ทำไมต้ องมีกำร Matching Impedance - Incident Power - การออกแบบ Generator ที่ทางานกับ Impedance ที่มีค่าใกล้เคียงกับ Impedance ของสายส่ งทาให้ไม่มีส่วน Reactive ซึ่ งทาให้การทางาน ของ Generator มีปัญหา(ความถี่) Z L 

Download Report

Transcript ทำไมต้ องมีกำร Matching Impedance - Incident Power - การออกแบบ Generator ที่ทางานกับ Impedance ที่มีค่าใกล้เคียงกับ Impedance ของสายส่ งทาให้ไม่มีส่วน Reactive ซึ่ งทาให้การทางาน ของ Generator มีปัญหา(ความถี่) Z L 

ทำไมต้ องมีกำร Matching Impedance
- Incident Power
- การออกแบบ Generator ที่ทางานกับ Impedance ที่มีค่าใกล้เคียงกับ
Impedance ของสายส่ งทาให้ไม่มีส่วน Reactive ซึ่ งทาให้การทางาน
ของ Generator มีปัญหา(ความถี่)
Z L  Z0

Z L  Z0
ZL=Z0 กาลังทั้งหมดก็จะถูกส่ งไปยังหหลด
Stub หมำยถึงอะไร
มันหมายถึงสายส่ งที่เปิ ดหรื อปิ ดวงจรซึ่ งมีจุดประสงค์ที่จะทาตัวเป็ น Reactance
บริ สุทธิ์ ซึ่ งมันสามารถมีค่าอะไรก็ได้หดยมีค่าตั้งแต่ 0 ถึงครึ่ งหนึ่งของความยาว
คลื่น ซึ่ งสิ่ งที่ตอ้ งจาอย่างหนึ่ งคือเราต้องออกแบบให้ Stub มีความยาวน้อยที่สุด
เท่าที่เป็ นไปได้ถา้ ต้องการใช้งานในความถี่ที่กว้าง
ควรใช้ Short หรือ Open Stub ดี
- Microstrip ควรใช้ Stub แบบ Open เนื่องจากเหตุผลในการสร้าง
- Coax Line หรื อ Parallel wire line ควรใช้ Short Stub เนื่องจากเหตุผล
เรื่ องการของ Radiation
กำรต่ อ Stub
- กำรต่ อแบบอนุกรม
1.
2.
3.
4.
วาดจุด Normalized Load Impedance Z L
วาดวงกลม VSWR ผ่านจุด Z L
หาจุด Z L' หดยเคลื่อนที่ตามเข็มนาฬิกาจาก Z L ไปยังวงกลม r=1
ที่จุดนี้ ZL'  1  jX L' อ่านค่า X จาก Smith Chart
'
L
- กำรต่ อแบบขนำน
1. วาดจุด Normalized Load Impedance Z L
2. เปลี่ยนจาก Z L เป็ น YL
3. ทาเหมือนกับกรณี การต่อแบบอนุกรม
Z1  100  j50[], Z 2  75  j100[], Z3  j 200[], Z 4  150[]
Z5  []
Z6  0[],
Z7  50[],
Z8  184  j 900[]
Z0  50[]
[ ]
[ ]
[ ]
[ ]
Z R  44.8  j107[],
Z0  75[]
 Z L  0.597  j1.43
เพราะฉะนั้นเราต้องการ –j1.86 เพื่อ
เพิ่มเข้าไปซึ่ งจะทาให้ส่วน Reactance
หายไป จึงหาส่ วนของความยาว
Stub ได้เท่ากับ 0.078