1.ชื่ อหน่ วยการเรียนรู ้ 6.คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ 2.มาตรฐาน การเรียนรู/้ ตัวชี้วดั 7.ชิ้นงาน/ภาระงาน 3.สาระสาคัญ/ ความคิดรวบยอด 8.การวัดและประเมินผล 4.สาระการเรียนรู ้ 9.กิจกรรมการเรียนรู ้ 5.สมรรถนะสาคัญ ของผูเ้ รียน 2.มาตรฐาน การเรียนรู/้ ตัวชี้วดั 3.สาระสาคัญ/ ความคิดรวบยอด 1.ชื่อหน่ วยการเรียนรู ้ เป้ าหมายการเรียนรู ้ 4.สาระการเรียนรู ้ 7.ชิ้นงาน/ภาระงาน 5.สมรรถนะสาคัญ ของผูเ้ รียน 6.คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ 8.การวัดและประเมินผล หลักฐานการเรียนรู ้ 9.กิจกรรมการเรียนรู ้ กิจกรรมการเรียนรู ้ 10.เวลา.

Download Report

Transcript 1.ชื่ อหน่ วยการเรียนรู ้ 6.คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ 2.มาตรฐาน การเรียนรู/้ ตัวชี้วดั 7.ชิ้นงาน/ภาระงาน 3.สาระสาคัญ/ ความคิดรวบยอด 8.การวัดและประเมินผล 4.สาระการเรียนรู ้ 9.กิจกรรมการเรียนรู ้ 5.สมรรถนะสาคัญ ของผูเ้ รียน 2.มาตรฐาน การเรียนรู/้ ตัวชี้วดั 3.สาระสาคัญ/ ความคิดรวบยอด 1.ชื่อหน่ วยการเรียนรู ้ เป้ าหมายการเรียนรู ้ 4.สาระการเรียนรู ้ 7.ชิ้นงาน/ภาระงาน 5.สมรรถนะสาคัญ ของผูเ้ รียน 6.คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ 8.การวัดและประเมินผล หลักฐานการเรียนรู ้ 9.กิจกรรมการเรียนรู ้ กิจกรรมการเรียนรู ้ 10.เวลา.

1.ชื่ อหน่ วยการเรียนรู ้
6.คุณลักษณะ
อันพึงประสงค์
2.มาตรฐาน
การเรียนรู/้ ตัวชี้วดั
7.ชิ้นงาน/ภาระงาน
3.สาระสาคัญ/
ความคิดรวบยอด
8.การวัดและประเมินผล
4.สาระการเรียนรู ้
9.กิจกรรมการเรียนรู ้
5.สมรรถนะสาคัญ
ของผูเ้ รียน
2.มาตรฐาน
การเรียนรู/้ ตัวชี้วดั
3.สาระสาคัญ/
ความคิดรวบยอด
1.ชื่อหน่ วยการเรียนรู ้
เป้ าหมายการเรียนรู ้
4.สาระการเรียนรู ้
7.ชิ้นงาน/ภาระงาน
5.สมรรถนะสาคัญ
ของผูเ้ รียน
6.คุณลักษณะอันพึง
ประสงค์
8.การวัดและประเมินผล
หลักฐานการเรียนรู ้
9.กิจกรรมการเรียนรู ้
กิจกรรมการเรียนรู ้
10.เวลา
๑
วิธีการวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชี้วดั
๒
การกาหนดประเด็นหรือหัวเรื่องจากสภาพ
ปั ญหาหรือสิ่งที่ผูเ้ รียนสนใจ
ครูควรทาอย่างไร
มาตรฐานการเรียนรู/้
ตัวชี้วดั
สมรรถนะสาคัญ
ของผูเ้ รียน
คุณลักษณะ
อันพึงประสงค์
ตัวชี้วดั
ผูเ้ รียนรูอ้ ะไร/
ทาอะไรได้
ผูเ้ รียนรูอ้ ะไร
ผูเ้ รียนทาอะไรได้
นาไปสู่
9.ตีความและประเมิน
คุณค่าแนวคิดที่ได้
จากงานเขียนอย่าง
หลากหลายเพื่อ
นาไปใช้แก้ปญั หาใน
ชีวิต
ผูเ้ รียนรูอ้ ะไร
การอ่านตีความและ
การประเมินค่าแนวคิด
ที่ได้จากงานเขียนอย่าง
หลากหลายทัง้ ด้านการ
ใช้ภาษา วิธีการเขียน
9.ตีความและ
ประเมินคุณค่า
แนวคิดที่ได้
จากงานเขียน
อย่างหลากหลาย
เพื่อนาไปใช้
แก้ปญั หาในชีวิต
และข้อคิดใน
การดารงชีวติ
1.ใฝ่ เรียนรู ้
ประยุกต์ใช้และ
แก้ ปัญหาในชีวติ
2.วิเคราะห์เพิม่ เติม
ได้จากคุณลักษณะ
ที่เป็ นจุดเน้นของ
เขตพื้นที่หรือ
สถานศึกษา หรือ
กลุม่ สาระการเรียนรู ้
1. ความสามารถ
ในการสือ่ สาร
ผูเ้ รียนทาอะไรได้ 2.ความสามารถ
ตีความและประเมิน ในการคิด
คุณค่าแนวคิดที่ได้รบั 3.ความสามารถ
จากการอ่าน นาไป
ในการแก้ปญั หา
๑.บอกประโยชน์
และปฏิบตั ิตนเป็ น
สมาชิก ที่ดีของ
ครอบครัวและ
โรงเรียน
ผูเ้ รียนรูอ้ ะไร
การเป็ นสมาชิกที่ดี
ของครอบครัวและ
โรงเรียนทาให้อยู่
ร่วมกันอย่างมี
ความสุข
ผูเ้ รียนทาอะไรได้
ปฏิบตั ติ นเป็ นสมาชิก
ที่ดีของครอบครัว
และโรงเรียน
มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน
สามารถจัดกิจกรรมการเรียนรูร้ ว่ มกันได้
จากกลุม่ สาระการเรียนรูเ้ ดียวกัน
หรือต่างกลุม่ สาระการเรียนรู ้
สามารถอยู่ในหน่ วยการเรียนรูม้ ากกว่า
หนึ่ งหน่ วยการเรียนรูไ้ ด้
สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอดได้จากการวิเคราะห์แก่นความรู ้
แต่ละมาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชี้วดั รวมถึงสาระการเรียนรู ้
ที่ผูเ้ รียนจะได้รบั จากการจัดกิจกรรมการเรียนรูต้ ามมาตรฐาน
การเรียนรู/้ ตัวชี้วดั
ตัวชี้วดั
ตัวชีว้ ด
ั
๑
ผูเ้ รียนรูอ้ ะไร /
ทาอะไรได้
””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””
””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””
””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””
ตัวชีว้ ด
ั
๒
””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””
””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””
””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””
ตัวชีว้ ด
ั
๓
””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””
””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””
””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””
วิเคราะห์ความคิด
หลักตัวชี้วดั
หลอมรวมเป็ น
ความคิดรวบอด
สาระการเรียนรู้ แกนกลาง
สาระการเรียนรู้ ท้องถิน
่
เป้ าหมาย
การเรียนรู ้
หลักฐาน
การเรียนรู ้
กิจกรรม
การเรียนรู ้
มาตรฐานการเรียนรู/้
ตัวชี้วดั
สมรรถนะสาคัญ
ของผูเ้ รียน
คุณลักษณะ
อันพึงประสงค์
เป้ าหมาย
สาคัญ
สาหรับ
การ
พัฒนา
เด็กและ
เยาวชน
หลักการจัดการเรียนรู ้
เน้นผูเ้ รียนเป็ นสาคัญ
ความแตกต่างระหว่าง
บุคคล
พัฒนาการทางสมอง
เน้นความรูค้ ู่คณ
ุ ธรรม
การรับรูท้ างสายตาโดยการมองเห็น
การรับรูท้ างโสตประสาท
การรับรูท้ างร่างกายและความรูส้ กึ
เรียนรูไ้ ด้ดีจากรูปภาพ แผนภูมิ แผนผัง
(มีประมาณ 60 - 65% ของประชากร
ทัง้ หมด)
เรียนรูไ้ ด้ดีจากการฟังหรือได้พูด
(มีประมาณ 30-35% ของประชากร
ทัง้ หมด)
เรียนรูไ้ ด้ดีผ่านการรับรูท้ างความรูส้ กึ
การเคลื่อนไหวและร่างกาย (มีประมาณ
5-10% ของประชากรทัง้ หมด)
1.นาเทคนิ ค/วิธีการจัดการเรียนรู ้ สื่อการเรียนรู ้ ซึ่งจะนาผู เ้ รียนไปสู่การสร้าง
ชิ้ นงาน/ภาระงาน เกิด ทัก ษะ(สมรรถนะส าคัญ ของผู เ้ รีย น)กระบวนการตาม
ธรรมชาติ วิ ช าและคุ ณ ลัก ษณะอัน พึ ง ประสงค์ ให้บ รรลุ ต ามมาตรฐาน
การเรียนรู/้ ตัวชี้วดั ในหน่ วยการเรียนรู ้
2. มีความท้าทาย ต่อยอดการเรียนรู ้ มีความหมายต่อผู เ้ รียน เน้นผู ้เรียนเป็ น
สาคัญ คานึ งถึงความแตกต่างของผูเ้ รียน พัฒนาการทางสมอง และมุ่งเน้นความรู ้
คู่คณ
ุ ธรรม
3. พัฒนาผูเ้ รียนให้มีทกั ษะกระบวนการที่หลากหลาย
เวลาในการจัดกิจกรรมการเรียนรูใ้ นแต่ละหน่ วยการเรียนรู ้
จะต้องวิเคราะห์ความเหมาะสมกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู ้
ให้สอดคล้องกับจานวนมาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชี้วดั ที่ปรากฏ
ในการหน่ วยการเรียนรูจ้ ากโครงสร้างรายวิชา