เปรียบเทียบน้ำนมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมแม่

Download Report

Transcript เปรียบเทียบน้ำนมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมแม่

ทำไมตอง
้
นมแม่ !
สมรธรรม
จุลนวล
สำนักงำนสำธำรณสุขจังหวัด
นครศรีธรรมรำช
สถำนกำรณ ์ กำรสำรวจ
สติปญ
ั ญำเด็กไทย (IQ)
IQ54.flv
 สถำนกำรณ ์
กำรสำรวจ
ควำมฉลำดทำงดำนอำรมณ
้
์
(EQ)
 กำรขำดสำรไอโอดีน
 สถำนกำรณกำรตั
ง้ ครรภวั
่
์
์ ยรุน

STOP TEEN MOM .flv
กำรพัฒนำของ เซลล ์
สมอง
เอกลักษณ์ ของนำ้ นมแม่
เป็ น
ของเหลวทำงชีวภำพทีซ
่ บ
ั ซ้อน
มี
สำรต
ำง
ๆ
นั
บ
พั
น
ชนิ
ด
ที
ส
่
ั
ง
เครำะห
่
์

มีกำรเปลีย
่ นแปลงอยำงต
อเนื
่
อ
ง
่
่
จำกเลือดของแม่

มีชว
ี ต
ิ

มีควำมจำเพำะตำมสำยพันธุ ์
เหมำะกับทำรก
(tailor made)
ส่วนประกอบในนมแมแปรเปลี
ย
่ น
่
ตำม

ระยะของกำรสรำงน
้ำนม
้
หัวน้ำนม
(Colostrum) มีในช่วง ~ 1 –
7 วัน
่ น (transitional milk) ~
น้ำนมช่วงเปลีย
7 – 14 วัน
น้ำนมทีส
่ มบูรณเต็
(mature milk)
์ มที่
~ หลัง 14 วัน

ระหวำงกำรให
่
้นม
: นมส่วนหน้ำ, นม
100%
•
ระหวำง
่
กำรให้
นม
90%
80%
70%
60%
50%
40%
55
30%
% ไขมัน
% โปรตีน
20%
17
10%
9
7
่ หน้ำ
นำ้นมสวน
่ หลงั
นำ้นมสวน
0%
มีชีวติ
มีภูมค
ิ ุ้มกันโรค
 Immunoglobulin G, M, E, A
 T lymphocyte, B ymphocyte
 White blood cells
 Cell mediated immunity,
complement, lysozyme
 อืน
่ ๆ อีกมำกมำย
Tailor-made: เปรียบเทียบน้ำนมของสั ตว์
เลีย
้ งลูกด้วยนมแม่
(gm/100
ml)
มนุ ษย ์
เนื้อ
สำร
12.4
วัว
ไขมัน โปรตีน
3.7
0.9
แลต
โตส
7.0
เกลือ
แร่
0.2
12.7
3.7
3.4
4.8
0.7
เสื อซีตำ้
23.7
9.7
9.4
3.5
1.3
หนู
29.3
13.1
9.0
3.0
1.3
หมีขว้ั โลก
47.6
33.1
10.9
0.3
1.4
ปลำวำฬ
57.1
42.3
10.9
1.3
1.4
น้ำนมเหลือง
(Colostrum)
ส่วนประกอบทีส
่ ำคัญ
ไดแก
้ ่
 โปรตีน
 สำรระบบภูมค
ิ ุ้มกัน
 แรธำตุ
่
 วิตำมินโดยเฉพำะวิตำมินเอ ,
วิตำมินอี
 สำรช่วยกำรเจริญเติบโต (growth
คุณสมบัตข
ิ อง น้ำนมเหลือง
(Colostrum)
• ภูมค
ิ ้ ุมกัน
• Antibody- stg A , IgG, IgE
ป้องกันกำรติดเชือ
้ และภำวะภูมแ
ิ พ้
• Many white cell : ป้องกันกำรติดเชือ
้
• Purgative : Prostaglandin
• ช่วยระบำยขับถำย
่
ป้องกันตัวเหลือง
Maconium
คุณสมบัตข
ิ อง น้ำนมเหลือง
(Colostrum)
สำรระบบภูมค
ิ ุ้มกันทีส
่ งู มำก
: secretory IgA (slgA) IgG, IgE
: neutrophil
: Lysozyme และ Lactoferrin – แยง่
อำหำรของ bacteria เพรำะ แยงจั
่ บ
Fe ป้องกัน GI infection
คุณสมบัตข
ิ อง
Colostrum
Growth Factors : ชวยใหลำไสเจริญ
่
้
้
สมบูรณและอวั
ยวะอืน
่ ๆ ป้องกันภำวะ
์
ภูมแ
ิ พ้
และ GI intolerance
 vitamin-A rich : ลดควำมรุนแรงของโรค
ติดเชือ
้ บำงชนิด
เช่น หัด
ทองเสี
ย
โรคตำทีส
่ ั มพันธกั
้
์ บ vit.A
 ส่งเสริมกำรเจริญเติบโตของจุลน
ิ ทรีย ์
สุขภำพในทำงเดินอำหำร
 Purgative : Prostaglandin ฤทธิเ์ ป็ นยำ

น้ำนมช่วงเปลีย
่ น
น้ำนมจะใสขึน
้ ในปลำยสั ปดำห ์
แรก
 Immunoglobulin และโปรตีนจะ
คอย
ๆ ลดลง
่
 แลคโตสและไขมันเพิม
่ ขึน
้
 วิตำมินทีล
่ ะลำยในไขมันลดลง
 วิตำมินทีล
่ ะลำยในน้ำเพิม
่ ขึน
้

Mature milk สำรอำหำรมำตรฐำน
สำหรับทำรก
ส่วนประกอบหลัก คือ น้ำ (87%)
 สำรอำหำรหลัก : โปรตีน
คำรโบไฮเดรต
ไขมัน
์
่ ๆ ทีไ่ มใช
 ส่วนประกอบอืน
่ ่ โปรตีน
(Nonprotein nitrogen ; NPN) เช่น
ทอรีน นิวคลิโอไทด ์ Growth factor
ฯลฯ
 วิตำมิน
ละลำยในไขมัน
ละลำย
ในน้ำ

โปรตีน
ส่วนใหญเป็
น
ยอย
่ น เวยโปรตี
่
์
งำย
ให้ภูมค
ิ ้ ุมกัน เวยต
น
่
่
์ อเคซี
90: 10 หัวน้ำนม และคอย
ๆ
่
ลดลง 60 : 40
 NPN : ทอรีน
ช่วยกำร
เจริญเติบโตของระบบประสำท
สมอง
และจอประสำทตำ
นิวคลิโอไทด ์
ช่วยกำร
เจริญเติบโตของเซลลเยือ
่ บุทำงเดิน

คำร์โบไฮเดรต
แลคโตส
คำรโบไฮเดรดหลัก
ให้พลังงำน
ช่วยในกำร
เจริญเติบโตของระบบประสำทและ
สมอง
ช่วยกำรดูดซึม Ca
Oligosaccharides เป็ นอำหำร
(Previotic) ให้กับ bifidobacteria,
Lactovacilli จุลน
ิ ทรียสุ
์ ขภำพ (
proviotic)
ไขมัน
เป็ นแหลงพลั
งงำนที่
่
สำคัญ
รอยละ
50 ของพลังงำน
้
ทัง้ หมด ส่วนประกอบหลัก
คือ ไตร
กลีเซอรไรด
์
์ 98 % มีโคเลสเตอรอล
สูง
 กรดไขมันชนิดไมอิ
่ ตัวทีจ
่ ำเป็ น : สำร
่ ม
ตัง้ ตนกำรสั
งเครำะห ์ DHA, ARA สำคัญ
้
ในกำรพัฒนำระบบประสำทและจอ
ประสำทตำ
 โคเลสเตอรอล เป็ นสำรตัง
้ ตนของกำร
้
สั งเครำะหสำรต
ำง
ๆ ทีน
่ ำไปเป็ น
่
์
สำรอืน
่ ๆ
Enzymes เช่น bile saltstimulated lipase ช่วยให้ไขมัน
ในนมแมถู
่ กดูดซึมไปใช้ไดอย
้ ำง
่
เต็มที่
มีผลดีตอกำรเจริ
ญเติบโต
่
ของสมอง
 เหล็ก (Fe)

กำรดูดซึม
Fe ในนมแม่
ละ
20-50
ร้อย
สรุปข้อแตกต่ำงระหว่ำง
สำรอำหำร
นมแม่
นมวัว
นมผสม
โปรตีน
ปริมำณพอเหมำะ
ยอยง
ำย
่
่
มำกไป
ยอยยำก
่
ปรับสั ดส่วน
ไขมัน
กรดไขมันจำเป็ น
น้ำยอย
่
Lipase
ไมมี
่
ไมมี
่
เติม
ไมมี
่
น้ำ
เพียงพอ
ให้น้ำเพิม
่
อำจจะให้
ประโยชน์ของกำรเลีย
้ งลูกด้วยนม
แม่ต่อทำรกและเด็ก
ลดอัตรำตำยของเด็กใน 5 ปี แรก
 ลดควำมเสี่ ยงของกำรเจ็บป่วย
จำกโรคอุจจำระรวง
ทำงเดิน
่
หำยใจ
หูน้ำหนวกและทำงเดิน
ปัสสำวะ
 ลดโอกำสกำรเป็ นโรคภูมแ
ิ พ้
 ส่งเสริมกำรสรำงสั
มพันธระหว
ำงแม
้
่
่
์
ลูก

ลดอัตรำตำยของเด็กตำ่ กว่ำ 5
ปี
Exclusive Breastfeeding
7%
Insecticide treated materials
Continued BF with Complementary
feeding
6%
5%
Zinc
Hib vaccine
4%
Clean delivery
4%
Water, sanitation, hygiene
3%
Antenatal steroids
3%
0%
13%
2%
4%
6%
8%
10%
12%
ข้อมูลระดับโลก พบวำ่ กำรเลีย
้ งลูกดวยนมแม
ช
้
่ ่ วยลด
อัตรำกำรตำยของเด็กอำยุ < 5 ปี ไดสู
13
้ งถึงรอยละ
้
14%

ลดควำมเสี่ ยงของกำร
เจ็
บ
ป
วย
่
โรคอุจจำระรวง
ลดลง 64 %
่
ทำงเดินหำยใจส่วนลำงที
น
่ อนรักษำ ใน
่
รพ.ลดลง 72 % ในทำรก < 1 ปี ที่
ไดรั
ยว 4 เดือนหรือ
้ บนมแมอย
่ ำงเดี
่
มำกกวำ่
 หูน้ำหนวกอักเสบในทำรกทีเ่ คยไดรั
้ บนมแม่
ลดลง 23 %
 ทำงเดินปัสสำวะอักเสบ ทำรกทีไ
่ ดรั
้ บนม
แมอย
ยวอยำงน
่ ำงเดี
่
่
้ อย 6 เดือน

ลดโอกำสกำรเป็ นโรคภูมแ
ิ พ้
ผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ (Atopic Dermatitis)
เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อย 3 เดือน ช่วยลดโอกาสเป็ น
Atopic dermatitis 0.68 เท่าของทารกที่ไม่ได้รับนมแม่อย่าง
เดียวอย่างน้อย 3 เดือน
โรคหืด (Asthma)
เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อย 3 เดือน ช่วยลดความเสี่ ยงโรค
หื ด
ถ้ามีประวัติโรคหื ดในครอบครัวการให้นมแม่อย่างเดียวนาน 4 เดือน
ลดความเสี่ ยงโรคหื ดจนถึงอายุ 4 ปี
กำรเสริมสร้ ำงสมองให้ ว่องไวในกำรเรียนรู้
กำรเพิม
่ ควำมคมชัดของสำยตำ
ทำรกที่ มีสมองและจอประสำทตำ
เจริญอยำงรวดเร็
ว จะมี พัฒนำกำรดำน
่
้
ภำษำและกำรคนหำวั
ตถุ ช่วงอำยุ 6 – 12
้
เดือนเร็วขึน
้
 ควำมวองไวของพั
ฒนำกำรทำงสมอง
่
เช่น กำรบอกภำพ
กำรบอกคำศั พท ์
 กำรเพิม
่ ระดับเชำวปั
์ ญญำ
ทำรกทีไ่ ดรั
่ เทียบกับ
้ บนมแม่ เมือ
ทำรกทีไ่ ดรั
้ บนมผสมระดับเชำวปั
์ ญญำ
ในช่วงอำยุ
6 - 24 เดือนเพิม
่ ขึน
้
3.06 จุด

ป้องกันกำรเกิดโรคตำงๆ
่
กำรลดโอกำสกำรเกิดโรคตำงๆ
ดังนี้
่
 โรคอวน
้
 ปัญหำแนวฟันผิดรูป
 กำรเกิดโรคเรือ
้ รัง
- เบำหวำน ชนิดที่
1 และ
2
- โรคมะเร็งในวัยเด็ก
(นมแมอย
ยว 6
่ ำงเดี
่
เดือน)
acute lymphocytic leukemia 19%
acute myelogenous leukemia 15%
ผลดี ผลเสี ย ดูดจำกเตำ้
Vs ดูดจำกขวด
ดูดนมจำกเตำนม
้
ดูดนมจำกขวด

•
รูปปำกไมสวย
มีผลตอ
่
่
โครงสรำงฟั
นได้
้
•
ทำให้ทองอื
ดงำย
เพรำะ
้
่
อำจดูดลมในขวดเขำไป
้
เยอะ
•
มีควำมเสี่ ยงอวนได
ง้ ำย
้
่
เพรำะบำงทีลก
ู อิม
่ แลว
้
แตแม
่ พยำยำมให
่
้กินให้
หมดขวด




ลูกรูสึ้ กอบอุนเกิ
ดควำม
่
รักควำมผูกพันมำกขึน
้
ลูกมีรป
ู ปำกและรูป
ศี รษะทีส
่ วยงำม
รำงกำยแข็
งแรงมีภม
ู ิ
่
ต้ำนทำนโรคทีด
่ ี
อำรมณดี
์ นิ่ง สงบ
ใจเย็น
ดูดนมแบบเมำมันส์.flv
ประโยชนของกำรเลี
ย
้ งลูกดวยนมแม
้
่
์
ตอสุ
่ ขภำพแม่
1.
ผลดีตอสุ
งคลอด
่ ขภำพแมในระยะหลั
่
มดลูกเขำอู
้ เร็
่ ว
 ลดควำมเสี่ ยงจำกกำรตกเลือดหลัง
คลอด
 ช่วยคุมกำเนิด
ง
 ช่วยลดน้ำหนักของแมในระยะหลั
่
คลอด

้ งลูกด้วยนม
ประโยชน์ของกำรเลีย
แม่ต่อสุขภำพแม่
2. ผลดีตอสุ
่ ขภำพของแมในระยะยำวลด
่
ควำมเสี่ ยง โรคตำงๆดั
งตอไปนี
้
่
่
โรคเบำหวำนชนิดที่
2 (type 2
diabetes)
 โรคหัวใจขำดเลือด ควำมดันโลหิตสูง
และไขมันในเลือดสูง
 ภำวะกระดูกพรุน
 โรคมะเร็งเต้ำนม
มะเร็งรังไขชนิ
่
่ ดเยือ
บุผวิ

ช่วยลดน้ำหนักของแม่ในระยะหลัง
คลอด
กำรเลีย
้ งลูกดวยนมแม
จนถึ
ง
12
้
่
สั ปดำหจะช
่ วยให้แมมี
่ น้ำหนักตัวหลังคลอด
์
ลดลง และไขมันในรำงกำยลดลงมำกว
ำ่
่
แมที
้ งลูกดวยนมผสม
่ เ่ ลีย
้
 กำรสรำงน
้ำนมจะเผำผลำญพลังงำน 480
้
แครอลี่ /วัน
 แมที
้ งลูกดวยนมแม
จะมีไขมัน
่ ไ่ มเลี
่ ย
้
่
สะสมในลำไส้
รอยละ
28
้

ส่งผลดี ตอสุ
่ ขภำพในระยะยำว
o มีโอกำสเป็ นโรคอวนน
้
้ อยลง
โรคเบำหวำนชนิดที่
(type 2 diabetes)
2
แมที
ย
้ งลูกดวยนมแม
่ ไ่ มเคยเลี
่
้
่ มี โอกำส
เป็ น โรคเบำหวำนชนิดที่
2
มำกกวำแม
ที
้ งลูกดวยนมแม
อย
ยว
่
่ เ่ ลีย
้
่ ำงเดี
่
นำน
1-3 เดือน
1.5 เทำ่
 แมที
่ ไ่ ดรั
้ บกำรวินิจฉัยวำเป็
่ นเบำหวำน
ขณะตัง้ ครรภมี
์ โอกำสเกิดโรคเบำหวำน
ชนิดที่
2 ภำยหลังถึง
7.4 เทำ่
ของหญิงตัง้ ครรภปกติ
ถำเลี
้ งลูกดวยนม
้ ย
้
์
แม่ โอกำสเกิดโรคลดลง
กำรป้องกันนี้ เชือ
่ วำมี
กลไกหลำยอยำง
่
่
รวมกั
น
เช่น
่
 กำรมีน้ำหนักตัวลดลง

ลดควำมเสี่ ยงตอโรคหั
วใจขำดเลือด
่
ควำมดันโลหิตสูง และไขมันในเลือด
สูง
กำรศึ กษำในสตรีวย
ั หมดระดู
139,681
รำยพบว
ำ ้ งลูกดวย
โอกำสเกิดโรค
สตรีท่ไี่ มเลีย
(ร้อยละ
่
นมแม่
โรคหลอดเลือดหัวใจ
14.8
สตรีทเี่ ลีย
้ งลูกดวย
้
นมแมนำน
12
่
เดือน+
9.1
โรคควำมดันโลหิต
สูง
ไขมันในเลือดสูง
42.1
38.6
14.8
12.3
้
ภำวะกระดูกพรุน
กำรศึ กษำในสตรีวย
ั หมดประจำเดือน
619
คน
พบวำ่

สตรีทเี่ คยเลีย
้ งลูกดวยนมแม
มี
้
่ ภำวะกระดูก
พรุนตำ่ กวำสตรี
ทีไ่ มเคยเลี
ย
้ งลูกดวยนมแม
่
่
้
่
อยำงมี
นัยสำคัญทำงสถิต ิ
โดยเฉพำะ
่
สตรี ที่ มีประวัต ิ ตัง้ ครรภครั
์ ง้ แรกอำยุ
27 ปี รวมกั
บเคยเลีย
้ งลูกดวยนมแม
มี
่
้
่ ภำวะ
ทีม
่ ป
ี ระวัต ิ ตัง้ ครรภ ์
กระดูกพรุนตำ่ กวำสตรี
่
ครัง้ แรกที่ อำยุ <27 ป ีี และไมเคย
่
เลีย
้ งลูกดวยนมแม
อย
นัยสำคัญทำงสถิต ิ
้
่ ำงมี
่
โรคมะเร็งเต้ ำนม
กำรศึ กษำในประเทศศรีลงั กำ
พบวำ่
 แมที
12 - 23 เดือน
้ งลูกดวยนมแม
นำน
่ เ่ ลีย
้
่
ลดโอกำสกำรเกิดมะเร็งเตำนมลงร
อยละ
้
้
66.3 เมือ
่ เทียบกับแมที
้ งลูกดวยนมแม
่ ่ เลีย
้
่
นำน
0-11 เดือน
 เลีย
้ งลูกดวยนมแม
นำน
24-35 เดือน ลด
้
่
โอกำสกำรเกิดมะเร็งเตำนมเพิ
ม
่ ขึน
้ เป็ นรอย
้
้
ละ
87.4
 เลีย
้
งลู
ก
ด
วยนมแม
นำน
36-47
เดื
อ
น
ลด
้
่
De Silva M, et al. Prolonged breastfeeding reduces risk of
โอกำสกำรเกิ
ดมะเร็งเตำนมเพิ
ม
่ ขึน
้ เป็ นรอยละ
breast
cancer in Sri
้
้
่ บุผวิ
โรคมะเร็งรังไขชนิ
่ ดเยือ
(epithelial ovarian cancer)
กำรศึ กษำในสหรัฐอเมริกำ
(Nurses’ Health Study) ติดตำมสตรี ทีเ่ คยมี
บุตร
จำนวน
149,693 รำย
เป็ น
เวลำนำน
16 ปี
พบวำ่
 มี สตรี ที่ เป็ นมะเร็งรังไขชนิ
่ บุผวิ เพียง
่ ดเยือ
391 รำย
 กลุมสตรี
ที่ เลีย
้ งลูกดวยนมแม
่
่
้
่ โดยเฉลีย
นำน
9 เดือน ลดโอกำสเกิดมะเร็งรังไข่
ชนิดเยือ
่ บุ ผิวลงไดแต
มี
ั cancer
สำคัinญtwoทำงสถิ
ติ
้ riskไม
่ of ovarian
่ นย
Danforth KN, et al. Breastfeeding and
prospective
cohorts. Cancer Causes Control 2007;18:517-23.
 ถำใหไดนำน
18 เดือนหรือนำนกวำนั้นจะ
เพือ
่ ให้ ทำรกมี
 กำรเจริญเติบโตที่
เหมำะสม
กำรอนำมั
ยโลกและ
 พัฒนำกำรทีองค
ด
่ ี และ
์
กระทรวงสำธำรณสุ
ข
 สุขภำพแข็งแรง
ไดแนะน
้ งลูกด้วยนมแม่อย่ำง
ำให้แมเลี
้
่ ย
เดียวจนถึง
6
เดือน
จำกนั้นให้เลีย
้ งลูกดวย
้
นมแม่ ควบคูกั
่ บ
อำหำรตำมวัยไปจนลูกอำยุ 2 ปี