Transcript 1:1

พันธุศาสตร์
(Genetic)
ครู จุมพล คำรอต
กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ วทิ ยำศำสตร์ สำขำชีววิทยำ
โรงเรียนศรียำนุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี
สำเหตุที่ “เมนเดล” เลือกทดลองกับต้ นถั่วลันเตำ
1.อายุส้ นั , ปลูกง่าย , เจริ ญเติบโตเร็ ว , มีหลายพันธุ์
2.มีลกั ษณะแตกต่างกันอย่างชัดเจน
3.เป็ นดอกสมบูรณ์เพศ(perfect flower)
4.สามารถควบคุมการผสมให้เป็ นแบบ self-pollination
หรื อ cross-pollination ได้
เมนเดล สรุ ปว่า ลักษณะต่างๆของถัว่ ลันเตาถูกควบคุม
ด้วย “แฟคเตอร์”(factor)ซึ่งจะอยูเ่ ป็ นคู่
ลักษณะที่แสดงออกในรุ่ น F1 จะเป็ น “ลักษณะเด่ น”(dominant trait)
ลักษณะที่ไม่แสดงออกในรุ่ น F1 จะเป็ น “ลักษณะด้ อย”(recessive trait)
วิดีโอ
ต่อมาเปลี่ยนคาว่า “แฟคเตอร์” เป็ นคาว่า “ยีน”(gene)
ยีนทีค่ วบคุมลักษณะเด่ น เรียกว่ ำ “ยีนเด่ น”(dominant gene)
เขียนแทนด้วยอักษรภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่ เช่น G แทนยีนที่ควบคุมฝักสี เขียว
ยีนทีค่ วบคุมลักษณะด้ อย เรียกว่ ำ “ยีนด้ อย”(recessive gene)
เขียนแทนด้วยอักษรภาษาอังกฤษตัวพิมพ์เล็ก เช่น g แทนยีนที่ควบคุมฝักสี เหลือง
“เด่น” ข่ม “ด้อย”
การควบคุมลักษณะใดลักษณะหนึ่งมักมียนี ควบคุมเป็ นคู่
ซึ่งอยูต่ าแหน่งเดียวกันบนโครโมโซม เรี ยกว่า
“ฮอมอโลกัสโครโมโซม”(homologous chromosome)
จีโนไทป์ (Genotype) และ ฟี โนไทป์ (Phynotype)
ฮอมอไซกัส(Homozygous)
ฮอมอไซกัส โดมิแนนท์ (Homozygous dominant)
ฮอมอไซกัส รีเซสสี พ(Homozygous recessive)
เฮเทอโรไซกัส(Homozygous)
การอธิบายอัตราส่ วนฟี โนไทป์ ในรุ่ น F2 ของถัว่ ลันเตา (3:1)
อธิบายโดยใช้ กฎของเมนเดล 2 ข้อ
กฎข้ อที่ 1 กฎแห่ งการแยก (Law of segregation)
กฎข้ อที่ 2 กฎแห่ งการรวมกล่ มุ อย่างอิสระ(Law of
indepent assortment)
กฎข้ อที่ 1 กฎแห่ งกำรแยก (Law of segregation)
ยีนทีอ่ ยู่เป็ นคู่จะแยกออกจำกกันในระหว่ ำงกำรสร้ ำงเซลล์
สื บพันธุ์ โดยเซลล์ สืบพันธุ์แต่ ละเซลล์ จะได้ รับเพียงแอลลีล
ใดแอลลีลหนึ่ง
กฎข้ อที่ 2 กฎแห่ งกำรรวมกลุ่มอย่ำงอิสระ
(Law of independent assortment)
ยีนทีเ่ ป็ นคู่กนั เมือ่ แยกออกจำกกันแล้ ว จะจัดกลุ่มอย่ ำงอิสระ
กับยีนอืน่ ซึ่งแยกออกจำกคู่เช่ นกันเพือ่ เข้ ำไปยังเซลล์
สื บพันธุ์
จากตาราง ใช้กฎข้อที่ 2 ของเมนเดลทานายอัตราส่ วนของเซลล์
สื บพันธุ์ที่มีกลุ่มของยีนต่างๆได้ เช่น จีโนไทป์ GgYy จะสร้าง
เซลล์สืบพันธุ์ได้ 4 ชนิด คือ GY , Gy , gY และ gy ใน
อัตราส่ วน 1:1:1:1 เมื่อเซลล์สืบพันธุ์ 4 ชนิดของทั้งพ่อและแม่
มารวมกัน รุ่ น F2 จึงมีฟีโนไทป์ ในอัตราส่ วน 9:3:3:1
1 ) ในกำรผสมถั่ว 2 ชนิด คือ ถัว่ พันธุ์สูง ซึ่งเป็ น dominant กับถั่ว
พันธุ์เตีย้ ซึ่งเป็ น recessive ปรำกฏว่ ำได้ ร่ ุ นลูก F1 เป็ นสู ง:เตีย้ = 1:1
genotype ของถัว่ รุ่ นพ่ อแม่ คอื
1.TT x tt
2.Tt x Tt
3.Tt x tt
4.TTx Tt
2 ) TTBbCc มี gamete กีช่ นิด
1.4 ชนิด
2.6 ชนิด
3.8 ชนิด
4.10 ชนิด
3 ) ในกำรผสมถัว่ เมล็ดเรียบสี เหลืองพันธุ์แท้ กบั ถัว่ เมล็ดขรุขระสี
เขียวพันธุ์แท้ (สี เหลืองและเมล็ดเรียบ เป็ น dominant) ได้ ร่ ุ นลูก F1 มี
genotype
1.YYRR
2.YyRR
3.Yyrr
4.YyRr
4 ) จำกข้ อ 3. phenotype ของรุ่นลูก F1 คือ
1.เมล็ดเรี ยบสี เขียว
2.เมล็ดเรี ยบสี เหลือง
3.เมล็ดขรุ ขระสี เหลือง
4.เมล็ดขรุ ขระสี เขียว
5 ) จำกข้ อ 4. ถ้ ำนำรุ่นลูก F1 ทำ test cross จะได้ อตั รำส่ วน
phenotype ของลูกเท่ ำไร
1.เมล็ดเรี ยบสี เหลือง : เมล็ดเรี ยบสี เขียว : เมล็ดขรุ ขระสี เหลือง : เมล็ด
ขรุ ขระสี เขียว = 1:2:2:1
2.เมล็ดเรี ยบสี เหลือง : เมล็ดเรี ยบสี เขียว : เมล็ดขรุ ขระสี เหลือง : เมล็ด
ขรุ ขระสี เขียว = 1:1:1:1
3.เมล็ดเรี ยบสี เหลือง : เมล็ดเรี ยบสี เขียว : เมล็ดขรุ ขระสี เหลือง : เมล็ด
ขรุ ขระสี เขียว = 1:1:2:2
4.เมล็ดเรี ยบสี เหลือง : เมล็ดเรี ยบสี เขียว : เมล็ดขรุ ขระสี เหลือง : เมล็ด
ขรุ ขระสี เขียว = 2:1:1:2
6 ) ในกำรผสมต้ นไม้ ดอกสี แดง กับต้ นไม้ ดอกสี ขำวปรำกฏว่ ำได้ ลูก
เป็ นดอกสี ขมพูหมดแสดงว่ ำ
1.การผสมนี้เป็ น co-dominant
2.การผสมนี้เป็ น complete dominant
3.การผสมนี้เป็ น Incomplete dominant
4.การผสมนี้เป็ น no dominant
7 ) พันทำงตรงกับภำษำพันธุศำสตร์ ว่ำ
1.genotype
2.Phenotype
3.Homozygote
4.heterozygote
8 ) ในกำรผสมแบบ test cross พ่อหรือแม่ ต้องมี genotype เป็ น
1.RRTT
2.Rrtt
3.RrTt
4.rrTT
9 ) ข้ อใดเป็ น homozygous ทั้งหมด
1.TTYy
2.TTRR
3.ttYy
4.ttRr
10 ) DNA นอกจำกจะพบในนิวเคลียสแล้ วยังพบได้ ใน
1.mitochondria และ endoplasmic reticulum
2.mitochondria และ chloroplast
3.chloroplast และ endoplasmic reticulum
4.endoplasmic reticulum และ ribosome
โจทย์ กระต่ ำยขนสี ดำเป็ นลักษณะเด่ น(B) ขนสี นำ้ ตำลเป็ นลักษณะ
ด้ อย (b) และขนสั้ นเป็ นลักษณะเด่ น (S) ขนยำวเป็ นลักษณะด้ อย (s)
ในกำรผสมระหว่ ำงกระต่ ำยฮอมอไซกัสขนยำวสี ดำ และฮอมอ
ไซกัสขนสั้ นสี นำ้ ตำล 3.1
-จงหาอัตราส่ วนของฟี โนไทป์ ต่างๆ ในรุ่ นF1 และอัตราส่ วนของ
ฟี โนไทป์ ต่างๆ ในรุ่ น F2
กำรผสมเพือ่ ทดสอบ (test cross)
การนาสิ่ งมีชีวติ ที่มีลกั ษณะเด่น ไปผสมพันธุ์กบั สิ่ งมีชีวติ ที่มี
ลักษณะด้อย ถ้ารุ่ นลูกมีลกั ษณะเด่นทั้งหมด แสดงว่าสิ่ งมีชีวติ นั้น
เป็ น “ฮอมอไซกัส” แต่ถา้ รุ่ นลูกมีลกั ษณะเด่น : ลักษณะด้อย เท่ากับ
1:1 แสดงว่าสิ่ งมีชีวติ นั้นเป็ น “เฮเทอโรไซกัส”
ลักษณะที่ไม่ เป็ นไปตำมกฎของเมนเดล
กำรข่ มไม่ สมบูรณ์ หรือ เด่ นไม่ สมบูรณ์ (incomplete dominance)
ดอกลิ้นมังกร
ลักษณะที่ไม่ เป็ นไปตำมกฎของเมนเดล
กำรข่ มร่ วมกันหรือ เด่ นร่ วมกัน(co-dominance)
มัลติเปิ ลแอลลีล(multiple allele)
ยีนที่มีมากกว่า 2 แอลลีล ใน 1 โลคัส เช่น หมู่เลือด ABO
ประกอบด้ วย แอลลีล IA , IB , i
พอลียนี (polygene)
ลักษณะทางพันธุกรรมที่ถูกควบคุมด้วยยีนหลายคู่(พอลียนี ) เป็ นลักษณะ
ที่มีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยและลดหลัน่ กันไป ฟี โนไทป์ จึงมีการ
กระจายอย่างต่อเนื่องหรื อกระจายแบบโค้งปกติ
ลักษณะทำงพันธุกรรมทีม่ ีควำมแปรผันต่ อเนื่อง(continuous variation)
และ
ลักษณะทำงพันธุกรรมทีม่ ีควำมแปรผันไม่ ต่อเนื่อง(discontinuous variation)
วิดโี อ
วิดโี อ
ยีนบนโครโมโซมเพศ
Sex-linked gene
Favism “แพ้ถวั่ ปำกอ้ ำ”
โรคที่เกิดจากยีนเด่นบนโครโมโซม X
“มนุษย์หมาป่ า”(congenital generalized hypertrichosis)
Y-linked