เอกสารประกอบการบรรยาย หัวข้อ แนวปฏิบัติที่ดีในการบริหารความเสี่ยง

Download Report

Transcript เอกสารประกอบการบรรยาย หัวข้อ แนวปฏิบัติที่ดีในการบริหารความเสี่ยง

รศ.ดร.ภญ.กัญญดา อนุวงศ์
ฝ่ ายประกันคุณภาพการศึกษา
1
โครงสร้างการบริหารความเสี่ยงของมหาวิทยาลัย
สภามหาวิทยาลัย
อธิการบดี
คณะกรรมการบริหารความเสี่ ยงและ
วางระบบการควบคุมภายใน
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
หน่ วยตรวจสอบ
ภายใน
คณะกรรมการบริหารความเสี่ ยงและการควบคุมภายใน
ระดับคณะ/ภาควิชาและหน่ วยงานเทียบเท่ า
2
วัตถุประสงค์ ของการบริหารความเสี่ยงและการ
ควบคุมภายใน
การดาเนินงานเกิดประสิทธิผลและ
ประสิทธิภาพ
รายงานทางการเงินน่ าเชื่อถือ
มีการปฏิบัตติ ามกฎ ระเบียบและข้ อบังคับ
ที่เกี่ยวข้ อง
3
ปัญหาอุปสรรคในการบริหารความเสี่ยง
• มักมีการระบุ “ปัญหา” มากกว่ าการระบุ “ความเสี่ ยง”
• ขาดความรู้ ความเข้ าใจเกีย่ วกับการบริหารความเสี่ ยง ขาดการสื่ อสาร
ภายใน การศึกษาเพือ่ แสวงหาความเข้ าใจ
• ความสั บสนในคาศัพท์ ที่ใช้ และแบบฟอร์ มรายงาน รวมทั้ง ตัวอย่ าง
ที่มี
• ไม่ เห็นความสาคัญ (เพราะความเสี่ ยงเป็ นภัยมืด ถ้ าลดหรือป้องกัน
ได้ คือไม่ เกิดเหตุไม่ ด)ี ทาให้ ขาดความจริงจัง
• ขาดการทางานอย่ างเป็ นระบบ
• ไม่ ใช้ ข้อมูลสารสนเทศในการบริหารความเสี่ ยง
4
ปัญหา VS. ความเสี่ยง
สภาพ
ปกติ
ความเสี่ยง
ปัญหา
ความเสี่ยง
วัตถุ
ประสงค์
กรณีท่ เี ป็ นปั ญหา...ให้ หาสาเหตุของปั ญหา
สาเหตุ (ใช้ เป็ นกรอบให้ คิดรอบด้ าน)
• กระบวนการหรื อขัน้ ตอนการปฏิบัตงิ าน
หละหลวม บกพร่ อง ยุ่งยาก?
• การจัดการ การกากับติดตามไม่ มีหรื อไม่ ดี?
• บุคลากร ขาดความรู้ ไม่ เข้ าใจ ขาดศักยภาพ?
• เทคโนโลยี เครื่ องมือ อุปกรณ์ สถานที่ไม่ เอือ้ ?
• All of the above….
6
การแก้ “ปั ญหา” ที่พบ ถือเป็ นส่ วน
หนึ่งของ กระบวนการควบคุมภายใน
ว ัตถุประสงค์
ิ ธิภาพ
 ประสท
การควบคุมภายใน หมายถึง
กระบวนการปฏิบ ัติงานทีผ
่ บ
ู ้ ริหาร
และบุคลากรของหน่วยร ับตรวจ
จ ัดให้มข
ี น
ึ้ เพือ
่ สร้างความมน
่ ั ใจ
อย่างสมเหตุสมผลว่าการดาเนินงาน
ของหน่วยร ับตรวจจะบรรลุ
ว ัตถุประสงค์ของการควบคุม
ิ ธิผลของ
ประสท
การดาเนินงาน
ื่ ถือ
 ความเชอ
ของข้อมูลและ
รายงานทางการเงิน
การปฏิบ ัติตาม
ระเบียบและ
ข้อกาหนด
7
กรณีท่ เี ป็ น “ความเสี่ยง” ...ให้ เข้ าสู่
กระบวนการบริหารความเสี่ยง
8
การบริหารความเสี่ยง
ี่ ง คือ กระบวนการ
การบริหารความเสย
ทีก
่ าหนดและนาไปปฏิบ ัติโดยผูบ
้ ริหาร
และบุคลากร เพือ
่ นาไปประยุกต์ใชใ้ น
การกาหนดกลยุทธ์และการวางแผน
ขององค์กรทุกระด ับ โดยออกแบบให้
้
สามารถบ่งชเี้ หตุการณ์ทอ
ี่ าจเกิดขึน
และมีผลกระทบต่อองค์กร และสามารถ
ี่ งให้อยูใ่ นระด ับที่
จ ัดการความเสย
องค์กรยอมร ับได้ เพือ
่ สร้างความมน
่ ั ใจ
อย่างสมเหตุสมผลในการบรรลุ
ว ัตถุประสงค์ขององค์กร
ว ัตถุประสงค์
ิ ธิภาพ
 ประสท
ิ ธิผลของ
ประสท
การดาเนินงาน
ื่ ถือ
 ความเชอ
ของข้อมูลและ
รายงานทางการเงิน
การปฏิบ ัติตาม
ระเบียบและ
ข้อกาหนด
9
1.ระบุ
กระบวนการ
/กิจกรรม
2.
ประเมิน
ความ
ี่ ง
เสย
3. ปัจจ ัย
สาเหตุ/
ประเมิน
มาตรการ
ควบคุม
2.4วิเคราห์
ี่ ง
ระด ับความเสย
6.รายงาน
ติดตามผล
6.1
รายงานมหาวิทยาล ัย
5.ดำเนิน
กำรตำม
แผน
4.บริหาร
ความ
ี่ ง
เสย
10
ประเภทของความเสี่ยง
1. ความเสี่ ยงด้ านกลยุทธ์
2. ความเสี่ ยงด้ านการปฏิบัติงาน
3. ความเสี่ ยงด้ านการเงิน
4. ความเสี่ ยงด้ านการปฏิบัติตามกฎระเบียบ
++
1. ความเสี่ ยงด้ านเหตุการณ์ ภัยพิบัติ อันตราย
2. ความเสี่ ยงด้ านธรรมาภิบาลและจรรยาบรรณ
11
การระบุความเสี่ยง - ใช้แนวทางของมหาวิทยาลัย
ประเด็น
หน่ วยงานการเรียนการสอน
1
ความเสี่ยงที่เกี่ยวกับการผลิตบัณฑิต
อย่างน้ อย 1 เรื่อง
2
ความเสี่ยงที่เกี่ยวกับการวิจยั
อย่างน้ อย 1 เรื่อง
3
ความเสี่ยงที่เกี่ยวกับความปลอดภัย
4
ความเสี่ยงด้านยุทธศาสตร์ หรือกลยุทธ์
อย่างน้ อย 2 เรื่อง
5
ค ว า ม เ สี่ ย ง ต า ม บ ริ บ ท อื่ น ๆ ข อ ง
หน่ วยงาน
รวม
อย่างน้ อย 4 เรื่อง
หน่ วยงานสนับสนุนวิชาการ
ความเสี่ ย งที่ เ กี่ ย วกับ การบริ ห ารและ
การจัดการหน่ วยงาน
-
ความเสี่ยงที่เกี่ยวกับความปลอดภัย
ความเสี่ยงด้านยุทธศาสตร์ หรือกลยุทธ์
อย่างน้ อย 2 เรื่อง
ค ว า ม เ สี่ ย ง ต า ม บ ริ บ ท อื่ น ๆ ข อ ง
หน่ วยงาน
อย่างน้ อย 4 เรื่อง
12
การระบุความเสี่ยง - ใช้แนวทางของมหาวิทยาลัย
ประเด็น
สานักงานคณบดี
ภาควิชา
1
ความเสี่ ย งที่ เ กี่ ย วกับ การบริ ห ารและ
การจัดการหน่ วยงาน
ความเสี่ยงที่เกี่ยวกับความปลอดภัย
ค ว า ม เ สี่ ย ง ต า ม บ ริ บ ท อื่ น ๆ ข อ ง
หน่ วยงาน
อย่างน้ อย 3 เรื่อง (สานักงานคณบดี
อย่างน้ อย 2 เรื่อง)
กระบวนการจัด การเรี ย นการสอนหรื อ
การบริหารหลักสูตร อย่างน้ อย 1 เรือ่ ง
การบริหารงานวิจยั อย่างน้ อย 1 เรื่อง
ความเสี่ยงตามบริบทอื่นๆของหน่ วยงาน
2
3
4
รวม
อย่างน้ อย 2 เรื่อง
13
การระบุความเสี่ยง - ใช้แนวทางของมหาวิทยาลัย
ประเด็น
หน่ วยงานการเรียนการสอน
1
ความเสี่ยงที่เกี่ยวกับการผลิตบัณฑิต
อย่างน้ อย 1 เรื่อง
2
ความเสี่ยงที่เกี่ยวกับการวิจยั
อย่างน้ อย 1 เรื่อง
3
ความเสี่ยงที่เกี่ยวกับความปลอดภัย
4
ความเสี่ยงด้านยุทธศาสตร์ หรือกลยุทธ์
อย่างน้ อย 2 เรื่อง
5
ค ว า ม เ สี่ ย ง ต า ม บ ริ บ ท อื่ น ๆ ข อ ง
หน่ วยงาน
รวม
อย่างน้ อย 4 เรื่อง
หน่ วยงานสนับสนุนวิชาการ
ความเสี่ ย งที่ เ กี่ ย วกับ การบริ ห ารและ
การจัดการหน่ วยงาน
-
ความเสี่ยงที่เกี่ยวกับความปลอดภัย
ความเสี่ยงด้านยุทธศาสตร์ หรือกลยุทธ์
อย่างน้ อย 2 เรื่อง
ค ว า ม เ สี่ ย ง ต า ม บ ริ บ ท อื่ น ๆ ข อ ง
หน่ วยงาน
อย่างน้ อย 4 เรื่อง
14
ความเสี่ยงด้านยุทธศาสตร์/กลยุทธ์
ความเสี่ยงที่เกิดจากนโยบาย การบริหารแผนงาน
หรื อการตัดสินใจผิดพลาด หรื อมีการเปลี่ยนแปลงใน
SWOT ทาให้ องค์ กรไม่ สามารถบรรลุวัตถุประสงค์
และตัวชีว้ ัดที่ระบุไว้ ในแผนฯ เช่ น ความเสี่ยงต่ อการ
สูญเสียชื่อเสียงภาพลักษณ์ ความเสี่ยงที่เกิดจากก
การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้ อมภายนอกและ
การแข่ งขัน เป็ นต้ น
15
ความเสี่ยงเชิงยุทธศาสตร์/กลยุทธ์
ที่
กลยุทธ์
เป้ าประสงค์ของกล อะไร/เหตุการณ์ที่อาจจะทา
ยุทธ์ / KPIs
ให้ไม่บรรลุเป้ าประสงค์/KPIs
1 การผลิตบัณฑิต
2 การวิจยั
3 บริการวิชาการ
4 ทานุบารุง
ศิลปวัฒนธรรม
5 บริหารจัดการและ
พัฒนา คน
ทรัพยากร
ความเสี่ยง
(Strategic Risks)
16
ตัวอย่าง ความเสี่ยงเชิงยุทธศาสตร์/กลยุทธ์
ประเด็น
ยุทธศาสตร์
เป้ าประสงค์
ตัวชี้วดั
พั ฒ น า ก า ร
จัด การเรี ย น
การสอนให้ มี
คุณภาพ
พั ฒ น า นิ สิ ต ใ ห้ มี
คุณธรรมและมี อตั
ลั ก ษ ณ์ ม ศ ว 9
ประการ
1.อาจารย์แ ละบุ ค ลากร
ได้รบั การพัฒนา 100%
2. ได้หลักสูตรวิชาศึกษา
ทัวไป
่ ฉบับ ปรับ ปรุงใหม่
มี ม าตรฐานตามกรอบ
TQF
อะไร/เหตุการณ์
ที่อาจจะทาให้
ไม่บรรลุ
เป้ าประสงค์
หรือ KPIs
17
แนวปฏิบตั ิ ที่ดีในการวิเคราะห์หาความเสี่ยงด้าน
ยุทธศาสตร์/กลยุทธ์
ศึกษาแผนยุทธศาสตร์
วิเคราะห์ วสิ ัยทัศน์ และพันธกิจ
วิเคราะห์ SWOT
สัมภาษณ์ ผ้ ูบริหารและ
ผู้รับผิดชอบหลักในงาน
5. ประเมินความเสี่ยงโดยวิเคราะห์
บริบท/สารสนเทศของคณะเพื่อ
ระบุความเสี่ยงหลัก
6. วิเคราะห์ สาเหตุความเสี่ยง
1.
2.
3.
4.
1. การระบุความเสี่ยง
2. การวิเคราะห์ สาเหตุ
ความเสี่ยง
3. การควบคุมความเสี่ยง
ที่ทาอยู่
18
ี่ ง
การประเมินความเสย
ี่ ง
การจ ด
ั ล าด บ
ั ความส าค ญ
ั ของความเส ย
้ และความรุนแรง
จากโอกาสในการเกิดขึน
ข อ ง ผ ล ก ร ะ ท บ ( ค ว า ม เ ส ี ย ห า ย ที่ อ า จ
้ )
เกิดขึน
19
ี่ ง
ประเมินโอกาสการเกิดความเสย
20
ี่ ง
การประเมินโอกาสความเสย
ี่ ง
โอกำสของควำมเสย
ควำมหมำย
1 = น ้อยทีส
่ ด
ุ หรือ 0 – 1 ครัง้ ต่อปี
อำจเกิดขึน
้ เฉพำะในสถำนกำรณ์ทไ
ี่ ม่
ปกติบำงกรณี
2 = น ้อยมำก หรือ 2 – 3 ครัง้ ต่อปี
อำจจะเกิดขึน
้ น ้อยมำก
3 = ปำนกลำง หรือ 4 – 5 ครัง้ ต่อปี
เป็ นไปได ้ ทีเ่ กิดขึน
้ ในบำงครัง้
4 = ค่อนข ้ำงบ่อย หรือ 6 ครัง้ ต่อปี
เป็ นไปได ้มำก คำดหมำยว่ำจะเกิดขึน
้
ค่อนข ้ำงบ่อย
ค่ อ นข ำ้ งแน่ น อน คำดหมำยว่ ำ จะ
เกิดขึน
้ ในสถำนกำรณ์สว่ นใหญ่
5 = บ่อยมำก หรือ ตลอดทัง้ ปี
(มำกกว่ำ 6 ครัง้ ต่อปี )
21
การประเมินกระทบด้านกลยุทธ์
ด ้ำนกลยุทธ์
1 = ได ้ผลงำนตำมเป้ ำหมำย
มำกกว่ำร ้อยละ 90 ขึน
้ ไป
2 = ได ้ผลงำนตำมเป้ ำหมำย
ตัง้ แต่ร ้อยละ 81 – 90
3 = ได ้ผลงำนตำมเป้ ำหมำย
ตัง้ แต่ร ้อยละ 71 – 80
4 = ได ้ผลงำนตำมเป้ ำหมำย
ตัง้ แต่ร ้อยละ 61 – 70
5 = ได ้ผลงำนตำมเป้ ำหมำย
น ้อยกว่ำหรือเท่ำกับ ร ้อยละ 60
ควำมหมำย
หน่วยงำนสำมำรถปฏิบัตใิ ห ้เป็ นไปตำมแผน
กลยุทธ์ ได ้ผลงำนมำกกว่ำร ้อยละ 90 ขึน
้
ไป
หน่วยงำนสำมำรถปฏิบัตใิ ห ้เป็ นไปตำมแผน
กลยุทธ์ ได ้ผลงำนตัง้ แต่ร ้อยละ
81 – 90
หน่วยงำนสำมำรถปฏิบัตใิ ห ้เป็ นไปตำมแผน
กลยุทธ์ ได ้ผลงำนตัง้ แต่ร ้อยละ
71 – 80
หน่วยงำนสำมำรถปฏิบัตใิ ห ้เป็ นไปตำมแผน
กลยุทธ์ ได ้ผลงำนตัง้ แต่ร ้อยละ
61 – 70
หน่วยงำนสำมำรถปฏิบัตใิ ห ้เป็ นไปตำมแผน
กลยุทธ์ ได ้ผลงำนน ้อยกว่ำหรือเท่ำกับ ร ้อย
22
ละ 60
ิ
การประเมินผลกระทบด้านการเงินและทร ัพย์สน
ด ้ำนกำรเงิน
1
= มีก ำรลดลงของรำยได ้ หรือ มี
ิ เสย
ี หำย
ค่ำใชจ่้ ำยเพิม
่ ขึน
้ หรือมีทรัพย์สน
ไม่เกิน 50,000 บำท
2
= มีก ำรลดลงของรำยได ้ หรือ มี
ิ เสย
ี หำย
ค่ำใชจ่้ ำยเพิม
่ ขึน
้ หรือมีทรัพย์สน
ตัง้ แต่ 50,001 – 100,000 บำท
3 = มีกำรลดลงของรำยได ้ หรือมี
ิ เสย
ี หำย
ค่ำใชจ่้ ำยเพิม
่ ขึน
้ หรือมีทรัพย์สน
ตัง้ แต่ 100,001 – 500,000 บำท
4 = มีกำรลดลงของรำยได ้ หรือมี
ิ เสย
ี หำย
ค่ำใชจ่้ ำยเพิม
่ ขึน
้ หรือมีทรัพย์สน
ตัง้ แต่ 500,001 – 1,000,000 บำท
5
= มีก ำรลดลงของรำยได ้ หรือ มี
ิ เสย
ี หำย
ค่ำใชจ่้ ำยเพิม
่ ขึน
้ หรือมีทรัพย์สน
มำกกว่ำ 1,000,000 บำทขึน
้ ไป
ควำมหมำย
กรณี ท ี่ ท ำให ร้ ำยได ล
้ ดลง/ค่ ำ ใช จ่้ ำ ย
เ พิ่ ม ขึ้ น /มี ท รั พ ย์ ส ิ น เ ส ี ย ห ำ ย ไ ม่ เ กิ น
จำนวนเงิน 50,000 บำท
กรณี ท ี่ ท ำให ร้ ำยได ล
้ ดลง/ค่ ำ ใช จ่้ ำ ย
ิ เส ย
ี หำยจ ำนวนเงิน
เพิม
่ ขึน
้ /มีท รั พ ย์ส น
ตัง้ แต่ 50,001 –100,000 บำท
กรณี ท ี่ ท ำให ร้ ำยได ล
้ ดลง/ค่ ำ ใช จ่้ ำ ย
ิ เส ย
ี หำยจ ำนวนเงิน
เพิม
่ ขึน
้ /มีท รั พ ย์ส น
ตัง้ แต่ 100,001 –500,000 บำท
กรณี ท ี่ ท ำให ร้ ำยได ล
้ ดลง/ค่ ำ ใช จ่้ ำ ย
ิ เส ย
ี หำยจ ำนวนเงิน
เพิม
่ ขึน
้ /มีท รั พ ย์ส น
ตัง้ แต่ 500,001 –1,000,000 บำท
กรณี ท ี่ ท ำให ร้ ำยได ล
้ ดลง/ค่ ำ ใช จ่้ ำ ย
ิ เส ย
ี หำยจ ำนวนเงิน
เพิม
่ ขึน
้ /มีท รั พ ย์ส น
มำกกว่ำ 1,000,000บำทขึน
้ ไป
23
่
การประเมินผลกระทบด้านการปฏิบ ัติงาน เชน
งานผลิตบ ัณฑิต งานวิจ ัย ฯลฯ
ด ้ำนปฏิบต
ั งิ ำน
1 = ได ้ผลงำนตำมเป้ ำหมำย
มำกกว่ำร ้อยละ 90 ขึน
้ ไป
2 = ได ้ผลงำนตำมเป้ ำหมำย
ตัง้ แต่ร ้อยละ 81 – 90
3 = ได ้ผลงำนตำมเป้ ำหมำย
ตัง้ แต่ร ้อยละ 71 – 80
4 = ได ้ผลงำนตำมเป้ ำหมำย
ตัง้ แต่ร ้อยละ 61 – 70
5 = ได ้ผลงำนตำมเป้ ำหมำย
น ้อยกว่ำหรือเท่ำกับร ้อยละ 60
ควำมหมำย
หน่วยงำนสำมำรถปฏิบัตใิ ห ้เป็ นไปตำมแผนกำร
ปฏิบต
ั งิ ำน ได ้ผลงำนมำกกว่ำ
ร ้อยละ 90 ขึน
้ ไป
หน่วยงำนสำมำรถปฏิบัตใิ ห ้เป็ นไปตำมแผนกำร
ปฏิบต
ั งิ ำน ได ้ผลงำนตัง้ แต่
ร ้อยละ 81 – 90
หน่วยงำนสำมำรถปฏิบัตใิ ห ้เป็ นไปตำมแผนกำร
ปฏิบต
ั งิ ำน ได ้ผลงำนตัง้ แต่
ร ้อยละ 71 – 80
หน่วยงำนสำมำรถปฏิบัตใิ ห ้เป็ นไปตำมแผนกำร
ปฏิบต
ั งิ ำน ได ้ผลงำนตัง้ แต่
ร ้อยละ 61 – 70
หน่วยงำนสำมำรถปฏิบัตใิ ห ้เป็ นไปตำมแผนกำร
ปฏิบัต งิ ำน ได ้ผลงำนน ้อยกว่ำหรือเท่ำกับ ร ้อย
ละ 60
24
ื่ เสย
ี ง เชน
่
การประเมินผลกระทบด้านชอ
การถูกฟ้องร้อง
ื่ เสย
ี ง
ด ้ำนชอ
ควำมหมำย
ื่ เสย
ี งในระดับ มี ข่ ำ วเช ิง ลบ แต่ ส ำมำรถขจั ดไปได ต
1 = มีผลกระทบต่อชอ
้ ำม
หน่วยงำน
กระบวนกำรบริหำรปกติ
ื่ เสย
ี งในระดับ มีข่ำ วในเช งิ ลบจำกส อ
ื่ ภำยในมหำวิท ยำลัย
2 = มีผลกระทบต่อชอ
่ มีกำรสง่ จดหมำยสนเท่หใ์ นมหำวิทยำลัย
ภำยในมหำวิทยำลัย
เชน
ื่ เสย
ี งของ มีขำ่ วในเชงิ ลบจำกสอ
ื่ ในกรุงเทพมหำนคร
3 = มีผลกระทบต่อชอ
มหำวิทยำลัยในระดับจังหวัด
ื่ เสย
ี งของ มีกำรเผยแพร่ท ำงส อ
ื่ ในเช งิ ลบในระดับชำติ
4
= มีผลกระทบต่อช อ
ื่ เสย
ี งในระดับชำติ
มหำวิทยำลัยในระดับชำติ
สง่ ผลต่อชอ
ื่ เสย
ี งของ มี ก ำ รเผ ยแพ ร่ ท ำ งส ื่ อ ในเช ิง ล บใน ระดั บ
5 = มีผลกระทบต่อชอ
ื่ เสย
ี งในระดับนำนำชำติ
มหำวิทยำลัยในระดับนำนำชำติ
นำนำชำติสง่ ผลต่อชอ
25
การประเมินผลกระทบด้านความปลอดภ ัย
ด ้ำนสุขภำพและควำมปลอดภัย
1 = มีกำรบำดเจ็บเล็กน ้อย
ควำมหมำย
ส ำ ม ำ ร ถ ป ฐ ม พ ย ำ บ ำ ล เ บื้ อ ง ต น
้ ไดท
้ ี่
สถำนพยำบำลหรือมีควำมเจ็บป่ วยทีไ่ ม่มผ
ี ล
ต่อกำรทำงำน
2 = มีกำรบำดเจ็บหรือเจ็บป่ วยไม่มำก ได ้รับกำรบำดเจ็บหรือเจ็บป่ วยซงึ่ ต ้องเข ้ำรับ
้
กำรรั ก ษำจำกแพทย์ และใช ระยะเวลำใน
ั ดำห์
กำรรักษำตัวไม่เกิน 1 สป
3 = มีกำรบำดเจ็บหรือเจ็บป่ วยมำก
ได ้รับกำรบำดเจ็บหรือเจ็บป่ วยซงึ่ ต ้องเข ้ำรับ
้
กำรรั ก ษำที่โ รงพยำบำล และใช ระยะเวลำ
ั ดำห์ แต่ไม่เกิน
ในกำรรักษำตัวตัง้ แต่ 1 สป
1 เดือน
4 = มีกำรบำดเจ็ บหรือเจ็ บป่ วยที่ ได ้รับกำรบำดเจ็บหรือเจ็บป่ วยซงึ่ ต ้องเข ้ำรับ
รุนแรง
ก ำ ร รั ก ษ ำ ที่ โ ร ง พ ย ำ บ ำ ล แ ล ะ ใ ช ร้ ะ ย ะ
เวลำนำนในกำรรักษำตัวตัง้ แต่ 1 เดือนขึน
้
ไป
5 = มีกำรทุพพลภำพทำงร่ำงกำยใน มี ก ำรสู ญ เส ี ย ช ี ว ิต หรื อ ทุ พ พลภำพทำง
ี ชวี ต
บริเวณสำคัญ หรือเสย
ิ
ร่ ำ ง ก ำ ย ใ น บ ริ เ ว ณ ส ำ คั ญ จ น ไ ม่ อ ำ จ
26
ปฏิบต
ั งิ ำนต่อไปได ้
การประเมินผลกระทบด้านบุคลากร
ด ้ำนบุคลำกร
1 = มีผลกระทบต่อบุคลำกรรำยคน
ควำมหมำย
บุ ค ลำกรมหำวิท ยำลั ย มี อั ต รำกำร
ออกหรือพ ้นสภำพไม่เกินร ้อยละ 1
2 = มีผลกระทบภำยในต่อกำรทำงำน บุ ค ลำกรมหำวิท ยำลั ย มี อั ต รำกำร
ในระดับงำน/ฝ่ ำย/สำขำวิชำ
ออกหรือพ ้นสภำพร ้อยละ 2 - 4
3
= มีผลกระทบต่อกำรทำงำนใน บุ ค ลำกรมหำวิท ยำลั ย มี อั ต รำกำร
ระดับคณะ/สถำบัน/ศูนย์/หน่วยงำนที่ ออกหรือพ ้นสภำพร ้อยละ 5 - 9
ื่ อย่ำงอืน
เรียกชอ
่ ทีม
่ ฐ
ี ำนะเทียบเท่ำ
4 = มีผลกระทบต่อกำรทำงำนใน บุ ค ลำกรมหำวิท ยำลั ย มี อั ต รำกำร
ระดับมหำวิทยำลัย
ออกหรือพ ้นสภำพร ้อยละ 10 - 14
5 = มีผลกระทบต่อมำตรฐำนที่ บุ ค ลำกรมหำวิท ยำลั ย มี อั ต รำกำร
่ สม ออกหรือพ ้นสภำพตัง้ แต่ร ้อยละ 15
กำหนดโดยองค์กรภำยนอก เชน
ศ. สกอ.
ขึน
้ ไป
27
การประเมินผลกระทบด้านระบบเทคโนโลยีและ
ื่ สาร
การสอ
ด ้ำนระบบสำรสนเทศ
ี่ งใน
1
=
มีกำรบริหำรควำมเสย
หน่ ว ยงำน อย่ำ งเป็ นระบบ และมีก ำร
ี่ งอยู่
พิจำรณำกลยุทธ์เพือ
่ ลดควำมเสย
เสมอ
ี่ งด ้ำน
2 = มีกำรติดตำมระดับควำมเสย
ี่ งอยู่ใน
ICT และจัดกำรให ้ควำมเสย
ระดับทีย
่ อมรับได ้
ี่ งด ้ำน
3 = มีกระบวนกำรลดควำมเสย
ICT ที่ ส ำคั ญ อย่ ำ งทั น ที เมื่ อ ควำม
ี่ งปรำกฏ
เสย
ี่ ง
4 = เริม
่ มีกระบวนกำรลดควำมเสย
ด ้ำน ICT
ควำมหมำย
ี่ งครอบคลุมทัง้
มีระบบกำรจัดกำรควำมเสย
ี่ งทีด
หน่วยงำนและมีกำรจัดกำรควำมเสย
่ ี
มี ก ระบวนกำรจั ด กำรควำมเส ี่ ย ง และมี
แผนกำรป้ องกันเหตุกำรณ์ทอ
ี่ ำจจะเกิดขึน
้
มี ก ระบวนกำรจั ด กำรรองรั บ ควำมเส ี่ย ง
ห ำ ก เ ห ตุ ก ำ ร ณ์ เ กิ ด ขึ้ น โ ด ย ร ะ บุ ใ ห ม
้ ี
ั เจน
ผู ้รับผิดชอบไว ้อย่ำงชด
ี่ งด ้ำน ICT ทีม
มีกำรวิเครำะห์ถงึ ควำมเสย
่ ี
ผลกระทบต่ อ กำรด ำเนิ น งำน และมีก ำร
ี่ งบ ้ำงตำมควำมจำเป็ น
จัดกำรควำมเสย
้
5
= ไม่ม ก
ี ระบวนกำรทีใ่ ช ในกำร
มีกำรแก ้ไขปั ญหำจำกกำรทำงำนประจำวั น
ี่ งด ้ำน ICT
จัดกำรควำมเสย
ซงึ่ เป็ นกำรแก ้ไขปั ญหำเป็ นกรณี ๆ ไป
28
การประเมินผลกระทบด้านกฎระเบียบ
ด ้ำนกฏระเบียบ
1 = มีผลกระทบในระดับบุคลำกร
ควำมหมำย
มีกำรไม่ป ฏิบัต ต
ิ ำมกฎระเบียบ ระเบีย บ
ข ้อบังคับทีไ่ ม่มน
ี ัยสำคัญ
2 = มีผลกระทบภำยในระดับงำน/ฝ่ ำย/ มีกำรละเมิดข ้อกฎหมำยทีไ่ ม่มน
ี ัยสำคัญ
สำขำวิชำ
3
= มีผลกระทบในระดับส ำนั กวิชำ/ มีก ำรฝ่ ำฝื นกฎข ้อกฎหมำยที่ส ำคัญ ที่ม ี
ื่ กำรสอบสวนหรือ รำยงำนไปยั ง หน่ ว ย
สถำบัน/ศูนย์/สว่ น/หน่วยงำนทีเ่ รีย กชอ
อย่ำงอืน
่ ทีม
่ ฐ
ี ำนะเทียบเท่ำ
งำนที่เ กี่ย วข ้อง รวมทั ง้ กำรด ำเนิ น คดี
แ ล ะ /ห รื อ เ รี ย ก ร อ
้ ง ค่ ำ เ ส ี ย ห ำ ย ห ำ ก
เป็ นไปได ้
4 = มีผลกระทบต่อมหำวิทยำลัย
มีกำรละเมิดข ้อกฎหมำยทีส
่ ำคัญ
5 = มีผลกระทบต่อมหำวิทยำลัยและ มีก ำรฟ้ องร ้องด ำเนิน คดี และเรีย กร อ
้ ง
ี หำยทีส
องค์กรภำยนอก
ค่ำเส ย
่ ำคัญ ซ งึ่ เป็ นคดีท ส
ี่ ำคัญ
มำก รวมถึง กำรฟ้ องร ้องที่เ กิด จำกกำร
ี หำย
รวมตัวกันของผู ้ทีไ่ ด ้รับควำมเสย
29
การประเมินผลกระทบด้านอ ัตตาภิบาลและธรรมาภิบาล
ด ้ำนอัตตำภิบำลและธรรมำภิบำล
1 = มีกำรดำเนินงำนตำมมิตอ
ิ ต
ั ตำภิบำล
และธรรมำภิบำลอย่ำงเป็ นระบบ และมี
กำรพิจำรณำ กำรดำเนินงำนเพือ
่ ลดควำม
ี่ งอยูเ่ สมอ
เสย
ี่ งด ้ำน
2 = มีกำรติดตำมระดับควำมเสย
อัตตำภิบำลและธรรมำภิบำล และจัดกำร
ี่ งอยูใ่ นระดับทีย
ให ้ควำมเสย
่ อมรับได ้
ี่ งด ้ำน
3 = มีกระบวนกำรลดควำมเสย
อัตตำภิบำลและธรรมำภิบำล ทีส
่ ำคัญ
ี่ งปรำกฏ
อย่ำงทันที เมือ
่ ควำมเสย
ี่ งด ้ำน
4 = เริม
่ มีกระบวนกำรลดควำมเสย
อัตตำภิบำลและธรรมำภิบำล
้
5 = ไม่มก
ี ระบวนกำรทีใ่ ชในกำรจั
ดกำร
ี่ งด ้ำนอัตตำภิบำลและธรรมำภิ
ควำมเสย
บำล
ควำมหมำย
ี่ งด ้ำนอัตตำภิ
มีระบบกำรจัดกำรควำมเสย
บำลและธรรมำภิบ ำลที่ ค รอบคลุ ม ทั ้ง
ี่ งทีด
หน่วยงำน และมีกำรจัดกำรควำมเสย
่ ี
มีก ระบวนกำรจั ด กำรควำมเส ี่ย ง และมี
แ ผ น ก ำ ร ป้ อ ง กั น เ ห ตุ ก ำ ร ณ์ ที่ อ ำ จ จ ะ
เกิดขึน
้
มีก ระบวนกำรจั ด กำรรองรั บ ควำมเส ี่ย ง
ห ำ ก เ ห ตุ ก ำ ร ณ์ เ กิ ด ขึ้ น โ ด ย ร ะ บุ ใ ห ม
้ ี
ั เจน
ผู ้รับผิดชอบไว ้อย่ำงชด
ี่ งด ้ำนอัตตำ ภิ
มีกำรวิเครำะห์ถงึ ควำมเสย
บำลและธรรมำภิบ ำล ที่ม ีผ ลกระทบต่อ
กำรด ำเนิ น งำน และมีก ำรจั ด กำรควำม
ี่ งบ ้ำงตำมควำมจำเป็ น
เสย
ไม่ ม ี ก ำ ร วิ เ ค ร ำ ะ ห์ ถ ึ ง ค ว ำ ม เ ส ี่ ย ง ด ำ้ น
อั ต ต ำ ภิ บ ำ ล แ ล ะ ธ ร ร ม ำ ภิ บ ำ ล ที่ มี
30
ผลกระทบต่อกำรดำเนินงำน
ผลกระทบของความเสี่ยง
ี่ ง
จัดระดับควำมเสย
5
5
10
15
20
25
4
4
8
12
16
20
15 - 25
มีความเสี่ยงสูงมาก
3
3
6
9
12
15
8 - 12
มีความเสี่ยงสูง
2
2
4
6
8
10
4-6
มีความเสี่ยงปานกลาง
1
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
โอกาสที่จะเกิดความเสี่ยง
1-3
มีความเสี่ยงต่า
31
ี่ ง (ต่อ)
การประเมินความเสย
้ นวทางการประเมินในคูม
• ใชแ
่ อ
ื เป็น
guideline
้ อ
่ ย (ปี ทีผ
• ใชข
้ มูลสารสนเทศชว
่ า
่ นมา
ี่ ง)
จึงมี KRI ของความเสย
ี่ งทีต
• กาหนดระด ับความเสย
่ อ
้ งจ ัดการ
และระด ับทีย
่ อมร ับได้ของหน่วยงาน
32
KEY RISK INDICATOR (KRI)
•
•
•
•
ี่ งแต่ละประเด็นที่
กาหนดสาหร ับความเสย
จะทาการบริหารจ ัดการ
ควรเป็น lead indicator หรือ ต ัวแจ้ง
ี่ งแบบนา
เตือน หรือต ัวชวี้ ัดความเสย
ี่ ง
แสดงให้เห็นโอกาสเกิดของความเสย
้ จริง
หรือแนวโน้มปัญหา ก่อนเกิดขึน
ต้องมีการกาหนดเป้าหมายทีจ
่ ะบรรลุ และ
ระยะเวลาในการติดตามทีเ่ หมาะสม
33
ต ัวอย่าง KEY RISK INDICATOR (KRI)
• ร้ อ ย ล ะ ข อ ง ห ล ก
ั สู ต ร ที่ น า ป ร ะ เ ด็ น ด้ า น ASEAN
community เข้าไปบูรณาการ
• ร้อยละของหล ักสูตรทีเ่ อา 21st Century skills ไป
เ ป็ น ส ่ ว น ห นึ่ ง ข อ ง ก า ร จ ัด ก า ร เ รี ย น รู ้ ห รื อ ก า ร
ประเมินผล
้ี จงท าความเข้า ใจก ับ
• จ านวน/ความถีใ่ นการเข้า ช แ
ชุมชนก่อนเริม
่ ดาเนินการต่างๆ
ื่ สารสร้างความตระหน ัก
• ระด ับความสาเร็ จในการสอ
เกีย
่ วก ับจรรยาบรรณ
34
ี่ ง)
การวิเคราะห์สาเหตุ (ปัจจ ัยเสย
•
•
•
•
•
•
่ นใหญ่ เกิดจาก
สว
ระบบงาน / วิธก
ี ารทางาน
บุคลากร/การทางานเป็นทีม
ว ัสดุ อุปกรณ์
การบริหารจ ัดการ
สภาพแวดล้อมทางกายภาพ
เหตุการณ์ภายนอก
35
Fishbone diagram
36
ี่ ง
การจ ัดทาแผนบริหารความเสย
•
•
•
้ ล ัก เหตุ และ ผลในการจ ัดทาแผน
ใชห
ี่ ง (4T)
การจ ัดการความเสย
ยอมร ับ (Take) - ลดหรือควบคุม (Treat) –
โอนหรือกระจาย (Transfer) – หยุดหรือเลีย
่ ง
(Terminate)
ี่ ง สาน ัก
การดาเนินการจ ัดการก ับความเสย
่ นหนึง่ ของ การควบคุม
งบประมาณรวมเป็นสว
ภายใน
37
ี่ ง
แนวทางการจ ัดทาแผนบริหารความเสย
เตรียมข้อมูล (6-8 ชม.)
ประชุม (2-4 ชม.)
สรุปประเด็น (2-4 ชม.)
-
-
วิเคราะห์ประเด็น
ี่ ง
ความเสย
-
-
วิเคราะห์ปจ
ั จ ัย
สาเหตุและประเมิน
ี่ ง
ความเสย
นาประเด็นที่
ผูบ
้ ริหาร/เจ้าหน้าที่
กล ับไปหาข้อมูล
เพิม
่ เติม มารวบรวม
และวิเคราะห์
-
กาหนดทิศทางการ
บริหารความ
-
สรุปประเด็น
-
-
มอบให้ไปไตร่ตรอง
หรือหาข้อมูลเพิม
่
กาหนดแนวทาง
วิธก
ี ารดาเนินงาน
-
-
ทาความเข้าใจ
ร่วมก ัน ว่าเน้น
ี่ ง ไม่ใช่
ความเสย
ปัญหา และใช ้
ข้อมูล ไม่ใช่
feeling
จ ัดทาแผนบริหาร
ี่ ง/ปร ับ
ความเสย
ระบบการควบคุม
ภายใน
-
เป้าหมาย
ยุทธศาสตร์ แผน
ประจาปี โครงการ
สาค ัญปี 2558
บริบทที่
เปลีย
่ นแปลงในปี
่ ผลต่อ
2558 ทีส
่ ง
คณะ
-
ี่ งเดิม
ความเสย
-
SWOT
-
ร่าง รายการความ
ี่ งเบือ
้ งต้น ทีค
เสย
่ วร
พิจารณา ปี 2558
38
ี่ งและกำรควบคุมภำยในระดับ
กำรดำเนินงำนบริหำรควำมเสย
คณะและหน่วยงำนย่อยภำยใน และกำรติดตำมประเมินผล
(Self-control assessment)
• สื่อสารและสอนงานให้ คนรับผิดชอบ บอกวิธีเก็บข้ อมูล กาหนดหรือ
ตกลงหลักฐานและสถิตปิ ระกอบให้ ชัดเจน
• เพิ่มลงในปฏิทนิ การทางานของทุกคนที่เกี่ยวข้ อง
• ทาตามเกณฑ์ และแนวปฏิบัตทิ ่ ดี ีของตัวบ่ งชี ้ 2 สานัก
• อย่ าตกหล่ นกาหนดการตามแผน/ปฏิทนิ
• กากับและติดตามจริงจัง ตีบทแตก (เริ่มที่ตัวเรา) แล้ วการ
เปลี่ยนแปลงที่ดีจะเกิดขึน้
• นี่ไม่ ใช่ งานของลูกน้ อง...ถ้ าเรารู้สึกว่ ายาก ลูกน้ องจะอาการหนักกว่ า
39
เรา!
สรุ ปแบบรายงานที่ต้องใช้
แบบรายงานการวิเคราะห์ และระบุความเสี่ยง
(RM_7.4-1)
แบบฟอร์ มแผนการบริหารความเสี่ยง
(RM_7.4-2)
แบบ ปย.1 (รายงานผลการประเมิน
องค์ ประกอบของการควบคุมภายใน)
แบบ ปย.2 (รายงานการประเมินผลและ
การปรับปรุ งการควบคุมภายใน)
40
คูม
่ อ
ื
**อยู่ระหว่างการปรับปรุงบางหัวข้ อ
41
ี่ ง มศว
ร่ำง แนวปฏิบต
ั ท
ิ ด
ี่ ใี นกำรบริหำรควำมเสย
1. มีการแต่ งตั้งคณะกรรมการหรือคณะทางานบริหารความเสี่ ยง โดยมีผู้บริหาร
ระดับสู งทีร่ ับผิดชอบพันธกิจหลักของหน่ วยงานร่ วมเป็ นคณะกรรมการหรือ
คณะทางาน
2. มีการวิเคราะห์ และระบุปัจจัยเสี่ ยงทีเ่ กิดจากปัจจัยภายนอก หรือปัจจัยทีไ่ ม่
สามารถควบคุมได้ ทสี่ ่ งผลต่ อการดาเนินงานตามพันธกิจ และปัจจัยทีก่ ่อให้ เกิด
ความเสี่ ยงตามบริบทของหน่ วยงานอย่ างน้ อย 4 ด้ าน ดังนี้
ด้ านการปฏิบัติงาน ด้ านความปลอดภัย ด้ านยุทธศาสตร์ หรือกลยุทธ์ (อย่ างน้ อย
2 เรื่อง) ความเสี่ ยงตามบริบทอืน่ ๆ ของหน่ วยงาน
หรือ ตามแนวทางที่มหาวิทยาลัยกาหนด
42
ี่ ง มศว
ร่ำง แนวปฏิบต
ั ท
ิ ด
ี่ ใี นกำรบริหำรควำมเสย
3. มีการจัดทาแผนบริหารความเสี่ ยงทีม่ ีระดับความเสี่ ยงสู ง และมีการ
ดาเนินการตามแผน รวมทั้งจัดส่ งรายงานตามกาหนดของมหาวิทยาลัย
4. มีการกากับติดตาม ประเมินผลการดาเนินงานแผนบริหารความเสี่ ยง
ตามตัวบ่ งชี้ของแผน โดยมีระดับของความเสี่ ยงลดลงจากเดิม และ
รายงานผลต่ อคณะกรรมการประจาหน่ วยงานเพือ่ พิจารณา
5. มีการนาผลการประเมินและข้ อเสนอแนะจากคณะกรรมการประจา
หน่ วยงานไปใช้ ในการปรับแผนหรือวิเคราะห์ ความเสี่ ยงในรอบปี ถัดไป
43
ฝ่ ายประกันคุณภาพการศึกษา ชัน้ 4 สานักงานอธิการบดี
เบอร์ภายใน 1-5600 , 1-5996 ต่อ 101
(QA_ตูน ธิดารัตน์)
Fax. 02-2596447
e-mail: [email protected]
44