บุคคลที่ถูกกำหนด - สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

Download Report

Transcript บุคคลที่ถูกกำหนด - สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

สาระสาคัญของกฎหมายวาด
่ วยการป
้
้ องกันและ
ปราบปราม
าย
อการร
การสนับสนุ นทางการเงินแกการก
้
่
่
พ.ต.อ.ดร.สี หนาท ประยูรรัตน์
เลขาธิการ ปปง.
ขอบเขตการบรรยาย
 นิยามศั พทที
่ าคัญ
์ ส
 กระบวนการกาหนดรายชือ
่ เป็ น “บุคคลทีถ
่ ก
ู
กาหนด”
 การประกาศและการแจ้งรายชือ
่ บุคคลทีถ
่ ก
ู
กาหนด
 การระงับการดาเนินการกับทรัพยสิ์ นของ
บุคคลทีถ
่ ูกกาหนด
 บทคุ้มครองผูที
้ ร่ ะงับการดาเนินการกับ
ทรัพยสิ์ นโดยสุจริต
2
มาตรฐานสากลทีเ่ กีย
่ วของ
้
• อนุ สัญญาสหประชาชาติวาด
อต
่ วยการต
้
่ านการ
้
สนับสนุ นทางการเงินแกการ
่
กอการร
าย
ค.ศ. 1999
่
้
• มติคณะมนตรีความมัน
่ คงแหงสหประชาชาติ
ท ี่ 1267
่
• มติคณะมนตรีความมัน
่ คงแหงสหประชาชาติ
ท ี่ 1373
่
ท ี่ 1452
• มติคณะมนตรีความมัน
่ คงแหงสหประชาชาติ
่
• ข้อแนะนาของคณะทางานเฉพาะกิจเพือ
่ ดาเนิน
มาตรการทางการเงินเกีย
่ วกับการฟอกเงิน (Financial
Action Task Force: FATF)
3
• มติคณะมนตรีความมัน
่ คงแหงสหประชาชาติ
ท ี่ 1617
่
มาตรฐานสากลทีเ่ กีย
่ วของ
(ตอ)
้
่
1.อนุ สัญญาสหประชาชาติวาด
อต
บสนุ นทาง
่ วยการต
้
่ านการสนั
้
การเงินแกการก
อการร
าย
่
่
้
ค.ศ. 1999 (The Suppression of the financing of
terrorism (SFT Convention)
 การกาหนดให้การสนับสนุ นทางการเงินแกการก
อการร
าย
่
่
้
เป็ นความผิดทางอาญา (Criminalization provision)
 กาหนดให้การจัดหาเงินทุนให้ หรือการรวบรวมเงินทุน ไม่
วาทางตรงหรื
อทางออม
(ก) โดยมีเจตนาวาเงิ
่
้
่ นเหลานั
่ ้นควร
จะนาไปใช้ หรือ (ข) รู้อยูว
่ การ
่ าเงิ
่ นนั้นจะถูกนาไปใช้เพือ
กอการร
าย
(ไมว
่
้
่ าทั
่ ง้ หมดหรือแตบางส
่
่ วน) เป็ นความผิดโดย
ไมค
ายจะใช
่ านึงวาผู
่ ้กอการร
่
้
้เงินนั้นในการกระทาความผิด
จริง ๆ หรือไม่
 การกระทาทีเ่ ป็ นการกอการร
าย
(terrorist act) ไดแก
่
้
้ ่ 4
มาตรฐานสากลทีเ่ กีย
่ วของ
(ตอ)
้
่
Art.2(1)(a) การกอการร
ายภายใต
่
้
้และในขอบเขตของ
อนุ สัญญาทีก
่ าหนดตามภาคผนวก
(Treaty Offences)
(1) อนุ สัญญาเพือ
่ การปราบปรามการยึดอากาศยานโดยมิชอบ
ดวยกฎหมาย
ค.ศ. 1970
้
(2) อนุ สัญญาวาด
าความผิดตอความปลอดภั
ยของ
่ วยการกระท
้
่
การเดินอากาศ ค.ศ. 1971 และพิธส
ี ารเพือ
่ การปราบปราม
การกระทารุนแรงอันมิชอบดวยกฎหมาย
ณ ทาอากาศยาน
้
่
ซึ่งให้บริการการบินพลเรือนระหวางประเทศ
เพิม
่ เติมตอจาก
่
่
อนุ สัญญาวาด
าอันมิชอบดวย
่ วยการปราบปรามการกระท
้
้
กฎหมายตอความปลอดภั
ยของการบินพลเรือน ค.ศ. 1988
่
(3) อนุ สัญญาวาด
่ วยการป
้
้ องกันและลงโทษอาชญากรรมที่ 5
กระทาตอบุ
่ คคลทีไ่ ดรั
้ บความ
มาตรฐานสากลทีเ่ กีย
่ วของ
(ตอ)
้
่
(7) พิธส
ี ารเพือ
่ การปราบปรามการกระทาอันมิชอบดวยกฎหมาย
้
ตอความปลอดภั
ยในการ
่
เดินเรือ ค.ศ. 1988
(8) พิธส
ี ารเพือ
่ การปราบปรามการกระทาอันมิชอบดวยกฎหมาย
้
ตอแท
นขุ
่
่ ดเจาะซึง่ ตัง้ อยูใน
่
เขตไหลทวี
่ ป ค.ศ. 1988
(9) อนุ สัญญาสหประชาชาติวาด
อต
บสนุ น
่ วยการต
้
่ านการสนั
้
ทางการเงินแกการก
อการร
าย
่
่
้
ค.ศ. 1999
Art.2(1)(b) การกอการร
ายที
ก
่ าหนดในลักษณะเป็ นบทบัญญัต ิ
่
้
ทัว่ ไป (Generic Offences)
• การกระทาใดๆ ทีม
่ งให
ุ่
ิ หรือการบาดเจ็บ
้เกิดการเสี ยชีวต
6
อยางร
อพลเรื
อน หรือตอบุ
่ ใดทีม
่ ไิ ดมี
่ ายแรงต
้
่
่ คคลอืน
้ ส่วน
มาตรฐานสากลทีเ่ กีย
่ วของ
(ตอ)
้
่
สรุปสาระสาคัญของ SFT Convention (พันธะกรณี) ที่
ประเทศภาคีจะตองปฏิ
บต
ั ิ
้
 กาหนดให้การกระทาตามอนุ สัญญาฯ เป็ นความผิดอาญาตามกฎหมาย
ภายในของตน และกาหนดให้มีบทลงโทษทีเ่ หมาะสม โดยคานึงถึง
ความรายแรงของความผิ
ดแกผู
้
่ ้กระทาความผิดทัง้ ทีเ่ ป็ นบุคคลธรรมดา
และนิตบ
ิ ุคคล
 ให้แตละรั
ฐดาเนินมาตรการทีเ่ หมาะสมตามหลักกฎหมายภายในของตน
่
เพือ
่ พิสูจนทราบ
และอายัดหรือยึดเงินทุนใดๆ ทีไ่ ดใช
่
้ ้หรือจัดสรรเพือ
์
มุงประสงค
ในการกระท
าความผิดสนับสนุ นทางการเงินแกการก
อการ
่
่
่
์
ร้าย ตลอดจนทรัพยสิ์ นทีไ่ ดจากการกระท
าความผิดนั้น เพือ
่ การริบ
้
เงินทุนดังกลาว
่
 จับกุม และฟ้องรองด
าเนินคดีแกผู
าม
้
่ ้กระทาความผิด หรือส่งผู้รายข
้
้
แดนให้แกประเทศที
เ่ กีย
่ วข้อง (โดยอนุ สัญญาฯ ให้ถือวา่ ความผิด
่
ตามอนุ สัญญาฯ เป็ นความผิดทีส
่ ามารถส่งผู้รายข
างรั
้
้ามแดนไดระหว
้
่ ฐ
7
ภาคีดวยกั
น
)
้
มาตรฐานสากลทีเ่ กีย
่ วของ
(ตอ)
้
่
2. ข้อมติคณะมนตรีความมัน
่ คงแหงสหประชาชาติ
ท ี่
่
1267
 UNSCR ที่ 1267 และมติทอ
ี่ อกมาภายหลังกาหนดให้
ประเทศตางๆ
ยึด และอายัดทรัพยสิ์ นของบุคคลทีไ่ ดรั
่
้ บ
การระบุชอ
ื่ โดยคณะมนตรีฯ คือ กลุมตาลี
บน
ั , บิน ลา
่
เดน และกลุม
่ Al-Qaida รวมถึงบุคคล หรือกลุมบุ
่ คคล
อืน
่ ทีเ่ กีย
่ วของ
รวมทัง้ เงินทีไ่ ดรั
้
้ บมาจากหรือเกิดจาก
ทรัพยสิ์ นของกลุมตาลี
บน
ั
่
Al-Qaida หรือมีการควบคุมโดยตรงหรือโดยออมจากกลุ
ม
้
่
ตาลีบน
ั Al-Qaida หรือโดยกิจการทีเ่ ป็ นเจ้าของหรือ
ควบคุมโดยกลุมตาลี
บน
ั หรือ Al-Qaida
่
 อยางไรก็
ด ี UNSCR 1267 ไมได
่ วกับ
่
่ มี
้ ข้อกาหนดเกีย
ความผิดทางอาญากรณีการสนับสนุ นทางการเงินแกการ
่ 8
กอการร
าย
(only freezing of asset, travel ban, and
่
้
มาตรฐานสากลทีเ่ กีย
่ วของ
(ตอ)
้
่
3. ข้อมติคณะมนตรีความมัน
่ คงแหงสหประชาชาติ
ท ี่
่
1373 (2001)
 มีมติให้ทุกรัฐรวมกั
นป้องกันและปราบปรามการสนับสนุ นทางการเงินแก่
่
การกอการร
าย
่
้
 ประกาศให้การจัดหาหรือรวบรวมเงินไมว่ าจะด
วยวิ
ธก
ี ารใด ทัง้
่
้
ทางตรงหรือทางอ้อมโดยคนชาติหรือคนที่
อยูในดิ
นแดนของรัฐ โดยมีจุดประสงคเพื
่ การกอการร
ายเป็
น
่
่
้
์ อ
การกระทาทีผ
่ ด
ิ กฎหมาย
 ทุกรัฐตองให
้
้หลักประกันวาผู
่ ้มีส่วนในการสนับสนุ นทางการเงิน การ
วางแผน หรือปฏิบต
ั ก
ิ ารกอการร
าย
่
้
หรือให้การสนับสนุ นการกอการร
ายต
องถู
กนาตัวมาดาเนินการ
่
้
้
ตามกฎหมายและให้หลักประกันวา่
กฎหมายและกฎขอบั
ให้การกอการร
าย
้ งคับภายในรัฐตองระบุ
้
่
้
เป็ นการกระทาทีผ
่ ด
ิ กฎหมายอาญารายแรง
้
9
และต้องกาหนดบทลงโทษตามความรายแรงของการกระท
านั้นๆ
้
มาตรฐานสากลทีเ่ กีย
่ วของ
(ตอ)
้
่
4. ข้อแนะนาของ FATF ข้อ 5 ; ความผิดฐาน
สนับสนุ นทางการเงินแกการก
อการร
าย
่
่
้
 UNSCR 1617 (…to implement the comprehensive,
international standards embodied in the FATF Forty
Recommendations on Money Laundering and the
FATF Nine Special Recommendations on Terrorist
Financing;)”
 การสนับสนุ นทางการเงินแกการก
อการร
ายควรขยายออกไป
่
่
้
ยังบุคคลใดๆ ผู้ซึ่งเจตนาให้
หรือเก็บรวบรวมเงินทุนโดยวิธก
ี ารใดๆ และมีเจตนา
วาเงิ
ก
่ นนั้นควรจะถูกใช้หรือรูว
้ าจะถู
่
ใช้ทัง้ หมดหรือบางส่วน (1) เพือ
่ ดาเนินการกอการ
่
ร้าย (2) โดยผู้กอการร
าย
่
้
10
หรือ (3) โดยองคการกอการราย
มาตรฐานสากลทีเ่ กีย
่ วของ
(ตอ)
้
่
5. ข้อแนะนาของ FATF ข้อ 6 ; มาตรการอายัด
ทรัพยสิ์ นของผูก
าย/องค
กรก
อการร
าย
้ อการร
่
้
์
่
้
 การระบุรายชือ
่ ผู้กอการร
ายหรื
อองคกรก
อการร
ายหรื
อผู้ที่
่
้
่
้
์
สนับสนุ นทางการเงินแกการก
อการร
าย
(designated
่
่
้
persons and entities)
 อานาจอายัด ถอนอายัด และห้ามการทาธุรกรรมกับเงิน
หรือทรัพยสิ์ นของผูซึ
้ บัญชีรายชือ
่ ไว้ โดยการ
้ ง่ ถูกขึน
ห้ามโอน เปลีย
่ นแปลง การจาหน่ายจายโอน
หรือการ
่
เคลือ
่ นยายเงิ
นหรือทรัพยสิ์ น โดยอานาจในการอายัด
้
และถอนอายัดเงินหรือทรัพยสิ์ นของผู้กอการร
ายสามารถ
่
้
ดาเนินการไดดั
้ งนี้
 ให้เป็ นอานาจของเจ้าพนักงานหรือศาลในการออกคาสั่ ง
การบริหารจัดการ และบังคับใช้การดาเนินการอายัดและ
11
ถอนอายัดตามกลไกทีเ่ กีย
่ วข้อง หรือ
มาตรฐานสากลทีเ่ กีย
่ วของ
(ตอ)
้
่
ข้อแนะนาของ FATF ข้อ 6 (ตอ)
่
 แตละประเทศควรจะก
าหนดวิธก
ี ารซึง่ เป็ นทีท
่ ราบแก่
่
สาธารณชนเพือ
่ พิจารณาคาขอให้ถอนรายชือ
่ บุคคลหรือ
องคกรออกจากบั
ญชีเมือ
่ แน่ใจในหลักเกณฑบางประการซึ
ง่
์
์
สอดคลองกั
บขอผู
กกฎหมายที่
้
้ กพันระหวางประเทศและหลั
่
ใช้บังคับอยู่ และเพือ
่ ถอนการอายัดเงินหรือทรัพยสิ์ นของ
บุคคลหรือองคกรซึ
ง่ ถูกถอนรายชือ
่ ออกจากบัญชีให้เป็ นไป
์
โดยเร็ว สาหรับบุคคลและองคกรซึ
ง่ ถูกระบุตาม UNSCR
์
ที่ 1267 วิธก
ี ารและหลักเกณฑเช
่ ้ให้เป็ นไปตาม
์ ่ นวานี
วิธก
ี ารซึง่ คณะกรรมการกาหนดมาตรการลงโทษแกกลุ
่ มอั
่ ล
กออิดะหและกลุ
มตาลิ
บาน (Al-Qaida and Taliban
่
์
Sanctions Committee) กาหนด
 การเขาถึ
่ ก
ู อายัดหากไดพิ
้ งเงินหรือทรัพยสิ์ นทีถ
้ จารณา12
เห็ นวาเงินหรือทรัพยสิ นทีถ
่ ก
ู อายัดตามขอผูกพันตาม
สาระสาคัญของกฎหมาย
วันทีก
่ ฎหมายมีผลใช้บังคับ
• ใช้บังคับนับแตวั
่ นถัดจากวันประกาศ
ในราชกิจจานุ เบกษาเป็ นตนไป
้
• ประกาศในราชกิจจานุ เบกษาเมือ
่ วันที่
1 กุมภาพันธ ์ 2556
• มีผลใช้บังคับเมือ
่ วันที่ 2 กุมภาพันธ ์
2556
13
อนุ บญ
ั ญัตอ
ิ อกตามความในกฎหมายวาด
่ วยการ
้
ป้องกันและปราบปรามการสนับสนุ นทางการเงิน
แกการก
อการร
าย
่
่
้
• กฎกระทรวงการกาหนดให้ผู้ทีม
่ ก
ี ารกระทาอันเป็ นการกอ
่
การรายตามมติ
ของหรือประกาศภายใต้คณะมนตรีความ
้
มัน
่ คงแหงสหประชาชาติ
เป็ นบุคคลทีถ
่ ก
ู กาหนด พ.ศ. 2556
่
• กฎกระทรวงการพิจารณารายชือ
่ และการทบทวนรายชือ
่
บุคคลทีถ
่ ก
ู กาหนดของสานักงานป้องกันและปราบปรามการ
ฟอกเงินและคณะกรรมการธุรกรรม พ.ศ. 2556
• ระเบียบคณะกรรมการ ปปง. วาด
่ วยการประกาศและ
้
การแจ้งรายชือ
่ บุคคลทีถ
่ ก
ู กาหนด และการดาเนินการ
ตามมาตรา 6 (1) (2) และ (3) พ.ศ. 2556
• ระเบียบคณะกรรมการ ปปง. วาด
าหนด
่ วยการก
้
นโยบายในการประเมินความเสี่ ยงการกาหนดแนวทาง
14
ปฏิบต
ั ห
ิ รือมาตรการอืน
่ ใดเพือ
่ ป้องกันมิให้มีการสนับสนุ น
นิยามศั พทส
าคั
ญ
(มาตรา
3)
์
“การกอการร
าย”
่
้
(1) การกระทาทีเ่ ป็ นความผิดเกีย
่ วกับการกอ
่
การรายตามประมวล
้
กฎหมายอาญา (ปอ. 135/1
ถึง 135/4) (Generic Offences)
(2) การกระทาทีเ่ ป็ นความผิดตามกฎหมายซึง่
อยูภายใต
ขอบเขตของ
่
้
อนุ สัญญาและพิธส
ี ารระหวาง
่
ประเทศเกีย
่ วกับการกอการร
ายที
่
่
้
15
นิยามศั พทส
่
์ าคัญ (ตอ)
“บุคคลทีถ
่ ก
ู กาหนด” (Designated
Persons)
หมายความวา่
• (1) บุคคล คณะบุคคล นิตบ
ิ ุคคล หรือองคกรตาม
์
รายชือ
่ ซึง่ มีมติของหรือ ประกาศภายใตคณะมนตรี
้
ความมัน
่ คงแหงสหประชาชาติ
กาหนดให้เป็ นผูที
่ ก
ี าร
่
้ ม
กระทาอันเป็ นการกอการร
าย
หรือ
่
้
• (2) บุคคล คณะบุคคล นิตบ
ิ ุคคล หรือองคกร
์
ตามรายชือ
่ ทีศ
่ าลไดพิ
้ จารณาและมีคาสั่ งให้เป็ นบุคคล
16
ทีถ
่ ูกกาหนดตามพระราชบัญญัตน
ิ ี้
นิยามศั พทส
่
์ าคัญ (ตอ)
“ผู้มีหน้าทีร่ ายงาน” หมายความวา่
• ผู้มีหน้าทีร่ ายงานการทาธุรกรรมตามกฎหมาย
วาด
่ วยการป
้
้ องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
– สถาบันการเงิน
– สานักงานทีด
่ น
ิ
– ผู้ประกอบอาชีพตามมาตรา 16
17
นิยามศั พทส
าคั
ญ
(ต
อ)
่
์
“ระงับการดาเนินการกับทรัพยสิ์ น”
(Freeze)
หมายความวา่
(๑) การห้ามโอน ขาย ยักยาย
หรือจาหน่าย
้
ซึง่ ทรัพยสิ์ นหรือ
เปลีย
่ นสภาพ ใช้ประโยชน์
หรือ
(๒) กระทาการใด ๆ ตอทรั
พยสิ์ นอันจะส่งผล
่
เปลีย
่ นแปลงตอ
่
18
กระบวนการกาหนดรายชือ
่ เป็ น
“บุคคลทีถ
่ ก
ู กาหนด”
“บุคคลทีถ
่ ก
ู กาหนด” ตามรายชือ่ ซึง่ มีมติของหรือ
ประกาศภายใตคณะมนตรี
ความมัน
่ คงแหง่
้
สหประชาชาติกาหนดให้เป็ นผูที
่ ก
ี ารกระทาอันเป็ น
้ ม
การกอการร
าย
(มาตรา 4 และทีก
่ าหนดใน
่
้
กฎกระทรวง )
(1) เมือ
่ กระทรวงการตางประเทศได
รั
่ ดังกลาว
่
้ บรายชือ
่
และตรวจสอบความถูกต้องของขอมู
้ ลหรือหลักฐานแลว
้
จะส่งรายชือ
่ นั้นให้สานักงาน
(2) เมือ
่ สานักงานตรวจสอบความถูกตองของรายชื
อ
่ แล้ว
้
จะเสนอรายชือ
่ ดังกลาวไปยั
งรัฐมนตรีวาการกระทรวง
่
่
ยุตธ
ิ รรมเพือ
่ ให้มีคาสั่ งประกาศเป็ น “บุคคลทีถ
่ ก
ู กาหนด”
19
บุคคลที่ถูกกำหนดตำมมติ/ประกำศ
ภำยใต้คณะมนตรี ควำมมัน่ คงแห่งสหประชำชำติ
กระทรวงการต่ างประเทศ
รับรายชื่อ
ตรวจสอบความถูกต้ อง
การเพิกถอน
สานักงาน ปปง.
ตรวจสอบความถูกต้ อง
รมต.กระทรวงยุตธิ รรม
มีคาสั่ง
บุคคลที่ถูกกาหนด
คณะมนตรีความมัน่ คงแห่ งสหประชาชาติ
แห่ งสหประชาชาติ (UNSC)
กระบวนการกาหนดรายชือ
่ เป็ น
“บุคคลทีถ
่ ก
ู กาหนด”
“บุคคลทีถ
่ ก
ู กาหนด” ตามรายชือ่ ทีศ่ าล (แพง)
่
ไดพิ
้ จารณาและมีคาสั่ ง
1.
(มาตรา 5 และทีก
่ าหนดในกฎกระทรวง)
เมือ
่ ไดรั
อจากการตรวจสอบของสานักงานพบวา่
้ บการรองขอหรื
้
ผู้ใดมีเหตุอน
ั ควรสงสั ยวามี
่ วข้องกับการกอการร
าย
่ พฤติการณเกี
่
้
์ ย
หรือการสนับสนุ นทางการเงินแกการก
อการร
าย
หรือเป็ นผู้ซึง่
่
่
้
ดาเนินการแทนหรือตามคาสั่ งหรือภายใตการควบคุ
มของบุคคล
้
ดังกลาว
สานักงานจะเสนอรายชือ
่ ผู้นั้นตอ
่
่ “คณะกรรมการการ
พิจารณากาหนดรายชือ
่ ” ซึง่ องคประกอบของคณะกรรมการฯ
์
กรร ไดแก
้ ่
ม
(1) เลขาธิการ ปปง. เป็ นประธานกรรมการ
การ
(2) ผู้แทนสานักขาวกรองแห
งชาติ
(7) ผู้แทนสานักงาน
่
่
ตารวจแหงชาติ
21
่
(3) ผูแทนสภาความมัน
่ คงแหงชาติ
(8) ผูแทนกอง
กระบวนการกาหนดรายชือ
่ เป็ น
“บุคคลทีถ
่ ก
ู กาหนด”
“บุคคลทีถ
่ ก
ู กาหนด” ตามรายชือ่ ทีศ่ าล (แพง)
่
ไดพิ
้ จารณาและมีคาสั่ ง
(มาตรา 5 และทีก
่ าหนดในกฎกระทรวง) (ตอ)
่
2. เมือ่ คณะกรรมการตามขอ้ 1. เห็นชอบ สานักงานจะเสนอ
รายชือ
่ ดังกลาวต
อ
่
่
คณะกรรมการธุรกรรม (หากไมเห็
่ นชอบแจ้งให้สานักงานหา
ข้อมูล/หลักฐานเพิม
่ เติม)
3. เมือ่ คณะกรรมการธุรกรรมเห็นชอบ สานักงานจะส่งรายชือ่
นั้นให้พนักงานอัยการยืน
่ คารองฝ
(แพง)
่ มี
้
่ ายเดียวตอศาล
่
่ เพือ
คาสั่ งเป็ นบุคคลทีถ
่ ก
ู กาหนด (หากไมเห็
่ นชอบแจ้งให้
สานักงานหาขอมู
่ เติม)
้ ล/หลักฐานเพิม
4. ศาล (แพง)
่ ก
ู กาหนด” 22
่ พิจารณามีคาสั่ งเป็ น “บุคคลทีถ
การพิจารณาและทบทวนรายชื่อบุคคลที่ถูกกาหนด
หน่ วยงานภายในประเทศ
หน่ วยงานต่ างประเทศ
การตรวจสอบของ
สานักงาน ปปง.
คาร้ องขอ
สานักงาน ปปง.
เสนอ
แจ้ งให้ หาข้ อมูล/
หลักฐานเพิม่ เติม
คณะกรรมการพิจารณา
กาหนดรายชื่อ
มีเหตุอนั ควรสงสัย
ทบทวน
คณะกรรมการธุรกรรม
ปรากฏพยานหลักฐานอันควรเชื่อ
พนักงานอัยการ
ยืน่ คาร้ องฝายเดียว
ศาล
มีคาสั่ง
บุคคลที่ถูกกาหนด
แจ้ งให้ หาข้ อมูล/
หลักฐานเพิม่ เติม
การประกาศและการแจ้งรายชือ
่ บุคคลทีถ
่ ก
ู
กาหนด
(มาตรา
6
วรรคสอง)
การประกาศรายชือ
่ “บุคคลทีถ
่ ก
ู กาหนด” (กาหนด
ในระเบียบคณะกรรมการฯ)
 ประกาศในระบบสารสนเทศของสานักงานเพือ
่ เผยแพร่
รายชือ
่ สู่สาธารณะ และ
การแจ้งรายชือ
่ บุคคลทีถ
่ ก
ู กาหนด (กาหนดใน
ระเบียบคณะกรรมการฯ)
 แจ้งไปยังผู้มีหน้าทีร่ ายงาน
 แจ้งเป็ นขอมู
้ ลอิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมายวาด
่ วย
้
ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์
 กรณีมส
ี ถานประกอบกิจการหลายแหง่ หากแจ้งไป
ยังสานักงานใหญหรื
่ ผ
ี่ ้รายงานเลื
ู
อกเป็ น
่ อสถานทีท
24
สถานประกอบกิจการประจา ก็ถอ
ื วามี
่ ผลเป็ นการ
กาหนด
(มาตรา
6
วรรคสอง)
(ต
อ)
วิธก
ี ารแจงรายชือ
่ บุคคลทีถ
่ ก
ู กาหนด ่
้
 การแจ้งไปยังบุคคลทีถ
่ ก
ู กาหนดกรณีอยูในราชอาณาจั
กร
่
 การแจ้งเป็ นหนังสื อให้แจ้งไปยังภูมล
ิ าเนาของผู้นั้น
โดยให้ถือวาได
รั
ห
่ นังสื อไปถึง
่
้ บแจ้งตัง้ แตขณะที
่
 การแจ้งโดยวิธส
ี ่ งทางไปรษณียตอบรั
บ ให้ถือวาได
รั
์
่
้ บ
แจ้งเมือ
่ ครบกาหนด
15 วันนับแตวั
่ นส่ง
 การแจ้งไปยังบุคคลทีถ
่ ก
ู กาหนดกรณีอยูนอก
่
ราชอาณาจักร
 แจ้งไปยังหน่วยงานทีส
่ ่ งคารองขอ
หรือ ผาน
้
่
กระทรวงการตางประเทศ
่
การแจ้งรายชือ
่ บุคคลทีถ
่ ก
ู กาหนด หากไมสามารถ
่
กระทาไดเนื
ู้ บ
้ ่องจากไมมี
่ ผรั
25
 ปิ ดประกาศคาสั่ งการเป็ นบุคคลทีถ
่ ก
ู กาหนดไว้ ณ สถานี
การระงับการดาเนินการกับทรัพยสิ์ น
(มาตรา 6 วรรคหนึ่ง (1) – (3))
หน้ าทีข่ องบุคคลทีถ่ ูกกาหนด ผู้มีหน้ าทีร่ ายงาน และผู้ทคี่ รอบครองทรัพย์สินของ
บุคคลทีถ่ ูกกาหนด
(1) ระงับการดาเนินการกับทรัพยสิ์ นของ
(1.1) บุคคลทีถ
่ ก
ู กาหนด หรือ
(1.2) ผู้กระทาการแทนหรือตามคาสั่ งของบุคคลทีถ
่ ก
ู กาหนด หรือ
(1.3) กิจการภายใตการควบคุ
มของบุคคลทีถ
่ ก
ู กาหนด
้
(2) แจ้งข้อมูลเกีย
่ วกับทรัพยสิ์ นทีถ
่ ก
ู ระงับการเนินการให้
สานักงาน ปปง. ทราบ
(3) แจ้งให้สานักงาน ปปง. ทราบเกีย
่ วกับ
หรือ
(3.1) ผู้ทีเ่ ป็ นหรือเคยเป็ นลูกค้าซึง่ อยูในรายชื
อ
่ บุคคลทีถ
่ ก
ู กาหนด
26
่
กำรประกำศและกำรแจ้งรำยชื่อและกำรดำเนินกำรบุคคลที่ถกู กำหนด
คาสั่ ง รมต.ยุติธรรม
บุคคล
ที่ถูกกาหนด
คาสั่ ง ศาล
สานักงาน ปปง.
แจ้ ง
ประกาศ
แจ้ งเป็ นข้ อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ตามกฎหมายว่ าด้วยธุรกรรม
อิเล็กทรอนิกส์
ระบบสารสนเทศของ
สานักงาน ปปง.
ผู้มหี น้ าทีร่ ายงาน
1.ระงับการดาเนินการกับ
ทรัพย์ สิน
2.แจ้ งข้ อมูลเกีย่ วกับ
ทรัพย์ สินที่ถูกระงับให้
สานักงาน ปปง. ทราบ
3.แจ้ งให้ สานักงาน ปปง.
ทราบถึง
-ผู้ที่เป็ น/เคยเป็ นลูกค้ า
-ผู้มี/เคยมีการทาธุรกรรม
บุคคลที่ครอบครอง
ทรัพย์ สิน
บุคคลที่ถูกกาหนด
แจ้ งเป็ นหนังสือ
หรื อ แจ้ งเป็ นข้ อมูล
อิเล็กทรอนิสก์
1.บุคคลนั้นมีภูมิลาเนาในราชอาณาจักร
1.1 แจ้ งเป็ นหนังสื อไปยังภูมิลาเนาผู้น้ัน หรือ
1.2 ส่ งทางไปรษณีย์ตอบรับ
หากไม่ สามารถทาตาม 1.1 หรือ 1.2 ได้ ให้ ปิดประกาศ
ณ สถานีตารวจที่ผู้น้ันมีภูมิลาเนา หรือกรณีไม่ รู้ ภูมิลาเนา
ให้ ประกาศในหนังสื อพิมพ์รายวัน
2. บุคคลนั้นมีภูมิลาเนานอกราชอาณาจักร
2.1กรณีบุคคลถูกกาหนดจากการมีคาร้ องขอจากหน่ วยงาน
ต่ างประเทศ ให้ ส่งหนังสื อแจ้ งไปยังหน่ วยงานต่ างประเทศ
ที่ได้ส่งคาร้ องขอมา
2.2 กรณีบุคคลถูกกาหนดไม่ มีคาร้ องขอจากต่ างประเทศ
หรือเป็ นบุคคลใน UN List ให้ ส่งไปยังกระทรวงการ
ต่ างประเทศ เพือ่ แจ้ งรัฐบาลที่ผู้น้ันถือสั ญชาติ หรือ
น่ าเชื่อว่ ามีถิ่นที่อยู่
ระบุข้อเท็จจริงที่เป็ นมูลเหตุของการกาหนดรายชื่อ + สิ ทธิของบุคคลนั้น
การกาหนดนโยบายการประเมินความเสี่ ยงและ
แนวทางปฏิบต
ั ิ
(มาตรา 6 วรรคสาม)
 เป็ นหน้าทีข
่ องผูมี
้ หน้าทีร่ ายงาน
 ต้องกาหนดนโยบายการประเมินความเสี่ ยงและ
แนวทางปฏิบต
ั ใิ ดๆ
 เพือ
่ ป้องกันมิให้มีการสนับสนุ นทางการเงินแกการก
อ
่
่
การราย
หรือมาตรการอืน
่ ทีจ
่ าเป็ นเพือ
่ ปฏิบต
ั ใิ ห้
้
เป็ นไปตามพระราชบัญญัตน
ิ ี้
 เป็ นไปตามหลักเกณฑและวิ
ธก
ี ารทีค
่ ณะกรรมการ
์
ประกาศกาหนด
28
การกาหนดนโยบายในการประเมินความเสี่ ยง แนวปฏิบัติหรือมาตรการอื่นใด
เพือ่ ป้ องกันมิให้ มกี ารสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ าย
ผู้มหี น้ าทีร่ ายงาน
นโยบายในการประเมินความเสี่ ยง หรือแนวทาง
ปฏิบัติใด ๆ ซึ่งเป็ นลายลักษณ์ อกั ษร เกีย่ วกับการ
ป้ องกันไม่ ให้ มกี ารสนับสนุนทางการเงิน
แก่การก่อการร้ าย
1.กรณีผลิตภัณฑ์ หรือบริการต่ างๆ
ของผู้มีหน้ าที่รายงาน
2.กรณีลูกค้า
ของผู้มีหน้ าที่รายงาน
3.กรณีธุรกรรมทุกประเภท
1. กรณีผลิตภัณฑ์ หรือบริการต่ างๆ ของผู้มหี น้ าทีร่ ายงาน
ต้ องมีสาระสาคัญ อย่ างน้ อย ดังนี้
1.1 ผลิตภัณฑ์ หรือบริการ จะไม่ ถูกใช้ เป็ นช่ องทางในการสนับสนุนทาง
การเงินแก่ การก่ อการร้ าย
1.2 หากเกิดกรณีตามข้ อ 1.1 ผู้มหี น้ าทีร่ ายงานต้ องกาหนดมาตรการทีจ่ ะทา
ให้ ตรวจพบได้ อย่ างรวดเร็วและมาตรการในการดาเนินการเพือ่ บรรเทาความ
เสี ยหายได้ มากทีส่ ุ ด
2. กรณีลูกค้ าของผู้มหี น้ าทีร่ ายงาน
ต้ องมีสาระสาคัญ อย่ างน้ อย ดังนี้
2.1 ต้ องกาหนดมาตรการเกีย่ วกับขั้นตอนในการอนุมัติการรับลูกค้าอย่ างเคร่ งครัด และให้ นา
หลักเกณฑ์ และวิธีการตามกฎกระทรวงว่ าด้ วยการกาหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการในการตรวจสอบเพือ่
ทราบข้ อเท็จจริงเกีย่ วกับลูกค้ามากาหนดด้ วย
2.2 ต้ องกาหนดมาตรการเกีย่ วกับการดาเนินการให้ ข้อมูลรายชื่อบุคคลที่ถูกกาหนดที่ได้ รับจาก
สานักงาน ปปง. ให้ เป็ นปัจจุบันอยู่เสมอ และการใช้ ข้อมูลดังกล่ าวเพือ่ ตรวจสอบลูกค้ าทั้งหมดอย่ าง
สม่าเสมอจนกว่ าจะยุติความสั มพันธ์ กบั ลูกค้ า รวมถึงตรวจสอบกับบุคคลที่ขอทาธุรกรรมแบบครั้ง
คราว และให้ นาหลักเกณฑ์ และวิธีการตามกฎกระทรวงว่ าด้ วยการกาหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการในการ
ตรวจสอบเพือ่ ทราบข้ อเท็จจริงเกีย่ วกับลูกค้ามากาหนดด้ วย
2.3 ต้ องกาหนดมาตรการเกีย่ วกับการปฏิเสธการสร้ างความสั มพันธ์ ทางธุรกิจ การไม่ ทาธุรกรรม
รวมทั้งการระงับการดาเนินการกับทรัพย์ สินตามกฎหมายว่ าด้ วยการป้ องกันและปราบปรามการ
สนับสนุนทางการเงินแก่ การก่ อการร้ าย
3. กรณีธุรกรรมทุกประเภท
ต้ องมีสาระสาคัญ อย่ างน้ อย ดังนี้
3.1 ต้ องกาหนดมาตรการเกีย่ วกับการตรวจสอบธุรกรรมทั้งหมดของลูกค้ า
และบุคคลทีข่ อทาธุรกรรมแบบครั้งคราว ว่ าเกีย่ วข้ องหรืออาจเกีย่ วข้ องกับ
การสนับสนุนทางการเงินแก่ การก่ อการร้ ายหรือไม่ แม้ ว่าลูกค้ าและบุคคลที่
ขอทาธุรกรรมแบบครั้งคราวแต่ ละรายจะมีข้อมูลไม่ ตรงกับข้ อมูลรายชื่อ
บุคคลทีถ่ ูกกาหนดก็ตาม
3.2 ต้ องกาหนดมาตรการในการรายงานธุรกรรมทีม่ เี หตุอนั ควรสงสั ยต่ อ
สานักงาน ปปง. ในกรณีทพี่ บว่ าธุรกรรมใดอาจเกีย่ วข้ องหรือมีเหตุอนั ควร
เชื่อได้ ว่ามีความเกีย่ วข้ องกับการสนับสนุนทางการเงินแก่ การก่ อการร้ าย
หรือเป็ นธุรกรรมทีก่ ระทากับหรือเพือ่ บุคคลทีถ่ ูกกาหนด
นโยบายหรือแนวทางปฏิบตั ินี้ เป็ นส่ วนหนึ่งในกระบวนการตรวจสอบ เพือ่
ทราบข้ อเท็จจริงเกีย่ วกับลูกค้ าตามกฎกระทรวงว่ าด้ วยการกาหนดหลักเกณฑ์
และวิธีการในการตรวจสอบเพือ่ ทราบข้ อเท็จจริงเกีย่ วกับลูกค้ า
ผู้มหี น้ าทีร่ ายงานกาหนดมาตรการอืน่ ใด เพิม่ เติมจากทีก่ าหนดข้ างต้ น
เพือ่ ปฏิบัติให้ เป็ นไปตามกฎหมายว่ าด้ วยการป้ องกันและปราบปรามการ
สนับสนุนทางการเงินแก่ การก่ อการร้ าย
นโยบาย แนวทางปฏิบตั ิ หรือมาตรการอืน่ ใดทีจ่ าเป็ น ทีผ่ ้ ูมหี น้ าทีร่ ายงานกาหนดขึน้ นั้น
1. ถือว่ ามีความสาคัญในระดับสู งสุ ด และต้ องได้ รับการปฏิบตั ิอย่ างเคร่ งครัด
2. ต้ องได้ รับการอนุมตั ิจากคณะกรรมการหรือผู้บริหาร ซึ่งมีอานาจระดับ
สู งสุ ดของผู้มหี น้ าทีร่ ายงาน
ผู้มหี น้ าทีร่ ายงานต้ องจัดทาแนวปฏิบตั ิ วิธีปฏิบตั ิ หรือคู่มอื ปฏิบตั ิ เพือ่ ให้ บุคลากรสามารถ
ปฏิบตั ิให้ บรรลุผลได้ อย่ างมีประสิ ทธิภาพ
การเก็บรักษาและการบริหารจัดการ
ทรัพยสิ์ นทีถ
่ ก
ู ระงับการดาเนินการกับ
ทรัพยสิ์ น (มาตรา 7)
 หลักเกณฑวิ
ี ารเก็บรักษาและการบริหารจัดการ
์ ธก
ทรัพยสิ์ น เป็ นไปตามระเบียบทีค
่ ณะกรรมการ
ประกาศกาหนด
 ให้นาระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการ
ฟอกเงินเกีย
่ วกับการเก็บรักษาและการบริหารจัดการ
ทรัพยสิ์ นทีถ
่ ก
ู ยึดหรืออายัดตามกฎหมายวาด
่ วยการป
้
้ องกัน
และปราบปรามการฟอกเงินมาใช้บังคับโดยอนุ โลม
35
บทคุ้มครองผู้ทีร่ ะงับการดาเนินการกับ
ทรัพยสิ์ นโดยสุจริต
(มาตรา 8)
• ผู้ซึง่ ไดด
้ าเนินการระงับการดาเนินการกับ
ทรัพยสิ์ นโดยสุจริต
ไมต
บผิด
แมก
่ องรั
้
้ อให
่
้เกิดความเสี ยหาย
แกบุ
่ คคลใด
• เว้นแต่ จะพิสจ
ู นได
้ าเป็
่ นการกระทาโดย
์ ว
ประมาทเลินเลออย
างร
่
่ ายแรง
้
36
การขออนุ ญาตดาเนินการกับทรัพยสิ์ นทีถ
่ ก
ู
ระงับการดาเนินการ
(มาตรา 9)
• บุคคลทีถ
่ ก
ู กาหนด (กรณีศาลสั่ ง) หรือผูซึ
้ ง่ ถูกระงับ
การดาเนินการกับทรัพยสิ์ น มีสิทธิยน
ื่ คารองต
อศาล
้
่
้
่ งดังตอไปนี
(แพง)
่ ให้พิจารณาในเรือ
่
่ เพือ
• (1) ขอให้เพิกถอนรายชือ
่ ออกจากรายชือ
่ บุคคลทีถ
่ ก
ู
กาหนด
• (2) ขอให้เพิกถอนการระงับการดาเนินการกับ
ทรัพยสิ์ น
• (3) ขอให้มีคาสั่ งอนุ ญาตให้ดาเนินการใด ๆ กับ
ทรัพยสิ์ นทีถ
่ ก
ู ระงับการดาเนินการกับทรัพยสิ์ น 37
การขออนุ ญาตดาเนินการกับทรัพยสิ์ นทีถ
่ ก
ู
ระงับการดาเนินการ (มาตรา 10)
อศาล
• บุคคลภายนอกมีสิทธิยน
ื่ คารองต
(แพง)
่
้
่
เพือ
่ ให้พิจารณาในเรือ
่ งดังตอไปนี
้
่
• (1) ชาระหนี้ทถ
ี่ งึ กาหนดชาระแกผู
่ ก
ู ระงับการดาเนินการ
่ ที
้ ถ
กับทรัพยสิ์ น ซึ่งสั ญญาหรือขอผู
้ หรือ
้ กพันนั้นไดท
้ าขึน
เกิดขึน
้ กอนวั
นทีบ
่ ญ
ั ชีน้น
ั ถูกระงับการดาเนินการกับทรัพยสิ์ น
่
• (2) เป็ นการชาระดอกเบีย
้ หรือดอกผลและเป็ นกรณีจาเป็ นที่
ต้องชาระเงินเขาบั
่ ก
ู ระงับการดาเนินการกับ
้ ญชีของผู้ทีถ
ทรัพยสิ์ น
• (3) เป็ นการชาระหนี้ซ่งึ ศาลมีคาพิพากษาถึงทีส
่ ุดให้ผู้ทีถ
่ ก
ู
ระงับการดาเนินการกับทรัพยสิ์ นอันเนื่องมาจากเป็ นบุคคลที่
38
ถูกกาหนด (ศาลสั่ ง) เป็ นผู้ทีต
่ ้องชาระหนี้
อานาจของคณะกรรมการตาม
พระราชบัญญัตน
ิ ี้ (มาตรา 12)
(1) กาหนดหลักเกณฑ ์ ระเบียบ และประกาศตาม
พระราชบัญญัตน
ิ ี้
(2) กาหนดแนวทางในการกากับดูแล ตรวจสอบ
ติดตาม และประเมินผล ให้เป็ นไปตาม
พระราชบัญญัตน
ิ ี้
(3) กาหนดแนวทางปฏิบต
ั ท
ิ จ
ี่ าเป็ นเพือ
่ ให้ผูมี
่ า
้ หน้าทีท
รายงานหรือบุคคลอืน
่ ใดดาเนินการให้เป็ นไปตาม
พระราชบัญญัตน
ิ ี้
(4) ติดตามและประเมินผลการปฏิบต
ั ต
ิ าม
39
อานาจของสานักงานตามพระราชบัญญัตน
ิ ี้
(มาตรา 13)
(๑) ให้คาแนะนาหรือชีแ
้ จงแนวทางการปฏิบต
ั แ
ิ กผู
่ อง
่ มี
้ หน้าทีต
้
ปฏิบต
ั ใิ ห้เป็ นไปตามพระราชบัญญัตน
ิ ี้
(๒) ติดตาม ประเมินผล ตรวจสอบ และกากับดูแลให้เป็ นไป
ตามพระราชบัญญัตน
ิ ี้ รวมถึง
การดาเนินคดีกบ
ั ผู้ทีฝ
่ ่ าฝื นหรือไมปฏิ
ั ต
ิ าม
่ บต
บทบัญญัตแ
ิ หงพระราชบั
ญญัตน
ิ ี้
่
(๓) รับหรือส่งรายงานหรือขอมู
่ ะเป็ นประโยชนในการ
้ ลทีจ
์
ปฏิบต
ั ก
ิ ารตามพระราชบัญญัตน
ิ ี้
หรือตามกฎหมายอืน
่
(๔) เก็บรวบรวมขอมู
่ ดาเนินการ 40
้ ลและพยานหลักฐานเพือ
เกีย
่ วกับการยึด อายัด หรือริบทรัพยสิ นตาม
ความผิดกรณีฝ่าฝื นหรือไมปฏิ
ั ต
ิ าม
่ บต
พระราชบัญญัตน
ิ ี้
(มาตรา 14)
 มาตรา 14 วรรคหนึ่ง เป็ นกรณีความผิดของ
บุคคลธรรมดา ไดแก
่ ก
ู กาหนด
้ ่ บุคคลทีถ
หรือเจ้าหน้าทีข
่ องสถาบันการเงิน หรือ
พนักงานของผูประกอบอาชี
พซึง่ มีหน้าที่
้
รับผิดชอบในการทาธุรกรรม หรือเป็ นผูที
้ ่
ครอบครองทรัพยสิ์ นของบุคคลทีถ
่ ก
ู กาหนด
แลวแต
กรณี
ซึง่ ฝ่าฝื นมาตรา 6 (1) หรือ
้
่
(2) โดย
 ไมระงั
่ ก
ู
่ บการดาเนินการกับทรัพยสิ์ นของบุคคลทีถ
41
กาหนดหรือของผูกระท
าการแทนหรื
อ
ตามค
าสั
่
ง
้
ความผิดกรณีฝ่าฝื นหรือไมปฏิ
ั ต
ิ าม
่ บต
พระราชบัญญัตน
ิ ี้
(มาตรา 14) (ตอ)
่
 มาตรา 14 วรรคสอง เป็ นกรณีความผิดของผู้
มีหน้าทีร่ ายงาน (นิตบ
ิ ุคคล) ซึง่ ฝ่าฝื นมาตรา
6 (1) หรือ (2) โดย
 กรณีผมี
ู้ หน้าทีร่ ายงานไมระงั
่ บการดาเนินการกับ
ทรัพยสิ์ นของบุคคลทีถ
่ ก
ู กาหนดหรือของผูกระท
า
้
การแทนหรือตามคาสั่ งของผูนั
้ ้น หรือของกิจการ
ภายใตการควบคุ
มของผูนั
้
้ ้น หรือ ไมแจ
่ ้งขอมู
้ ล
เกีย
่ วกับทรัพยสิ์ นทีถ
่ ก
ู ระงับฯ ให้สานักงานทราบ
 ตองระวางโทษโทษปรั
บไมเกิ
้
่ น 1,000,000 บาท
และปรับอีกวันละ 10,000 บาท ตลอดเวลาที42ย
่ งั
ฝาฝื นอยู หรือจนกวาจะไดปฏิบต
ั ใิ หถูกตอง
ความผิดกรณีฝ่าฝื นหรือไมปฏิ
ั ต
ิ าม
่ บต
พระราชบัญญัตน
ิ ี้
(มาตรา 14) (ตอ)
่
 มาตรา 14 วรรคสาม
 หากการไมระงั
่ บการดาเนินการกับทรัพยสิ์ นตาม
มาตรา 6 (1) หรือ ไมแจ
่ วกับ
่ ้งขอมู
้ ลเกีย
ทรัพยสิ์ นทีถ
่ ก
ู ระงับฯ ตามมาตรา 6 (2) ของผูมี
้
หน้าทีร่ ายงาน เกิดจากการสั่ งการหรือการกระทา
ของบุคคลใด หรือไมสั
าการ
่ ่ งการ หรือไมกระท
่
อันเป็ นหน้าทีท
่ ต
ี่ องกระท
าของกรรมการ ผูจั
้
้ ดการ
หรือบุคคลใดซึง่ รับผิดชอบในการดาเนินงานของ
นิตบ
ิ ุคคลนั้น
 บุคคลดังกลาวต
องระวางโทษจ
าคุกไมเกิ
่
้
่ น 3 43ปี
หรือปรับไมเกิน 300,000 บาท หรือทัง้ จาทัง้ ปรับ
ความผิดกรณีฝ่าฝื นหรือไมปฏิ
ั ต
ิ าม
่ บต
พระราชบัญญัตน
ิ ี้
(มาตรา 15)
 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง เป็ นกรณีความผิดของผูมี
้
หน้าทีร่ ายงาน (นิตบ
ิ ุคคล) ซึง่ ฝ่าฝื นมาตรา 6 (3)
โดย
 ไมแจ
่ ผู้ทีเ่ ป็ นหรือเคยเป็ นลูกค้าซึง่ อยูในรายชื
อ
่
่ ้งรายชือ
่
บุคคลทีถ
่ ก
ู กาหนดหรือผู้ทีม
่ ห
ี รือเคยมีการทาธุรกรรมกับผู้
นั้นมายังสานักงาน
 ตองระวางโทษปรั
บไมเกิ
้
่ น 500,000 บาท และปรับอีก
วันละ 5,000 บาทตลอดเวลาทีย
่ งั ฝ่าฝื นอยู่ หรือจนกวา่
จะไดปฏิ
ั ใิ ห้ถูกตอง
้ บต
้
 มาตรา 15 วรรคสอง หากการกระทาความผิดตาม
วรรคหนึ่ง เกิดจากการสั่ งการหรือการกระทาของ
44
บุคคลใด หรือไมสั
าการอันเป็ น
่ ่ งการ หรือไมกระท
่
ความผิดเกีย
่ วกับการสนับสนุ นทางการเงินแก่
การกอการร
าย
่
้
หลักการสาคัญของความผิดฐานนี้
การสนับสนุ นทางการเงินแกการก
อการร
าย
่
่
้
ไดแก
้ ่ การสนับสนุ นทางการเงิน ทรัพยสิ์ น
หรือดาเนินการใด ๆ เพือ
่
(1) สนับสนุ นการกอการร
าย
่
้
(2) ประโยชนของบุ
คคลทีถ
่ ก
ู กาหนด
์
ความผิดเกีย
่ วกับการสนับสนุ นทางการเงินแก่
การกอการร
ายเกิ
ดขึน
้ แมว
อการร
ายจะ
่
้
้ าการก
่
่
้
ยังมิไดกระท
าขึน
้ หรือยังไมมี
้
่ การใช้ประโยชนจาก
์
เงิน ทรัพยสิ์ นหรือมีการกระทาการใดอัน
เกีย
่ วเนื่องกับการกอการราย
45
ความผิดฐานสนับสนุ นทางการเงินแกการก
อ
่
่
การราย
้
(มาตรา 16)
มาตรา 16 วรรคหนึ่ง กรณีผ้กระท
ู
าความผิด
เป็ นบุคคลธรรมดา
• ผู้ใดจัดหา รวบรวม หรือดาเนินการทาง
การเงินหรือทรัพยสิ์ นดวยประการใด
ๆ
้
 โดยรูอยู
นหรือ
้ แล
่ วว
้ าผู
่ ได
้ รั
้ บประโยชนทางการเงิ
์
ทรัพยสิ์ นนั้นเป็ นผูอยู
อ
่ บุคคลทีถ
่ ก
ู กาหนด
้ ในรายชื
่
หรือ
 โดยเจตนาให้เงินหรือทรัพยสิ์ นนั้นถูกนาไปใช้เพือ
่
สนับสนุ นการดาเนินกิจกรรมใด ๆ ของบุคคลที่
46
ถูกกาหนดหรือของบุคคลหรือองคกรที
เ่ กีย
่ วของกั
บ
์
้
ความผิดเกีย
่ วกับการสนับสนุ นทางการเงิน
แกการก
อการร
าย
่
่
้
(มาตรา 16) (ตอ)
่
มาตรา 16 วรรคสอง วรรคสาม
การสนับสนุ นทางการเงินแกการก
อการร
าย
่
่
้
รวมถึงการกระทาดังตอไปนี
้
่
• วรรคสอง กรณีเป็ นผู้ใช้ ผู้สนับสนุ น หรือสมคบ
กันในกระทาความผิดฐานสนับสนุ นทางการเงินแก่
การก่อการร้าย (ต้องรับโทษเช่นเดียวกับตัว การ
ในความผิดฐานสนับสนุ นทางการเงินฯ)
• วรรคสาม กรณีพยายามกระทาความผิดฐาน
สนับสนุ นทางการเงินแกการก
อการร
าย
(ต้องรับ
่
่
้
โทษ 2 ใน 3 ของความผิดฐานสนับสนุ นทาง47
ความผิดฐานสนับสนุ นทางการเงินแกการก
อ
่
่
การร้าย
(มาตรา 16) (ตอ)
่
มาตรา 16 วรรคสาม กรณีผกระท
ู
าความผิด
ตามวรรคหนึ่ง วรรคสอง
วรรคสาม เป็ นนิตบ
ิ ุคคล
้
 ต้องระวางโทษปรับตัง้ แต่ 500,000 บาท ถึง
2,000,000 บาท
มาตรา 16 วรรคสี่ กรณีทก
ี่ ารกระทาความผิด
ของนิตบ
ิ ุคคลตามวรรคสี่ เกิดจากการสั่ งการหรือ
การกระทาของบุคคลใดหรือไมสั
่ ่ งการ หรือไม่
กระทาการอันเป็ นหน้าทีท
่ ต
ี่ องกระท
าของ
้
กรรมการ ผูจด
ั การ หรือบุคคลใดซึง่ มีอานาจ
48
ความผิดเกีย
่ วกับการสนับสนุ นทางการเงิน
แกการก
อการร
าย
่
่
้
(มาตรา 16) (ตอ)
่
มาตรา 16 วรรคหก
“ความผิดฐานสนับสนุ นทางการเงินแกการก
อการร
่
่
้าย
เป็ นความผิดมูลฐานตามกฎหมายวาด
่ วยการ
้
ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน”
(มูลฐานที่ ๒๔)
49
ขอบคุณครับ