สำน ักโครงกำรขนำดใหญ่ กรมชลประทำน ลุ่มนำ้ แม่ กลอง ที่ตงั ้ ลักษณะภูมิประเทศ พืน้ ที่ล่ ุมนำ้ ภูมิอำกำศ ปริมำณนำ้ ท่ ำ-นำ้ ฝน - ตำรำงเปรี ยบเทียบนำ้ ท่ ำ-นำ้ ฝน ในกลุ่มลุ่ม นำ้ ทรั พยำกรดิน กำรใช้ ประโยชน์ ท่
Download ReportTranscript สำน ักโครงกำรขนำดใหญ่ กรมชลประทำน ลุ่มนำ้ แม่ กลอง ที่ตงั ้ ลักษณะภูมิประเทศ พืน้ ที่ล่ ุมนำ้ ภูมิอำกำศ ปริมำณนำ้ ท่ ำ-นำ้ ฝน - ตำรำงเปรี ยบเทียบนำ้ ท่ ำ-นำ้ ฝน ในกลุ่มลุ่ม นำ้ ทรั พยำกรดิน กำรใช้ ประโยชน์ ท่
สำน ักโครงกำรขนำดใหญ่ กรมชลประทำน ลุ่มนำ้ แม่ กลอง ที่ตงั ้ ลักษณะภูมิประเทศ พืน้ ที่ล่ ุมนำ้ ภูมิอำกำศ ปริมำณนำ้ ท่ ำ-นำ้ ฝน - ตำรำงเปรี ยบเทียบนำ้ ท่ ำ-นำ้ ฝน ในกลุ่มลุ่ม นำ้ ทรั พยำกรดิน กำรใช้ ประโยชน์ ท่ ดี นิ พืน้ ที่ทำกำรเกษตร. พืน้ ที่ท่ ีมีศักยภำพพัฒนำระบบชลประทำน กำรประเมินควำมต้ องกำรนำ้ ปั ญหำของลุ่มนำ้ ด้ ำนภัยแล้ ง แนวทำงแก้ ไข สว่ นอำนวยกำรและติดตำมประเมินผล ที่ต้งั ลุ่ ม น้ ำ แม่ ก ลองตั้ ง อยู่ ท ำงตอนกลำง ของประเทศไทย ทำงฝั่ ง ขวำของแม่ น้ำ เจ้ ำพระยำ ครอบคลุมพืน้ ที่ 8 จังหวัด คือ อุทัย ธำนี ชั ย นำท สุ พ รรณบุ รี นครปฐม สมุทรสำคร อ่ ำงทอง อยุธยำ นนทบุรี ลั ก ษณะลุ่ มน้ ำ วำงตั ว ตำมแนวทิ ศ เหนือ-ใต้ ทิศเหนือติดกับลุ่มน้ำสะแกกรั ง ทิศใต้ ติดกับอ่ ำวไทย ทิศตะวันออกติดกับ ลุ่มน้ำเจ้ ำพระยำ และทิศตะวันตกติดกับ ลุ่มนำ้ แม่ กลอง รู ปที่ 14-1 แสดงทีต่ ้งั ลุ่มนำ้ แม่ กลอง ลักษณะภูมิประเทศ ลัก ษณะของลุ่ มน้ ำ วำงตั ว ตำมแนวทิ ศ เหนื อ -ใต้ พื้ น ที่ ทั่ ว ไปเป็ นที่ ร ำบลุ่ ม ริ ม แม่ น้ำ ตอนบนของลุ่มน้ำเป็ นที่เชิ งเขำ ไม่ สู งมำกนั ก ส่ วนตอนกลำงและ ตอนล่ ำงเป็ นที่รำบลุ่ม แม่ น้ำท่ ำจีนแยกออกมำทำงฝั่งขวำของ แม่ น้ ำ เจ้ ำ พระยำที่ จั ง หวั ด ชั ย นำท ไหล ผ่ ำนจังหวัดสุ พรรณบุรี นครปฐม และ ออกสู่ อ่ำวไทยที่จังหวัดสมุทรสำคร รู ปที่ 14-2 สภำพภูมปิ ระเทศในเขตพืน้ ทีล่ ่มุ นำ้ แม่ กลอง พื้นที่ล่มุ น้ำ ลุ่มนำ้ แม่ กลองมีพนื้ ที่ลุ่มน้ำรวมทั้งสิ้น 30,836 ตำรำงกิโลเมตร โดยแบ่ งพืน้ ที่ ลุ่มนำ้ เป็ น 11 ลุ่มนำ้ ย่ อย ตำมตำรำงที่ 14-1 และรูปที่ 14-3 แสดงลุ่มนำ้ ย่ อย 14.04 14.02 14.03 14.05 14.08 14.09 14.06 14.07 14.10 14.12 14.11 รู ปที่ 14-3 แสดงลุ่มนำ้ ย่ อย พืน้ ทีล่ ่มุ นำ้ แม่ กลอง ตำรำงที่ 14-1 ขนำดของพืน้ ทีล่ ่มุ นำ้ ย่ อย พืน้ ทีร่ ับนำ้ ( ตร.กม.) รหัส ชื่อลุ่มนำ้ ย่ อย 14.02 แม่ นำ้ แควใหญ่ ตอนบน 5,070 14.03 ห้ วยแม่ ละมุง 686 14.04 ห้ วยแม่ จัน 864 14.05 ห้ วยขำแข้ ง 2,476 14.06 แม่ นำ้ แควใหญ่ ตอนล่ำง 3,692 14.07 ห้ วยตะเพิน 2,479 14.08 แม่ นำ้ แควน้ อยตอนบน 4,802 14.09 ห้ วยปิ ลอก 14.10 แม่ นำ้ แควน้ อยตอนล่ำง 3,508 14.11 ลำภำชี 2,,664 14.12 ทีร่ ำบแม่ นำ้ แม่ กลอง 3,649 รวมพืน้ ทีท่ ้งั สิ้น 30,836 946 ภูมิอำกำศ ข้อมูลภูมอ ิ ากาศทีส ่ าคัญของลุมน แล ่ ้านี้ไดแสดงไว ้ ้ ว ้ ตามตารางที่ 14-2 ซึง่ แตละรายการจะเป็ นคาสู ย ่ เป็ น ่ ่ งสุด คาต ่ า่ สุด และคาเฉลี ่ รายปี ตำรำงที่ 14-2 แสดงข้ อมูลภูมิอำกำศที่สำคัญ ข้ อมูลภูมอิ ำกำศทีส่ ำคัญ หน่ วย ค่ ำสู งสุ ดรำยปี ค่ ำต่ำสุ ดรำยปี ค่ ำเฉลีย่ รำยปี องศำเซลเซียส เปอร์ เซ็นต์ 28.0 81.0 23.3 68.6 26.4 76.1 ควำมเร็วลม เมฆปกคลุม ปริมำณกำรระเหยจำกถำด น๊ อต 0-10 มิลลิเมตร 2.6 6.0 1,905.1 0.6 5.3 1,301.9 1.4 5.7 1,555.1 ปริมำณกำรคำยระเหยของ พืชอ้ ำงอิง มิลลิเมตร 1,886.9 1,484.8 1,708.9 อุณหภูมิ ควำมชื้นสั มพัทธ์ ปริมำณน้ำฝน ลุ่มนำ้ แม่ กลองมีปริมำณฝนผันแปร ตั้งแต่ 900 มิลลิเมตร จนถึง 2,200 มิลลิเมตร โดยมีปริมำณฝนเฉลีย่ ประมำณ 1,333.8 มิลลิเมตร ลักษณะกำรผัน แปรของปริมำณฝนรำยเดือนเฉลีย่ ได้ แสดงไว้ ตำมตำรำงที่ 14-3 และมีลกั ษณะกำร กระจำยของปริมำณนำ้ ฝนของแต่ ละลุ่มนำ้ ย่ อย ตำมรู ปที่ 14-4 รู ปที่ 14-5 ปริมำณนำ้ ท่ ำเฉลีย่ รำย เดือนในแต่ ละลุ่มนำ้ ย่ อย รู ปที่ 14-4 ปริมำณนำ้ ฝนเฉลีย่ รำย เดือนในแต่ ละลุ่มนำ้ ย่ อย ปริมำณน้ำท่ำ ลุ่มน้ำแม่ กลองมีพืน้ ที่รับน้ำทั้งหมด 30,836 ตำรำงกิโลเมตร มีปริมำณ น้ำท่ ำรำยปี เฉลี่ยทั้งหมดประมำณ 15,129.5 ล้ ำนลูกบำศก์ เมตร ตำมตำรำงที่ 14-3 หรื อมี ปริมำณนำ้ ท่ ำรำยปี เฉลีย่ ต่ อหน่ วยพืน้ ที่รับนำ้ ฝนประมำณ 15.56 ลิตร/วินำที/ตำรำงกิโลเมตร ตำมรูปที่ 14-5 แสดงปริมำณนำ้ ท่ ำเฉลีย่ รำยเดือนของแต่ ละลุ่มนำ้ ย่ อย ตารางที่ 14-3 ปริมาณนา้ ฝน และนา้ ท่ ารายเดือนเฉลีย่ เดือน ปริมำณนำ้ ฝน (มิลลิเมตร) ปริมำณนำ้ ท่ ำ (ล้ำน ลบ.ม.) เม.ย. 65.2 139.5 พ.ค. 172.4 300.8 มิ.ย. 152.0 1,053.5 ก.ค. 177.0 2,163.4 ส.ค. 194.0 3,880.1 ก.ย. 247.6 2,902.6 ต.ค. 216.5 2,481.9 พ.ย. 55.8 1,066.5 ธ.ค. 5.7 481.2 ม.ค. 4.4 302.0 ก.พ. 12.8 194.1 มี..ค. 30.3 163.9 ฤดูฝน 1,159.6 12,782.2 ฤดูแล้ ง 174.2 2,347.3 ทั้งปี 1,333.8 15,129.5 ตำรำงเปรียบเทียบ ปริมำณน้ำฝน - ปริมำณน้ำท่ำ กลุ่มลุ่มนำ้ แม่ กลอง ลำดับ ที่ 1 ลุ่มนำ้ ลุ่มนำ้ แม่ กลอง ปริมำณนำ้ ฝน (ฤดูฝน) 1,159.6 (ฤดูแล้ง) 174.2 ปริมำณนำ้ ท่ ำ ทั้งปี (ฤดูฝน) 1,333.8 12,782.2 (ฤดูแล้ง) ทั้งปี 2,347.3 15,129.5 ทรัพยำกรดิน พืน้ ทีล่ ุ่มนำ้ แม่ กลองสำมำรถจำแนกชนิดตำมควำมเหมำะสมของกำรปลูกพืชออกได้ 4 ประเภท ซึ่งมีลกั ษณะ กำรกระจำยของกลุ่มดิน ตำมรูปที่ 14-5 และแต่ ละประเภทกลุ่มดินจะมีจำนวนพืน้ ที่ ตำมตำรำงที่ 14-4 ตำรำงที่ 14-4 ลักษณะดิน (ตำรำงกิโลเมตร) ดินทีเ่ หมำะสมสำหรับปลูกข้ ำว และพืชชนิดอืน่ ๆ 2,252.08 ดินทีเ่ หมำะสมสำหรับกำรปลูกพืชไร่ พืชผักและไม้ ผลไม้ ยนื ต้ น (ไม่ เหมำะสำหรับปลูกข้ ำว) 6,800.96 ดินทีไ่ ม่ เหมำะสำหรับปลูกพืชโดยทัว่ ไป (ต้ องได้ รับกำรปรับปรุงก่อน จึงจะปลูกพืชบำงชนิดได้ ) 1,892.08 ดินทีไ่ ม่ เหมำะสมสำหรับปลูกพืชชนิดใดๆเลย 18,766.24 พืน้ ทีช่ ่ ุมนำ้ (wetland) เหมืองแร่ และอืน่ ๆ 1,124.65 รวม รู ปที่ 14-6 กำรแบ่ งกลุ่มดินจำแนกตำมควำมเหมำะสมใช้ ปลูกพืช จำนวนพืน้ ที่ 30,836.00 ● กำรใช้ประโยชน์จำกที่ดิน รู ปที่ 14-7 กำรทำเกษตร ้ ทีท 1) พืน ่ ำกำรเกษตร.............22.62 % พืชไร่................................70.80 % ไม้ผล-ไม้ยน ื ต้น....................7.83 % ข้ำว...................................20.59 % พืชผ ัก............................... 0.78% 2) ป่ำไม้.............................. 68.84 % ั ป่ำ........ 34.12 % เขตอนุร ักษ์พ ันธ์สตว์ อุทยำนแห่งชำติ...................23.84 % ้ ทีป พืน ่ ่ ำอนุร ักษ์....................42.04 % รู ปที่ 14-8 พืน้ ทีป่ ่ ำไม้ และเพือ่ กำรอนุรักษ์ ั 3) ทีอ ่ ยูอ ่ ำศย.........................1.35 % 4) แหล่งนำ้ ............................3.05 % 5) อืน ่ ๆ..................................4.15 % รู ปที่ 14-9 กำรใช้ ประโยชน์ จำกทีด่ ิน พืน้ ที่ ก ำรเกษตรในลุ่ ม น ำ้ แม่ ก ลองมี พืน้ ที่ 6,974 ตำรำงกิ โ ลเมตร และมี พืน้ ที่ท่ ีเหมำะสมกั บกำรเพำะปลูก 4,495.08 ตำรำงกิ โลเมตร หรื อคิดเป็ นร้ อยละ 64.45 พืน้ ที่เหมำะสมสำหรั บปลูกข้ ำว พืน้ ที่เหมำะสมสำหรั บปลูกพืชผัก พืน้ ที่เหมำะสมสำหรั บปลูกพืชไร่ 1,342.60 ตำรำงกิโลเมตร (29.87%) 29.31 2.,599.50 ตำรำงกิโลเมตร ( 0.65%) ตำรำงกิโลเมตร (57.83%) พืน้ ที่เหมำะสมสำหรั บปลูกไม้ ผล-ไม้ ยืนต้ น 523.67 ตำรำงกิโลเมตร(11.65%) พืน้ ที่กำรเกษตรที่เหมำะสมกับกำรเพำะปลูก ส่ วนใหญ่ จะอยู่ทำง ตอน ล่ ำ งของพื น้ ที่ล่ ุ ม น ำ้ โดยกระจำยอยู่บ ริ เ วณสองฝั่ งล ำน ำ้ และ หนำแน่ นในบริเวณที่รำบลุ่มตอนล่ ำงใกล้ ปำกแม่ นำ้ ท่ ำจีน ซึ่ งรวมแล้ ว ประมำณร้ อยละ 14.58 ของพืน้ ที่ทงั ้ ลุ่มนำ้ รู ปที่ 14-10 กำรใช้ ประโยชน์ ทดี่ นิ หลักด้ ำนกำรเกษตร กำรทำกำรเกษตรในพืน้ ที่ล่ ุมนำ้ แม่ กลอง ส่ วนใหญ่ จะปลูกบนพืน้ ที่ท่ ี มีควำมเหมำะสมดีอยู่แล้ ว ยกเว้ น กำรปลู ก พืชไร่ ที่มี ก ำรปลู ก พืชบน พืน้ ที่ท่ ไี ม่ มีควำมเหมำะสมอยู่ พืน้ ทีท่ ี่มีศักยภำพพัฒนำระบบชลประทำน พืน้ ทีท่ มี่ ศี ักยภำพกำรพัฒนำระบบชลประทำนในพืน้ ที่ล่ ุมน้ำแม่ กลอง ส่ วนใหญ่ จะอยู่บริเวณที่รำบลุ่ม ตอนล่ ำงของพืน้ ที่ลุ่มน้ำ โดยมีพนื้ ที่ประมำณ 1,832 ตำรำงกิโลเมตร และคิดเป็ นร้ อยละ 40.76 ของพืน้ ที่ กำรเกษตรทีเ่ หมำะสมกับกำรเพำะปลูก หรือร้ อยละ 26.27 ของพืน้ ทีก่ ำรเกษตรทั้งหมด ตำรำงที่ 14-5 ตำรำงเปรียบเทียบพืน้ ที่กำรเกษตรกับพืน้ ที่ที่มีศักยภำพสำหรับพัฒนำระบบชลประทำน รำยกำร จำนวนพืน้ ทีเ่ พำะปลูกพืชแต่ ละชนิด (ตำรำงกิโลเมตร) ไม้ ผล ข้ ำว พืชไร่ พืชผัก อืน่ ๆ ไม้ ยนื ต้ น รวม ทั้งหมด พืน้ ทีท่ ำกำรเกษตรทั้งหมด 1,436.02 4,937.51 พืน้ ทีเ่ หมำะสมสำหรับกำรเพำะปลูก 1,342.60 2,599.50 33.09 29.31 545.80 523.67 21.57 - 6,974.00 4,495.08 พืน้ ที่ศักยภำพกำรพัฒนำระบบ ชลประทำน 19.08 97.93 - 1,832.29 985.82 729.46 กำรประเมินควำมต้องกำรน้ำ จากการศึ กษาด้านเศรษฐกิจและสั งคม ได้คาดคะเนอัตราการเจริญเติบโตของประชากรที่ อาศั ย อยู่ในเขตเมือ งและนอกเขตเมือ ง รวมทัง้ ความต้ องการน้ า สาหรับ การขยายตัว ของ ภาคอุตสาหกรรม ช่วงปี 2542-2564 สรุปไดตามรู ปที่ 14-11 ้ 4,500 4,000 ชลประทำน ปริมำณนำ้ (ล้ำน ลบ.ม.) 3,500 3,000 2,500 2,000 รักษำระบบนิเวศ 1,500 1,000 500 อุตสำหกรรม อุปโภค - บริโภค 0 2510 2520 2530 2540 2550 2560 รูปที่ 14-11 สรุปแนวโน้ มปริมำณควำมต้ องกำรนำ้ แต่ ละประเภท 2570 ปัญหำของลุ่มน้ำ ด้ำนอุทกภ ัย สภำพกำรเกิดอุทกภ ัยในลุม ่ นำ้ นี้ แบ่งออกเป็น 2 ล ักษณะคือ∶้ ทีล 1) อุทกภ ัยทีเ่ กิดในบริเวณพืน ่ ม ุ่ นำ้ ตอนบนและลำนำ้ สำขำต่ำงๆ เกิดจำกกำรทีม ่ ี ฝนตกหน ักและนำ้ ป่ำไหลหลำกจำกต้นนำ้ ลงมำมำก จนลำนำ้ สำยหล ักไม่สำมำรถ ้ ทำงคมนำคมขวำงทำงนำ้ และมี ระบำยนำ้ ได้ท ัน ประกอบก ับมีสงิ่ กีดขวำงจำกเสน อำคำรระบำยนำ้ ไม่เพียงพอ ้ ทีท พืน ่ เี่ กิดนำ้ ท่วมเป็นประจำ ได้แก่ อำเภอบ้ำนโป่ง และอำเภอเมือง จ ังหว ัด รำชบุร ี 2 ) อุ ท ก ภ ย ั ที่ เ กิ ด บ ริ เ ว ณ ที่ เ ป็ น พื้ น ที่ ร ำ บ ลุ่ ม แ ล ะ แ ม่ น ้ ำ ส ำ ย ห ล ก ั ตื้ น เ ขิ น มี ควำมสำมำรถในกำรระบำยนำ้ ไม่เพียงพอ ทำให้ไม่สำมำรถระบำยนำ้ ลงได้อย่ำ งมี ิ ธิภำพ ประสท ้ ทีท ้ อ ำเภอจอมบึง พืน ่ เี่ กิด น ำ้ ท่ว มเป็ นประจ ำ ได้แ ก่ บริเ วณอ ำเภอสวนผึง อ ำเภอว ด ั เพลิง อ ำเภอโพธำรำม อ ำเภอบำงแพ อ ำเภอด ำเนิน สะดวก จ งั หว ด ั รำชบุร ี อำเภออ ัมพวำ อำเภอบำงคนฑี จ ังหว ัดสมุทรสงครำม ปั ญ หำ ภ ย ั แ ล้ ง ใน ลุ่ ม น ้ ำ นี้ เ กิด จ ำ ก ภ ำ ว ะ ฝ น ทิ้ ง ช่ ว ง ย ำ ว น ำ น ท ำ ใ ห้ พ ื้ น ที่ กำรเกษตรที่อ ยู่น อกเขตชลประทำนเกิด ค ว ำ ม แ ห้ ง แ ล้ ง ข ำ ด แ ค ล น น ้ ำ เ พื่ อ ก ำ ร อุปโภค-บริโภค และทำกำรเกษตร จำกข้อมูล กชช.2ค. ปี 2542 ลุ่มนำ้ แม่ก ลองมีจ ำนวนหมู่บ ำ ้ นท งั้ หมด 1,746 หมู่ บ ้ำ น พบว่ ำ เป็ นหมู่ บ ้ำ นที่ป ระสบ ก บ ั ปัญหำภ ัยแล้งจำนวน 1,060 หมูบ ่ ำ้ น (ร้อย ละ 60.71) โดยแยกเป็ นหมู่ บ ้ำ นที่ข ำด แคล นน ้ำ เ พื่ อ กำ ร เ กษ ตร จ ำ น ว น 33 6 หมูบ ่ ำ้ น (ร้อยละ 19.34) และเป็นหมูบ ่ ำ้ นที่ ขำดแคลนท งั้ น ำ ้ เพือ ่ กำรอุป โภค-บริโ ภค แ ล ะ น ้ ำ เ พื่ อ ก ำ ร เ ก ษ ต ร จ ำ น ว น 7 2 4 หมูบ ่ ำ้ น (ร้อยละ 4147) หมู่บ้ำนทีม่ ีนำ้ อุปโภค-บริโภค แต่ ขำดแคลนนำ้ เพือ่ กำรเกษตร หมู่บ้ำนทีข่ ำดแคลนนำ้ อุปโภค-บริโภค และนำ้ เพือ่ กำรเกษตร หมู่บ ำ ้ นทีป ่ ระสบปัญ หำภ ย ั แล้ง ส่ว น ้ ทีจ ใหญ่จ ะอยู่ใ นพืน ่ งั หว ด ั รำชบุร ถ ี งึ 464 หมู่บ ำ ้ น หรือ คิด เป็ นร้อ ยละ 43.77 ของ หมูบ ่ ำ้ นทีป ่ ระสบปัญหำภ ัยแล้งทงหมด ั้ รูปที่ 14-11 แสดงลักษณะกำรกระจำยตัวของหมู่บ้ำนที่ประสบปัญหำภัยแล้ง แนวทำงกำรแก้ไข ้ ทีล ปัญหำกำรเกิดอุทกภ ัย และภ ัยแล้งในลุม ่ นำ้ แม่กลอง มีล ักษณะคล้ำยก ับพืน ่ ม ุ่ นำ้ อืน ่ ๆ คือ กำรผ น ั แปรของปริม ำณน ำ ้ ฝน ส่ง ผลให้เ กิด ควำมแห้ง แล้ง ในช่ว งทีฝ ่ นทิง้ ช่ ว ง ในทำง ั และพืน ้ ทีอ ้ ทีก กล บ ั ก ันเมือ ่ มีฝ นตกหน ก ั ก็ ท ำให้เ กิด น ำ ้ ไหลหลำกท่ว มพืน ่ ยู่อ ำศ ย ่ ำรเกษตร กำร แก้ไขปัญหำด ังกล่ำวจึงมีแนวทำงแก้ไขในภำพรวมโดยสรุปด ังนี.้ ้ ทีต 1) กำรก่อ สร้ำ งอ่ำ งเก็ บ น ำ ้ ขนำดและขนำดเล็ กในพืน ่ อนบนของล ำน ำ ้ สำขำที่ สำค ัญ ได้แ ก่ ล ำภำช ี และแม่นำ้ แม่กลอง เพือ ่ เก็ บ ก ักและชะลอปริมำณนำ้ หลำกในช่ว งทีฝ ่ นตก ่ งฤดูแล้งเพือ หน ัก และปล่อยนำ้ ทีเ่ ก็บก ักลงทำงด้ำนท้ำยนำ้ ในชว ่ บรรเทำปัญหำภ ัยแล้งให้พน ื้ ทีส ่ อง ฝั่งลำนำ้ ้ ทีท 2) กำรก่อสร้ำ งระบบส่งนำ้ และกระจำยน ำ ้ ในพืน ่ ไี่ ด้ร ับควำมเดือดร้อนจำกภ ย ั แล้งและอยูไ ่ ม่หำ ่ งจำกลำนำ้ สำยหล ักมำกน ัก โดยอำจดำเนินกำรในล ักษณะก่อสร้ำงฝำย /ประตู ่ นำ้ /ระบบสูบนำ้ และสง ่ นำ้ ด้วยท่อ เพือ ระบำยนำ้ พร้อมระบบคลองสง ่ บรรเทำควำมเดือดร้อนจำก ปัญหำภ ัยแล้ง ่ งทีต ิ ธิภำพกำรระบำยนำ้ 3) กำรขุดลอกลำนำ้ สำยหล ักในชว ่ น ื้ เขินเพือ ่ เพิม ่ ประสท 4) กำรปร บ ั ปรุงฝำย ประตูระบำยนำ้ สะพำน ท่อลอดถนน และอำคำรอืน ่ ๆ ทีก ่ ด ี ขวำงทำงนำ้ และเป็ นอุป สรรคต่อกำรระบำยนำ้ ให้มค ี วำมสำมำรถในกำรระบำยนำ้ ทีพ ่ อเพียงแ ละ เหมำะสมก ับสภำพทำงนำ้ ้ ระโยชน์ท ด ้ ทีโ่ ดยรอบให้เ ป็ นไป 5) ควบคุม กำรใช ป ี่ น ิ บริเ วณเขตต ัวเมือ งและพืน ตำมผ ังเมืองทีว่ ำงไว้และควบคุมกำรรุกลำ้ แนวคลองและลำนำ้ สำธำรณะ ้ /บ่อบำดำล ก่อสร้ำงถ ังเก็ บนำ้ 6) ส่งเสริมกำรขุดสระนำ้ ประจำไร่นำ ขุดบ่อนำ้ ตืน ้ ทีท ้ ที่ สำหร ับพืน ่ อ ี่ ยูห ่ ำ ่ งไกลจำกแหล่งนำ้ ตำมสภำพควำมเหมำะสมของพืน