เทคนิคและหลักเกณฑ์ การกาหนดเป้ าหมาย และแผนอนุรักษ์ พลังงานสาหรับระบบปรับอากาศ เทคนิคและหลักเกณฑ์ การกาหนดเป้าหมาย และแผนอนุรักษ์ พลังงานสาหรับระบบปรับอากาศ 1. วิธีจัดการการใช้ พลังงาน เพือ่ ลดความต้ องการพลังไฟฟ้า 2.
Download ReportTranscript เทคนิคและหลักเกณฑ์ การกาหนดเป้ าหมาย และแผนอนุรักษ์ พลังงานสาหรับระบบปรับอากาศ เทคนิคและหลักเกณฑ์ การกาหนดเป้าหมาย และแผนอนุรักษ์ พลังงานสาหรับระบบปรับอากาศ 1. วิธีจัดการการใช้ พลังงาน เพือ่ ลดความต้ องการพลังไฟฟ้า 2.
เทคนิคและหลักเกณฑ์ การกาหนดเป้ าหมาย และแผนอนุรักษ์ พลังงานสาหรับระบบปรับอากาศ เทคนิคและหลักเกณฑ์ การกาหนดเป้าหมาย และแผนอนุรักษ์ พลังงานสาหรับระบบปรับอากาศ 1. วิธีจัดการการใช้ พลังงาน เพือ่ ลดความต้ องการพลังไฟฟ้า 2. การวิเคราะห์ และตรวจสอบการใช้ พลังงาน 3. เทคนิคการคานวณหาต้ นทุนของการใช้ พลังงานของระบบปรับ อากาศจาแนกตามประเภท 4. การศึกษาและหามาตรการอนุรักษ์ พลังงาน 5. เทคนิคการบันทึกการใช้ พลังงาน 6. การจัดทารายงานเสนอฝ่ ายบริหาร 1. วิธีจัดการการใช้ พลังงาน เพือ่ ลดความต้ องการพลังไฟฟ้า 1.1 อัตราค่ าไฟฟ้า 1 ) อัตราปกติ ( Two Part Tariff ) 2 ) อัตราตามช่ วงเวลาของวัน ( TOD Rate ) 3 ) อัตราตามช่ วงเวลาของการใช้ ( TOU Rate ) อัตราปกติ P = 30 - 999 กิโลวัตต์ และ E < 250,000 หน่ วยต่ อเดือน ระดับแรงดัน ค่ า Demand ค่ าพลังงาน ( kV ) ( B / kW ) ( B / kWh ) > 69 175.70 1.6660 11 - 33 196.26 1.7034 < 11 221.50 1.7314 ประเภทที่ 3.1 อัตราปกติ P = 30 - 999 กิโลวัตต์ และ E < 250,000 หน่ วยต่ อเดือน 28 29 30 31 วัน วัน วัน วัน มี มี มี มี Demand Demand Demand Demand เกิดขึน้ เกิดขึน้ เกิดขึน้ เกิดขึน้ 2,688 2,784 2,880 2,976 ครั้ง ครั้ง ครั้ง ครั้ง @ Demand ครั้งทีม่ คี ่ าสู งทีส่ ุ ด จะถูกนาไปคิดค่ า Demand ตามอัตราทีก่ าหนดไว้ ประเภทที่ 4.1 อัตราตามช่ วงเวลาของวัน ( TOD ) ในช่ วงเวลา 24 ชั่วโมงในแต่ ละวัน จะถูกแบ่ งออกเป็ น 3 ช่ วง ดังนี้ ชื่อเรียกของช่ วงเวลา เกิดขึน ้ ระหว่างเวลา จานวนชั่วโมง 1 : On - Peak 18:30 - 21:30 น. 3.0 2 : Partial - Peak 08:00 - 18:30 น. 10.5 3 : Off - Peak 21:30 - 08:00 น. 10.5 Partial - Peak Off - Peak 00:00 08:00 On Off Peak Peak น. 18:30 21:30 24:00 อัตรา TOD ระดับแรงดัน ค่า Demand ( B / kW ) ค่าพลังงาน ( kV ) 1 2* 3 ( B / kWh ) > 69 224.30 29.91 0 1.6660 11 - 33 285.05 58.88 0 1.7034 < 11 332.71 68.22 0 1.7314 หมายเหตุ * คิดค่ า Demand เฉพาะส่ วนทีเ่ กินช่ วง On Peak เท่ านั้น ประเภทที่ 4.1 อัตราตามช่วงเวลาของวัน ( TOD ) จานวนวันใน จานวนครั้งที่เกิด Demand ในช่วง เดื อนที่คิดเงิน On Peak Partial Peak Off Peak 28 336 1176 1176 29 348 1218 1218 30 360 1260 1260 31 372 1302 1302 แพง ถูก ฟรี Demand ครั้งทีม่ ีค่าสู งสุ ด 2 ค่ า ( 1 ค่ าในช่ วง On Peak และอีก 1 ค่ าในช่ วง Partial Peak ) จะถูกนาไปคิดค่ า Demand 58.88 B/kW 1.7034 B/kWh 1.7034 B/kWh 00:00 00:00 08:00 08:00 1.7034 B/kWh 285.05 B/kW 1.7034 B/kWh 1.7034 B/kWh น 18:3021:3024:00 น. 18:3021:3024:00 อัตรา TOD 1. P < 1,000 kW และ E 250,000 หน่ วยต่ อเดือน - รายเดิม เลือกอัตราTOU (หรืออัตราปกติ) - รายใหม่ ใช้ อตั รา TOU 2. ผู้ใช้ TOU เดิม ต้ องใช้ TOU ใหม่ 3. P > 1,000 kW หรือ E > 250,000 หน่ วยต่ อเดือน ตั้งแต่ เดือน ตุลาคม 2543 ต้ องใช้ อตั รา TOU 1 : ช่วง On - Peak 09:00 - 22:00 น. วันจันทร์ - ศุกร์ 22:00 - 09:00 น. วันจันทร์ - ศุกร์ 2 : ช่วง Off - Peak 00:00 - 24:00 น. วันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดราชการตามปกติ ( ไม่รวมวันหยุดชดเชย ) อัตรา TOD ระดับแรงดัน ค่ า Demand (B / kW) ค่ าพลังงาน ( B / kWh ) ( kV ) 1 2 1 2 > 69 74.14 0 2.6136 1.1726 132.93 0 2.6950 1.1914 210.00 0 2.8408 1.2246 11 - 33 < 11 อัตรา TOU จันทร์ - ศุกร์ 132.93 B / kW 2.6950 B / kWh 1.1914 B / kWh 00:00 09:00 1.1914 B/kWh 22:00 24:00 น. เสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดราชการตามปกติ 1.1914 B / kWh 00:00 24:00 น. 1. วิธีจัดการการใช้ พลังงาน เพือ่ ลดความต้ องการพลังไฟฟ้า 1.2 ประโยชน์ ทไี่ ด้ จากการลดพลังไฟฟ้าสู งสุ ด 1 ) ได้ ลดค่ าไฟฟ้า ( ค่ าไฟฟ้าต่ อหน่ วยถูกลง ) 2 ) ลดภาระต่ อระบบไฟฟ้าของหน่ วยงาน ทาให้ สามารถ จ่ ายโหลดอืน่ ๆ เพิม่ เติมได้ มากขึน้ 3 ) ระบบไฟฟ้าของประเทศมีประสิ ทธิภาพสู งขึน้ ความสั มพันธ์ ของค่ าไฟฟ้ากับลักษณะการใช้ ไฟฟ้า อัตราปกติ C DC P EC E LF C/E E 100 % PT DC 100 EC LF T 19626 25607 1.7034 ; โรงแรม C/E 1.7034 ธุรกิจ ฯ C/E 1.0582 1.0582 LF T LF T ( T = จานวนชั่วโมงในเดือนที่คดิ ค่ าไฟฟ้า ) การวิเคราะห์ ค่าไฟฟ้า : อัตราปกติ C E DC P E EC 196.26 P E 1.7034 P ( kW ) แ ่คาไฟ ุด ส ่ ี ท พง ที่สุด P ก ู ถ ฟ ไ ค่า คือความชันของเส้นกราฟ E E ( kWh ) การเพิม่ ค่ า Load Factor 1. ลดความต้ องการพลังไฟฟ้าสู งสุ ด P ให้ เหลือต่าสุ ดเท่ าทีจ่ ะทาได้ โดยการใช้ ไฟฟ้าให้ สม่าเสมอให้ มากทีส่ ุ ดเท่ าทีจ่ ะทาได้ 2. เพิม่ การใช้ พลังงานไฟฟ้ า E ให้ สู งขึน้ โดยการเพิม่ กิจกรรม เช่ น เพิม่ ช่ วงการทางานเป็ น 2 กะ หรือ 3 กะ LF E 100 P D 24 P E ความสั มพันธ์ ของค่ าไฟฟ้ ากับลักษณะการใช้ ไฟฟ้ า อัตรา TOD C DCp P DCpp ( PP - P ) EC E ( ถ้ า P > PP ให้ PP - P = 0 ) การวิเคราะห์ ค่าไฟฟ้า : อัตรา TOD PP P OP หรื อ PP OP P C E (DCp - DCpp) 100 P DCpp 100 LF T PP LF T 22617 P 5888 1.7034 LF T PP LF T 942.375 P 245.333 1.7034 LF D PP LF D EC ต้ องการลด บาทต่ อหน่ วย ต้ องลด P/PP และเพิม่ ค่ า LF การวิเคราะห์ ค่าไฟฟ้า : อัตรา TOD OP PP P C E DCpp 100 PP (DCp - DCpp) 100 P EC LF T PP LF T OP P 5888 PP 22617 1.7034 LF T PP LF T OP 245.333 PP 942.375 P 1.7034 LF D PP LF D OP ต้ องการลด บาทต่ อหน่ วย ต้ องลด P/PP , PP/OP และเพิม่ ค่ า LF การวิเคราะห์ ค่าไฟฟ้า : อัตรา TOD C E C E ( DC P - DC PP ) 226.17 P E P E DC PP 58.88 PP PP E EC 1.7034 E PP ( kW ) คา่ ไ ฟแ พง คา่ ไ ฟแ พง P ( kW ) ค่าไฟถูก ค่าไฟถูก E ( kWh ) E ( kWh ) การลดอัตราส่ วน P / PP 1. ย้ ายโหลดตอนหัวคา่ ( 18:30 - 21:30 ) ไปเดินตอนกลางคืน ( 21:30 - 08:00 ) จะลดค่ าไฟฟ้ าได้ 226.17 บาท/kW 2. ย้ ายโหลดตอนหัวคา่ ไปเดินตอนกลางวัน ( 08:00 - 18:30 ) จะลดค่ าไฟฟ้าได้ 167.29 บาท / kW. 3. ปั่นไฟใช้ เองตอนหัวคา่ 4. หากทางานแบบ 2 กะ ให้ แยกเวลาทางานระหว่ างกะตอนหัวคา่ จะช่ วยลดค่ า ไฟฟ้าได้ 226.17 บาท / kW. แนวทางการลดค่ าไฟฟ้ า อัตรา TOD ต้ องหลีกเลีย่ งการใช้ ไฟฟ้าในช่ วงเวลาหัวค่า ( 18:30 - 21:30 น. ของทุกวัน ) ให้ ได้ มากทีส่ ุ ดเท่ าทีจ่ ะทาได้ พลาดครั้งเดียว ( แค่ 15 นาที ) ก็ไม่ ได้ เพิม่ การใช้ ไฟฟ้าในช่ วงกลางคืนถึงตอนเช้ า ( 21:30 - 08:00 ) น. แทนการ ใช้ ตอนหัวคา่ ใช้ ไฟฟ้าตอนกลางวันให้ สมา่ เสมอทีส่ ุ ด กรอบทีค่ วรใช้ 00:00 08:00 18:30 21:3024:00น. ความสั มพันธ์ ของค่ าไฟฟ้ากับลักษณะการใช้ ไฟฟ้า เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการปกติ อัตรา TOU -2 C DC P EC 1 E 1 EC 2 E 2 EC 3 E 3 E 3 E - E1 - E 2 C / E DC P/E (EC1 EC 3 ) E 1 /E (EC 2 EC 3 ) E 2 /E EC 3 การวิเคราะห์ ค่าไฟฟ้า : อัตรา TOU P OP C E C E DC P ( EC1 - EC2 ) E DC 100 LF T 553.875 LF D (EC1 - EC2 ) 1.5036 ต้ องการลด บาทต่ อหน่ วย ต้ องลด E1 E E1 E E1 E EC2 EC2 1.1914 E 1 และเพิม่ ค่ า LF การวิเคราะห์ ค่าไฟฟ้า : อัตรา TOU OP P C E DC 100 LF T 553.875 P OP P LF D OP (EC1 - EC 2 ) 1.5036 E1 E E1 E EC 2 1.1914 ต้ องการลด บาทต่ อหน่ วย ต้ องลด E1 , P และเพิม่ ค่ า LF E OP การวิเคราะห์ ค่าไฟฟ้า : อัตรา TOU C E 132.93 P E 1.5036 E1 E 1.1914 E1 ( kWh ) คา่ ไ ฟแ พง คา่ ไ ฟแ พง P ( kW ) ค่าไฟถูก ค่าไฟถูก E ( kWh ) E ( kWh ) แนวทางการลดค่ าไฟฟ้า อัตรา TOU ใช้ ไฟฟ้าตอนกลางวันถึงหัวคา่ ( 09:00 - 22:00 น. ) ของวันจันทร์ - ศุกร์ ยกเว้ น วันหยุดราชการตามปกติให้ สม่าเสมอทีส่ ุ ด เปลีย่ นไปใช้ ไฟฟ้ าตอนกลางคืนถึงช่ วงเช้ า ( 22:00 - 09:00 น. ) ของวันจันทร์ ศุกร์ แทนการใช้ ตอนกลางวันถึงหัวคา่ ใช้ ไฟฟ้าในช่ วงวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดราชการตามปกติให้ ได้ ประโยชน์ มาก ทีส่ ุ ดเท่ าทีจ่ ะทาได้ 1. วิธีจัดการการใช้ พลังงาน เพือ่ ลดความต้ องการพลังไฟฟ้ า 1.3 แนวทางการลดพลังไฟฟ้าสู งสุ ด 1 ) เปลีย่ นแปลงเวลาทางานของเครื่องจักรขนาดใหญ่ ไม่ ให้ ทางานพร้ อม ๆ กัน 2 ) ลดปริมาณการใช้ ไฟฟ้าของเครื่องจักรลงในเวลาที่มีการใช้ งานพร้ อม ๆ กัน 3 ) เลือกใช้ อุปกรณ์ ประสิ ทธิภาพสู ง 4 ) ใช้ ระบบเก็บสะสมพลังงานแทนระบบปกติ เช่ น ระบบ ปรับอากาศแบบ ICE STORAGE 1. วิธีจัดการการใช้ พลังงาน เพือ่ ลดความต้ องการพลังไฟฟ้า 1.4 วิธีการควบคุมพลังไฟฟ้ าสู งสุ ด 1 ) ใช้ คนควบคุมให้ มีการใช้ พลังไฟฟ้าตามทีก่ าหนด 2 ) ใช้ อุปกรณ์ ควบคุมอัตโนมัติ เช่ น Demand Controller , BAS 1. วิธีจัดการการใช้ พลังงาน เพือ่ ลดความต้ องการพลังไฟฟ้ า 1.4.1 ขั้นตอนในการดาเนินการควบคุมพลังไฟฟ้ าสู งสุ ด 1 ) รวบรวมข้ อมูลของอุปกรณ์ ไฟฟ้าต่ าง ๆ 2 ) วางแผนดาเนินการลดค่ าพลังไฟฟ้าสู งสุ ด 3 ) ดาเนินการควบคุมและติดตามผล 1. วิธีจัดการการใช้ พลังงาน เพือ่ ลดความต้ องการพลังไฟฟ้ า 1.4.1.1 การรวบรวมข้ อมูลของอุปกรณ์ ไฟฟ้ าต่ าง ๆ 1 ) จัดทารายการเครื่องจักร / อุปกรณ์ ไฟฟ้ า 2 ) สารวจรายละเอียดการใช้ งานเครื่องจักร / อุปกรณ์ ไฟฟ้ า 3 ) จัดทา Single Diagram ทีส่ มบูรณ์ 4 ) รวบรวมข้ อมูลเกีย่ วกับการผลิต ( โรงงาน ) การทางาน( อาคาร ) และ ผลกระทบหากมีการเปลีย่ นแปลงวิธีการใช้ งานเครื่องจักร / อุปกรณ์ ไฟฟ้ า 5 ) วิเคราะห์ สภาพการใช้ ไฟฟ้ า โดยการหาค่ า Load Factor 6 ) สารวจการใช้ ไฟฟ้ ารายวัน ( หา Load Curves ) 1. วิธีจัดการการใช้ พลังงาน เพือ่ ลดความต้ องการพลังไฟฟ้ า ตัวอย่างการวิเคราะห์ หาค่ าตัวประกอบโหลดรายวัน เวลา ปริ มาณพลังงาน เวลา ปริ มาณพลังงาน เวลา ปริ มาณพลังงาน (ชัว่ โมงที่ ) ( kWh ) (ชัว่ โมงที่ ) ( kWh ) (ชัว่ โมงที่ ) ( kWh ) 0–1 50 8–9 350 16 – 17 650 1–2 50 9 – 10 450 17 – 18 400 2–3 50 10 – 11 450 18 – 19 400 3–4 50 11 – 12 450 19 – 20 400 4–5 50 12 – 13 200 20 – 21 350 5–6 50 13 – 14 450 21 – 22 350 6–7 50 14 – 15 650 22 – 23 240 7-8 200 15 - 16 650 23 – 24 50 รวม 7,040 1. วิธีจัดการการใช้ พลังงาน เพือ่ ลดความต้ องการพลังไฟฟ้ า 800 kWh 600 400 200 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 เวลา จาก LF ดังนั้น LF D E PT 7040 100 % 650 24 100 45.1 % 1. วิธีจัดการการใช้ พลังงาน เพือ่ ลดความต้ องการพลังไฟฟ้ า 1.4.1.2 การวางแผนดาเนินการลดค่ าพลังไฟฟ้ าสู งสุ ด 1) 2) 3) 4) เปลีย่ นแปลงเวลาทางานของเครื่องจักร ลดปริมาณการใช้ ไฟฟ้าของเครื่องจักร หยุดการใช้ งานเครื่องจักรในช่ วงเวลากาหนด ใช้ พลังงานรู ปแบบอืน่ แทนไฟฟ้า 1. วิธีจัดการการใช้ พลังงาน เพือ่ ลดความต้ องการพลังไฟฟ้า แนวทางในการลดค่ าพลังไฟฟ้ าสู งสุ ด 1) 2) 3) 4) เปลีย่ นเวลาทางานของเครื่องจักร ลดปริมาณการใช้ ไฟฟ้าของเครื่องจักรลง ใช้ วธิ ีการสะสมพลังงานล่ วงหน้ า ลดขนาดของเครื่องจักรให้ เหมาะสมกับขนาดของโหลด 1. วิธีจัดการการใช้ พลังงาน เพือ่ ลดความต้ องการพลังไฟฟ้า แนวทางในการลดค่ าพลังไฟฟ้ าสู งสุ ด 5) 6) 7) 8) 9) ใช้ พลังงานรู ปแบบอืน่ เช่ น LPG , นา้ มัน แทนไฟฟ้า เดินเครื่องกาเนิดไฟฟ้าสารองจ่ ายโหลดแทน ใช้ อุปกรณ์ ประสิ ทธิภาพสู ง ปรับเปลีย่ นวิธีการทางาน สร้ างจิตสานึกให้ ทุกคนมีส่วนร่ วมในการลดไฟฟ้า 1. วิธีจัดการการใช้ พลังงาน เพือ่ ลดความต้ องการพลังไฟฟ้า 1.4.1.3 การดาเนินการควบคุมและติดตามผล 1 ) ทดลองปฏิบัติ 2 ) บันทึกผลการดาเนินงาน 3 ) ตรวจสอบผล - วัด Load Curves รายวัน - จากใบเสร็จรับเงิน วิเคราะห์ ค่า LFM และ B/kWh 1. วิธีจัดการการใช้ พลังงาน เพือ่ ลดความต้ องการพลังไฟฟ้า 1.4.2 การหาข้ อมูลการใช้ ไฟฟ้ารายวัน ( Load Curves ) 1) จุดประสงค์ ใช้ วเิ คราะห์ หา LFD ใช้ วางแผนการใช้ งานเครื่องจักร ใช้ ควบคุมการใช้ พลังงานของหน่ วยงาน ใช้ ตรวจสอบความผิดปกติอนื่ ๆ 2 ) วิธีการหา จาก Power Recorder จาก kWh Meter จากลักษณะการใช้ งานเครื่องจักร 1. วิธีจัดการการใช้ พลังงาน เพือ่ ลดความต้ องการพลังไฟฟ้า 1.4.3 การประยุกต์ ใช้ ข้อมูล 1 ) เพือ่ ตรวจสอบสภาพการใช้ ไฟฟ้า 2 ) เพือ่ วางแผนการใช้ ไฟฟ้าให้ เหมาะสม และมีประสิ ทธิภาพสู งขึน้ 3 ) เพือ่ ตรวจสอบความสั มฤทธิ์ผลของการดาเนินการ 2. การตรวจสอบและการวิเคราะห์ การใช้ พลังงาน 2.1 การรวบรวมข้ อมูล 1) 2) 3) 4) 5) ชนิดและปริมาณการใช้ พลังงานต่ อปี ปริมาณผลผลิต ( โรงงาน ) หรือกิจกรรม ( อาคาร) ของหน่ วยงาน แผนผังแสดงการใช้ พลังงานในระบบต่ าง ๆ รายละเอียดอุปกรณ์ หลักทีใ่ ช้ พลังงาน รายละเอียดการตรวจวัดสภาพการทางาน และการใช้ พลังงานของอุปกรณ์ หลักต่ าง ๆ 6 ) รายละเอียดการใช้ พนื้ ที่ของอาคาร 7 ) รายละเอียดโครงสร้ างกรอบอาคาร 2. การตรวจสอบและการวิเคราะห์ การใช้ พลังงาน 2.2 การวิเคราะห์ และตรวจสอบ 1) 2) 3) 4) 5) วิเคราะห์ หาค่ า OTTV ( W/m2 ) วิเคราะห์ หาค่ า RTTV ( W/m2 ) วิเคราะห์ ค่า W/m2 ในระบบแสงสว่ าง วิเคราะห์ ประสิ ทธิภาพการทาความเย็น ( kW/TR ) วิเคราะห์ ค่าดัชนีการใช้ พลังงานในรูปแบบต่ าง ๆ 2. การตรวจสอบและการวิเคราะห์ การใช้ พลังงาน ศักยภาพการอนุรักษ์ พลังงาน 1) 2) 3) 4) 5) 6) 7) การลดความร้ อนจากแสงอาทิตย์ ที่เข้ ามาในอาคาร การปรับอากาศอย่ างมีประสิ ทธิภาพ การใช้ วสั ดุก่อสร้ างอาคารทีช่ ่ วยอนุรักษ์ พลังงาน การใช้ แสงสว่ างในอาคารอย่ างมีประสิ ทธิภาพ การใช้ เครื่องจักร ฯ ทีก่ ่อให้ เกิดการอนุรักษ์ พลังงาน การใช้ ระบบควบคุมการทางานของเครื่องจักร การลดการสู ญเสี ยจากระบบต่ าง ๆ 3. เทคนิคการคานวณหาต้ นทุนของการใช้ พลังงาน ของระบบปรับอากาศจาแนกตามประเภท 3.1 แนวทางในการคานวณ 1 ) รวบรวมข้ อมูลการใช้ และค่ าใช้ จ่ายพลังงานเพือ่ นามา วิเคราะห์ ต้นทุนเฉลีย่ ของพลังงาน 2 ) ทาสั ดส่ วนการใช้ พลังงานแยกตามระบบ เพือ่ นามาหาต้ น ทุนการใช้ พลังงานของแต่ ละระบบ 3. เทคนิคการคานวณหาต้ นทุนของการใช้ พลังงานของ ระบบปรับอากาศจาแนกตามประเภท สั ดส่ วนการใช้ พลังงานในระบบปรับอากาศ W ATER C O O LED AIR C O O LED W ATER C O O LED W ATER C H ILLER W ATER C H ILLER PAC KAG ED Equipent C hiller % 50 – 60 Equipment C hiller % 75 – Equipment Packaged % 75 – 85 85 C ooling Tower 4–8 Pump 5 – 10 C ooling Tower 5–0 Pump 15 – 25 AH U 10 - 20 Pump 10 -15 AH U 15 - 25 4. การศึกษาและหามาตรการอนุรักษ์ พลังงาน 4.1 การศึกษาและหามาตรการอนุรักษ์ พลังงาน ปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่ลดลงจากการใช้ งานเกิดจาก 1 ) ลดโหลดของเครื่องจักร ---> เพิม่ ประสิ ทธิภาพของระบบ 2 ) ลดเวลาใช้ งาน ---> เพิม่ ประสิ ทธิภาพการใช้ งาน 3 ) ดาเนินการทั้ง 2 แบบผสมกัน 4. การศึกษาและหามาตรการอนุรักษ์ พลังงาน 4.2 เปรียบเทียบข้ อมูลกับมาตรฐาน สภาพการทางานปัจจุบัน ---> สภาพการทางานตอนที่ ซื้อมาใหม่ ๆ ---> เทคโนโลยีใหม่ ที่มาทดแทนของเดิม 1 ) สมรรถนะการทางานของเครื่องจักรตอนทีย่ งั อยู่ในสภาพใหม่ 2 ) สมรรถนะการทางานของเครื่องจักรทีผ่ ู้ผลิตได้ ออกแบบไว้ 3 ) สมรรถนะการทางานของเครื่องจักรรุ่นใหม่ ทมี่ ีประสิ ทธิภาพสู งกว่า 4. การศึกษาและหามาตรการอนุรักษ์ พลังงาน 4.3 เทคนิคเบือ้ งต้ นในการอนุรักษ์ พลังงานในระบบปรับอากาศ 1) 2) 3) 4) 5) 6) ทดสอบการทางานและปรับสภาพทุกปี เริ่มเดินเครื่องช้ า แต่ หยุดเดินเครื่องเร็ว เดินเครื่องทาความเย็นให้ เหมาะสมกับสภาพโหลด ตั้งอุณหภูมิของนา้ เย็นและนา้ หล่อเย็นอย่ างเหมาะสม ตั้งอุณหภูมิอากาศในห้ องทีค่ ่ าพอเหมาะ ใช้ ปริมาณอากาศบริสุทธิ์ทพี่ อเหมาะ 4. การศึกษาและหามาตรการอนุรักษ์ พลังงาน 4.3 เทคนิคเบือ้ งต้ นในการอนุรักษ์ พลังงานในระบบปรับอากาศ 7 ) ควบคุมคุณภาพของนา้ เพือ่ ป้องกันการเกิดตะกรัน 8 ) ทาความสะอาด Cooling Coil อย่ างสม่าเสมอ 9 ) ทาความสะอาดแผงกรองอากาศอย่ างสม่าเสมอ 10 ) ล้างท่ อนา้ ( Strainer ) ให้ สะอาดอยู่เสมอ 11 ) ตรวจสอบและซ่ อมรอยรั่วในระบบส่ งลมเย็น 12 ) ตรวจสอบและซ่ อมรอยรั่วในระบบส่ งนา้ เย็น 4. การศึกษาและหามาตรการอนุรักษ์ พลังงาน 4.3 เทคนิคเบือ้ งต้ นในการอนุรักษ์ พลังงานในระบบปรับอากาศ 13 ) ตรวจสอบสภาพของฉนวนอย่ างสม่าเสมอ 14 ) ขจัดสิ่ งกีดขวางทางลมเข้ าและออกจากชุ ดระบายความร้ อน 15 ) บารุงรักษา( การหล่อลืน่ และการปรับความตึงของสายพาน ) อย่ างสม่าเสมอ 16 ) ลดความร้ อนจากภายนอกเข้ าสู่ อาคาร 17 ) ลดความร้ อนที่เกิดขึน้ ภายในตัวอาคาร 5. เทคนิคการบันทึกการใช้ พลังงาน 5.1 การวิเคราะห์ ข้อมูลในอดีต ทาให้ ทราบแนวโน้ ม 1) 2) 3) 4) กาลังเพิม่ ขึน้ หรือ ลดลง ( พลังงาน , ราคา ) ขึน้ กับฤดูกาลหรือไม่ มีข้อมูลครบถ้ วนสมบูรณ์ เพียงใด ความสม่าเสมอของการใช้ พลังงาน 5. เทคนิคการบันทึกการใช้ พลังงาน 5.2 การตรวจสอบการใช้ พลังงานโดยการสารวจ 1 ) เพือ่ ให้ เห็นสภาพการใช้ พลังงานในสภาพปัจจุบัน 2 ) เพือ่ นาข้ อมูลมาใช้ วางแผนในการเพิม่ ประสิ ทธิภาพการใช้ พลังงาน 3 ) เพือ่ นาข้ อมูลมาใช้ วเิ คราะห์ ความเหมาะสมของโครงการ ปรับปรุงทั้งทางด้ านเทคนิคและเศรษฐศาสตร์ 6. การจัดทารายงานเสนอฝ่ ายบริหาร 6.1 จุดประสงค์ เพือ่ ให้ ผู้บริหารทราบเรื่องเกีย่ วกับ 1) 2) 3) 4) เป็ นโครงการทีม่ ีค่าใช้ จ่ายหรือไม่ มากน้ อยเพียงใด เกิดผลกระทบต่ อผู้ปฏิบัติงานอืน่ ๆ เพียงใด ให้ ผลคุ้มค่ าเพียงใด มีผลดี / ผลเสี ยทีไ่ ม่ สามารถประเมินเป็ นตัวเงินได้ หรือไม่ มากน้ อยเพียงใด 5 ) ผลกระทบต่ อกิจกรรมของหน่ วยงานขณะดาเนินการ 6. การจัดทารายงานเสนอฝ่ ายบริหาร 6.2 ข้ อมูล 1) 2) 3) 4) 5) 6) 7) ชนิด ปริมาณ และราคาของพลังงานต่ าง ๆ ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ปริมาณผลผลิตหรือกิจกรรมของหน่ วยงานในระยะเวลาเดียวกัน ดัชนีการใช้ พลังงาน จุดทีส่ ามารถปรับปรุ งเพือ่ ลดการสู ญเสี ยพลังงานได้ ประมาณการค่ าใช้ จ่ายทีจ่ ะต้ องลงทุน และศักยภาพของการประหยัดทีจ่ ะเกิดขึน้ ประมาณการระยะเวลาคืนทุน / ความคุ้มทุน ข้ อมูลอืน่ ๆ เช่ น ระยะเวลาดาเนินงาน ผลกระทบ ฯ เมนู