เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อกา

Download Report

Transcript เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อกา

่
เทคโนโลยีสารสนเทศเพือ
การศึกษาค้นคว้า
่
บทที่ 2 ความรู ้เกียวกับ
คอมพิวเตอร ์
อาจารย ์หลักสู ตรสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร ์และ
สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ
Outline
1.ความหมายของคอมพิวเตอร ์
2.คุณสมบัตข
ิ องคอมพิวเตอร ์
3.ประเภทของคอมพิวเตอร ์
4.โครงสร ้างคอมพิวเตอร ์
5.ปั จจัยร่วมในการใช้งานระบบคอมพิวเตอร ์
6.ความหมายของซอฟต ์แวร ์
7.บุคลากรคอมพิวเตอร ์
2
ความหมายของคอมพิวเตอร ์
• คอมพิวเตอร ์ (Computer) หมายถึง
่ ออุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิ กส ์ ทาหน้าทีร่ ับ
เครืองมื
ข ้อมูล จัดเก็บ และประมวลผลข ้อมูลสารสนเทศ
ต่างๆ
3
คุณสมบัตข
ิ องคอมพิวเตอร ์
คอมพิวเตอร ์มีคณ
ุ สมบัตท
ิ ส
ี่ าคัญ 5 ประการดังนี ้
1.การทางานด้วยระบบอิเล็กทรอนิ กส ์ (Electronic
Machine)
่ นทึกผ่านทางแป้ นพิมพ ์หรือ
การจัดเก็บข ้อมูลทีบั
้ กแปลงให ้เป็ นสัญญาณไฟฟ้ า
อุปกรณ์อน
ื่ ๆ ข ้อมูลเหล่านี จะถู
่ ้คอมพิวเตอร ์เข ้าใจคาสัง่ และเมือคอมพิ
่
เพือให
วเตอร ์
ประมวลผลเรียบร ้อยแล ้ว สัญญาณไฟฟ้ าจะถูกแปลงให ้เป็ น
่ ษย ์สามารถเข ้าใจได ้
อักขระทีมนุ
2. การทางานด้วยความเร็วสู ง (Speed)
เนื่ องจากการทางานของคอมพิวเตอร ์เป็ นระบบ
อิเล็กทรอนิ กส ์ ดังนั้นการดาเนิ นงานต่าง ๆ จึงสามารถ
4
คุณสมบัตข
ิ องคอมพิวเตอร ์ (ต่อ)
่ อได้ (Accuracy and
3.ความถู กต้องแม่นยาเชือถื
Reliability)
่ มนุ
่ ษย ์เขียน
คอมพิวเตอร ์จะทางานตามคาสังที
่ ้ ถ ้าผูใ้ ช ้ป้ อนข ้อมูลและชุดคาสัง่
โปรแกรมหรือคาสังไว
่ ้จากการประมวลผลก็จะมีความถูก
ถูกต ้อง ผลลัพธ ์ทีได
่ อได ้เสมอ ความถูกต ้องของผลลัพธ ์ทีได
่ ้จากการ
ต ้องเชือถื
้
ประมวลผลด ้วยคอมพิวเตอร ์จะขึนอยู
ก
่ บ
ั ความถูกต ้องของ
การนาข ้อมูลเข ้า
4.การเก็บข้อมู ลได้ในปริมาณมาก (Storage)
่ าหน้าทีเก็
่ บข ้อมูล
คอมพิวเตอร ์มีหน่ วยความจาทีท
่ นทึกเข ้าไป ความสามารถในการจัดเก็บข ้อมูลนี จะ
้
ทีบั
้
่
ขึนอยู
ก
่ บ
ั ขนาดของคอมพิวเตอร ์ เช่น เครือง
5
่
คุณสมบัตข
ิ องคอมพิวเตอร ์ (ต่อ)
่
่
5.การสือสารเชื
อมโยงข้
อมู ล (Communication)
่
คอมพิวเตอร ์สามารถติดต่อกับเครืองคอมพิ
วเตอร ์
่ น
่ ๆ และสามารถทางานทีหลากหลายมากขึ
่
้
เครืองอื
นกว่
า
่ ตัวอย่างเช่น การนา
การใช ้คอมพิวเตอร ์แบบระบบเดียว
่
่
คอมพิวเตอร ์เชือมต่
อระบบอินเทอร ์เน็ ตเพือการสื
บค ้น
่
่ (Remote computer)
ข ้อมูลจากเครืองคอมพิ
วเตอร ์อืน
6
ประเภทของคอมพิวเตอร ์
จาแนกออกได ้เป็ น 7 ชนิ ด โดยพิจารณาจากความ
่
แตกต่างของขนาดเครือง
และ ความเร็วในการประมวลผล เป็ นหลัก ดังนี ้
1. ซุปเปอร ์คอมพิวเตอร ์ (Supercomputer)
2. คอมพิวเตอร ์เมนเฟรม (Mainframe Computer)
3. มินิคอมพิวเตอร ์ หรือ คอมพิวเตอร ์ขนาดกลาง
(Minicomputer)
้ ะ (Desktop Computer)
4. คอมพิวเตอร ์ตังโต๊
5. คอมพิวเตอร ์โน้ตบุค
๊ (Notebook Computer)
6. คอมพิวเตอร ์พกพาขนาดเล็ก (Hand-held
personal computer หรือ Palmtop computer)
7. คอมพิวเตอร ์แบบฝัง (Embedded Computer)
7
ประเภทของคอมพิวเตอร ์ (ต่อ)
1. ซุปเปอร ์คอมพิวเตอร ์ (Supercomputer) มี
ประสิทธิภาพสูงสุด
ตัวอย่างการใช ้งานคอมพิวเตอร ์ประเภทนี ้ เช่น การ
่ การ
่ ๆ ทีมี
พยากรณ์อากาศ การทดสอบทางอวกาศ และงานอืน
่ บั ซ ้อน งานออกแบบชินส่
้ วนรถยนต ์ งานวิเคราะห ์
คานวณทีซ
สินค ้าคงคลัง หรือแมแ้ ต่การออกแบบงานด ้านศิลปะ
่ การใช ้ซูเปอร ์คอมพิวเตอร ์ ได ้แก่ องค ์การนา
หน่ วยงานทีมี
ซา (NASA) และหน่ วยงานธุรกิจขนาดใหญ่ เช่น บริษท
ั General
Motors และ AT&T เป็ นต ้น
8
ประเภทของคอมพิวเตอร ์ (ต่อ)
่
วเตอร ์ขนาด
2. Mainframe Computer เครืองคอมพิ
ใหญ่
นิ ยมใช ้กับองค ์กรขนาดใหญ่ทมี
ี่ การเข ้าถึงข ้อมูลของ
ผูใ้ ช ้จานวนมากในเวลาเดียวกัน (Multiple users) เช่น งาน
่ น การลงทะเบียนและการตรวจสอบ
ธนาคาร การจองตั๋วเครืองบิ
ผลการเรียนของนักศึกษา บริษท
ั ประกัน เป็ นต ้น
9
ประเภทของคอมพิวเตอร ์ (ต่อ)
่
วเตอร ์ขนาดกลาง
3. Mini Computer เครืองคอมพิ
ใช ้สาหร ับทางานเฉพาะอย่าง เช่น การคานวณ
ทางด ้านวิศวกรรม ใช ้ในธุรกิจขนาดกลางและองค ์กรหลาย
้
ประเภท รวมทังสถาบั
นการศึกษา เช่น การจองห ้องพักของ
โรงแรม การทางานด ้านบัญชีขององค ์การธุรกิจ เป็ นต ้น
10
ประเภทของคอมพิวเตอร ์ (ต่อ)
้ ะ (Desktop Computer)
4. คอมพิวเตอร ์ตังโต๊
เป็ นคอมพิวเตอร ์ส่วนบุคคล (Personal computer
่ ขนาดเล็กเหมาะกับโต๊ะทางานในสานักงาน
หรือ PC) ทีมี
่ ้าน รูปทรงของตัวเครืองคอมพิ
่
สถานศึกษา และทีบ
วเตอร ์จะมีทง้ั
้ เรี
่ ยกว่า ทาวเวอร ์ (Tower) เพือ
่
แบบวางนอน และแบบแนวตังที
้ ในการวางทั
่
้
่ น้
ประหยัดเนื อที
งบนโต๊
ะและทีพื
11
ประเภทของคอมพิวเตอร ์ (ต่อ)
5. คอมพิวเตอร ์โน้ตบุค
๊ (Notebook Computer) หรือ
แล็ปทอปคอมพิวเตอร ์ (Laptop computer)
แท็บเล็ตพีซ ี
่ ขนาดเล็ก บาง และนาหนั
้
เป็ นคอมพิวเตอร ์ส่วนบุคคลทีมี
ก
่ าง ๆ จึงทาให ้เป็ นทีนิ
่ ยม
เบา เหมาะแก่การพกพาไปใช ้ในสถานทีต่
้ กธุรกิจทีต
่ ้องเดินทางเป็ นประจาและ
ใช ้กันอย่างแพร่หลาย ทังนั
่ างานนอกสถานที่
บุคคลทีท
12
ประเภทของคอมพิวเตอร ์ (ต่อ)
6. คอมพิวเตอร ์พกพาขนาดเล็ก (Hand-held
personal computer หรือ Palmtop computer)
่ อมาจากคา
่
อุปกรณ์ทเรี
ี่ ยกกันทัวไปว่
า พีดเี อ (PDA) ซึงย่
่ นอุปกรณ์ทสามารถ
ว่า Personal Digital Assistant ซึงเป็
ี่
่ ดเลข
จัดการข ้อมูลส่วนบุคคล จดบันทึก ปฏิทน
ิ นัดหมาย เครืองคิ
ตลอดจนการใช ้งานอินเทอร ์เน็ ต
13
ประเภทของคอมพิวเตอร ์ (ต่อ)
7. คอมพิวเตอร ์แบบฝั ง (Embedded Computer)
่ งในอุปกรณ์ตา่ ง ๆ นิ ยมนามาใช ้
เป็ นคอมพิวเตอร ์ทีฝั
ทางานเฉพาะด ้าน พิจารณาจากภายนอกจะไม่เห็นว่าเป็ น
่
คอมพิวเตอร ์ แต่จะทาหน้าทีควบคุ
มการทางานบางอย่างของ
่
อุปกรณ์น้ัน ๆ คอมพิวเตอร ์ประเภทนี ้ เช่น เครืองเล่
นเกมส ์ ระบบ
้ นอัตโนมัต ิ โทรศัพท ์มือถือ และเพจเจอร ์ เป็ นต ้น
เติมนามั
14
โครงสร ้างคอมพิวเตอร ์
มี 3 องค ์ประกอบหลัก คือ หน่ วยประมวลผลกลาง
หน่ วยความจาหลัก และอินพุต/เอาต ์พุต
Central
Processing Unit
Input
Unit
15
(CPU)
Control Unit
Arithmetic
Logical
Unit:ALU
Register
Memory
Unit
Output
Unit
โครงสร ้างคอมพิวเตอร ์ (ต่อ)
1. หน่ วยประมวลผลกลาง (Central
Processing Unit : CPU)
่ าหน้าทีควบคุ
่
ซีพย
ี ู หรือโปรเซสเซอร ์เป็ นหน่ วยทีท
มการ
ปฏิบต
ั งิ านของคอมพิวเตอร ์และประมวลผลข ้อมูล ประกอบด ้วย
ส่วนประกอบสาคัญอยู่ 3 ส่วน คือ
่
1.1 หน่ วยควบคุม(Control Unit) : ทาหน้าทีควบคุ
ม
การทางานต่างๆ ของหน่ วยประมวลผล
1.2 หน่ วยคานวณและตรรกะ(Arithmetic and
Logic Unit : ALU) :
่
ทาหน้าทีในการค
านวณ การเปรียบเทียบ และปฏิบต
ั ก
ิ ารทาง
ตรรกะ
16
โครงสร ้างคอมพิวเตอร ์ (ต่อ)
1. หน่ วยประมวลผลกลาง (Central
Processing Unit : CPU)
่
่
ความเร็วซีพย
ี ข
ู องเครืองคอมพิ
วเตอร ์แต่ละบุคคลโดยทัวไป
จะวัดเป็ นเมกะเฮิรตซ ์ (Megahertz : MHz หรือ Millions of
clock cycles) และกิกะเฮิรตซ ์ (Gigahertz : GHz หรือ
่ นความสามารถในการ
Billions of clock cycles) ซึงเป็
่ าทาได ้กีคร
่ งในรอบสั
้ั
ิ าหนึ่ งวินาที
ประมวลผลคาสังว่
ญญาณนาฬก
เช่น ซีพย
ี ท
ู มี
ี่ ความเร็ว 933 MHz จะหมายถึง ซีพย
ี ท
ู สามารถ
ี่
้ั
่ งวินาที และซีพย
ประมวลได ้ 933 ล ้านครงในหนึ
ี ท
ู มี
ี่ ความเร็ว 1.7
่ ้ 1,700 พันล ้านครงในหนึ
้ั
่ งวินาที
GHz จะสามารถประมวลคาสังได
17
โครงสร ้างคอมพิวเตอร ์ (ต่อ)
1. หน่ วยประมวลผลกลาง (Central
Processing Unit : CPU)
โปรเซสเซอร ์รุน
่ ก่อน
เพนเทียม
โปรเซสเซอร ์อินเทลแบบมัล
ติคอร ์
18
โปรเซสเซอร ์เพ
นเทียมรุน
่ คลาสสิก
โปรเซสเซอร ์เพ
นเทียมโพร ์
โปรเซสเซอร ์รุน
่ ต่างๆของบริษท
ั อินเทล
โครงสร ้างคอมพิวเตอร ์ (ต่อ)
1. หน่ วยประมวลผลกลาง (Central
Processing Unit : CPU)
่ นผูน้ าด ้านโปรเซสเซอร ์แล ้ว ก็ยงั
นอกจากบริษท
ั อินเทลทีเป็
มีคแู่ ข่งสาคัญคือบริษท
ั เอเอ็มดี (Advanced Micro Devices
: AMD) ส่วนชิปของโมโตโรลา (Motorola) มักออกแบบ
่ ้งานกับเครืองแอปเปิ
่
่ ้
เพือใช
ลคอมพิวเตอร ์ และรวมถึงชิปทีใช
่ ้งานกับเครืองเวิ
่
่
สถาปัตยกรรมแบบอาร ์ไอเอสซี ทีใช
ร ์กสเตชัน
ทีร่ ันบนระบบปฏิบต
ั ก
ิ ารยูนิกซ ์ (Unix)
19
เอเอ็มดีโปรเซสเซอร ์และโมโตโรลาเพาเวอร ์พีซโี ปร
โครงสร ้างคอมพิวเตอร ์ (ต่อ)
2. หน่ วยความจาหลัก (Main Memory)
่ ้บันทึกโปรแกรมและข ้อมูล
เป็ นวงจรรวมหรือชิปทีใช
หน่ วยความจาหลักจะบรรจุอยูใ่ นเมนบอร ์ดหรือแผงวงจรหลัก
หน่ วยความจาบางประเภทก็ถก
ู ออกแบบให ้อยู่ในชิปซีพย
ี เู ลย
หน่ วยความจุของข ้อมูลในหน่ วยความจาสรุปได ้ดังนี ้
8 Bits
= 1 Byte
1024 Bytes
= 1 Kilobyte (KB)
หรือ 210 Bytes
1024 KB
= 1 Megabyte
(MB) หรือ 220 Bytes
1024 MB
= 1 Gigabyte
(GB) หรือ 230 Bytes
1024 GB
= 1 Terabyte (TB)
20
โครงสร ้างคอมพิวเตอร ์ (ต่อ)
2. หน่ วยความจาหลัก (Main Memory)
หน่ วยความจาหลักมี 3 ประเภท คือ
2.1 แรม (RAM : Random Access Memory)
่
่ กเก็บใน
หน่ วยความจาชัวคราว
เนื่ องจากโปรแกรมและข ้อมูลทีถู
่ ดเครืองคอมพิ
่
หน่ วยความจาแรมจะถูกลบหายไปเมือปิ
วเตอร ์
แรมมี 2 ประเภท คือ
่ ยม
- สแตติกแรม (Static RAM : SRAM) เป็ นความจาทีนิ
ใช ้เป็ นหน่ วยความจาแคช
่ วยเพิมความเร็
่
(หน่ วยจาแคชคือหน่ วยความจาแรมทีช่
วให ้กับอุปกรณ์
่
คอมพิวเตอร ์ เช่น เครืองพิ
มพ)์
21
- ไดนามิกแรม (Dynamic RAM : DRAM)
่ ามาใช ้งานกันในปัจจุบน
หน่ วยความจาทีน
ั ส่วนใหญ่ เพราะมี
โครงสร ้างคอมพิวเตอร ์ (ต่อ)
2. หน่ วยความจาหลัก (Main Memory)
RAM
22
โครงสร ้างคอมพิวเตอร ์ (ต่อ)
2. หน่ วยความจาหลัก (Main Memory)
2.2 รอม (ROM : Read Only Memory) เป็ น
่ นทึกข ้อมูลคาสังเริ
่ มต
่ ้นของระบบ คุณสมบัติ
หน่ วยความจาทีบั
่ ด
่
ถก
ู ลบหายไป เมือปิ
เด่นของรอมคือ ข ้อมูลและคาสังจะไม่
่
เครืองคอมพิ
วเตอร ์
23
โครงสร ้างคอมพิวเตอร ์ (ต่อ)
2. หน่ วยความจาหลัก (Main Memory)
2.3 หน่ วยความจาซีมอส (CMOS :
Complementary Metal-oxide Semiconductor)
่ ้เป็ นประจา
่ ้เก็บข ้อมูลและสารสนเทศทีใช
เป็ นหน่ วยความจาทีใช
ของระบบคอมพิวเตอร ์ เช่น ประเภทของแป้ นพิมพ ์ เมาส ์
่ านแผ่นดิสก ์ ซีมอสใช ้กระแสไฟจาก
จอภาพ และเครืองอ่
่ ดเครืองคอมพิ
่
แบตเตอรี่ ดังนั้นเมือปิ
วเตอร ์ ข ้อมูลและ
่ นทึกไว ้ในซีมลัอสจึ
กษณะเด่
สารสนเทศทีบั
งไม่สญ
ู นของซี
หาย มอส คือ
24
CMOS
่ นทึกใน
ข้อมู ลและสารสนเทศทีบั
่
ซีมอสสามารถเปลียนแปลงได้
่ การเปลียนแปลงอุ
่
เมือมี
ปกรณ์
่
ให้ก ับเครืองคอมพิ
วเตอร ์
่
เช่น การเพิมแรม
และฮาร ์ดแวร ์
โครงสร ้างคอมพิวเตอร ์ (ต่อ)
2. หน่ วยความจาหลัก (Main Memory)
นอกจากหน่ วยความจาทัง้ 3 ประเภทแล ้ว ยังมีการใช ้
่ นหน่ วยความจาทีข
่ ้อมูลและคาสังไม่
่
หน่ วยความจาแฟลช ซึงเป็
่
่ ดเก็บ
วเตอร ์ ข ้อมูลทีจั
ถูกลบหายไป ถึงแม้วา่ จะปิ ดเครืองคอมพิ
ในหน่ วยความจาแฟลชสามารถนามาแก ้ไขและบันทึกใหม่ได ้
่ วยความจาประเภทนี นิ
้ ยมมาใช ้กับอุปกรณ์พกพา
ซึงหน่
25
หน่ วยความจาแฟลชแบบต่างๆ
โครงสร ้างคอมพิวเตอร ์ (ต่อ)
3. อินพุต/เอาต ์พุต (Input/Output : I/O)
่ ้สาหร ับเคลือนย
่
เป็ นส่วนทีใช
้ายข ้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร ์
้
กับอุปกรณ์ ทังภายในและภายนอก
26
ปั จจัยร่วมในการใช้งานระบบ
คอมพิวเตอร ์
ปัจจัยร่วมในการใช ้งานระบบคอมพิวเตอร ์นั้น ประกอบไป
ด ้วยอุปกรณ์คอมพิวเตอร ์ (Hardware) ซอฟต ์แวร ์
(Software) และบุคลากรทางคอมพิวเตอร ์ (People ware)
27
ความหมายของซอฟต ์แวร ์
่ ยนขึนมา
่ อโปรแกรมทีเขี
้
ซอฟต ์แวร ์ หมายถึง ชุดคาสังหรื
้
่ งให
่ ้คอมพิวเตอร ์ทางานใด ๆ
อย่างเป็ นลาดับขันตอน
เพือสั
่ ้องการได ้ แบ่งออกเป็ น 2 ประเภท ดังรูป
ตามทีต
ซอฟต ์แวร ์
คอมพิวเตอร ์
28
1.ซอฟต ์แวร ์ระบบ
(System
Software)
1.1 โปรแกรม
ระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร
(Operating
1.2 โปรแกรม
System)
อรรถประโยชน์
(Utility Program)
1.3 ตัวแปลภาษา
(Language
Translator)
2.ซอฟต ์แวร ์
ประยุกต ์
(Application
Software)
2.1 ซอฟต ์แวร ์สาเร็จรูป
(Packaged Software)
่ ้งาน
2.2 ซอฟต ์แวร ์เพือใช
เฉพาะด ้าน
(Application Specific
Software)
ความหมายของซอฟต ์แวร ์ (ต่อ)
1. ซอฟต ์แวร ์ระบบ (System Software) แบ่งออกเป็ น 3
ประเภท ได ้แก่
1.1 โปรแกรมระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร จาแนกตามวัตถุประสงค ์การใช ้
งาน ดังนี ้
1.1.1 ระบบปฏิบต
ั ก
ิ ารสาหร ับการใช ้งานคอมพิวเตอร ์แบบที่
่
่ น
่ (Stand alone)
ทางานโดยไม่มก
ี ารเชือมต่
อกับคอมพิวเตอร ์เครืองอื
เช่น DOS, Windows 3.X, Windows 95, Windows NT
Workstation, Windows 98, Windows 2000 Professional,
Windows XP Professional Edition, Mac OSX, UNIX, Linux
1.1.2 ระบบปฏิบต
ั ก
ิ ารสาหร ับการใช ้งานคอมพิวเตอร ์แบบ
เครือข่าย (Network) ได ้แก่ NetWare, Windows NT Server,
Windows .NET Server, OS/2 Warp Server for E-business,
29
UNIX, Linux, Solaris
1.1.3 ระบบปฏิบต
ั ก
ิ ารสาหร ับการใช ้งานคอมพิวเตอร ์แบบฝัง
ความหมายของซอฟต ์แวร ์ (ต่อ)
1. ซอฟต ์แวร ์ระบบ (System Software) แบ่งออกเป็ น 3
ประเภท ได ้แก่
1.2 โปรแกรมอรรถประโยชน์ (Utility Program) เป็ น
่ วยสนับสนุ น เพิม
่ หรือขยายขีดความสามารถ
โปรแกรมหรือซอฟต ์แวร ์ทีช่
่ ้อยู่แล ้วให ้มีประสิทธิภาพมากขึน้
ของโปรแกรมทีใช
โปรแกรมสแกนไวร ัส Norton
Antivirus 2006
30
โปรแกรมกาจัดสบาย
แวร ์ Spybot
ความหมายของซอฟต ์แวร ์ (ต่อ)
1. ซอฟต ์แวร ์ระบบ (System Software) แบ่งออกเป็ น 3
ประเภท ได ้แก่
1.3 ต ัวแปลภาษา (Language Translator)เป็ นโปรแกรมที่
้
่
เขียนขึนมาใช
้แปลความหมายของคาสังในภาษาระดั
บสูงชนิ ดต่าง ๆ ให ้
่ แบ่งออกเป็ น 3 ชนิ ด ได ้แก่
เป็ นภาษาเครือง
่ ละ 1
1.3.1 อินเตอร ์พรีเตอร ์ (Interpreter) จะแปลคาสังที
่ ้
บรรทัด หากพบข ้อผิดพลาดจะหยุดการทางานทันที ตัวอย่างภาษาทีใช
อินเตอร ์พรีเตอร ์เป็ นตัวแปลภาษา เช่น
ภาษาเบสิก (BASIC)
่ งหมด
้
1.3.2 คอมไพเลอร ์ (Compiler) จะแปลคาสังทั
หาก
่ ้คอมไพเลอร ์เร็วกว่า
พบข ้อผิดพลาดจะไม่หยุดการทางาน โปรแกรมทีใช
่ ้อินเตอร ์พรีเตอร ์
โปรแกรมทีใช
1.3.3 แอสเซมเบลอ (Assembler) เป็ นตัวแปล
่ นภาษาระดับต่าให ้เป็ นภาษาเครือง
่
ภาษาแอสเซมบลี (Assembly) ซึงเป็
31
ความหมายของซอฟต ์แวร ์ (ต่อ)
2. ซอฟต ์แวร ์ประยุกต ์ (Application Software) แบ่ง
ออกเป็ น 2 ประเภท ได ้แก่
2.1 ซอฟต ์แวร ์สาเร็จรู ป (Packaged Software) แบ่งได ้เป็ น
กลุม
่ ได ้ ดังนี ้
2.1.1 ซอฟต ์แวร ์ประมวลผลคา (Word Processing
Software) เช่น Microsoft Word
2.1.2 ซอฟต ์แวร ์กระดาษคานวณ (Spreadsheet Software)
เช่น Microsoft Excel
2.1.3 ซอฟต ์แวร ์จัดการฐานข ้อมูล (Data Management
Software) เช่น Microsoft Access, MySQL
2.1.4 ซอฟต ์แวร ์นาเสนอข ้อมูล (Presentation Software)
เช่น Microsoft PowerPoint
2.1.5 ซอฟต ์แวร ์ด ้านงานพิมพ ์ (Desktop Publishing) เช่น
32
Microsoft Publisher
2.1.6 ซอฟต ์แวร ์ด ้านกราฟิ ก
(Graphics Software) เช่น Adobe Photoshop, AutoCAD
ความหมายของซอฟต ์แวร ์ (ต่อ)
2. ซอฟต ์แวร ์ประยุกต ์ (Application Software) แบ่ง
ออกเป็ น 2 ประเภท ได ้แก่
2.1 ซอฟต ์แวร ์สาเร็จรู ป (Packaged Software)
Microsoft
Excel
Microsoft
Word
33
MySQ
L
Microsoft
Adobe
Photoshop
ความหมายของซอฟต ์แวร ์ (ต่อ)
2. ซอฟต ์แวร ์ประยุกต ์ (Application Software) แบ่ง
ออกเป็ น 2 ประเภท ได ้แก่
่
2.2 ซอฟต ์แวร ์เพือใช้
งานเฉพาะด้าน (Application
่
specific Software) เป็ นซอฟต ์แวร ์ประยุกต ์ทีจะต
้องมีการรวบรวม
่
ความต ้องการของผูใ้ ช ้ ก่อนทีโปรแกรมเมอร
์จะเขียนโปรแกรม
้
่
ขึนมาเป็
นซอฟต ์แวร ์ทีสามารถท
างานได ้ตามความต ้องการนั้น เช่น
ระบบงานบัญชี ระบบงานคลังสินค ้า ระบบงานขาย ระบบงานห ้องสมุด
34
โปรแกรมระบบบัญชี
โปรแกรมระบบคลังสินค้า
บุคลากรคอมพิวเตอร ์
่
้องกับการใช ้งานการดูแล และควบคุมระบบ
ผูท้ เกี
ี่ ยวข
คอมพิวเตอร ์อาจเป็ นบุคคลเดียวหรือกลุม
่ บุคคลตามการ
จัดแบ่งโครงสร ้างขององค ์กร บุคลากรในระบบงานคอมพิวเตอร ์
ผู ใ้ ช้งาน
คอมพิวเตอร ์
(User)
35
ผู ด
้ ู แลและซ่อมบารุง
่
เครืองคอมพิ
วเตอร ์
(Technician)
นักวิเคราะห ์และออกแบบระบบ
(System Analyst)
โปรแกรมเมอร ์ (Program
ผู บ
้ ริหารระบบ
(System Administrator)
สรุป
่ างาน
• คอมพิวเตอร ์ หมายถึง อุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิ กส ์ทีท
ภายใต ้การควบคุมของ
่ อยู
่ ใ่ นหน่ วยความจาของคอมพิวเตอร ์เองซึงผู
่ ใ้ ช ้
ชุดคาสังที
่ าการคานวณ
สามารถป้ อนข ้อมูล เข ้าสูห
่ น่ วยประมวลผลเพือท
และแสดงผลลัพธ ์ออกทางอุปกรณ์แสดงผล จะเรียกผลลัพธ ์นี ้
ว่า สารสนเทศ
• ลักษณะสาคัญของคอมพิวเตอร ์ ได ้แก่ ทางานด ้วย
ระบบอิเล็กทรอนิ กส ์ ทางาน
่ อได ้ จัดเก็บข ้อมูล
ด ้วยความเร็วสูง มีความถูกต ้องแม่นยาเชือถื
่
ได ้จานวนมาก ติดต่อสือสารระหว่
างกันได ้
้
• คอมพิวเตอร ์สามารถจาแนกได้ 7 ประเภท ขึนอยู
ก
่ บั
ความแตกต่างของขนาด
่
้
36
สรุป (ต่อ)
• ส่วนประกอบของระบบคอมพิวเตอร ์ แบ่งออกเป็ น 3
ส่วน ได ้แก่
หน่ วยร ับข ้อมูล/หน่ วยแสดงผล, หน่ วยประมวลผลกลาง และ
หน่ วยความจา
• คอมพิวเตอร ์จะร ับข ้อมูลผ่านหน่ วยร ับข ้อมูล แล ้วนามา
่ วยความจาก่อน
จัดเก็บทีหน่
่
จากนั้นหน่ วยประมวลผลกลางจะคัดลอกข ้อมูลหรือคาสังจาก
่ าไปประมวลผล แล ้วส่งผลลัพธ ์กลับมา
หน่ วยความจา เพือน
่ วยความจาอีกครงเพื
้ั อรอค
่
่ ้แสดงผลทาง
จัดเก็บทีหน่
าสังให
หน่ วยแสดงผลต่อไป
่ าให ้คอมพิวเตอร ์สามารถทางานได ้อย่างสมบูรณ์
• ปั จจัยทีท
ประกอบไปด ้วย อุปกรณ์
37
แบบฝึ กหัดท้ายบทเรียนบท
ที่ 2
1. คอมพิวเตอร ์คืออะไร
………………………………………………………………................
...........................................................
2. จงบอกคุณสมบัตท
ิ ส
ี่ าคญ
ั ของคอมพิวเตอร ์ 5 ข้อ
………………………………………………………………................
...........................................................
………………………………………………………………................
...........................................................
………………………………………………………………................
...........................................................
………………………………………………………………................
...........................................................
38
3. จงบอกลักษณะของคอมพิวเตอร ์ต่อไปนี ้
3.1 ซูเปอร ์คอมพิวเตอร ์
แบบฝึ กหัดท้ายบทเรียนบท
ที่ 2
3.3 มินิคอมพิวเตอร ์
…………………………………………………….........................
..................................................
้ั ะ
3.4 คอมพิวเตอร ์ตงโต๊
…………………………………………………….........................
..................................................
3.5 คอมพิวเตอร ์แบบฝั ง
…………………………………………………….........................
..................................................
่
่ าคญ
4. จงบอกหน้าทีของส่
วนประกอบทีส
ั คอมพิวเตอร ์ต่อไปนี ้
4.1 หน่ วยประมวลผลกลาง
39
………………………………………………………………............
...............................................................
แบบฝึ กหัดท้ายบทเรียนบท
ที่ 2
4.3 หน่ วยแสดงผล
……….………………………………………………………………
…..............................................................
4.4 หน่ วยความจา
…..……………………………………………………………………
….............................................................
่
5. บุคลากรคอมพิวเตอร ์คือใคร และทาหน้าทีอะไรบ้
าง
.............................................................................................
.............................................................................................
.............................................................................................
40
.............................................................................................
.............................................................................................