1 คะแนน 2. แบบเลือกหลายคำตอบ

Download Report

Transcript 1 คะแนน 2. แบบเลือกหลายคำตอบ

หน่วยที่ 4
ั้ ยน
การออกแบบการว ัดและประเมินผลในชนเรี
เพือ
่ วินจ
ิ ฉ ัยผูเ้ รียน
สำนักทดสอบทำง
กำรศึ กษำ สพฐ.
1
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ในชัน้ เรียน
(Classroom Assessment)
เป็ นกระบวนการเก็บรวบรวม วิเคราะห์ ตีความ บันทึกข้ อมูลที่ได้ จากการวัดและ
ประเมินทังที
้ ่เป็ นทางการและไม่เป็ นทางการโดยการดาเนินการดังกล่าวเกิดขึน้ ตลอด
ระยะเวลาของการจัดการเรี ยนการสอน นับตังแต่
้ ก่อนการเรี ยนการสอน ระหว่างการเรี ยน
การสอน และหลังการเรี ยนการสอน โดยใช้ เครื่ องมือที่หลากหลาย เหมาะสมกับวัยของ
ผู้เรี ยน มีความสอดคล้ องและเหมาะสมกับพฤติกรรมที่ต้องการวัด นาผลที่ได้ มา
เปรี ยบเทียบกับเกณฑ์ที่กาหนดในตัวชี ้วัดของมาตรฐานการเรี ยนรู้ของหลักสูตร ข้ อมูลที่ได้
นี ้นาไปใช้ ในการให้ ข้อมูลย้ อนกลับเกี่ยวกับความก้ าวหน้ า จุดเด่น จุดที่ต้องปรับปรุง
ให้ แก่ผ้ เู รี ยน การตัดสินผลการเรี ยนรู้รวบยอดในเรื่ อง หรื อหน่วยการเรี ยนรู้ หรื อในรายวิชา
ทบทวนโครงสร้ างรายวิชา
โครงสร้ างรายวิชา
โครงสร้ างรายวิชาเป็ นการกาหนดขอบข่ายของรายวิชาเพื่อให้ เห็นภาพรวมของแต่ละ
รายวิชาว่าประกอบด้ วยหน่วยการเรี ยนรู้จานวนเท่าใด มีสาระสาคัญอย่างไรบ้ าง แต่ละหน่วยจะ
พัฒนาผู้เรี ยนให้ บรรลุตวั ชี ้วัดใด ใช้ เวลาเท่าไร และมีสดั ส่วนการเก็บคะแนนระหว่างเรี ยนของ
รายวิชานันอย่
้ างไร
แนวการจัดทาโครงสร้ างรายวิชา
ควรจัดทาตามลาดับดังนี ้
1) ศึกษาโครงสร้ างเวลา
เรี ยนของหลักสูตร
สถานศึกษาในแต่ละกลุ่ม
สาระการเรี ยนรู้ หรื อ
รายวิชา และศึกษา
คาอธิบายรายวิชา
2) ศึกษามาตรฐานการ
เรี ยนรู้/ตัวชี ้วัดในกลุ่มสาระ
การเรี ยนรู้/รายวิชาที่
รับผิดชอบ
3) จัดกลุม่ มาตรฐานการเรี ยนรู้/
ตัวชี ้วัดที่สอดคล้ องกัน และ
สามารถนามาจัดกิจกรรมการ
เรี ยนรู้ร่วมกันได้ นามาจัดไว้
รวมกันเป็ นหน่วยการเรี ยนรู้ให้
เหมาะสมตามสาระการเรี ยนรู้
4) กาหนดเวลาเรี ยนในแต่ละ
หน่วยการเรี ยนรู้ให้ ครบทุก
หน่วยการเรี ยนรู้ซงึ่ เวลาเรี ยน
รวมแล้ วต้ องเท่ากับจานวนเวลา
ที่กาหนดไว้ ในโครงสร้ างเวลา
เรี ยนตามหลักสูตรของกลุม่
สาระการเรี ยนรู้นนั ้
5) กาหนดน ้าหนักคะแนนในแต่
ละหน่วยการเรี ยนรู้ โดย
พิจารณาจากจานวนตัวชี ้วัด
แล้ วกาหนดน ้าหนักคะแนน
ประจาหน่วยการเรี ยนรู้ให้ ครบ
ทุกหน่วยการเรี ยนรู้ คะแนนแต่
ละหน่วยการเรี ยนรู้ถือเป็ น
คะแนนระหว่างเรี ยนให้ นาไป
รวมกับคะแนนปลายปี /ปลาย
ภาค รวมเป็ น ๑๐๐ คะแนน
โดยมีแนวทางกาหนดสัดส่วน
คะแนนระหว่างเรี ยนกับคะแนน
ปลายปี /ปลายภาค เช่น ๖๐:
๔๐, ๗๐:๓๐, ๘๐:๒๐ ตามที่
โรงเรี ยนกาหนด
การออกแบบการวัดและประเมินผลรายตัวชี้วดั ในหน่ วยการเรียนรู้
การออกแบบการวัดและประเมินผลรายตัวชี้วดั ในหน่วยการเรี ยนรู ้เป็ นการ
ประเมินระหว่างการเรี ยนการสอนที่ผสู ้ อนควรออกแบบการจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ควบคู่กบั
การออกการวัดและประเมินผลการเรี ยนรู ้รายตัวชี้วดั เพื่อตรวจสอบและวินิจฉัยผูเ้ รี ยนเพื่อให้
ผูส้ อนทราบว่าผูเ้ รี ยนมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนอย่างไร หรื อมีพฒั นาการความรู ้และ
ความสามารถเพียงใด มีส่วนใดที่ยงั บกพร่ องที่ควรได้รับการพัฒนาและแก้ไขให้บรรลุ
ตัวชี้วดั นั้นๆ แล้วนามาปรับปรุ งแก้ไขส่ งผลให้การสอนมีประสิ ทธิ ภาพยิง่ ขึ้น
การออกแบบการวัดและประเมินผลรายตัวชี้วดั ในหน่ วยการเรียนรู้
1) วิเคราะห์คาสาคัญ
2) วิเคราะห์ระดับพฤติกรรมการเรี ยนรู ้ (K P A)
3) กาหนดวิธีการวัดและประเมินผล
4) กาหนดเครื่ องมือวัดและประเมินผล
การวิเคราะห์ ตัวชีว้ ัดเพื่อกาหนด
แนวทางการประเมิน วิธีการและ
เครื่ องมือการวัดและประเมิน
ความสาคัญของการออกแบบการสร้ างเครื่องมือวัดและประเมินการเรียนรู้
1) การออกแบบการสร้ างเครื่ องมือวัดและ
ประเมินผลการเรี ยนรู้ เป็ นการช่วยให้ ครู ผ้ สู อน
ได้ มีการศึกษาและวิเคราะห์หลักสูตรที่
รับผิดชอบสอนอย่างละเอียดอีกครัง้ หนึ่ง
2) ช่วยให้ การวางแผนการจัดการเรี ยนรู้ของ
ครูผ้ สู อนแต่ละคนที่สอนในรายวิชาเดียวกัน ใน
สถานศึกษาเดียวกัน หรื อแม้ แต่ต่างสถานศึกษา
หรื อต่างสังกัด มีมาตรฐานเดียวกัน
3) เป็ นแนวปฏิบตั สิ าคัญของการกาหนดสัดส่วนการ
ประเมิน ที่มิได้ ละเลยแต่ให้ ความสาคัญในทุกขอบข่าย
พฤติกรรมการเรี ยนรู้ รวมถึงความหลากหลายของ
วิธีการวัดและประเมินที่มงุ่ การตอบโจทย์ว่าผู้เรี ยน
สามารถบรรลุตามตัวชี ้วัดของหลักสูตรหรื อไม่
กิจกรรมการออกแบบการสร้างเครื่ องมือวัดและประเมินผลการเรี ยนรู้
ขั้นที่ 1
วางแผนการวัดและประเมินการเรียนรู้
ขั้นที่ 2
การสร้ างแผนผังเครื่องมือวัดและประเมินการเรียนรู้
ขั้นที่ 3
การเตรียมเครื่องมือวัดและประเมินการเรียนรู้
ขั้นที่ 4
การทดลองใช้ / หาคุณภาพของเครื่องมือวัดและประเมินการเรียนรู้
การกาหนกกรอบในการประเมิน
(การเลือกวิธีการวัดที่เหมาะสมกับ
สิ่งที่ต้องการวัด)
วิธก
ี ำรวัดและประเมินผลผูเรี
ย
น
้
ควำมรู้หรือควำมสำมำรถ
ทำงสมอง (Knowledge)
ทักษะ
กระบวนกำร
(Process
Skill)
คุณลักษณะอั
นพึงประสงค์
ควำมมีวน
ิ ย
ั ควำมซือ
่ สั ตย์
กำรใฝ่รู้ใฝ่เรียน เป็ นต้น
(Attribute)
-การทดสอบแบบปรน ัย
-การทดสอบแบบอ ัตน ัย
-การทดสอบภาคปฏิบ ัติ
-การตรวจสอบผลงาน
-การตรวจการบ้าน
ั
-การสมภาษณ์
เช
-แฟ
้ มสะสมงาน
่น
ฯลฯ
วิธก
ี ำรวัดและประเมินผลผูเรี
ย
น
้
ควำมรู้หรือควำมสำมำรถ
ทำงสมอง (Knowledge)
ทักษะ
กระบวนกำร
(Process
Skill)
คุณลักษณะอั
นพึงประสงค์
ควำมมีวน
ิ ย
ั ควำมซือ
่ สั ตย์
กำรใฝ่รู้ใฝ่เรียน เป็ นต้น
(Attribute)
-การทดสอบภาคปฏิบ ัติ
ั
-การสงเกต
ั
-การสมภาษณ์
-แฟ้มสะสมงาน
เชน ฯลฯ
่
วิธก
ี ำรวัดและประเมินผลผูเรี
ย
น
้
ควำมรู้หรือควำมสำมำรถ
ทำงสมอง (Knowledge)
ทักษะ
-การรายงานตนเอง
ั
-การสงเกต
กระบวนกำร
ั
-การสมภาษณ์
-การสนทนากลุม
่
(Process
Skill)
คุณลักษณะอั
นพึงประสงค์ เช
น
่
-การทดสอบภาคปฏิ
บ ัติ
ควำมมีวน
ิ ย
ั ควำมซือ
่ สั ตย์
กำรใฝ่รู้ใฝ่เรียน เป็ นต้น
(Attribute)
-การตรวจสอบประว ัติ
-แฟ้มสะสมงาน
ฯลฯ
วิธก
ี ำรวัดและประเมินผลผูเรี
ย
น
้
(แบบปรนัย)
ถำม
ควำมรู้หรือควำมสำมำรถ
ทำงสมอง (Knowledge)
ทักษะ
กระบวนกำร
(Process
Skill)
คุณลักษณะอั
นพึง
ประสงค์ เช่น
ควำมมีวน
ิ ย
ั
ควำมซือ
่ สั ตย์
กำรใฝ่รู้ใฝ่เรียน
ถำม
ถำม
องคควำมรู
ตำม
้
์
ตัวชีว้ ด
ั
ขัน
้ ตอน/วิธก
ี ำร/
หลักกำร/
กระบวนกำรตำม
ตัวชีว้ ด
ั
พฤติกรรมที่
แสดงออก
ตำมตัวชีว้ ด
ั
การกาหนกกรอบในการประเมิน
(การเลือกรูปแบบข้อสอบที่เหมาะสมกับ
สิ่งที่ต้องการวัด)
รูปแบบข้อสอบวัดผลสัมฤทธ์ ิ
- แบบเลือกตอบ
- แบบเขียนตอบ
รูปแบบขอสอบเลื
อ
กตอบ
้
2. แบบหลำย
1. แบบคำตอบเดียว
คำตอบ
(Multiple(Multiple choice:
selection
MC)
เลือกตอ /Multiple
บ Response:
MS)
4. แบบกลุมค
ำ
่
3. แบบเชิงซ้อน
ตอบสั มพันธ ์
(complex multiple
(Responses
choice: CM)
1. แบบคำตอบเดียว (multiple
choice)
อึ่ง อ่ำงตัว หนึ่ ง อำศั ย อยู่ริม บึง มัน นึ ก ว่ำ
ตัว เองเก่งกว่ำใคร ๆ วัน หนึ่ ง อึ่ง อ่ำงขึ้น มำนอนผึ่ง
แดดอยูริ
่ มบึง มันได้ยินเสี ยงผึง้ บินมำ อึง่ อำงอยำกสู
่
้
กับผึง้ จึงดึง
ใบบัวมำบังตัว พอผึง้ มำกินน้ำที่
ริมบึง มันก็แลบลิน
้ จะทำร้ำยผึง้ ผึง้ รู้วำถู
น
่ กอึง่ อำงเล
่
่
งำน จึงใช้เหล็กในตอย
อึง่ อำงรู
้ มำก มัน
่
่ ้สึ กปวดลิน
9.ำนึ
ข้อคิ
ไ่ ด่คจำกเรื
่ ้ ำยผึ
งทีอ
่ ำน
ส
ก ผิดดทีที
ผึ้ง จึง ช่ วยดึ
ง เหล็
ตัวอย
ำงข
อสอบ
้ ิด ท ำรอ
่ ้ง สำมำรถ
่
้ ก ใน
นำไปใช้ ้ในเรื
ออกให
อึง่ ออ่ ำงซำบซึ
ง้ และไมอวดเก
งอี
่ งใด
่
่ กเลย NT
มัน
่ ใจ
1) ถ้ำมีภย
ั มำถึงตัวต้องยอมรับ
2) ถ้ำจะสู้กับใครต้องมีควำม
3) ถ้ำถูกทำรำยต
องป
้
้ ้ องกัน
ดำนภำษำ
้
คำตอบ ตัวเลือก 4
(LITERACY)
2. แบบเลือกหลำยคำตอบ (Multip
le-selection)
เป็ นลักษณะ
ขอสอบเลื
อกตอบ ทีม
่ ข
ี อ
้
้
คำถำมเอือ
้ ให้คิดคำตอบได้
หลำกหลำยคำตอบ มี
คำตอบถูกมำกกวำ่ 1
คำตอบ
2. แบบเลือกหลำยคำตอบ (Multip
ข้อสอบขอที
ข้อใดบำงที
เ่ ป็ นกีฬำบุคคล
้ ่ ๓๖.
้
le-selection)
ประเภทคู
่
คู่
หญิงคู่
๑. เปตองประเภทชำยคูและหญิ
งคู่
่
๒. แบดมินตันประเภทชำยคูและหญิ
ง
่
๓. เซปักตะกรอประเภทชำยคู
และ
้
่
๔. วอลเลยบอลชำยหำดประเภทชำย
์
คูและหญิ
งคู่
่
กำรให้คะแนน
คะแนน
ตอบถูก ได้
1
ตอบผิด ได้ -1 คะแนน
2. แบบเลือกหลำยคำตอบ (Multip
ข้อสอบขอที
ข้อใดทีเ่ ป็ นกีฬำบุคคล
้ ่ ๓๖.
le-selection)
ประเภทคู (ตอบ 2 คำตอบ)
่
คู่
หญิงคู่
๑. เปตองประเภทชำยคูและหญิ
งคู่
่
๒. แบดมินตันประเภทชำยคูและหญิ
ง
่
๓. เซปักตะกรอประเภทชำยคู
และ
้
่
๔. วอลเลยบอลชำยหำดประเภทชำย
์
คูและหญิ
งคู่
่
กำรให้คะแนน
ได้ 1 คะแนน
ตอบถูก 1 คำตอบ
ตอบถูก 2 คำตอบ ได้ 2
3. แบบเลือกตอบเชิงซ้อน
(complex multiple choice)
เป็ นลักษณะขอสอบที
่
้
มีขอค
อ
ในข
้ ำถำมยอยรวมอยู
้
่
่
เดียวกัน โดยขอค
้ ำถำมแต่
ละขอจะถำมข
อคิ
้
้ ดเห็นหรือ
ขอเท็
จจริงหรือขอสรุ
ปจำก
้
้
เรือ
่ งทีอ
่ ำน
่
3. แบบเลือกตอบเชิงซ้อน
(complex multiple choice)
ครูสมศั กดิว์ ด
ั ส่วนสูงนักเรียนชำยหญิง ได้
คำเฉลี
ย
่ ส่วนสูงของนักเรียนหญิงเทำ่ 155 ซม
่
. คำเฉลี
ย
่ ส่วนสูงนักเรียนชำย 165 ซม.
่
ตอมำมี
นก
ั เรียนมำเขำใหม
่
้
่ 2 คน แลวน
้ ำมำ
วัดส่วนสูงแลว
่ ส่วนสูง
้ พบวำ่ คะแนนเฉลีย
ควำมเป็ นไป
นักเรียนหญิ
ง
และชำยไม
เปลี
ย
่
นแปลง
่
ข้อสรุป
ได้
นักเรียนทีเ่ ขำมำใหม
เป็
/ไมได
้
่ นผู้ชำยทัง้ สองคน ได้
่ ้
นักเรียนชำยทีเ่ ขำใหม
้
่ 2 คน มีส่วนสูง ได
/ไมได
้
่ ้
160 และ 170 ซม.
นักเรียนหญิงทีเ่ ขำใหม
้
่ 2 คน มีส่วนสูง ได
/ไมได
้
่ ้
155 ซม. ทัง้ สองคน
4. แบบกลุมค
่ ำตอบสั มพันธ ์
(Responses related)
เป็ นลักษณะขอสอบ
้
เลือกตอบมำกกวำ่ 1 ขอ
้
่ อเนื
ทีม
่ เี งือ
่ นไขให้คิดทีต
่ ่ อง
และสั มพันธกั
์ น โดยคำตอบ
ในขอที
่ รก จะตองเป็
น
้ แ
้
ขอมู
้ ลทีใ่ ช้ในกำรตอบขอ
้
คำถำมตอไป
่
4. แบบกลุมค
่ ำตอบสั มพันธ ์
(Responses related)
4.1 คำถำมสั มพันธ ์
4.2 คำตอบสั มพันธ ์
4.1 แบบกลุมค
่ ำตอบสั มพันธ ์ (
โจทย
สั
ม
พั
น
ธ
)
์
์ Rose that he is
ข้อสอบข้อที่ 17. Situation: Ben tells
going to a stationery shop.
Rose: I need some writing paper. _A_
Ben: _B_
Rose: That’s all. Thanks.
A.
1. Have you got some?
2. Do you buy some writing paper?
3. Can you buy me some, please?
4. Have you bought some writing
paper?
B.
1. All right. Anything else?
2. I think I can. Any more?
กำรให้คะแนน
ตอบถูกทัง้
3. Sure, I should buy it.
ขอ
้ ถึงจะไดคะแนน
้
4. Of course, I must buy some more.
ตอบถูกขอใดข
อหนึ
่ง
้
้
2
4.2 แบบกลุมค
่ ำตอบสั มพันธ ์ (
คำตอบสั มพันธ)์
ข้อสอบขอที
้ ่ ๕๐. ให้เลือกเทคนิคกำรโฆษณำให้สั มพันธกั
์ บ
ตัวอยำงกำรโฆษณำ
(จับคู่ 5 คู)่
่
เทคนิคกำรโฆษณำ
ตัวอยำงกำรโฆษณำ
่
1. คนเดนคนดั
ง เป็ นคน A ผงซักฟอก “ขำวบริสท
ุ ธิ”์ ซักครำบ
่
แนะนำ
ไขมันและสิ่ งสกปรกไดดี
้ กวำ่
2. เปรียบเทียบแบบ
B แบตเตอรีย
่ ห
ี่ ้อ “ทนทำน” รับประกัน
กำกวม
ตลอดอำยุกำรใช้งำน หำกไมพอใจ
่
3. ใช้ตัวเลขสถิตส
ิ รำง
คุณภำพยินดีคน
ื เงิน
้
ควำมน่ำเชือ
่ ถือ
C ทันตแพทย ์ 4 ใน 5 คน แนะนำยำสี
4. รับประกัน
ฟัน “ขำวสะอำด”
5. ใช้หลักวิทยำศำสตรมำ
D ภรำดร ศรีชำพันธ ์ ใช้แตผลิ
่ ตภัณฑ ์
์
กลำวอ
ของ Ecco
่
้ำง
กำรให้คะแนน
ตอบถูก 2
E จำกผลกำรวิจย
ั ทำงกำรแพทยมำกกว
ำ่
์
คู่ ได้ 1 คะแนน
กลุมสำระกำรงำนอำชี
พฯ ม.
่ บประทำนผลิตภัณฑ
15
ปี
เพี
ย
งรั
มะรุ
ม
ตอบถูก 3 คู่ ได้ 2
์
3 ปี 2553
รูปแบบขอสอบแบบเขี
ยนตอบ
้
(อัตนัย)
1. แบบจำกัดคำตอบหรือตอบสั้ น
(restricted-response question)
เขียน
ตอบ 4. แบบกลุมคำ
2. แบบขยำยคำตอบหรือตอบอย่ ำง
่
อิสระ ตอบสั มพันธ(์
(extended-response question)
1.แบบจำกัดคำตอบ
(restricted-response question)
เป็ นลักษณะขอสอบ
้
ทีใ่ ห้คิดและเขียนคำตอบ
ภำยใตเงื
่ นไขทีก
่ ำหนด
้ อ
และมีขอบขำยของค
ำตอบ
่
ทีช
่ ด
ั เจน
(ออกยำก แตตรวจง
ำย)
่
่
ตัวอยำงข
่
้อสอบแบบจำกัดคำตอบ
(restricted-response question)
2.
กำรเลือกตัง้
สมำชิกสภำผู้แทนรำษฎร กับ
กำรเลือกตัง้ สมำชิกวุฒส
ิ ภำ
ตำมรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบน
ั มี
ควำมเหมือนและควำมแตกตำง
่
กันอยำงไร
่
………………………………
การคิดวิเคราะห์ :วิเคราะห์ หลักการ
2. แบบขยำยคำตอบหรือไมจ
่ ำกัด
คำตอบ
(extended-response question)
เป็ นลักษณะขอสอบที
่
้
ให้อิสระในกำรคิด โดยเปิ ด
โอกำสให้คิดภำยใตหลั
้ กวิชำที่
สมเหตุสมผล ตองมี
เกณฑ ์
้
กำรให้คะแนนทีช
่ ด
ั เจนพรอม
้
แนวคำตอบ
ตัวอยำงข
อสอบแบบขยำยค
ำตอบหรือไม่
่
้
จำกัดคำตอบ
(extended-response question)
1. จงออกแบบระบบการบาบัดนา้ เสียในสถานศึกษา
ของเราที่มีลักษณะเป็ นมิตรกับสิ่งแวดล้ อม
.................................................................................
ประเด็นในการตรวจ
• เกี่ยวกับการบาบัดนา้ เสีย
• เป็ นมิตรกับสิ่งแวดล้ อม
• เหมาะสมกับบริบทสถานศึกษา
• มีความเป็ นไปได้
เกณฑ์ การให้ คะแนนแบบระดับคุณภาพ
แบบ Analytic Scoring Rubrics
ดี (3
คะแนน)
พอใช้(2คะแ
นน)
๑. ควำมคิดริเริม
่ ๑. มีควำมคิดใน ปฏิบต
ั ไิ ด้ ๒
สรำงสรรค
กำรวำดภำพ
ใน ๓ ขอ
้
้
์
ตำมควำม
คิดเห็นของกลุม
่
๒. ไมลอก
่
ควำมคิดในกำร
วำดภำพของคน
อืน
่
๓. ระบำยสี
อยำงสวยงำม
่
สอดคลองกั
บ
้
ปรับปรุง(1
คะแนน)
ปฏิบต
ั ไิ ด้ ๑
ใน ๓ ขอ
้
เกณฑ์ การให้ คะแนนแบบระดับคุณภาพ
แบบ Holistic Scoring Rubrics
กำรวำดรูปเซล ์
พืชและเซลล ์
สั ตว ์
ดี (3
คะแนน)
พอใช้(2คะแ
นน)
ปรับปรุง(1
คะแนน)
ผลงำนของ
นักเรียน
แตกตำงจำกคน
่
อืน
่ อยำงชั
ดเจน
่
ชิน
้ งำนมีควำม
สมบูรณถู
้
์ กตอง
ตำมตำมคำสั่ ง
และมีกำร
นำเสนอผลงำน
เหมำะสม
ผลงำนของ
นักเรียน
แตกตำงจำกคน
่
อืน
่ อยำงชั
ดเจน
่
ชิน
้ งำนมีควำม
สมบูรณถู
้
์ กตอง
ตำมตำมคำสั่ ง
ผลงำนของ
นักเรียนไม่
แตกตำงจำกคน
่
อืน
่ อยำงชั
ดเจน
่
ขัน
้ ตอนกำรสรำงเกณฑ
กำรให
้
้คะแนนแบบ
์
ระดับคุณภำพ
(Scoring Rubrics)
1. กำหนดระดับหรือคุณภำพทีต
่ องกำรให
้
้
คะแนน เช่น
2 ระดับ คะแนนเต็ม กับไมได
่ คะแนน
้
3 ระดับ คือ
คะแนนเต็ม
(2
คะแนน)
ไดคะแนนบำงส
้
่ วน (1
คะแนน)
ไมได
(0 คะแนน)
่ คะแนน
้
2. พิจำรณำขอค
้ ำถำมสถำนกำรณ์ แลว
้
ขัน
้ ตอนกำรสรำงเกณฑ
กำรให
้
้คะแนนแบบ
์
ระดับคุณภำพ
(Scoring Rubrics)
3. วิธก
ี ำรเขียนคำอธิบำยในแตละระดั
บสำมำรถ
่
เขียนได้ 3 รูปแบบ คือ
แบบที่ 1 กำหนดคำอธิบำยแบบลดลง
หมำยถึง
กำรเขียนเกณฑกำรให
่ เขียนเกณฑที
้คะแนนโดยเริม
์
์ ่
ระดับคุณภำพสูงสุดหรือไดคะแนนเต็
มกอนแล
วลด
้
่
้
คะแนนตำมคุณภำพทีล
่ ดลง
แบบที่ 2 กำหนดคำอธิบำยแบบบวกหรือเพิม
่ ขึน
้
หมำยถึง กำรเริม
่ ต้นทีร่ ะดับคุณภำพตำ่ สุดหรือไมได
่ ้
คะแนนกอนแล
วเพิ
ม
่ ระดับคุณภำพตำมระดับคะแนนที่
่
้
เพิม
่ ขึน
้ ไปตำมลำดับ
แบบที่ 3 กำหนดคำอธิบำยแบบเพิม
่ ขึน
้ และลดลง
ขัน
้ ตอนกำรสรำงเกณฑ
กำรให
้
้คะแนนแบบ
์
ระดับคุณภำพ
(Scoring Rubrics)
4. ตรวจสอบโดยคณะผู้มีส่วนรวมหรื
อ
่
ผู้เชีย
่ วชำญทำงกำรวัดผล
5. ทดลองใช้เกณฑในกำรตรวจผลงำนที
ม
่ ี
์
มำตรฐำน/คุณลักษณะ
ตำมเกณฑที
่ ำหนด
์ ก
6. หำควำมสอดคลองในกำรตรวจข
อสอบ
้
้
อัตนัยของกรรมกำร
3 ทำน
ในลักษณะของ inter rater
่
reliability
ลักษณะความคลาดเคลื่อน
ในการตรวจข้ อสอบอัตนัยที่มาจากผู้ตรวจหรือผู้ประเมิน
1. Halo Error: รู้จักมักคุ้น
2. Leniency Error: มองโลกในแง่ ดี (เกินไป)
3. Horns Error: มองโลกในแง่ ร้าย (เกินไป)
4. Central Tendency Error: ยึดทางสายกลาง (ไว้ ก่อน)
5. Modeling Error: ผลสั มพัทธ์ ข้างเคียง
6. Contrast Error: ขัดแย้ งในใจ
6.1 Over Qualification Error: ให้ ต่ากว่ าความจริง
6.2 Under Qualification Error: ให้ สูงกว่ าความจริง
แผนผังแบบสอบ (Test Blueprint)
ระด ับพฤติกรรมด้านความรู ้ (K)
หน่วย
การ
เรียนที่
มาตรฐาน
/ต ัวชวี้ ัด
จา
เข้า
ใจ
1.
1/3
1
1
1
2.
2/5
1
2
1
3
1/4
1
2
1
รวม
12
4
3
1
2
ประยุกต์
วิ
ประ สร้าง
ใช ้
เคราะห์ เมินค่า สรรค์
1
1
-
ประเภทข้อสอบ
MC
MS
2
1
3
1
3
1
8
3
CM
RR
รวม
ข้อสอบ
3
1
5
4
-
1
12
แผนผังแบบสอบ (Test Blueprint)
สาหรับทาคลังข้อสอบ
ระด ับพฤติกรรมด้านความรู ้ (K)
มาตร
ฐาน
ต ัวชวี้ ัด
1.
1
จา
เข้า
ใจ
1
2
1
3
2
1
1
1
2
รวม
ประยุกต์
วิ
ประ สร้าง
ใช ้
เคราะห์ เมินค่า สรรค์
5
1
-
2
2
1
-
-
ประเภทข้อสอบ
MC
MS
CM
RR
รวม
ข้อสอบ
1
1
1
1
12
1
1
1
1
1
1
1
1
1
1
1
1
1
1
1
1
5
5
5
5
8
20