Transcript Slide 1

การเขียนรายงานสห
กิจศึกษา
อาจารย ์วันจร ัตน์ เดช
วิลยั
[email protected].
ac.th
วัตถุประสงค ์การจัดทา
รายงาน
1.
2.
3.
4.
่ ดทำโครงงำนทีมี
่ ประโยชน์สำหร ับสถำน
เพือจั
ประกอบกำร
่ นแนวทำงในกำรพัฒนำปร ับปรุงกำรทำงำน
เพือเป็
่ นประโยชน์ในกำรปร ับปรุงหลักสูตรและ
เพือเป็
้
เนื อหำ
รำยวิชำให ้มีควำมเหมำะสม ทันสมัยกับสภำพ
ควำมต ้องกำรของตลำดแรงงำน
่ ้นักศึกษำไดฝ
เพือให
้ ึ กฝนทักษะด ้ำนต่ำงๆ เช่น กำร
่
สือสำร
กำรเขียนรำยงำนทำงวิชำกำร
่ การเขียนรายงาน
ภาษาทีใช้
ใช ้สรรพนำมแทนตนเองในกำรเขียนรำยงำน
่
หลีกเลียงกำรเขี
ยนคำ
่ ยวกั
่
สรรพนำมทีเกี
บตัวผูเ้ ขียน เช่น ข ้ำพเจ ้ำ ดิฉัน
ผม ถ ้ำจำเป็ น
ต ้องเขียนให ้ใช ้คำว่ำผูจ้ ด
ั ทำรำยงำนแทน
่ ้ในกำรเขียนรำยงำนต ้องใช ้ภำษำทีเป็
่ น
 ภำษำทีใช
ทำงกำร เช่น
่
ข ้อมูลทีโหลดมำจำกเว็
บไซต ์มติชน
่
่ ำมำจำกฐำนข ้อมูลมติชน
เปลียนเป็
น ข ้อมูลทีน

่ การเขียนรายงาน
ภาษาทีใช้
่
ในเรืองของกำรสะกดค
ำ เช่น
โลกำภิวต
ั น์ , ศิลปวัฒนธรรม , ลำยเซ็น , เต็นท ์ ,
อิเล็กทรอนิ กส ์
่
่
 เครืองหมำยในกำรเขี
ยนอ ้ำงอิง หรือเครืองหมำยต่
ำง ๆ
เช่น
่
่
เครืองหมำย
“ ” เรียก อัญประกำศ , เครืองหมำย
–
เรียก ยัตภ
ิ งั ค ์
่
เครืองหมำย
เรียก สัญประกำศ

่ การเขียนรายงาน
ภาษาทีใช้
ไม่ใช ้คำย่อ ต ้องเขียนเป็ นคำเต็ม เช่น
ทบ. เขียนเป็ น ทหำรบก ,
ตร. เขียนเป็ น
ตำรวจ
สวญ. เขียนเป็ น สำรวัตรใหญ่ , ทล. เขียนเป็ น ทำง
หลวง
 กำรจัดเรียงรูปประโยค กำรเว ้นวรรคตอน ต ้องถูกต ้อง
“เพรำะนำยดำเป็ นคนดีกว่ำ นำยเขียวจึงถูกตำหนิแต่ผู ้
เดียว”

่ การเขียนรายงาน
ภาษาทีใช้
คาภาษาต่างประเทศ :
่ งไม่รู ้จักทัวไปอำจแปลเป็
่
1. คำทียั
นคำไทยแล ้ว
่ กล่ำวถึงครงแรก
้ั
วงเล็บภำษำอังกฤษไว ้เมือ
หรือ
อำจเขียนทับศัพท ์ตำมสำเนี ยงกำรอ่ำน
่
ภำษำต่ำงประเทศนั้นแล ้ววงเล็บภำษำอังกฤษไว ้เมือ
้ั
กล่ำวถึงครงแรกเช่
นกัน
เช่น ต่อมหมวกไตส่วนนอก (adrenal cortex)
•
แคลิฟอร ์เนี ย
(California)
ตรรกวิทยำ (Logic )
่ การเขียนรายงาน
ภาษาทีใช้
คาภาษาต่างประเทศ :
่ ้กันมำนำน และปรำกฏใน
•
2. คำทับศัพท ์ทีใช
พจนำนุ กรม ฉบับรำชบัณฑิตยสถำนแล ้ว ให ้ใช ้
้
ต่อไปตำมเดิม เช่น ช็อกโกเลต, ช็อกโกแลต, เชิต,
ก๊ำซ, แก๊ส
่ ้กันมำนำนแล ้ว อำจ
•
3. คำวิสำมำนยนำมทีใช
ใช ้ต่อไปตำมเดิม เช่น
Victoria = วิกตอเรีย , Louis = หลุยส ์ ,
Cologne = โคโลญ
night club = ไนต ์คลับ
ส่วนประกอบรายงาน
รายงาน
ส่วนต้น
้
เนื อหา
ส่วนท้าย
ส่วนนา
 ปกนอก ( Cover )

ปกใน
(Title page)

บทคัดย่อภำษำไทย / ภำษำอังกฤษ ( Abstract)
 คำนำ / กิตติกรรมประกำศ
(Acknowledgement page)
่ (Table of contexts)
 สำรบัญเรือง

รำยกำรตำรำง ( list of tables)

รำยกำรรูปภำพ ( list of illustration )
ส่วนประกอบตอนต้น ( ส่วน
นา)
1. ปกนอก (Cover)
(สาขา IT สีม่วงคราม,EB สีเขียวอ่อน, SE
สีเหลืองอ่อน)
่
1.1
ส่วนบน ชือรำยงำน......
1.2
ส่วนกลำง
่ ้เขียน - สกุล - รหัส
1.2.1
ชือผู
นักศึกษำ
่
่ กษำ
1.2.2
ชืออำจำรย
์ทีปรึ
1.2.3
สถำนทีฝึ่ กงำน
ส่วนประกอบตอนต้น ( ส่วน
นา)
1. ปกนอก (Cover) ต่อ
1.3 ส่วนล่ำง แบ่งเป็ น 3 บรรทัด
่ ำหนดให ้
บรรทัดแรก รำยวิชำทีก
่
รำยงำน
ภำคกำรศึกษำที…..
ปี กำรศึกษำ …………….
่
บรรทัดสอง ชือหลั
กสูตร สำขำ
้ั …คณะ….
ชนปี
บรรทัดสำม สถำบัน
รายงานการฝึ กงาน
(24p)
่ กศึกษา
ชือนั
รหัสนักศึกษา
(18p)
เสนอ
ฝึ กงาน
่
่ กษา/สอบวิชา
ชืออาจารย
์ทีปรึ
(16p)
สถานทีฝึ่ กงาน
(16p)
้ นส่วนหนึ่งของรายวิชา 140-390 การฝึ กงาน 2
รายงานนี เป็
ภาคการศึกษาที่ 2 ปี การศึกษา 2553
้ั ที่ 4
หลักสู ตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ชนปี
่
คณะเทคโนโลยีและสิงแวดล้
อม
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร ์ วิทยาเขตภู เก็ต
ส่วนประกอบตอนต้น ( ส่วน
นา)
2. ปกใน (Title page) มีรูปแบบเหมือนปก
นอก
่
2.1
ส่วนบน ชือรำยงำน......
2.2
ส่วนกลำง
(รำยละเอียดผูจ้ ด
ั ทำและอำจำรย ์ที่
ปรึกษำ)
2.3 ส่วนล่ำง รำยวิชำ สำขำ คณะ
มหำวิทยำลัย ภำคกำรศึกษำ และปี
กำรศึกษำ
ส่วนประกอบตอนต้น ( ส่วน
นา)
3. บทคัดย่อ (Abstract) คือ ข ้อควำมสรุป
้ องบทที
่
่1
เนื อเรื
้
ถึงบทที่ 4 ของรำยงำนให ้สันกะทั
ดร ัด ช ัดเจน
่
กำรจัดพิมพ ์บทคัดย่อ เมือรำยงำนฉบั
บ
ภำษำไทย พิมพ ์คำ
ว่ำ “บทคัดย่อ เป็ น
่ น
ภำษำไทย พิมพ ์ Abstract เมือเป็
ภำษำอังกฤษ
พิมพ ์เว ้นห่ำงริมกระดำษประมำณ 1.5 นิ ว้
่
จัดวำงกึงกลำง
ขนำดตัวอักษร 18 Points
้
ตัวพิมพ ์หนำ สำหร ับเนื อหำ
รำยละเอียดพิมพ ์ขนำดตัวอักษร 16 Points
บทคัดย่อ
่ ตนม
บริษท
ั เนสท ์เล่ ฟู้ ดส ์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็ นบริษท
ั ทีผลิ
ผง นมน้ำ
่ ้เข ้ำไปฝึ กงำน ในบริษท
และ นมข ้นหวำน จำกกำรทีได
ั เนสท ์เล่ ฟู้ ดส ์
่
(ประเทศไทย) จำกัด ได ้ร ับมอบหมำยให ้ไปปฏิบต
ั ห
ิ น้ำทีในแผนกควำม
่
่
ปลอดภัยและสิงแวดล
้อม (Safetyand Environment)
ซึงในกำร
ปฏิบต
ั งิ ำนนั้นได ้ทำกำรศึกษำในส่วน NEMTR : Nestle Environment
้ ้แบ่ง
Minimum Technical Requirements ในส่วนของ NEMTR นี ได
ออกเป็ น 6 หมวดด ้วยกัน คือ พลังงำน, น้ำ/น้ำเสีย, สำรเคมี, อำกำศ,ขยะและ
่ ้ในกำรประมวลผลและติดตำมด ้ำนสิงแวดล
่
้
เสียง ซึงใช
้อมในบริษท
ั โดยทังหมด
้ นส่วนหนึ่ งของระบบกำรจัดกำรด ้ำนสิงแวดล
่
นี เป็
้อมของกลุม
่ บริษท
ั เนสท ์เล่
(NEMS : Nestle Environment Management System) นอกจำก
่
กำรศึกษำในส่วนของกำรติดตำมด ้ำนสิงแวดล
้อม
แล ้วนั้นยังมี
ส่วนร่วมในกำรจัดกิจกรรมต่ำง ๆ ภำยในบริษท
ั อำทิเช่น กำรฝึ กอบรมกำรขับ
้
้ ้น กำรอบรมกำรปลูกจิตสำนึ ก
รถยกเบืองต
้น กำรฝึ กอบรมกำรดับเพลิงขันต
ส่วนนา
4. กิตติกรรมประกำศ (Acknowledgement page)
่ เ้ ขียนรำยงำน เขียนขอบคุณผูมี้
4.1 เป็ นส่วนทีผู
ส่วนช่วยเหลือ ร่วมมือ ในกำรปฏิบต
ั งิ ำน
้ ๆ ชือ่ สกุล ตำแหน่ งของผู ้
4.2 เขียนข ้อควำม สัน
ที่
กล่ำวถึง
4.3 ต ้องเขียนให ้ถูกต ้อง ระมัดระวังตัวสะกด
กำร ันต ์
่
่ น้ ้ันไม่มส
่
4.4 ไม่ควรอ ้ำงชือใคร
โดยทีผู
ี ว่ นเกียวข
้อง
่ กศึกษำในกิตติกรรมประกำศไม่ใส่คำ
4.5 ลงชือนั
กิตติกรรมประกาศ
่ ร้ ายงานได้มาฝึ กงาน ณ บริษท
ในการทีผู
ั เนสท ์เล่ ฟู้ ดส ์ (ประเทศไทย)
้
้
จากัด ตังแต่
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2553 ถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ ์ 2554 นัน
่
่ งสามารถ
่
ส่งผลให้ได้ร ับความรู ้และประสบการณ์ตา
่ ง ๆ ทีทรงคุ
ณค่าเป็ นอย่างยิงซึ
้ั ส
้ าเร็จ
นาไปใช้ในวิชาชีพในอนาคตได้เป็ นอย่างดี สาหร ับการปฏิบต
ั งิ านครงนี
ลุล่วงไป ด้วยดีอ ันเนี่องมาจากได้ร ับการสนับสนุ นช่วยเหลือจากบุคคลหลายฝ่าย
ดังนี ้
่ ความกรุณาในการร ับ
1. คุณช ัยโรจน์ จิตต ์แก้ว ผู อ
้ านวยการโรงงาน ทีให้
นักศึกษาไปร่วมปฏิบต
ั งิ าน
่
2. คุณวิพฒ
ั น์ เปล่งศรีสกุล (ผู จ
้ ด
ั การแผนกความปลอดภัยและสิงแวดล้
อม)
่ น Job Supervisor
ซึงเป็
3. คุณร ัฐิมา พัฒนเจริญ (ISO Coordinator)
4. คุณมนตรี สีโห
(HR)
5. คุณสุทธี
ธุรกิจ
(ENG)
้
่
ในการนี ใคร่
ขอขอบพระคุณผู ท
้ มี
ี่ สว
่ นเกียวข้
องทุกท่าน อันรวมถึง
่ ได้กล่าวนาม
บุคคลทีไม่
่ ณาให้ขอ
่ กษาในปฏิบต
ทุกท่านทีกรุ
้ มู ลและเป็ นทีปรึ
ั งิ านและการทารายงานฉบับนี ้
่
จนเสร็จสมบู รณ์ ตลอดจนให้
การดู แลและให้ความเข้าใจเกียวกับชี
วต
ิ
ส่วนนา
่
5. สารบัญเรือง
( Table of contexts)
5.1 ในกำรลำดับหน้ำและกำรเขียนเลข
่ คือ ตังแต่
้ หน้ำปก (Title
หน้ำ ในส่วนนำเรือง
page) ไปจนถึงหน้ำสุดท ้ำย
้ อง
่ ให ้ใช ้ตัวเลขอำรบิคใน
ก่อนถึงส่วนเนื อเรื
่
เครืองหมำยวงเล็
บกลม เช่น (1), (2),(3)….
5.2 ใช ้เลขโรมัน (สำหร ับรำยงำน,วิจยั ,
่ ยนเป็ นภำษำอังกฤษ เช่น i, ii
วิทยำนิ พนธ ์ทีเขี
, iii , ….
ส่วนประกอบตอนต้น ( ส่วน
นา)
่ มล่ำงขวำมือ
5.3
ในกำรพิมพ ์ ให ้พิมพ ์ไว ้ทีมุ
ห่ำงจำกขอบกระดำษด ้ำนล่ำงตรงกับแนวขอบ
่ ำงจำกขอบกระดำษ
ข ้อควำมขวำมือ ซึงห่
ด ้ำนขวำ 1 นิ ว้
5.4 กำรใส่เลขหน้ำของส่วนประกอบนำ
รำยงำนภำษำไทยควรใช ้ตัวอักษร ก ข ค ง
ส่วนกำรเขียนตัวเลขหน้ำรำยงำนภำษำอังกฤษ
ควรใช ้อักษรโรมัน
5.5 ถ ้ำไม่จำเป็ นไม่ควรใส่หวั ข ้อย่อยใน
สารบัญ
หน้า
บทค ัดย่อ…………………………………………………………………
…………… ก
กิตติกรรมประกาศ………………………………………………………
…………..
ข
สารบัญ
ตาราง……………………………………………………………….……….
ค
สารบัญ
ภาพ……………………………………………………………………………
ง
ส่วนนา
6.
7.
สำรบัญตำรำง ( list of tables)
สำรบัญรูปภำพ ( list of illustration )
้ บทที่ 1 ถึง
กำรลำดับ เลขตำรำงสำมำรถลำดับตังแต่
ภำคผนวกได ้ ตำรำง 1 , ตำรำง 25
่
กำรลำดับเลขตำรำง รูปภำพ ลำดับตำมชือบทและ
ภำคผนวก
ตำรำง 1-1 ตำรำง 1- 2 รูปภำพ 2-1 รูปภำพ
3-1
ตำรำงภำคผนวก 1-1 ตำรำงภำคผนวก 2-1
สารบัญตาราง
หน้า
ตาราง 1-1 การต่อสายวัดแรงดันในระบบไฟฟ้า
ต่าง……………………………………………............... 21
ตาราง 2-1 การต่อแคล็มป์ วัดกระแสไฟฟ้าต่าง ๆ
…………..…………………………………………….
22
ตาราง 2-2 กาลังไฟฟ้าก่อนการปร ับปรุงและหลังการปร ับปรุง PF
……………………………………... 23
ตาราง 2-3 DESCRIPTION ของหม้อแปลงลู กที่ 3
……………………………………………………….... 50
ตาราง 3-1 ผลการวัดปริมาณก๊าซของ MP Boiler ก่อนการ
ปร ับปรุง……………….…………………...
60
่ การปร ับปรุงครงที
้ั ่ 1
ตาราง 3-2 การวัดปริมาณก๊าซของ MP Boiler เมือมี
…………….……………… 61
่ การปร ับปรุงครงที
้ั ่ 2
ตาราง 4-1 การวัดปริมาณก๊าซของ MP Boiler เมือมี
…………………….……… 62
สารบัญรู ป
หน้า
ภาพ 1-1 แผนผังการบริหารงานของ
บริษท
ั ……………………………………………………………… 2
ภาพ 1-2 แผนผังการบริหารงานของบริษท
ั พร ้อม
ผู บ
้ ริหาร…………………………………………….
13
ภาพ 1-3 แผนผังการบริหารงานของฝ่าย
วิศวกรรม…………………………………………………….
14
่
ภาพ 2-1 ด้านหน้าของเครืองวัดการใช้
พลังงาน………………………………………………………...
18
่
ภาพ 2-2 ด้านข้างของเครืองวัดการใช้
พลังงาน…………………………………………………….......
19
่
ภาพ 2-3 แสดง Connector Section ของเครืองวัดการใช้
พลังงาน…………………………………...
19
่ นของเครืองวัดการใช้
่
ภาพ 2-4 หน้าจอเริมต้
พลังงาน…………………………………………………. 20
ภาพ 2-5 การต่อแคล้มป์ วัด
ส่วนประกอบตอนกลาง
ส่วนประกอบตอนกลาง (เนื อ้
่
เรือง)
• บทที่ 1 : บทนา
่
่ ่ แผนทีตั
่ ง้ ประวัติ
ชือสถำนประกอบกำร
ทีอยู
่ กศึกษำไปฝึ กงำน
และโครงสร ้ำงองค ์กรทีนั
โดยให ้แสดงโครงสร ้ำงรวมขององค ์กร และ
่ กศึกษำไป
ควำมสัมพันธ ์กับฝ่ ำยหรือส่วนทีนั
ฝึ กงำน
• บทที่ 2 : ข้อปฏิบต
ั ิ
กฎเกณฑ ์หรือข ้อปฏิบต
ั ใิ นกำรฝึ กงำน ใน
ฐำนะของสมำชิกคนหนึ่ งในองค ์กรนั้น เช่น
ส่วนประกอบตอนกลาง (เนื อ้
่
เรือง)
• บทที่ 3 : ภาระหน้าที่
่ ้ร ับมอบหมำยและบุคคลทีร่ ับผิดชอบ
งำนทีได
่
เป็ นผูค้ วบคุมกำรปฏิบต
ั งิ ำน (ชือ-สกุ
ลและ
ตำแหน่ งของผูค้ วบคุมกำรฝึ กงำน) พร ้อมทัง้
่ ้ร ับมอบหมำย
แสดงควำมสัมพันธ ์ของงำนทีได
่
กับงำนส่วนอืนๆ
บทที่ 4 :
ผลการปฏิบต
ั งิ าน
่ ้จำกกำรฝึ กงำนโดยสรุป ควำมรู ้ที่
ควำมรู ้ทีได
ศึกษำได ้ นำมำใช ้ในกำรพัฒนำระบบงำนอะไร
เป็ นอย่ำงไร พบอะไรจำกกำรปฏิบต
ั งิ ำนและมี
ส่วนประกอบตอนกลาง (เนื อ้
่
เรือง)
• บทที่ 5
บทสรุป
บทสรุป ปัญหำ อุปสรรค และข ้อเสนอแนะ
ในกำร
้ั อไป (ควร
ดำเนิ นงำนในกำรปฏิบต
ั งิ ำนครงต่
หรือไม่ควร
ส่งนักศึกษำไปฝึ กงำน ) ณ องค ์กรนั้นๆ ในปี
กำรศึกษำต่อไป
การพิมพ ์ส่วนประกอบตอนกลาง
้ อง)
่
(เนื อเรื
้
1. กำรพิมพ ์บทต ้องขึนหน้
ำใหม่เสมอและมีเลข
ประจำบทให ้ใช ้เป็ นบทที่ 1 บทที่ 2
่
้ องเป็
นต ้นไปให ้ใช ้
2. กำรลำดับหน้ำส่วนเนื อเรื
เลขอำรบิค
่ มบน
1,2,3,….. ตำมลำดับ โดยพิมพ ์ไว ้ทีมุ
ขวำตรงกับแนวขอบข ้อควำมขวำมือ ยกเว ้น
ตัวเลขลำดับหน้ำแรกของแต่ละบท ให ้พิมพ ์
มุมขวำล่ำง ห่ำงจำกขอบกระดำษด ้ำนล่ำง
่ ำงจำก
ตรงกับแนวขอบข ้อควำมขวำมือซึงห่
ขอบ กระดำษด ้ำนขวำ 1 นิ ว้
การพิมพ ์ส่วนประกอบตอนกลาง
้ อง)
่
(เนื อเรื
• 3. กำรกำหนดระยะห่ำงหัวข ้อใหญ่ อยู่ชด
ิ ขอบ
ซ ้ำยมือ ส่วนหัวข ้อรอง หัวข ้อย่อยให ้ย่อหน้ำเข ้ำมำ
ถ ้ำมีข ้อควำมขยำยหัวข ้อย่อย ให ้เขียนหรือพิมพ ์
ต่อในบรรทัดเดียวกับหัวข ้อย่อย
3.1
ระยะห่ำงระหว่ำงหัวข ้อใหญ่และหัวข ้อรอง
ให ้เว ้น 2 บรรทัด
้
3.2
ระยะห่ำงระหว่ำงหัวข ้อใหญ่กบั เนื อควำม
ให ้เว ้น 2 บรรทัด
้
1.5 นิ ว
บทที่ 1 (หัวข้อใหญ่ อ ักษรหนาดา18 p)
้
1.5 นิ ว
้
1 นิ ว
บทนา
} เว้น 2 บรรทัด
1.1 บทนา ( หัวข้อรอง 16 p หนาดา )
(ย่อหน้ำเว ้น 1 นิ ว้ หรือ 8 ตัวอักษร) } เว้น 1 บรรทัด
้
////////เนื อหำ
( อ ักษร 16 )
………………………….…………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………...
} เว้น 2 บรรทัด
1.2 วัตถุประสงค ์
(ย่อหน้ำเว ้น 1 นิ ว้ หรือ 8 ตัวอักษร) } เว้น 1 บรรทัด
่
/////////1.2.1 เพือ.................................................
้
1.5 นิ ว
1.3
่ งองค
้
ประวัตแิ ละสถำนทีตั
์กร (หัวข้อรอง)
} เว้น 1 บรรทัด
1.3.1
ประวัตอิ งค ์กร
(หัวข้อย่อย)
1.3.1.1
………………………………………………………………….
1.3.1.2 ………………………………………………………………....
} เว้น 1 บรรทัด
้
1.5 นิ ว
้
1 นิ ว
1.3.2
่ งขององค
้
สถำนทีตั
์กร
1.3.2.1
………………………………………………………………….
1.3.2.2 ………………………………………………………………....
1.) …………………………………………………………………………………
การพิมพ ์ส่วนประกอบตอนกลาง
้ อง)
่
(เนื อเรื
• 4. กำรพิมพ ์ตำรำง
4.1
ให ้แทรกปนไปในแต่ละบทของตัวเนื อ้
่
เรืองโดยให
้เว ้นไว ้
1 บรรทัด ก่อนพิมพ ์คำ
ว่ำตำรำง ตำมด ้วยตัวเลข โดยใช ้ อักษร 16
พอยด ์ตัวเข ้ม ไว ้ชิดขอบด ้ำนซ ้ำย ตำมด ้วยชือ่
ตำรำง
่
4.2
ถ ้ำชือตำรำงมี
ควำมยำวเกินกว่ำ 1
บรรทัด ให ้พิมพ ์บรรทัด บนยำวกว่ำบรรทัดล่ำง
การพิมพ ์ส่วนประกอบตอนกลาง
้ อง)
่
(เนื อเรื
• 4. กำรพิมพ ์ตำรำง
่
4.3
ทีมำของตำรำง
ถ ้ำข ้อมูลเป็ นปฐมภูมไิ ม่
่ นทุตยิ ภูมต
ต ้องระบุทมำ
ี่ ส่วนข ้อมูลทีเป็
ิ ้องระบุทมำ
ี่
่
่
โดยใส่คำว่ำ “ทีมา”
และตำมด ้วยเครืองหมำย
่
ทวิภาค : และตำมด ้วยแหล่งทีมำ
4.4 หมำยเหตุท ้ำยตำรำง ให ้ใส่คำว่ำ “หมาย
่
เหตุ” และตำมด ้วยตำมด ้วยเครืองหมำย
ทวิภาค
: และตำมด ้วยข ้อควำม
ตาราง 2-1 จำนวนนักศึกษำภำควิชำวิศวกรรมคอมพิวเตอร ์ใน
แต่ละปี กำรศึกษำ
ปี การศึกษา
จำนวน
นักศึกษำ
2547
2548
2549
2550
380
350
345
395
่ : รำยงำนประจำปี ,หน้ำ
ทีมา
10
หมายเหตุ : ………….
การพิมพ ์ส่วนประกอบตอนกลาง
้ อง)
่
(เนื อเรื
5. กำรแสดงภำพและรูปประกอบต่ำงๆให ้พิมพ ์
คำว่ำ
5.1 รูปภำพต่ำงๆได ้แก่แผนภำพ แผนภูมิ
กรำฟ ภำพถ่ำย
แผนที่ ภำพเขียน ต ้องช ัดเจนและอยูภ
่ ำยใน
กรอบของ
รำยงำน
่
5.2 ให ้พิมพ ์คำว่ำ “ภำพ” ตำมด ้วยลำดับทีของ
การพิมพ ์ส่วนประกอบตอนกลาง
้ อง)
่
(เนื อเรื
30
ภาพ 2-1 หำดป่ ำตอง
่ : กำรท่องเทียวภู
่
ทีมา
เก็ต, 2551,หน้ำ
การพิมพ ์ส่วนประกอบตอนกลาง
้ อง)
่
(เนื อเรื
้
6. กำรอ ้ำงอิงในเนื อหำ
(Reference Citations
in text)
่ ท้ ำ
เป็ นกำรอ ้ำงถึงแหล่งข ้อมูลทีผู
รำยกำรทำกำรคัดลอกมำหรือสรุปสำระสำคัญ
หรือถอดควำม หรือนำแนวคิดมำลงไว ้ใน
รำยงำนกำรศึกษำ วิธเี ขียนอ ้ำงอิง มี 3
ประเภท ได ้แก่
1. กำรอ ้ำงอิงแบบเชิงอรรถ (Footnote) 2.
การพิมพ ์ส่วนประกอบตอนกลาง
้ อง)
่
(เนื อเรื
้
้
• รูปแบบกำรอ ้ำงอิงในเนื อหำหรื
อแทรกในเนื อหำ
่ ้แต่งให ้กลมกลืน
คือ กำรระบุแหล่งข ้อมูล ชือผู
้
ไปกับเนื อหำได
้หรือจะแยกใส่ไว ้ในวงเล็บก็ได ้
เรียกว่า นาม-ปี (Author-date)
่
• รายการทีลงประกอบด้
วย :
่ มพ ์,/เลขหน้ำ)
หนังสือ : (ผูแ้ ต่ง,/ปี ทีพิ
(จิรำภรณ์ คชเสนี ,2537,น.30) / (p.)
(pp.)
(จิรำภรณ์ คชเสนี ,2537,หน้ำ.30-40) /
ส่วนท้ายของรายงาน
ส่วนท้าย
บรรณำนุ
กรม
ภำคผน
วก
ดรรชนี
อภิธำน
ศัพท ์
แบบการเขียน
บรรณานุกรม
MLA ( Modern Language Association
Style)
APA ( American Psychological
Association style)
แบบที่ 1
่
้ั พิ
่ มพ ์/:/
่ มพ ์./เมืองทีพิ
• ผูแ้ ต่ง.//ชือหนั
งสือ.//ครงที
่ มพ ์.
สำนักพิมพ ์
////////ปี ทีพิ
แบบที่ 2
่ มพ ์)./ชือหนั
่
้ั พิ
่ มพ ์)./เมือง
ผูแ้ ต่ง./(ปี ทีพิ
งสือ./(ครงที
่ มพ ์/:/
ทีพิ
การพิมพ ์บรรณานุ กรม
1. พิมพ ์คำว่ำบรรณำนุ กรมไว ้กลำงหน้ำกระดำษ โดยใช ้
ขนำดตัวอักษร 20 พอยด ์ตัวเข ้ม ถ ้ำเป็ น
ภำษำอังกฤษให ้ใช ้คำว่ำ
“BIBLIOGRAPHY”
่ แ้ ต่งหรือรำยกำรเอกสำรให ้พิมพ ์ชิด
2. ตำแหน่ งชือผู
ขอบกระดำษ
่ ้นไว ้ 1 ½ นิ ว้ หำกบรรทัดเดียวไม่จบเริมต
่ ้น
ทีเว
บรรทัดใหม่ให ้ย่อเข ้ำมำ 7 ช่วงตัวอักษรหรือ 1 Tap
่
3. เอกสำรใดไม่มผ
ี ูแ้ ต่ง ให ้ใช ้ชือหนั
งสือ(ตัวเอน) หรือ
่
ชือบทควำมแทนและเรี
ยงรำยกำรตำมลำดับตัวอักษร
การพิมพ ์บรรณานุ กรม
่ แ
4. การลงรายชือผู
้ ต่ง
4.1 ผูแ้ ต่งคนไทยแต่งเอกสำรเป็ นภำษำไทยให ้ใส่ชอื่
และนำมสกุลตำมลำดับ โดยไม่ต ้องใส่คำนำหน้ำชือ่
(เช่น นำย นำง นำงสำว) ยศ (เช่น พ.ต.ท.)
ตำแหน่ ง (เช่น ผูช
้ ว่ ยศำสตรำจำรย ์ ศำสตรำจำรย ์)
หรือคุณวุฒิ (เช่น ดร. นพ.)
ธำรงศักดิ ์ อำยุวฒ
ั นะ. (2547). ไทยในมำเลเซีย.
กรุงเทพฯ: บรรณกิจ.
่ นนิ ตบ
4.2 ผูแ้ ต่งทีเป็
ิ ค
ุ คล ให ้ใส่ชอนิ
ื่ ตบ
ิ ค
ุ คลตำมที่
ปรำกฏในเอกสำร
การพิมพ ์บรรณานุ กรม
4.3 ถ้าผู แ
้ ต่ง 2 คน แต่ไม่เกิน 6 คน
บรรณำนุ กรม
้
่ ้คันด
่ ้วย
ให ้ใส่ชอทั
ื่ งหมดทุ
กคน และระหว่ำงชือให
่
เครืองหมำย
่ แ้ ต่งคนที่ 3 ไปเรือยๆ
่
Comma(,) ตำมด ้วยชือผู
่ แ้ ต่ง
ตำมลำดับ แต่ไม่เกิน 6 คน และก่อนหน้ำชือผู
คนสุดท ้ำยให ้ใส่คำว่ำ “และ”หรือ “&”
(ampersand) หรือ“and”
การพิมพ ์บรรณานุ กรม
4.3 ถ้าผู แ
้ ต่ง 2 คน แต่ไม่เกิน 6 คน (ต่อ)
้
อ ้ำงอิงในเนื อหำ
ให ้ใส่ชอทุ
ื่ กคน ชำวไทยใส่ “และ” ชำวต่ำงประเทศ
่ อด
่ ้วยเครืองหมำยจุ
่
คันชื
ลภำค “,”และใน
่
่ อคนสุ
่
เครืองหมำย
“&” คันชื
ดท ้ำย
การพิมพ ์บรรณานุ กรม
้
กำรอ ้ำงอิงแทรกในเนื อหำ
้ั 1
่ : (ศุภมิตร เมฆฉำย, พัชรินทร ์ ครุฑเมือง,
อ ้ำงอิงครงที
อัญชลี วงษำ,
เทิดชัย เวียรศิลป์ ,โกมุท อุน
่ ศรีสง่ ,
และเกรียงศักดิ ์ เม่งอำพัน, 2548, น.9)
้ั อไป : (ศุภมิตร เมฆฉำย, 2548, น. 10)
อ ้ำงอิงครงต่
บรรณำนุ กรม
ศุภมิตร เมฆฉำย, พัชรินทร ์ ครุฑเมือง, อัญชลี วงษำ,
เทอดชัย เวียรศิลป์ , โกมท อุน
่ ศรีสง่ , และเกรียงศักดิ ์ เม่ง
่
อำพัน. (2548). กำรจำแนกเพศปลำบึกด ้วยเครืองหมำย
โมเลกุล ดีเอ็นเอ. เชียงใหม่: คณะเกษตรศำสตร ์
การพิมพ ์บรรณานุ กรม
้
การอ้างอิงแทรกในเนื อหา
้ั ่ 1
อ ้ำงอิงครงที
(Cate, Harris, Boswell, James, Yee, & Peters,
1991, chap.1)
้ั อไป เช่น (Cate, et al., 1991, p. 100)
อ ้ำงอิงครงต่
บรรณำนุ กรม
Cates, A.R., Harris, D.L., Boswell, W., James,
W.L., Yee, C., &
Peters, A.V. (1991).
Trance and clay therapy. Chicago:
การพิมพ ์บรรณานุ กรม
4.4 ผู แ
้ ต่ง 6 คน หรือมากกว่า 6 คน
้
การอ้างอิงในเนื อหา
่ ่ ง ตำมด ้วย คำ
ในภำษำไทยใส่ชอผู
ื่ ้แต่งคนทีหนึ
่
ว่ำ “และคนอืนๆ”
ภำษำต่ำงประเทศ ใช ้ “et al.”
บรรณานุ กรม
ในภำษำไทย ผูแ้ ต่งมำกกว่ำ 6 คน ใส่ชอื่ 6 คน
่
แรก ตำมด ้วยคำว่ำ “และคน อืนๆ”
ใน
ภำษำต่ำงประเทศ ใช ้ “et al.”
การพิมพ ์บรรณานุ กรม
้
• อ้างอิงในเนื อหา
่ 2548, บทที่ 5)
(สมจิต สวชนไพบูลย ์ และคนอืนๆ,
• บรรณานุ กรม
• สมจิต สวชนไพบูลย ์, สำยพิณ กิจจำ, บัญชำ มุสก
ิ ำ
์
์ สุทธิ,์ พงษ ์
นนท ์,
พิสท
ิ ธิโพธิ
ศักดิ ์ แพงคำอ ้วน,ขัตติยำ ด ้วงสำรำญ,
และคน
่ (2548). กำรวิจยั และพัฒนำชุดกิจกรรมกำรจัด
อืนๆ.
่ นผูเ้ รียนเป็ นสำคัญด ้วย
กระบวนกำรเรียนรู ้ทีเป็
กิจกรรมหลำกหลำย. กรุงเทพฯ: ศูนย ์วิทยำศำสตร ์
ศึกษำมหำวิทยำลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
การพิมพ ์บรรณานุ กรม
้
• อ้างอิงในเนื อหา
(Bernstein, et al., 1965, pp. 35-36)
• บรรณานุ กรม
• Bernstein T. M., Simpson S. J., Horper M.
V., Stokes A. P.,
Doty C. T., & Ross D. P.,
et al. (1965). The careful writer. New
York: Atheneum.
การพิมพ ์บรรณานุ กรม
4.5
ผู แ
้ ต่งมีฐานันดรศ ักดิ ์ : ให้ใส่ชอ
ื่ ใส่
่
เครืองหมาย
“ , ” ตามด้วยฐานนันดรศ ักดิ ์
้
อ้างอิงในเนื อหา
(ภูมพ
ิ ลอดุลยเดช, พระบำทสมเด็จพระเจ ้ำอยู่หวั ,
2545, น. 57)
บรรณานุ กรม
ภูมพ
ิ ลอดุลยเดช, พระบำทสมเด็จพระเจ ้ำอยู่หวั .
่
(2545).
เรืองทองแดง.
้ ง.้
กรุงเทพฯ:อมรินทร ์พรินติ
การพิมพ ์บรรณานุ กรม
์ ้
4.6
ผู แ
้ ต่งมีบรรดาศ ักดิ ์ : ให ้ใส่บรรดำศักดิไว
่
่
ด ้ำนหลังชือ และ
ชือสกุ
ล แล ้วใส่เครืองหมำย
“
,”
้
อ้างอิงในเนื อหา
(แม้นมำส ชวลิต, คุณหญิง,
2544, น. 20)
อ้างอิงภาษาอ ังกฤษ (Glasgow, Thomas, Sir,
1947, p. 12)
บรรณานุ กรม
แม้นมำส ชวลิต, คุณหญิง. (2544). ปกิณกะ–ปฏิรป
ู
ห้องสมุด. กรุงเทพฯ: บรรณกิจ.
การพิมพ ์บรรณานุ กรม
่
4.7 ผู แ
้ ต่งเป็ นพระภิกษุสงฆ ์ : ลงตำมนำมทีปรำกฏ
ในหน้ำปกใน หำกมีนำมเดิมให ้ใส่ไว ้ในวงเล็บ เช่น
พระมหำวุฒช
ิ ัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี)
้
การอ้างอิงในเนื อหา
(พระมหำวุฒช
ิ ัย วชิรเมธี, 2548, น.20)
บรรณานุ กรม
พระมหำวุฒช
ิ ัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี). (2548). ธรรมะ
ติดปี ก. กรุงเทพมหำนคร : อมรินทร ์.
การพิมพ ์บรรณานุ กรม
่ แ้ ต่งคนเดียวกัน ลงชือผู
่ แ้ ต่งทุก
4.8 เอกสำรทีผู
รำยกำร เรียงลำดับ
่ มพ ์จำกน้อยไปหำมำก
รำยกำรตำมปี ทีพิ
จิรำภรณ์ คชเสนี . (2537). หลักนิ เวศวิทยำ .
จิรำณรณ์ คชเสนี .
่
(2540). มนุ ษย ์กับสิงแวดล
้อม.
การพิมพ ์บรรณานุ กรม
่ แ้ ต่งคนเดียวกัน ชือเรื
่ องต่
่ ำงกัน พิมพ ์ปี
4.9 เอกสำรทีผู
่
เดียวกัน ให ้เรียงตำมชือเอกสำรตำมล
ำดับอักษร และ
ให ้ใช ้วิธใี ส่อก
ั ษร“ก” “ข” ไว ้ท ้ำยปี
่
จิรำภรณ์ คชเสนี . (2537ก). มนุ ษย ์กับสิงแวดล
้อม.
จิรำณรณ์ คชเสนี . (2537ข).
่
้อม
สิงแวดล
่ องที
่ มี
่ Article เช่น The
* เอกสำรภำษำอังกฤษชือเรื
A นำหน้ำ จะไม่นำมำคิด
Barey,G.O.(1982 a). The global 2000 report
to president.
การพิมพ ์บรรณานุ กรม
่ มพ ์
5. ปี ทีพิ
่ ่ในระหว่ำงรอพิมพ ์ ใส่คำว่ำ “in
5.1 งำนพิมพ ์ทีอยู
press” ไม่ใส่ปี ภำษำไทย (อยู่ในระหว่ำงรอพิมพ ์)
ภำษำต่ำงประเทศ (in press)
่ มพ ์ ใส่อก
่
5.2 ไม่ปรำกฏปี ทีพิ
ั ษรย่อในเครืองหมำย
“(...)” ดังนี ้
่ มพ ์)
ภำษำไทย ม.ป.ป. (ไม่ปรำกฏปี ทีพิ
ภำษำต่ำงประเทศ n.d.
(no date)
่ มพ ์ ใส่เครืองหมำย
่
5.3 ใส่ปีทีพิ
“,” ตำมด ้วย เดือน
่
่
และวันที(หำกมี
) ในเครืองหมำย
“(...)”
เช่น
การพิมพ ์บรรณานุ กรม
่ อง
่ ชือบทควำม
่
่
6.ชือเรื
ชือวำรสำร
่
่
6.1 ชือหนั
งสือ พิมพ ์ตัวเอน ตำมด ้วยเครืองหมำย
“.”
่
6.2 ชือบทควำมพิ
มพ ์ด ้วย ตัวพิมพ ์ธรรมดำ (ไม่
่
ต ้องพิมพ ์ตัวเอน)
ตำมด ้วยเครืองหมำย
“.”
่
่
6.3 ชือวำรสำร
พิมพ ์ตัวเอน ตำมด ้วยเครืองหมำย
“,”
การพิมพ ์บรรณานุ กรม
7. ปี ที่ ฉบับที่ วำรสำร
่ นตัวเอนหลังชือวำรสำร
่
7.1. มีปีที่ ใส่ปีทีเป็
ตำมด ้วย
่
่
ฉบับทีในเครื
องหมำย
“(...)”
่ ดทำ ตำมด ้วย
7.2. ไม่มป
ี ี ที่ ใส่ ปี พ.ศ. ทีจั
่
่ ดทำ เช่น
เครืองหมำย
“,” และเดือนทีจั
มีปีที่
7(5).
ไม่มป
ี ี ที่ (1999, September).
การพิมพ ์บรรณานุ กรม
่ เ้ ขียนบทควำม./(ปี ทีพิ
่ มพ ์,เดือนถ ้ำมี)./ ชือ่
• ชือผู
่
บทควำม./
/ชือวารสาร,/
ปี ท(ฉบั
ี่ บ
่
่
ที),/เลขหน้
ำทีปรำกฏบทควำม.
บรรณำนุ กรรม
ประมูล สัจจิเศษ. (2541). ปัญหำและแนวทำงแก ้ไข
เศรษฐกิจไทย.
สังคมปริศำสตร ์ปริทศั น์,19(2), 34-39.
้
อ ้ำงอิงในเนื อหำ
(ประมูล สัจจิเศษ,2541,น.35)
การพิมพ ์บรรณานุ กรม
้ั พิ
่ มพ ์
8. ครงที
้ั พิ
่ มพ ์ ต่อจำกชือเรื
่ อง
่ ใน
8.1.
พิมพ ์ครงที
่
เครืองหมำย
“(...)”
้ั พิ
่ มพ ์หนังสือ ตังแต่
้ ครงที
้ั ่ 2 เป็ น
8.2.
ใส่ครงที
่
่ อง
่ ตำมด ้วย
ต ้นไป ในเครืองหมำยวงเล็
บต่อจำกชือเรื
่
เครืองหมำยมหั
พภำค “.”
้ั
ไม่ระบุกำรพิมพ ์ครงแรก
้ั ่ 2). (2 ed.).
• เช่น
(พิมพ ์ครงที
(ed มำ
จำก edition )
การพิมพ ์บรรณานุ กรม
่ มพ ์ ถ ้ำไม่ปรำกฏสถำนทีพิ
่ มพ ์
9. สถานทีพิ
กำหนดใช ้ตัวย่อ ดังนี ้
ภำษำไทย
ม.ป.ท. (ไม่ปรำกฏ
่ มพ ์)
สถำนทีพิ
ภำษำต่ำงประเทศ
N.P. (no place)
10. สานักพิมพ ์ / โรงพิมพ ์
10.1. สำนักพิมพ ์
ไม่ต ้องใส่ คำว่ำ สำนักพิมพ ์
สำนักพิมพ ์ไทยวัฒนำพำนิ ช ลงเป็ น ไทยวัฒนำ
พำนิ ช
การพิมพ ์บรรณานุ กรม
่ มพ ์ กำหนดใช ้
10.2 ไม่ทรำบ/ไม่ปรำกฏ สถำนทีพิ
ตัวย่อ ดังนี ้
ภำษำไทย
ม.ป.พ. (ไม่
ปรำกฏสำนักพิมพ ์)
ภำษำต่ำงประเทศ
n.p. (no
publisher)
ส่วนท้ายรายงาน
่
• ภาคผนวก (Appendix)
เป็ นส่วนทีแยก
้ องของรำยงำน
่
่
้
ออกมำจำกเนื อเรื
ทีรวมข
้อมูลเนื อหำ
่
่ อได ้ อำจเป็ น
เพือเสริ
มควำมช ัดเจน มีหลักฐำนเชือถื
รูปภำพ ตำรำง คูม
่ อ
ื ฯลฯ
• วิธก
ี ารพิมพ ์
ให ้พิมพ ์คำว่ำ ภำคผนวก (ถ ้ำมีกำรแยกภำคผนวกไว ้
่ ให ้พิมพ ์ภำคผนวก ก ภำคผนวก ข) ไว ้
หลำยเรือง
่
กึงกลำงหน้
ำกระดำษ
ใบบอกตอน ขนำด
อักษร 20 points ตัวพิมพ ์หนำ และ บรรทัดที่ 2
่
พิมพ ์ชือภำคผนวก
18 points ตัวพิมพ ์หนำ
หน้ำสำคัญ พิมพ ์ภำคผนวก ขนำดอักษร 18 points
การเขียนบรรณานุ กรม : แบบ
APA
่
• หนังสือทัวไป
่ แ้ ต่ง./(ปี ทีพิ
่ มพ ์)./ชือหนั
่
ชือผู
งสือ./สถำนที่
พิมพ ์/:/สำนักพิมพ ์.
• บทความในวารสาร
่ เ้ ขียนบทควำม./(ปี ทีพิ
่ มพ ์,เดือนถ ้ำมี)./ ชือ่
ชือผู
บทควำม./
่
่
/////// /ชือวารสาร,/
ปี ท(ฉบั
ี ่ บที),/เลขหน้
ำที่
ปรำกฏบทควำม.
การเขียนบรรณานุ กรม : แบบ
APA
เอกสารอิเล็กทรอนิ กส ์ :
้
การอ้างอิงในเนื อหา
: (ชวนะ ภวกำนันท ์, 2548)
บรรณานุ กรม
่ เ้ ขียน.(ปี ทีพิ
่ มพ ์). ชือเรื
่ อง
่ . ค ้นเมือ่ วันเดือนปี .จำก
• ชือผู
แหล่งสำรสนเทศ
ชวนะ ภวกานันท ์. (2545).ธุรกิจสปาไทยน่ าก้าว
ไกลไปกว่านี ้
่ 25 ธ ันวาคม 2548 จาก
/////// ค้นเมือ
///////
http://www.businesstgai.co.th/content.
การพิมพ ์บรรณานุ กรม
่ สามารถหาต้นฉบับ
การอ้างอิงจากเอกสารทีไม่
จริงได้ : สำรนิ เทศภำษำไทย ให ้ระบุแหล่งสำรนิ เทศ
ต ้นฉบับก่อน แล ้วตำมด ้วยคำว่ำ “อ ้ำงถึงใน” และ
สำรนิ เทศภำษำอังกฤษ ให ้ระบุวำ่ “ as cited in”
้
การอ้างอิงในเนื อหา
จันทรำ ทองคำเภม (อ ้ำงถึงใน เกษม สนิ ทวงศ ์ ณ
อยุธยำ, 2540)
บรรณานุ กรม
เกษม สนิ ทวงศ ์ ณ อยุธยำ. (2540). สภำวะแวดล ้อมของ
เรำ. กรุงเทพฯ: ฝ่ ำยบริกำรวิชำกำรสถำบันวิจยั
การพิมพ ์บรรณานุ กรม
• วิทยานิ พนธ ์
้
การอ้างอิงในเนื อหา
(สรรพงษ ์ จันทเลิศ, 2546,
น. 20)
บรรณานุ กรม
่
่ มพ ์). ชือเรื
่ อง
่ . ระดับวิทยำนิ พนธ ์,
ชือ่ ชือสกุ
ล.(ปี ทีพิ
่
ชือมหำวิ
ทยำลัย.
• สรรพงษ ์ จันทเลิศ. (2546). กำรสร ้ำงเว็บไซต ์
่
ท่องเทียวของ
จังหวัด เชียงรำย. วิทยำนิ พนธ ์
ปริญญำมหำบัณฑิต, มหำวิทยำลัยเชียงใหม่.
การพิมพ ์บรรณานุ กรม
• รายงานการวิจ ัย
้
• การอ้างอิงในเนื อหา
:
(ฉันทนำ บรรณ, ศิรโิ ชติ หวันแก ้ว, 2535, น. 70)
• บรรณานุ กรม
• ฉันทนำ บรรณ, ศิรโิ ชติ หวันแก ้ว. (2535).
่ บเด็ก
กำรศึกษำสถำนภำพและ นโยบำยเกียวกั
และเยำวชนผูด้ ้อยโอกำส: เด็ก ทำงำน (รำยงำน
ผลกำรวิจยั ). กรุงเทพฯ: สถำบันวิจยั สังคม
จุฬำลงกรณ์มหำวิทยำลัย.
ส่วนท้ายรายงาน
อภิธานศ ัพท ์ (Glossary)
่ เ้ ขียนรำยงำน รวบรวมคำศัพท ์ต่ำง ๆ ที่
• คือ ส่วนทีผู
ปรำกฏในรำยงำน จัดเรียงตำมลำดับอักษรของ
คำศัพท ์ แล ้ว อธิบำยควำมหมำยของคำศัพท ์เอำไว ้
ดรรชนี (Index)
่ ส
่ ำคัญ นำมำเรียงไว ้
• คือบัญชีคำหรือหัวข ้อเรืองที
ตำมลำดับอักษรจำก ก – ฮ หรือ A – Z และ บอก
่
่
่
่ ้
เลขหน้ำทีปรำกฏค
ำหรือเรืองเกี
ยวกั
บคำนั้น ๆ เพือให
่ ต
่ ้องกำรได ้เร็วขึน้
ผูใ้ ช ้สำมำรถค ้นเรืองที
สรุป
่ ้เขียนควรจะเป็ นภำษำทีถู
่ กต ้องตำมหลัก
1. ภำษำทีใช
่ ใช่ภำษำพูด ควร
ไวยำกรณ์ และเป็ นภำษำเขียนทีไม่
มีควำมช ัดเจน ตรงประเด็น
่
สือควำมง่
ำย กำรเขียนต ้องมีควำมสอดคล ้องกัน
้ ต ้นจบจบ
ตังแต่
่
่ ยวกั
่
2. หลีกเลียงกำรเขี
ยนคำสรรพนำมทีเกี
บตัว
ผูเ้ ขียน
่ นอน เช่น กำร
3. มีรป
ู แบบกำรเขียนและกำรพิมพ ์ทีแน่
กำหนดลักษณะ
่
่ วข ้อหลัก
และขนำดตัวอักษร สำหร ับชือบท
ชือหั
หัวข ้อรอง
สรุป
• 4. เขียนตำมข ้อเท็จจริงของหลักวิชำกำรในกำรวิจยั
ไม่เขียนตำม
ควำมคิดของผูจ้ ด
ั ทำ
้
5. เขียนเป็ นขันตอน
มีเหตุผล
่ น
่ ข ้อมูลอืน
่ ต ้องกระทำตำม
6. กำรอ ้ำงอิงถึงสิงอื
หลักกำรนั่นคือ ต ้องมี
่
่ อถื
่ อได ้ และ
หลักฐำนเอกสำรอ ้ำงอิงถึงแหล่งทีมำซึ
งเชื
ใช ้รูปแบบ
่
่ นทียอมร
ับได ้
กำรอ ้ำงอิงซึงเป็
7. กำรเขียนอธิบำยโดยใช ้ตำรำง แผนภูมิ แผนภำพ