การปฏิบัติการขนส่ งด้ วยรถยนต์ รถยนต์ เป็ นเครื่องมือทีม่ ีคุณลักษณะสามารถใช้ ปฏิบัตงิ านได้ ตามลาพัง เชื่อมกับขนส่ งประเภทต่ างๆ เช่ น เชื่อมกับสถานีขนส่ งทางอากาศ ทางนา้ ทางรถไฟ รถยนต์ ใช้ ขนถ่ ายสั.

Download Report

Transcript การปฏิบัติการขนส่ งด้ วยรถยนต์ รถยนต์ เป็ นเครื่องมือทีม่ ีคุณลักษณะสามารถใช้ ปฏิบัตงิ านได้ ตามลาพัง เชื่อมกับขนส่ งประเภทต่ างๆ เช่ น เชื่อมกับสถานีขนส่ งทางอากาศ ทางนา้ ทางรถไฟ รถยนต์ ใช้ ขนถ่ ายสั.

การปฏิบัติการขนส่ งด้ วยรถยนต์
รถยนต์ เป็ นเครื่องมือทีม่ ีคุณลักษณะสามารถใช้ ปฏิบัตงิ านได้ ตามลาพัง
เชื่อมกับขนส่ งประเภทต่ างๆ เช่ น เชื่อมกับสถานีขนส่ งทางอากาศ ทางนา้
ทางรถไฟ รถยนต์ ใช้ ขนถ่ ายสั มภาระจากวิธีการขนส่ งอย่ างหนึ่งไปอีก
อย่ างหนึ่ง เป็ นวิธีการขนถ่ ายทีเ่ หมาะสมทีส่ ุ ดในการแจกจ่ าย สป. หรือ
ใช้ เพิม่ เติมการขนส่ งประเภทอืน่ ๆ เป็ นการบริการที่ใช้ ได้ อย่ างต่ อเนื่อง
เพราะมีความสามารถในการเคลือ่ นทีส่ ู ง
ข้ อดี
อ่ อนตัว
• เพิม่ ความหยุ่นตัวให้ กบั การขนส่ งประเภทอืน่ ๆ
• ขนของได้ จานวนมาก
• ประหยัด(ขนระยะใกล้ )
•
ข้ อเสี ย
• สิ้นเปลือง (ขนระยะไกล)
•ขนได้ น้อย (ไม่ มกี ารรวมรถ)
คุณสมบัตขิ องบริการขนส่ งด้ วยรถยนต์
• ปฏิบัติงานอิสระ
• ปรับการปฏิบัติงานเข้ ากับความต้ องการของหน่ วย
รับการสนับสนุนทุกหน่ วย
• เป็ นตัวเชื่อมบริการขนส่ งประเภทอืน่ ๆ
• รักษาคุณสมบัตขิ องตนได้ ตลอดเวลา
คุณลักษณะของการขนส่ งด้ วยรถยนต์
• ดัดแปลงให้ เหมาะกับงานได้ ง่าย
• ความอ่ อนตัว
• ความเร็ว
• ตามกฎเกณฑ์
• ไว้ วางใจได้
การบริการขนส่ งด้ วยรถยนต์
ขนส่ งกาลังพล + สป.
จัดส่ งยานพาหนะ
จัดระเบียบทางหลวง
วิธีและประเภทของการปฏิบัติการขนส่ ง
หลักการขนส่ งด้ วยรถยนต์
• แบบของการขน ( Type Haul )
• วิธีการขน ( Hauling Method )
•
• ใช้ เต็มขีดความสามารถ ( Maximum
Use )
• ประหยัด ( Economic Use )
• กาหนดมาตรฐาน ( Standardization )
• เวลางดใช้ งานน้ อยทีส่ ุ ด ( Dead-Line Limit )
• เวลาขนขึน้ และ ขนลง น้ อยทีส่ ุ ด ( Less Delay Time )
1.ระยะใกล้
2. ระยะไกล
เป็ นการขนส่ งระยะทางสั้ นๆ หลายเทีย่ วใน 1 วัน โดยใช้ พลขับ และ รถคัน
เดิมทาให้ สิ้นเปลืองเวลาการขนขึน้ +ขนลง มากกว่ าเวลาทีใ่ ช้ ในการเดินทาง
มูลฐานการขนระยะใกล้
เวลาขนขึน้ + ขนลง > เวลาเดินทาง
ระยะทาง < 50 ไมล์ /เทีย่ ว
เดินทางไป-กลับ 4 เทีย่ ว/วัน
เป็ นการขนระยะทางยาวกว่ าขนส่ งระยะใกล้ใช้ เวลาเดินทาง มากกว่ าการขน
ขึน้ +ขนลง เดินทางวันละ 2 เทีย่ ว และ ใช้ เวลาผลัดละ 10 ชม.
มูลฐานการขนระยะไกล
เวลาขนขึน้ + ขนลง < เวลาเดินทาง
เดินทางไป-กลับ 2 เทีย่ ว/วัน
ผลัดละ 10 ชม.
อัตราเร็วเฉลีย่ 20 ไมล์/ชม.
ระยะทาง < 90 ไมล์/ช่ วง
4 วิธี
1.
2.
3.
4.
วิธีการขนโดยตรง
วิธีการเทียวขน
วิธีการขนส่ งทอด
วิธีการขนแบบผสม
วิธีขนโดยตรง
เป็ นการขนจากตาบลต้ นทางไปยังตาบลปลายทาง เที่ยวเดียวเสร็ จ
ภารกิจ โดยสั มภาระทีบ่ รรทุกไปยังคงอยู่บนรถคันเดิม และ พลขับคนเดิม
วิธีนีใ้ ช้ ในกรณี มีเวลาปฏิบัติงานจากัด หรือเป็ นการขนทางยุทธวิธี
A
B
การเทียวขน
เป็ นการขนจากตาบลต้ นทางไปยังตาบลปลายทางหลายๆ เทีย่ ว
จนเสร็จภารกิจการขนวิธีนีจ้ ะใช้ เวลาเดินทางบนถนนน้ อยกว่ า
เวลา ขนขึน้ -ขนลงวิธีนีใ้ ช้ เมื่อมีเวลาปฏิบัติเพียงพอ หรือ
การขนทางธุรการ
1
A
2
3
B
การขนส่ งทอด
เป็ นการขนไปข้ างหน้ าเป็ นช่ วงอย่ างต่ อเนื่องจนถึงปลายทาง
การขนวิธีนีแ้ ต่ ละช่ วงจะมีการสั บเปลีย่ นพลขับและหัวรถลากจูงโดยที่
รถพ่วงบรรทุกสั มภาระ-กาลังพลคงถูกขนไปข้ างหน้ า วิธีนีเ้ หมาะในการ
ปฏิบัติการขนส่ งระยะไกล หรือขนระหว่ างเขต
A
B
C
การขนส่ งแบบ พิกกีแ้ บค
•การขนแบบ โรลออน - โรลออฟ
• การขนแบบ ลิฟท์ ออน - ลิฟท์ ออฟ
•การขนผสมทางอากาศ
• การขนผสมแบบเรือเล็กร่ วมเรือใหญ่
•
เป็ นการขนแบบผสมซ้ อนบนรถไฟ โดยรถบรรทุกสั มภาระแล้ ว
จะถูกนาไปบรรทุกบนตู้เปิ ด (บขถ.) ทีส่ ถานีต้นทางจากนั้นจะ
เคลือ่ นย้ ายโดยรถไฟจนถึงสถานีปลายทาง แล้ วใช้ รถหัวลากหรือ
ขับลงจากรถไฟไปยังที่หมาย การขนแบบนีม้ ี 2 แบบ
TOFC
COFC
เป็ นการบรรทุกทีใ่ ช้ รถหัวลากและรถกึง่ พ่วงบรรทุกสั มภาระ
แล้ วขับขึน้ ไปบนเรือชนิดพิเศษ ณ ท่ าเรือต้ นทาง โดยไม่ ปลดขอพ่วง
แล้ วเดินทางไปยังท่ าเรือปลายทางโพ้นทะเล จากนั้นจะเคลือ่ นย้ ายโดย
ขับรถลากและรถพ่ วงลงจากเรือไปตามเส้ นทางสู่ ตาบลปลายทาง
ซึ่งให้ ผล ด้ าน ความเร็ว คล่ องตัว และประหยัด
เป็ นการขนโดยรถกึง่ พ่วงทีบ่ รรทุกแล้ วเคลือ่ นย้ ายไปยังท่ าเรือแล้ ว
ปลดออกจากรถลากจูงจากนั้นใช้ ป้ันจัน่ ยกลงจากเรือเมือ่ เดินทางถึง
ท่ าเรือโพ้นทะเลแล้ ว รถกึง่ พ่วงเหล่ านั้นจะถูกยกออกจากท่ าเรือ
โดยปั้นจัน่ แล้ วใช้ รถลากจูงไปยังจุดหมายปลายทาง
เป็ นการขนยานพาหนะทีข่ นสั มภาระทีม่ คี วามเร่ งด่ วนสู ง
เคลือ่ นย้ ายโดยทางอากาศจากสถานีต้นทางไปยัง
ปลายทาง
เป็ นการขนส่ งทีน่ ารถกึง่ พ่วงหรือตู้บรรทุกสั มภาระทีบ่ รรทุกเรียบร้ อยแล้ว
บรรทุกลงในเรือเล็ก จากนั้นนาเรือเล็กบรรทุกไว้ ในเรือใหญ่ ทตี่ ้ นทาง
ไปยังสถานีปลายทาง วิธีนีใ้ ช้ เมื่อไม่ มีสิ่งอานวยความสะดวก ที่ท่าเรือเพียงพอ
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
การขนออกจากสถานีขนส่ งทางนา้
การปฏิบัติการขนทีส่ ถานีรับส่ งด้ วยส่ งรถยนต์ บรรทุก
การปฏิบัติการขนส่ ง ณ ที่ต้งั หน่ วย
การปฏิบัติการขนถ่ าย
การสนับสนุนการรบ
การสนับสนุนการช่ วยรบ
การบริการระหว่ างเขต
1.การขนส่ งออกจากสถานีขนส่ งทางนา้
การขนออกจากท่ าเรือ
การขนส่ งจากหาด
การสนับสนุนทางธุรการ
การสนับสนุนคลังภายในพืน้ ที่
การขนถ่ ายสั มภาระหรือกาลังพลจากหน่ วยขนส่ งหน่ วยหนึ่ง
ไปยังอีกหน่ วยหนึ่งหรือประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่ง
ตาบลขนถ่ าย
1.
2.
3.
4.
5.
สถานีปลายทางรถไฟ
สถานีปลายทางรถยนต์ บรรทุก
สถานีรับส่ งทางนา้ ในแผ่ นดิน
สถานีปลายทางท่ อ
สถานีปลายทางรับส่ งทางอากาศ
หน่ วยทหารขนส่ งด้ วยรถยนต์ ถูกใช้ ในการสนับสนุโดยตรงต่ อการปฏิบัติ
ทางยุทธวิธี ทน. / พล. และ อาจจะใช้ หน่ วยทหารขนส่ งด้ วยรถยนต์ ใน
อัตราสมทบ
การปฏิบัติการจากคลังถึงคลัง
การปฏิบัติการจากคลังถึงตาบลส่ งกาลัง ทน.
คลังสนับสนุนโดยตรง
X
X
X
DSU
XX
X
X
X
GSU
X
X
DSU
X
DSU
X
X
XX
คลังสนับสนุนทัว่ ไป
X
X
XX
GSU
XXX
O
O
O
O
เขต
หน้ า
X
X
X
O
O เขต
O
O หลัง
คลัง
คลัง
-
การบังคับบัญชา
การจัด
ยุทโธปกรณ์
การวางแผนการปฏิบัติ
มูลฐานทีใ่ ช้
1. จานวนรถยนต์ ที่ใช้ งาน
2. ขีดความสารถในการบรรทุก
3. เวลาปฏิบัติงานตามวงรอบประจาวัน
4. อัตราการเคลือ่ นที่
5. ระยะทาง
6. เวลาที่เสี ยไป
7. ตัน * ไมล์ และ คน * ไมล์
8. ยอดยานพาหนะที่สามารถนามาใช้ ได้
9. ขีดความสามารถของกองร้ อย รยบ.
1.จานวนรถยนต์ ที่ใช้ งาน
- วางแผนล่ วงหน้ า ( ทั่วไป )
75 %
- วางแผนระยะสั้ น ( เฉพาะภารกิจ ) 83 %
2.ขีดความสารถในการบรรทุก
นอกเส้ นทาง (ถนนเลว ) = อัตราบรรทุกของรถ
รถใช้ ล้อเพิม่
100 %ของอัตราบรรทุก
ในเส้ นทาง
รถกึง่ พ่วงเพิม่ 50%ของอัตราบรรทุก
รถลากรถพ่วงเพิม่ 60%
ตัวรถพ่ วงห้ ามบรรทุกเกินอัตรา
กรณีฉุกเฉินหรือจาเป็ น ผบ.หน่ วยผู้มอี านาจสั่ งการให้ บรรทุกเกินอัตราได้
ในและนอกเส้ นทาง
3. เวลาปฏิบัติงานตามวงรอบประจาวัน
ปฏิบัติงานตลอดวัน
ขนระยะไกล
ขนระยะใกล้
20 ชม.
2 เทีย่ ว/วัน (ขนส่ งทอด )
4 เทีย่ ว/วัน ( เทียวขน )
4. อัตราการเคลือ่ นที่
นอกเส้ นทาง (ถนน เลว)
ในเส้ นทาง ( ถนน ดี)
10 ไมล์/ชม.
20 ไมล์/ชม.
5.ระยะทาง
ขนระยะไกล 90 ไมล์ ( 144 กม. ) ขนส่ งทอด
ขนระยะใกล้ 25 ไมล์ ( 40 กม. ) เทียวขน
6. เวลาที่เสี ยไป
สิ่ งอุปกรณ์ (ขนขึน้ +ขนลง)
กาลังพล ( ขนขึน้ +ขนลง )
สั บเปลีย่ นรถพ่วงครั้งละ
= 2 . 5 ชม.
= 0 . 5 ชม.
= 0 . 5 ชม.
7.ตัน *ไมล์ และ คน * ไมล์
ผลคูณระหว่ างจานวนตันหรือจานวนผู้โดยสารกับระยะทางเป็ นไมล์ ทขี่ นไปได้
การขนระยะใกล้ รวมการระบายจากท่ าเรือและชายหาด
แบบรถ
บรรทุก 2 1/2 ตัน 6x6
รกกึง่ พ่วง12 ตัน S & P
จานวนตัน ระยะทาง จานวนเทีย่ ว
ต่ อรถ 1 คัน ไมล์ (ไป) 1 คัน/วัน MIH เวลาทีเ่ สี ยไป
ใน 1 เทีย่ ว
4
12
12.5
20
4
4
10
10
2,5
1
การขนระยะไกล
แบบรถ
บรรทุก 2 1/2 ตัน 6x6
รกกึง่ พ่วง12 ตัน S & P
จานวนตัน ระยะทาง จานวนเทีย่ ว
ต่ อรถ 1 คัน วัน/เทีย่ ว 1 คัน/วัน
MTH เวลาทีเ่ สี ยไป
ใน 1 เทีย่ ว (ไมล์ )
4
12
75
90
2
2
10
10
2.5
1
ความสามารถในการบรรทุก
X
XX
ไม่ นับพลขับ
เฉพาะครั้งคราว
สิ่ งบรรทุกหรือสิ นค้ า
แบบรถ
บรรทุก 2 1/2 ตัน 6x6
รกกึง่ พ่วง12 ตัน S & P
รถกึง่ พ่วง25ตัน
นอกถนน
(ตัน)
2.5
12
25
บนถนน สู งสุ ด
(ตัน*เฉลีย่ ) (ตัน)
4
12
25
5
18
25
คนพร้ อมเครื่องกล
เครื่องประจากาย
(เฉลีย่ )
20X
50XX
50XX
8. ยอดยานพาหนะที่นามาใช้
X คิดตามจานวนรถใช้ งาน 75%ของจานวนรถทีบ่ รรจุจริง
หน่ วย
จานวนรถ
ทีบ่ รรจุจริง
ร้ อย.ขส.รยบ.เบา
ร้ อย.ขส.รยบ.กลาง
ร้ อย.ขส.รยบ.หนัก
แหล่ งรวมรถบรรทุก
60
60
24
ไม่ จากัด
ยานพาหนะทีน่ ามาใช้
วางแผน
ล่วงหน้ า X
45
45
18
ใช้ ได้ จริง
X
45
45
18
งานพิเศษ
53
57
34
9. ขีดความสามรถของกองร้ อยรถยนต์ บรรทุก
ชนิดของการส่ ง
ชนิด
บรรทุก 2 1/2 ตัน 6x6
รกกึง่ พ่วง12 ตัน
การขนส่ งระยะใกล้
(ตันสั้ น/วัน/กองร้ อย)
720
2,160
การขนระยะไกล
( ตันไมล์/วัน)
27,000
97,200
การคานวนหาจานวนรถและจานวนกองร้ อยรถยนต์ บรรทุก
วิธีขนโดยตรง
จานวนรถ
จานวนกองร้ อย
=
จานวนตันทีจ่ ะขน
ขีดความสามารถในการบรรทุกตัน/คัน
=
จานวนรถ
จานวนรถ ทีใ่ ช้ งาน / กองร้ อย
EX
ในการปฏิบัตกิ ารขน สป. ครั้งหนึ่ง มีรายละเอียด
ในการขนจากตาบล ก.ไปตาบล ข. ดั้งนี้
1. จานวน สป. ที่ต้องการขน
2. ขีดความสามารถของ รยบ.
3. จานวนรถ/กองร้ อย ( 75 % )
360
5
36
ตัน
ตัน/คัน
คัน
อยากทราบว่ าการปฏิบัตกิ ารขน สป. ครั้งนีจ้ ะต้ องใช้ รยบ.
จานวนกีค่ นั และต้ องใช้ หน่ วยปฏิบัติการครั้นจี้ านวนกีก่ องร้ อย
สป. 360 T
ขีด 5 T/คัน ตาบล ก.
ร้ อย = 36 คัน
จานวนรถ
ตาบล ข.
=
จานวนตันที่จะขน
ขีดความสามารถในการบรรทุกตัน/คัน
360
= 72 คัน
5
=
จานวนกองร้ อย
=
จานวนรถ
จานวนรถ ทีใ่ ช้ งาน / กองร้ อย
=
72
36
= 2 กองร้ อย
วิธีเทียวขน
เวลาวงรอบ
=
2 X ระยะทาง (ไป)
อัตราการเคลือ่ นที่
จานวนเทีย่ ว/วัน =
=
+ เวลาทีเ่ สี ยไป
เวลาปฏิบัตงิ าน/วัน
เวลาวงรอบ
20
เวลาวงรอบ
หมายเหตุ จานวนเทีย่ วจะต้ องเป็ นจานวนเต็มเสมอ เศษปัดทิง้
มิฉะนั้นจะเกินเวลาปฏิบัติงาน / วัน
จานวนรถ
=
จานวนกองร้ อย
จานวนตันที่จะขน
การบรรทุกตัน/คัน X จานวนเทีย่ ว/วัน X จานวนวัน
=
จานวนรถ
จานวนรถ ทีใ่ ช้ งาน / กองร้ อย
EX.1
ในการขนระยะใกล้จากคลังถึงคลัง มีระยะทาง 15 ไมล์ จะต้ องขน สป . จานวน1,500ตัน ให้
หมดภายใน 3 วัน โดยวิธีเทียวขน เส้ นทางทีใ่ ช้ เป็ นเส้ นทางชั้น60นา้ หนักบรรทุก/คัน
เท่ ากับ 4 ตัน และใช้ อตั ราการเคลือ่ นที่ 20 ไมล์ /ชม.จะต้ องใช้ รยบ. 2 1/2 ตัน 6X 6 กีค่ นั ต่ อวัน
และเป็ นจานวนกีก่ องร้ อย
A
15 ไมล์
ระยะทาง 15 ไมล์
สป. 1,500 T
เวลาปฏิบัติ 3 วัน
นา้ หนักบรรทุก 4 T/คัน
อัตราการเคลือ่ นที่ 20 ไมล์ /ชม.
เวลาปฏิบัตงิ าน 20 ชม./วัน
รยบ.ทีใ่ ช้ งาน ( 75 % ) = 36 คัน
B
เวลาวงรอบ
=
2 X ระยะทาง (ไป)
+ เวลาทีเ่ สี ยไป
อัตราการเคลือ่ นที่
2 X 18
+ 2.5
24
4 ชม.
=
=
จานวนเทีย่ ว/วัน =
เวลาปฏิบัตงิ าน/วัน
เวลาวงรอบ
=
20
เวลาวงรอบ
=
20
= 5 = 4 เทีย่ ว
4
การขนส่ งระยะใกล้ ไม่ เกิน 4 เทีย่ ว
จานวนรถ
=
=
จานวนกองร้ อย
จานวนตันที่จะขน
การบรรทุกตัน/คัน X จานวนเทีย่ ว/วัน X จานวนวัน
1, 500
= 31.25 = 32 คัน
4X4X3
=
=
จานวนรถ
จานวนรถ ทีใ่ ช้ งาน / กองร้ อย
32/36 = 0.89 = 1 กองร้ อย
EX 2. จาก EX 1. เปลีย่ น รยบ. 2 1/2 ตัน เป็ น รยบ. 12 ตัน จะใช้ รยบ. เท่ าใด
และ ใช้ กี่ กองร้ อย ?
A
15 ไมล์
ระยะทาง 15 ไมล์
สป. 1,500 T
เวลาปฏิบัติ 3 วัน
นา้ หนักบรรทุก 12 T/คัน
อัตราการเคลือ่ นที่ 24 กม./ชม.
เวลาปฏิบัตงิ าน 20 ชม./วัน
รยบ.ทีใ่ ช้ งาน ( 75 % ) = 24 คัน
B
เวลาวงรอบ
=
2 X ระยะทาง (ไป)
อัตราการเคลือ่ นที่
2 X 18
+ 1
24
2.5 ชม.
=
=
+ เวลาทีเ่ สี ยไป
จานวนเทีย่ ว/วัน =
เวลาปฏิบัตงิ าน/วัน
เวลาวงรอบ
=
20
เวลาวงรอบ
=
20
= 8 = 4 เทีย่ ว
2.5
การขนส่ งระยะใกล้ ไม่ เกิน 4 เทีย่ ว
จานวนรถ
=
=
จานวนกองร้ อย
จานวนตันที่จะขน
การบรรทุกตัน/คัน X จานวนเทีย่ ว/วัน X จานวนวัน
1, 500
= 10. 41 = 11 คัน
12 X 4 X 3
=
=
จานวนรถ
จานวนรถ ทีใ่ ช้ งาน / กองร้ อย
12/36 = 0 . 33 = 1 กองร้ อย
การขนส่ งทอด
ระยะทางทีจ่ ัดตั้ง TTP
= (10-1) X อัตราการเคลือ่ นที่
2
10 เวลาทีใ่ ช้ ปฏิบัติงานใน 1 ผลัด (ไป- กลับ) 10 ชม.
1 เวลาทีเ่ สี ยไปในการปลด-เกีย่ วของรถพ่ วงแห่ งละ 0.5 ชม. (ไป-กลับ)
หลักสาคัญในการกาหนดทีต่ ้งั TT และ TTP
1.
2.
3.
4.
5.
6.
มีบริเวณให้ รถจอดพัก
มีข่ายถนนใช้ ปฏิบัติงาน
มีหน่ วยใกล้ เคียงให้ การสนับสนุนได้
ขนาดความยากง่ ายของภารกิจ
ชนิด + จานวนรถในการปฏิบัติภารกิจ
มีสิ่งอานวยความสะดวกในที่ต้งั
7. วิธีการควบคุมการใช้ รถ(ปล่อยรถ)
8. จานวนรถพ่วง/กึง่ พ่วงแต่ ละ TT
9. ป้องกันตัวเองโดยการ รักษาความปลอดภัย + พราง
10. ขีดความสามารถของ ข้ าศึก
11. การติดต่ อสื่ อสารกับหน่ วย บช. + หน่ วยที่เกีย่ วข้ อง
EX 1
ในการขนระยะไกลโดยวิธีขนส่ งทอดระยะทางจาก TT ต้ นทาง ถึง TT ปลายทาง
เท่ ากับ 260 ไมล์ ถ้ า ร้ อย.ขส.รยบ.กลาง ใช้ อตั ราการเคลือ่ นที่ 20 ไมล์ ใน ชม.
จงพิจารณาจัดตั้ง TTP ว่ ามีกแี่ ห่ ง และช่ วงละเท่ าใดบ้ าง
TT1
TT2
260 ไมล์
อัตราการเคลือ่ นที่ 20 ไมล์ /ชม.
ระยะทางที่จัดตั้ง TTP
= (10-1) X อัตราการเคลือ่ นที่
2
= ( 10 - 1 ) X 20
2
=
90 ไมล์
TT1
90 ไมล์
TTP1
90 ไมล์
TTP2
80 ไมล์
TT2
260 ไมล์
3 ช่ วง ช่ วงที่ 1 และ 2 ช่ วงละ 90 ไมล์ ช่ วงที่ 3 80 ไมล์
การหาจานวนรถ/ร้ อย.รยบ.กึง่ พ่วง ในการขนระยะไกล
วิธีส่งทอด
รถบรรทุก
รถบรรทุก
TT1
TTP1
รถเปล่า
รถบรรทุก
TT2
TTP2
รถเปล่า
รถเปล่า
EX 2 จาก EX 1 ถ้ าจะขน สป. จานวน 5,000 ตัน จาก TT1 ไป TT1
โดยใช้ รยบ.กลาง 12 ตัน ให้ เสร็จภารกิจใน 3 วัน จะต้ องใช้ รยบ. กลาง
กีค่ นั และ กี่ กองร้ อย ( อจย. USA ) ขีดความสามารถ 12 ตัน / คัน
TT1
90 ไมล์ TTP1 90 ไมล์
260 ไมล์
TTP2 80 ไมล์
TT2
เวลาวงรอบ
=
เวลาวงรอบ 1 =
เวลาวงรอบ 2 =
เวลาวงรอบ 3 =
จานวนเทีย่ ว/วัน =
2 X ระยะทาง (ไป)
+ เวลาที่เสี ยไป
อัตราการเคลือ่ นที่
2 X 90 + 1 = 10 ชม.
20
2 X 90 + 1 = 10 ชม.
20
2 X 80
+ 1 = 8 ชม.
20
เวลาปฏิบัตงิ าน/วัน
เวลาวงรอบ
=
20
การขนส่ งระยะไกล ไม่ เกิน 2 เทีย่ ว
เวลาวงรอบ
=
20
= 2 เทีย่ ว
10
จานวนรถ
=
จานวนรถทีใ่ ช้ ช่วง 1
จานวนรถทีใ่ ช้ ช่วง 2
จานวนรถทีใ่ ช้ ช่วง 3
รวมเป็ นจานวนรถทั้งสิ้น
จานวนกองร้ อย
จานวนตันที่จะขน
การบรรทุกตัน/คัน X จานวนเทีย่ ว/วัน X จานวนวัน
=
5,000
12 X 2 X 3
=
5,000
12 X 2 X 3
=
5,000
12 X 2 X 3
= 70 X 3 = 210
=
=
= 69 . 44 = 70 คัน
= 69 . 44 = 70 คัน
= 69 . 44 = 70 คัน
คัน
จานวนรถ
จานวนรถ ทีใ่ ช้ งาน / กองร้ อย
210/24 = 8 . 75 = 9 กองร้ อย
ท่ าเรือ ก
10 ไมล์
แผนผังเส้ นทางและตาบลต่ างๆ
TT1
5ไมล์
คลัง101
15 ไมล์
หาด ส
233 ไมล์
TT2
10 ไมล์
คลัง301
ปัจจัยในการวางแผน
1.
2.
3.
4.
5.
6.
เวลาในการปฏิบัติงานในหนึ่งวัน
จานวนรถใฃ้ งาน ( 75% ) อจย. ไทย
จานวนตัน/คันรถ 2 1/2 ตัน บรรทุกในเส้ นทาง
จานวนตัน/คันรถพ่วง 12 ตัน บรรทุกได้
อัตราความเร็วในเส้ นทาง
เวลาทีเ่ สี ยไป
- การขนขึน้ +ขนลง บนรถบรรทุก
- การปลดและเกีย่ วของรถพ่วง
20
24
4
12
20
ชม.
คัน
ตัน/คัน
ตัน
ไมล์/ชม.
2.5
1
ชม.
ชม.
จานวนตันที่ต้องขน
- จานวนตันที่ต้องขน เป็ นหน้ าที่ของ ฝอ. การเคลือ่ นย้ ายที่ต้อง
แจ้ งให้ หน่ วยทราบ
จานวน สป. ที่ใด จานวนเท่ าใด ขนไปที่ไหน
สป. หาด ส. จานวน 2,400 ตัน ขนไป
สป. ท่ าเรือ ก. จานวน 3,600 ตัน ขนไป
สป. คลัง 101 จานวน 1,500 ตัน ขนไป
สป. TT1 จานวน 5,100 ตัน ขนไป
สป. TT2 จานวน 5,100 ตัน ขนไป
คลัง 101
TT1
TT1
TT2
คลัง 301
แผนผังแสดงภาพการขนจานวน สป. ไปยังตาบลต่ างๆ
ท่ าเรือ ก
3,600ตันสั้ น
TT1
TT2
1,500ตันสั้ น
คลัง 101
2,400ตันสั้ น
หาด ส
5,100ตันสั้ น
5,100ตันสั้ น
คลัง 301
การพิจารณาชนิดกองร้ อยรถยนต์ บรรทุกทีจ่ ะนามาปฏิบัตงิ าน
การใช้ ชนิดของรถเพือ่ ใช้ งานขึน้ อยู่กบั หลักฐาน + คาสั่ ง
กิจเฉพาะ
งานที่ต้องทา
ชนิดกองร้ อยที่ต้องการ
การกาหนดสถานีต้นทางและสถานีปลายทาง
TT1 อยู่บริเวณสามแยกระว่างท่าเรือ ก. และ คลัง 101
TT2 อยู่บริเวณสามแยกทางทิศเหนือของ คลัง 301
การพิจารณาใช้ หน่ วยเข้ าปฏิบัติงาน
- การขนส่ งจาก TT1 ไป คลัง 301 เป็ นการขนระยะไกล มี สป. 5,100 ตันหน่ วยที่
เหมาะสม ร้ อย.ขส.รยบ.กลาง
- การระบาย สป. จากท่ าเรือ ก. ไป TT1 มี สป. 3,600 ตัน หน่ วยที่เหมาะสม
ร้ อย.ขส.รยบ.กลาง ( ขนโดยวิธีส่งทอด ไป คลัง 301 ได้ ทนั ทีไม่ ต้องเปลีย่ นรถ/ถ่ าย สป. )
- การระบาย สป. ออกจากหาด ส. ไป คลัง 101 มี สป. 2,400 ตัน หน่ วยที่เหมาะสม
ร้ อย.ขส.รยบ.เบา ( ขน สป.เข้ า คลัง 101 ไม่ มกี ารส่ งต่ อ )
-การจ่ าย สป. จาก คลัง 101 ไป TT1 และ ส่ งต่ อไป คลัง 301 มี สป. 1,500 ตัน
หน่ วยทีเ่ หมาะ ร้ อย.ขส.รยบ.กลาง
- การขน สป. จาก TT2 ไป คลัง 301 มี สป. 5,100 ตัน หน่ วยทีเ่ หมาะสม
ร้ อย.ขส.รยบ.กลาง
การกาหนดทีต่ ้งั ตาบลเปลีย่ นรถพ่วง
( TTP )
- เวลาวงรอบทั้งสิ้นที่ต้องใช้ ตลอดเส้ นทาง
- เวลาทีเ่ สี ยไปทั้งสิ้นที่ต้องใช้ ตลอดเส้ นทาง
- อัตราการเคลือ่ นที่ 20 ไมล์ / ชม.
ระยะทาง TTP = ( เวลาปฏิบัติงาน/ผลัด - เวลาทีเ่ สี ยไป ) X 20
2
=
10 X 20
2
=
90 ไมล์
ท่ าเรือ ก
ภาพแผนผังแสดงการตั้งสถานีต้นทาง,ปลายทาง
และตาบลเปลีย่ นรถพ่วง
TT1
90ไมล์
90ไมล์
TTP1
53ไมล์
TTP2
สถานีปลายทาง
TT2
สถานีต้นทาง
คลัง101
หาด ส
คลัง301
การคานวณหาจานวนกองร้ อย รยบ.กลางจากสถานีต้นทางถึงสถานีปลายทาง
TT1
TT2
จานวนตันที่ต้องขน
เวลาวงรอบ
=
=
5,100
2 X ระยะทาง (ไป)
อัตราการเคลือ่ นที่
ตัน
+ เวลาทีเ่ สี ยไป
เวลาวงรอบ
=
2 X ระยะทาง (ไป)
+ เวลาที่เสี ยไป
อัตราการเคลือ่ นที่
เวลาวงรอบ 1 = 2 X 90 + 1 = 10 ชม.
20
เวลาวงรอบ 2 = 2 X 90 + 1 = 10 ชม.
20
เวลาวงรอบ 3 = 2 X 53
+ 1 = 6. 3 ชม.
20
จานวนเทีย่ ว/วัน = เวลาปฏิบัตงิ าน/วัน
เวลาวงรอบ
=
20
เวลาวงรอบ
การขนส่ งระยะไกล ไม่ เกิน 2 เทีย่ ว
=
20
= 2 เทีย่ ว
10
จานวนรถ
=
จานวนตันที่จะขน
การบรรทุกตัน/คัน X จานวนเทีย่ ว/วัน X จานวนวัน
จานวนรถทีใ่ ช้ ช่วง 1
=
จานวนรถทีใ่ ช้ ช่วง 2
=
จานวนรถทีใ่ ช้ ช่วง 3
=
รวมเป็ นจานวนรถทั้งสิ้น
5,100
12 X 2 X 1
5,100
12 X 2 X 1
5,100
12 X 2 X 1
= 212 . 5 = 213 คัน
= 212 . 5 = 213 คัน
= 212 . 5 = 213 คัน
= 213 X 3 = 639 คัน
ใช้ รถกึง่ พ่วงขน จานวนตัน/คัน
จานวนรถทีใ่ ช้ ใน 1 กองร้ อย ( 75 % )
เวลาปฏิบัตงิ านใน 1 วัน
จานวนกองร้ อย
=
=
12
24
20
ตัน
คัน
ชม.
จานวนรถ
จานวนรถ ทีใ่ ช้ งาน / กองร้ อย
639/24 = 26 . 63 = 27 กองร้ อย
การคานวณจานวน ร้ อย.รยบ.กลาง จาก สถานีปลายทางถึง คลัง 301
301
TT2
จานวนตันที่ต้องขนใน 1 วัน
เวลาวงรอบ
=
5,100
ตัน
=
2 X ระยะทาง (ไป)
+ เวลาทีเ่ สี ยไป
อัตราการเคลือ่ นที่
= 2 X 10
+
1 = 2 ชม.
20
จานวนเทีย่ ว/วัน = เวลาปฏิบัตงิ าน/วัน
เวลาวงรอบ
=
20
= 20 / 2 = 10 เทีย่ ว
เวลาวงรอบ
= 4 เทีย่ ว
การขนส่ งระยะใกล้ ไม่ เกิน 4 เทีย่ ว
ใช้ รถกึง่ พ่วงขน จานวนตัน/คัน
จานวนรถทีใ่ ช้ ใน 1 กองร้ อย ( 75 % )
เวลาปฏิบัตงิ านใน 1 วัน
จานวนรถ
=
=
จานวนกองร้ อย
12
24
20
ตันสั้ น
คัน
ชม.
จานวนตันที่จะขน
การบรรทุกตัน/คัน X จานวนเทีย่ ว/วัน X จานวนวัน
5 ,100
= 106. 25 = 107 คัน
12 X 4 X 1
=
=
จานวนรถ
จานวนรถ ทีใ่ ช้ งาน / กองร้ อย
107/24 = 4 . 46 = 5 กองร้ อย
การคานวณจานวน ร้ อย.รยบ.กลาง จาก ท่ าเรือ ก. ไป สถานีต้นทาง
ท่ าเรือ ก.
TT1
จานวนตันที่ต้องขน
เวลาวงรอบ
=
=
3,600
ตัน
2 X ระยะทาง (ไป)
+ เวลาทีเ่ สี ยไป
อัตราการเคลือ่ นที่
= 2 X 10
+
1 = 2 ชม.
20
จานวนเทีย่ ว/วัน = เวลาปฏิบัตงิ าน/วัน
เวลาวงรอบ
=
20
= 20 / 2 = 10 เทีย่ ว
เวลาวงรอบ
= 4 เทีย่ ว
การขนส่ งระยะใกล้ ไม่ เกิน 4 เทีย่ ว
ใช้ รถกึง่ พ่วงขน จานวนตัน/คัน
จานวนรถทีใ่ ช้ ใน 1 กองร้ อย ( 75 % )
เวลาปฏิบัตงิ านใน 1 วัน
จานวนรถ
=
=
จานวนกองร้ อย
12
24
20
ตัน
คัน
ชม.
จานวนตันทีจ่ ะขน
การบรรทุกตัน/คัน X จานวนเทีย่ ว/วัน X จานวนวัน
3 ,600
= 75 คัน
12 X 4 X 1
=
=
จานวนรถ
จานวนรถ ทีใ่ ช้ งาน / กองร้ อย
75/24 = 3 . 13 = 4 กองร้ อย
การคานวณจานวน ร้ อย.รยบ.กลาง จาก คลัง 101ไปสถานีต้นทาง
101
TT1
จานวนตันที่ต้องขน
เวลาวงรอบ
=
=
1,500
ตัน
2 X ระยะทาง (ไป)
+ เวลาทีเ่ สี ยไป
อัตราการเคลือ่ นที่
= 2X5
+
1 = 1.5 ชม.
20
จานวนเทีย่ ว/วัน = เวลาปฏิบัตงิ าน/วัน
เวลาวงรอบ
=
20
= 20 / 1.5 = 13 .33 เทีย่ ว
เวลาวงรอบ
= 4 เทีย่ ว
การขนส่ งระยะใกล้ ไม่ เกิน 4 เทีย่ ว
ใช้ รถกึง่ พ่วงขน จานวนตัน/คัน
จานวนรถทีใ่ ช้ ใน 1 กองร้ อย ( 75 % )
เวลาปฏิบัติงานใน 1 วัน
จานวนรถ
=
=
จานวนกองร้ อย
12
24
20
ตัน
คัน
ชม.
จานวนตันทีจ่ ะขน
การบรรทุกตัน/คัน X จานวนเทีย่ ว/วัน X จานวนวัน
1 ,500
= 31 . 25 = 32 คัน
12 X 4 X 1
=
=
จานวนรถ
จานวนรถ ทีใ่ ช้ งาน / กองร้ อย
32/24 = 1 . 33 = 2 กองร้ อย
รวมร้ อย รยบ.กลาง ที่ใช้ ในการปฏิบัติงาน ทั้งขน ระยะใกล้ + ไกล
การขนระยะไกล (TT1- TT2 )
การขนระยะใกล้ ( TT2-คลัง301)
การขนระยะใกล้ ( ท่ าเรือ ก.-TT1)
การขนระยะใกล้ ( คลัง101- TT1)
รวม
=
=
=
=
=
27
5
4
2
38
การปฏิบัติการแบบส่ งทอด
อัตรารถกึง่ พ่วง : รถลากจูง
=
2 : 1
กองร้ อย
กองร้ อย
กองร้ อย
กองร้ อย
กองร้ อย
การคานวณจานวน ร้ อย.รยบ.เบา จาก หาด ส. ไป คลัง 101
จานวนตันทีต่ ้ องขน
=
2,400
ตัน
เวลาวงรอบ = 2 X ระยะทาง (ไป)
+ เวลาทีเ่ สี ยไป
อัตราการเคลือ่ นที่
= 2 X15
+
2.5 = 5.5 ชม.
10
จานวนเทีย่ ว/วัน =
เวลาปฏิบัตงิ าน/วัน
เวลาวงรอบ
=
20
= 20 / 5.5 = 3 . 63 เทีย่ ว
เวลาวงรอบ
= 3 เทีย่ ว
ใช้ รถ 2 1/2 ตัน 6X 6 ขน จานวนตัน/คัน
จานวนรถทีใ่ ช้ ใน 1 กองร้ อย ( 75 % )
เวลาปฏิบัติงานใน 1 วัน
จานวนรถ
=
=
จานวนกองร้ อย
4
36
20
ตัน
คัน
ชม.
จานวนตันทีจ่ ะขน
การบรรทุกตัน/คัน X จานวนเทีย่ ว/วัน X จานวนวัน
2 ,400
= 200 คัน
4X3X1
=
=
จานวนรถ
จานวนรถ ทีใ่ ช้ งาน / กองร้ อย
200/36 = 5 . 56 = 6 กองร้ อย
หน่ วยเข้ าคุมการปฏิบัติ
-
ร้ อย. รยบ. กลาง
ร้ อย. รยบ.เบา
TTP
TT
38
6
2
2
กองร้ อย
กองร้ อย
แห่ ง
แห่ ง
แบบฝึ กหัดขนส่ งด้ วยรถยนต์
EX1 การขนครั้งเดียวหมด
กรมทหารขนส่ ด้ วยรถยนต์ ที่ 102 ได้ รับคาสั่ งให้ ขน สป. และ
ยุทโธปกรณ์ ต่างๆ จากคลังสนับสนุนทัว่ ไป ( GSU ) ไปยังคลังส่ งกาลัง
ของกองพล ( DSU ) ดังมีรายระเอียดดังนี้
ก. นา้ หนักทีต่ ้ องบรรทุกต่ อคันสู งสุ ด ( ตามอัตราทีก่ าหนด )
ข. ใช้ รยบ.กลาง กึง่ พ่วงขนาด 12 ตัน ทาการขน
ค. นา้ หนักที่ขนทั้งสิ้น 6,866 ตัน/วัน
บ่ งการ
ก. จะต้ องใช้ จานวนรยบ. กลาง กีค่ นั ในการขน
ข. ใช้ จานวนกองร้ อยกี่ กองร้ อย
EX 2 การหาเวลาวงรอบ
ถ้ าระยะทางจากคลังสนับสนุนทัว่ ไป ไปยังคลังสนับสนุนกองพล
มีระยะทาง 14 ไมล์ กรม ขส.รยบ.ได้ กาหนด รปจ. ไว้ ในการปฏิบัติ
การขนย้ายด้ วย รยบ.เบา ไว้ ดงั นี้
ก. ขนระยะใกล้ระยะทางไม่ เกิน 25 ไมล์
ข. อัตราการเคลือ่ นที่
- ถนนเลว/ภูมปิ ระเทศ
10
ไมล์ /ชม.
- ถนนดี
20
ไมล์ /ชม.
ค. นา้ หนักบรรทุก/ คัน ใช้ เกณฑ์ เฉลีย่
ง. ปฏิบัติงานวันละ
20 ชม. ( 2 ผลัด )
จ. เวลาที่เสี ยไปในการขนขึน้ +ขนลง ( ไป - กลับ ) 2.5 ชม.
บ่ งการ ถ้ าเป็ นการบรรทุกในเส้ นทาง จงหาเวลาวงรอบของ รยบ.ทีใ่ ช้ ในการปฏิบัติ
การขนแต่ ละเทีย่ ว
EX 3 การขนระยะใกล้โดยใช้ รยบ.เบา
จากข้ อมูล EX 1 และ EX 2 ทาการขน
บ่ งการ ถ้ าใช้ รยบ. 2 1/2 ตัน 6 X 6 ทาการขนอยากทราบว่ า
ก. จะใช้ รถจานวนกีค่ นั
ข. ใช้ จานวนกีก่ องร้ อย
EX 4 การหาเวลาวงรอบ
รปจ. ของกรม ขส.รยบ. 102 กาหนดไว้ ในการปฏิบัติ ด้ วย รยบ. กลาง
ดังนี้ ( ระยะทางระหว่ างคลังจาก EX 2 )
ก. ขนระยะใกล้ระยะทางไม่ เกิน 25 ไมล์
ข. อัตราการเคลือ่ นที่
- ถนนเลว/ภูมิประเทศ
10
ไมล์/ชม.
- ถนนดี
20
ไมล์/ชม.
ค. นา้ หนักบรรทุก/ คัน ใช้ เกณฑ์ เฉลีย่
ง. ปฏิบัติงานวันละ
20 ชม. ( 2 ผลัด )
จ. เวลาทีเ่ สี ยไปในการ ปลด-เกีย่ วขอพ่วง ( ไป - กลับ ) 1 ชม./ช่ วง
บ่ งการ ถ้ าเส้ นทางเป็ นถนนดี จงหาเวลาวงรอบของ รยบ.กลางที่ใช้
ในการปฏิบัติการขนแต่ ละเทีย่ ว
EX 5 การขนระยะใกล้ ( รยบ. กลาง )
จากข้ อมูล EX 1 , EX 2 และ EX 4 )
บ่ งการ ถ้ าใช้ รยบ.กลาง ขนาด 12 ตัน ( M 127 A 2 ) ทาการขนแต่ ใช้
พิกดั บรรทุกในเกณฑ์ ตา่ สุ ด อยากทราบว่ า
ก. จะใช้ รถจานวนเท่ าใด
ข. ใช้ จานวนกีก่ องร้ อย
EX 6 จาก EX 5 มีข้อมูลเปลีย่ นแปลงดังนี้
ก. อัตราการเคลือ่ นที่
15 ไมล์ / ชม.
ข. นา้ หนักบรรทุก/คัน ใช้ เกณฑ์ สูงสุ ด
บ่ งการ
ถ้ าใช้ รยบ. ขนาดเดิมทาการขน อยากทราบว่ า
ก. จะใช้ รถจานวนเท่ าใด
ข. ใช้ จานวนกีก่ องร้ อย
EX 7 การจัดตั้งตาบลส่ งทอดรถพ่วงสาหรับการขนส่ งระยะไกล
กรมขนส่ งด้ วยรถยนต์ ที่ 102 ได้ รับคาสั่ งให้ เคลือ่ นย้ าย
สป. จากคลังท่ าเรือไปคลัง สน.ทป. มีระยะทาง 250 ไมล์
เนื่องจากเป็ นการเคลือ่ นย้ ายในพืน้ ทีเ่ ขตหลัง เส้ นทางดี
และมีการ รปภ. ที่ดี
- อัตราการเคลือ่ นที่
20 ไมล์ /ชม.
- เวลาทีใ่ ช้ ในการปลด-เกีย่ ว ขอพ่วง 1 ชม.
บ่ งการ
จงพิจารณาระยะทางในการจัดตั้ง TTP แต่ ละช่ วงห่ างกัน
เท่ าใด และ มีท้งั หมดกีแ่ ห่ ง
คลังท่ าเรือ
คลัง สป.ทป.
คลัง
สน.พล.
การขนระยะไกล
การขนระยะไกล
OTT = TT ต้ นทาง
DTT = TTปลายทาง
EX 8 จาก EX 7 กรมทหารขนส่ งด้ วยรถยนต์ ที่ 102 จะใช้ รยบ.กลาง
ขนาด 12 ตัน ขน สป. 7200 ตัน/วัน ดังกล่าว และให้ ใช้ รปจ.
ในการขนระยะไกลดังนี้
ก. นน.บรรทุก
18 ตัน/คัน
ข. เวลาปลดและเกีย่ วขอพ่วง/ช่ วง 1 ชม.
ค. จานวนรถ/กองร้ อย (75%)
45 คัน
ง. เวลาปฏิบัติงาน
20 ชม/วัน
บ่ งการ ให้ คานวณหา
ก. จานวนรถทีใ่ ช้ ในครั้งนี้
ข. จานวนกองร้ อย
EX 9 จาก EX 7 และ EX 8 ให้ กรม ขส.รยบ. 102 ขน สป.
จานวน 7,200 ตัน/วัน จากคลังท่ าเรือ ไป คลัง สน.พล.
โดยใช้ รยบ.กลาง 12 ตัน ทาการขนทั้งหมด
บ่ งการ
ให้ คานวณหา
ก. จานวนรถทีใ่ ช้
ข. จานวนกองร้ อย
บ่ งการที่ 1
สมมติว่าหน่ วยของท่ านได้ รับภารกิจให้ เตรียมการวางแผนใช้ รถยนต์ ทาการขน
กาลังพล อาวุธ และ ยุทโธปกรณ์ ดังต่ อไปนี ้
1. ทาการขนสิ่งอุปกรณ์ จานวน 12,000 ตัน จากหาดเสือดาว ไปยังคลังมะลิ
ซึ่งมีระยะทาง 20 ไมล์
2. ทาการขนสิ่งอุปกรณ์ จานวน 50,000 ตัน จากท่ าเรือสิงโตไปยังคลังมะลิ
ซึ่งมีระยะทาง 483 ไมล์
3. ทาการขนกาลังพลจากท่ าเรือสิงโตไปยังสถานีรถไฟกุหลาบ ( ระยะทาง 15 ไมล์ )
เพื่อนาไปส่ งสถานีรถไฟกล้ วยไม้ จานวน 15,000 นาย ซึ่งเป็ นระยะทาง 350 ไมล์
4. ขนกาลังพลจากสถานีรถไฟกล้ วยไม้ เพื่อไปส่ งยัง กองพันเสือ กองพันสิงห์
กองพันกระทิง กองพันแรด จานวนเท่ ากัน ซึ่งมีระยะทาง 10 ไมล์ , 15 ไมล์ , 15 ไมล์ และ
20 ไมล์ ตามลาดับ
5. ทาการขนสิ่งอุปกรณ์ จากคลังมะลิ ไปยัง ตาบลกุ้ง ตาบลหอย ตาบลปู ตาบลปลา
เป็ นระยะทาง 15 ไมล์ จานวน 10,000 ตัน โดยส่ งที่ ตาบลกุ้ง 2,000 ตัน ตาบลหอย 3,000 ตัน
ตาบลปู 2,500 ตัน
บ่ งการที่ 1
รฟ. กุหลาบ
สิ งโต
รฟ.กล้วยไม้
กุ้ง
มะลิ
สิ งห์
กระทิง
แรด
หอย
ปู
เสื อดาว
เสื อ
ปลา
บ่ งการที่ 2
จากแผนขัน้ ต้ น ปรากฏว่ า มทภ. 18 ได้ ส่ ังการให้ ของท่ านทาการ ถ. เบา และ รถ รสพ.
1. ทาการ ถ. เบา และ รถ รสพ. จานวน 280 คัน และ 280 คัน จากท่ าเรือสิงโต
ไปคลังมะลิ
2. กองพันเสือ ขอรับการสนับสนุน ถ. เบา จานวน 24 คัน และ รสพ. จานวน 48 คัน
จากคลังมะลิ
3. กองพันสิงห์ ขอรับการสนับสนุน ถ. เบา จานวน 12 คัน และ รสพ. จานวน 36
คัน จากคลังมะลิ
4. กองพันกระทิง ขอรับการสนับสนุน ถ. เบา จานวน 36 คัน และ รสพ. จานวน 24
คัน จากคลังมะลิ
5. กองพันแรด ขอรับการสนับสนุน ถ. เบา จานวน 48 คัน และ รสพ. จานวน 52
คัน จากคลังมะลิ
6. สาหรับจานวน ถ. เบา และ รสพ. ที่เหลือ คลังมะลิ ส่ งไปยัง ตาบลกุ้ง ตาบลหอย
ตาบลปู ตาบลปลา เป็ นจานวนเท่ ากัน
บ่ งการที่ 2
สิ งโต
กุ้ง
มะลิ
เสื อ
สิ งห์
กระทิง
แรด
หอย
ปู
ปลา
บ่ งการที่ 3
ปรากฏ ว่ า สถานการณ์ ท่ ี สธ. 2 ให้ ไว้ ผิดเป้าหมาย เนื่องจากกาลังที่คาดการณ์ ไว้ ของ
ขศ. เป็ น ถ. ขนาดหนักเป็ นจานวนมาก อาวุธ และ ยุทโธปรณ์ ของเราที่มีอยู่ไม่ เพียงพอ มทภ. 18
จึงสั่งการให้ หน่ วยของท่ าน ต้ องจัดยานพาหนะเพิ่มเติมดังนี ้
1. ทาการขน ถ. M 48 A 5 จานวน 350 คัน และ ถ. M 60 จานวน 220 จากท่ าเรือ
สิงโต ไปยัง คลังมะลิ
2. ทาการขน ถ. M. 48 A 5 จานวน 250 คัน ไปยัง ตาบลกุ้ง
3. ทาการขน ถ. M. 48 A 5 จานวน 100 คัน ไปยัง ตาบลหอย
4. ทาการขน ถ. M. 60 จานวน 120 คัน ไปยัง ตาบลปู
5. ทาการขน ถ. M. 60 จานวน 100 คัน ไปยัง ตาบลปลา
6. ตาบลกุ้ง ให้ การสนับสนุน ถ. M. 48 A 5 จานวน 45 คัน ไปยัง กองพันเสือ ซึ่ง
มีระยะทาง 10 ไมล์
7. ตาบลหอย ให้ การสนับสนุน ถ. M. 48 A 5 จานวน 35 คัน ไปยังกองพันสิงห์ ซึ่ง
มีระยะทาง 15 ไมล์
8. ตาบลปู ให้ การสนับสนุน ถ. M. 60 จานวน 28 คัน ไปยังกองพันกระทิง ซึ่งมี
ระยะทาง 15 ไมล์
9. ตาบลปลา ให้ การสนับสนุน ถ. M. 60 จานวน 22 คัน ไปยังกองพันแรด ซึ่งมี
ระยะทาง 10 ไมล์
บ่ งการที่ 3
สิ งโต
มะลิ
กุ้ง
เสื อ
หอย
สิ งห์
ปู
กระทิง
ปลา
แรด
บ่ งการที่ 4
จากบ่ งการที่ 3 ปรากฏ ว่ า มทภ. 18 ได้ มคี าสั่ งย้ าย สธ. 2 คนเดิม ให้ กลับไปทางานที่กองทัพแต่
สธ. 2 คนใหม่ ได้ รับภารกิจต่ อจากคนเดิมว่ า กาลังพล อาวุธ และ ยุทโธปรณ์ ของเราทีม่ อี ยู่แล้ วนั้นไม่ เพียงพอ
มทภ. 18 จึงสั่ งการให้ หน่ วยของท่ าน ต้ องจัดยานพาหนะเพิม่ เติมดังนี้
1. ทาการขน กาลังพลทดแทน จานวน 1, 500 นาย จากท่ าเรือสิ งโต ไปยัง กองพันทดแทน
ซึ่งมีระทาง 235 ไมล์
2. ทาการขน ถ. M. 60 จานวน 150 คัน จากคลังมะลิ ไปยัง ตาบลกุ้ง
3. ทาการขน ถ. เบา จานวน 125 คัน จากคลังมะลิ ไปยัง ตาบลหอย
4. ทาการขน รสพ. จานวน 135 คัน จากคลังมะลิ ไปยัง ตาบลปู
5. ทาการขน ถ. M. 48 A 5 จานวน 120 คัน จากคลังมะลิ ไปยัง ตาบลปลา
6. ขนกาลังพล จานวน 250 นายจากกองพันทดแทน ไป กองพันสิ งห์ ซึ่งมีระยะทางเท่ ากับตาบลหอย
ไปยัง กองพันสิ งห์
7. ขนกาลังพล จานวน 130 นายจากกองพันทดแทน ไป กองพันกระทิง ซึ่งมีระยะทางเท่ ากับตาบลปู
ไปยัง กองพันกระทิง
8. ขนกาลังพล จานวน 140 นายจากกองพันทดแทน ไป กองพันแรดซึ่งมีระยะทางเท่ ากับตาบลปลา
ไปยัง กองพันแรด
9. ขนกาลังพล จานวน 120 นายจากกองพันทดแทน ไป กองพันเสื อ ซึ่งมีระยะทางเท่ ากับตาบลกุ้ง
ไปยัง กองพันเสื อ
บ่ งการที่ 4
กองพันทดแทน
สิ งโต
กุ้ง
มะลิ
เสื อ
สิ งห์
กระทิง
แรด
หอย
ปู
ปลา
การวางแผนการใช้ เส้ นทาง
จาแนกเส้ นทางตามลักษณะการควบคุม
1. เส้ นทางเปิ ด
2. เส้ นทางกากับ
3. เส้ นทางสงวน
4. เส้ นทางสารอง
5. เส้ นทางหวงห้ าม
5
ชนิด
1. เส้ นทางเปิ ด
- ควบคุมน้ อยทีส่ ุ ด
- กากับดูแลโดยหน่ วยควบคุมจราจรของทหารสารวัตร ณ จุดคับขัน
- กฎระเบียบจราจร
2. เส้ นทางกากับ
- ควบคุมอย่ างจากัด
- โดย บก.จราจรทางหลวง มีทหารสารวัตรควบคุมตลอดเส้ นทาง
- ขบวนยานยนต์ > 10 คันขึน้ ไป /บรรทุกของหนักมาก/ใหญ่ เกินขนาด
- ปิ ดการจราจรเพือ่ ขบวนนีโ้ ดยเฉพาะ
3. เส้ นทางสงวน
- ควบคุมเต็มทีต่ ลอดเส้ นทาง
- จัดตั้งกรณีเร่ งด่ วนทีส่ ุ ด
- ปิ ดการจราจร รถคันนั้น/ขบวนนั้นโดยเฉพาะ
- ควบคุมเป็ นหน่ วยและพืน้ ที่
4. เส้ นทางสารอง
-ใช้ เฉพาะหน่ วย
- การปฏิบัติการเฉพาะกิจ/ชนิดการจราจร
- ผบ.หน่ วยเป็ นผู้ตกลงใจในการควบคุมเส้ นทาง
5. เส้ นทางหวงห้ าม
- ห้ ามมิให้ มีการจราจรบนเส้ นทางนีีี้
ข้ อพิจารณาการวางแผนการใช้ เส้ นทาง
ผบ.ขบวน
- กาหนดการปฏิบัตริ ะหว่ างเดินทาง
- ให้ คาแนะนาแก่ หน่ วยใต้ บังคับบัญชา
- กากับดูแลขบวนลาเลียง
- สารวจกาลังพล+ยานพาหนะ
- มีข้อขัดข้ องเสนอ ผู้บังคับบัญชา
บก.จราจรทางหลวง
- รับผิดชอบการเคลือ่ นย้ ายในพืน้ ที่การรบ
- พิจารณาข้ อขัดข้ อง + ความต้ องการ
* รปภ.
* ยานพาหนะติดตาม
* การซ่ อมถนน
* สนับสนุนทางการแพทย์
ฯลฯ
- ส่ งข้ อมูลให้ ผู้บังคับบัญชา เพือ่ พิจารณาในการวางแผน + ออกคาสั่ งฯ
1.รปจ.
2. คาแนะนาของ ผบ.ขบวนลาเลียง
3. การลาดตระเวณเส้ นทาง
4.การพักบนเส้ นทาง
5.ตาบลแยกขบวน
6.การสนับสนุนการยิง + การประสาน
7. การประสานกับกาลังรบภาคพืน้ ดิน
8. การประกอบเลีย้ งบนเส้ นทาง
9. การซ่ อมบารุ งบนเส้ นทาง
10.การเติม สป. 3 บนเส้ นทาง
11.การสนับทางการแพทย์บนเส้ นทาง
1. รปจ.
เป็ นข้ อกาหนดในการวางแผนและปฏิบัติ
- การมอบอานาจในการเคลือ่ นย้ ายขบวนลาเลียง
- หน้ าที่ ผบ.ขบวน และ จนท.ควบคุมขบวน
- การจัดขบวนลาเลียง
- การป้ องกัน+การพรางยานพาหนะ
- การป้ องกันยุทธภัณฑ์
- การปฏิบัตกิ ารตอบโต้ การซุ่ มโจมตี
-การหยุดพักตามระยะเวลา
-การ ซบร. + กู้ซ่อมยานพาหนะ
- การเติม สป. 3 + หยุดพักผ่ อน
- การใช้ สัญญาณติดต่ อ
-หน่ วยสมทบขบวนลาเลียงทีไ่ ม่ มีในรายการ
- การปฏิบัติ ณ จุดแยกขบวน
2. คาแนะนาของ ผบ.ขบวนลาเลียง
- หน่ วยใดให้ การ รปภ. กับขบวน
- ใครเป็ นผู้บังคับบัญชาหน่ วย รปภ. ย่ อย
- หัวข้ อที่ยังไม่ ชัดเจน
- ข้ าศึก , เป้าหมาย และ การข่ าวที่กระทบต่ อความสาเร็จในการลาเลียง
3. การลาดตระเวณเส้ นทาง
ปัจจัยการเลือกใช้ เส้ นทาง
- เวลาและระยะทาง
- ปฏิบัตกิ ารของข้ าศึกที่คาดว่ าจะโจมตี
- การจัดหน่ วยทีใ่ ห้ รปภ.
- การสนับสนุนการยิงของฝ่ ายเรา
-ความสามารถในการรับนา้ หนักของเส้ นทาง
ข้ อพิจารณา
- การเลือกสถานทีพ่ กั ตามกาหนดเวลา
- การเลือกตาบลแยกขบวน
- ปัญหาพืท้ ี่ตามเส้ นทาง
- เส้ นทางอ้อมผ่ าน/เส้ นทางรอง
4.การพักบนเส้ นทาง
การเลือกที่พกั
- ทัศนวิสัยจากหัวขบวน/ท้ ายขบวน อย่ างน้ อย 200 หลา ( 180 เมตร )
-หลีกเลีย่ งทางโค้ ง , เครื่องกีดขวาง , ที่ลาดชัน
- รักษาระยะต่ อของรถ
- ห้ ามมิให้ รถพลเรือนเข้ ามาปะปน
- จัดยามระวังหน้ า และ หลัง เพือ่ เตือนการจราจรอืน่
- พืน้ ทีป่ กปิ ด โดยเฉพาะทางอากาศ
5.ตาบลแยกขบวน
- เป็ นสถานทีท่ ยี่ านพาหนะในขบวนต้ องแยกขบวน ไป บรรทุกหรือขนลง
เข้ าหน่ วย ซ่ อมบารุง
6.การสนับสนุนการยิง + การประสาน
- ชนิดของกระสุ น
- จานวนกระสุ น
- ชนิดทีห่ มาย
- การกาหนดพืน้ ที่ “ ห้ ามยิง “
7. การประสานกับกาลังรบภาคพืน้ ดิน
- ทหารราบ
- ทหารยานเกราะ
- ทหารม้ า
- ทหารปื นใหญ่
- ทหารปื นใหญ่ ต่อสู้ อากาศยาน
- หน่ วยบินทางยุทธวิธี ของ ทบ. + ทอ.
8. การประกอบเลีย้ งบนเส้ นทาง
- การประกอบเลีย้ งของหน่ วยเอง
- การประกอบเลีย้ งบนเส้ นทาง
9. การซ่ อมบารุงบนเส้ นทาง
- พลขับต้ อง ปบ. เสมอ
- จนท.ซบร.
- ชารุดเล็กน้ อย
- ไม่ แน่ ใจ
- ซ่ อมเกินขีดความสามารถ
- รถชารุด
10.การเติม สป. 3 บนเส้ นทาง
- กาหนดการเติม
* เติมก่ อนหมดถัง
* เติมช่ วงพักรับประทานอาหาร/ช่ วงพักอืน่ ๆ
- ความปลอดภัย
* ดับเครื่องยนต์
* ห้ ามสู บบุหรี่
* อย่ าให้ หกเรี่ยราด
* อย่ าสู ดกลิน่
11.การสนับทางการแพทย์ บนเส้ นทาง
- จัด จนท. เสนารักษ์ ของหน่ วยเดินทางในขบวน
- จัดหน่ วยแพทย์ สมทบ
- หน่ วยเหนือจัดหน่ วยแพทย์ สนับสนุนตามเส้ นทางทีส่ าคัญ
พิจารณา
- ขีดความสามารถในการรับนา้ หนักของถนน+สะพาน
- นา้ หนักสู งสุ ดในการบรรทุก
- สนองความต้ องการได้ ทั่วถึง
- ข่ ายถนนกว้ างขวาง เลือกเส้ นทางอืน่ ทดแทนได้
- หลีกเลีย่ งการสร้ างเส้ นทางใหม่ /สร้ างให้ น้อยทีส่ ุ ด
- หลีกเลีย่ งเส้ นทางลาดชัน โค้ งแคบ ไม่ มีไหล่ทาง ไม่ มีการระบายนา้
ทางเบี่ยง อุโมงค์ ท่ าข้ าม
- รับยานพาหนะได้ ทุกชนิด มีการ ซบร.น้ อยทีส่ ุ ด
- สภาพภูมิอากาศ ความต้ องการจานวนสั มภาระ +กาลังพล
- ขีดความสามารถของยานพาหนะแต่ ละประเภท
เป็ นเครื่องมือสาคัญของผู้บังคับบัญชา ใช้ ในการเคลือ่ นย้ ายกาลังพล
และยุทโธปกรณ์ ให้ มีประสิ ทธิภาพ
ความสาเร็จขึน้ อยู่กบั
- การปฏิบัตงิ านของ จนท. บก.จราจรทางหลวง
- ชุดปฏิบัตงิ านทีต่ าบลจัดระเบียบทางหลวง
ผบ.ยุทธบริเวณ
หน่ วยบัญชาการควบคุมการเคลือ่ นย้ าย
บก.จราจรทางหลวง
ศูนย์ ควบคุมการเคลือ่ นย้ าย
ชุ ดตาบลจัดระเบียบ
ชุ ดควบคุมการเคลือ่ นย้ าย
ช., ส.,สห.,กร.
หน้ าทีแ่ ละภารกิจ
1. ลาดับความเร่ งด่ วนในการใช้ เส้ นทางส่ งกาลังหลักตามข่ ายการใช้ เส้ นทาง
2. รับการร้ องขอในการกาหนดการเคลือ่ นย้ ายจากหน่ วยต่ างๆในพืน้ ที่
3. ยุบรวม การขอใช้ เส้ นทางการเคลือ่ นย้ ายและจัดตารางการเคลือ่ นย้ ายใหม่
4. เปลีย่ นแปลงเส้ นทางของขบวนให้ สอดคล้องกับเหตุการณ์
5. รับข่ าวสาร บันทึกข่ าวสาร รวบรวมข่ าวสาร เพือ่ กาหนดความเร่ งด่ วนให้
ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่ งการ
หน้ าทีแ่ ละภารกิจ
1. ดูแลและจัดระเบียบการใช้ เส้ นทางหลักของขบวนให้ เป็ นตามกาหนดการการ
2. รายงานจราจร เมื่อขบวนผ่ านจุด
3. รับข่ าวและกระจายข่ าวจาก บก.จราจร ไปยังขบวนต่ างๆ
4. ประสานการจัดระเบียบทางหลวงกับชุ ดตาบลฯ อืน่ ๆ
5. รวบรวมข่ าวสาร สถานการณ์ และภูมิประเทศทีเ่ ปลีย่ นแปลงให้ บก.จราจร
ทราบโดยด่ วน
หน้ าที่
1. ดูแลจัดระเบียบการเคลือ่ นย้ ายเป็ นตามกาหนดการของศูนย์ ควบคุม
การเคลือ่ นย้ าย
2. ประสารกับชุ ดควบคุมการเคลือ่ นย้ ายอืน่ เกีย่ วกับข่ าวสาร
โดยรับ และกระจ่ ายข่ าว ให้ ทราบ
3. รายงานให้ ศูนย์ ควบคุมการเคลือ่ นย้ ายทราบเมื่อขบวนมาถึง
มูลฐานการวางแผน
1. ข่ าวสารจากแผนยุทธการ , นโยบาย , ความเร่ งด่ วน , อุปสรรค
และ แผนการสนับสนุนการส่ งกาลัง
2. ข่ าวสารเส้ นทาง สภาพพืน้ ผิว ความแคบ ความกว้ าง ทางลัด
ทางเบี่ยง ขีดจากัด เส้ นทางสารอง จุดคับขัน จุดทีข่ ้ าศึกอาจใช้
ซุ่มโจมตี/ปฏิบัติการอืน่ ๆ
3. ข่ าวสารการจราจร เช่ น ความหนาแน่ นของการจราจร ความเปลีย่ นแปลง
ของปริมาณจราจร ความต้ องการในการลาดตระเวณเส้ นทาง
สี่ แยกทีค่ วบคุม ทางรถไฟทีผ่ ่ านถนน
มูลฐานการวางแผน
4. สถานีปลายทางและสิ่ งอานวยความสะดวก
- ที่ต้งั และสิ่ งอานวยความสะดวก ณ ตาบลส่ งกาลัง และ คลัง
- สถานีบริการตาบลสั บเปลีย่ นรถพ่วง ที่กลับรถ และที่จอดรถนอกเส้ นทาง
- พืน้ ทีพ่ กั แรมของขบวน สถานพักพืน้ และ โรงพยาบาลสนาม
- เส้ นทางเข้ าออก ขีดความสามารถในการขนขึน้ ขนลง
- การบริการซ่ อมยานพาหนะ
5. ยุทโธปกรณ์ ทใี่ ช้ ในการติดต่ อสื่ อสาร
หลักพืน้ ฐาน
3
ประการ
1. การสมดุลย์ เส้ นทาง การปรับคุณลักษณะของยานพาหนะให้ เข้ ากับ
คุณลักษณะ และ ขีดจากัดของเส้ นทาง
2. การแบ่ งแยกเส้ นทาง การกาหนดเส้ นทางทีป่ ราศจากสิ่ งกีดขวาง
ให้ เกิดความคล่องตัวและ ถูกใช้ อย่ างมีประสิ ทธิภาพ
3. การแจกจ่ ายเส้ นทาง การกระจายยานพาหนะในการใช้ เส้ นทาง
เพือ่ ลดความคับคัง่ ของการจราจร
1. ความเร่ งด่ วนของภารกิจ ต้ องใช้ เส้ นทางทีด่ ที สี่ ุ ด
2. ขีดความสามารถของถนนและสะพาน
3. จัดเส้ นทางสาหรับหน่ วยเคลือ่ นทีช่ ้ า
4. แยกการใช้ เส้ นทางระหว่ างพลเรือนและทหาร
แผ่ นบริวาร
- เอกสารทีใ่ ช้ รายงานสภาพเส้ นทางที่ต้องการลาเลียงกาลังพลและยุทโธปกรณ์
ไปยังพืน้ ทีเ่ ป้ าหมาย
- กระทาและรายงานให้ ทราบทันทีหลังจากทาการลาดตระเวณเส้ นทาง
- เป็ นหลักประกันในช่ วงเวลานั้นๆ สภาพเส้ นทางและสิ่ งแวดล้อมไม่ มีการเปลีย่ นแปลง
โดยธรรมชาติ/มนุษย์ ทาขึน้
- รายละเอียดในแผ่นบริวารจะอธิบายถึงตาบลวิกฤตต่ างๆ และแทนค่ าด้ วยสั ญญาลักษณ์ ต่างๆ
1. ตาแหน่ ง/สถานทีล่ าดตระเวณเส้ นทาง จากทีใ่ ดถึงทีใ่ ด
2. ระยะทางระหว่ างตาบลปฏิบัติการโดยสั งเขป
3. เปอร์ เซ็นต์ ลาดและความยาวของลาดที่เกิน 7 % หรือ มากกว่ า
4.โค้ งแคบทีม่ รี ัศมีต้งั แต่ 100 ฟุต ( 30 เมตร ) ลงมา
5. สถานทีท่ มี่ กี ารลุยข้ ามนา้ และรายละเอียดของทีล่ ุยข้ าม , รายละเอียด ของสะพานและ
ชั้นรับนา้ หนัก
6. สถานทีท่ มี่ กี ารลุยข้ ามนา้ และรายละเอียดของเรือบรรทุกข้ าม
7. สิ่ งกีดขวางต่ างๆ เช่ น ทางข้ าม ทางลอด ซึ่งมีความสู ง ความกว้ าง ต่ากว่ ามาตรฐาน
8. สถานทีต่ ้งั อุโมงค์ , ทางเบีย่ ง
9. พืน้ ทีเ่ หมาะสมทีจ่ ะหยุดพักชั่วคราว/พักแรม มีความแข็งแรงเพียงพอ กระจายกาลัง
ง่ าย และ ปกปิ ดความลับโดยซ่ อนพรางได้
10. พืน้ ทีเ่ สี่ ยงภัยผ่ านภูเขา อาจมีหินหล่ น เป็ นอันตรายต่ อการสั ญจรของยานพาหนะ
- เส้ นทางทีใ่ ช้ เดินรถทางเดียว
ความกว้ างไม่ ต่ากว่ า 5.5 เมตร ( 18 ฟุต )
- เส้ นทางเดินรถ ไป - กลับ
ความกว้ างไม่ น้อยกว่ า 7 เมตร ( 23 ฟุต )
- เส้ นทางถูกจากัดด้ วยผลกระทบจาก สภาวะดินฟ้าอากาศ
- การพิจารณาส่ วนของเส้ นทางทีเ่ ป็ นช่ วงเลวทีส่ ุ ดเป็ นหลัก
- มี
3
แบบ
* X = ใช้ ได้ ทุกฤดูกาลตลอดปี
* Y = ใช้ ได้ ทุกฤดูกาล จากัดด้ วยสภาวะอากาศ
ซ่ อมคืนสภาพได้
* Z = ไม่ สามารถใช้ ได้ ทุกฤดูกาล
ซ่ อมคืนสภาพได้ ยาก + ใช้ เวลานาน
กาหนดเป็ นตัวเลขเพือ่ ใช้ กบั ข่ ายถนนต่ างๆ
- ถนน ชั้น 50 เส้ นทางสั ญจรทัว่ ไป รับนา้ หนักบรรทุกไม่ เกิน 20 ตัน
- ถนน ชั้น 80 เส้ นทางรถบรรทุกหนัก รับนา้ หนักบรรทุกไม่ เกิน 28 ตัน
- ถนน ชั้น 120 เส้ นทางยานพาหนะหนักมากรับนา้ หนักบรรทุกไม่ เกิน 36 ตัน
* การพิจารณาเส้ นทาง
- พิจารณาส่ วนของเส้ นทางและสะพานรับนา้ หนักได้ น้อยทีส่ ุ ดเป็ นเกณฑ์
ตาราง ก. แสดงหมายชั้นถนนและการรับนา้ หนัก
หมายเลขชั้นบนถนน
4
8
12
16
20
30
40
50
60
การรับนา้ หนักจากเพลารถ
เพลาล้ อหลังคู่ ( ตัน )
เพลาล้อหลังเดีย่ ว (ปอนด์ )
2.5
5.5
8.0
10.0
11.0
12.0
13.5
17.0
20.0
2,500
5,500
8,000
10,000
11,000
12,000
13,500
17,000
20,000
ตาราง ก. แสดงหมายชั้นถนนและการรับนา้ หนัก
หมายเลขชั้นบนถนน
70
80
90
100
120
150
การรับนา้ หนักจากเพลารถ
เพลาล้ อหลังคู่ ( ตัน )
23.0
25.5
28.0
30.0
32.0
36.0
เพลาล้อหลังเดีย่ ว (ปอนด์ )
20,000
20,000
20,000
20,000
20,000
21,000
1. สะพานลอย/สะพานต่ างระดับ อุโมงค์ ทางลอด ความสู งจากผิวถนน
น้ อยกว่ า 4.3 เมตร ( 14 ฟุต )
2. พืน้ ผิวสั ญจรไม่ น้อยกว่ า 20 ฟุต ( ไม่ เหมาะสาหรับรถสวนกัน )
3. ลาดชันเกิน 7 % ( 4 องศา ) ขึน้ ไป
4. โค้ งแคบรัศมีน้อยกว่ า 30 เมตร ( 100 ฟุต )
5. มีเรือบรรทุกข้ าม
6. มีทลี่ ุยข้ าม
ตาราง ข. แสดงการแปลงค่ ามุมลาคชันกับความลาดชันทีเ่ ป็ นร้ อยละ
มุมลาดชันเป็ นองศา
1
2
3
4
5
10
15
20
25
30
40
ความลาดชันเป็ นร้ อยละ
1.7
3.5
5.2
7.0
8.7
17.6
26.7
36.4
46.6
57.7
83.9
ก. 20 ft Z 10
= ถนนกว้ าง 20 ฟุต ใช้ เดินรถทางเดียวไม่ สามารถใช้ ได้ ทุกฤดูกาล
ถนนชั้น 10 ไม่ เหมาะกับการสั ญจรของยานพาหนะ ทีบ่ รรทุกหนัก
ข. 20 ft Z 10 (OB) = เหมือนข้ อ ก. เพิม่ OB แสดงว่ ามีอุปสรรค อย่ างหนึ่ง/มากกว่ า
อาจถือเป็ น OB เมือ่ ถนนสายนีใ้ ช้ ยานพาหนะสวนกัน
ค. 7m Y 50 ( OB ) = ถนนกว้ าง 7 เมตร ใช้ ได้ ทุกฤดูกาล รับนา้ หนักมากเหมาะกับยานพาหนะ
ทีบ่ รรทุกนา้ หนักปานกลาง ถนนชั้น 50 มีอุปสรรค
หากใช้ ยานพาหนะล้อและยานพาหนะสายพานสวนกัน เพราะความกว้ าง
ของเส้ นทางจากัด
ง. 10.5 m X 120(OB) = ถนนกว้ าง 10.5 เมตร ใช้ ได้ ทุกฤดูกาลรับนา้ หนักสู งสุ ด เหมาะสาหรับ
ยานพาหนะทุกประเภท มีอุปสรรคอย่ างหนึ่ง/มากกว่ า
อักษรประกอบเป็ นพิเศษ เพือ่ ให้ ทราบสภาพเส้ นทาง
ก. T = เส้ นทางเป็ นหิมะปกคลุม
- 8 m Y 50 ( T ) = ถนนกว้ าง 8 เมตร ใช้ สัญจรตลอดปี ชั้น 50 ขณะนีม้ ี
หิมะปกคลุมแต่ สามารถเดินทางได้
- 8 m Y 50 (OB) (T) = เส้ นทางมีอุปสรรคหิมะปกคลุมมากไม่ สามารถใช้ เส้ นทางได้
ข. W = เส้ นทางมีนา้ ท่ วม
- 24 ft Y 80 (W) = ถนนกว้ าง 24 ฟุต เดินทางตลอดปี ชั้น 80 มีนา้ ท่ วมบางตอน
สั ญจรได้
- 24 ft Y 80 (OB) (W) = เส้ นทางนีถ้ ูกนา้ ท่ วมมากไม่ สามารถสั ญจรได้
เป็ นแผนอย่ างหนึ่ง แสดงให้ เห็นข่ ายถนนและข้ อมูลต่ างๆ ทีจ่ าเป็ นซึ่งจะ
ปรากฎอยู่ในข่ ายถนนทีต่ ้ องการสั ญจร อาจเป็ นถนนรถทางเดียว/รถสวนกัน
การกาหนดให้ เดินรถจะแทนค่ าด้ วยหัวลูกศร เดินทางไป - กลับ มีการกาหนด
ทางเข้ า และ ออก เพือ่ ลดการคับคั่งของเส้ นทางสั ญจรหลัก
1. หมายเลขเส้ นทางและลักษณะเด่ นของภูมปิ ระเทศ ทีเ่ ป็ นอุปสรรคในการสั ญจร
2. ทิศทางทีส่ ั ญจร
3. เส้ นแบ่ งเขต , ตาบลควบคุมการสั ญจรและที่ต้งั หน่ วยต่ างๆ
4. ลักษณะเดินทางภูมศิ าสตร์
5. เส้ นทางรอง ( ถ้ ามี )
ตาราง ค. แสดงขีดความสามารถในการรับนา้ หนักของเส้ นทาง
ประเภท
เส้ นทาง
จานวน นน ขน./วัน
สู งสุ ด
คอนกรีต
60,000
ลาดยางดี
45,000
ลาดยางธรรดา 30,000
ลูกรัง
10,150
ดิน
4,900
สภาพต่ างๆ ลด ประสิ ทธิภาพ คิดเป็ น %
เขตหลัง เขตหน้ า แคบ< 24
ขรุ ขระ โค้งเนินเขา โค้งภูเขา อากาศ เลว
36,000
27,000
18,000
6,090
2,940
10
10
20
20
25
8,400
7,300
5,800
3,400
1,600
25
25
25
25
25
30
30
40
50
60
60
60
65
70
80
20
30
40
60
90
จากตาราง
สภาพภูมิศาสตร์ และดินฟ้าอากาศ เป็ นตัวลดขีดความสามารถของการใช้ เส้ นทาง
1. สภาพเส้ นทางที่แคบมาก
2. สภาพภูมิประเทศ เช่ น ทางขรุขระ ลาดชัน คดเคีย้ วบนภูเขา ฯ ล ฯ
3. สภาพดินฟ้าอากาศ เช่ น ฝนตกหนัก หิมะตก ฯ ล ฯ