การแบ่งส่วนตลาด - riped - มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
Download
Report
Transcript การแบ่งส่วนตลาด - riped - มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
หลักการตลาด
บทที่ 6
กลยุทธ์การตลาดเป้ าหมายและ
การจัดการความสัมพันธ์กบั ลูกค้า
สาขาวิชาการตลาด คณะบริ หารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้ าไทย
วัตถุประสงค์_1
6-2
เข้าใจความจาเป็ นในการแบ่งส่วนตลาดในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจใน
ปั จจุบนั
เรียนรูค้ วามแตกต่างในการแบ่งส่วนตลาดระหว่างตลาดผูบ้ ริโภคและตลาด
อุตสาหกรรม
สามารถอธิบายได้วา่ นักการตลาดพิจารณาอย่างไรในการเลือกส่วนตลาด
วัตถุประสงค์_2
6-3
สามารถอธิบายได้วา่ นักการตลาดพัฒนากลยุทธ์ตลาดเป้าหมายอย่างไร
เข้าใจถึงวิธีการพัฒนาและการประยุกต์ใช้ตาแหน่ งทางการตลาด
เรียนรูว้ ธิ ีการที่นักการตลาดใช้ในการสร้างความสัมพันธ์กบั ลูกค้าในการ
เพิ่มผลกาไรและความสาเร็จในระยะยาว
กลยุทธ์การตลาดเป้าหมาย (Target Marketing Strategy)
6-4
เพราะเราไม่สามารถทาให้ทุกคนพอใจได้ท้งั หมดในเวลาเดียวกัน
มี 3 ขั้นตอน
การแบ่งตลาดใหญ่ท้งั หมดออกเป็ นส่วนตลาดที่แตกต่างกัน
ตามลักษณะของลูกค้า (Segmentation)
การเลือกส่วนตลาดบางส่วนขึ้นมาเป็ นตลาดเป้าหมาย
(Targeting)
การพัฒนาสินค้าเพื่อตอบสนองส่วนตลาดนั้นโดยเฉพาะ
(Positioning)
ขั้นที่ 1 : การแบ่งส่วนตลาด (Segmentation)
6-5
การแบ่งส่วนตลาด คือ กระบวนการในการแบ่งตลาดที่มีขนาดใหญ่
ให้แตกเป็ นส่วนตลาดหลายๆส่วน โดยอาศัยลักษณะร่วมกันที่มี
ความสาคัญ
ปั จจัยในการแบ่งส่วนตลาด (Segmentation Variables)
ปั จจัยทางประชากรศาสตร์
ปั จจัยทางด้านจิตวิทยา
ปั จจัยทางด้านพฤติกรรม
ปั จจัยทางประชากรศาสตร์ (Demographics)
6-6
อายุ (Age)
เพศ (Gender)
โครงสร้างของครอบครัว (Family structure)
รายได้และชนชั้นทางสังคม (Income and social class)
เชื้อชาติและศาสนา (Race and ethnicity)
ภูมิศาสตร์ (Geography)
อายุ (Age)
6-7
วัยเด็ก (Children)
วัยรุน่ : Gen-M (Millennial Generation)
วัยหนุ่ม: Gen-Y (Generation Y)
วัยทางาน: Gen-X (Generation X)
วัยกลางคน: Gen-B (Baby Boomers)
วัยชรา (Elderly)
6-8
วัยเด็ก (Children)
เด็กๆมีอิทธิพลต่อการซื้ อสินค้าอื่นๆของครอบครัว
วัยรุน่ : Gen-M (Millennial Generation)
เกิดระหว่าง พ.ศ. 2524-2530
ให้ความสาคัญต่อรูปลักษณ์ภายนอกมาก
ให้ความสาคัญต่อกลุ่มเพื่อน
เป็ นกลุ่มคนที่สนใจเทคโนโลยี
มีลก
ั ษณะที่ทาให้เกิดตลาดใหม่ๆ
6-9
วัยหนุ่ม: Gen-Y (Generation Y)
เกิดระหว่าง พ.ศ. 2514-2523
มีรายได้เป็ นของตนเองและยังไม่ตอ
้ งคานึ งถึงค่าใช้จา่ ยในครอบครัวมาก
พึ่งพาอินเตอร์เน็ ตมาก
การใช้สื่ออิเล็กทรอนิ คส์ เป็ นเครื่องมือการสื่อสาร
เชื่อว่าโลกนี้ มีทางเลือก ไม่ได้ยึดติดแบรนด์
ชอบแบรนด์ที่มีคุณค่าสูงทั้งทางด้านการทางานและจิตใจ
เป็ นคนมองโลกในแง่ดี การทาตลาดที่เกี่ยวข้องกับการขายความสุขขจัด
ความเครียดจึงได้รบั ความนิ ยมสูง
6-10
วัยทางาน: Gen-X (Generation X)
เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2508-2513
ใช้เงินที่หามาได้เพื่อความสุขและความสนุ กส่วนตัว
รักอิสระและมีความเป็ นตัวของตัวเองสูง เลือกการเป็ นผูป
้ ระกอบการ
(Entrepreneur)
มีครอบครัว จึงให้ความสาคัญต่อการลงหลักปั กฐานและเน้นหนั กการ
ลงทุน
เป็ นผูท
้ ี่หลงใหลแบรนด์มากที่สุดทั้งในเชิงกว้าง (ชื่นชอบแบรนด์ที่ผู้
นิ ยม) และในเชิงลึก (มีความภักดีต่อตรายีห่ อ้ สูง)
6-11
วัยกลางคน: Gen-B (Baby Boomers) เกิดระหว่าง พ.ศ.
2485-2508
ผลผลิตจากความต้องการ “สร้างครอบครัว”
มีกาลังซื้ อมากมาย ยอมลงทุนอย่างมากทั้งในเรื่องเงิน เวลา และ
แรงงานเพื่อรักษาภาพพจน์ความเป็ นหนุ่ มสาวของตน
มักอยูใ่ นตาแหน่ งผูบ
้ ริหารระดับสูงขององค์กร
นักต่อสู ้ เชื่อมัน
่ ในตนเอง เคารพกติกา และกังวลถึงภาพพจน์ของตนเอง
วัยชรา (Elderly) กลุ่มคนที่มีอายุมากกว่า 65 ปี ขึ้ นไป
มีความสุขกับการใช้ชีวต
ิ อย่างสบายๆ
เพศ (Gender)
สีชมพูผห
ู ้ ญิง
สีฟ้าผูช้ าย
ส่วนตลาดใหม่ Metrosextual กลุม
่ ผูช้ ายรักสวย
6-12
โครงสร้างของครอบครัว (Family structure)
วงจรชีวิตครอบครัว
เวลาผ่านไปครอบครัวก็เข้าสูว
่ งจรชีวิตแบบใหม่
รายได้และชนชั้นทางสังคม (Income and social class)
ผูม
้ ีรายได้สูง
และผูม้ ีรายได้ต ่า
ลูกค้ากลุม
่ บน และ ลูกค้ากลุม่ ล่าง
เชื้อชาติและศาสนา (Race and ethnicity)
เป็ นประเด็นละเอียดอ่อน
6-13
การทาการตลาดโดย
1) ส่งเสริมความโดดเด่นและความแตกต่างระหว่างชาติพนั ธุ ์
Ethnicitization
เช่น มุสลิมไทยเมล์ที่บ่งบอกความเป็ นมุสลิมจาก “@muslimthai.com”
2) พัฒนาความชื่นชอบในสินค้าประเภทเดียวกันข้ามกลุม
่
De-Ethnicitization
เช่น โปรโมทว่าสินค้าอาหารฮาลาลเหมาะกับทุกคน
ภูมิศาสตร์ (Geography)
พัฒนาข้อเสนอให้เหมาะสมกับส่วนตลาดในแต่ละท้องถิ่นหรือภูมิภาค
ปั จจัยทางด้านจิตวิทยา (Psychographics)
6-14
ช่วยทาความเข้าใจความแตกต่างระหว่างผูบ้ ริโภคที่คล้ายคลึงกัน
ทางด้านสถิติ แต่ความต้องการแตกต่างกันมาก
แบ่งตลาดตามลักษณะร่วมกันในด้านกิจกรรม ความสนใจ และความ
คิดเห็น (AIO)
ในทางปฏิบตั มิ กั จะต้องอ้างอิงถึงข้อมูลทางประชากรศาสตร์ดว้ ย เช่น
อายุ เพศ แต่จะเพิ่มคาอธิบายส่วนตลาดที่ลึกซึ้งมากกว่า
Values and Lifestyles (VALS)
ระบบการแบ่งส่วนตลาดตามปั จจัยทางจิตวิทยา
ให้นกั การตลาดค้นหาว่าสินค้าหรือบริการของตนเหมาะกับผูบ้ ริโภคกลุ่มใด
ปั จจัยทางด้านพฤติกรรม (Behavior)
6-15
แต่ละคนอาจใช้สินค้าเดียวกัน แต่ตา่ งเหตุผล ต่างโอกาส และต่าง
ปริมาณ
แบ่งผูบ้ ริโภคออกเป็ นกลุ่มย่อยโดยดูจากวิธีการปฏิบตั ิตอ่ สินค้า
ความรูส้ ึกต่อสินค้า หรือวิธีการใช้งานสินค้าของผูบ้ ริโภค
ผูท
้ ี่ใช้สินค้า vs. ผูท้ ี่ไม่เคยใช้สินค้า
ผูใ้ ช้ปริมาณมาก ปานกลาง และใช้นอ
้ย
กฎ 80/20
มุ่งเป้าคนกลุ่มน้อยที่ใช้งานสินค้าอย่างจริงจัง
โอกาสในการใช้งาน (Usage Occasion)
ผูบ้ ริโภคใช้สินค้าในเวลาและโอกาสใดมากที่สุด
การแบ่งส่วนตลาดสาหรับตลาดองค์กร
6-16
ซอยย่อยตลาดใหญ่ให้เล็กลงมาเป็ นส่วนตลาดที่ดแู ลจัดการง่าย
ภายในประกอบด้วยลูกค้าที่มคี ุณลักษณะคล้ายคลึงกัน
ลักษณะทางประชากรศาสตร์ขององค์กร
ขนาดขององค์กร
จานวนโรงงาน
ภายในประเทศหรือระหว่างประเทศ
รูปแบบของธุรกิจ
เทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิต
ขั้นที่ 2 : การเลือกตลาดเป้าหมาย (Targeting)
6-17
ประเมินความน่ าสนใจของแต่ละส่วนตลาด และ
ตัดสินใจว่าส่วนตลาดส่วนใดที่จะพัฒนาให้เป็ นลูกค้าขององค์กร
มี 3 ขั้นตอน
ประเมินส่วนตลาด (Evaluating Market Segments)
พัฒนาโครงร่างของส่วนตลาด (Developing Segment Profiles)
เลือกกลยุทธ์เป้าหมาย (Choosing a Targeting Strategy)
ประเมินส่วนตลาด (Evaluating Market Segments)
6-18
คุณสมบัตขิ องส่วนตลาดที่ดี
สมาชิกในส่วนตลาดมีลก
ั ษณะใกล้เคียงกัน
และ แตกต่างจากส่วนตลาดอื่นๆหรือไม่ ?
ผูห้ ญิงทำงำน และ แม่บำ้ น
สามารถประเมินขนาดของส่วนตลาดได้หรือไม่ ?
คนถนัดซ้ำย และ คนถนัดขวำ
มีขนาดใหญ่พอที่จะทาให้มีกาไรหรือไม่ ?
เวปเพ็จแฟนบำร์บ้ ี
ทาการสื่อสารทางการตลาดไปยังส่วนตลาดได้หรือไม่ ?
ต้องใช้สื่ออะไร
สามารถตอบสนองต่อความต้องการของส่วนตลาดได้หรือไม่ ?
มีทรัพยำกรพอมัย้
พัฒนาโครงร่างของส่วนตลาด (Segment Profiles)
6-19
โครงร่างของส่วนตลาด (Segment profiles)
คือ คาบรรยายลักษณะของลูกค้าโดยทั ่วไปในส่วนตลาดหนึ่ง
เพื่อให้มองเห็นความต้องการที่สมาชิกในส่วนตลาดต้องการ
จริงๆ
เช่น ลูกค้าสปา
สตรี อายุ 25-45 ปี
อาชีพ พนักงาน/เจ้าของกิจการ
การศึ กษา ปริญญาตรีข้นึ ไป
เป็ นคนที่ให้ความสนใจและดูแลสุขภาพ
การเลือกกลยุทธ์เป้าหมาย (Choosing a Targeting Strategy)
6-20
การตลาดไม่แตกต่าง (Undifferentiated Marketing)
การตลาดแตกต่าง (Differentiated Marketing)
การตลาดมุ่งเฉพาะส่วน (Concentrated Marketing)
การตลาดเพื่อลูกค้าเฉพาะราย (Customized Marketing)
การตลาดไม่แตกต่าง (Undifferentiated Marketing)
6-21
สร้างความน่าสนใจให้กบั คนหมู่มาก
ได้รบั ประโยชน์จากการประหยัดจากขนาด (economies of
scale)
เหมาะสมเมื่อผูบ้ ริโภคส่วนใหญ่มีความต้องการคล้ายคลึงกัน
เช่น เทสโก้โลตัส หรือ บิ๊กซี
การตลาดแตกต่าง (Differentiated Marketing)
6-22
พัฒนาสินค้าหนึ่งอย่างหรือหลายอย่างเพื่อตอบสนองความต้องการกลุ่ม
ลูกค้าหลายกลุ่มที่มีความต้องการสินค้าแตกต่างกัน
เหมาะสมเมื่อผูบ้ ริโภคมีตรายีห่ อ้ ที่เป็ นที่รูจ้ กั หลายตราให้เลือก
แต่ละตราจะมีภาพพจน์ในท้องตลาดโดดเด่นแตกต่างกัน และในตลาด
ประกอบด้วยส่วนตลาดต่างๆที่มีความต้องการจาเพาะในสินค้าที่
แตกต่างกัน
เช่น กลุ่ม L’Oreal
กลุ่มเป้าหมายระดับบน ใช้ตราสินค้าอย่าง Lancome
กลุ่มเป้าหมายระดับตา่ ลงมา ใช้ตรายีห่ อ้ อย่าง Elseve และ L’Oreal
การตลาดมุ่งเฉพาะส่วน (Concentrated Marketing)
6-23
พยายามที่จะนาเสนอผลิตภัณฑ์อย่างน้อยหนึ่งอย่างเพื่อส่วน
ตลาดเพียงส่วนเดียว
เหมาะสมกับองค์กรขนาดเล็กที่ไม่มีทรัพยากรมากนักในการ
ตอบสนองต่อส่วนตลาดทั้งหมดได้
เช่น เสื้อผ้ำเด็กผูช้ ำย
นวดประคบสำหรับคุณแม่หลังคลอด
การตลาดเพื่อลูกค้าเฉพาะราย (Customized Marketing)
6-24
แบ่งส่วนตลาดอย่างแม่นยาจนทาให้สามารถนาเสนอสินค้าที่เข้ากับ
ความต้องการเฉพาะของลูกค้าแต่ละรายได้อย่างพอดี
มักพบในการตลาดองค์กรธุรกิจ
การทาการตลาดเฉพาะรายแบบทั ่วถึง (Mass Customization)
คือการปรับเปลี่ยนสินค้าพื้นฐานเพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของ
บุคคลแต่ละรายเป็ นการเฉพาะ
เช่น สตาร์บคั ส์
“Let us create your favorite Starbucks beverage just the
way you like it”
ขั้นที่ 3 : การกาหนดตาแหน่งทางการตลาด
(Positioning Strategy)
6-25
คือ การพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อสินค้าหรือบริการของบริษทั มี
อิทธิพลต่อการรับรูข้ องส่วนตลาดเป้าหมาย เมื่อเปรียบเทียบกับสินค้า
หรือบริการของคู่แข่งขัน
ขั้นตอนในการกาหนด
วิเคราะห์ตาแหน่งทางการตลาดของคู่แข่ง
เสนอขายผลิตภัณฑ์ที่มีขอ
้ ได้เปรียบในการแข่งขัน
ตัดสินใจเกี่ยวกับส่วนประสมทางการตลาด
ประเมินการตอบสนองจากกลุ่มเป้าหมาย
วิเคราะห์ตาแหน่งทางการตลาดของคู่แข่ง
ใครเป็ นคูแ
่ ข่ง
6-26
มีคแู่ ข่งขันทางอ้อมหรือไม่
เสนอขายผลิตภัณฑ์ที่มีขอ้ ได้เปรียบในการแข่งขัน
ภาพพจน์ ที่ดีเยีย
่ม
บริการที่ดีกว่า มีคุณสมบัติที่เป็ นเอกลักษณ์
ตัดสินใจเกี่ยวกับส่วนประสมทางการตลาด
สินค้าจะต้องเพิ่มคุณค่า
ราคาในระดับที่ยนิ ดีจะจ่าย
เสนอขายให้มีอย่างทัว่ ถึง สื่อสารผลประโยชน์ให้ถกู ต้อง
ประเมินการตอบสนองจากกลุ่มเป้าหมาย
ปรับกลยุทธ์ตามความจาเป็ น
การเปลี่ยนตาแหน่งทางการตลาด
(Repositioning)
เช่น ธนาคารกสิกรไทย K-Excellence
บุคลิกภาพของตราสินค้า (Brand Personality)
6-27
คือ ภาพพจน์อนั เป็ นเอกลักษณ์ที่เก็บภาพของผลประโยชน์และ
ลักษณะของตราสินค้านั้นๆ
เช่น โกดัก- ผูใ้ หญ่มีระดับ น่ าเชื่อถือและมีประสบการณ์
ฟูจิ -คนรุ่นใหม่ ทันสมัย คล่องแคล่ว สังคมดี และฉลาด
วิธีการในการกาหนดตาแหน่งของผลิตภัณฑ์ให้เกิดขึ้นในใจของ
ผูบ้ ริโภค
แผนผังการรับรู ้ (Perceptual mapping)
แผนภาพที่ 6.3 แผนผังการรับรู ้
6-28
การจัดการความสัมพันธ์กบั ลูกค้า (Customer
Relationship Management: CRM)
6-29
แนวทางสูก่ ารตลาดเพื่อลูกค้าเฉพาะราย
CRM ช่วยให้องค์กรสามารถค้นหาลูกค้าที่ดีที่สุด รวมทั้งรูเ้ ท่าทัน
ความต้องการและสร้างความพึงพอใจให้กบั ลูกค้าเหล่านั้น
การสื่อสารกับลูกค้าแบบหนึ่งต่อหนึ่ง
โทรศัพท์จากผูแ้ ทนจาหน่ ายรถยนต์ที่สอบถามความพอใจภายหลังจากที่
ได้ซื้อรถใหม่
ลูกค้าคือหุน
้ ส่วน
มองลูกค้าเป็ นหุน
้ ส่วนธุรกิจและหุน้ ส่วนเหล่านี้ จะเรียนรูซ้ ึ่งกันและกันทุก
ครั้งที่มีปฎิสมั พันธ์กนั
6-30
ขั้นตอนของการตลาดแบบหนึ่งต่อหนึ่ง (แผนภาพที่ 6.4)
การค้นหาลูกค้า
เก็บและป้อนข้อมูล
การจาแนกลูกค้า
ค้นหาลูกค้าที่มีมูลค่าสูง
จัดอันดับลูกค้า
การปฎิสมั พันธ์
สร้างโอกาสการขายจากการโทรเข้ามาติดต่อของลูกค้า
หาทางเพิ่มการพูดคุยกับลูกค้าที่มีมูลค่าทางธุรกิจ
การปรับแต่ง
ถามลูกค้าว่าต้องการให้บริษัทติดต่อกลับอย่างไรและบ่อยแค่ไหน
6-31
หัวใจหลักของ CRM ก็คือ การช่วยให้องค์กรสามารถสื่อสารและบริการ
ลูกค้าโดยมีความเข้าใจเกี่ยวกับความต้องการของลูกค้าเหล่านัน้ อย่าง
ลึกซึ้ง
ตัวอย่าง CRM
อุตสาหกรรมสายการบิน ช่วยให้ผใู้ ช้บริการได้รบั ข้อมูลสาคัญ
ต่างๆ (เช่น การเลื่อนเวลาออก)
สถาบันการเงิน ให้พนักงานทาแคมเปญการตลาดเฉพาะเพื่อ
ลูกค้าแต่ละราย โดยดูจากรายละเอียด (เช่น ลูกค้าเปิ ดบัญชี
เมื่อใด รายได้ต่อปี ของลูกค้า สถานะครอบครัว)
กรมสรรพากรของอเมริกา เพื่อซื้ อซอฟท์แวร์ CRM
ช่วยให้ผเู้ สียภาษีได้รบั รายละเอียดเกี่ยวกับการจ่ายภาษีและได้
ทันต่อเวลา
คุณลักษณะของ CRM
6-32
บริษทั ที่ใช้ CRM คิดต่างอย่างไร
ส่วนแบ่งลูกค้า (Share of Customer)
รักษำลูกค้ำเดิม
คุณค่าตลอดช่วงชีวิตของลูกค้า (Lifetime Value of customer)
มูลค่ำสินค้ำที่ลูกค้ำคนเดิมซื้อตลอดช่วงชีวติ ของเขำ
มูลค่าของลูกค้า (Customer Equity)
ควำมสัมพันธ์กบั ลูกค้ำเป็ นสินทรัพย์ทำงกำรเงิน
การมุ่งเน้นลูกค้าที่มูลค่าสูง
การบ้าน งานเดี่ยว
6-33
วิเคราะห์กลยุทธ์การตลาดของสินค้าที่สนใจ
ยีห
่ อ้ สินค้า
กลยุทธ์ตาแหน่ งการตลาดที่ใช้
(Undifferentiated Marketing)
การตลาดแตกต่าง (Differentiated Marketing)
การตลาดมุ่งเฉพาะส่วน (Concentrated Marketing)
การตลาดเพื่อลูกค้าเฉพาะราย (Customized Marketing)
การตลาดไม่แตกต่าง
มีกลยุทธ์ CRM
อย่างไรบ้าง
(ดูตวั อย่างกลยุทธ์ในแผนภาพ 6.4)
บอกแหล่งข้อมูลด้วย