การวิเคราะห์สภาพการท างาน ตามหลักเออร์โกโนมิคส์ โดย ดร. สสิธร เทพตระการพร ส านักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม
Download ReportTranscript การวิเคราะห์สภาพการท างาน ตามหลักเออร์โกโนมิคส์ โดย ดร. สสิธร เทพตระการพร ส านักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม
การวิเคราะห ์สภาพการ ทางาน ตามหลักเออร ์โกโนมิคส ์ โดย ERGONOMIC S ERGO + NOM N OS คาจาก ัดความ : ศาสตร ์ในการจัดสภาพ งานให้เหมาะสมก ับ คนท างาน (Put the ่ : การศึก ษาคนในสิ งแวดล้ อมการทา right job to the right man) คาเหมือน : การยศาสตร ์, Human Factors, วิศวกรรมศาสตร ์ แพทย ์ศาสตรERGONOMI ์ CS สุขศาสตร สังคมศาสตร ์ ปร ับปรุงคุณภาพการทางานประสิทธิภาพ / ปล ่ * ให้ความสาคัญทีคน ว่ามีผลกระทบอ ่ ่ ออกแบบเครืองมื อ / เครืองจั กร สภา ่ เครืองมื อ ่ เครืองจั กร สถานี งาน ่ สิงแวดล้ อม ในการทางาน ้ เนื องาน • เทคโนโลยีใหม่ๆ • การฝึ กอบรม • ความพึงพอใจใ • ระบบบริหารจัด • การหยุดพัก • การทางานเป็ น ประสิทธิภาพ / ปลอดภัย / ความสบาย ข้อผิดพลาด ผลผลิต 1. ประสิทธิภาพ / ประสิทธิผล ่ 2. คุณภาพชีวต ิ : ลดความเมือยล้ า / ความเครียด ความสบาย ความสาคัญ • เครื่องมืออัตโนมัติ (automatic machine) และหุ่นยนต์ (robot) ถูก น ำมำใช้ แ ทนแรงงำนในงำนต่ ำ งๆได้ เ ป็ น อย่ ำ งดี ซึ่ ง เหมำะกั บ งำนที่มีรูปแบบตำยตัว ทำซำๆ เป็นจำนวนมำก • กำรทำงำนที่ไม่มีรูปแบบตำยตัว เช่น งำนก่อสร้ำง งำนประกอบ งำน ฝี มื อ งำนซ่ อ มบ ำรุ ง งำนบริ ก ำรต่ ำ งๆ งำนต ำรวจจรำจร พ่ อ ครั ว พนัก งำนโรงแรม พนัก งำนขับ รถ รวมถึง กิ จ กรรมในชี วิต ประจ ำวั น ของบุคคลทัว ่ ไป รวมทังพยำบำล และ หมอ ยังคงต้องใช้แรงกล้ำมเนือ (muscular work) ในกำรทำงำน การวิเคราะห ์งาน • เป็ นการศึกษารายละเอียดของาน ทาการบันทึก ่ และวิเคราะห ์ปั จจัยเสียงต่ อปั ญหาด้านการยศาสตร ์ ่ าคัญ โดยเน้นเรืองท่ ่ ทีส าทางและการใช้แรงของ ร่างกาย ในการทางานว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ่ ่ เพือจะได้ ทราบว่างานด ังกล่าวจะมีความเสียงต่ อ การบาดเจ็บหรือไม่อย่างไรหากต้องทางานต่อเนื่อง เป็ นเวลานานๆ เป็ นเดือนเป็ นปี ่ จากการวิเคราะห ์จะเป็ นแนวทางสาคัญใน • ผลทีได้ ่ ในการ การเฝ้าระวังปั ญหา รวมถึงเป็ นข้อมู ลทีใช้ ่ การวิเคราะห์งานด ้านการยศาสตร์ หมายถึง การดาเนิ นงานในการจัดเก็บและรวบรวม ข้อมู ลต่างๆ ด้วยเทคนิ ค ่ และวิธก ี ารต่างๆทีเหมาะสม เช่น การใช้ แบบสอบถาม แบบสารวจ ่ ่ ตรวจสอบ หรือ การวัดด้วยเครืองมื อต่างๆ เพือ ใช้ประโยชน์ในทาง ่ าคัญคือ การยศาสตร ์ ข้อมู ลทีส 1. คน 2. ลักษณะงาน หรือ การทางาน ่ ่ 3. ลักษณะเครืองมื อ/เครืองจักร และการ ใช้ ้ ใน ่ 4. ลักษณะของสถานี งาน และเนื อที ้ ขันตอนการวิ เคราะห ์งานทางการยศาสตร ์ รวบรวมข้อมูลเบืองต้น รวบรวมข้อมูลเบืองต้น ที่สำมำรถบ่งชีปัญหำได้ เช่น สถิติกำรบำดเจ็บ กำรลำหยุด/ลำป่วย ควำมถี่ในกำรพบแพทย์ ฯลฯ สำรวจ และบันทึก สภำพงำนจริง เดินสำรวจข้อมูลในสภำพจริง ทำกำรบันทึก โดยใช้เทคนิคต่ำงๆ เช่น วีดีโอ หรือ แบบประเมินและ เครื่องมือวัดต่ำงๆ วิเครำะห์ขอ ้ มูลและ ค้นหำปัจจัยเสี่ยง วิเครำะห์ข้อมูลที่ได้เพื่อหำสำเหตุ อำจดูจำก ภำระและปัจจัยเสี่ยง และระดับควำมรุนแรง สรุปผล เสนอวิธก ี ำรแก้ไข ประยุกต์ใช้ และติดตำมผล เดินสำรวจข้อมูลในสภำพจริง ใช้แบบตรวจสอบ แบบวิเครำะห์งำนต่ำงๆ ช่วยรวบรวมข้อมูล ่ ยมใช้ ต ัวอย่างแบบประเมินทีนิ แบบประเมิน ลักษณะและวิธใี ช้ การประยุกต ์ ข้อดี-ข้อเสีย RULA (Rapid upper limb assessment) ใช้ประเมินท่าทางการ ทางาน ด้วยระดับ คะแนน โดยแยกเป็ น ่ ส่วน ซึงจะบอกถึ ง ่ ความเสียงของปั ญหา ทางด้านการยศาสตร ์ โดยเฉพาะ MSDs ถู กออกแบบ สาหร ับการ ประเมินระดับ ปั ญหาทางการย ่ ได้ก ับ ศาสตร ์ ทีใช้ งานหลากหลาย แบบ โดย ่ การ เฉพาะงานทีมี ใช้แรงของไหล่ แขน และมือ การ นั่งทางาน หรือยืน ่ ควบคุมเครืองจั กร ไม่ได้ใช้การวัด ่ จากเครืองมื อ เป็ น การคาดคะเนจาก ้ สายตา ดังนันอาจ เกิดความ ่ คลาดเคลือนง่ าย ต้องอาศ ัยการ ฝึ กฝนและความ ชานาญของผู ้ วิเคราะห ์ Body discomfort ใช้ประเมินความรู ้สึก ผู ป ้ ฏิบต ั งิ าน โดย พิจารณาแยกเป็ นส่วน ต่างๆ ของร่างกาย ให้ ใช้เป็ นแบบ ้ ประเมินเบืองต้ นใน งานทุกประเภท ในการหา ข้อมู ลอาจเกิด การลาเอียงจากผู ้ ประเมินได้ง่าย ้ ขึนอยู ่ก ับเทคนิ ค ่ ยมใช้ ต ัวอย่างแบบประเมินทีนิ แบบประเมิน ลักษณะและวิธใี ช้ การประยุกต ์ ข้อดี-ข้อเสีย ่ เครืองมื อ ว ัดอ ัตรา การเต้น หัวใจ (Heart Rate Monitor) มีตวั ร ับสัญญาณติด ่ บ ก ับร่างกาย เพือจั สัญณาณการเต้นของ หัวใจ สามารถบันทึก ผลได้ตอ ่ เนื่ อง ข้อมู ล ใช้ประเมินภาระงาน โดยรวม และใช้ ประเมินการใช้ พลังงาน ่ แรงของ งานทีใช้ ร่างกายมาก มี ่ การเคลือนไหว มาก ทางานที่ อุณหภู มส ิ ู ง หรือ ่ การใช้ งานทีมี ้ กล้ามเนื อในภาวะ สถิตสู ง ต่อเนื่ อง นานๆ สัญญาณถู ก รบกวนง่ าย การ เต้นหัวใจมีความ ไวการวัดในระยะ ้ มากอาจไม่ สันๆ สามารถ ประเมินผลได้ OWAS (the Ovako ถู กพัฒนาใช้ใน ่ ประเทศฟิ นแลนด ์ เพือ ประเมินท่าทางการ ทางานในอุตสาหกรรม ใช้ประเมินท่าทาง ่ การทางาน เพือ พิจารณาว่า ท่าทางดังกล่าวมี ใช้ได้สะดวกและ ่ รวดเร็ว ง่ ายทีจะ เรียนรู ้ แต่ท่าทาง ่ และภาระงานทีใช้ ่ ยมใช้ ต ัวอย่างแบบประเมินทีนิ ่ เครืองมื อ ่ เครืองมื อวัด การ ่ เคลือนไหว (Motion Analyzer) ่ เครืองมื อ วด ั การ ่ เปลียนแปลง ทางไฟฟ้า ของ ้ กล้ามเนื อ (Electromy graphy: EMG) ลักษณะและวิธใี ช้ การประยุกต ์ ข้อดี-ข้อเสีย วัดการเปลีย ่ นระยะทาง มุม ความเร็ว ความเร่ง ระหว่างสว่ น ต่างๆ ของร่างกาย ขณะ เคลือ ่ นไหว ใชข้ ้อมูลในการ คานวณทางชวี กลศาสตร์ หาแรง กระทาต่ออวัยวะต่างๆ ของ ร่างกาย งานแบบพลวัต มีการ ทีเ่ คลือ ่ นไหวต่อเนือ ่ ง ่ งานยกของ นิยม เชน ้ ใชในงานวิ ทยาศาสตร์ การกีฬา ยุง่ ยาก แต่ให ้ความ ถูกต ้องกว่าการกะด ้วย สายตา ต ้องการ ้ ปรับเทียบ ใชเวลาในการ ติดตัง้ ไม่มข ี ้อมูลการใช ้ พลังงาน ั ญาณทาง เครือ ่ งมือบันทึกสญ ไฟฟ้ าจากกล ้ามเนือ ้ ผ่านทาง ั ญาณ เพือ ตัวรับสญ ่ ประเมินการใช ้ แรงของกล ้ามเนือ ้ รวมถึงวิเคราะห์ ความล ้า จากรูปแบบและผลของ ั ญาณ สญ ้ ้ทัง้ ในงานทีเ่ ป็ น ใชได แบบสถิตและพลวัต บางครัง้ ใชร่้ วมกับ เครือ ่ งมือวัดการ เคลือ ่ นไหว เพือ ่ หา แรงกระทาภายใน การวัดยุง่ ยาก ผู ้วัดต ้องมี ความชานาญ ในการติด เครือ ่ งมือ ต ้องปรับเทียบ และถูกรบกวนจาก ั ญาณต่างๆ ได ้ง่าย สญ ่ แผนภู มริ า่ งกายและความรู ้สึกปวดเมือย น ้อย 0 1 2 3 4 5 มาก ้ ขันตอนในการวิ เคราะห ์งานโดยใช้วธ ิ ก ี าร RULA (Rapid Upper Limb Assessment) ่ 1 การประเมินตาแหน่ งแขนส่วนบน ้ • ขันตอนที (upper arm) ้ ้ • คะแนนสู งสุดของขันตอนนี จะมี คา ่ ไม่เกิน 6 คะแนน ้ ่ 2 การประเมินตาแหน่ งแขนส่วนล่าง • ขันตอนที (lower arm หรือ forearm) ้ ้ คา • คะแนนสู งสุดในขันตอนนี มี ่ ไม่เกิน 4 คะแนน • ให้แยกประเมินระหว่างแขนซ ้ายและขาว flexion extension deviation ้ ่ 3 การประเมินตาแหน่ งมือและข้อมือ • ขันตอนที (hand และ wrist) ้ คา ้ มี ่ ไม่เกิน 4 คะแนน • คะแนนสู งสุดในขันตอนนี • ให้แยกประเมินระหว่างแขนซ ้ายและขาว ้ ่ 4 การประเมินการบิดข้อมือ (wrist • ขันตอนที twist) ้ ้ คา • คะแนนสู งสุดในขันตอนนี มี ่ ไม่เกิน 2 คะแนน • ให้แยกประเมินระหว่างแขนซ ้ายและขาว ้ ้ ่ 5 สรุปผลจากขันตอนที ่ 1-4 โดยใช้ตารา ขันตอนที Table A : Arm & Wrist Analysis Scores ้ ่ 6 ประเมินระดับการใช้แรงกล้ามเนื อใน ้ ขันตอนที การทางาน ้ ่ 7 ประเมินภาระงานทีท ่ า ขันตอนที ้ ่ 8 สรุปผลคะแนนการวิเคราะห ์ ขันตอนที ของแขนและมือ ้ ่ 5 – 7 ไว้ใน รวมผลคะแนนจากขันตอนที ้ ้ เพือใช้ ่ ขันตอนนี เปิ ดตาราง C ่ ในการประเมินผลร่วมกบ ั ร่างกายส่วนทีเหลื อ ้ ่ 9 การวิเคราะห ์ท่าทางของ ขันตอนที ศีรษะและคอ ้ ้ คะแนนสู งสุดในขันตอนนี จะมี คา ่ ไม่เกิน 6 คะแนน ่ 10 การวิเคราะห ์ตาแหน่ ง ้ ขันตอนที ของลาต ัว (trunk) ้ ้ คา คะแนนสู งสุดในขันตอนนี มี ่ ไม่เกิน 6 คะแนน ้ ่ 11 การประเมินท่าทาง ขันตอนที ของขาและเท้า ้ ้ เกิน 2 คะแนนสู งสุดในขันตอนนี ไม่ คะแนน ้ ่ 12 สรุปผลท่าทางการทางานจาก ขันตอนที ้ ่ 9-11 โดยใช้ตาราง B ขันตอนที ตาราง B เป็ นการสรุปผลท่าทางของคอ ลาตวั ขาและ Table B: Neck, Trunk & Leg Analysis Scores ้ ่ 13 ประเมินระด ับการใช้แรง ขันตอนที ้ กล้ามเนื อ ่ 14 ประเมินระดับภาระงาน จาก ้ ขันตอนที ่ น้ าหนักของหรือแรงทีใช้ ้ ่ 15 สรุปผลการวิเคราะห ์ ศีรษะ คอ ขันตอนที ลาต ัว ขา และเท้า ้ ่ 12 ซึงได้ ่ จากการ เป็ นผลรวมคะแนนจากขันตอนที เปิ ดตาราง B รวมก ับคะแนน ้ ่ 13 และ 14 คะแนนรวมทีได้ ่ ใส่ไว้ใน ในขั นตอนที ้้ ่้ 16 ขั นตอนที สรุ ป ผลระด ับคะแนนของ ่ ขันตอนนี เพือนาไปเปิ ดตาราง RULA ในตาราง C ในตาราง C สรุปผลของ RULA ่ ในขันตอนที ้ ่ 15 ้ ่ 8 และขันตอนที 16.1 นาค่าทีได้ ไปใช้ในการเปิ ดตาราง C ่ ดก ันระหว่างคะแนนทังสอง ้ ช่องทีตั ในตาราง C เป็ นระดับคะแนน สุดท้ายของ RULA Table C : Final Scores ่ ้ คะแนนสรุปจากขันตอนที 8 (มือ ข้อมือ) ้ ่ 15 (คอ ลาต ัว ข คะแนนสรุปจากขันตอนที การสรุปผลการวิเคราะห ์งานโดยใช้ RULA ้ • ระด ับ 1 : คะแนน 1-2 งานนันยอมร ับได้ แต่อาจ เป็ นมีปัญหาทางการยศาสตร ์ ้ ได้ถา้ มีการทางานด ังกล่าวซาๆ ต่อเนื่องเป็ นเวลานานกว่าเดิม ้ • ระด ับ 2 : คะแนน 3-4 งานนันควรได้ ร ับการ ้ พิจารณาการศึกษาละเอียดขึนและ ติดตามวัดผลอย่างต่อเนื่อง การ ออกแบบงานใหม่อาจมีความจาเป็ น ้ ่ นปั ญหา ควร • ระด ับ 3 : คะแนน 5-6 งานนันเริ มเป็ ่ L and ่ าการศึ ท กษาเพิมเติ มและรี บ E.N. (1993) RULA: a ทีมา : McAtamney, Corlett, servey methodดfor of งwork-related upper าเนิinvestigation นการปร ับปรุ ลักษณะงาน limb disorders, Applied Ergonomics, 24(2) 91-99 ดังกล่ าว อ้างอิงจาก : Professor Alan Hedge, Cornell University OWAS method หลัง แขน ขา ่ น้ าหนัก-แรงทีใช้ Person Work postures Workstation design • Furniture Person’s Output • Equipment well-being Performanc • EnvironmentWork activities Task Interactions among person, task, workstat