกถามบ่ อยทีส่ ุ ดของคริสเตียนคือ
1. ทาไมสิ่ งเลวร้ ายจึงเกิดขึน้ กับคนดี?
2. ทาไมต้ องเป็ นฉัน? (ทาไมฉันจึงเจ็บป่ วย ทาไมฉันพบ
กับเรื่องเศร้ าๆ
ดังนั้นอย่ าใช้ คาว่ า “ทาไม” พระเจ้ าจะไม่ ตอบ
เพราะเราจะมีข้ออ้ างใหม่ ไม่ ร้ ู จบ
พระเยซูกถ็ ามพระเจ้ า
• บนกางเขนพระองค์ถามพระเจ้ าว่า
“ไฉน พระองค์ ทอดทิง้ พระองค์ เสี ย”
• พระองค์ ถามพระเจ้ า หลังจากทีพ่ ระองค์ ยอม
ดืม่ จอกแห่ งความผิดบาปของเรา
คาถามที่ควรถามพระเจ้ าคือ...
• คนดีๆ จะเป็ นอย่างไร เมือ่ มีสิ่งเลวร้ ายเกิดขึน้ มาในชีวติ ?
• เมือ่ ถามเช่ นนีพ้ ระเยซู มคี าตอบ “เราจะได้ รับการปลอบ
ประโลม”
พระเจ้ าไม่ เคยสั ญญาว่ า...
จะไม่ มีสิ่งเลวร้ ายเกิดขึน้ กับคริสเตียน
แต่ พระองค์ สัญญาว่ า
“พระองค์ จะอยู่ด้วยกับเราในทุกสภาวะ ทุกสถานการณ์
อิสยาห์ 43:1-3
ความเศร้ าเหมือนกัน แต่ ไม่ เหมือนกันในความรู้ สึก
หญิงหม่ ายคนหนึ่งเล่ าความเศร้ าในการเสี ย
1. บุตรสาวตอนยังเป็ นวัยรุ่น
2. บุตรชายเมือ่ ตอนเขาอายุสิบปี เศษๆ
3. สามีตายไปเมื่อเร็วๆ นี้
ทุกความสู ญเสี ยมีความโศกเศร้ า แต่ เป็ นความเศร้ าโศกทีไ่ ม่
เหมือนกัน
ดังนั้น พระเจ้ าจะใช้ ประสบการณ์ ความเศร้ าโศกของเราทาให้ เราดี
กว่ าเดิม ทาให้ เรากล้ าแกร่ งขึน้ พร้ อมทีจ่ ะเดินไปสู่ สิ่งที่ดกี ว่ า
วิธีการจัดการกับสิ่ งเลวร้ ายหรือเศร้ าเสี ยใจ
1. ตระหนักว่ า ตัวเราเองจะจัดการอย่ างไร?
2. ตระหนักว่ า พระเจ้ าสามารถอาจทาอะไรให้ กบั เรา?
สิ่ งที่เราทาเองได้ เมื่อเกิดความโศกเศร้ า
1. อย่ ากล่ าวโทษพระเจ้ า (Do not blame
God)
2. อย่ ากล่ าวโทษตัวเอง (Do not blame
yourself)
3. อย่ าไปยึดติดกับการกล่ าวโทษ แต่ ให้ จัดการกับปัญหา
(Do not fix the blame – Fix the
problem)
อย่ ากล่าวโทษพระเจ้ า
เพราะ
1. ความผิดส่ วนใหญ่ เกิดจากอุปนิสัยของตัวเรา ทาให้ ตัดสิ นใจผิด กระทา
ผิด
2. จิตใจลาเอียง เกิดจากการตั้งเป้าหมายในชีวติ ผิดพลาด
3. จิตใจมนุษย์ มีความโลภ เห็นแก่ตัว
4. จิตใจกบฏ ไม่ แยแสพระคา และคาเตือนของพระเจ้ า
5. โรคร้ ายต่ างๆ เช่ นมะเร็ง เกิดจากสภาวะแวดล้อมเป็ นพิษ กินอาหารแบบ
เร็วๆ จึงเป็ นภัยภายหลัง
6. พระเจ้ าให้ คาเตือนไว้ ในบัญญัติสิบประการเรื่องอย่ าฆ่ า อย่ าโกหก อย่ า
ลักขโมย อย่ าโลภ
7. พระเจ้ าให้ รักษาสุ ขภาพด้ วยการกินอย่ างถูกวิธี ไว้ ในเฉลยธรรมบัญัติ
อย่ ากล่ าวโทษตัวเอง
•
•
เมือ่ เราทาผิด เกิดเรื่องโศกเศร้ า เรามักจะโทษตัวเอง
การกล่ าวโทษตนเองไม่ มผี ลดีใดๆ และไม่ ช่วยแก้ ปัญหา มี
แต่ บ่มทุกข์ และสะสมทุกข์ มากขึน้ (เกิดดอกเบีย้ )
• ให้ เราใส่ ความรู้ ความเข้ าใจ.
ของอาทิตย์ ทแี่ ล้ ว เรื่องบุคคลบกพร่ องฝ่ ายวิญญาณ ...
อย่ ายึดติดกับการกล่ าวโทษ -แต่ ให้ จัดการที่ปัญหา
•
•
1.
2.
3.
4.
5.
6.
ตัวปัญหาไม่ ใช่ ปัญหา แต่ วธิ ีการตอบสนองต่ อปัญหานั้น
ต่ างหาก เป็ นปัญหาที่แท้ จริง
เราจะจัดการกับปัญหาโดย
ตัดสิ นใจไม่ จมอยู่ในการอมทุกข์ และนา้ ตา
อย่ ายอมแพ้
จงฝังความโศกเศร้ าที่ขดั ขวางเราไม่ ให้ ช่วยคนอืน่
เราต้ องเติมความสุ ขสดชื่นให้ กบั ชีวติ
เปลีย่ นความเศร้ าใจของเราด้ วยการไปช่ วยเหลือคนอืน่
ยอมรับการปลอบประโลมใจ ที่พระเจ้ าพยายามมอบให้ เรา
ตัดสิ นใจทีจ่ ะไม่ ใช้ ชีวติ ทีเ่ หลือจมอยู่ในบ่ อแห่ งความเศร้ า
•
•
ตัวอย่ างจริง : ทีน่ ักกีฬาเบสบอลทีส่ ู ญเสี ยลูกและมียจาก
อุบัตเิ หตุรถยนต์
เขาได้ ใช้ ชีวติ อยู่ต่อไปอย่ างกล้ าหาญ
อย่ ายอมแพ้สิ่งเลวร้ าย
•
เราควรยอมรับและเรียนรู้ ต่อความจริงของสิ่ งเลวร้ ายที่
เกิดขึน้ แต่ เราจะไม่ ยอมมีอารณ์ ร่วมกับสิ่ งเลวร้ ายนั้น
• อย่ ายอมแพ้ อย่ าเลิกทา
• เพราะความยากลาบากมีวนั สิ้นสุ ด แต่ บุคคลทีอ่ ดึ จะอยู่
อย่ างคงทน
หลักการ : ข้ อดีคอื สิ่ งเลวร้ ายจะกลายเป็ นสิ่ งดี เมือ่ เรา
เปลีย่ นทัศนคติของเรา
จงฝังความเศร้ าทีเ่ ห็นแก่ตวั ของคุณ
•
•
•
เราอาจจะคิดว่ า เราเศร้ ามาก อยากอยู่คนเดียว
แต่ ในโลกนีย้ งั มีคนอีกมากมายทีก่ าลังประสบความทุกข์
ลาบากมากกว่ าเรา
จงใช้ กฏบุคคลที่ 3 คือ คิดถึงพระเจ้ าเป็ นคนแรก บุคคล
อืน่ เป็ นที่ 2 และคุณเป็ นคนที่ 3
จงบวกความสุ ขสดชื่น อย่ านับความโศกเศร้ า
•
•
จงดูสิ่งทีเ่ หลืออยู่ อย่ ามัวแต่ ดูสิ่งที่เสี ยไป
จงนารูปความสุ ขต่ างๆ ในชีวติ ของเรา หันมาดู
มาขอบคุณเวลาดีดเี หล่ านี้
จากปรัชญาของชาวอิตาลี
•
•
•
•
จงนับสวนของคุณด้ วยจานวนดอกไม้ อย่ านับ
จานวนใบไม้ ทรี่ ่ วงหล่ น
จงระลึกถึงวันและชั่วโมงแห่ งความสุ ข อย่ าจาจานวน
เมฆทีห่ ม่ นหมอง
จงนับคืนของเราด้ วยดวงดาว ไม่ ใช่ ความมืดและ
นา้ ตาของชีวติ
จงนับจานวนเพือ่ นของคุณ ไม่ ใช่ อายุของคุณ
ปันความเสี ยใจด้ วยการออกไปช่ วยคนอืน่
•
•
•
ความเสี ยใจ จะกักขังเรา ให้ เราโดดเดีย่ ว และให้ เราอยู่ห่าง
จากคนอืน่
เราจะเยาะเย้ ยตัวเอง
สนองด้ วยการติดยาเสพติด เช่ น เหล้ า อืน่ ๆ
ทางแก้ คอื การไปช่ วยคนอืน่ จากความสามารถของเรา
หลักการ : กากบาทคืออะไร มันคือการเปลีย่ น
จากลบ – มาเป็ นบวก +
ยอมรับการปลอบประโลมของพระเจ้ า
•
•
พระเจ้ าไม่ ได้ สร้ างเราให้ มาโศกเศร้ า
แต่ เราทาเอง ด้ วยการทาบาป
พระเจ้ าสั ญญาว่ า พระองค์ จะปลอบ
ประโลมเรา
พระเจ้ าปลอบประโลมเราอย่ างไร
พระเจ้ าปลอบประโลมเราด้ วย 5 BIG C
1. พระเจ้ าทรงให้ กาลังใจเรา (Courage)
2. พระเจ้ าทรงช่ วยให้ เรามีความสงบนิ่ง (Sense of
calm)
3. พระเจ้ าทรงทาให้ เรามีเพือ่ น (Companionship)
4. พระเจ้ าทรงให้ ความเมตตากรุณา (Compassion)
5. พระเจ้ าทรงให้ เราได้ รับผิดชอบและผูกพันกับงานใหม่
(Commitments)