Transcript Part 1
Ramida Amornsitthiwat, M.D.
Pichanee Chaweekulrat, M.D.
Part 1
กำรทดลองที่ 1
ปฏิกริ ิยำของ mono-, di- และ polysaccharide
ใช้ นำ้ ละลำย 0.05 M Xylose, Glucose, Fructose, Lactose และ Sucrose สำหรับกำร
ทดลอง A-G
A. MOLISCH TEST
คำร์ โบไฮเดรตจะถูกดึงนำ้ ออกโดยกรดแก่ ให้ สำรประกอบ Furfural หรือ
hydroxymethylfurfural ซึ่งจะทำปฏิกิริยำกับ a- naphthol ใน 95% alcohol (Molisch reagent) ได้
สำรประกอบสีม่วงแดง (purple compound)
Pentose
-3H2O
strong acid
O
-C-H
O Furfural
O
Hexose
-3H2O
strong acid
CH2OH-
-C-H
O
Hydroxymethylfurfural
10 x 75 mm
Sugar 1 ml
+
Molisch reagent 3 drops (mixed)
+
gradually drop conc. H2SO4 1 ml
sugar + a-naphthol
purple
H2SO4
B. BENEDICT’S TEST
- ทดสอบ REDUCING PROPERTY
- BENEDICT’S REAGENT เป็ น ALKALINE SOLUTION ของ CuSO4
ซึ่ง Cu++ เป็ น MILD OXIDIZING AGENT จะทำปฏิกริ ิยำกับ ALDEHYDE หรือ
KETO GROUP ของ OPEN CHAIN FORM ของ ALDOSE หรือ KETOSE
RCHO + 2Cu++ + 5OH-
RCOO- + Cu2O
ตะกอนสีแดงอิฐ
+ 3H2O
นำ้ ตำลที่สำมำรถ REDUCE Cu++ ให้ เป็ น Cu+ ได้ จะเรียกว่ ำ
เป็ น REDUCING SUGAR ดังนัน้ นำ้ ตำลที่มี FREE ANOMERIC
CARBON จึงเป็ น REDUCING SUGAR
หมำยเหตุ: vitamin C, uric acid, creatinine ให้ ผลบวกเท็จ (false positive) ได้
วิธีทดลอง
SUGAR 5 DROPS
18 x 150 mm
+
BENEDICT’S SOLUTION
3 ml
BOIL 30 sec
หรื อแช่ ในนำ้ เดือด นำน 3 min
PRECIPITATE
C. BARFOED TEST
- ทดสอบ MONOSACCHARIDE
- หลักกำร MONOSACCHARIDE จะ REDUCE Cu++ ใน ACID SOLUTION
ได้ เร็วกว่ ำ DISACCHARIDES
SUGAR 5 DROPS
+
BARFOED 3 ml
BOIL 1min
หรือแช่ ในนำ้ เดือด
นำน 5 min
PRECIPITATE
D. SELIWANOFF TEST
- ALDOHEXOSE และ KETOHEXOSE จะถูก DEHYDRATE ด้ วยกรดแรงได้
HYDROXYMETHYL FURFURAL แต่ สำรประกอบที่มี FRUCTOSE จะเกิดปฏิกริ ิยำเร็วกว่ ำ
ALDOHEXOSE
3 H2O
FRUCTOSE
OH
HC CH O
HOH2C-HC CH-CH +
OH
O
HYDROXYMETHYLFURFURAL RESORCINOL (in HCl)
SUGAR 5 DROPS
+
SELIWANOFF 3 ml
BOIL ~ 10 sec
หรื อแช่ ในนำ้ เดือดนำน 1min
ORANGE RED OR
DEEP CHERRY RED COLOR
E. ANILINE TEST
- ทดสอบ PENTOSE
acid
PENTOSE
FURFURAL + ANILINE
SUGAR 1 ml
+
GLACIAL ACETIC 1 ml
+
ANILINE 3 DROPS
BOIL
เดือดแล้ วเอำออก
หรื อแช่ ในนำ้ เดือด
นำน 1 min
DARK RED
F. YEAST FERMENTATION (DEMONSTRATION)
- FERMENTATION หรือ กำรหมัก เป็ นขบวนกำรที่ YEAST สำมำรถเปลี่ยนนำ้ ตำล
บำงชนิดไปเป็ น ETHANOL และ CO2 ภำยใต้ ภำวะ ANAEROBIC
GLUCOSE + 2ADP + 2 Pi
2ETHANOL + 2CO2 + 2ATP
CO2
SUGAR + YEAST
SACCHAROMETER
G. GLUCOSE OXIDASE TEST
- ทดสอบ specificity ของกลูโคสต่ อ enz. Glucose oxidase
GLUCOSE GLUCONIC ACID + H O
2 2
OXIDASE
H2O2 + PHENOL + AMINO - 4 - ANTIPYRINE
GLUCOSE
PEROXIDASE
QUINONEIMINE DYE + 4H2O
กำรทดลอง
SUGAR (1 drop) + Glucose oxidase (1 drop) บนจำนสี
Red (quinoneimine dye)
H. IODINE TEST
- ทดสอบ polysaccharide ex. starch, glycogen, dextrin
amylose + iodine
amylopectin + iodine
glycogen + iodine
amylodextrin + iodine
erythrodextrin + iodine
Achroodextrin + iodine
deep blue color
purple
dark orange-brown
blue (bluish violet)
red
clear
สำรที่นำมำทดสอบ ได้ แก่
1% นำ้ แป้งข้ ำวเจ้ ำ
1% นำ้ แป้งข้ ำวเหนียว
1% Dextrin
1% Glycogen
GLYCOGEN 2 ml
+
2% IODINE 1-2 DROP
BROWNISH RED
CONTROL ใช้ น้ำกลัน่ 2 ml + 2% IODINE 1-2 หยด
กำรทดลองที่ 2
ANALYSIS OF SUGAR BY PAPER CHROMATOGRAPHY
( DEMONSTRATION )
- หลักกำรของ Chromatography
เป็ นวิธีแยกสำรโดยอำศัยคุณสมบัตขิ องสำร ได้ แก่ คุณสมบัตใิ นกำรละลำย
ในตัวทำละลำยของสำร และ คุณสมบัตใิ นกำรถูกดูดซับที่แตกต่ ำงกันของสำร
- Paper chromatography
สำร
: นำ้ ตำลชนิดต่ ำงๆ
นำ้ ยำแยก (developer) : Isopropanol, นำ้
ตัวดูดซับ
: กระดำษกรอง
SOLVENT FRONT
1 = GLUCOSE
2 = UNKNOWN
1
Rf =
Rg =
2
STARTING POINT
DISTANCE TRAVELED BY SUBSTANCE X 100
DISTANCE TRAVELED BY SOLVENT FRONT
DISTANCE TRAVELED BY SUBSTANCE X 100
DISTANCE TRAVELED BY GLUCOSE
ค่ ำ Rg ของนำ้ ตำลบำงชนิด
glucose
100
galactose
80
xylose
130
fructose
105
maltose
47
lactose
32
sucrose
80
กำรทดลองที่ 3
โรคเบำหวำน (diabetes mellitus) เป็ นโรคที่เกิดจำกกำรที่ร่ำงกำยมีนำ้ ตำลกลูโคสใน
เลือดสูงกว่ ำปกติ กลูโคสจะออกมำในปั สสำวะและสำมำรถตรวจพบได้ โดยวิธี Benedit’s
test ในทำงกำรแพทย์ ได้ นำเอำวิธีดังกล่ ำวมำตรวจหำนำ้ ตำลในปั สสำวะเพื่อใช้ ในกำรตรวจ
คัดกรอง (screening) หำผู้ป่วยเบำหวำนและใช้ ในกำรติดตำมกำรผลกำรรักษำ
จำกกำรตรวจหำนำ้ ตำลในปั สสำวะโดยวิธี Benedict’s test ในผู้ป่วย 2 รำย ได้ ผลดังนี ้
ผู้ป่วยรำยที่ 1 - ชำยอำยุ 30 ปี ร่ ำงกำยแข็งแรงดี ไม่ มีโรคประจำตัวใดๆ มีประวัติ
บิดำเป็ นเบำหวำน ผลกำรตรวจปั สสำวะโดยวิธี Benedict’s test ให้ ผลบวก
ผู้ป่วยรำยที่ 2 - หญิงอำยุ 28 ปี กำลังตัง้ ครรภ์ ได้ 32 สัปดำห์ ผลกำรตรวจ
ปั สสำวะโดยวิธี Benedict’s test ให้ ผลบวก
ให้ นักศึกษำทำกำรทดลอง เพื่อพิสูจน์ ว่ำผู้ป่วยทัง้ สองมีนำ้ ตำลชนิดใดออกมำใน
ปั สสำวะโดยใช้ reaction ต่ ำงๆ และผลจำก paper chromatography
การทดสอบ
Molisch’s test
Benedict’s test
Barfoed’s test
Seliwanoff’s test
Aniline test
Glucose oxidase
ค่า Rg
ผูป
้ ่ วยรายที่ 1 ผูป
้ ่ วยรายที่ 2
คำถำมท้ ำยกำรทดลอง
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
ผู้ป่วยทัง้ สองรำยมีนำ้ ตำลชนิดใดในปั สสำวะ
ผู้ป่วยทัง้ สองรำยนีน้ ่ ำจะเป็ นโรคเบำหวำนหรื อไม่ เพรำะเหตุใด
จงอธิบำยสำเหตุท่ นี ่ ำจะเป็ นที่ทำให้ มีนำ้ ตำลในปั สสำวะของผู้ป่วยทัง้ 2 รำยนี ้
Benedict’s test มีหลักกำรอย่ ำงไรและให้ ผลบวกกับนำ้ ตำลชนิดใดได้ บ้ำง
เหตุใด sucrose จึงไม่ สำมำรถ reduce Cu2+ ให้ เป็ น Cu2O เมื่อทำกำรทดสอบ
Benedict’s test
เหตุใดแป้งข้ ำวเจ้ ำและแป้งข้ ำวเหนียวจึงให้ สีแตกต่ ำงกันเมื่อทดสอบกับ iodine
Starch และ Glycogen ทำปฏิกริ ิยำกับ I2 จะได้ ผลอย่ ำงไร
Starch และ Glycogen มีส่วนที่เหมือนและต่ ำงกันอย่ ำงไร
Fermentation คืออะไร
Timetable
Introduction to lab carbohydrate
Lab (รวมการสรุ ปผลการทดลองในแต่ละห้อง)
สรุ ปผลการทดลองส่ วนกลำง
Quiz
9.00-9.30
9.30-11.35
11.35-11.40
11.40-11.55