คำไทยแท้ ออกเสียง อะ เต็มคำ เช่ น กะทิ ทะนำน สะเปะสะปะ คำกร่ อนในคำประสม เช่ น สำวใภ้ เป็ น สะใภ้ หมำกปรำง เป็ น มะปรำง พยำงค์ เสียง สะ ที่แผลงเป็ น ตะ.

Download Report

Transcript คำไทยแท้ ออกเสียง อะ เต็มคำ เช่ น กะทิ ทะนำน สะเปะสะปะ คำกร่ อนในคำประสม เช่ น สำวใภ้ เป็ น สะใภ้ หมำกปรำง เป็ น มะปรำง พยำงค์ เสียง สะ ที่แผลงเป็ น ตะ.

คำไทยแท้ ออกเสียง อะ เต็มคำ เช่ น
กะทิ
ทะนำน สะเปะสะปะ
คำกร่ อนในคำประสม เช่ น
สำวใภ้
เป็ น สะใภ้
หมำกปรำง เป็ น มะปรำง
พยำงค์ เสียง สะ ที่แผลงเป็ น ตะ หรือ
กระ ได้ เช่ น
สะพำย เป็ น ตะพำย สะท้ อน เป็ นกระท้ อน
คำบำลี สันสกฤต ที่ออกเสียง อะ พยำงค์ หลัง
เช่ น เถระ อวัยวะ ศิลปะ
คำแผลงที่แผลงโดยกำรแทรกตัว “ร” ถ้ ำคำเดิม
ประวิสรรชนีย์ต้องคงรู ปไว้ เช่ น
จะเข้
เป็ น
จระเข้
ทะนง
เป็ น
ทระนง
ภำษำประเทศตะวันออกที่ออกเสียง อะ เช่ น
มะงุมมะงำหรำ (ภำษำชวำ)
ยำกิโซบะ ( ภำษำญี่ปุ่น )
คำที่มำจำกภำษำประเทศตะวันตกที่ออกเสียง
อะ เช่ น กะจับปิ ้ ง (ภำษำโปรตุเกส)
กะปิ ตัน (ภำษำฝรั่งเศส)
คำอัพภำสในบทร้ อยกรองที่กร่ อนมำจำกคำซำ้
และพยำงค์ แรกออกเสียง อะ เช่ น
คึกคึก เป็ น คะคึก วับวับ เป็ น วะวับ
คำที่ไม่ ทรำบแน่ ชัดว่ ำมำจำกภำษำใด และออก
เสียง อะ เช่ น กะหรี่ สะระแหน่ พะนอ
คำที่ออกเสียง อะ
ไม่ เต็มเสียง เช่ น
สบำย สักหลำด
ภำษำต่ ำงประเทศที่พยำงค์
หน้ ำออกเสียง อะ ไม่ เต็ม
เสียง เช่ น กบำล (ภำษำ
เขมร)สังขยำ (ภำษำมลำยู)
คำที่เป็ น
อักษรนำ
เช่ น กนก
คำที่มำจำกภำษำบำลี
-สันสกฤต และ ออกเสียง
"อะ" ที่พยำงค์ หน้ ำ เช่ น
กรณี คณิตศำสตร์
คำสมำสซึ่งมีเสียง
อะ ที่ท้ำยคำหน้ ำ
เช่ น พลศึกษำ
ชีวประวัติ
คำไทยแท้ ซ่ งึ ย่ อมำจำกคำอื่นๆ เช่ น
ณ มำจำกคำว่ ำ ใน ณ ที่นี ้
ผู้ใหญ่ หำผ้ ำใหม่ ให้ สะใภ้ ใช้ คล้ องคอ
ใฝ่ ใจเอำใส่ ห่อ มิหลงใหลใครขอดู
จะใคร่ ลงเรื อใบ ดูนำ้ ใสและปลำปู
สิ่งใดอยู่ในตู้ มิใช่ อยู่ใต้ ต่ งั เตียง
บ้ ำใบ้ ถือใยบัว หูตำมัวมำใกล้ เคียง
เล่ ำท่ องอย่ ำละเลี่ยง ยี่สิบม้ วนจำจงดี
คำไทย ซึ่งออกเสียง "ไอ" นอกเหนือจำกที่ใช้ ไม้
ม้ วน ๒๐ คำนัน้ เช่ น ไปไหน ไหวไหม ไวไฟ
คำที่มำจำกภำษำอื่น เช่ น
ไฮปำร์ ค ไนโตรเจน (ภำษำอังกฤษ)
ไถง ได ไผท (ภำษำเขมร)
คำภำษำบำลี-สันสกฤต ซึ่งแผลงมำจำกสระ "อิ อี เอ“
มำเป็ น "ไอ" ในภำษำไทย เช่ น
วิจติ ร เป็ น ไพจิตร
ตรี เป็ น ไตร
คำบำลีสันสกฤต ซึ่งมีเสียงสระ เอ มี ย สะกด และ
ย ตำม (เอยย) ในภำษำไทย แผลง เอ เป็ น ไอ ลด ย ตัว
หนึ่ง จึงเป็ น ไอย เช่ น
เชยย เป็ น ไชย(เจริญ) เทยยทำน เป็ น ไทยทำน
เขียนคำตำมควำมนิยมของไทย เช่ น ไมยรำบ
(พืชชนิดหนึ่ง) ไอยคุปต์ (อียปิ ต์ ) ไอยรำ (ช้ ำง)
คำบำลี-สันสกฤต ที่เป็ นคำเรี ยงพยำงค์ ซึ่งออก
เสียง "อะ" และมี "ย" ตำม เช่ น
กษย เป็ น กษัย
ชย เป็ น ชัย,
๒.คำภำษำบำลีสันสกฤต ออกเสียง "อะ" มี "ย"
สะกด และ ย ตำม (อยฺย) ถ้ ำ ย ตัวตำม มีเสียงสระไม่ เต็ม
มำตรำ ตัดตัว "ย" ทิง้ ๑ ตัว เช่ น อยฺยกำ เป็ น อัยกำ
แต่ ถ้ำ ย ตัวตำมมีเสียงสระเต็มมำตรำ คง "ย" ไว้ ทงั ้ ๒ ตัว
เช่ น อยฺย เป็ น อัยยำ (ผู้เป็ นเจ้ ำของ)
ใช้ กับคำไทยแท้ ท่ อี อกเสียง "อำ" โดยทั่วไป
เช่ น ดำ ขำ รำ
ใช้ คับคำที่แผลงมำจำกบำลีสันกฤตและเขมร
เช่ น เกิด เป็ น กำเนิด คูณ เป็ น คำนวณ
๓. ใช้ เขียนภำษำอื่นๆ หรื อภำษำตระกูลยุโรปที่
ออกเสียง "อำ“ เช่ น
กำมะหยี่ รำมะนำ ไหหลำ สำปั ้น
คำที่มำจำกภำษำบำลี-สันสกฤต ซึ่งออกเสียง อะ
มีตัว "ม" สะกด เช่ น
คัมภีร์ มำจำก คมฺภริ
สัมผัส มำจำก สมฺผสส
คำที่เกิดจำกคำนฤคหิต สนธิกับพยัญชนะ ในวรรค
ป (ป ผ พ ภ ม) เช่ น
ส + ปทำ เป็ น
สัมปทำ
ส+มนำ
เป็ น
สัมมนำ
เขียนคำแผลงจำกภำษำบำลี สันสกฤต ซึ่งมีเสียง
สระ "อะ" และมี ม ตำม คือจำกคำ "อม" แผลง อะ
เป็ น อำ จึงกลำยเป็ น "อำม" เช่ น
กมลำสน
อมำตย์
อมรินทร์
เป็ น
เป็ น
เป็ น
กำมลำสน์
อำมำตย์
อำมรินทร์
เขียนคำไทย เช่ น ณ (ใน)
ฯพณฯ (พณหัวเจ้ ำท่ ำน)
คำที่มำจำกภำษำบำลีสันสกฤต
ซึ่งใช้ ณ มำแต่ เดิม เช่ น กัญหำ
ขณะ จัณฑำล มำณพ
เขียนเสียง "น" อยู่หลัง ฤ ร ษ
ที่มำจำกภำษำสันสกฤต เช่ น กรณี
กฤษณำ เอรำวัณ ยกเว้ น เสียง
"นอ" ใช้ "น" เช่ น ปั กษิน อรินทร์
เขียนคำภำษำบำลี
สันสกฤต ใช้ ณ เป็ น
ตัวสะกด เมื่อมี
พยัญชนะวรรค ฏะ
เป็ นตัวตำม เช่ น
วัณฏ์ (ขั่ว) กัณฐ์
กัณณ์ (หู)
คำไทยแท้ ท่ วั ไป เช่ น นกน้ อยนอนแนบนำ้ ในนำ
คำที่มำจำกภำษำบำลีสันสกฤต ซึ่งใช้ น มำแต่ เดิม
เช่ น ชนนี สำมำนย์ หัสดิน นมัสกำร
คำภำษำบำลี สันสกฤต ใช้ น เป็ นตัวสะกด เมื่อมี
พยัญชนะวรรค ตะ (ต ถ ท ธ น) เป็ นตัวตำม เช่ น
คฤนถ์ ดนตรี สนทนำ สินธพ อริ
ใช้ ตำมหลัง ฤ ร ษ เมื่อไม่ มีเสียงสระ และใช้ เป็ น
ตัวสะกด เช่ น
ปั กษิน (นก) กริน (ช้ ำง) พฤนท์ (กอง,หมู่)
ภำษำต่ ำงประเทศอื่นๆ เช่ น
คอนกรี ต
กำนพลู
บรั่ นดี
ถนน
ปิ่ นโต
ญี่ปุ่น
๑. คำที่มำจำกภำษำสันสกฤต โดยทั่วไป เช่ น
เกศำ ตรั ยตรึงศ์ พัศดี ไอศวรรย์
๒. คำสันสกฤตซึ่งอยู่หน้ ำวรรค จะ(จ ฉ ช ฎ ฌ ญ) เช่ น
ปั ศจิม (ทิศตะวันตก) พนิศจัย (วินิจฉัย)
๓. คำไทย เช่ น บำรำศ พิศ ศึก ศอก เศร้ ำ
๔. คำที่มำจำกภำษำอื่น เช่ น
ศิวิไลซ์ (อังกฤษ) ศก (เขมร)
ไอศกรี ม (อังกฤษ)
๑. คำที่มำจำกสันสกฤตโดยทั่วไป เช่ น
เกษม
บุรุษ
อักษร
ฤำษี
๒. คำสันสกฤตซึ่งอยู่หน้ ำวรรค ฎะ (ฎ ฐ ฑ ฒ ณ)
เช่ น ทฤษฎี โฆษณำ ดุษฎี ปฤษฎำงค์ ดำษดำ
๓. คำไทย เช่ น ฝี ดำษ ดำษดำ ดำษดื่น
๔. คำที่มำจำกภำษำอื่น เช่ น กระดำษ (โปรตุเกส)
๑. คำบำลีทงั ้ หมด (บำลี ไม่ มี ศ. ษ.) เช่ น
เกสร
มเหสี วิสำสะ
สัจจะ
๒. คำสันสกฤต ซึ่งอยู่หน้ ำวรรค ตะ (ต ถ ท ธ น)
เช่ น พิสดำร สถำพร อัสดง หัสดี
๓. คำภำษำเขมรทัง้ หมด เช่ น สไบ สบง เสบย
๔. คำไทยทั่วไป เช่ น สำย ส่ ง เสือ สี สอง
๕. คำที่มำจำกภำษำอื่น เช่ น โบนัส (ภำษำอังกฤษ)
กำรั นต์ ( กำร+อันต์ ) แปลว่ ำ กระทำในที่สุด
ทำให้ สุดศัพท์ หมำยถึงตัวอักษรที่ไม่ ออกเสียง
ซึ่งมีเครื่ องหมำยทัณฑฆำต กำกับไว้
ทัณฑฆำต ( ์์ ) แปลว่ ำ ไม้ สำหรั บฆ่ ำ
เป็ นเครื่ องหมำยสำหรั บฆ่ ำอักษร ไม่ ต้องออกเสียง
คำที่มีพยัญชนะหลำยตัว ตัวกำรันต์ อยู่หลังตัวตัวสะกด ถ้ ำไม่
ต้ องกำรออกเสียงจะใช้ ไม้ ทณ
ั ฑฆำต เช่ น พักตร์ กษัตริ ย์
คำที่มำจำกภำษำอังกฤษบำงคำใส่ ไม้ ทณ
ั ฑฆำตตัว
ที่ไม่ ต้องกำรออกเสียง เช่ น
ฟิ ล์ ม อ่ ำนว่ ำ ฟิ ม
ศัพท์ เดิมคือ film
กำร์ ตนู อ่ ำนว่ ำ กำ-ตูน ศัพท์ เดิมคือ cartoon
คำบำงคำที่ออกเสียงเหมือนกันเป็ นคู่ๆ ถ้ ำมีตวั กำรันต์
จะทำให้ ควำมหมำยต่ ำงไปจำกเดิม เช่ น
กรณี (เหตุ, เรื่องรำว)
กรณีย์ (กิจที่พงึ ทำ)
สุรี (ผู้กล้ ำหำญ)
สุรีย์ (ดวงอำทิตย์ )
รู ปศัพท์ เดิมทำให้ เขียนบำงคำเขียนมีตวั กำรันต์ บำง
คำเขียนไม่ มีตวั กำรันต์ เช่ น
เซ็นชื่อ ไม่ ต้องมี ต์ เพรำะศัพท์ เดิมคือ Sign
ไตรยำงศ์ ต้ องมี ศ์ เพรำะศัพท์ เดิมคือ ไตร + องศ์
จำนง
ไม่ ต้องมี ค์ เพรำะแผลงมำจำกคำว่ ำ จง
คำที่มีตวั ร ออกเสียงควบกับตัวสะกด ถึงแม้ ไม่ ออก
เสียงจะเป็ นตัวกำรันต์ ไม่ ได้ เช่ น
จักร ตำลปั ตร มำตร ยุรยำตร สมุทร ฯลฯ
ยกเว้ นคำว่ ำ เทเวศร์ พยำฆร์ (เสือโคร่ ง) ศุกร์
๑. ใช้ สำหรั บบอกให้ ร้ ู ว่ำเป็ นตัวสะกด เช่ น
พุท์โธ อันว่ ำพระพุทธเจ้ ำ
๒. ใช้ สำหรั บฆ่ ำอักษรที่ไม่ ต้องกำรออกเสียง ได้ แก่
- ฆ่ ำพยัญชนะตัวเดียว เช่ น กำรั นต์ ครุ ฑพ่ ำห์
- ฆ่ ำสระ เช่ น หม่ อมเจ้ ำทรงเชือ้ ธรรมชำติ์
- ฆ่ ำทัง้ พยัญชนะและสระ เช่ น พันธุ์ โพธิ์ สวัสดิ์
- ฆ่ ำอักษรหลำยตัว เช่ น กษัตริย์ ฉันทลักษณ์
ใช้ กับคำไทยแท้ ท่ อี อกเสียงสัน้ เช่ น
- สระเอะ เป็ นสระที่มีเสียงสัน้ เมื่อมีตัวสะกด
สระอะจะเปลี่ยนรู ปเป็ นไม้ ไต่ ค้ ู เช่ น
ล – เ – ะ – บ = เล็บ
ก – เ – ะ – ง = เก็ง
- สระแอะ เป็ นสระที่มีเสียงสัน้ เมื่อมีตัวสะกด
สระอะจะเปลี่ยนรู ปเป็ นไม้ ไต่ ค้ ู เช่ น
ข – แ – ะ – ง = แข็ง
สระเอำะ เป็ นสระที่มีเสียงสัน้ ถ้ ำมีตัวสะกด
สระจะลดรู ปไปหมดและจะกลำยเป็ นตัวออกับ
ไม้ ไต่ ค้ ู เช่ น ล – เ – ำะ – ก = ล็อก
ถ้ ำ ก. เป็ นพยัญชนะต้ นใช้ วรรณยุกต์ โท
แต่ ไม่ มีตัวสะกดสระทัง้ หมดจะหำยไปแล้ วใช้
ไม้ ไต่ ค้ ูแทน เช่ น
ก – เ – ำะ +วรรณยุกต์ โท – เ ก้ ำะ = ก็
คำไทยที่ แผลงมำจำกภำษำบำลีสันสกฤต ไม่ ใช้
ไม้ ไต่ ค้ ู เช่ น
เพชร เพชฌฆำต เวจ อเนจอนำถ ฯลฯ
คำที่มำภำษำอื่นบำงคำให้ ใช้ ไม้ ไต่ ค้ ู เช่ น
เสด็จ เท็จ เพ็ญ ( เขมร)
ตำเต็ง (จีน=หัวหน้ ำคนงำน)
ยมก แปลว่ ำ คู่ หมำยถึง เครื่ องหมำยที่ใช้ สำหรั บ
ให้ อ่ำนซำ้ ๒ ครั ง้ มีหลักเกณฑ์ กำรใช้ ดังนี ้
ใช้ เขียนหลังคำ วลี หรื อประโยคเพื่อให้ อ่ำนซำ้ คำ
วลี หรื อประโยคอีกครั ง้ เช่ น
เด็กเล็กๆ
อ่ ำนว่ ำ
เด็กเล็กเล็ก
ในวันหนึ่งๆ อ่ ำนว่ ำ
ในวันหนึ่งวันหนึ่ง
ใช้ ซำ้ คำ ที่เป็ น
คำชนิดเดียวกัน
หรือเพื่อยำ้
ควำมหมำยให้ เด่ น
เช่ น เร็ว ๆ นก
ชนิดต่ ำงๆ
ไม่ นิยมใช้
ไม้ ยมกในคำประพันธ์ เช่ น
"ใดใดในโลก
ล้ วน อนิจจัง"
ห้ ำมใช้ ไม้ ยมก ในกรณีดังนี-้ เมื่อ
เป็ นคำคนละบทคนละควำม เช่ น แม่ จะ
ไปปทุมวันๆนี ้ (ใช้ ผิด)ต้ องเขียนเป็ น
แม่ จะไปปทุมวันวันนี ้
เมื่อเป็ นคำคนละชนิด
กัน เช่ น คนคนนีม้ ีวินัย
(คน คำแรกเป็ น สำมำ
นยนำม, คน คำหลังเป็ น
ลักษณนำม )
คำเดิมเป็ น
คำ ๒ พยำงค์
ที่มีเสียงซำ้ กัน
เช่ น นำนำ
เช่ น นำนำชำติ
จะจะ เช่ น
เขียนจะจะ
คำไทยแท้ ท่ อี อก
เสียง ซอ มักใช้
"ซ" เสมอ เช่ น
ซน ซบ
ซอกแซก
มียกเว้ นบำงคำ
เช่ น โซรม ไซร้
(ใช้ อักษรควบ
ซร)
คำที่รับมำจำก
ภำษำเขมรซึ่งใน
ภำษำเดิมใช้ ซร
ไทยใช้ รูป "ทร"
และออกเสียง
"ซอ" เช่ น ทรง
ทรวง ทรุ ด
ฉะเชิงเทรำ
คำที่รับมำจำก
ภำษำสันสกฤต
ซึ่งในภำษำเดิม
ใช้ ทร ไทยใช้
รูป "ทร" และ
ออกเสียง "ซอ"
เช่ น มัทรี
อินทรีย์ นนทรี
คำที่มำจำก
ภำษำต่ ำง
ประเทศ
อื่นๆ ที่ออก
เสียงซอ ใช้
"ซ" เช่ น
เซียมซี
ซ่ ำหริ่ม
ซุป เซลล์
คำไทยที่ใช้ ทร ออกเสียง ซ มีอยู่
ประมำณ ๑๙ คำมีหลักในกำรจำง่ ำยๆ ดังนีค้ ือ
ทรวดทรงทรำบทรำมทรำย
มัทรี อินทรีย์มี
ทรวงไทรทรัพย์ แทรกวัด
ตัว “ทร” เหล่ ำนีเ้ รำ
ทรุ ดโทรมหมำยนกอินทรี
เทริดนนทรี พุทรำเพรำ
โทรมนัสฉะเชิงเทรำ
ออกสำเนียงเป็ นเสียง “ซอ”
ใช้ ส่ ือสำรกันในที่ประชุมที่จัดขึน้ อย่ ำงเป็ น
พิธีกำรเช่ น กำรกล่ ำวปรำศรัย กำรเปิ ด
ประชุมรัฐสภำ กำรกล่ ำวสดุดี
ผู้ส่งสำรต้ องเป็ น
บุคคลสำคัญหรือ
ตำแหน่ งสูงในวงกำร
เป็ นสำรที่ต้องเตรียมล่ วงหน้ ำและมีกำรส่ งสำรด้ วย
กำรอ่ ำน ผ่ ำนสื่อมวลชนต่ ำงๆ ผู้เรียนสำมำรถดู
ตัวอย่ ำงกำรใช้ ภำษำระดับพิธีกำร เช่ น คำปรำศรัย
ของฯพณฯ นำยกรัฐมนตรี
เป็ นภำษำที่ใช้ ในกำรบรรยำยหรืออภิปรำยอย่ ำงเป็ นทำงกำร
ในที่ประชุมใหญ่ กำรรำยงำนทำงวิชำกำรหนังสือรำชกำร
หรือจดหมำยที่ตดิ ต่ อในวงธุรกิจ ประกำศของทำงรำชกำร
เป็ นภำษำที่ใช้ ตรงไปตรงมำมุ่งเข้ ำสู่จุดประสงค์ ท่ ตี ้ องกำรโดยเร็ว
อำจมีศัพท์ เทคนิคหรือศัพท์ ทำงวิชำกำรบ้ ำง แต่ ไม่ ใช้ คำฟุ่ มเฟื อย
เป็ นภำษำที่มีแบบแผนในกำรใช้
ใช้ ส่ ือสำรที่คล้ ำยกับภำษำระดับทำงกำร แต่ ลดควำมเป็ นกำรเป็ น
งำนลงบ้ ำง โดยทั่วไปจะมีถ้อยคำ สำนวนที่ทำให้ ร้ ูสึกคุ้นเคย
มำกกว่ ำ ภำษำระดับทำงกำร
เนือ้ ของสำรมักจะเป็ นเรื่องที่เกี่ยวข้ องกับควำมรู้ท่ วั ไป
หรือเป็ นกำรแสดงควำมคิดเห็นเชิงวิชำกำรที่เกี่ยวกับกำรดำเนินกำร
ตัวอย่ ำงกำรใช้ ภำษำระดับกึ่งทำงกำร
- คนไทยขำดควำมมั่นใจและศรัทธำในควำมกล้ ำหำญของนำยก
เป็ นภำษำที่มักใช้ ในกำรสนทนำโต้ ตอบกัน
ของคนที่ร้ ูจักมักคุ้นกันอยู่ในสถำนที่และ
กำละที่ไม่ เป็ นกำรส่ วนตัว
เป็ นภำษำที่ใช้ อำจจะเป็ นคำชีแ้ จงหรือ
เป็ นคำที่เข้ ำใจควำมหมำยตรงกันได้ ใน
กลุ่มเท่ ำนัน้ ต้ องไม่ เป็ นคำหยำบหรือคำไม่
สุภำพตัวอย่ ำงเช่ น
เนือ้ ของสำรมักจะเป็ นเรื่อ-งทีเท่่ เกีำ่ ยทีวข้
อ
งกั
บ
ควำมรู
้
ท
่
ว
ั
ไป
่ พบกำรทำงำนส่ งครูของนักเรียน
หรือเป็ นกำรแสดงควำมคิแย่
ดเห็มนำกจริ
เชิงวิงชๆำกำรที่เกี่ยวกับกำรดำเนินกำร
ตัวอย่ ำงกำรใช้ ภำษำระดับ- กึนำยยั
่ งทำงกำร
งไม่ แทงเรื่องลงมำ ให้ ฉันตัง้ แต่
- คนไทยขำดควำมมั่นใจและศรั
ท
ธำในควำมกล้
ำ
หำญของนำยก
เมื่อวำนนี ้
อำจมีคำคะนองสื่อควำมหมำยตำมควำมนิยม
ในกลุ่มบุคคลเช่ น
- ชอบทำตัวเป็ นสำวไดอยู่เรื่อย ( ได หมำยถึง
ไดโนเสำร์ คือโบรำณ )
มีคำขำนรับและคำลงท้ ำย ได้ แก่ คะ
ครับ ซินะ เถอะ รวมทัง้ ออกเสียงคำ
บำงคำตำมภำษำปำก เช่ น ยังงี ้ ยังงัน้
นิยมใช้ คำอุทำนเสริมบทในกำรพูดด้ วย เช่ น
กินหยูกกินยำ อำบนำ้ อำบท่ ำ เสือ้ ผ้ งเสือ้ ผ้ ำ
โอกำส
และสถำนที่
สัมพันธภำพ
ระหว่ ำงบุคคล
ลักษณะ
ของเนือ้ หำ
สื่อที่ใช้
ในกำรสื่อสำร
- กำรแบ่ งระดับภำษำไม่ เป็ นกำรตำยตัว ภำษำแต่ ละ
ระดับอำจมีกำรเหลื่อมลำ้ คำบเกี่ยวกันบ้ ำง
- ภำษำทัง้ ๕ ระดับ ไม่ มีโอกำสใช้ พร้ อมกัน ระดับภำษำที่
ใช้ มำก คือภำษำกึ่งทำงกำรกับภำษำระดับไม่ เป็ นทำงกำร
- ภำษำบำงระดับใช้ แทนที่กันไม่ ได้
- กำรใช้ ภำษำผิดระดับเป็ นผลเสียต่ อกำรสื่อสำร
ถ้ อยคำที่ใช้ กำรใช้ ถ้อยคำในภำษำจะต้ อง
แตกต่ ำงกันไปตำมระดับต่ ำงๆ