God in Religious Perspective

Download Report

Transcript God in Religious Perspective

พระเจ้าในทัศนะของศาสนาต่างๆ
พระเจ้าในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู
ปรมาตมัน
คือวิญญาณดัง้ เดิมหรือความจริงสูงสุดของโลกและชีวติ
หรือจักรวาล ซึง่ เรียกว่า พรหมัน สรรพสิง่ มาจากพรหมัน และในทีส่ ุดก็
จะกลับคืนสูค่ วามเป็ นเอกภาพกับ พรหมัน ปรมาตมันกับพรหมจึงเป็ น
สิง่ เดียวกัน
อาตมัน หรือ ชีวาตมัน เป็ นส่วนอัตตาย่อย หรือวิญญาณย่อย ซึง่ ปรากฏ
แยกออกมาอยูใ่ นแต่ละคน ดังนัน้ การทีอ่ าตมัน หรือชีวาตมันย่อยนี้เข้า
ไปรวมกับพรหมัน หรือ ปรมาตมันได้จงึ จะพ้นจากทุกข์ ไม่มีการเวียน
ว่ายตายเกิดอีกต่อไป
หลักปรมาตมัน
คาว่า ปรมาตมัน หมายถึง สิง่ ยิง่ ใหญ่อนั เป็ นทีร่ วมของ
ทุกสิง่ ทุกอย่างในสากลโลก ซึง่ เรียกชือ่ สิง่ นี้วา่ พรหม ปรมาตมันกับ
พรหมจึงเป็ นสิง่ เดียวกัน และมีลกั ษณะดังต่อไปนี้
1) เป็ นสิง่ ทีเ่ กิดขึ้นเอง
2) เป็ นนามธรรม สิงสถิตอยูใ่ นสิง่ ทัง้ หลายทัง้ ปวงเรียกว่าอาตมัน
เป็ นสิง่ ทีม่ อง ไม่เห็นด้วยตา
3) เป็ นศูนย์รวมแห่งวิญญาณทัง้ ปวง
4) สิง่ ทัง้ หลายทัง้ ปวงในสากลโลกล้วนเป็ นส่วนย่อยทีแ่ ยกออกมา
จากพรหม
5) เป็ นตัวความจริง
(สัจธรรม) สิง่ เดียว (โลกและสิง่ อืน่ ๆ ล้วนเป็ น
มายา ภาพลวงทีม่ ีอยูช่ ว่ั ครัง้ คราวเท่านัน้ )
 6) เป็ นผูป
้ ระทานญาณ ความคิดและความสันติ
7) เป็ นสิง่ ทีด่ ารงอยูใ่ นสภาพเดิมตลอดกาล
วิญญาณของสัตว์โลกทัง้ หลาย (อาตมัน) คือส่วนทีแ่ ยกออกมาจาก
วิญญาณรวมของพรหม (ปรมาตมัน) วิญญาณย่อยแต่ละดวงเหล่านี้เมื่อ
แยกออกมาแล้วย่อมเข้าสิงสถิตในสิง่ มีชวี ติ รูปแบบต่างๆ กัน เช่น ใน
ร่างกายมนุษย์ เทวดา สัตว์และพืช มีสภาพดีบา้ ง เลวบ้าง สุดแต่ผลกรรม
ทีท่ าไว้ ซึง่ ถือว่าเป็ นทุกข์ทงั้ สิ้น ตราบใดทีว่ ญ
ิ ญาณเหล่านี้ยงั ไม่ส้ นิ กรรม
ย่อมต้องเวียนว่ายตายเกิดผจญทุกข์อยูต่ ลอดไป
พระเจ้าอาหุระ มาซดะ พระเจ้าในศาสนาโซโรอัสเตอร์
พระองค์จึงเป็ นผูส้ ร้างทุกสิ่ง ผูร้ ูท
้ ุกสิ่ง และทรงความดีงามอย่า
งบริสุทธ์ถาวรโลกและสรรพสิ่งล้วนเป็ นผลงานที่พระองค์ทรง
สร้างขึ้นมา แต่ไม่มีใครสามารถสร้างพระองค์ได้ พระองค์จึงมี
อยูเ่ ป็ นอยูด่ ว้ ยพระองค์เอง ทรงเป็ นอมตะอยูเ่ หนือ กาลเวลา ไม่
มีใครที่จะรูห้ รือเข้าใจในตัวพระองค์ได้โดยตรง นอกจากจะทรง
เปิ ดเผยพระองค์เองโดยการติดต่อผ่านเทพเจ้าทัง้ 6 องค์ คือ
อาษา
(Asha) เป็ นเทพเจ้าแห่งความยุตธิ รรมและความรูใ้ นกฎ
ของพระเจ้า
โวฮู- มานา (Vohu-Mana) เป็ นเทพเจ้าแห่งความรัก
 กษัตรา (Kshathra) เป็ นเทพเจ้าแห่งความช่วยเหลือ
 อาร์มาอิตอ (Armaiti) เป็ นเทพีแห่งความใจบุญ
 อารวาตัต (Haurvatat) เป็ นเทพีแห่งความสมบูรณ์
อาเมเรตัต (Ameretat) เป็ นเทพีแห่งอมตภาพ
พระเจ้าของศาสนาคริสต์คือ พระเยโฮวาห์

1. ทรงเป็ นจิตบริสุทธ์ ไม่มีรูปร่าง
2. ทรงมีอยูน่ ิรนั ดร ไม่มีการเกิด ไม่มีการตาย
3. ทรงสถิตอยูท่ ุกหนทุกแห่ง
4. ทรงรอบรูท้ กุ สิง่ ทุกอย่าง (สรรพญาณะ)
5. ทรงสามารถทุกอย่าง (สรรพเดชะ)

6. ทรงมีอยูต่ ลอดกาล ไม่มีเบื้องต้น ไม่มีทสี่ ุด
7. ทรงบริสุทธิ์ทกุ ประการ ไม่มีบาปเลย
8. ทรงมี 3 ภาคทีเ่ รียกว่า ตรีเอกานุภาพ (The Triune
God or The Trinity) คือพระบิดา (God the Father ) พระบุตร
(God the Son) และพระวิญญาณ (God the Spirit)
พระอัลเลาะห์ พระเจ้าศาสนาอิสลาม

ทรงมีอย่างแน่นอนไม่มีขอ้ สงสัย
 ทรงมีมาก่อนสรรพสิง่ ทัง้ ปวง
 ทรงเป็ นผูส้ ร้างทุกสิง่ ทุกอย่างในเอกภพ
 ทรงดารงอยู่ได้โดยพระองค์เอง ไม่มีใครสร้างพระองค์
่ ต้นและไม่มีจุดจบ
 ทรงเป็ นผูม้ ีอยู่ตลอดกาล ไม่มีจุดเริม
 ทรงเอกานุภาพ ไม่มีสง่ิ ใดเป็ นภาคี
 ทรงสรรพเดช ทรงเป็ นสัพพัญญู ทรงความยุติธรรม ทรงพระเมตตา ทรงเป็ นผูพ
้ พิ ากษาในการตัดสิน
ชีวิตมนุษย์ในวันสุดท้ายที่เรียกว่า วันพิพากษา
พระเจ้าของศาสนาสิกข์

ศาสนาซิกข์มีความเชือ่ ว่าพระเจ้ามีเพียงหนึง่ เดียวเท่านัน้
พระองค์ทรงเป็ นสัจธรรมอันสูงสุดทีไ่ ม่มีบอ่ เกิด เพราะ
พระองค์ทรงเป็ นบ่อเกิดของสิง่ ทัง้ หลาย ทรงเป็ น
จุดหมายสุดท้ายทีส่ ง่ิ ทัง้ หลายทัง้ ปวงต้องกลับมาสู่
พระองค์ พระองค์ทรงเป็ นอมตะ มีชวี ติ นิรนั ดรกาล
พระองค์ไม่มีรูปร่างทีม่ นุษย์จะมองเห็นได้ดว้ ยตาเนื้อ อีก
ทัง้ ยังเป็ นสิง่ ไม่สามารถคิดและเข้าใจได้ง่าย พระองค์จงึ
ไม่ใช่สงิ่ ทีใ่ ครจะอธิบายได้
พระเจ้าของศาสนาสิกข์
พระองค์มีอานาจมหาศาล
มีความยิง่ ใหญ่และสมบูรณ์จนหา
ทีส่ ุดมิได้ ทรงประทับอยูใ่ นชนทุกชัน้ ทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อ
ชาติเรารูจ้ กั พระองค์ได้โดยผ่านสิง่ สร้างต่างๆ ทีพ่ ระองค์ได้
สร้างขึ้นมา สิง่ ทีม่ ีรูปร่างจากัดเหล่านี้จงึ ไม่สามารถทีจ่ ะเชิดชู
ให้เป็ นพระเจ้าได้ เพราะพระเจ้าทีแ่ ท้จริงนัน้ พระองค์เป็ นสิง่ ที่
ไร้รูป หาขอบเขตมิได้ และยากทีจ่ ะใช้เหตุผลธรรมดาในการ
เข้าถึงพระองค์
พระเจ้าของศาสนาสิกข์
พระผูเ้ ป็ นหนึ่งเดียว
ทรงเป็ นอันติมสัจจ์อยูเ่ หนือ คาอธิบายใดๆ และ
อยูเ่ หนือความเข้าใจของมนุษย์
พระเจ้าผูเ้ ป็ นความจริง ทรงมีอยูจ่ ริงและเป็ นเหตุของทุกสิง่
พระเจ้าผูห
้ มดความกลัวใดๆ เพราะพระองค์เป็ นเจ้าของสากลโลก
ผูป
้ ราศจากข้าศึกทัง้ ปวงและปราศจากซึง่ ความเกลียด
พระผูอ้ ยูเ่ หนือกาลเวลา ทรงเป็ นอมตะ
พระผูป
้ ราศจากอุบตั ิ ไม่มีการอุบตั ใิ นภพใด เพศใด และอาการใดๆ
ทัง้ สิ้น