Document 7614005

Download Report

Transcript Document 7614005

 พัฒนาระบบการบริ หารจัดการ
 พัฒนาคน
 พัฒนาเครื่ องมือ วัสดุ อุปกรณ์
 พัฒนาสถานที่ สภาพแวดล้อม
 อื่นๆ
เพื่อให้ โรงพยาบาลมีระบบการบริหารจัดการ
ด้ านเครื่ องมือและอุปกรณ์ ทางการแพทย์ ทีม่ มี าตรฐาน
เพื่อให้ โรงพยาบาลมีระบบการจัดการข้ อมูลด้ านเครื่ องมือ
และอุปกรณ์ ทางการแพทย์ ทีม่ ปี ระสิ ทธิภาพและคุณภาพ
ส่ งเสริมและสนับสนุนให้ โรงพยาบาล
มีระบบ การบารุงรักษาทีเ่ ป็ นมาตรฐาน
เพื่อเพิม่ ขีดความสามารถ ในการซ่ อมและบารุงรักษา
ให้ กบั เจ้ าหน้ าที่ช่างของโรงพยาบาล
เพื่อให้ ผู้ใช้ และบุคลากรของโรงพยาบาล มีความรู้ความเข้ าใจในการใช้
การดูแลและบารุงรักษาเครื่ องมือและอุปกรณ์ ทางการแพทย์
อย่ างถูกต้ องและปลอดภัย
การตรวจประเมิน เพื่อการรับรองระบบ
ในส่ วนของกองวิศวกรรมการแพทย์
1.
2.
3.
4.
การฝึ กอบรม ( 5-6 หลักสู ตร/ปี )
ติดตั้งโปรแกรมการบริ หารจัดการ(RMC)
ให้การสนับสนุนเอกสาร คู่มือต่างๆ
ส่ งเจ้าหน้าที่ไปร่ วมดาเนินการ ในกิจกรรม
ต่างๆ ทั้งจากศูนย์และกองฯ
5. ให้คาปรึ กษา
6. ติดตามและประเมินผล
ในส่ วนของโรงพยาบาล
1.
2.
3.
4.
5.
ส่ งคนเข้ารับการฝึ กอบรม ในทุกหลักสู ตร
นาใช้ โปรแกรมการบริ หารจัดการ
ดาเนินกิจกรรมต่างๆ ตามมาตรฐานฯ
ศึกษาเอกสาร คู่มือต่างๆ
ประสานเจ้าหน้าที่ไปช่วยดาเนินการ ใน
กิจกรรมต่างๆ ทั้งจากศูนย์และกองฯ
6. ขอคาแนะนาต่างๆ
เป้ าหมาย ปี 2553
• โรงพยาบาลชุมชน / โรงพยาบาลทั่วไป
/โรงพยาบาลศูนย์
• จานวน 70 โรงพยาบาล
ความคาดหวังของกองวิศวกรรมการแพทย์
โรงพยาบาลทีเ่ ข้ าร่ วมโครงการมี
ระบบงานด้ านวิศวกรรมการแพทย์
ทีม่ ีประสิ ทธิภาพ
อย่ างน้ อย 4 ด้ าน
ความสาคัญของ
การบริหารจัดการระบบ
บารุงรักษาของโรงพยาบาล
ยุคโลกาภิวฒั น์
 โลกใบน้ อย
 การติดต่อด้ วย Internet
 การติดต่อด้ วยระบบ Cellular
 การพัฒนาระบบการบิน การขนส่ง
 การไหลเข้ ามาของวัฒนธรรม
 การค้ าไร้ พรมแดน
ยุคแห่งระบบคุณภาพ
 HA
 QA
 TQM, TQA
 PCT
 ISO
แล้ วเราจะอยูอ่ ย่างไร?
? 1000 เทคโนโลยี
? 1000 ยี่ห้อ/ผู้ขาย
กฎหมายคุ้มครองผู้รับบริ การ ?????
สารวจตนเอง
 อะไรบ้ างที่ไม่ร้ ู ?
 อะไรบ้ างที่ทาหรื อใช้ ไม่เป็ น ?
 อะไรบ้ างที่ยงั ไม่มีประสบการณ์ ?
 อะไรบ้ างที่ต้องการการอบรมและพัฒนา ?
 สถานะของเราอยูจ่ ดุ ไหนของระบบ ?
 จะให้ บริ การอย่างไร ?
สารวจองค์กรช่าง
 ทาหน้ าที่อะไร ?
 โครงสร้ างเป็ นอย่างไร ?
 งบประมาณเป็ นอย่างไร ? จุดรอดจุดตาย ?
 จะปรับปรุงให้ ดีขึ ้นอย่างไร ?
 แข่งขันได้ หรื อไม่ ?
บทบาทและหน้ าที่ของหน่วย
 สถานบริ การ ด้ านการดูแลเครื่ องมือแพทย์
 เป็ นแหล่งข้ อมูล และเครื อข่ายทางวิชาการ
 พัฒนาทรัพยากรบุคคล
 บริ หารงบประมาณ
การพัฒนาศักยภาพการให้บริ การ
 การบริ หารจัดการ: สะดวก สะอาด รวดเร็ว เอื ้อเฟื อ้
 การถ่ายทอดเทคโนโลยี
 จัดหาบุคลากรที่มีคณ
ุ ภาพ
 การซ่อมบารุง
 การตรวจสอบ/สอบเทียบ
Performance ของหน่วยงานช่าง
 รวดเร็ว ตรงต่อเวลา
 มีการบริ หารจัดการที่ดี
 มีทรัพยากรบุคคลดี
 ใช้ เทคโนโลยีค้ มุ ค่า
Expectation
Quality of Service
Man
Maintenance
Management
Technology
Service Safety
BOSS vs. Practice
ผู้บริหาร
 นโยบาย
 ปลอดภัยกับ
ผู้รับบริ การ
 ปลอดภัยกับผู้
ให้ บริ การ
 ชื่อเสียงองค์กร
ผู้ปฏิบัติ
 หน้ าที่
 ความปลอดภัยของ
ตนเอง
 ปลอดภัยกับผู้รับบริ การ
 วิชาการ ความก้ าวหน้ า
Clinical Safety
Disease
Cure
Duty
Quantity
ร้องเรี ยน ฟ้องร้อง
Quality
Exposure Risk
ร้องเรี ยน ฟ้องร้อง
Cause of Error
Changing of law, rules, regulation
Social and cultural changes
Service system
Advance in knowledge, innovation,
technology
Lack of personnel development
Clinical Safety
Risk
กลยุทธ์
1. หลีกเลี่ยงความเสี่ยง (ทบทวนและฝึ กอบรม)
2. ผ่องถ่ายความเสี่ยง (Consultation & referral system)
3. ป้องกันความเสี่ยง
- ระบบจัดเก็บ
- ระบบตรวจสอบและบารุงรักษา (Logbook)
- ระเบียบปฏิบตั ิ (Handbook)
- ระบบตรวจสอบ
การดาเนินงานของโรงพยาบาล
Input
Output
 งบประมาณ\รายรับ
 บุคลากร
 เทคโนโลยี
 เวชภัณฑ์
 อาคารสถานที่
 บริ การที่ดี
 การรักษามีประสิทธิภาพ
 บุคลากรก้ าวหน้ า\พึง
พอใจ
 มีรายได้
Medical Technology
 Investigation
 Diagnosis
 Monitoring
 Drug delivery
 Treatment
 HIS
 etc.....( 32 สาขา)
ความสาคัญของการจัดการระบบ
ผลกระทบด้ านลบ
 สิ้ นเปลืองงบประมาณ
 เป็ นภาระการบริ หาร
 เสี ยเวลา สิ้ นเปลืองคน
 เกิดความแตกแยก
 ผลกระทบด้านการรักษา
ผลกระทบด้ านบวก
 ประหยัดงบประมาณ
 แบ่งเบาภาระหน้าที่
 เกิดความก้าวหน้า
 เพิ่มประสิ ทธิภาพการ
รักษาพยาบาล
 ประชาชนพึงพอใจ
 สร้างรายได้
ปั ญหาการจัดการระบบ
การจัดซื ้อจัดหา
การเตรี ยมความพร้ อมด้ านสถานที่
การฝึ กอบรมดูงาน
การใช้ งานและบริ หารจัดการ
การบารุงรักษาและซ่อมแซม
การยกเลิกการใช้
การจัดหาทดแทน\จัดซื ้อเพิ่มเติม
ข้ อพิจารณาในการจัดหาเทคโนโลยี
 Want or Need ?
 ชนิดของเทคโนโลยี / ทางเลือก
 ซื ้อหรื อเช่า
 ผลกระทบต่อสภาพแวดล้ อม
 ประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ
 การบารุงรักษา
 ตัวแทนจาหน่าย\ผู้ให้ บริ การ
 ความคุ้มทุน
ความคุ้มทุน
รายจ่ าย
รายรับ
 Money
 Man
 Management
 Time
 Hardware, software
material, process
 Knowledge
 Satisfaction
 Saving
อุปสรรค
 ด้ านงบประมาณ
 ด้ านบุคลากร
 การเข้ าถึงเทคโนโลยี
 อื่นๆ
แนวทางแก้ ไข
 ประชุมฝึ กอบรมเชิงปฏิบตั ิการ
 ศึกษาต่อเนื่อง
 สร้ างเครื อข่าย
 Consultation
องค์กรที่สนับสนุน
 หน่วยเหนือ
 โรงพยาบาลข้ างเคียง
 องค์การอาหารและยา
 กองวิศวกรรมการแพทย์
 มาตรวิทยาแห่งชาติ
 สวทช. NECTEC, BIOTEC, MTEC
ตัวอย่ างโรงพยาบาลที่เป็ นแบบอย่ าง
ระบบบริหารจัดการที่ดี
รู ปแบบการปฏิบตั ิที่ดี Best practice
ผู้อานวยการ
โรงพยาบาล
ขนาด 30 เตียง
ห้ องตรวจ
โรงพยาบาล
ขนาด 100 เตียง
หอผู้ป่วย
ห้ องแล็ป
ห้ องผ่าตัด
โภชนาการ
ซักฟอก
สิ่ งแวดล้อม
พัสดุ
การเงิน
ช่ าง
ยานพาหนะ
ห้ องตรวจ
เฉพาะทาง
ฉุกเฉิน
ยาม
ธนาคารเลือด
ห้ องคลอด
ห้ องเก็บศพ
X-ray
computer
ห้ องทะเบียน
ประวัตผิ ้ ปู ่ วย
ห้ องผ่าตัด
เฉพาะทาง
บาบัดนา้ เสี ย
หอผู้ป่วยพิเศษ
สั งคม
สงเคราะห์
หอผู้ป่วยหนัก
ช่ างอุปกรณ์
การแพทย์
ห้ องจ่ ายยา
แนวทางการวางแผน
การบารุงรักษาเครื่ องมือแพทย์
ในโรงพยาบาล
เรื่ องดี ๆ ทีต่ ้ องช่ วยกันทาให้ ง่าย ๆ และ
เกิดประโยชน์ กบั ทุกฝ่ าย
การบริหารองค์ กรในยุคใหม่
มีการมุ่งเน้ นการพัฒนามาตรฐานและ
คุณภาพในหลาย ๆ ด้ าน ได้ แก่
QA Quality Accreditation
HA Hospital Accreditation
ISO International Standard Organization
บุคลากร
-ผู้อานวยการ /
-พยาบาล
-เจ้ าหน้ าที่ช่าง
-พัสดุ
รองผู้อานวยการ
ผู้บริหารทีด่ ูแลรับผิดชอบ การจัดการเครื่ องมือ
ผู้บริหารด้ านงานช่ าง
ผู้บริหารด้ านงานโรงพยาบาล
ผู้บริหารด้ านงานพัสดุ
แผนการจัดการเครื่ องมือ
การดาเนินการเพื่อบรรลุสู่ เป้าหมาย
• การกาหนดวิสัยทัศน์ และพันธกิจ
•การกาหนดกลยุทธ์ ในการดาเนินการเพื่อบรรลุพนั ธกิจ
•การดาเนินกลยุทธ์ ในการดาเนินการ
•การควบคุมให้ เป็ นไปตามเป้าหมายทีก่ าหนด
•การประเมินผลการดาเนินการ
•การให้ ผลตอบแทนตามความเหมาะสม
Strategic
Development
Plan
SWOT
แนวคิดการวางแผนบารุ งรักษา
Outcome
Do
Check
Operation
Self
assessment
Benchmarking
Act
แนวทางการจัดการเครื่ องมือ (Equipment Mangaement)
ความเพียงพอของเครื่ องมือ
การจัดกลุ่มประเภทเครื่ องมือ
หลักเกณฑ์ และกลไกในการคัดเลือก/ประเมินเครื่ องมือ
ความรู้ ของผู้ใช้ เครื่ องมือ
การบารุงรักษา (PM : Preventive maintenance)
การซ่ อม เมื่อเครื่ องมือชารุด
การสอบเทียบค่ า (Calibration)
แผนการจัดการเครื่ องมือในอนาคต
ความเพียงพอของเครื่ องมือและวัสดุอปุ กรณ์
เครื่ องมืออุปกรณ์ มเี พียงพอต่ อการใช้ งาน
เพียงพอตามมาตรฐาน โดยการแบ่งเครื่ องมือตามลักษณะของหน่วยงาน
มีศูนย์สารองเครื่ องมือ
ศูนย์เครื่ องช่วยหายใจ
ศูนย์เครื่ องควบคุมการให้สารละลายทางหลอดเลือดดา
หน่วยงานมีความประสงค์ตอ้ งการเครื่ องมือเพิ่มเติม ต้องทาแผน
และขออนุมตั ิจากผูบ้ ริ หาร
การจัดประเภทเครื่ องมือให้ เพียงพอ ตามหน่ วยงาน
หอผู้ป่วยฉุกเฉิน
EKG
NIBP
Ventilator
Defibrillator
Oxygen Saturation
Doppler
Infusion Pump
Syringe Pump
EKG Recorder
Light Source
Suction
Gas Flow Meter
Opthalmoscope
หอผู้ป่วยหนัก
EKG
NIBP
Ventilator
Defibrillator
Oxygen Saturation
Infusion Pump
Syringe Pump
Cardiac Output Monitor
Fetal Monitor
Pulse Oximeter
Central Monitor
Light Source
Gas Flow Meter
Opthalmoscope
หอผู้ป่วยสามัญ
BP. Monitor
Defibrillator
EKG Recorder
Pulse Oximeter
Light Source
Suction
Gas Flow Meter
Opthalmoscope
Blood Pressure
มีระบบสารองเครื่ องมือและวัสดุการแพทย์ ทจี่ าเป็ น
พร้ อมทีจ่ ะใช้ ในการให้ บริการได้ ตลอดเวลา
Brand Terumo
Model TE-311
S/N 99120034
เลขพัสดุ HI 6515-029-001/42 (1)
วันรับ 8 พ.ค. 2543
ราคา 60,000
ตัวแทน บริ ษทั อัลลายด์ เมดิคอล
เครื่ องควบคุมการให้สารละลาย (Terumo) ชนิดใช้กระบอกฉี ดยา
ครุ ภณั ฑ์เงินบริ จากสลากกินแบ่งรัฐบาล
รายละเอียด
Brand Ohmeda
Model Excel 210SE
S/N AMAA04541
เลขพัสดุ 6515-01-01/2/1-40
วันรับ 7 พ.ย. 2540
ราคา 850,000 บาท/เครื่ อง
ตัวแทน บริ ษทั สุ พรี มโปรดักส์
รายละเอียด เป็ นเครื่ องดมยาสลบ มีระบบควบคุม ventilator ด้วยไฟฟ้า เงินงบประมาณปี 40 สัญญา พ 258/41
ทะเบียนเอกสาร 74/40 ใช้ventilator รุ่ น 7800 (มี 9 เครื่ อง)
ลาดับ
1.
2.
3.
4.
5.
6.
รายการ
การบารุ งรักษา
C
V
P
S
Thermometer
Defibrillator
เครื่ องดมยาสลบ
Autoclave
เครื่ องวัดความดัน
ตูอ้ บเด็ก
C=calibration V=Verification P=Preventive Maintenance S=Standard
มีระบบบันทึกการบารุงรักษาเครื่ องมือทีม่ ีประสิทธิภาพ
- มีบันทึกประวัติของเครื่ อง
- มีบันทึกปัญหาที่เกิดขึน้ กับเครื่ อง
- มีระบบการซ่ อมเครื่ องมือ
มีระบบบารุงรักษาเครื่ องมือทีม่ ปี ระสิ ทธิภาพ
- มีคู่มือปฏิบตั ใิ นการดูแลรักษาเครื่ องมือ
- มีระบบในการดูแลเครื่ องมือ
- หรื อมีระบบทีจ่ ะติดต่ อหน่ วยบริการ
นอกโรงพยาบาลได้ ทันที
การแบ่ งประเภทเครื่ องมือ
1. กลุ่มสอบเทียบค่ า (Calibration)
2. กลุ่มสอบทวน (Verification of Calibration)
3. กลุ่มบารุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive maintenance)
4. กลุ่มมาตรฐานเทียบเคียง (Standard)
5. กลุ่มประหยัดพลังงาน (Safe Energy)
6. อื่น ๆ (Others)
วิธีการบารุ งรักษา
• ทาตามโปรแกรม
• การทดสอบหน้ าที่ (Performance test)
• การทดสอบความปลอดภัย (Safety test)
PREVENTIVE MAINTENANCE (PM)
การตรวจสอบและบารุ งรักษาเครื่ องมือเป็ นระยะ ตามกาหนดระยะเวลา
ที่ได้วางแผนไว้อย่างเหมาะสม
เพื่อป้องกันเครื่ องมือชารุ ดจนต้องหยุดการใช้งาน
เพื่อลดความเสี่ ยงที่จะเกิดขึ้นกับเครื่ องมือ
เพื่อให้เกิดความมัน่ ใจว่าเครื่ องมือจะทางานที่ถูกต้องอย่างต่อเนื่อง
การบารุ งรักษาเชิงป้องกัน 2 วิธี คือ
Shut Down Maintenance เป็ นการบารุ งรักษาชนิดที่ตอ้ งหยุดการใช้งาน
Running Maintenance เป็ นการบารุ งรักษาที่ไม่ตอ้ งหยุดการใช้งานเครื่ องมือ
PREVENTIVE MAINTENANCE (PM)
5 ขั้นตอนในการบารุงรักษาเชิงป้ องกัน
1. การตรวจสอบสภาพทัว่ ไปด้วยสายตา (Visual Inspection)
2. การทาความสะอาดภายใน และภายนอก (Cleanliness)
3. การทดสอบหน้าที่การทางาน (Functional Test)
4. การทดสอบสมรรถภาพ (Performance Test)
5. การทดสอบความปลอดภัยทางไฟฟ้า (Safety Test)
กาหนดระยะเวลาในการบารุงรักษาเครื่ องมือ
บารุ งรักษาทุก 3 เดือน
บารุ งรักษาทุก 6 เดือน
บารุ งรักษาทุก 12 เดือน
PREVENTIVE MAINTENANCE (PM)
การบารุงรักษาทุก 3 เดือน
ใช้กบั เครื่ องมือที่มีความเสี่ ยงต่อชีวิตผูป้ ่ วยขณะใช้ทาการรักษาอย่างสู ง
EKG, Defibrillator, Ventilator, Vital Sign Monitor, Capnograph
การบารุงรักษาทุก 6 เดือน
ใช้กบั เครื่ องมือที่มีความเสี่ ยงต่อชีวิตผูป้ ่ วย ระดับปานกลาง
Oxygen Blender, CPM, Echo Camera, Gas Flow Meter, laryngoscope
การบารุงรักษาทุก 12 เดือน
ใช้กบั เครื่ องมือที่มีความเสี่ ยงต่อชีวิตผูป้ ่ วย ระดับน้อยมาก
ที่นอนลมกันแผลกดทับ, Double Outlet, Voltage Stabilizer
การแสดงผลการตรวจสอบ
• วัน เดือน ปี ที่ตรวจสอบ
• วัน เดือน ปี ทีค่ รบกาหนดตรวจสอบครั้งต่ อไป
• ผลการตรวจสอบ
• ชื่ อผู้ตรวจสอบ
ตัวอย่ าง Sticker สี ส้ม (การบารุ งรักษา)
การบารุ งรักษาตามกาหนดเวลา
เลขรหัส
วันดาเนินการ
วันครบกาหนด
ผู้ดาเนินการ
หมวดอุปกรณ์ การแพทย์
หน่ วยอิเลคทรอนิคส์ คณะแพทยศาสตร์ มช.
ตัวอย่ าง Sticker สี ส้ม (การบารุ งรักษา เครื่ องมือเล็ก)
ครบกาหนด
ผู้ดาเนินการ
MET.
ตัวอย่ าง Sticker สี เขียว (สอบเทียบ)
การสอบเทียบมาตรฐานอุปกรณ์ชีวการแพทย์
วันดาเนินการ
วันครบกาหนด
ช่ างผู้ดาเนินการ
หมวดอุปกรณ์ การแพทย์ หน่ วยอิเลคทรอนิคส์
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
053-945230 , 945130 Fax. 053-946230
ผลดีของการทาการบารุงรักษา
- ลดค่ าใช้ จ่ายในการซ่ อม
- ยืดอายุการใช้ งานของเครื่ อง
- ลดเวลาที่เครื่ องเสี ยลง
- มั่นใจในความถูกต้ อง
- มีแผนดาเนินการทีช่ ัดเจน
ผลเสี ย เมื่อไม่ มกี ารบารุงรักษา
- ค่ าใช้ จ่ายในการซ่ อมสู ง
- อายุการใช้ งานของเครื่ องสั้ นลง
- ไม่ มีความมั่นใจในความถูกต้ อง
- ไม่ มีแผนดาเนินการทีช่ ัดเจน
การรวมศูนย์ เครื่ องมือ
มีการจัดการรวมศูนย์ฯเครื่ องมือ
- 1. ศูนย์เครื่ องช่วยหายใจชนิดควบคุมด้วยความดัน (Bird Respirator)
- 2. ศูนย์เครื่ องควบคุมการให้สารละลาย (Infusion Pump - Syringe Pump)
รายการ
เครื่ องช่วยหายใจเบิร์ด
Volume Ventilator (เช่าซื้อ)
Infusion Pump (เช่าซื้อ)
Syringe Pump
จานวน
103
80 + 30
232 + 100
95 + 50
หลักเกณฑ์ และกลไกในการคัดเลือก/ประเมินเครื่ องมือและอุปกรณ์
พิจารณาตามวัตถุประสงค์การใช้งานตามความจาเป็ นและความต้องการ
ของผูใ้ ช้และหน่วยงาน
พิจารณาข้อดี ข้อเสี ย ของแต่ละเครื่ อง ทั้งจากการทดลองใช้
และสอบถามจากหน่วยงานผูท้ ี่เคยใช้
ราคาภายในวงเงินงบประมาณที่กาหนด
สื บค้นและศึกษาข้อมูลที่จาเป็ น ด้านบริ ษทั ผูข้ าย ความน่าเชื่อถือ ชนิด
รุ่ น ราคา คุณภาพ ข้อเด่น ข้อด้อย ของแต่ละเครื่ อง แต่ละรุ่ น
ความมัน่ คงของบริ ษทั และบริ การหลังการขาย
กาหนดให้ มีคู่มือการใช้ Service Manual และกาหนดการรับประกัน
การอบรมให้ กบั ผู้ใช้ (แพทย์ พยาบาล) และช่ าง
เครื่ องมือพิเศษ (ตัวอย่ าง)
เครื่ องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์
เครื่ อง MRI
เครื่ อง Cath Lab
เครื่ องดมยาสลบ
เครื่ องหัวใจและปอดเทียม
เครื่ องสลายนิ่ว
เครื่ องช่วยหายใจ
เครื่ องเฝ้าติดตามการทางานระบบหัวใจ
เครื่ องไตเทียม
ความรู้ ของผู้ใช้ เครื่ องมือพิเศษ
กาหนดในสัญญาจัดซื้อ ให้ผขู ้ ายจะต้องส่ งมอบคู่มือการใช้ให้กบั ผูใ้ ช้
คู่มือการซ่อมให้กบั ช่าง
ทุกครั้งที่บริ ษทั ส่ งมอบเครื่ อง ต้องจัดให้มีการอบรมผูใ้ ช้งานทุกกลุ่ม และช่าง
จัดให้มีแนวทางการป้องกันความเสี ยหายโดย
ช่างจัดทาคู่มือแนะนาการใช้งานสาหรับเครื่ องมือ และแนะนาการใช้งาน
เป็ นวิทยากร อบรม ให้ความรู ้กบั พยาบาล (ร่ วมกับฝ่ ายการพยาบาลฯ)
กาหนดแผนการบารุ งรักษาให้กบั เครื่ องมือ
 กรณี มีอุบตั ิการณ์ที่ทาให้เครื่ องมือเสี ยหาย ช่างจะสรุ ปหาสาเหตุและ
ชี้แจงให้กบั ผูใ้ ช้ได้ทราบ
แนวทางการป้ องกันการชารุดของเครื่ องมือ
โอกาสการพัฒนา
1. ชารุ ดด้ านเทคนิค - วิศวกรรมของเครื่ องมือ
- ตรวจเช็คระบบป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร, ไฟฟ้ารั่ว ตามระยะเวลาการบารุ งรักษา
- แนะนาการติดตั้ง UPS, เครื่ องรักษาระดับแรงดันไฟฟ้า
2. ชารุ ดด้ านอายุการใช้ งาน - การเสื่ อมสภาพ
- ตรวจสอบแบตเตอรี่ ตามระยะเวลาการบารุ งรักษา
- ทาคู่มือแนะนาการใช้แบตเตอรี่ การชาร์จแบตเตอรี่
3. ชารุ ดจากผู้ใช้ ใช้ ผดิ วิธี
- ทาคู่มือแนะนาการใช้ ติดไว้กบั เครื่ องมือสาคัญๆ
- ให้การอบรมการใช้งานประจาปี , แนะนาการใช้งานยังจุดผูใ้ ช้บริ การ
4. ชารุ ดจากอุบัตเิ หตุ ทีเ่ กิดจากผู้ป่วย
- ให้คาแนะนาและชี้แจงเพื่อป้องกัน และให้ผใู ้ ช้ได้ทราบถึงค่าใช้จ่ายที่เสี ยหาย
การสอบเทียบมาตรฐาน (CALIBRATION)
ทาการสอบเทียบมาตรฐาน โดยเน้นเครื่ องมือที่มีความเสี่ ยงต่อผูป้ ่ วยใน
ระดับสู ง
จุดประสงค์ เพื่อรับประกัน
ความถูกต้อง (Validity)
ความเที่ยงตรง (Reliability)
ผูใ้ ช้มีความมัน่ ใจในการใช้งาน
มี Sticker แสดงวันสอบเทียบครั้งสุ ดท้ายติดที่ตวั เครื่ อง
Sticker สี ส้ม เพื่อนัดหมายการบารุ งรักษาเชิงป้องกัน ในครั้งถัดไป
Sticker สี เขียว เพื่อนัดหมาย การสอบเทียบมาตรฐาน ในครั้งถัดไป
การสอบเทียบมาตรฐาน
เครื่ องมือทีน่ ามาดาเนินการสอบเทียบมาตรฐาน
เครื่ องมือสอบเทียบมาตรฐาน
เครื่ องมือแพทย์ ที่นามาสอบเทียบ
1. Gas Flow Analyzer
เครื่ องช่ วยหายใจ , Gas Flow Meter , Suction
2. SPO2 Monitor Analyzer
เครื่ อง Pulse Oximeter
3. International Safety Analyzer
เครื่ องมือทุกประเภททีใ่ ช้ ระบบไฟฟ้า
4. Defibrillator Analyzer
เครื่ อง Defibrillator
5. Electrosurgical Analyzer
เครื่ องตัดจีผ้ ่ าตัดด้ วยไฟฟ้า
6. Non Invasive Pressure Monitor Anlyzer เครื่ อง BP , NIBP
7. Infusion Analyzer Device
เครื่ อง Infusion Pump , Syringe Pump
8. Incubator Analyzer Device
ตู้อบเด็กทารก
การวัดผล ตัวชี้วดั อุบัตกิ ารณ์ เกีย่ วกับการจัดการเครื่ องมือ
อัตราการซ่อมเสร็ จต่อเดือนคิดเป็ นเปอร์เซ็นต์ 90.3 %
อัตราการบารุ งรักษาต่อเดือนที่ทาเสร็ จ 98.8 %
อัตราความพึงพอใจของผูร้ ับบริ การ
(ดีมาก 26% ดี 52% พอใช้ 15% ปรับปรุ ง 7%)
รายงานอุบตั ิการณ์ปี 2547 เกิดอุบตั ิการณ์ 15 ครั้ง
จานวนการฝึ กอบรม ดูงานของบุคลากร
(มากกว่า 20 ครั้ง/ปี เจ้าหน้าที่ได้รับการอบรมตามงานที่เกี่ยวข้อง)
Patient Safety Goal
มาตรการเพื่อความปลอดภัยในการใช้เครื่ อง Infusion Pump
การคัดเลือกเครื่ อง Infusion pump
1. กาหนดคุณลักษณะเครื่ อง จะต้องมีระบบ Free flow protection
2. จากัดชนิดของ Infusion pump และรุ่ น ให้นอ้ ยที่สุด
3. จัดระบบประเมิน และการคัดเลือกชุด IV
การใช้ เครื่ อง
1. มีคู่มือ และคาแนะนาติดไว้ทุกเครื่ อง
2. กาหนดเป็ นมาตรฐานเชิงนโยบายสหสาขา
ให้ใช้เครื่ องตามที่จาเป็ นและเหมาะสมกับผูป้ ่ วยเท่านั้น
3. เจ้าหน้าที่พยาบาล ต้องได้รับการอบรม การใช้เครื่ องทุกคน
การบารุ งรักษา
1. เครื่ องต้องได้รับการบารุ งรักษา (ทุก 3 เดือน) และสอบเทียบทุกเครื่ อง (ทุก 1 ปี )
ระบบไฟฟ้ า
ขั้นตอนการปฏิบัติเมื่อระบบไฟฟ้าขัดข้ อง
- มีข้นั ตอนการตรวจเช็ค
เมื่อระบบไฟฟ้ าขัดข้ อง
- มีการตรวจเช็คบารุงรักษา
เป็ นประจา ทุกวันศุกร์
- มีระบบ ATS จ่ ายกระแสไฟฟ้ า
ในจุดสาคัญภายใน 9-15 วินาที
- มีระบบสารองนา้ มันดีเซล
ระบบไฟฟ้ า
- มีรายงาน Maintenance Report
รายงานการตรวจเช็ค ซ่ อมบารุ งเครื่ องกาเนิดไฟฟ้ า
Preventive
Maintenance
PM
Equipment Lifecycle
Installation
Acceptance testing and
approval
Clinical use
Planned maintenance and
unplanned maintenance
(corrective)
Decommissioning/Disposition
Col Lin Yeo
สาเหตุการชารุ ดของเครื่ องมือ
การใช้ งานผิดพลาด
-
ผู้ควบคุม/ผู้ใช้ มีความรู้ ไม่ เพียงพอ หรื อ ใช้ อุปกรณ์ ต่างๆ ไม่ ถูกต้ องตามข้ อกาหนด
ของเครื่ องนั้นๆ หรื อ ใช้ งานเกินความสามารถของเครื่ อง
เครื่ องมือเครื่ องใช้ ด้อยคณ
ุ ภาพ
-
การออกแบบผิดพลาด หรื อ ชิ้นส่ วน /อุปกรณ์ ไม่ มคี ุณภาพ หรื อ การควบคุมคุณภาพ
ในการผลิตเครื่ องไม่ ดพี อ
ขาดการบารุงรั กษา หรื อ การบารุงรั กษาไม่ ถูกต้ อง
สภาพแวดล้ อมในทีใ่ ช้ งานไม่ เหมาะสม
การเสื่อมสภาพตามอายกุ ารใช้ งาน
อบุ ัติเหตุ
ภัยธรรมชาติ
ความหมายของการบารุ งรักษา
การบารุงรักษา ( Maintenance )
หมายถึง :-
“ การพยายามรักษาสภาพของเครื่ องมือ
พร้ อมอุปกรณ์ ต่างๆ ให้ มีสภาพที่พร้ อม
ใช้ งานอยู่ตลอดเวลา อย่ างมีประสิ ทธิภาพ
และปลอดภัย ”
เป้ าหมายของการบารุงรักษา





เครื่ องมีความพร้อมใช้งาน
เครื่ องมีความเชื่อถือได้
เกิดความปลอดภัย
เกิดสภาพแวดล้อมที่ดี
ค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม
สาเหตุที่ทาให้เครื่ องมือเกิดการชารุ ด
อัตราการชารุด
สามารถแบ่งช่วงเวลาออกได้เป็ น 3 ช่วง
ก
ข
ช่วงเวลา
ค
อัตราการชารุด
ก
ข
ค
ช่วงเวลา
ช่วงเวลา
สาเหตุ
ก. ช่วงการชารุดเริม่ แรก
- ความผิดพลาดจากการออกแบบ
ข. การชารุดช่วงสอง
- การใช้ งานไม่ถูกวิธี
- ชิน้ ส่ วน/อุปกรณ์ ด้ อยคุณภาพ
ค. ช่วงการชารุดจากการสึกหรอ
- ขาดการบารุงรักษา
- เสื่ อมสภาพตามอายุการใช้ งาน
- การควบคุมคุณภาพในการผลิ ตเครื่องไม่ดี
การแก้ไข - การตรวจสอบ
- การเดินเครื่องทดสอบ
- การป้องกันการบารุงรักษา
- ใช้ งานให้ ถูกต้ อง
- การบารุงรักษาเชิงป้องกัน
- มีการแนะนา / ฝึ กอบรม
- การบารุงรักษาเชิงแก้ไขปรับปรุง
- การบารุงรักษาหลั งเกิดเหตุขัดข้ อง
สมรรถนะ
PM
PM
PM
100%
ยอมรับได้
ยอมรับไม่ได้
0
Concept of Preventive Maintenance
เวลา
มาตรฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพ
ฉบับเฉลิมพระเกียรติ ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี
ตอนที่ I
การวัด วิเคราะห์ และจัดการความรู้
การวางแผน
กลยุทธ์
การมุ่งเน้ น
ทรัพยากรบุคคล
การมุ่งเน้ นผูป้ ่ วย
และสิทธิผปู้ ่ วย
การจัดการ
กระบวนการ
การนา
ตอนที่ IV
ด้านการดูแลผู้ป่วย
ด้านการมุ่งเน้ นผู้รบั ผลงาน
ผลการ ด้านการเงิน
ดาเนินงาน ด้านทรัพยากรบุคคล
ด้านประสิทธิผลของกระบวนการ
ด้านการนา
ด้านการสร้างเสริมสุขภาพ
ระบบงานสาคัญของ รพ. ตอนที่ II
ความเสี่ยง ความปลอดภัย คุณภาพ
การกากับดูแลวิ ชาชีพ
สิ ง่ แวดล้อมในการดูแลผูป้ ่ วย
การป้ องกันการติ ดเชื้อ
ระบบเวชระเบียน
ระบบจัดการด้านยา
การตรวจทดสอบ
การเฝ้ าระวังโรคและภัยสุขภาพ
การทางานกับชุมชน
กระบวนการดูแลผูป้ ่ วย
ตอนที่ III
กระบวนการดูแลผูป้ ่ วย
การเข้าถึงและเข้ารับบริการ
การประเมินผู้ป่วย
การวางแผน
การดูแลผู้ป่วย
การให้ข้อมูลและเสริมพลัง
การดูแลต่อเนื่ อง
I – 4.2 การจัดการสารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศ และการจัดการความรู ้
(Management of Information, Information Technology, and Knowledge Management)
องค์กรสร้างความมั ่นใจว่ามีข้อมูล สารสนเทศ ซอฟท์แวร์ และฮาร์ดแวร์ ที่จาเป็ น มีคณ
ุ ภาพ
และพร้อมใช้งาน สาหรับบุคลากร / ผูป้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงาน องค์กรสร้างและจัดการสินทรัพย์
ความรู้ของตนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผลขององค์กร
ก. การจัดการทรัพยากรสารสนเทศ
ความต้องการ
ออกแบบ
บุคลากร/ผูบ้ ริหาร
ผูป้ ่ วย/ผูร้ บั ผลงาน
องค์กรภายนอก
จัดการ
2
Hardware & Software
3
พร้อมใช้ในภาวะฉุกเฉิน
4
ปรับปรุงกลไกและระบบ
1
2
ข้อมูลพร้อมใช้
เข้าถึง
เชื่อถือได้ ป้ องกันข้อมูลรัวไหล
่
ใช้งานง่าย
ทันความต้องการ
ทิศทางบริการสุขภาพ
การเปลีย่ นแปลงเทคโนโลยี
ค. คุณภาพ
ข้อมูล/ความรู้
ใช้ประโยชน์
การดูแลผูป้ ่ วย
การบริหารจัดการ
การตรวจสอบทางคลินิก
การพัฒนาคุณภาพ
การศึกษา และการวิจยั
1
รักษาความลับ
ถูกต้อง
น่ าเชื่อถือ
ทันการณ์
ปลอดภัย
ข. การจัดการความรู้
รวบรวม/ถ่ายทอดความรูข้ องบุคลากร
ถ่ายทอด/แลกเปลีย่ นความรู้
แลกเปลีย่ นวิธกี ารปฏิบตั ทิ ด่ี ี นาสูก่ ารปฏิบตั ิ
นาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาใช้
I – 5.2 สภาพแวดล้อมของบุคลากร (Staff Environment)
องค์กรบริหารขีดความสามารถและอัตรากาลัง เพื่อให้งานขององค์กรบรรลุผลสาเร็จ
องค์กรจัดให้มีสภาพแวดล้อมในการทางานและบรรยากาศที่สนับสนุนให้บคุ ลากรมีสุขภาพดี
และมีความปลอดภัย
ก. ขีดความสามารถและความเพียงพอ
1
ประเมิ นความต้องการ
กาหนด/มอบหมายหน้ าที่
2
สรรหา ว่าจ้าง จัดวาง ธารงรักษา
ตรวจสอบ/ประเมิ นคุณสมบัติ
3
บริ หาร/จัดระบบ บุคลากร
4
เตรียมให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง
ขีดความสามารถ
อัตรากาลัง
ข. บรรยากาศในการทางาน
1
ที่ทางานเอื้อต่อสุขภาพ/
ความปลอดภัย
2
ดูแลและเกื้อหนุน
นโยบาย
การจัดบริการ
สิทธิประโยชน์
ค. สุขภาพบุคลากร
ใช้ประโยชน์จากความ
เชีย่ วชาญพิเศษขององค์กร,
มุง่ เน้นผูป้ ่ วย, ผลงานเป็ นไป
ตามความคาดหวัง, คล่องตัว
1
ดูแลสุขภาพตนเอง เรียนรู้ ตัดสินใจ ปฏิบตั ิ
2
เป็ นแบบอย่างพฤติ กรรม
3
ป้ องกันความเสี่ยงจากการทางาน
TB, HBV, HIV, Sharp Inj, Lab Chemicals,
Anesthetic Gas, Chemotherapeutic Agent
ประเมิ นสุขภาพเมื่อแรกเข้าทางาน
ความสาเร็จ
ขององค์กร
4
5
สุขภาพดี
ปลอดภัย
6
ได้รบั ภูมิค้มุ กันโรค
7
ดูแลเมื่อเจ็บป่ วย/สัมผัสเชื้อ
ตรวจสุขภาพเป็ นระยะ
มีขอ้ ตกลงร่วมกัน
I – 6.1 การออกแบบระบบงาน (Work Systems Design)
องค์กรกาหนดงานที่เป็ นความเชี่ยวชาญพิเศษของตน ออกแบบระบบงาน และกระบวนการ
สาคัญ เพื่อส่งมอบคุณค่าให้แก่ผปู้ ่ วย / ผูร้ บั ผลงานอื่นๆ พร้อมสาหรับภาวะฉุกเฉิน และบรรลุ
ความสาเร็จขององค์กร
ก. ความเชี่ยวชาญพิเศษขององค์กร
กาหนดความเชี่ยวชาญพิเศษ
1
ขององค์กร
2
ข. การออกแบบกระบวนการทางาน
1 กาหนดกระบวนการสาคัญ
กระบวนการจัดบริการสุขภาพ
กระบวนการทางธุรกิจ/การดูแลกิจการ
กระบวนการสนับสนุน
ออกแบบ / นวตกรรม
ระบบงานโดยรวม
ผูป้ ระกอบวิชาชีพ
ผ้ป่วย, ผูร้ บั ผลงานอื่นๆ
ผูส้ ง่ มอบ, คูพ่ นั ธมิตร
ความปลอดภัย, กฎหมาย
ข้อมูลวิชาการ, มาตรฐานวิชาชีพ
เทคโนโลยีใหม่, ความรูข้ ององค์กร
ผลลัพธ์ทด่ี ขี น้ึ , ประสิทธิภาพ, ประสิทธิผล
2
3
ข้อกาหนด/ความคาดหวัง
ของกระบวนการ
ออกแบบ / นวตกรรม
กระบวนการ
ส่งมอบคุณค่าแก่ผ้รู บั ผลงาน
ความสาเร็จขององค์กร
ค. ความพร้อมต่อภาวะฉุกเฉิน
พร้อมรับภัยพิบตั ิ /
ภาวะฉุกเฉิน
II – 1.2 ระบบบริหารความเสี่ยง ความปลอดภัย และคุณภาพ
(Risk, Safety, and Quality Management System)
มีระบบบริหารความเสี่ยง ความปลอดภัย และคุณภาพ ของโรงพยาบาลที่มีประสิทธิผลและ
ประสานสอดคล้องกัน รวมทัง้ การพัฒนาคุณภาพการดูแลผูป้ ่ วยในลักษณะบูรณาการ
ก. ระบบบริหารความเสี่ยงและความปลอดภัย
1
ประสาน
ระบบที่เกี่ยวข้องกับ
การบริหารความเสี่ยง
และระบบสารสนเทศ
ค้นหาและจัดลาดับ
ความสาคัญของ
2 ความเสี่ยง
6
ปรับปรุง
3
4
กาหนดมาตรการ
ป้ องกัน, สื่อสาร,
สร้างความตระหนัก
ประเมิน
ประสิทธิผล
5
ระบบรายงานอุบตั ิ การณ์
วิเคราะห์สาเหตุ
ทบทวนการดูแลผูป้ ่ วย
พัฒนาคุณภาพการดูแล
สาหรับกลุ่มเป้ าหมาย
รายงาน วิเคราะห์ ใช้ประโยชน์
1
แก้ปัญหา
ข. คุณภาพการดูแลผูป้ ่ วย
2 กาหนดกลุม่ /วัตถุประสงค์
3 กาหนด KPI
4 ใช้วธิ กี ารทีห่ ลากหลาย
II – 3.1 สิ่งแวดล้อมทางกายภาพและความปลอดภัย
(Physical Environment and Safety)
สิ่งแวดล้อมทางกายภาพขององค์กรเอื้อต่อความปลอดภัยและความผาสุกของผูป้ ่ วย เจ้าหน้ าที่
และผูม้ าเยือน องค์กรสร้างความมันใจว่
่ าผูอ้ ยู่ในพืน้ ที่อาคารสถานที่จะปลอดภัยจากอัคคีภยั
วัสดุและของเสียอันตราย หรือภาวะฉุกเฉินอื่นๆ
ก. ความปลอดภัยและสวัสดิภาพ
ค. การจัดการกับภาวะฉุกเฉิน
1 โครงสร้างอาคารสถานที่
ระบบบริหารอาคาร
2 สถานที่และ รปภ.
4
การบริหารความเสี่ยง
ด้านสิ่งแวดล้อม
1 วิเคราะห์
การตรวจสอบเพื่อ
3 ค้นหาความเสี่ยง
5
2 ทาแผน -> ปฏิบตั ิ
การฝึ กอบรม
ง. ความปลอดภัยจากอัคคีภยั
1
ข. วัสดุและของเสียอันตราย
กระบวนการที่ปลอดภัย
เลือก สัมผัส จัดเก็บ
เคลือ่ นย้าย ใช้ กาจัด
การฝึ กซ้อม 3
ความปลอดภัย
ความผาสุก
ของผู้ป่วย
และเจ้าหน้ าที่
จัดทาแผนและนาไปปฏิบตั ิ
2 สร้างความตระหนัก/ฝึ กซ้อม
3 บารุงรักษาระบบและเครื่องมือ
II – 3.2 เครื่องมือและระบบสาธารณูปโภค (Equipment and Utility System)
องค์กรสร้างความมันใจว่
่ ามีเครื่องมือที่จาเป็ น พร้อมใช้งานทาหน้ าที่ได้เป็ นปกติ และมีระบบ
สาธารณูปโภคที่จาเป็ นอยู่ตลอดเวลา
ก. เครื่องมือ
1
2
ข. ระบบสาธารณูปโภค
แผนบริหารเครื่องมือ -> ปฏิบตั ิ
(ได้ผล ปลอดภัย เชื่อถือได้)
คัดเลือก / จัดหา, จัดทาบัญชีรายการ, ตรวจสอบ
ทดสอบ และบารุงรักษา, ให้ความรูผ้ ใู้ ช้,
แนวทางปฏิบตั เิ มื่อมีเหตุฉุกเฉิน
เครื่องมือที่จาเป็ นมีความพร้อมใช้
3 ติดตามข้อมูลเพื่อปรับปรุง / จัดหาทดแทน
1 แผนบริหารระบบสาธารณูปโภค -> ปฏิบตั ิ
(ได้ผล ปลอดภัย เชื่อถือได้)
จัดทาบัญชีรายการ, แผนผังตาแหน่งทีต่ งั ้ ,
ตรวจสอบ ทดสอบ และบารุงรักษา, แนวทาง
ปฏิบตั ฉิ ุกเฉิน, ระบบปรับและระบายอากาศ
2
ระบบไฟฟ้ าสารองในจุดที่จาเป็ น
บารุงรักษา ทดสอบ ตรวจสอบ
3 ติดตามข้อมูลเพื่อปรับปรุง / จัดหาทดแทน
ระบบที่พร้อมใช้การ
เชื่อถือได้ ปลอดภัย
II – 3.3 สิ่งแวดล้อมเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพและการพิทกั ษ์สิ่งแวดล้อม
(Environment for Health Promotion and Environment Protection)
องค์กรแสดงความมุ่งมั ่นในการที่จะทาให้โรงพยาบาลเป็ นสถานที่ที่ปลอดภัยและเอื้อต่อสุขภาพ
เอื้อต่อกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ และพิทกั ษ์สิ่งแวดล้อม
ข. การพิทกั ษ์สิ่งแวดล้อม
ก. การสร้างเสริมสุขภาพ
1
สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสขุ ภาพดี
2
สิ่งแวดล้อมเพื่อการเรียนรู้
และพัฒนาทักษะ
3
การเข้าถึงผลิตภัณฑ์สร้างเสริมสุขภาพ
ระบบบาบัดน้าเสียที่มีประสิทธิภาพ
1
ลดปริมาณของเสีย
2
ั ฑ์ที่ไม่มีอนั ตรายต่อสุขภาพ
4 ใช้วสั ดุครุภณ
นามาใช้ใหม่ ลดปริมาณการใช้ แปรรูป
ลดการใช้วสั ดุทท่ี าลายสิง่ แวลด้อม
กาจัดขยะถูกสุขลักษณะ
3
รพ.เป็ นสถานที่ที่ปลอดภัย
เอื้อต่อสุขภาพ
เอื้อต่อกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ
พิทกั ษ์สิ่งแวดล้อม
ขนาดเหมาะสม ผูด้ แู ลมีความรู้
ตรวจคุณภาพน้ า น้ าทิง้ มีคา่ มาตรฐาน
ภาชนะ แยกรับ ขนย้าย ทีพ่ กั ขยะ
กระบวนการกาจัด ฝึกอบรม ตรวจสอบ
พิทกั ษ์ ปกป้ อง ปรับปรุง สิ่งแวดล้อม
4
ร่วมมือกับชุมชน
ประเมินและรับฟั งเสียงสะท้อน
การสอบเทียบเครื่ องมือแพทย์
ความสาคัญของการสอบเทียบ
เพื่อให้ มีผลทีไ่ ด้ รับตรงกัน
การสอบเทียบ..................... ไม่ได้ทา
ให้เครื่ องมือของท่าน ดีข้ ึนกว่าเดิม
แม้แต่หน่อยนิด แต่อาจทาให้เครื่ องมือ
ที่ผา่ นกระบวนการสอบเทียบเพียงอย่าง
เดียว แย่ลงกว่าเดิมเสี ยด้วยซ้ า
25/05/59
97
การสอบเทียบ คือ
กระบวนการในการตรวจสอบความถูกต้ อง
ของเครื่ องมือ ด้ วยวิธีการเปรียบเทียบกับ
........................................
กับค่ าจริงของสิ่ งทีถ่ ูกวัด
ทีอ่ ่ านจากเครื่ องวัด
มาตรฐาน
องค์ ประกอบของการสอบเทียบ
- ตัวมาตรฐานการวัด
- วิธีการวัด
- ผู้ปฏิบัตกิ าร
- ห้ องปฏิบัติการ
- สภาวะแวดล้ อม
สภาวะแวดล้อมที่มีผลต่ อการวัด
อุณหภูมิ (Temperatute)
การเปลีย่ นแปลงของอุณหภูมิ (Rate of Change of Temperature)
ความชื้น (Humidity)
ความดัน (Pressure)
การสั่ นสะเทือน (Vibration)
การรบกวนของคลื่นแม่ เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic Interference)
การทวนสอบ (Verification)
คือ วิธีการยืนยันความถูกต้ อง ของ
เครื่ องมือ ที่ผ่านกระบวนการสอบเทียบ
มาแล้ ว โดยการตรวจสอบค่ าซ้าด้ วยวิธีใดๆ
ก็ตามก่ อนครบรอบการสอบเทียบ โดยต้ องมี
หลักฐานแสดงถึงวิธีการทวนสอบ ว่ าเป็ นการ
กระทาตามข้ อกาหนดทีร่ ะบุไว้
ประโยชน์ ของการสอบเทียบ
การสอบเทียบทาให้ผลของการวัดแม่นยา และเชื่อถือได้
การสอบเทียบส่ งผลให้ผลการวัด การทดสอบ การวิเคราะห์เป็ นที่
ยอมรับโดยทัว่ ไป
การสอบเทียบทาให้เกิดความเป็ นธรรมในการให้บริ การ
การสอบเทียบส่ งผลทาให้เกิดความสงบสุ ขในสังคม
การสอบเทียบทาให้ชิ้นส่ วนในการผลิต เข้ากันได้พอดี
ผลการสอบเทียบนามาประยุกต์ใช้เป็ นค่าปรับแก้ (correction) เพื่อชดเชยค่า
ความคลาดเคลื่อนของค่าที่อ่านของเครื่ องมือวัด ทาให้ผลการวัดแม่นยา
ขึ้นในกรณี จาเป็ น
การสอบเทียบเป็ นพื้นฐานสาคัญในการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์
เครื่ องมือใดที่ต้องสอบเทียบ
1.ผลการวัดของเครื่ องมือนั้นกระทบต่อ
คุณภาพของผลการวินิจฉัย หรื อรักษา
 เครื่ องมือใด ที่ไม่มีผลกระทบต่อคุณภาพ
ของการวินิจฉัย หรื อรักษา อาจไม่
จาเป็ นต้องใช้กระบวนการสอบเทียบ
 เมื่อมีเหตุผลที่จาเป็ นต้องมัน่ ใจในค่าของ
เครื่ องมือ เช่น เรื่ องของความปลอดภัย
เครื่ องมือแพทย์ ใดบ้ างทีต่ ้ องสอบเทียบ
• เครื่ องมือแพทย์ทุกเครื่ องต้องมีความแม่นยาและเที่ยงตรง
• การให้ได้มาซึ่งความแม่นยาและเที่ยงตรง ไม่จาเป็ นต้อง
ใช้วธิ ีการ หรื อกระบวนการสอบเทียบเสมอไป
• เครื่ องมือแพทย์ที่ยอมรับค่าผิดพลาดที่มากได้ อาจใช้
วิธีการทวนสอบ หรื อเทียบเคียงค่าก็ยอมรับได้
• แต่เครื่ องมือแพทย์ที่มีความเสี่ ยงสู ง โดยเฉพาะเสี่ ยงต่อการ
วินิจฉัยหรื อรักษาที่ผดิ กรณี เครื่ องไม่มีความเที่ยงตรง
ต้องได้รับการสอบเทียบ
เมื่อใดต้ องสอบเทียบ
เมื่อใดต้ องสอบเทียบ
1. ควรสอบเทียบให้บ่อย พอที่จะสร้างความ
แน่ใจว่าผลการวัดใกล้ค่าจริ งมากที่สุด
2. การสอบเทียบต้องกระทาเป็ นระยะ ๆ
เช่น ทุก 6 เดือน หรื อ 12 เดือน ฯ
3. วงรอบเวลาในการสอบเทียบ อาจจะ
กาหนดโดยอาศัยประสบการณ์ หรื อ
ข้อมูลอื่น ๆ ที่มีอยู่
4. ทุกครั้งหลังมีการซ่อม/ปรับแต่งเครื่ อง
สรุปผลจากการสอบเทียบทีม่ ีประสิ ทธิผล
ตัวอย่าง : ไม่วา่ นาย ก.(ผูป้ ่ วย) จะชัง่ น้ าหนักตัว จาก
เครื่ องชัง่ น้ าหนักเครื่ องไหน ณ จุดไหน ของ
โรงพยาบาล โดยที่ผบู ้ นั ทึก สามารถบันทึก
น้ าหนักตัวของนาย ก. ได้ค่าเดียวกัน หรื อใกล้เคียงกัน
มากที่สุด
25/05/59
109